สลักรักกามเทพ (ไปรยา)

สลักรักกามเทพ (ไปรยา)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786160021420
มีสินค้าในสต็อค
ราคา: 270.00 บาท 67.50 บาท
ประหยัด: 202.50 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

นักเขียนสาวเจ้าของนามปากกา ‘นิลน้ำค้าง’ นั่งมองตัวอักษร ‘จบ

บริบูรณ์’ ที่ปรากฏบนหน้าจอคอมพิวเตอร์อยู่ชั่วขณะ ก่อนที่นิ้วเรียวยาวจะ

เริ่มขยับเลื่อนลูกศรไปคลิกปุ่มปิดเครื่อง หลังจากแน่ใจว่า สลักรักกามเทพ

นิยายเรื่องล่าสุดที่มีความยาวเกือบสามร้อยหน้าถูกเก็บลงในหน่วยความจำ

ของเครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก รวมทั้งแผ่นซีดีเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งเป็นเวลา

เดียวกับที่เข็มนาฬิกาบนฝาผนังห้องชี้บอกเวลาเจ็ดนาฬิกาสี่สิบห้านาที

เจ้าของร่างระหงที่ยังคงสวมชุดนอนลายทางสีฟ้าสลับขาวตัวโคร่ง

ลุกขึ้นจากเก้าอี้บิดตัวขับไล่ความเมื่อยล้า แล้วใช้สองมือเสยผมซอยสั้น ที่

เวลานี้ยุ่งเหยิงจนดูไม่ออกว่าเป็นทรงอะไรให้พ้นไปจากใบหน้า จากนั้นจึง

ถอดแว่นสายตาวางลงในกล่อง ก่อนก้าวเท้าตรงไปยังเตียงนอน ทิ้งน้ำหนัก

ตัวลงเต็มแรง พร้อมทั้งผ่อนลมหายใจออกมายาวเหยียด เหมือนเช่นทุก

ครั้งที่เจ้าตัวสามารถผลักดันตัวละครในนิยายให้ก้าวสู่จุดหมายปลายทางเป็นผลสำเร็จ

ขิงดอง หรือชื่อ-นามสกุลตามบัตรประชาชน ชนิภา นาถวัฒน์ ยึด

อาชีพนักเขียนตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยปีที่สามจนถึงปัจจุบัน นิยาย

เล่มที่เธอเพิ่งปิดต้นฉบับไปสดๆ ร้อนๆ เมื่อครู่นี้ ถือเป็นนิยายเรื่องที่สิบเก้า

ในช่วงระยะเวลาเกือบห้าปี เฉลี่ยแล้วหญิงสาวเขียนหนังสือออกมาปีละสาม

ถึงสี่เล่ม ดูแล้วอาจจะมากเกินไปสำหรับนักเขียนบางคน แต่สำหรับชนิภา

ถือเป็นเรื่องปกติ เพราะเธอทำงานเขียนเพียงอย่างเดียว

แต่ทั้งหมดนั้นไม่น่าแปลกใจเท่ากับเรื่องที่เป็นผลงานเล่มแรกของเธอ

ได้รับการติดต่อขอซื้อลิขสิทธิ์จากทางสถานีโทรทัศน์เพื่อนำไปสร้างเป็นละคร

หลังจากนิยายวางขายบนแผงหนังสือได้เพียงไม่นาน นับว่าเป็นความสำเร็จ

ที่เกินความคาดหมายสำหรับนักเขียนหน้าใหม่ มิหนำซ้ำยังเป็นละครแนว

ชิงรักหักสวาท ที่เนื้อหาบางส่วนคนเขียนหยิบยกจากเรื่องราวที่ผ่านเข้ามา

ในชีวิต โดยมีนักเขียนบทโทรทัศน์เป็นผู้แต่งแต้มเติมสีสันจนสนุกเข้มข้น

กระชากเรตติงให้แก่ทางสถานี รวมทั้งสร้างชื่อเสียงให้นักแสดงนำในเรื่อง

แล้วอานิสงส์ความดังของละครยังทำให้นักเขียนตัวเล็กๆ เจ้าของนามปากกา

‘นิลน้ำค้าง’ เป็นที่รู้จักของบรรดาแฟนนิยายและแฟนละคร ส่งผลให้นิยาย

เล่มต่อมาขายดิบขายดี สร้างรายได้แบบถล่มทลายให้แก่สำนักพิมพ์ มิหนำซ้ำ

ผลงานของชนิภายังเป็นที่หมายตาของผู้จัด ผู้ดูแลการผลิตรายการของ

สถานีโทรทัศน์ ที่วนเวียนมาจับจองซื้อลิขสิทธิ์เพื่อนำไปสร้างเป็นละคร

บางเรื่องก็ยังถูกนำไปถ่ายทอดในรูปแบบของภาพยนตร์

บรรดาผู้คนที่เสพสื่อบันเทิงน้อยคนนักที่จะไม่รู้จักนามปากกา

‘นิลน้ำค้าง’ เจ้าของผลงานนิยายหลากหลายแนว ซึ่งใช้เวลาไม่ถึงห้าปีในการ

สร้างชื่อเสียง พร้อมกับเม็ดเงินจำนวนมหาศาลที่เจ้าตัวแทบไม่เชื่อว่างาน

เขียนจะสามารถสร้างรายได้ให้มากมายขนาดนี้...

“ขิง ขิงดอง หลับอยู่หรือเปล่าลูก”

เสียงร้องเรียกที่มาพร้อมกับเสียงเคาะประตูเบาๆ ฉุดให้คนที่นอน

คว่ำหน้าอยู่บนเตียงค่อยๆ พลิกตัว ก่อนส่งเสียงตอบกลับไปว่า

“ขิงยังไม่หลับค่ะแม่”

“มาเปิดประตูให้แม่หน่อยได้ไหม”

เจ้าของห้องถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่ ตัดใจก้าวลงจากเตียง เดิน

โซซัดโซเซมาปลดล็อกลูกบิดประตู

“ตายแล้วยายขิง ทำไมถึงได้โทรมเหมือนถูกใครลากไปซ้อมมาอย่างนี้ล่ะลูก”

“ก็ขิงไม่ได้นอนมาทั้งคืน จะให้หน้าตาดูอ่อนกว่าวัยอย่างคุณแม่นิล

ได้ยังไงล่ะคะ” หญิงสาวย้อนกลับไปด้วยรอยยิ้มก่อนถามเข้าเรื่อง “แม่มี

อะไรด่วนหรือเปล่า ถึงได้ยอมทิ้งร้านมาหาขิงถึงบนห้องได้”

คุณแม่นิล หรือนิลยานิ่วหน้า ท่าทางลังเลราวกับมีเรื่องลับลมคมใน

ที่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะพูดหรือไม่พูดดี แต่สุดท้ายก็โพล่งออกมาหลังจาก

ก้าวเข้ามาภายในห้องแล้วทรุดตัวนั่งลงบนเตียงนอน ที่มีสภาพยับเยินไม่ต่างอะไรกับเจ้าของ

“พ่อของขิงมาที่ร้าน แม่เลยหลบเข้ามาหาขิงนี่ละ”

“พ่อ...” ชนิภาครางออกมาเบาๆ ก่อนเอ่ยอีกว่า “สงสัยปีนี้น้ำจะท่วมหนัก”

“นั่นสิ ร้อยวันพันปีไม่เคยโผล่หน้ามาให้เห็น หรือว่าตอนนี้พ่อขิงเขา

จะรู้ว่าตัวเองมีลูกสาวเป็นนักเขียนชื่อดัง”

“พ่อเขาจะรู้หรือไม่รู้ก็ไม่มีผลอะไรกับขิง ว่าแต่แม่เถอะ ชิ่งมาแบบนี้

ไม่กลัวเขาตามเข้ามาในบ้านหรือไง”

“เขาคงไม่กล้าตามเข้ามาหรอก เมียเขามาด้วย”

“ความจริงแม่ไม่เห็นต้องหลบหน้าพ่อเลยนี่นา ในเมื่อเรากับเขาไม่มี

อะไรเกี่ยวข้องกันแล้ว” ชนิภาพูดพลางยิ้มกลบเกลื่อนความรู้สึกที่เกิดขึ้นกลางใจ

ความรู้สึกที่เจ้าตัวอธิบายไม่ถูกว่าเป็นอย่างไรกันแน่

อาจเป็นเพราะชนิภายังคงจดจำภาพเหตุการณ์วันที่พ่อก้าวออกไปจาก

บ้านหลังที่เคยอบอวลด้วยความรักความเข้าใจ เพื่อไปใช้ชีวิตกับผู้หญิงที่

สาวกว่า มีฐานะดีกว่าคู่ชีวิต ที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมายาวนานได้เป็นอย่างดี

วันที่พ่อกับแม่ไปจดทะเบียนหย่า เป็นวันเดียวกับที่ชนิภาก้าวเข้าสู่รั้ว

มหาวิทยาลัยของรัฐในฐานะน้องใหม่คณะอักษรศาสตร์ วันที่เธอควรมีความ

สุขกับความสำเร็จที่ได้รับ แต่ทว่าหัวใจดวงน้อยกลับเต็มไปด้วยความทุกข์

และหยดน้ำตาที่ไหลรินท่วมใจ

นับจากวันนั้น ชีวิตของชนิภาก็มีเพียงแม่กับน้าสาว ซึ่งถือเป็นคนใน

ครอบครัวที่พร้อมจะร่วมทุกข์ร่วมสุข ก้าวเดินไปด้วยกัน โดยไม่จำเป็น

ต้องอาศัยผู้ชายหน้าไหนมาทำหน้าที่ปกป้องดูแลให้เสียเวลาเสียความรู้สึกอีกต่อไป

“แม่วางหน้าไม่ถูก ไม่รู้สิ แม่อาจจะคิดมากไปเอง” เจ้าของใบหน้า

อ่อนกว่าวัยบอกพร้อมกับถอนหายใจหนักหน่วง

“แม่ยังไม่ลืมพ่อใช่ไหม” ชนิภาถามพลางประสานสายตาผู้หญิงแกร่ง

ตรงหน้าเพื่อจับความรู้สึก

“จะเจ็ดปีแล้วนะขิง”

“แม่ตอบไม่ตรงคำถาม”

“คือแม่...”

“บอกขิงมาเถอะน่า รับรองขิงจะเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ” หญิงสาว

บอกพร้อมกับเดินเข้ามานั่งเคียงข้างมารดา

“เวลาที่แม่เห็นหน้าพ่อของขิง แม่รู้สึกเหมือนมีใครเอามีดมากรีดซ้ำ

ตรงรอยแผลเป็น ที่เราพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้ร่องรอยมันจางลง”

“แม่...” ชนิภาคราง ก่อนเอื้อมไปจับมือมารดาแล้วบีบเบาๆ

“แม่อ่อนแอมากใช่ไหมขิง”

“แม่ไม่ได้อ่อนแอหรอกค่ะ เพราะถ้าแม่อ่อนแอ ขิงคงไม่มีวันนี้ ขิงได้

รับการถ่ายทอดพันธุกรรมหญิงเหล็กมาจากแม่นะคะ”

คำพูดเปรียบเปรยของชนิภาสามารถเรียกรอยยิ้มจางๆ จากริมฝีปาก

บางที่แต่งแต้มด้วยลิปสติกสีชมพูหวาน แต่สีหน้าท่าทางยังคงเจือด้วยความหม่นหมอง หญิงสาวจึงเอ่ยย้ำอีกว่า

“แม่อย่าคิดอะไรมากเลยนะคะ พ่อเขาอาจไม่ได้ตั้งใจมาให้เราเห็น

หน้าก็ได้ ร้านต้นไม้แถวนี้มีตั้งหลายร้าน อีกอย่าง บ้านเราก็เปลี่ยนแปลงไป

ตั้งเยอะ พ่อคงจำไม่ได้แล้ว”

“นั่นสินะ ร้านต้นไม้ของเราทั้งขยายทั้งปรับปรุงตั้งหลายครั้ง บ้านก็

ต่อเติมจนแทบไม่เหลือเค้าเดิม พ่อเขาคงจำไม่ได้อย่างที่ขิงว่าจริงๆ นั่นละ”

นิลยาบอกพร้อมกับเปิดยิ้มกว้าง

เมื่อเห็นผู้ให้กำเนิดสบายอกสบายใจกลับมาเป็นคุณแม่นิลคนเดิม

ความง่วงเหงาก็กลับเข้ามาจู่โจมชนิภาอีกครั้ง จนต้องยกมือขึ้นปิดปากหาว

“ง่วงก็นอนเถอะลูก แม่ไม่กวนขิงแล้วละ”

“แม่จะออกไปที่ร้านเลยหรือคะ”

“แม่คงไม่ออกไปแล้วละ อยู่ทำกับข้าวไว้ให้ขิงกินดีกว่า ถ้าอารีรับมือ

ไม่ไหวคงให้เด็กที่ร้านวิ่งมาตามเองแหละ”

“งั้นขิงขอนอนก่อนนะคะแม่ ง่วงจนเบลอไปหมดแล้ว”

ชนิภาพูดจบก็ล้มตัวลงนอนบนเตียง หลับตาลงแทบจะทันทีที่ศีรษะ

สัมผัสกับหมอนเนื้อนุ่ม เปิดโอกาสให้ผู้หญิงที่เธอรักมากที่สุดในโลกโน้มตัว

ลงมาหอมแก้ม ดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดหน้าอก พร้อมกับบ่นเรื่องที่หญิงสาว

ทำงานหนักเกินเหตุเหมือนเช่นทุกครั้งเวลาที่เร่งปิดต้นฉบับ แต่ไม่ว่าจะ

อย่างไร คำพูดแสดงถึงความห่วงใยที่แว่วผ่านเข้ามาในโสตประสาทเวลานี้

เปรียบเสมือนเสียงเพลงขับกล่อมให้เธอนอนหลับฝันดี เพื่อจะได้ตื่นขึ้นมา

เผชิญหน้ากับทุกเรื่องราวในโลกแห่งความเป็นจริง

 

โทรศัพท์มือถือส่งเสียงเรียกเข้าดังต่อเนื่องหลายครั้ง ส่งผลให้เจ้าของ

เครื่องมือสื่อสารที่วางทิ้งไว้บนโต๊ะทำงานต้องยกหมอนขึ้นมาปิดหน้าปิดหู

เพื่อจะได้รอดพ้นจากเสียงรบกวนนั้น

แต่ดูเหมือนคนที่โทร. เข้ามาจะไม่ละความพยายาม เพราะหลังจาก

 

ภายในห้องกลับสู่ความสงบได้เพียงไม่ถึงสองนาที ท่วงทำนองเพลงใน

จังหวะสนุกสนานก็ดังขึ้นอีกครั้ง และครั้งนี้หญิงสาวสปริงตัวลุกขึ้นอย่าง

รวดเร็ว ตัดใจคว้าโทรศัพท์มากดรับสายโดยไม่สนใจว่าใครเป็นคนโทร. เข้ามา

“ฮาโหล...” ชนิภาลากเสียงพร้อมกับอ้าปากหาว

“น้องขิงยังไม่ตื่นหรือคะ ถ้าอย่างนั้นพี่ตาร์วางสายก่อนนะคะ”

สุ้มเสียงของกีตาร์ เลขาฯ ผู้จัดละครคนดังเต็มไปด้วยความเกรงใจ

สงสัยคงได้ยินเสียงหาวหวอดใหญ่ที่ชนิภาจงใจแสดงให้คนที่โทร. มาปลุกเธอได้รับรู้

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะพี่ตาร์ ขิงตื่นแล้ว”

“พี่เกรงใจจังเลยค่ะ แต่คุณมนต์น่ะสิคะ เร่งเช้าเร่งเย็นให้พี่โทร.หาน้องขิง”

“คุณมนต์ให้ทวงเรื่องสลักรักหรือเปล่าคะ”

“นั่นก็ด้วยค่ะ แต่คุณมนต์ย้ำให้พี่โทร. บอกน้องขิงว่าตอนนี้ช่องอนุมัติแล้ว”

“อนุมัติแล้ว” ชนิภาทวนคำด้วยความยินดี

“ไม่ใช่แค่อนุมัติอย่างเดียว ตอนนี้วางตัวนักแสดงนำมาเรียบร้อยแล้วนะคะ”

“พี่ตาร์เลยมาเร่งเอาต้นฉบับจากขิงใช่ไหมคะ”

“เป็นคำตอบที่...ถูกต้องที่สุดในโลกเลยค่าน้องขิง” กีตาร์บอกพลาง

ส่งเสียงหัวเราะเริงร่าราวกับกำลังทำหน้าที่พิธีกรรายการเกมโชว์

นักเขียนสาวลอบถอนใจ ไม่เห็นต้องเดาให้ยาก ต้นเหตุที่ทำให้เธอ

ต้องอดหลับอดนอนเพราะเจ้าของค่ายละครนามว่ามนต์ชิตานี่ละ ที่โทรศัพท์

มาหาเธอวันละหลายครั้งหลายหน นับตั้งแต่ได้เรื่องย่อนิยายเรื่อง สลักรัก

กามเทพ ไปอ่าน ไม่ทันข้ามวัน ผู้จัดสาวไฟแรงก็รีบโทร. มาจับจองเป็น

เจ้าของลิขสิทธิ์ ทั้งที่นิยายเพิ่งจะเขียนได้เพียงสามสี่ตอนเท่านั้น

‘คุณมนต์ไม่รอให้ช่องอนุมัติก่อนหรือคะ’ ครั้งนั้นชนิภาเปิดโอกาส

เพราะไม่ต้องการให้เจ้าของค่ายต้องเสียเงินมัดจำบทประพันธ์ของเธอฟรีๆ

‘ขืนทำแบบนั้น มนต์ก็ถูกผู้จัดรายอื่นปาดหน้านิยายดีๆ ไปสิคะคุณขิง’

‘แต่ขิงเพิ่งเขียนได้สามสี่ตอนเองนะคะ’

‘จะกี่ตอนก็ช่างเถอะค่ะ เพราะมนต์เชื่อว่า ถ้าใครมาเห็นเรื่องนี้ของ

คุณขิง เขาก็ต้องทำแบบมนต์ทั้งนั้นละ โชคดีนะคะที่กีตาร์สนิทสนมกับคุณ

ขิง ไม่อย่างนั้นเรื่องนี้ต้องหลุดมือมนต์ไปอีกแน่ๆ’

‘ขอบคุณมากนะคะคุณมนต์ที่เชื่อมือขิง แต่...’

‘คุณขิงมีปัญหาอะไรหรือเปล่าคะ ถ้ามีอะไรบอกมนต์ได้เลยนะคะไม่ต้องเกรงใจ’

‘คือ...ช่วงที่ขิงเขียนนิยาย ขิงคงไม่มีเวลารับโทรศัพท์คุณมนต์นะคะ’

หญิงสาวพยายามบอกอ้อมๆ แต่คนฟังรับรู้ได้รวดเร็วโดยไม่ต้องเสียเวลาอธิบายให้ยืดยาว

‘ถ้าอย่างนั้นมนต์ไม่รบกวนคุณขิงแล้วนะคะ ว่าแต่คุณขิงต้องใช้เวลา

นานแค่ไหนคะ ต้นฉบับถึงจะเสร็จเรียบร้อย’

‘ขิงขอไม่ระบุเวลาได้ไหมคะ แต่ขิงสัญญาว่าจะเร่งปั่นต้นฉบับให้เร็ว

ที่สุด เพราะทางสำนักพิมพ์เขาก็รอจะพิมพ์เหมือนกัน เขาอยากขายนิยาย

ก่อนละครออนแอร์น่ะค่ะ’

เจ้าของนามปากกา ‘นิลน้ำค้าง’ จำได้ว่า หลังจากนั้นมนต์ชิตาไม่ได้

โทร.มาหาเธอ แต่ยืมมือลูกน้องให้คอยตามจิกติดตามงานจากเธอแทน

เวลานี้ไม่รู้ว่าเธอควรดีใจหรือเสียใจที่งานของเธอเป็นที่ต้องการของตลาด

แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ชนิภาย้ำกับตัวเองเสมอว่า ผู้จัดละคร ผู้สร้าง

ภาพยนตร์ รวมถึงสำนักพิมพ์ที่รับงานเขียนของเธอไปพิมพ์ ถือเป็นผู้มี

พระคุณที่ทำให้เธอก้าวเดินบนถนนสายวรรณกรรมได้อย่างมั่นคง และมี

                            (โปรดติดตามต่อในฉบับเต็ม)

รายละเอียด

กานต์ขับรถชนท้ายรถกระบะบุโรทั่งคันหนึ่ง ทว่าเขากลับกล่าวหาชนิภาซึ่งเป็นผู้ขับรถคันนั้นว่าเป็นพวกสิบแปดมงกุฎ หลอกให้ชนท้ายแล้วเรียกค่าเสียหาย 
ความแค้นฝังใจที่ถูกเขาปาเงินใส่หน้าพร้อมกับคำสบประมาทหยาบคายทำให้เธอเก็บเงินทุกบาททุกสตางค์ของเขาเอาไว้เพื่อรอวันส่งมันคืนด้วยวิธีเดียวกัน
และเมื่อชายหนุ่มได้พบกับนักเขียนสาวเจ้าของบทประพันธ์ที่เขารับบทพระเอก เขาก็เข้าใจ ณ วินาทีนั้นเองว่าเหตุใดจึงรู้สึกว่าเธอไม่ชอบขี้หน้าเมื่อถูกปาเงินใส่ 
เรื่องราวควรจะจบนับจากวันที่เธอได้ชำระแค้น ทว่าเหตุการณ์เรืออัปปางกลับซ้ำเติมให้เรื่องของสองหนุ่มสาวชุลมุนไปกันใหญ่ 
เขาฟื้นขึ้นมาในร่างเธอ 
เธอก็ฟื้นขึ้นมาในร่างเขา 
กว่าจะรู้ตัวว่าเป็นฝีมือของกามเทพ เรื่องราวก็เลยเถิดจนรอยรักสลักลึกลงกลางใจ

รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (96 รายการ)

www.batorastore.com © 2024