Spies in Love : สายลับล่าหัวใจ (อิสย่าห์)

Spies in Love : สายลับล่าหัวใจ (อิสย่าห์)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786165001847
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 270.00 บาท 67.50 บาท
ประหยัด: 202.50 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

บทนำ

ภายในห้องประชุมขนาดใหญ่ของอาคารสูงแห่งหนึ่ง ณ กรุงปราก เมืองหลวงแห่งสาธารณรัฐเช็ก เนืองแน่นไปด้วยผู้ร่วมประชุมจากนานา ประเทศ อันประกอบด้วยนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนทั้งจากองค์กร อิสระและจากองค์กรระหว่างประเทศ รวมถึงสื่อมวลชนแขนงต่างๆ ที่แห่แหน กันมาทำข่าว นี่คือการประชุมใหญ่ของนักเคลื่อนไหวและเรียกร้องสิทธิมนุษยชนที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี

โรสลิน เสฏฐวุฒิ อดีตนักข่าวที่ผันตัวมาเป็นนักเคลื่อนไหวอิสระด้าน การละเมิดสิทธิมนุษยชนกำลังยืนอยู่บนเวที เพื่อชี้แจงถึงสถานการณ์การ ละเมิดสิทธิมนุษยชนที่มือยู่ทั่วโลกในเกือบสองร้อยประเทศด้วยภาษาอังกฤษอย่างคล่องแคล่ว หญิงสาว คือ หนึ่งในนักเคลื่อนไหวแถวหน้าที่รู้จักกันดีระดับสากล ในแวดวงดังกล่าว

“สถานการณ์ความมั่นคงในอัฟกานิสถานเลวร้ายลงอย่างมากจากการ โจมตีของกลุ่มกบฏ ส่งผลให้ประชาชนต้องแบกรับผลกระทบจากความรุนแรง ความขัดแย้งได้กระจายไปเกือบหนึ่งในสามของพื้นที่ทั้งหมดของประเทศ จนรัฐบาลไม่สามารถปกครองได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่สามารถใช้อำนาจได้ เต็มที่ และไม่สามารถให้บริการความช่วยเหลือต่างๆ ได้โดยเฉพาะในเขต ชนบท การก่อกบฏนั้นได้คร่าชีวิตทหารอัฟกานิสถาน เจ้าหน้าที่ของรัฐ และ ประชาชนหลายพันคน รวมถึงการเลือกตั้งที่ผ่านมามีผู้กล่าวหาว่ามีการทุจริต กันในวงกว้าง ผู้หญิงยังคงถูกกีดกันในการมีส่วนร่วม”

“สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก ทรัพยากรธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ ในพื้นที่ฝังตะวันออกของประเทศ นำมาซึ่งความขัดแย้งอันรุนแรง รัฐบาล ต้องใช้กองกำลังในการต่อต้านกบฏ ล่งผลให้ราษฎรไม่รู้อีกเท่าไหร่ สตรีและ เด็กหลายหมื่นคนถูกข่มขืนกระทำชำเรา หน่วยทหารของรัฐและกองกำลัง หลายกลุ่มเกณฑ์เด็กหลายพันคนอย่างผิดกฎหมายไปเป็นทหาร”

“ในชูดานยังมีการใช้ความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และการละเมิดสิทธิมนุษยชนยังมีอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีการทำข้อตกลงสันติภาพดาร์ฟูร์ ระหว่างรัฐบาลกับกลุ่มย่อยของกลุ่มเคลื่อนไหวเพื่ออิสรภาพของชาวชูดาน แล้วก็ตาม แต่ความขัดแย้งอันรุนแรงยังคงดำเนินต่อไป กองกำลังรัฐบาล ทิ้งระเบิดโจมตีหมู่บ้านหลายแห่ง สังหารพลเรือน และสนับสนุนกลุ่มกบฏ เชื้อสายชาด”

“รัฐบาลเกาหลีเหนือยังคงควบคุมชีวิตของประชาชนอย่างเข้มงวดใน หลายๆ ด้าน หลายสิ่งอย่างสะท้อนถึงชีวิตที่ยากแค้นในประเทศนี้ รัฐบาล พยายามควบคุมข้อมูลแทบทุกเรื่อง ไม่มีสื่อที่เป็นอิสระ ส่วนการเข้าถึง อินเทอร์เน็ตก็จำกัดอยู่เพียงในวงเจ้าหน้าที่ระดับสูงและชนชั้นสูงอื่นๆ และ นักวิชาการก็ถูกจำกัดเสรีภาพ สื่อในประเทศยังถูกเซนเซอร์อย่างเข้มงวด ต่อไป”

“นี่เป็นตัวอย่างเพียงเศษเสี้ยวของการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่แทรกซึม อยู่ในทุกมุมโลก แม้หลายฝ่ายได้พยายามเรียกร้องให้รัฐบาลทุกประเทศ เคารพสิทธิมนุษยชนสากลตามปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนและปฏิบัติ ตามพันธกรณีภายใต้สนธิสัญญาว่าด้วยสิทธิมนุษยชน แต่การละเมิดสิทธิมนุษยชนหลากหลายรูปแบบ ยังคงมีอยู่ ตั้งแต่การใช้ความรุนแรงต่อ พลเรือน ข้อจำกัดของเสรีภาพในการแสดงออก การชุมนุม การจัดตั้งสมาคม การเลือกปฏิบัติและการข่มขู่ต่อกลุ่มที่อ่อนแอ”

“เป็นที่น่าเศร้าใจว่า การละเมิดสิทธิมนุษยชนยังคงปรากฏให้เห็นอยู่ ในหลายๆ ประเทศ มนุษย์อีกมากมายยังคงปฏิบัติต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน อย่างไม่ยุติธรรม ตัวดิฉันเอง ในฐานะนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน ตัวเล็กๆ คนหนึ่ง อยากจะเรียกร้องให้ทุกฝ่ายหันมาตระหนักถึงปัญหา ดังกล่าวด้วยมาตรการที่เข้มข้นขึ้น และขอปิดท้ายด้วยวาทะของประธานาธิบดี แห่งสหรัฐอเมริกาที่ได้กล่าวไว้ในการปราศรัยที่มหาวิทยาลัยไคโรว่า เราไม่ควร ถูกนิยามจากความแตกต่างของเราแต่ควรถูกนิยามจากความเป็นมนุษยชาติ เดียวกันมากกว่า ขอบคุณค่ะ”

เสียงปรบมือด้งขึ้นทั่วห้องประชุมหลังจากโรสลินกล่าวจบ หญิงสาว ก้าวลงจากเวที ลงไปเป็นผู้ฟังด้านล่างบ้าง และผลัดเปลี่ยนให้เพื่อนร่วมสายงานจากประเทศอื่นขึ้นอภิปราย การประชุมครั้งนี้กินเวลาเกือบสามวัน ด้วยมีประเด็นมากมายที่สมควรได้รับการเปิดเผยและกล่าวถึง

 

ปรากกับวายร้ายในชุดสูท

กลางเดือนกรกฎาคม อากาศในฤดูร้อนของปรากใกล้เคียงกับเมือง ไทย โรสลินในชุดเสื้อยืด กางเกงยืน รองเท้าผ้าใบ พร้อมสะพายเป้ เดินทอดน่องไปตามทางเท้าบริเวณจัตุรัสเวนเซสลาส ผมดำเหยียดตรงยาวเลยบ่าไปเล็กน้อยถูกผูกรวบเป็นหางม้า

การประชุมสิทธิมนุษยชนเพิ่งปิดฉากไป พรุ่งนี้ หล่อนก็จะบินกลับ กรุงเทพฯ จึงฉวยเอาช่วงเวลาครึ่งวันหลังของวันนี้ชมกรุงปราก ตั้งใจจะชมให้ทั่วเท่าที่เวลาจะอำนวย นี่เป็นครั้งแรกที่มีโอกาสมาเยือนกรุงปราก

เมื่อพูดถึงปราก หลายคนอาจนึกถึงความโรแมนติกที่แต่งแต้มไปทั่ว ทุกอณูของปราก แต่สำหรับโรสลิน กลับเพลิดเพลินกับการเสพร่องรอยความทรงจำในอดีตมากกว่า แฟชั่น ความทันสมัย และความคึกคักที่ตรึงนักท่องเที่ยวได้ชะงัด

โรสลินรู้สึกขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ว่ากำลังยํ่าเท้ากลับไปยังอดีต ทั้งที่ทุก วันนี้ไม่มีใครอยากมาปรากเพื่อรื้อฟื้นถึงปัญหาต่างๆ ในวันวาน ไม่ว่าจะ ปัญหาทางศาสนา ความวุ่นวายทางการเมือง และสงครามทำลายล้าง ทุกคนมาเพื่อหวังตักตวงความสุขจากที่นี่ คงมีแต่หล่อนกระมังที่คิดไม่เหมือนชาวบ้าน โรสลินสำรวจบรรยากาศย่านจัตุรัสเวนเซสลาส ที่บัดนี้แปรเปลี่ยนเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจและชอปปิง

ในอดีตที่นี่เคยเป็นแหล่งของบรรดาผู้กล้าออกมาเรียกร้องอิสรภาพเป็นเวทีต่อต้านการปกครองของรัสเชีย และเป็นมุมของผู้โหยหาประชาธิปไตย

โรสลินเลือกนั่งพักจิบเครื่องดื่มในร้านคาเฟ่ริมจัตุรัสฯ ที่สามารถ ชมนาฬิกาดาราศาสตร์ที่อยู่บนหอคอยของศาลาว่าการเมืองเก่า ที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1410 ยิ่งถ้าเป็นช่วงใกล้เวลาตุ๊กตาปรากฏตัวเพื่อบอกเวลา ผู้คนจะมายืนออกันเนืองแน่นด้านหน้านาฬิกาโบราณ

วันก่อนเพื่อนนักเคลื่อนไหวสิทธิมนุษยชนจากกรุงเวียนนาเล่าให้ฟังในห้องประชุมว่า มีเรื่องเล่าในอดีตว่า นาฬิกาเรือนนี้จะตายทุกครั้งที่เกิดเรื่องชุลมุนทางการเมืองในกรุงปราก

หล่อนจิบเครื่องดื่มอย่างไม่เร่งรีบ ยังมีเวลาอีกหลายชั่วโมงในการชม เมือง และชื่นชมทิวทัศน์โดยรอบ

ณ ตรงจุดที่โรสลินนั่ง แลเห็นรูปปั้นผู้นำปฏิวัติอยู่กลางจัตุรัส ความงดงามสง่าของโบสถ์ตินในย่านเมืองเก่าโดดเด่นตรึงใจ

ไม่แปลกที่คนส่วนใหญ่มาที่นี่เพื่อเสพความโรแมนติก แต่สำหรับ หล่อนความโรแมนติกเป็นเรื่องของความเพ้อฝันเสียส่วนใหญ่ อาจด้วยความเป็นคนบ้างานกระมัง หล่อนทุ่มเทกับงานด้านสิทธิมนุษยชนตั้งแต่เรียนจบปริญญาโทด้านวารสารศาสตร์จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์

ได้มืโอกาสคลุกคลีกับงานด้านนี้มาตลอดห้าปีเต็ม มีโอกาสเดินทางไปในหลายประเทศเพื่อเข้าร่วมสัมมนากับองค์กรระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชน มีโอกาสเขียนบทความลงในวารสารต่างประเทศหลายชิ้น

อีกทั้งยังมืส่วนร่วมในการประท้วงการละเมิดสิทธิมนุษยชนกับผู้คน หลายกลุ่ม เพื่อนสนิทหลายคนมักหยอกว่าหล่อนบ้างาน หายใจเข้าออกมีแต่งาน ทั้งชีวิตไม่เหลือพื้นที่ให้ความเพ้อฝันตามประสาหนุ่มๆ สาวๆ บ้าง

โรสลินยิ้มน้อยๆ ในสีหน้า หล่อนจะมีเวลาไปคิดเรื่องพรรค์นั้นได้ อย่างไร แค่เรื่องงานเรื่องเดียวก็แทบไม่มีเวลาแล้วด้วยซํ้า

แต่ใช่ว่าหล่อนจะไม่มีหนุ่มๆ มาติดพัน ภาพของบุลิน หรือพี่แบงก์ เพื่อนรุ่นพี่ร่วมสถาบันการศึกษาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยผุดขึ้นในความคิด เขาลงทุนตามไปเรียนถึงสหรัฐอเมริกา หลังจากทราบว่าหล่อนได้ทุนไปเรียน ต่อระดับปริญญาโทที่นั่น

บุลินเป็นเพื่อนรุ่นพี่ที่ดีที่สุดของหล่อนคนหนึ่ง ทุกวันนี้ยังคงมีความ ห่วงใยให้แก่กันเสมอมา แม้หล่อนยังไม่พร้อมมอบความรักฉันคนรักตอบแทน ให้ก็ตาม แต่บุลินก็ยืนกรานว่าเขารอได้เสมอ

โรสลินไม่รู้ว่าวันนั้นจะมาถึงเมื่อไร อาจเป็นพรุ่งนี้ เดือนหน้า ปีหน้า หรืออีกสิบปีข้างหน้า อีม...สิบปีหรือ หล่อนก็อายุ 38 ปีพอดี ถึงตอนนั้น บุลินอาจไม่ปรารถนาผู้หญิงวัยเฉียดสี่สิบคนนี้ก็ได้ หรือไม่เขาก็อาจแต่งงาน ไปแล้วเพรา ะทนรอไม่ไหว

หล่อนส่ายหน้า ขำกับความคิดไร้สาระของตัวเอง นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนมัวครุ่นคิดแต่เรื่องอายุ การแต่งงาน และขึ้นคาน ใครรู้คงได้ขำ หลังนั่งดื่มไปได้อีกสักพัก โรสลินก็ตัดสินใจเดินชมวิวต่อ ตั้งใจจะเก็บข้อมูลเพี่อนำไปเขียนบทความลงในนิตยสาร ตั้งหัวข้อเรื่องไว้แล้วว่า

‘นักสิทธิมนุษยชนประชุมใหญ่ ณ กรุงปราก’

ยังมีงานรอให้สะสางที่เมืองไทยอีกมากมาย ดังนั้นควรใช้เวลาที่เหลือในตอนนี้ให้คุ้มค่า ใช่ว่าจะมีโอกาสได้เดินทอดน่องหรือนั่งชมวิวอย่างอ้อยอิ่งแบบนี้ได้บ่อยๆ เมื่อไร

ตกเย็น โรสลินได้ชมทิวทัศน์จนหนำใจ ได้เดินลัดเลาะไปตามตรอก แคบๆ ที่สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านรวงน่าสนใจ ได้ผ่านสะพานชาร์ลส์ ที่กลิ่นอายความโรแมนติกเข้มข้น จนแม้แต่หล่อนยังสัมผัสได้ ได้ชื่นชมคาเฟ่ เก๋ๆ ริมแม่น้ำวัลตาวา

หล่อนมีโอกาสได้ชมปราสาทปราก และได้เสพงานสุดยอดสถาปัตยกรรม

แบบโกธิกแห่งมหาวิหารเซนต์ วิตัส ที่ซึ่งพระศพของพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 4 ฝัง อยู่ที่นี่

ต้องเรียกว่าคุ้มค่าทีเดียวกับการเดินทางมาปรากครั้งนี้ นอกจากได้ เป็นหนึ่งในตัวแทนคนไทยเข้าร่วมประชุมนักสิทธิมนุษยชนครั้งสำคัญ ยังได้ สัมผัสเมืองที่งดงามมีเสน่ห์เมืองหนึ่งของโลก

เกือบห้าทุ่ม โรสลินดูนาฬิกาข้อมือ อีกไม่ไกลก็จะถึงโรงแรม แต่ก็นึก โกรธตัวเองที่เพลิดเพลินกับการเดินชมวิวจนลืมเวลา เส้นทางเดินกลับโรงแรมเงียบเหงาในยามคํ่าคืน มีผู้คนเดินสวนไปมาบางตา

โรสลินเร่งฝีเท้าเร็วขึ้น อยากกลับที่พักให้เร็วที่สุด ตั้งใจว่าจะกลับไปเก็บข้าวของเตรียมเดินทางกลับในวันพรุ่งนี้

“อุ๊...!” โรสลินหมดสิทธิ์เปล่งเสียงร้อง และตกใจอย่างรุนแรง เมื่อใครคนหนึ่งโผล่มาจากไหนไม่ทราบกระชากหล่อนเข้าไปชิดมุมตึก พร้อมกับปิดปากหล่อนด้วยมือหนาใหญ่

หัวใจหญิงสาวหล่นไปยังตาตุ่มในบัดดล มั่นใจว่าโดนชิงทรัพย์แน่ และหวังว่าคงไม่ถูกกระทำมิดีมิร้ายอย่างอื่นนะ

คุณพระช่วย! พ่อแก้วแม่แก้วช่วยลูกช้างด้วย โรสลินเบิกตากว้างขณะเพ่งมองคนตรงหน้าที่ยืนเบียดชิดจนหล่อน สัมผัสได้ถึงแผงอกแข็งแกร่งดังหินโรสลินอยากถอยห่าง รังเกียจความใกล้ชิด นี้ แต่ด้านหลังคือกำแพง จึงไม่มืที่ทางให้ถอยหนีได้ จำต้องปล่อยให้ทรวงอกอิ่มบดเบียดร่างกายของชายผู้นี้ต่อไปอย่างไม่มีทางเลือก

เขาเป็นผู้ชายตัวโตมากเชียวแหละ แต่ความมืดทำให้เห็นหน้าค่าตาเขา ไม่ชัด พอเห็นรางๆ ว่าเขามืผมสั้น สีผมน่าจะดำหรือไม่ก็น้ำตาล คงน่าจะเป็นหนุ่มเอเชีย เขาสวมสูทสีทึมๆ โจรผู้ร้ายที่นึ่ตัองสวมสูทอย่างดีในการปฏิบัติงานหรือนี่

“ถ้าคุณร้อง ผมยิงคุณไส้ทะลักแน่!” ชายหนุ่มกระซิบกับโรสลินเป็น ภาษาอังกฤษที่ฟังสำเนียงก็รู้ได้ทันทีว่าต้องเป็นภาษาแม่ของเขาแน่นอน...

ติดตามต่อในเล่ม....

 

 

 

 

 

 

รายละเอียด

เป็นเรื่องราวของ "แดเนียล" สายลับคาซาโนวา ที่ได้รับมอบหมายให้เข้ามาสืบหาข้อมูลโครงการวิจัยมัจจุราช ที่มีเบื้องหลังบางอย่างที่น่าสงสัยซุกซ่อนไว้ แต่เมื่อเขายิ่งเข้าใกล้เป้าหมายเท่าไร หัวใจของเขานั้นก็ยิ่งต้องสั่นไหว เพราะ "ดอกเตอร์ณิชารีย์" หัวหน้านักวิจัยที่ทั้งสวย ทั้งฉลาด และเต็มไปด้วยความลับนั้นมีความแตกต่างแบบคนละขั้วกับ "โรสลิน" นักสิทธิมนุษยชนสาวปากกล้า ขาลุย จอมจุ้นจ้าน ที่ขยันหาเรื่องปวดหัวให้เขาได้แบบไม่หยุดหย่อน ทว่าเขาก็เป็นห่วงเธอได้ทุกทีสิน่า เมื่อความลับปริศนาได้ชักนำให้คนทั้งสามคนต้องโคจรมาพบกันอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ สามหนุ่มสาวจึงถูกไล่ล่าเพื่อรักษาผลประโยชน์ที่มีมูลค่ามหาศาล ความลับต่างๆ ค่อยๆ ถูกเปิดเผยออกมาทีละเล็กน้อย เฉกเช่นเดียวกับความรักของชายหนุ่มที่มีหัวใจซ่อนเร้น หัวใจที่ต้องล่า และหัวใจที่ต้องเลือก สุดท้ายแล้ว เขาจะเลือกเดินเส้นทางไหนนั้น ก็ต้องติดตามได้ใน "สายลับล่าหัวใจ" เล่มนี้หล่ะ


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (96 รายการ)

www.batorastore.com © 2024