แปรใจมาใส่รัก (ริญจน์ธร)

แปรใจมาใส่รัก (ริญจน์ธร)

1 รีวิว  1 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786165001625
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 250.00 บาท 62.50 บาท
ประหยัด: 187.50 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

 

 

“แต่งงาน ไม่ละ ผมยังไม่เคยคิดไปไกลถึงเรื่องนั้นสักหน่อย” ภูมิ-

นันท์บอกด้วยนํ้าเสียงห้วนจัด

จู่ๆ บ่ายวันนี้ชายหนุ่มก็ถูกแฟนสาวคนล่าสุดโทรศัพท์เรียกตัวออกมา

ยังดีที่เขาไม่มีชั่วโมงสอนนักศึกษา ภูมินันท์จึงขับรถมาหาเธอได้ตามนัด แต่การ เดตที่เคยคิดว่าจะสร้างความสบายใจให้แก่เขา กลับกลายเป็นความทุกข์ใจแกม หงุดหงิด เมื่ออีกฝ่ายเปรยเรื่องการแต่งงานขึ้นมา

“แต่เราก็คบกันมาได้พักหนึ่งแล้วนะคะภูมิ ใครๆ ก็รู้ว่าเราเป็นแฟนกัน คุณจะให้ฉันคอยตอบคำถามนักข่าวอีกเท่าไหร่ คุณไม่ได้รักฉันแล้วเหรอ”

เอมิกาทอดเสียงอ่อนถาม

เพราะอาชีพนักแสดง แม้จะไม่ใช่คนเด่นด้งในวงการบันเทิงนัก แต่เอมิกา ก็ยังเป็นที่จับตามองของบรรดาสื่อมวลชนทั้งหลาย โดยเฉพาะในเรื่องส่วนตัว อย่างความรักของเธอกับบุตรชายคนสุดท้องแห่งภพนิพิฐ ซึ่งถือเป็นเรื่อง

ที่ใครต่อใครให้ความสนใจ หลายครั้งเมื่อไปงานเลี้ยงแล้วต้องเผชิญหน้ากับ กองทัพนักข่าว หญิงสาวมักได้ยินคำถามเดิมๆ ซ้ำๆ เกี่ยวกับเรื่องสถานะของ ตนเองกับตระกูลภพนิพิฐ เธอรู้ ไม่ใช่เพราะตัวเธอเองหรอกที่เด่นดัง แต่เป็น

 

เพราะชื่อ ‘ภพนิพิฐ’ ต่างหากที่สื่อมวลชนทั้งหลายให้ความสนใจ

“ก็...รัก” ภูมินันท์บอกด้วยอาการถนอมเสียง

หนุ่มเพลย์บอยอย่างเขา บางทีก็เป็นเรื่องง่ายกับการเอ่ยปากบอกรักใคร สักคน ทว่าพอมองลึกลงไปในหัวใจ ภูมินันท์ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าความรู้สึก

ในหัวใจของเขาที่มีต่อแฟนสาวคนล่าสุดคืออะไร ใช่ความรักจริงอย่างคนหลายคู่ รู้สึกต่อกันหรือไม่

‘เออ...ไม่เคยมีความรักให้มันรู้ไป แล้วจะคอยดูวันที่นายหลงสาวจน

โงหัวไม่ขึ้นบ้าง’

ภูมินันท์นึกย้อนถึงคำปรามาสของภรภัทรผู้เป็นพี่ชายเมื่อสามปีก่อน

เมื่อเขาเคยบ่นแกมสงสัยเรื่องพี่ชายออกจะรักและหวงทิพรดาจนเกินหน้าเกินตา แต่สามปีผ่านมาแล้ว ความรักของพี่ชายและพี่สะใภ้ก็ยังคงหวานซึ้งไม่ต่างจาก ยามแรกรัก เช่นเดียวกับตัวเขา ยังไม่เคยเป็นอย่างคำปรามาสของพี่ชาย ภูมิ- นันท์ไม่เคยหลงสาวคนไหนจนโงหัวไม่ขึ้นมาก่อน ไม่เคยหึงหวง หรือนึกอยาก

เป็นเจ้าของใครจนออกนอกหน้า แม้แต่กับหญิงสาวที่เขาเพิ่งเอ่ยปากบอกรักไป

“งั้นก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร'นี่ ภูมิคะ คุณน่ะขึ้นเลขสามแล้ว ไม่คิดถึงเรื่อง แต่งงาน มิครอบครัวสักทีเหรอคะ”

“ไม่ละเอมมี่ ผมยังไม่เคยคิดว่าความสัมพันธ์ของเราจะไปไกลขนาดนั้น เราเพิ่งลองคบหากันมาได้ไม่นาน คบกันแบบนี้ก็มีความสุขดี ผมยังไม่เคยคิด อยากหาห่วงมาคล้องคอ” ชายหนุ่มบอกด้วยน้ำเสียงไม่อนาทรร้อนใจเลยสักนิด

ท่าทางนิ่งๆ สบายๆ บ่งบอกชัดถึงความหมายในคำตอบ เป็นสัญญาณ ช่วยเร่งการตัดสินใจของหญิงสาวตรงหน้าได้เป็นอย่างดี

“ถ้างั้นคุณก็ไปหาแฟนคนใหม่เถอะ ลาก่อนผู้ชายเฮงซวย” เอมิกาบอก ด้วยน้ำเสียงกระแทกกระนั้น

นี่เลยกลายเป็นอีกหนึ่งครั้งที่ความสัมพันธ์ของเขากับแฟนสาวต้อง

มีอันจบด้วยระยะเวลาไม่ถึงครึ่งปี ภูมินันทิมองตามร่างระหงซึ่งเดินออกจาก

ร้านไปด้วยแววตาไม่ทุกข์ร้อน ด้วยประสบการณ์ผ่านหญิงสาวมามาก ใช่ว่าเขา จะไม่รู้ว่าเอมิกากำลังต้องการสิ่งใด หญิงสาวคงต้องการให้เขาวิ่งตามไปงอนง้อ บอกกับเธอว่าความสัมพันธ์ของพวกเขายังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง และเขาก็ต้อง มีข้อแก้ตัวดีๆ สำหรับการไม่พร้อมแต่งงานในครั้งนี้

แต่ผู้ชายคนนั้นย่อมไม่ใช่ภูมินันท์ เพลย์บอยหนุ่มอย่างเขาไม่เคยคิด

งอนง้อสาวคนไหนมาก่อน ดังนั้นชายหนุ่มจึงแทบไม่สนใจเหลียวกลับไปมอง

ร่างระหงซึ่งหยุดลังเล หันกลับมาหาเขาอยู่หลายครั้ง ภูมินันท์ควักเงินในกระเป๋า จ่ายเป็นค่าเครื่องดื่ม ก่อนจะเดินออกจากร้านไปในทิศทางตรงกันข้าม สร้าง ความขัดใจให้แก่คนเหลียวกลับมามองยิ่งนัก

“ผู้ชายเฮงซวย คิดหรือว่าฉันจะง้อนาย หนุ่มหล่อๆ รวยๆ ยังมีอีก

ตั้งมากมายให้เลือก” เอมิกาบอกด้วยน้ำเสียงเคืองแค้น ตัดสินใจเดินหน้าต่อไป โดยไม่สนใจคนข้างหลังอีก

 

เพราะเดตล่มลงก่อนเวลา ภูมินันท์เลยตัดสินใจกลับบ้านทั้งๆ ที่

พระอาทิตย์ยังไม่ตกดิน ชายหนุ่มเดินเข้ามาในบ้านหลังใหญ่ของภพนิพิฐ ซึ่ง ตอนนี้กลายเป็นบ้านของครอบครัวภรภัทรและมารดาเขาไป ส่วนตัวเขากับ

ภภีมต่างมีบ้านเป็นของตัวเองอยู่กัดไปด้านข้างคฤหาสน์หลังใหญ่

“ตายแล้วตาภูมิ วันนี้ฝนจะตกรึเปล่า ถึงได้กลับบ้านเร็ว” คุณสุปวีณ์ร้อง ทักขึ้นทันทีเมื่อเห็นหน้าลูกชายคนเล็กตอนพระอาทิตย์ยังไม่ตกดิน

“โธ่ แม่ ล้อผมเล่นอีกแล้ว” ชายหนุ่มครางเลียงอ่อย เนื่องจากมารดามัก ชอบหยอกเย้าเขาเช่นนี้เสมอเวลาโผล่หน้ามาให้เห็นก่อนเวลา

“วันนี้ไม่มีสอนเหรอ” มารดามองหน้าบุตรชายซึ่งทรุดตัวลงนั่งบนโซฟา ด้วยอาการประจบประแจง

สองแขนกำยำโอบร่างท้วมของผู้เป็นมารดาเข้าไปกอด “ไม่มีครับ จริงๆ ตอนแรกมีเดต แต่เดตดันล่มเสียก่อน”

“อ้าว ทำไมล่ะ” คุณสุปวีณ์เลิกคิ้วถามด้วยความสงสัย และยิ่งสงสัยหนัก ขึ้นเมื่อลีหน้าของบุตรชายคนเล็กดูไม่เดือดร้อนกับค่าพูดที่เอ่ยออกมาเลยสักนิด “ก็เดตผมกลายเป็นการบอกเลิกกันไป มันก็เลยล่มไม่เป็นท่าเท่านั้นเอง ครับ ไม่มีอะไรสำคัญหรอก” ภูมิน้นท์เล่าเรื่องราวคร่าวๆ ของตัวเองกับแฟนสาว คนล่าสุดให้คุณสุปวีณ์ฟัง

แต่ท่าทางไม่เป็นเดือดเป็นร้อนของลูกชายกลับสร้างความหนักใจให้แก่

 

ผู้เป็นแม่

“จะว่าไปแม่ยังไม่เคยเห็นหน้าแฟนของภูมิเลย เห็นก็แค่ข่าวตามหน้า หนังสือพิมพ์ แฟนคนนี้ได้ข่าวว่าเป็นดาราด้วยไม่ใช่เหรอ แล้วนี่อะไรกัน กำลัง

จะถามอยู่เชียวว่าเมื่อไรจะพามาบ้าน ไม่ทันไรก็เลิกรากันเสียแล้ว ตกลงภูมิรัก ผู้หญิงคนนี้รึเปล่า” ผู้เป็นแม่บ่น

“ก็...'รักมั้งค'รับ”

น้ำเสียงไม่แน่ใจของคนเป็นลูกชาย ทำให้คุณสุปวีณ์อดชักไซ้ไม่ได้

“แต่ภูมิก็ไม่ได้อยากใช้ชีวิตอยู่กับเธอ ไม่ได้คาดหวังไปถึงอนาคตว่าอยาก มีเธอคนนี้อยู่ด้วย”

“ครับแม่ ผมไม่เคยคิดหวังไปไกลขนาดนั้น”

“ถ้างั้นภูมิก็ไม่ได้รักผู้หญิงคนนี้หรอก อาจเป็นแค่ความชอบหรือความ

พึงใจ เพราะดูภูมิไม่เสียใจเลยนี่นาเรื่องต้องเลิกกัน” คุณสุปวีณให้เหตุผล

ความจริงมารดาของชายหนุ่มไม่เคยนึกรังเกียจหรือคิดตั้งแง่กับบรรดา ว่าที่สะใภ้ทั้งหลาย เธอขอแค่ผู้หญิงคนนั้นเป็นคนดี รักและจริงใจกับบุตรชาย

ของเธอเพียงเท่านั้น แต่ดูเหมือนคนที่ออกจะเรื่องมากในการเสือกคู่ครองกลับ กลายเป็นบุตรชายทั้งสามของเธอไปเสียมากกว่า ยังดีที่ภรภัทร บุตรชายคนโต เป็นฝั่งเป็นฝาไปเรียบร้อย แถมยังเลือกสะใภ้ได้ถูกใจ มีหลานสาวหน้าตาน่ารัก มาให้คนเป็นย่าชื่นชม ชีวิตช่วงสองสามปีหลังของคุณสุปวีณ์เลยแช่มชื่นขึ้น

ตอนนี้เธอก็ได้แต่หวังว่าบุตรชายอีกสองคนจะเริ่มต้นมองหาสะใภ้ให้เธอได้เสียที

 “อาจจะเป็นอย่างที่แม่ว่าก็ได้มั้ง” ภูมินันท์บอกด้วยท่าทีใช่ว่าจะสนใจนัก

 “เฮ้อ แล้วแบบนี้เมื่อไหร่แม่จะได้ลูกสะใภ้ล่ะ”

“แม่ก็มี,ทอฟฟี่อยู่คนแล้ว'ไง หรือไม่ก็ไปรอจากพี่ภีมละกัน ส่วนผมยัง

ไม่อยากหาห่วงมาคล้องคอ” ภูมินันท์เอ่ยชื่อพี่สะใภ้คนโตของภพนิพิฐและพี่ชาย คนรองของเขา ซึ่งปัจจุบันก็ยังเป็นโสด

“แม่ก็หวังทั้งของภูมิและภีมนั่นแหละ พ่อคนโน้นก็ยังไม่มีวี่แววเลย วันๆ เอาแต่ขลุกอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ในคอนโดฯ บ้านช่องก็ไม่รู้จักกลับ” คุณ

สุปวีณ์ได้ทีบ่นถึงลูกชายคนรองที่ไม่ค่อยกลับมานอนค้างบ้านของตัวเองเท่าไร เนื่องจากภภีมตัดสินใจชื้อคอนโดมิเนียมห้องหนึ่งไร้กลางเมือง “ภูมินั่นแหละ

หามาให้แม่สักคนสิ จะได้เลิกเป็นพ่อพวงมาลัยลอยไปลอยมาแบบนี้สักที” เธอ หันกลับมาซักไซ้ลูกชายคนเล็กต่อ

“คงยากครับแม่ ผมยังไม่เคยเจอใครถูกใจขนาดอยากทิ้งชีวิตโสดแสน สบายแบบนี้ลงเลย แถมแฟนผมแต่ละคนก็...ไม่รู้สิครับ ผมว่าพวกเธอแต่ละคน หลงแต่หน้าตาแล้วก็ฐานะของพวกเรา” ภูมินันท์สารภาพ

“ภูมิเองก็หลงหน้าตาของพวกเธอเหมือนกันนั่นแหละ แม่ว่าถ้าภูมิลอง เปลี่ยนสเปกแฟนตัวเองดู บางทีภูมิอาจจะเจอคนที่ใช่บ้างก็ได้” คุณสุปวีณได้ที เลยอดสั่งสอนบุตรชายไม่ได้

“คงอีกนานครับ แล้วตอนนี้ผมเองก็ชักเริ่มเข็ดๆ เรื่องผู้หญิงแล้วสิ

ขออยู่คนเดียวก่อนดีกว่า” ชายหนุ่มบอก ทิ้งกายลงนอนบนโซฟาอย่างไม่คิด เกรงใจใคร

“อ้าว มานอนตรงนี้ได้ไง เดี๋ยวเพื่อนแม่จะมา ลุกเดี๋ยวนี้เลย” คุณสุปวีณ์ เอ็ดอย่างไม่จริงจังนัก

“ใครมาเหรอครับ”

“มณีจ้ะ” คุณสุปวีณ์เอ่ยถึงเกศมณี เพื่อนรักรุ่นน้องตั้งแต่สมัยยังเรียน หนังสืออยู่ด้วยกัน “นี่ภูมิรู้รึเปล่าว่าหนูกิ๊ปหายตัวไปเกือบสามเดือนแล้ว”

คำพูดของมารดาทำให้ร่างสูงลุกขึ้นมานั่งด้วยควาสนใจ “กิ๊ปน่ะเหรอ เกิดอะไรขึ้นครับแม่”

“ยังไม่มีใครรู้เลยว่าเรื่องมันเกิดขึ้นได้ยังไง หลายรันก่อนเกิดเรื่อง น้อง

เขาไม่ได้ออกไปทำงาน ขลุกอยู่แต่ในบ้าน จนกระทั่งรันที่มณีออกไปทำธุระ

นอกบ้านพอกสับมาก็ไม่เจอแก

แล้ว ข้าวของต่างๆ ภายในบ้านก็หายไปหลายอย่าง บ้านมีร่องรอยการถูกงัดแงะ น้องกิ๊ปเองก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย พออาทิตย์

กัดมาตำรวจก็พบรถของน้องจมอยู่กลางบึงในซอยเปลี่ยว ตำรวจก็ยังไม่พบศพ

แต่ก็สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นการฆาตกรรม”

คำตอบและสีหน้าหนักใจของคุณสุปวีณ์ ทำให้ภูมินันท์หวนนึกถึงหญิง สาวผู้เคราะห์ร้าย กษมา หรือกิ๊ป เป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของเกศมณี ซึ่งเป็น เพื่อนรักกับคุณสุปวีณ์ ตอนหญิงสาวเรียนจบปริญญาโทจากอังกฤษใหม่ๆ เมื่อ สามปีก่อน คุณสุปวีณ์เองเปรยๆ อยากได้กษมามาเป็นลูกสะใภ้ให้แก่ภรภัทร แต่พี่ชายของเขาก็ได้พบรักแท้กับทิพรดาเสียก่อน เรื่องคิดจะจับคู่ให้ลูกแต่งงาน กันเลยเป็นอันพับไป

ภูมินันท์เคยมีโอกาสพบกษมาอยู่หลายครั้ง แต่ด้วยบุคลิกสาวมั่น ไม่เคยหวั่นเกรงใครหน้าไหนแม้แต่ชายหนุ่มอย่างเขา ทำให้ภูมินันท์ออกจะ ไม่ค่อยชอบขี้หน้าผู้หญิงอย่างกษมาเท่าไรนัก

แน่ละ ถึงจะสวย แต่หยิ่งขนาดนั้น ใครจะไปชอบลง...

“แต่นี่มันก็สามเดือนแล้วนะครับ ตำรวจทำงานประสาอะไร ทำไมถึงยัง ไม่ได้ข่าวน้องอีก”

“เขาก็คงพยายามเต็มที่แล้ว มณีเองก็เริ่มทำใจว่าน้องอาจจะไปสบาย แล้ว” คุณสุปวีณ์พูดด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อย เต็มไปด้วยความสงสารในชะตา กรรมของเพื่อนรัก

เกศมณีสูญเสียสามีผู้เป็นที่รักไปแล้วครั้งหนึ่ง แต่ตอนนั้นเธอก็ยังมี

ลูกสาวไร้คอยเป็นกำลังใจให้ยืนหยัดต่อสู้ต่อไป ทว่าชะตากรรมก็ยังคงเล่นตลก กับผู้หญิงคนนี้ เมื่อเธอต้องมาสูญเสียลูกสาวไปอีก

“น่าสงสารน้ามณีนะครับ ว่าแต่แม่กับน้ามณีไม่ออกไปไหนกันเหรอ เย็นนี้ ผมว่าง เดี๋ยวเป็นสารถีให้เองก็ได้”

“จริงรึเปล่า แม่ว่าจะชวนมณีไปชื้อของทำสังฆทานเสียหน่อย ถ้าได้หนุ่มๆ อย่างเราไปช่วยแบกของด้วยก็ดี”

สามเดือนถัดมา...

“มาเร็วเชียวหนูนัส ร้านของน้ายังไม่เปิดเลย” ชุลิตาผู้เป็นเจ้าของร้าน อาหารที่มนัสกรณีมารับจ้างเป็นแม่ครัวให้เอ่ยทักทันทีเมื่อร่างสูงโปร่งของ หญิงสาวก้าวเช้ามาในร้าน

“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวนัสช่วย” มนัสกรณีขยับตัวเช้ามาช่วยอย่างไม่คิด

เกี่ยงงอน

“ขอบใจจ้ะ ว่าแต่ทำไมหน้าตาดูซึมๆ จัง เมื่อคืนนอนไม่หลับรึเปล่า”

“ค่ะ ฝันไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แตกเล่นเอาหลับตาไม่ลงเลย” หญิงสาวพึมพำ เสียงอ่อน

 

หลายเดือนมานี้มนัสภรณ์ยังคงฝันซ้ำๆ กันเรื่อยมาถึงภาพของตัวเธอ กำลังถูกใครบางคนวิ่งไล่กลางถนนเปลี่ยว แต่ไม่ว่าเธอจะคิดทบทวนอย่างไร สุดท้ายสิ่งเดียวที่หลงเหลืออยู่ในความทรงจำก็ดือภาพฝันร้ายเพียงเท่านั้น

“อย่าคิดมาก อดีตของหนูนัสอาจไม่น่ารื่นรมย์เท่าไหร่นัก หนูก็เลย ไม่อยากจำมัน น้าว่าหนูนัสมีชีวิตอยู่กับปัจจุบันดีกว่า มองในแง่ดี วันนี้หนูยังมี

ชีวิตอยู่ แม้จะจำอะไรไม่ได้ แต่น้าเชื่อว่าวันหนึ่งเมื่อถึงเวลา ความทรงจำจะกลับ มาเอง”

“ค่ะ นัสก็คิดแบบนี้ นัสว่านัสโชคดีจะตายได้มาเจอน้ากับพี่รดา นี่ถ้าเป็น คนอื่น ปานนี้นัสอาจไม่ได้มายืนอยู่ตรงนี้” มนัสภรณ์บอกด้วยความซึ้งใจ

หญิงสาวนึกอยากขอบคุณโชคชะตา แม้ในช่วงเวลาเลวร้ายที่สุดในชีวิต เธอก็ยังพบกับเรื่องราวดีๆ จากน้ำใจและมิตรภาพของเพี่อนมนุษย์ พี่รดาหรือ

ชลรดาชึ่งมนัสภรณ์นับถือไม่ต่างจากพี่สาวคนหนึ่ง ดือพยาบาลผู้คอยดูแลเธอ

ทุกอย่าง ตอนเธอต้องรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลของจังหวัด ชลรดาเล่าว่า

เมื่อหกเดือนก่อน จู่ๆ ก็มีผู้หวังดีคนหนึ่งพาเธอมาล่งโรงพยาบาลในสภาพ ร่างกายสะบักสะบอม ศีรษะมีเศษกระสุนฝังใน

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเธอก่อนจะฟื้นขึ้นมาบนเตียงคนไข้ ล้วนมาจาก

คำบอกเล่าของเหล่าแพทย์และพยาบาลทั้งหลาย เนื่องจากหญิงสาวตื่นขึ้นมา พร้อมๆ กับความว่างเปล่าในสมอง เธอจำไม่ได้ว่าตัวเองไปทำอะไรอยู่บนถนน เปลี่ยวเช่นนั้นตามลำพัง ที่สำคัญเธอจำเรื่องราวในอดีตของตัวเองไม่ได้เลย ลักนิด จำไม่ได้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ชื่ออะไร

ความทรงจำที่ถูกกลืนหายไปของหญิงสาวสร้างความแปลกใจและ หนักใจให้แก่บรรดาแพทย์ทั้งหลาย เนื่องจากทั้งตัวของหญิงสาวและบริเวณ โดยรอบที่เกิดเหตุ ไม่มีใครพบหลักฐานใดสามารถระบุตัวตนของเธอได้เสย

สองสัปดาห์หลังจากต้องทนอยู่กับความว่างเปล่าและไม่รู้อะไรเลย

หญิงสาวตัดสินใจขอร้องให้ชลรดานำตุ้มหูและแหวนเพชร ซึ่งเป็นของมีค่าสอง

สิ่งที่ยังอยู่ติดตัวเธอไปจำนำเพี่อนำมาจ่ายค่ารักษาพยาบาล และมันก็มีเหลือพอ ให้พยาบาลสาวช่วยหาห้องพักเล็กๆ ให้หญิงสาวอาศัยอยู่ในตัวจังหวัด ความ ช่วยเหลือของชลรดายังมีมาให้เธอเรื่อยๆ พยาบาลผู้นี้เป็นคนตั้งชื่อใหม่ให้เธอว่า

 

(โปรดติดตามต่อในฉบับเต็ม)

รายละเอียด

เรื่องราวของ "มนัสภรณ์" หญิงสาวผู้ไม่มีความทรงจำใดๆ เกี่ยวกับอดีตของตัวเอง นอกจากภาพฝันร้ายที่ตามมาหลอกหลอนเธอตลอด และ "กษมา" หญิงสาวที่หายตัวไปพร้อมกับปริศนา เธอไปเอง หรือถูกฆาตกรรม หนุ่มเพลย์บอยผู้ไม่เคยยอมใครอย่าง "ภูมินันท์" จำได้ว่าหญิงสาวที่เขาบังเอิญได้พบ นั่นคือ กษมา เพราะเธอเป็นผู้หญิงที่เย่อหยิ่ง ไม่เห็นหัวใครเขาจึงไม่ชอบหน้าเธอตั้งแต่เดทครั้งแรก แต่เธอกลับจดจำเขาไม่ได้เลย และบอกได้เพียงว่าตัวเองชื่อ มนัสภรณ์ เมื่อภาพเรื่องราวและความสามารถำพิเศษเหนือธรรมชาติตอกย้ำตัวตนของเธอ ภายใต้ตัวตนของกษมา คือดวงจิตของมนัสภรณ์ และเมื่อถึงเวลาที่เธอต้องคืนร่างให้เจ้าของที่แท้จริง แล้วความรักที่ก่อเกิดระหว่างเธอกับภูมินันท์ล่ะ เขารักกษมาหรือมนัสภรณ์ ถ้าร่างนี้ต้องมีแค่เพียงคนเดียว แล้วใครคือคนที่ต้องสูญเสีย..!? ขอเชิญคุณผู้อ่านมาร่วมติดตามพร้อมกันในนวนิยายโรแมนติก "แปรใจมาใส่รัก" เล่มนี้

เขียนโดย "ริญจน์ธร"

 

408 หน้า


รีวิว (1)

เขียนรีวิว

อทิตยา | 1 รีวิว
16/07/2014

แปรใจมาใส่รัก ผลงานของนักเขียนที่ใช้นามปากกาว่า ริญจน์ธรเป็นอีกเรื่องราวที่น่าติดตามเป็นอย่างมากบอกได้คำเดียวว่าอ่านไปลุ้นไปอินชนิดติดหน้าหนังสือกันเลยทีเดียว สำหรับเรื่องราวของนิยายเรื่องนี้ก็มีอยู่ว่า หญิงสาวคนนึงที่มีชื่อว่าน่า มนัสภรณ์ ที่ต้องประสบกับเหตุการณ์ที่ต้องเกือบทำให้เธอเอาชีวิตไม่รอดแต่แล้วสวรรค์ก็เข้าข้างเธอเมื่อภูมินันท์ชายหนุ่มที่ดูเหมือนจะรู้จักเธอมาก่อนและแถมแม้แต่ตัวเธอเองก็ยังรู้สึกว่าไว้ใจและเชื่อใจผู้ชายคนนี้มากๆไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกัน และแถมเค้ายังบอกว่าเธอเหมือนผู้หญิงที่ชื่อ กษมามากเสียด้วยและเค้ายังบอกว่ารู้จักเธอด้วย ซึ่งแม้แต่ตัวเธอเองก็ไม่รู้ว่าเธอเป็นใครมาจากไหน มีเพียงความฝันที่เลวร้ายที่คอยตามล่าเธอและนั้นยิ่งทำให้เธออยากที่จะตามหาครอบครัวของเธอให้พบ และภูมินันท์ก็สามารถทำให้เธอได้กลับไปอยู่ที่บ้านซึ่งในอดีตนั้นเคยเป็นของๆเธอก่อนที่ทุกๆคนในบ้านจะเชื่อว่าเธอได้ตายจากไปแล้วรวมถึงคนที่พยายามที่จะทำร้ายเธอด้วย ดังนั้นเมื่อเธอได้กลับบ้านไปพร้อมกับภูมินันท์จึงสร้างความแปลกใจให้กับทุกคนเป็นอย่างมากและยิ่งสร้างความรู้สึกดีๆให้กับเธอและเค้าเป็นอย่างยิ่งและเค้ายิ่งอยากที่จะดูแลเธอไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่เมื่อมนัสภรณ์ได้กลับสู่บ้านของเธอแต่เธอเองกลับไม่รู้สึกคุ้นเคยกับอะไรเลย เธออยากรู้ถึงเรื่องราวที่เลือนหายไปจากความทรงจำของเธอแต่ว่ามันคงเลวร้ายมากถึงขนาดทำให้เธออาจต้องเกือบจากโลกนี้ไปและในที่สุดมนัสภรณ์ก็ได้รู้ถึงในสิ่งที่เธออยากรู้มาตลอดเวลา เธอรู้ดีในตอนนั้นว่าเธอไม่มีสิทธิ์ที่จะอยู่ตรงนี้ทุกอย่างรอบตัวเธอไม่ใช่สิ่งที่เธอควรครอบครอง เธอจึงตัดสินใจที่จะคืนสิ่งเหล่านั้นและจากไป แต่พรมหมลิขิตก็ทำให้เธอต้องอยู่ในสถานะนี้ต่อไปเพื่ออยู่ค้นหาผู้ร้ายตัวจริงและอยู่เคียงข้างกับเค้าภูมินันท์ชายที่พร้อมจะดูแลและปกป้องเธอให้พ้นจากอันตรายทั้งปวง.. ~ดิฉันคิดว่าเนื้อเรื่อง แปรใจมาใส่รัก โดย ริญจน์ธร เป็นนิยายที่อ่านแล้วหน้าติดตามนะคะ มีเงื่อนงำหลายอย่างที่ทำให้อยากรู้ว่าแท้จริงแล้วมนัสภรณ์สาวน้อยที่มีหน้าตาเหมือนกับกษมา หญิงสาวที่ทุกคนที่รู้จักและคิดว่าเธอเสียชีวิตไปแล้วแต่แล้วเธอก็กลับมาเรียกได้ว่าการกลับมาของเธอในคราวนี้จะทำให้ความจริงกระจ่าง ในเรื่องของคนร้ายตัวจริงอีกว่าเป็นใครและมีจุดประสงค์อะไรถึงทำเช่นนี้ ทำให้ลุ้นว่ามนัสภรณ์จะจำตัวเธอได้ไหมและที่ลุ้นๆสุดไปก็คือความรักที่เริ่มก่อตัวขึ้นมาในใจของภูมินันท์และมนัสภรณ์ที่ความใกล้ชิดทำให้ทั้งสองได้ใช้เวลาเรียนรู้และดูแลซึ้งกันและกันและยังต้องผ่านเหตุการณ์ร้ายๆไปด้วยกันอีกด้วยเรียกได้ว่าครบทุกอารมณ์มากๆเลยล่ะค่ะ เลยยิ่งต้องแนะนำนิยายเรื่องนี้ให้กับเพื่อนๆได้รู้จักและอยากให้หามาอ่านกันให้ได้เลยค่ะ เพราะไม่ผิดหวังอีกอย่างแน่นอนเจ่เจ้คนนี้รับรองอีกแล้วววจร้า ~

สินค้าที่ใกล้เคียง (95 รายการ)

www.batorastore.com © 2024