มนตร์อธิษฐาน

มนตร์อธิษฐาน

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786160003433
ของหมดถาวร (ต้องการสินค้า)
ราคา: 300.00 บาท 75.00 บาท
ประหยัด: 225.00 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

เพล้ง!

“ขอโทษค่ะ ขอโทษค่ะ จะรีบเก็บเดี๋ยวนี้ค่ะ” เสียงแก้วแตกดัง

ขึ้นพร้อมๆ กับเสียงขอโทษที่พูดรัวอย่างลนลานจากหญิงสาวเจ้าของ

เรือนผมสีโค้ก แต่นั่นกลับไม่ได้สร้างความสนใจให้คนกว่าสี่สิบชีวิตใน

แผนกบุคคลหันมามองแต่อย่างใด หญิงสาวรีบเดินไปคว้าไม้กวาด

กับที่โกยขยะที่อยู่ใกล้ที่สุดมาเก็บกวาดเศษแก้วอย่างรวดเร็ว ก่อนจะนำ

มันไปทิ้งในห้องแม่บ้านซึ่งอยู่ถัดไปไม่กี่ก้าว สองสามนาทีต่อมา เธอก็

กลับมาพร้อมกับไม้ถูพื้น

“ซุ่มซ่ามอีกแล้ว พัตรพิมล พี่ว่ากว่าเธอจะทำงานพ้นโปรคงได้

จ่ายค่าเสียหายจนหมดตัวแน่” เสียงตำหนิกึ่งระอาดังขึ้น เมื่อหญิงสาว

เจ้าของเสียงอึกทึกแต่เช้านำอุปกรณ์ทำความสะอาดไปเก็บแล้วกลับมาที่โต๊ะทำงานของเธอ

“ขอโทษค่ะ พี่รุ้ง พัตรจะระวังให้มากกว่านี้ค่ะ เอ่อ แล้ว...

น้ำของคุณพิภพ” พัตรพิมลพูด แต่แล้วก็นึกขึ้นได้ว่าความมีน้ำใจของเธอ

เพิ่งลงถังขยะไปเมื่อครู่ พลางเหลือบตามองผ่านแว่นตาหนาเตอะไปทาง

ห้องกระจกอย่างหวาดหวั่น

รุ้งสไบมองตามสายตารุ่นน้องที่น่ารักของเธอ แล้วจึงหันกลับมา

พูดด้วยน้ำเสียงโมโหว่า

“ไม่ต้องเอาไปให้ตานั่นกินน่ะดีแล้ว ไม่ได้ดื่มน้ำสักแก้วสองแก้วคง

ไม่ตายหรอก ไปน้องพัตร ตามพี่มา วันนี้เรามีเอกสารที่ต้องจัดการเยอะ

มากๆ พี่เลยสั่งให้เขาเอาแฟ้มเอกสารไปไว้ที่ห้องประชุมเล็กแล้ว” พูดจบ

รุ่นพี่สาวก็เดินนำไปอีกทาง

พัตรพิมลหันกลับไปมอง ‘ตานั่น’ ของพี่รุ้งอีกครั้ง ก่อนจะเดินตามรุ่นพี่ไป

“คุณรุ้ง นี่เอกสารที่คุณต้องการครับ”

“ขอบคุณค่ะ คุณสมศักดิ์ เอ่อ...เอกสารเมื่อวันก่อนที่คุณต้องการ...”

พัตรพิมลมองพี่เลี้ยงเธอด้วยสายตาชื่นชม รุ้งสไบเป็นผู้หญิงที่

ไม่ได้สวยอะไรมากมาย แต่เป็นผู้หญิงทำงานที่เก่งอย่างหาตัวจับยาก เธอ

คือนักจัดการมือดีที่สุดของแผนกบุคคลเท่าที่บริษัทเคยมีมา และบริษัท

เคเอส คอร์ปอเรชัน จำกัด ก็เป็นบริษัทชั้นนำระดับโลกด้านอัญมณีและ

สิ่งทอ พัตรพิมลรู้ดีว่าเธอโชคดีแค่ไหนที่ได้รุ่นพี่สาวคนนี้มาเป็นพี่เลี้ยง

ช่วงทดลองงานอย่างนี้

“อะ พัตร” รุ้งสไบส่งเอกสารปึกใหญ่ให้เธอพร้อมกับเดินต่อไป

กว่าเธอกับรุ่นพี่จะเดินไปถึงที่หมาย สองสาวก็หอบเอกสารเต็มสองมือไปหมด

“นี่เขาเห็นเราเป็นเมสเซนเจอร์รับส่งของให้หรือไงคะพี่รุ้ง เล่นฝาก

เอาๆ” หญิงสาวบ่นอุบ เพราะเอกสารหอบใหญ่ที่เธอถืออยู่น้ำหนักไม่เบาเลย

“เอาน่าน้องพัตร พวกเราน่ะมันเบ๊ขั้นเทพอยู่แล้ว” รุ่นพี่สาวหยอกกลับมาอย่างขำๆ

“คะ? พี่ว่าเราเนี่ยนะ เบ๊ขั้นเทพงั้นเหรอ”

รุ้งสไบหัวเราะเบาๆ พร้อมกับอธิบายต่อว่า

“ก็เราเป็นฝ่ายบุคคลน่ะ ต้องทำทุกอย่างตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบ

อยู่แล้ว จัดหาคนก็ฝ่ายเรา คนไม่ดีไม่อยากได้จะไล่ออกก็เราอีก จะให้โบนัส

ใครหรือจะตัดเงินเดือนพนักงานคนไหนก็เรา ทั้งข้อมูล ประวัติ การ

ควบคุม และติดตามความประพฤติ งานจิปาถะอื่นๆ ที่ขึ้นชื่อว่าเกี่ยวกับ

พนักงานละก็ เป็นงานของเราทั้งนั้นแหละ อะไรก็งานของเรา งานของเรา เอ้า ส่งแฟ้มนั้นมาให้พี่ซิ”

พัตรพิมลพยักหน้ารับอย่างเข้าใจก่อนจะส่งแฟ้มให้รุ้งสไบ แล้ว

กลับมานั่งจุ้มปุ๊กที่เก้าอี้ตรงหน้ากองเอกสาร

“ทำไมพี่รุ้งถึงมาทำงานนี้ล่ะคะ อย่างพี่รุ้ง ถ้าไปทำอยู่ฝ่ายอื่น อย่างเช่น

เลขาฯ พัตรว่าพี่ต้องได้เป็นเลขาฯ ของท่านประธานแน่ๆ เลย”

รุ้งสไบชะงักมือที่กำลังเขียน แล้วเงยหน้าขึ้นมองรุ่นน้องพร้อมกับพูดและยิ้มบางๆ ว่า

“พี่ไม่เหมาะกับฝ่ายนั้นหรอก พี่ไม่นิ่งพอ เป็นเลขาฯ ต้องอดทน

เก็บอารมณ์เก่ง แล้วก็...” รุ้งสไบใช้ปากกาชี้วนเป็นวงกลมที่บริเวณ

ขมับเหมือนกับจะบอกใบ้ถึงอะไรสักอย่าง แต่พัตรพิมลกลับไม่เข้าใจ

เธอจึงเฉลยให้ว่า

“ต้องหัวไวไง ไม่ใช่แค่ไวอย่างเดียวนะ ต้องทั้งไวและคม ไม่งั้นคนเป็นเจ้านายก็เจ๊งพอดี”

พัตรพิมลพยักหน้าถี่ๆ หลายครั้ง แล้วถามต่อว่า

“ถ้าอย่างนั้นก็หมายความว่า คุณพิภพเป็นคนอย่างที่พี่รุ้งว่าเหรอคะ”

ได้ผล พอพูดถึงชื่อต้องห้ามนั้น รุ้งสไบก็ตวัดสายตาดุๆ มาทาง

รุ่นน้องสาวทันที

"ไปรู้อะไรมาอีกล่ะ แม่น้องน้อยกลอยใจ”

พัตรพิมลแอบหัวเราะเบาๆ ที่ทำให้รุ่นพี่สาวเสียสมาธิได้

“ก็เห็นว่าพี่รุ้งกับคุณพิภพเรียนรุ่นเดียวกันมา แล้ว...ก็...”

“ไม่ถูกกันงั้นสิ เอ้า อย่ามัวแต่คุยอย่างเดียว ทำงานไปด้วยสิจ๊ะ

วันนี้เธอต้องจัดการสรุปเอกสารทั้งสี่กองนั้นให้ฝ่ายบัญชีให้เสร็จนะ”

รุ้งสไบพูดต่อให้ พร้อมเตือนให้รุ่นน้องเร่งมือทำงานไปด้วย ขณะที่เธอเอง

วางปากกาลงก่อนจะเปิดโน้ตบุ๊กที่วางอยู่ข้างๆ ขึ้น

“ค่ะ แล้วไงคะ” พัตรพิมลถามต่อ พร้อมกับเริ่มเปิดแฟ้มเอกสารตรงหน้าทำงานไปด้วย

“ก็ไม่แล้วไง ก็แค่เรียนคณะเดียวกัน ผลัดกันได้ที่หนึ่งมาตลอด

พอเรียนจบออกมาทำงานก็ดันมาอยู่บริษัทเดียวกันอีก เอ...ความจริงต้อง

บอกว่าพี่เข้ามาเองมากกว่า เพราะตานั่นถูกวางตัวให้เป็นเลขาฯ ท่าน

ประธานคนปัจจุบันอยู่ก่อนแล้ว ส่วนพี่น่ะ เข้ามาสมัครเพราะเห็นว่างาน

ฝ่ายบุคคลของที่นี่มันท้าทายดี แต่ดั๊นมารู้เอาทีหลังว่าสายงานฝ่ายบุคคล

ของที่นี่ต้องขึ้นตรงกับท่านเลขาฯ ใหญ่ โลกเรานี่มันก็ตลกดีนะ ว่าไหม”

สองมือที่รัวแป้นพิมพ์ไม่หยุด ทั้งๆ ที่ปากก็เล่าเรื่องราวไปเรื่อยนั้น ทำให้พัตรพิมลอดทึ่งไม่ได้

“แล้วที่ว่าไม่ถูกกันล่ะคะ”

รุ้งสไบหันไปเปิดแฟ้มอีกแฟ้มพร้อมกับตอบอย่างไม่ใส่ใจว่า

“ก็มีบ้าง ส่วนใหญ่เพราะหมั่นไส้มากกว่า ตานั่นน่ะตั้งแต่เมื่อก่อน

แล้ว ชอบตีหน้านิ่ง เห็นแล้วมันอดแขวะนิดแขวะหน่อยไม่ได้ อยากเห็น

หน้าหมอนั่นตอนมาดหลุด...ส่งแฟ้มตรงนั้นมาให้พี่หน่อย” พอรุ่นน้องส่งให้รุ้งสไบก็พูดต่อว่า

“...ขอบใจจ้ะ อีกอย่างพี่กับเขาน่ะรู้จักกันมานาน เขม่นกันมาตลอด

หมอนั่นรู้นิสัยพี่ดีว่าไม่ชอบเลียเจ้านาย จะให้พูดคะพูดขาประจบประแจง

กับเขาคงจะยาก นอกจากในที่ประชุมละก็อีกเรื่อง...”

เสียงคุยเงียบหายไป เพราะเอกสารมากมายก่ายกองที่อยู่รอบตัว

สองสาว ทำให้พวกเธอต้องมีสมาธิกับมัน ทั้งห้องจึงมีแต่เสียงรัวแป้นพิมพ์

สลับกับเสียงพลิกหน้ากระดาษดังขึ้นแทน พัตรพิมลเงยหน้าขึ้นแอบมอง

รุ่นพี่สาวอย่างชื่นชมอยู่สองสามครั้ง พลางคิดว่าเมื่อไรเธอจะเก่งอย่างพี่รุ้งนะ

พัตรพิมลเข้ามาทำงานที่ เคเอส คอร์ปอเรชัน ได้สองเดือนแล้ว

และอยู่ในช่วงทดลองงาน ที่นี่เป็นบริษัทชั้นนำระดับโลก กว่าเธอจะผ่าน

เข้ามาเป็นพนักงานใหม่ได้ก็ต้องขอออกตัวก่อนละว่ามีดีกับเขาเหมือนกัน

แต่เธออดคิดไม่ได้ว่าเธอจะผ่านโปรหรือเปล่า ที่เธอคิดแบบนั้นไม่ใช่เพราะ

ผลการทำงานของเธอแย่หรอกนะ แต่เพราะความซุ่มซ่ามของเธอนี่แหละ

ที่ทำให้ชีวิตการทำงานของเธอดูจะมืดมนลงทุกที ยังดีนะที่เธอได้พี่รุ้งซึ่ง

เป็นพนักงานตัวอย่างของแผนกช่วยดูแล เธอเลยผ่านพ้นวิกฤติมาได้หลายครั้ง

“พัตร...”

“ค่ะ...คะ มีอะไรเหรอคะพี่รุ้ง”

“เหม่ออีกแล้วนะเรา ดูสิ ทำมาตั้งแต่บ่ายจนเย็นยังไปไม่ถึงไหนเลย

เฮ้อ แต่ช่างเถอะ เอ่อ...พี่จะถามว่าเย็นนี้ไปกินข้าวกันที่ไหนดี พี่ไปเจอ

ร้านสปาเกตตีร้านหนึ่งอร่อยมากเลย ไปไหม”

พัตรพิมลวางแฟ้มงานสุดท้ายที่ทำเสร็จลงบนกองที่แยกเอาไว้

ต่างหาก ก่อนจะหันไปรวบกระดาษบันทึกที่เต็มไปด้วยตัวอักษรหวัดๆ

มารวมกองกันไว้ แล้วตอบว่า

“วันนี้คงต้องขอผ่านค่ะ พัตรเพิ่งจะสรุปข้อมูลเสร็จเอง สงสัยต้อง

เอากลับไปพิมพ์ต่อที่หอ”

“งั้นเหรอ เอางั้นก็ได้ งั้นพี่ไปก่อนนะ” พูดจบรุ่นพี่สาวก็กดปุ่ม

เอนเทอร์บนคีย์บอร์ดเพื่อส่งงานที่เพิ่งทำเสร็จไปให้แผนกที่ต้องการข้อมูล

ทางอีเมลแล้วปิดฝาโน้ตบุ๊กลง

“พี่ฝากปิดไฟกับแอร์ด้วยนะ เอ่อ...เดี๋ยวพี่บอกยามที่หน้าตึกให้

แล้วกันว่าเธอจะอยู่ทำโอทีต่อ เขาจะได้ไม่ขึ้นมากวน”

“ขอบคุณค่ะ พี่รุ้ง กินข้าวให้อร่อยนะคะ”

“จ้า อย่ากลับดึกนักล่ะ เจอกันพรุ่งนี้”

พัตรพิมลยิ้มรับความห่วงใยจากรุ่นพี่ แต่พอรุ้งสไบออกจากห้อง ไป

หญิงสาวก็อดถอนหายใจอย่างเสียดายไม่ได้ สองมือรวบกระดาษเป็น

ปึกมาตอกสองสามที ก่อนจะฟุบหน้ากับพื้นโต๊ะอย่างหมดแรง แล้วยกมือ

ขึ้นเขกหน้าผากตัวเองด้วยความเจ็บใจ

ทำไมเธอจะไม่อยากไปกับพี่รุ้ง อยากไปจะตาย แต่เมื่อเสาร์อาทิตย์

ที่แล้วเธอเพิ่งไปดูโครงการบ้านกลางเมืองมานี่นา และเพราะเหตุนั้นแหละ

ที่ทำให้เธออยากจะเก็บเงินไว้ซื้อบ้านขึ้นมา นี่เพิ่งจะผ่านมาได้สองวันเอง

นะ สองวันหลังจากตั้งปณิธานว่าจะเก็บเงิน ถ้าขืนใจอ่อนไปกินข้าวกับพี่รุ้ง

ละก็ รับรอง...เดือนนี้ไม่ต้องกงต้องเก็บกันแล้วเงินน่ะ เฮ้อ ทำไมน้า ทำไม

ถึงไม่เกิดมารวยเหมือนพี่รุ้งบ้าง รายนั้นน่ะทั้งเก่งทั้งรวย ที่สำคัญ

บ้านของพี่รุ้งก็ซ้วยสวย แถมอยู่ใจกลางเมืองเลยด้วย อยากมีบ้านอย่างนั้นบ้างจัง

“เฮ้อ” พัตรพิมลถอนหายใจดังๆ พร้อมกับเริ่มจัดเก็บแฟ้มเอกสาร

ให้เรียบร้อย คุณพ่อคุณแม่ของเธอเสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุตอนเธอ

เข้าเรียนชั้นมัธยมปลาย หญิงสาวเลยจำเป็นต้องขายของทุกอย่างแม้แต่

บ้านเก่า เพื่อให้มีเงินมากพอที่จะเรียนต่อจนจบ จากนั้นเธอก็เช่าอพาร์ต-

เมนต์เล็กๆ ในย่านมหาวิทยาลัยที่เธอตั้งใจจะเข้าเรียน อาจเป็นเพราะเธอ

เคยอยู่แต่ในบ้านที่มีบริเวณมาตั้งแต่เด็ก พอต้องมาอยู่ห้องแคบๆ ใน

อพาร์ตเมนต์ เธอจึงวาดฝันว่าสักวันเธอจะต้องมีบ้านเป็นของตัวเองให้ได้

แต่ความฝันก็ยังเป็นความฝัน คนเดินดินกินข้าวแกงอย่างเธออยากจะมี

บ้านสักหลัง ถ้าไม่เป็นหนี้เป็นสินก็ต้องทำงานเป็นสิบปี กว่าจะถึงตอนนั้น

เฮ้อ คิดแล้วเครียด แต่พูดก็พูดเถอะ การได้เข้ามาทำงานในบริษัทนี้ก็ดี

ไม่หยอก เพราะเธอมีสิทธิ์ย้ายเข้ามาอยู่ในหอพักของบริษัทด้วย ซึ่งมันก็ช่วย

ประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้เยอะทีเดียว

ครืน...

เสียงฟ้าร้องดังผ่านกระจกเข้ามา หญิงสาวเลยรีบเดินไปเปิดม่าน

มองออกไป ความมืดครึ้มและเมฆที่ก่อตัวดำทะมึนอยู่ข้างนอกนั้น ทำให้

หญิงสาวเปลี่ยนใจที่จะทำงานต่อไปอีกหน่อย เธอเดินกลับมารวบเอกสาร

ขึ้นแนบอกแล้วก้าวเดินเร็วๆ ตรงไปที่ประตูห้องประชุมทันที

“โอย ตาย ฝนจะตกแล้ว แย่แล้ว ต้องรีบไปเก็บผ้าที่ตากไว้”

ด้วยความรีบร้อนบานประตูที่เปิดออกจึงไปชนกับอะไรบางอย่างเข้าอย่างจัง

“อุ๊ย! / โอ๊ย!”

พัตรพิมลใจหายวาบ ตายละ อีกแล้วเหรอเนี่ย

“คุณ คุณคะ เป็นอะไรหรือเปล่า” หญิงสาวเงยหน้าขึ้นถามอย่าง

เป็นห่วง เพราะเห็นชายหนุ่มยกมือขึ้นกุมหน้าผาก

“คุณ...คุณคะ เจ็บมากหรือเปล่าคะ”

ชายหนุ่มไม่ได้ตอบ เขาเพียงแต่โบกมือให้ ซึ่งเธอคิดเองว่าไม่เป็นไร

และในจังหวะเดียวกันนั้น ฝนเจ้ากรรมก็เทลงมาเสียแล้ว

“ว้าย! ตกลงมาจนได้ คุณ ไม่เป็นไรแล้วใช่ไหมคะ งั้นฉันขอตัวก่อน

นะ ต้องขอโทษอีกครั้งนะคะ”

พูดจบหญิงสาวก็หมุนตัววิ่งไปตามทางเดินทันที ปล่อยให้ชายหนุ่ม

ที่กำลังจะร้องเรียกยกมือค้างไว้อย่างนั้น

ความจริงเพราะเขาจุกจนพูดไม่ออกและขยับตัวไม่ได้ จึงได้แต่

ยกมือขึ้นเพื่อต้องการจะบอกเธอว่าอย่าเพิ่งขยับตัวเพราะคอนแทกต์เลนส์

ของเขาหลุดออกมา ไม่ได้บอกว่าไม่เป็นไรอย่างที่เธอเข้าใจ

“คุณพัตร...” เสียงเรียกดังจากด้านหลัง ทำให้ชายหนุ่มลดมือลง

แล้วตอบกลับไปว่า

                           (โปรดติดตามต่อในฉบับเต็ม)

รายละเอียด

หนึ่งคนต้องโกหกเพื่อปกปิดตัวเอง หนึ่งคนต้องโกหกเพื่อเปิดเผยตัวเอง แต่ทั้งคู่โกหกเพื่อที่จะรักกัน คำโกหกล้านคำจะไร้ความหมาย ถ้าหากว่าความจริงของหัวใจมีเพียงคำว่ารัก "ตายแล้ว ฉันลืมหานมให้แกกิน มาเร็ว เจ้าเหมียว ไปหาอะไรกินกันดีกว่า" เจ้าเหมียวก็ทำท่าเหมือนถอนหายใจ แล้วจึงกระโดดตามเธอเข้าไปในครัว "แล้วทำไมไม่ร้องเตือนสักแอะเลยล่ะ แปลกนะเนี่ย" " ก็ยังไม่หิวอ่ะ" ปึง! มาม่าคัปหลุดมือหล่นลงมากระแทกอ่างล้างจาน หญิงสาวก็ค่อยๆหันไปมองยังต้นเสียง "ไม่เห็นมีใครเลย ถ้าเป็นผีคงไม่ได้โผล่มาแค่เสียงแน่" "ฉันไม่ใช่ผี" "แมว พูดได้!" "ฉันชื่อ พาชต์ ไม่ได้ชื่อแมวหรือเหมียว" "แล้ว คุณเป็นใคร" คำว่า "แมวผี" ยังไม่ทันหลุดปากก็ต้องรีบกลืนกลับลงคอ เพราะดวงตาสีฟ้าเข้มนั้นตวัดมองมาที่เธออย่างดุๆ "ฟังฉันนะพัตรพิมล ฉันเป็นแมวที่บังเอิญมาถูกยัดเยียดความช่วยเหลือให้ฉันโดยไม่จำเป็น" น้ำเสียงที่เน้นคำว่า ไม่จำเป็น นั้นทำให้หญิงสาวอดฉุนกึกขึ้นมาไม่ได้ ในสภาพห้อยต่องแต่งแบบนั้นก็ยังบอกว่าไม่จำเป็นอีกเหรอ ไอ้แมวนี่หาเรื่องซะแล้ว "ฉันเลยต้องให้พรเธอ บอกความฝันของเธอมาสิ แล้วฉันจะทำให้มันเป็นจริงเอง"


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (96 รายการ)

www.batorastore.com © 2024