รานีในดวงใจ (อุมารตี)

รานีในดวงใจ (อุมารตี)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786160003150
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 220.00 บาท 55.00 บาท
ประหยัด: 165.00 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

พญาราชสีห์กับรานีกินรี

 

มองจากความสูงหนึ่งพันฟุตบนน่านฟ้าไทย แผ่นดินสยาม

ดูเขียวชอุ่มชุ่มชื่น สลับสล้างซับซ้อนด้วยที่ราบลุ่ม เชิงผาและภูสูง ลำธาร

หลายสายซึ่งคงเป็นแม่น้ำสายหลักของประเทศ ทอดยาวเนื่องหนุนจาก

ภาคเหนือลงไปทางตอนกลางของประเทศ ถนนอันเป็นเส้นทางคมนาคม

หลักแผ่ขยายเหมือนใยแมงมุมครอบคลุมทั่วถึง เป็นภาพที่งดงามและให้

ความอุ่นใจแก่สตีฟ จากการศึกษาความเป็นไปได้ทางธุรกิจ ถนนเหล่านี้

เชื่อมโยงไปถึงจีน ลาว และทะลุไปถึงเวียดนาม

ท่าเรือน้ำลึกหลายจุดทางภาคใต้ก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่ดึงดูดการลงทุน

ด้วยจำนวนเงินก้อนมหึมา แม้ในปัจจุบัน เครื่องมือเครื่องใช้ไม่อาจเทียบ

กับท่าเรือในสิงคโปร์ได้ แต่ด้วยเงินสนับสนุนนับพันล้านเหรียญซึ่งกันไว้

สำหรับการปรับปรุงพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับโครงการหลักของ

แมคเคนซี่ คอร์ป ข้อด้อยนี้ย่อมไม่ใช่ปัญหาในระยะยาว และไม่เป็น

อุปสรรคต่อการดำเนินงานตามแผน

ไม่เสียแรงที่เขาเลือกประเทศนี้เป็นสำนักงานใหญ่ในภูมิภาคเอเชีย

อาคเนย์และเป็นแฟล็กชิปสำหรับโครงการไบโอเอ็นเนอร์จี ซึ่งเป็นเป้าหมาย

หลักของแมคเคนซี่ คอร์ป กลุ่มบริษัทนอกตลาดหลักทรัพย์ที่ติดอันดับ

ทำผลกำไรมากที่สุดในสหรัฐอเมริกา ตัวเขาเองเป็นผู้ก่อตั้งและถือหุ้นถึง

เก้าสิบเปอร์เซ็นต์ อีกสิบเปอร์เซ็นต์เป็นส่วนที่จัดสรรเพื่อตอบแทนผลงาน

ให้แก่เหล่าผู้บริหารและพนักงานดีเด่น ซึ่งแน่นอนว่าย่อมผูกใจให้คน

เหล่านั้นจงรักภักดีและทุ่มเทแรงกายแรงใจทำงานให้บริษัทเจริญก้าวหน้ามากขึ้นไปอีก

ชายหนุ่มเลื่อนสายตาจากหน้าต่างเครื่องบิน มาปรายตามองผู้โดยสาร

อีกสามคนซึ่งกำลังขยับตัวปรับที่นั่งและคาดเข็มขัดเมื่อนักบินประกาศ

เตรียมพร้อมเพื่อการแลนดิง ชายกลางคนร่างท้วม หัวล้านเลี่ยน หน้าตา ใจดี

ที่นั่งตรงข้ามเขาคือนาธานหรือแน็ท ประธานที่ปรึกษาฝ่ายพัฒนาธุรกิจ

ของแมคเคนซี่ คอร์ป เมื่อพ่อขี้เมาของสตีฟตายโดยไม่ได้ทิ้งอะไรไว้ให้

ลูกชาย แม้แต่บ้านจะซุกหัวนอน แน็ท ซึ่งเป็นครูวิทยาศาสตร์ของเขา

ในตอนนั้น กับภรรยาที่อยู่กินกันมานานปีแต่ไม่มีลูกด้วยกัน ก็รับลูกศิษย์

สมองอัจฉริยะวัยสิบขวบเข้าบ้าน และเลี้ยงดูประดุจลูกแท้ๆ แม้ไม่เคย

จดทะเบียนเป็นบุตรบุญธรรมตามกฎหมายเลยก็ตาม

นาธานสนับสนุนให้สตีฟเล่นกีฬาเพื่อกลบปมด้อยของการเป็นลูก

กำพร้า จนเป็นควอเตอร์แบ็กชื่อดังตั้งแต่ยังเรียนไฮสกูล ได้รับทุนนักกีฬา

เข้าเรียนในวิทยาลัยทหารเรือที่เมืองมินนิอาโปลิส และต่อมาได้รับคัดเลือก

เข้าร่วมหน่วยปฏิบัติการพิเศษของหน่วยนาวิกโยธินสหรัฐอเมริกาที่เรียกว่า

‘ซีลส์’ ครั้นสตีฟประดิษฐ์คิดค้นวงจรนำวิถีขึ้นมาได้สำเร็จ ก็นาธานอีก

นั่นแหละที่เบิกเงินทุนสะสมเพื่อใช้ในบั้นปลายชีวิตของตนเองกับภรรยา

ออกมาจนเกลี้ยง เพื่อให้สตีฟมีทุนผลิตต้นแบบหรือโปรโตไทป์เสนอกองทัพ

เรือสหรัฐ นาธานจึงเป็นยิ่งกว่าชายผู้ให้กำเนิดเขาเสียอีก

หลังจากทำเงินหนึ่งล้านเหรียญแรกจากการขายโปรแกรมวงจร

นำวิถี สตีฟก็ลาออกจากหน่วยซีลส์และกองทัพเรือ มาก่อตั้งแมคเคนซี่

คอร์ป เขาทุ่มเทเวลาตลอดสิบสี่ปีบริหารมันจนยิ่งใหญ่ แตกเครือข่าย

ครอบคลุมทั่วโลกและทุกสาขาธุรกิจ

อีกฝั่งที่นั่งคือสองหนุ่มหล่อห้าววัยต้นสามสิบ ที่แม้ไม่สูงใหญ่เท่า

สตีฟ หากแข็งแกร่งและส่อแววอันตรายแบบนักรบอย่างเด่นชัด พวกเขา

คือแดเนียลกับเจค อดีตลูกน้องที่ร่วมทีมปฏิบัติการเฉียดตายกับสตีฟ

มานับครั้งไม่ถ้วน และลาออกจากซีลส์เพื่อติดตามสตีฟมาสร้างอาณาจักร

ธุรกิจ ทั้งสองไม่มีหัวด้านการบริหารหรือการเจรจา แต่เป็นมือวางอันดับ

ต้นๆ เรื่องการวางระบบรักษาความปลอดภัยและต่อต้านการก่อการร้าย

แดเนียลมีผมทองอร่ามยาวปรกต้นคอ ตาสีฟ้าสดใส โครงหน้า

เหลี่ยมคม หล่อล่ำเหมือนพวกไวกิง ดูเผินๆ เป็นคนเจ้าชู้ ร่าเริง คุยสนุก

ไปวันๆ แต่พอเป็นเรื่องงาน เขามีประสิทธิภาพและเอาจริงเอาจังไม่แพ้เจค

ชายผมดำสั้นเกรียน ตาสีน้ำเงิน เข้มขรึม และดื่มเหล้าคอแข็งแบบอเมริกัน

เชื้อสายไอริช สองคนนี้เรียกว่าต่างกันสุดขั้ว แต่ซี้กันปึ้กปั้ก พวกเขาเหมือน

กันอยู่อย่างคือ ทั้งรักและภักดีต่อสตีฟด้วยชีวิต ซึ่งเป็นผลพวงจากการ

ที่สตีฟเคยเสี่ยงชีวิตช่วยพวกเขาไว้หลายครั้งหลายคราในระหว่างปฏิบัติ

การ ไม่ว่าสตีฟจะเดินทางไปไหน ในหรือนอกเวลางาน แดเนียลกับเจค

จะผลัดกันติดตามเจ้านายไปทุกหนทุกแห่ง เพราะต่อให้นักรบมหากาฬที่

เก่งทั้งบุ๋นและบู๊อย่างสตีฟก็ยังต้องมีคนระวังหลัง โดยเฉพาะเมื่อเขากลาย

เป็นเจ้าของธุรกิจระดับหมื่นล้านเหรียญอย่างเช่นทุกวันนี้

ชายสามคนนี้เป็นผู้ที่สตีฟไว้ใจมากที่สุดในโลก แต่ไม่มีครั้งใดเลย

ที่พวกเขาจะเดินทางครบทีมเช่นนี้ ปกติจะมีเพียงแดเนียลหรือเจคคนใด

คนหนึ่งเท่านั้นที่ติดตามทำหน้าที่บอดีการ์ดส่วนตัวให้สตีฟ คนที่ไม่ได้ไป

ด้วยจะประกบนาธานอยู่ที่สำนักงานใหญ่ แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนกับครั้งอื่นๆ

...สตีฟทอดถอนใจ ครั้งนี้เขามีภารกิจที่นอกเหนือจากการเปิดอภิมหา

โครงการพลังงานทดแทนจากชีวภาพที่ทั้งโลกกำลังจับตามอง มันเป็น

ภารกิจเล็กๆ ที่อาจมีผลกระทบกระเพื่อมระดับโลกหากทำไม่สำเร็จ

สองสัปดาห์ก่อน เขาไปร่วมดินเนอร์ฉลองครบรอบแต่งงานของ

อดีตผู้บังคับบัญชาหน่วยซีลส์ที่เขาเคารพนับถือ แต่เขากลับถูกต้อนเข้าไป

ในห้องทำงาน และต้องใช้เวลากว่าสามชั่วโมงประชุมลับกับที่ปรึกษาท่าน

ประธานาธิบดีและรัฐมนตรีช่วยกลาโหมเกี่ยวกับ ‘กินรินปุระ’ รัฐอิสระ

ลักษณะเดียวกับลิกเตนสไตน์และโมนาโค ที่เล็กและไร้ความสำคัญจน

ไม่ปรากฏบนแผนที่โลก ตั้งอยู่ในแอ่งกระทะ ห้อมล้อมด้วยเทือกเขาสลับ

ซับซ้อนถึงสองชั้น พรมแดนตอนเหนือชนจีน ตะวันตกจดอินเดียและพม่า

ตะวันออกติดกับลาว และทิศใต้มีแม่น้ำเมยกั้นขวางภาคเหนือของไทย

แม้จะอุดมไปด้วยรัตนชาติ ซึ่งรัฐควบคุมการผลิตและจำหน่าย

แต่ประชาชนส่วนใหญ่ยังทำการเกษตร ทั้งไร่ชาและนาข้าวแบบดั้งเดิม

ความเจริญทางด้านวัตถุและเทคโนโลยีคงพอๆ กับสหรัฐอเมริกายุคบุกเบิก

อุตสาหกรรม มีรถยนต์ไม่ถึงสิบคัน ไฟฟ้าและโทรศัพท์มีแต่ตาม

โรงพยาบาลและหน่วยงานราชการที่จำเป็นจริงๆ เท่านั้น โทรศัพท์มือถือ

ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ด้วยความล้าหลังและอยู่หลังป่าหลังเขาแบบนี้นี่เองที่ทำให้

รัฐเล็กๆ อยู่รอดปลอดภัย ไม่มีใครใส่ใจหรือระแวงแม้ตั้งอยู่ในจุดยุทธ-

ศาสตร์ของจีนและอินเดียไม่ต่างจากสิกขิมและทิเบต

แล้วทำไมจู่ๆ ตอนนี้ถึงกลายเป็นประเด็นร้อนจนเจ้าหน้าที่ระดับสูง

ต้องหาทางมาพบเขาลับๆ เช่นนี้

“เมื่อเร็วๆ นี้ดาวเทียมสำรวจของเราตรวจพบว่าวงแหวนเทือกเขา

ของกินรินปุระเป็นแหล่งแร่ไทเทเนียม ซึ่งสังเคราะห์เป็นเชื้อเพลิงได้

เช่นเดียวกับปิโตรเลียมและก๊าซธรรมชาติ ปริมาณที่พบก็มากพอจะ

ครอบคลุมการใช้เชื้อเพลิงในโลกได้ถึงหนึ่งศตวรรษ” ท่านรัฐมนตรีช่วยฯ

ถอนใจเฮือก เขาหันมามองสตีฟพร้อมกับสรุปปิดท้าย “ผมคงไม่ต้องบอก

ใช่มั้ยว่า รัฐเล็กๆ อย่างกินรินปุระกำลังจะกลายเป็นมหาอำนาจทางพลังงาน

ไม่ต่างกับตะวันออกกลาง”

“แล้วก็คงตกเป็นเหยื่อแสนโอชะของมหาอำนาจทางทหาร ไม่

ประเทศใดก็ประเทศหนึ่ง ขึ้นอยู่กับว่าใครเร็วกว่ากัน” สตีฟสวนขึ้นมา

ทันควัน รู้สึกเป็นห่วงชะตากรรมของรัฐเล็กๆ ซึ่งฟังดูเหมือนทารกน้อย

ไร้เดียงสาที่กำลังจะถูกผู้ใหญ่รังแก

“ผมเข้าใจว่ารัฐบาลของเราคงต้องรีบประกบกินรินก่อนที่จีน อินเดีย

รัสเซีย หรือแม้แต่ญี่ปุ่นจะฉกไปกินเสียก่อน แต่ผมไม่เข้าใจว่าตัวเองมา

อยู่ตรงไหนในเรื่องนี้”

ท่านรัฐมนตรีช่วยฯ กับที่ปรึกษาท่านประธานาธิบดีมองตากันเหมือน

เกี่ยงให้อีกฝ่ายหนึ่งพูด ทั้งสองไม่เคยทำงานหรือหารือใกล้ชิดกับสตีฟ

เหมือนรัฐมนตรีคลังกับที่ปรึกษาการคลังของประธานาธิบดี แต่พอจะได้ยิน

เสียงเล่าลือถึงความเป็นคนจริง คนตรง คนรักความยุติธรรมของสตีฟ

อภิมหาเศรษฐีนักอุตสาหกรรมหนุ่มโสดวัยสามสิบเจ็ดคนนี้สร้างตัวด้วย

สมองและสองมือ ธุรกิจของเขาประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วเพราะความ

ฉลาดหลักแหลม การตัดสินใจที่ห้าวหาญฉับไว หากรอบคอบและมอง

การณ์ไกล เขาสร้างกองทัพผู้บริหารรุ่นใหม่ที่ล้วนเก่งกาจกร้าวแกร่งดุจฝูง

สิงโตแห่งวงการอุตสาหกรรม และสตีฟก็คือราชสีห์ผู้เป็นเจ้าป่านั่นเอง

และเช่นเดียวกับผู้ยิ่งใหญ่เกรียงไกรทั้งหลาย บุรุษผู้นี้มีความหยิ่งทระนง

และมีความเป็นตัวของตัวเองสูง เขาย่อมไม่ชอบถูกครอบงำ หลอกใช้

หรือจูงจมูกเพื่อผลประโยชน์ของผู้ใด ถึงจะเป็นเดโมแครตและบริจาค

เงินสนับสนุนพรรคก้อนใหญ่อย่างสม่ำเสมอ แต่เมื่อใดที่รัฐบาลเข้าแทรก-

แซงการเมืองของประเทศอื่น ใช้ความเป็นมหาอำนาจเข้าไปเอารัดเอา

เปรียบ ฉกฉวยผลประโยชน์จากประเทศไหน หรือยกร่างกฎหมายที่

ไม่เป็นธรรมต่อสังคม สตีฟเป็นต้องออกโรงประณามอย่างไม่ไว้หน้าอินทร์

หน้าพรหม ซึ่งทั้งประชาชนและสื่อมวลชนอเมริกันส่วนใหญ่ก็ฟังเสียงเขา

เสียด้วย เพราะนอกจากวาทะแหลมคมกินใจเวลาให้สัมภาษณ์ กับรูปร่าง

สูงใหญ่และหน้าตาคมสันหล่อขรึมแบบชายชาตรีและเป็นวีรบุรุษนักรบ

แล้ว สตีฟยังเป็นหนึ่งในกลุ่มมหาเศรษฐีใจบุญที่บริจาคเงินและสร้าง

โครงการเพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์อยู่ตลอดเวลา อันที่จริงนักวิจารณ์

การเมืองหลายคนต่างทำนายว่า หากเขาลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี

คงได้รับชัยชนะแบบแลนด์สไลด์หรือชนะอย่างท่วมท้นถล่มทลายเลยทีเดียว

งานนี้เพื่อชาติ วีรบุรุษที่ได้เคยได้รับเหรียญกล้าหาญเพอร์เพิลฮาร์ท

อย่างสตีฟหรือจะปฏิเสธ เขาเพียงแต่ต้องใช้คำพูดให้ฟังดูเหมือนการ

ขอร้อง ไม่ใช่การล่อหลอก ซึ่งคงยากอยู่สักหน่อย เมื่อดูจากเนื้อหาที่กำลัง

จะพูด ท่านที่ปรึกษาบอกกับตัวเอง ก่อนจะพยักหน้าให้แก่ท่านรัฐมนตรี

ช่วยฯ เป็นนัยว่าขอแสดงฝีมือเอง

“คุณเกี่ยวเต็มๆ เลย สตีฟ แมคเคนซี่ คอร์ป เป็นผู้ริเริ่มและ

ผู้นำการคิดค้นพลังงานทดแทนในภาคเอกชน และถือสัมปทานขุดแร่

ไทเทเนียมของประเทศคองโกในแอฟริกาอยู่แล้ว จึงถึงพร้อมทั้งโน-ฮาว๑

เทคโนโลยี และบุคลากร ทางรัฐบาลจึงอยากให้โอกาสเข้าไปสำรวจและ

ดูความเป็นไปได้ก่อนบริษัทอื่นๆ...”

“หรืออีกนัยหนึ่ง...” สตีฟขัดขึ้นกลางคันด้วยสีหน้าเยาะหยัน

น้ำเสียงแข็งกร้าว แค่อีกฝ่ายหนึ่งอ้าปาก เขาก็เห็นไปถึงลำไส้ใหญ่ “รัฐบาล

ต้องการใช้แมคเคนซี่ คอร์ปบังหน้าเข้าไปฮุบกินรินปุระ โดยไม่ต้องชนกับ

มหาอำนาจในภูมิภาคและยังเลี่ยงประเด็นเรื่องมนุษยธรรมที่อาจตามมาได้อีกด้วย”

อีกฝ่ายทำหน้าไม่ถูก การใช้ผลประโยชน์โน้มน้าวมหาเศรษฐีหนุ่ม

คนนี้ดูเหมือนไม่เข้าทางเสียแล้ว ท่านที่ปรึกษารีบพลิกเกม “คุณอยาก

ตีความอย่างนั้นก็ได้นะสตีฟ แต่เป้าหมายของเราคือเข้าถึงและทาบทาม

กินรินก่อนประเทศอื่น ไม่ว่าจะผ่านแมคเคนซี่ คอร์ปหรือไม่ก็ตาม คุณ

เพียงแต่เป็นตัวเลือกแรกเพราะความพร้อมในทุกๆ ด้าน รวมทั้งชื่อเสียง

ด้านจริยธรรมของคุณด้วย อีกอย่างหนึ่ง คุณใช้ประเทศไทยเป็นฐาน

ในเอเชียอยู่แล้ว มันก็ไม่ต่างอะไรกับการไปยืนอยู่หน้าประตูบ้าน กินรินปุระ

มีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับไทย เรียกว่าเป็นบ้านพี่เมืองน้องก็ว่าได้

การหาเส้นสายเพื่อเข้าถึงข้าราชการระดับสูง หรือถ้าให้ดีก็เจ้าผู้ครองนคร

ไม่น่ายากเย็นอะไร”

สตีฟเงียบไปและมีท่าทีครุ่นคิด ท่านรัฐมนตรีช่วยฯ รีบตอกย้ำ

“กินรินเป็นประเทศปิด ไม่ได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็น

ทางการกับประเทศไหน ดังนั้นการติดต่อในระดับรัฐบาลต่อรัฐบาลจึงไม่ใช่

เรื่องง่าย อย่างไรก็ตามกินรินมีการค้าขายและแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม

กับไทยมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่สมัยโบราณ และยังคงปกครองด้วยระบอบ

สมบูรณาญาสิทธิราชย์ ประมุขคือองค์รานี ถ้าแมคเคนซี่เจาะถึงตัวองค์รานี

ได้สำเร็จ โอกาสที่เราจะใช้ความช่วยเหลือในการพัฒนาประเทศแลกกับการ

ถือสัมปทานขุดแร่ก็มีมาก เพราะจากข้อมูลที่ได้มา รานีองค์ปัจจุบัน

เดินทางไปศึกษาในยุโรปจนจบปริญญาตรี ทุ่มเทกับการพัฒนาประเทศ

โดยเฉพาะในเรื่องการศึกษาและสาธารณสุข เราน่าจะใช้เรื่องนี้เป็นแรงจูงใจ

ได้ ผมมองไม่เห็นว่ามีตรงไหนขัดแย้งกับผลประโยชน์ อุดมการณ์ หรือ

หลักจริยธรรมของแมคเคนซี่ คอร์ป ยิ่งไปกว่านั้น ถ้ากินรินตกลงให้

สัมปทานกับคุณ มันยังป้องกันความขัดแย้งระหว่างประเทศและการใช้

กำลังทหาร ประเทศเล็กๆ อย่างกินรินคงย่อยยับ ถ้ามีการใช้ความรุนแรง

แย่งชิงผลประโยชน์”

สตีฟรับฟังด้วยสีหน้าเคร่งขรึม เขารู้ว่าอีกฝ่ายโจมตีจุดอ่อนอัน

ได้แก่มนุษยธรรม แต่ปฏิเสธความจริงที่แฝงอยู่ในคำพูดของสองคนนี้

ไม่ได้ ในที่สุดชายหนุ่มก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสุขุมราบเรียบว่า “ผมขอเวลา

คิดกับตรวจสอบข้อมูลบางเรื่องสักสองสามวัน ระหว่างนี้ช่วยให้คนของคุณ

                        (โปรดติดตามต่อในฉบับเต็ม)

รายละเอียด

กินรินปุระ เมืองลับแลที่ปิดประเทศมาชั่วนาตาปี หากวันนี้รานีองค์ปัจจุบันมีพระประสงค์จะเปิดประเทศสู่ประชาคมโลก เพื่อป้องกันการรุกรานจากราชายาเสพติดและเหล่าประเทศมหาอำนาจ นี่จึงเป็นการมาพบกันของสามบุรุษผู้เกรียงไกร พญาราชสีห์...อดีตซีลส์ และเจ้าป่าแห่งโลกอุตสาหกรรม จิ้งจอกภูเขา...นายพลผู้เก่งกาจ ฉลาด เจ้าเล่ห์ ไร้เทียมทาน พยัคฆ์หนุ่ม...ขุนศึกคู่พระทัยแสนทะนง มีเพียงหนึ่งที่เป็นเนื้อคู่ซึ่งจะนำพากินรินไปสู่ความรุ่งโรจน์ผาสุก แต่หากเลือกผิด นั่นหมายถึงทั้งกินรินปุระและรานีจะต้องถึงแก่ความพินาศล่มจม


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (96 รายการ)

www.batorastore.com © 2024