พลิกร้ายตลบรัก (ธารใส)

พลิกร้ายตลบรัก (ธารใส)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786165001809
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 250.00 บาท 62.50 บาท
ประหยัด: 187.50 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

ภายในบ้านปรางมาศค่อนข้างเงียบเหงา มีเพียงชายหนุ่มนั่งเอนหลัง

บนเก้าอี้ไม้ซึ่งตั้งอยู่ตรงระเบียงห้องนอนอันเปิดโล่งหันหน้าไปทางด้าน

หลังบ้าน เขามีใบหน้าคมลัน เครื่องหน้าเข้ม ตัดกับผิวสีขาวค่อนข้างจัดตาม

เชื้อสายบรรพบุรุษฝังบิดาที่ได้รับมาครึ่งหนึ่ง ชายหนุ่มกำลังเหม่อมองไปยัง

สวนเบื้องล่างด้วยสายตาเคร่งเครียด ภายในจิตใจก็สับสนไม่แพ้ก้น

พศินไม่อาจทนนึ่งกระลับกระส่ายได้อีกต่อไป เขาค่อยขยับตัว มองลง

ไปยังสวนแบบอังกฤษ...สวนที่มารดาโปรดปรานนักหนา อุตส่าห์ลงทุนออกแบบ

ด้วยตนเอง เฝ้ารักษาอย่างดี กระทั่งถึงวันที่ท่านจากไป

บ้านปรางมาศนั้นก่อสร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบไทยประยุกต์

ตัวอาคารทาสีครีมอ่อน หลังคาสีเทาเข้มซึ่งตอนนี้เริ่มหม่นไปบ้างตามกาลเวลา

บานหน้าต่างและประตูตกแต่งลูกเล่นด้วยไม้สลักลวดลายสวยงามตามขอบ

เขาคิดว่านี่คือรสนิยมของมารดา คุณมัณฑานี ปรางมาศ เช่นก้น แม้จะ

ดูเหมือนแตกต่าง ทว่าตัวบ้านกับสวนกลับกลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวก้นได้

อย่างดี ให้กลิ่นอายของเมืองผู้ดีได้อย่างเหมาะเจาะ ใครได้มาเห็นล้วนแล้วแต่

เอ่ยชม กระทั่งนิตยสารเกี่ยวกับบ้านยังขอถ่ายภาพอยู่บ่อยครั้ง หากเจ้าของ

บ้านไม่เคยอนุญาต

พุ่มไม้ดอกชูช่ออวดสีสันสวยงาม สลับกับไม้ใหญ่และไม้พุ่มสีเขียวให้

ความร่มรื่น ทางเดินโรยกรวดธรรมชาติสีออกทองแดง มองจากมุมสูงราวกับ

สวนสวรรค์เลยทีเดียว ทั้งยังปลูกแถวเรียงเป็นรูปดวงดาว รูปทรงโปรดของ

หญิงล่วงสับผู้เป็นเจ้าของ ตรงกลางสวนเป็นศาลาแปดเหลี่ยมทาสีขาวสว่าง

เป็นเช่นนี้มาตั้งแต่จำความได้ และเขาไม่เคยคิดเปลี่ยนแปลงสิ่งใด

พศิน ปรางมาศ อาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้มาตั้งแต่เกิด คุ้นเคยกับทุกสิ่ง

ความเปลี่ยนแปลงใดๆ เกิดขึ้นน้อยมาก จนเขาคิดว่าจะไม่มีวันเปลี่ยนตลอด

กาล เป็นอยู่อย่างไรก็อย่างนั้น เพราะคนในบ้านล้วนพอใจอยู่แล้วกับสิ่งที่เป็น

ทว่า...ทุกอย่างกำลังเปลี่ยนไป เพราะผู้หญิงคนนั้น!

ชายหนุ่มนึกถึงเมื่อหนึ่งเดือนก่อน วันที่เรื่องเริ่มต้นขึ้น บิดาล้มป่วย

ด้วยโรคหัวใจกำเริบ จำเป็นต้องผ่าตัดครั้งใหญ่ แม้ว่าจะพร้อมทุ่มเทเต็มที่กับ

การรักษา เสือกเฟ้นนายแพทย์ผู้ได้ชื่อว่าเชี่ยวชาญทางด้านนี้เป็นอันดับหนึ่ง

ในเมืองไทยมาแล้วก็ตาม ทว่าก็ยังถือว่ามีความเลี่ยงอย่างมาก นั่นทำให้บิดาตัดสินใจ

พิทักษ์ ปรางมาศ เรียกทนายความประจำตระกูลเข้ามาหาที่โรงพยาบาล

เป็นการด่วน พร้อมแจ้งความจำนงเปลี่ยนแปลงพินัยกรรม

ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ถึงแม้เขาจะเป็นบุตรชายคนเดียว หากทรัพย์

สมบัติของบิดามีมากมาย พินัยกรรมก็ทำไว้อยู่ก่อนแล้ว เปลี่ยนแปลง

รายละเอียดบ้างก็หลายครั้ง เขาไม่เคยยุ่งเกี่ยว พศินไม่ใช่คนหวงสมบัติ กลัว

ว่าผู้เป็นบิดาจะให้เงินเขาน้อยหรือมากขึ้นแต่อย่างใด ทั้งยังเข้าใจดีว่าบิดา

เพิ่งผ่านเหตุการณ์ร้ายแรง ตระหนักตามประสาคนอายุมากว่าอาจตายวัน

ตายพรุ่ง เลยคิดอยากเตรียมพร้อมให้อุ่นใจ

แต่...การเปลี่ยนพินัยกรรมครั้งนี้ก็ทำให้เขาประหลาดใจมาก

ชื่อของหล่อนโผล่มาในวันนั้นเอง

มรดกทั้งหมดเป็นของเขา บ้าน ที่ดิน บริษัท และเงินสด มีแบ่งสัน

ปันส่วนเล็กๆ ให้คนรับใช้เก่าแก่ในบ้านบ้าง หากมีเงินก้อนจำนวนหนึ่งที่บิดา

ตัดสินใจยกให้ผู้หญิงที่เขาไม่เคยรู้จักมาก่อน

ย้อนไปถึงวันนั้น เขานึกฉงนจนต้องเอ่ยถามตรงๆ

“พ่อครับ ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร ทำไมพ่อต้องใส่ชื่อเธอในพินัยกรรมด้วย”

“แกอย่าสนใจนักเลย” บิดาเอ่ยเลี่ยง ไม่ยอมตอบคำถาม ซํ้ายังเสมอง

ไปทางอื่นด้วย หากเขาไม่ลดละ มันผิดปกติเกินไปหรือเปล่า ยกเงินให้คนที่ไม่เคยรู้จัก

หรือบิดาจะมีความสับอะไรที่ไม่บอกให้เขารู้มาก่อน ทั้งที่สองพ่อลูก สนิทสนมกัน...อย่างน้อย เขาก็คิดอย่างนั้น

“ไม่สนได้ยังไงก้นครับ ผมคิดวาตัวเองมีสิทธิ์รู้”

“ศิน แกอย่ายุ่งสักเรื่องจะเป็นไร นี่เงินของพ่อนะ ไม่ใช่ของแก”

“แล้วผมไม่ใช่ครอบครัวเดียวกับพ่อหรือครับ”

เขาย้อนไปด้วยความลืมตัว หากบิดากลับนึ่งเงียบ ก่อนตัดบทเสียงห้วน

“พ่อตัดสินใจแล้ว แกด้านไปก็ไม่มีประโยชน์ เงินจำนวนนี้ไม่มาก

เมื่อเทียบกับสมบัติทั้งหมดที่แกจะได้รับจากพ่อ เพราะฉะนั้นอย่าทำเป็นปู่โสม

เฝ้าทรัพย์ พ่อสั่งให้คุณสุธีจัดการไปเรียบร้อยแล้ว ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอีก”

“แต่เงินจำนวนห้าล้านไม่ใช่น้อยๆ พ่อยกให้คนไม่มีหัวนอนปลายเท้าได้ยังไง”

“เขาไม่ใช่คนไม่มีหัวนอนปลายเท้าเสียเมื่อไร ฉันเคยรู้จัก...พ่อแม่เขา

เมื่อนานแล้ว แกรู้แค่นี้แหละ พ่ออยากพักผ่อนแล้ว” พูดจบบิดาก็หลับตา

อย่างเหนื่อยล้า เป็นสัญญาณบอกให้เขาถอยก่อน พศินเลยกลับออกไปโดย

ทิ้งความสงสัยให้ค้างคาในใจ

และจนบัดนี้ เขายังไม่ได้รับคำตอบ

พิทักษ์เป็นนักธุรกิจส่งออกสินค้าหัตถกรรมพื้นบ้านของไทย ลูกค้า

ส่วนใหญ่อยู่ทางแถบยุโรป เห็นว่าสินค้าพื้นบ้านพวกนี้มีเสน่ห์ มีคุณคำและ

น่าใช้สอย จึงทำรายได้ไม่น้อย กิจการค่อยเจริญรุ่งเรืองขึ้นทุกรันจนถึงขั้น

ตั้งโรงงานเป็นของตัวเองได้ เพียงชั่วอายุคน บิดาก็กลายเป็นมหาเศรษฐี

อันดับต้นของประเทศไม่แพ้ตระกูลยักษ์ใหญ่ตั้งแต่สมัยก่อนเลยทีเดียว

เงินห้าล้านนับว่าไม่มากจริงอย่างที่ท่านว่า

พศินไม่ใช่คนคิดเล็กคิดน้อย ละโมบอยากได้สมบัติเป็นของตน

ทั้งหมด หากทำทางลับลมคมในของบิดากับทนายความคู่ใจต่างหากทำให้

เขารู้สึกตงิด ไม่อยากปล่อยเรื่องให้ผ่านไปโดยไม่ค้นหาความจริงให้กระจ่าง ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร สำคัญอะไรนักหนา

ถ้าหากเป็นเพียงคนรู้จักผิวเผิน คงไม่มอบเงินให้ จะบาทสองบาท

หรือห้าล้าน อย่างไรก็คือเงิน ไม่ว่าคนให้จะเป็นมหาเศรษฐีหรือยาจกก็ตาม

เขาจึงอาสาร่วมเป็นพยานในการทำตามความประสงค์ของบิดา โดยให้

เธอมาที่บ้าน พร้อมกับสุธี ทนายความประจ่าตระกูล คนเก่าแก่ของบิดา

อันที่จริงบิดาอยากเห็นทุกอย่างด้วยตนเอง แต่เมื่อหลายวันก่อน

พิทักษ์อาการทรุดลงหลังผ่าตัดเล็กน้อย จึงไม่เหมาะด้วยประการทั้งปวง

เขา เอง เป็นคนเสนอให้บิดานอนพักโดยไม่มีอะไรมากระทบจิตใจ

วันนี้คือวันนัด

เขาจะได้เห็นหน้าเธอเสียที...

ผู้หญิงสึกลับที่ทำให้บิดายอมยกเงินจำนวนไม่น้อยให้ได้ ทั้งที่ไม่มีใคร

รู้ที่มาที่ไป ตั้งแต่รับคำสั่ง ทนายสุธีก็หาทางติดต่อกับเธอมานานหลายสัปดาห์

เพิ่งเจอตัวเมื่อสัปดาห์ก่อน แล้วทางนั้นก็เพิ่งยอมตกลงมาพบเอาเมื่อไม่กี่วัน

คิดมาถึงตรงนี้ความหงุดหงิดก็แล่นพล่านในใจของพศิน ใช่แล้ว!

ผู้หญิงคนนั้นใช้เวลาตัดสินใจนานหลายวัน ทั้งที่เป็นการรับเงินแท้ๆ เงิน

ที่ไม่ใช่ของตนเอง แถมยังจำนวนมากเสียด้วย

เล่นตัว...เขานึกด้วยความเกลียดชัง

พศินเกลียดหล่อนแม้จะยังไม่เห็นตัว เขาเชื่อว่ามีความลับบางอย่าง ระหว่างบิดากับผู้หญิงคนนี้ที่เขาไม่รู้ เพราะบิดาไม่ยอมอธิบายเหตุผล

ความลับระหว่างหญิงชาย จะเป็นอะไรได้ นอกจากเรื่องชู้สาว! เขา

ไม่ได้ไร้เดียงสาจนไม่เข้าใจเลียเลย อย่างนี้ไงเล่าบิดาจึงไม่ยอมบอก คง

กระดากเกินกว่าจะให้บุตรชายรู้ว่ามีคนอื่นลับๆ นอกเหนือจากมารดาของเขา

แต่เป็นตั้งแต่เมื่อใด เขาไม่อาจบอกได้...อาจจะก่อนหรือหลังท่าน

ล้มป่วย หรือไม่...ก็อาจก่อนที่มารดาเขาจะจากไป

บิดาอาจมีลูกติดลับๆ เลยอยากยกเงินให้เป็นค่าเลี้ยงดู

เสียงเคาะประตูด้งขึ้นผลักชายหนุ่มออกจากภวังค์ พศินตระหนักว่า

เขาคิดมากเกินไปเลียแล้ว ชายหนุ่มส่ายหัวไล่ความคิดฟังซ่านในทางร้าย

ก่อนเดินไปเปิดประตู เห็นกำธร คนเก่าแก่ในบ้านยืนอยู่ด้วยลีหน้านอบน้อมพร้อมกับเอ่ยว่า

“แขกมาแล้วครับ คุณศิน”

“ขอบใจนะ” เขาตอบ ถามต่อ “แล้วคุณสุธีมาหรือยัง”

“มาแล้วครับ พร้อมกันเลย” พูดจบ กำธรก็โค้งแล้วเดินลงไปด้านล่าง

เขาหันมองภายในห้องแวบหนึ่ง เห็นเงาสะท้อนใบหน้าเคร่งของตนเอง

จากกระจกเงาฝังตรงข้าม ก่อนเจ้าของเงาจะถอนหายใจเฮือกใหญ่

ได้เห็นหน้ากันวันนี้เอง ให้รู้ไปเลียทีว่าหญิงคนไหนท่าให้บิดาของเขา หลงเสน่ห์ได้ถึงขนาดยกเงินให้

จะมารยาขนาดไหนกันนะ

นวิยา พละผล หันหน้ามองสวนอังกฤษเป็นการฆ่าเวลาระหว่าง

รอเจ้าของบ้าน ข้างกายคือทนายความ เห็นว่าเป็นทนายประจำตระกูลนี้ หล่อน

ไม่เคยรู้จักเขามาก่อน กระทั่งได้รับการติดต่อมาเมื่อสัปดาห์ก่อน พร้อมกับ

รายละเอียดที่ชวนให้ไม่เข้าใจแม้แต่น้อย

อยู่ดีๆ ก็มีคนยกเงินให้ถึงห้าล้าน!

แม้จะไม่ใช่เดี๋ยวนี้ทั้งหมด แต่เป็นเงินมรดก ได้รับเมื่อเจ้ามรดก

เสียชีวิตไปเท่านั้น หากก็สร้างความประหลาดใจให้หญิงสาวอยู่ดี หล่อนไม่คุ้น

ชื่อเจ้าของเงินแม้แต่น้อย ทั้งนึกไม่ออกว่าตนไปท่าอะไรเข้าจึงได้ลาภก้อน

ใหญ่ถึงปานนั้น

จะว่าเพราะเรื่องงาน...ก็ไม่น่าเชื่อ

นวิยาตั้งใจจะปฏิเสธ ทว่าพอได้คุยกับป้านวลบุญ เธอก็เปลี่ยนใจ

อยากจะมาเหยียบบ้านหลังนี้ดูเสียหน่อย!

เมื่อแรกเหยียบย่างเข้ามาภายในบริเวณบ้านปรางมาศ ความร่มรื่น

ท่าให้หญิงสาวรู้สึกผ่อนคลายความตึงเครียดได้ไม่น้อย ทนายสุธีเป็นเพื่อน

ร่วมทางที่ไม่ได้เรื่องได้ราวนัก เพราะนั่งเงียบมาตลอดทาง วางท่าเคร่งขรึม

เอาการเอางานเสียจนหล่อนไม่กล้าชวนคุย จึงได้แต่นั่งเงียบมองสองข้างทาง

ไปเรื่อยๆ จำได้ว่าเป็นทางสู่ใจกลางเมืองถนนสายที่ได้ชื่อว่ารถติดไม่น้อย

หล่อนเองก็ทำงานอยู่บนถนนเส้นนี้เช่นกัน แม้ว่าจะพักอยู่อพาร์ตเมนต์ให้เช่า

แถบชานเมืองก็ตาม ช่วงเข้าแต่ละวันต้องตื่นตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง เพื่อให้เข้ามา

ทำงานได้ทันเวลา เบื่อแค่ไหนก็ต้องอดทน เพราะมันคืองานที่หล่อนรัก

นวิยาทำงานในบริษัทออแกไนเซอร์ขนาดเล็ก ทว่ามีชื่อเสียงพอตัวมา ตั้งแต่เพิ่งเรียนจบ หล่อนรักงานนี้ รักที่ได้เดินทาง ได้สร้างสรรค์งานต่างๆ

ตามที่ได้รับมอบหมายให้เสร็จสมบูรณ์ สร้างความพอใจให้แก่ลูกค้า ที่ผ่านมา

หญิงสาวทำหน้าที่ได้ดีเสียจนมีแต่คนเอ่ยชม ได้เลื่อนตำแหน่งชื้น เรียกได้ว่า

กำลังรุ่งกับงาน

เงินหลักล้านอาจจะมาก หากหล่อนเองก็ไม่ได้กำลังร้อนเงินจนถึง

ขนาดกระโจนเข้าใส่

ที่มา...เพราะอยากรู้เรื่องอื่นมากกว่า

ทนายความบอกว่าเจ้าชองบ้านไม่อยู่ เกิดอาการโรคหัวใจกำเริบ ร่างกาย

ไม่แข็งแรง เหลือแต่บุตรชาย ซึ่งหล่อนจะได้พบในวันนี้

นวิยาไม่สนใจสักนิดว่าเขาเป็นใคร หล่อนสนใจเจ้าของบ้านมากกว่า

น่าเสียดายเหลือเกินที่ไม่ได้เจอผู้ชายคนนั้น เคยบอกกับทนายว่าขอผัดผ่อน

เวลาไปจนกว่าฝ่ายนั้นจะออกจากโรงพยาบาล แต่เห็นว่ามีคนด้าน ยกเหตุผล

ว่าอยากจัดการเรื่องให้เร็วที่สุด

อาการหนักถึงขนาดนั้นเชียวหรือ...

หล่อนบอกไม่ถูกเหมือนกันว่ารู้สึกอย่างไร จะเห็นใจก็ไม่ใช่ ส่วนจะ

สมใจ...ก็ไม่เชิง

คงต้องให้เจอตัวกันก่อนกระมัง จึงจะตัดสินใจได้ว่าควรรู้สึกอย่างไร

กับผู้มอบมรดกก้อนใหญ่นี้ดี

ทนายสุธีเป็นคนออกความเห็นว่า แทนที่จะนั่งในห้องรับแขกซึ่งเป็น ทางการเกินไป ควรมาพบกันในสวนจะดีกว่า ทั้งยังคุยว่าสวนอังกฤษของ บ้านนี้สวยงามมาก หล่อนจะต้องชอบอย่างแน่นอน

นวิยาไม่ปฏิเสธ ที่ไหนก็เหมือนกันสำหรับหล่อน เพราะจากนี้คงไม่ได้ กลับมาเหยียบอีกแล้ว

คนพามาหายไปที่ไหนสักแห่ง ปล่อยให้หล่อนนั่งอยู่คนเดียว เห็นบอก

ว่าจะไปทักทายคนอื่นในบ้าน เห็นได้ชัดว่าสนิทสนมกัน แน่ละ ก็ทำงานด้วย

มาตั้งนานนี่นา

หล่อนกำลังนั่งอยู่ในสวน โต๊ะเก้าอี้อัลลอยสีขาวเข้าชุดกันวางอยู่กลาง ลานเล็กๆ มุมหนึ่งของสวนร่มรื่นไม่ห่างจากตัวบ้านมากนัก มองไกลๆ เห็นว่า สวนยังมีพื้นที่อีกกว้าง นี่คงเป็นแค1ส่วนด้านหน้าเท่านั้นเอง รอบตัวหล่อน

รายล้อมด้วยพุ่มไม้ดอกแสนสวยสีฟ้าอมเชียว แค่กวาดตามองก็ทราบได้ทันที

ว่าเจ้าของบำรุงรักษาเป็นอย่างดี ได้กลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกไม้ลอยอวล

หญิงสาวนึกชอบใจเลยเอื้อมมือไปแตะดอกไม้อย่างทะนุถนอม หวังจะชื่นชม

หากก็รู้สึกอย่างนั้นไม่ได้นานนัก เพราะเสียงห้วนๆ ดังขึ้นจากทางด้านหลัง

ระดับเสียงราวต้องการตะคอก

                               (โปรดติดตามต่อในฉบับเต็ม)

 

 

 

รายละเอียด

พศิน "ร้าย" เพราะเชื่อว่าหล่อนเป็นเมียเก็บของพ่อ นวิยา "ร้ายตอบ" เพราะปักใจเชื่อว่าพ่อเขาทำให้บุพการีตายจากทิ้งให้หล่อนเป็นกำพร้าตั้งแต่ยังเด็ก ต่างฝ่ายไม่ยอมลดราให้กัน เหตุเพราะความโกรธและเกลียดชัง ทว่า . . . จากร้ายจะพลิกกลับเป็นรักได้หรือไม่ ?


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (96 รายการ)

www.batorastore.com © 2024