ฟาร์มเอ๋ย . . . ฟาร์มรัก (วราลี)

ฟาร์มเอ๋ย . . . ฟาร์มรัก (วราลี)

3 รีวิว  3 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786165002134
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 250.00 บาท 62.50 บาท
ประหยัด: 187.50 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

‘นะมิน...ช่วยฉันอีกครั้งเถอะนะ ถือว่าสงสารเพื่อนตาดำๆ นะ...น้า...’

เสียงอ้อนทางโทรศัพท์จากวุ้นเมื่อสิบนาทีที่แล้ว ทำให้มินตราต้อง

บึ่งรถออกจากฟาร์มหมื่นไร่ในช่วงเวลาเย็นยํ่าซึ่งเป็นชั่วโมงยุ่งขิงของฟาร์ม

โชคดีที่มีลุงพูนคนงานเก่าแก่ช่วยดูแลงานบางอย่างได้ นี่ล้าไม่ใช่งานถ่ายแบบ

ครั้งสำคัญที่จะช่วยชี้ชะตาดีไซเนอร์เพื่อนรักว่าจะได้ร่วมงานกับห้องเสื้อ

ชื่อด้งชองประเทศหรือไม่ ยายวุ้นคงต้องรอคิวนางแบบกิตติมคักดิ์คนนี้ไปก่อนแน่นอน

เห็นว่าธีมของเสื้อผ้าคือ ‘หญิงสาวในชุดฤดูร้อน

หล่อนคิดพลางโคลงศีรษะไปด้วย...หน้าหนาวเนี่ยนะ กับธีมชุดฤดูร้อน แล้วเขาจะรับเข้าทำงานไหมเนี่ยยายวุ้น

เพื่อนคนนี้อารมณ์ศิลปินสูง หรือภาษาวัยรุ่นเรียกว่า ‘ติสต์’ นั่นเอง

เจ้าตัวจึงเลือกเรียนทางออกแบบเสื้อผ้าและสิ่งทอ

หญิงสาว'ขับกระบะคันเก่งปุเลงๆ มาเรื่อย เครื่องยนต์กระตุกบ้างเป็น

บางจังหวะ พลันคิดว่าคงถึงเวลาต้องเอา ‘คุณนายแก่’ ไปยกเครื่องที่อู่เสียที

 

หลังจากผัดผ่อนมานาน...ก็ค่าใช้จ่ายมันเยอะน่ะสิ ดูเหมือนตัวเลขในบัญชี

ของฟาร์มจะกลายเป็นกิ้งก่าเปลี่ยนสีจากดำเป็นแดงได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ

ข้าวของเครื่องใช้ที่ยังทู่ชี้ใช้ไปก่อนได้ก็คงต้องทนใช้กันไป ว่าแล้วก็นึกถึงข่าว เศรษฐีอินเดียจัดงานแต่งเป็นมหากาพย์เรื่องยาวหนึ่งเดือนเต็ม

เงินค่าเลี้ยง แขกเหรื่อสำหรับใครก็ได้ที่บังเอิญเดินผ่านมา หากคิดเป็นเงินไทยก็ตกประมาณ แปดร้อยกว่าล้านบาทเท่านั้นเอง...

หญิงสาวถอนใจเบาๆ ...

รถราเริ่มหนาตามากขึ้นเมื่อหล่อนขับผ่านป้ายบอกทางเข้าสู่เขตตัวเมือง กระบะคันเก่าค่อยๆ ชะลอความเร็วลงแบบกระตุกๆ ก่อนหยุดสนิทหน้า

สัญญาณไฟแดงในช่องเตรียมเลี้ยวขวา หล่อนเงี่ยหูฟังเสียงเครื่องยนต์อย่าง

ออกจะลุ้นอยู่ในที แล้วก็โล่งใจที่คุณนายแก่ยังไม1ทรยศดับคาลี่แยกให้ได้อาย เหมือนเมื่อสัปดาห์ก่อน

รออยู่ชั่วครู่สัญญาณไฟก็เปลี่ยนเป็นสีเชียว หล่อนใส่เกียร์ตํ่าประคอง คุณนายแก่เคลื่อนตัวช้าๆ อย่างใจจดใจจ่อ แต่แล้วก็ต้องกระทืบเท้าลงบน เบรกอย่างสุดแรงจนหัวทิ่ม เสียงรถคันหลังบีบแตรไล่กันระงม

ก็จะไม่ให้หล่อนเหยียบเบรกกะทันหันได้อย่างไรกัน ในเมื่อรถสปอร์ต

สีขาวปราดเปรียวตีคู่ขึ้นมาจากเลนซ้าย แล้วปาดหน้าเข้ามาเลนของหล่อนอย่างน่าเกลียดที่สุด

หล่อนมองหารถสปอร์ตคันต้นเหตุ เห็นท้ายรถเลี้ยวขวาอยู่ไวๆ แล้ว หายไปจากสายตาหลังจากผ่านพุ่มไม้ของเกาะกลางถนน บรรดารถด้านหลัง

ยังคงสรรเสริญกระบะเก่าๆ ด้วยการบีบแตรไล่ หล่อนบิดกุญแจรถพร้อมกับ ภาวนาให้เครื่องยนต์สตาร์ตติดอีกครั้ง...คุณนายแก่จ่า รักษาหน้ากันหน่อยเถอะนะ

ในที่สุดสวรรค์ก็เห็นใจ เมื่อเครื่องยนต์เริ่มดังกระหึ่มระคนเสียงกึกกัก

ราวกับคนแก่กำลังไอก่อนจะเคลื่อนตัวช้าๆ เลี้ยวขวาไปตามทาง เสียงแตรไล่หลังจึงค่อยๆ เบาลง

ดวงตากลมโตยามนี้ดูเหมือน ‘เหยี่ยว’ พร้อมตะครุบเหยื่อ หล่อน

หรี่ตาลงเล็กน้อยจ้องเขม็งมองหา ‘เหยื่อ’ ที่อยู่เบื้องหน้า

งานนี้ไม่มีการปล่อย'ไปเฉยๆ แน่นอน...

ถนนหนทางตามต่างจังหวัดรถรายังไม1มากนัก สายหลักก็มือยู่ไม่กี่สาย หากตามไปเรื่อยๆ อาจได้เจอคู่กรณีในอีกสองหรือสามแยกข้างหน้า

แล้วหล่อนก็คาดไม่ผิด หลังจาผ่านแยกไฟแดงแรก หล่อนก็เห็นรถ

สีขาวอยู่ไกลๆ เมื่อเพ่งมองจึงแน่ใจว่าเป็นคันเดียวกัน เพราะนานๆ ทีจะมีรถ สปอร์ตหรูมาแล่นอวดโฉมอยู่บนถนนต่างจังหวัดเช่นนี้

ริมฝีปากอวบอิ่มค่อยๆ เชิดขึ้นเล็กน้อย...

หล่อนเคลื่อนเข้ามาจอดข้างๆ เหลือบมองเข้าไปในรถ โชคดีที่ฟิล์ม

กรองแสงสีไม่เข้มนักจึงพอจะมองเห็นคนที่นั่งอยู่ด้านใน

ผู้ชายสวมแว่นดำอายุน่าจะรุ่นราวคราวเดียวกันกำลังมองตรงไปเบื้องหน้า ท่าทางโต๊ะจุ๊ยดูน่าหมั่นไล้...เหมือนจะยังไม่รู้ตัวว่าโจทก์มารอคิดบัญชีอยู่ข้างๆ แล้ว

ช่วยกันอีกลักครั้งนะคุณนายแก่ แล้วเดี๋ยวจะพาไปยกเครื่องใหม่ให้

พริ้งเลย...หญิงสาวลูบพวงมาลัยเก่าคร่ำ นึกติดสินบนรถคันเก่งของฟาร์มไปด้วย

สัญญาณไพ่ยังเป็นสีแดงอยู่ แต่หญิงสาวเข้าเกียร์หนึ่งรอท่าไว้ พอเห็น สัญญาณไพ่สีเขียวปุ๊บ หล่อนกะจังหวะให้รถหรูออกตัวก่อน แล้วจึงปล่อย

คลัตช์พร้อมทั้งเหยียบคันเร่งทันที

มือเรียวหักพวงมาลัยไปทางขวาอย่างคล่องแคล่วรวดเร็ว กะจังหวะให้ สามารถตัดหน้าคืนได้ทันด้วยฝีมือการขับรถระดับเซียน จึงไม่ใช่เรื่องยาก

ที่จะพาเจ้ากระบะมาอยู่ข้างหน้ารถคู่กรณีได้อย่างที่ใจคิด

หล่อนได้ยินเสียงล้อรถบดกับถนนดังเอี๊ยด ตามด้วยเสียงบีบแตรดัง

ระงมอย่างที่หล่อนได้รับเมื่อครู่จึงชำเลืองมองกระจกล่องหลัง เห็นรถสีขาว

จอดนั่งสนิทคร่อมเส้นกั้นถนนหลังจากเพิ่งออกตัวไปได้เพียงครึ่งคัน...

ด้านท้ายมีรถจอดตามหลังต่อกันเป็นพรวน

สมนํ้าหน้า! กรรมตามสนอง

 

เพียงไม่นานมินตราก็มาถึงยังที่นัดหมายซึ่งเป็นย่านการค้าในตัวเมือง

อาคารพาณิชย์เรียงรายกันเป็นแถว สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านค้าและ

แผงลอย ในยามตะวันโพล้เพล้ย่านนี้จะคลาคลํ่าไปด้วยผู้คนที่ออกมาจับจ่าย

ซื้อสินค้า บรรยากาศแลดูพลุกพล่านชวนให้คึกคักอยู่ในที

หล่อนเมียงมองหาช่องว่างจอดรถบริเวณลานกลางแจ้งซึ่งจัดไว้เป็น สัดส่วนให้แก่ลูกค้า ช่วงเวลาเย็นในย่านค้าชายแบบนี้มักจะหาที่จอดรถยาก

เสมอ หญิงสาวขับวนหาช่องจอดอยู่หลายรอบจนเริ่มหงุดหงิด พลันโชค

ก็เข้าข้าง เมื่อเห็นรถค้นหนึ่งกำลังถอยหลังออกจากช่องหัวมุมพอดี หญิงสาว

จึงชะลอรถเตรียมเข้าแทรกแทน

หล่อนประคองพวงมาลัยเคลื่อนตัวรถเข้าสู่ช่องจอดที่แบ่งไว้ด้วย

เส้นชาวบนพื้นคอนกรีต เครื่องยนต์ดับลงหลังจากตรวจดูระยะห่างระหว่างรถ ตัวเองกับค้นข้างๆ เป็นที่เรียบร้อย แต่ยังไม่ท้นจะเปิดประตูก้าวลงมาก็มีรถ

เข้ามาจอดปิดท้ายเสียแล้ว

รถสปอร์ตสีชาวไร้มารยาทค้นเดิมนั่นเอง...

หญิงสาวโกรธจนลมออกหูจึงผลักประตูรถออกไปค่อนข้างแรง

“นี่คุณ! จอดรถภาษาอะไรเนี่ย” หล่อนถามเสียงด้ง คิ้วเรียวขมวดจน

แทบชนกันผนวกกับน้ำเสียงเชียวเอาเรื่อง

ชายหนุ่มร่างสูงซึ่งเพิ่งก้าวออกมาจากรถเลิกคิ้วมองมายังหล่อน

“อ๋อ...พอดีไม่เคยถามรถเสียด้วยสิครับว่าพูดภาษาอะไร แต่ขอผม

จอดซื้อชองแค่แป๊บเดียวน่า เดี๋ยวก็ไปแล้ว” ชายหนุ่มบุ้ยปากไปทางร้าน

สะดวกซื้อที่อยู่ไม่ไกลเท่าไหร่แล้วก็ยิ้มกว้าง

คำตอบกวนๆ บวกกับรอยยิ้มกว้างท่าให้หญิงสาวรู้สึกไม่ชอบหน้า

ผู้ชายคนนี้ขึ้นมาตงิดๆ

 

“เมื่อกี้นายขับปาดหน้ารถฉันที่สี่แยกจนเบรกแทบไม่ทัน ถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา,นายจะทำยังไง”

“คุณก็ตามมาเอาคืนแล้วไม่ใช่เหรอครับ น่าจะหายกันแล้วนี่นา” ชายหนุ่มพูดพลางส่งยิ้มแบบเดิม แต่หญิงสาวกลับรู้สึกว่ากวนโมโหที่สุด

ดูซิ...เพิ่งจะปิดคดีไปเมื่อครู่ ผู้ต้องหาก็ย้อนรอยมาก่อคดีใหม่อีกแล้ว

มิหนำซํ้า...กับโจทก์คนเดิมเสียด้วย

“คุณนั่นแหละไร้มารยาท เล่นมาปาดหน้ารถชาวบ้านแบบนี้ ความจริง

คุณน่าจะเตรียมใจไว้บ้างนะถ้ามีใครตามมาเอาคืนน่ะ” หล่อนยังไม่ลดราวาศอก

“ขอโทษทีครับ ผมขับเพลินไปหน่อย ลืมไปว่าต้องเลี้ยวชวาตรงสี่แยก

แต่ดันอยู่เลนกลาง พอดีผมเพิ่งมาจังหวัดนี้ครั้งแรกน่ะ เลยไม่ชินถนนหนทาง”

“นึกจะเลี้ยวก็เลี้ยว รถก็ออกจะแพง แต่เล่นขับซะ ‘แล้ง’ ขนาดนี้”

หญิงสาวจงใจเน้นเสียงท้ายประโยคเป็นพิเศษ หากไม1เกรงใจอยู่บ้าง หล่อนคงพูดคำว่า ‘แล้งน้ำใจ’ ออกไปเต็มปากแล้ว

“มันเคยชินไปหน่อยน่ะครับ”

ชายหนุ่มด้อมศีรษะลงเป็นเชิงยอมรับผิด ทว่ายังคงยิ้มกว้างเช่นเดิม

จนหญิงสาวชักสงสัยว่าตกลงเขาขอโทษจากใจจริงหรือไม่

จังหวะที่ชายหนุ่มค้อมศีรษะลงนี่เอง นัยน์ตาชองเขาก็เริ่มฉายแวว

แปลกๆ ดูคล้ายกำลังสงสัยแกมขบขัน

“คุณกำลังจะไปถ่ายแบบเหรอครับ” เขาถามพลางกลั้นยิ้ม

“ใครบอกคุณว่าฉันมาถ่ายแบบ” สุ้มเสียงสะบัดพร้อมจ้องเขม็งไปยัง

ชายร่างสูงเบื้องหน้า นึกสงสัยว่าอีตาคนนี้ไปรู้มาจากไหนว่าหล่อนกำลังจะมาทำอะไร

“ผมเดาเอาน่ะ พอดีเห็นคุณใส่บูตหนังเลยคิดว่ากำลังจะไปเดินแบบ

ที่ไหน เพราะท่าทางของคุณถ้าบอกว่าใส่รองเท้าบูตทำฟาร์มทำไร่คงไม่1มี

ใครเชื่อ แต่ถ้าบอกว่าเป็นนางแบบสไตล์คาวเกิร์ลละก็ไม่1แน่”

คำตอบของชายหนุ่มตรงหน้าทำให้หญิงสาวต้องก้มหน้ามองบูตหนังครึ่งแข้งของตัวเอง

จะให้คนอย่างมินตราใส่รองเท้าบูตยางทำงานน่ะรึ...ไม่มีทาง

ปกติเวลาออกนอกฟาร์มหล่อนจะเปลี่ยนรองเท้าบูตหนังที่ใส่ทำงานมา เป็นรองเท้าคัตชูหรือรองเท้าแตะแฟชั่นแล้วแต่โอกาส ทว่าวันนี้หล่อนรีบมาก

จนลืมเปลี่ยนรองเท้าเสียก่อน

ก่อนที่หญิงสาวจะท้นพูดแก้ตัว พลันนึกขึ้นได้ว่าตอนนี้มีนัดสำคัญกับวุ้น

“ฉันจะเดินแบบหรือทำอะไรก็เรื่องของฉันเถอะ ตอนที่ฉันกลับมา

หวังว่าคงไม่เห็นรถของคุณจอดขวางรถของฉันอยู่นะ” หญิงสาวเดินออกมา

ทางด้านหลังรถผ่านหน้าเก่งคันงามของชายหนุ่ม แล้วเดินย้อนทางรถยนต์ไป

ยังกลุ่มอาคารพาณิชย์ที่มองเห็นอยู่ไม่ไกล

“ด้วยเกียรติของลูกเสือเลยครับ...คุณหนูคาวเกิร์ล”

“คุณเรียกฉันว่าอะไรนะ” หญิงสาวหันขวับกลับมาถามเสียงเขียวทันที

ชายหนุ่มตีหน้าตายกลบเกลื่อน

“เปล่าครับ ไม1มีอะไร เดี๋ยวผมซื้อของเสร็จแล้วจะเลื่อนรถออกให้นะครับ”

‘คุณหนูคาวเกิร์ล’ เดินไปไกลแล้ว ชายหนุ่มคลี่ยิ้มมองตามเหมือน

จะใช้สายตาล่งก่อนจะก้าวจากจุดเดิมไปยังร้านค้า พลันมีบางอย่างสะดุดตา

จนเขาต้องเหลียวกลับไปมองรถกระบะของคนที่เพิ่งปะทะคารมเล็กๆ เมื่อครู่

แล้วรอยยิ้มก็จางหายไป

ความฉงนฉายออกมาจากดวงตาของเขา

หญิงสาวผลักบานประตูกระจกเข้ามายังด้านในของอาคารซึ่งนัดหมาย

ไว้กับเพื่อน ขาเรียวก้าวฉับไปตามขั้นบันได เมื่อโผล่ขึ้นมาบนขั้นสองก็เห็น

วุ้นกำลังง่วนอยู่กับการเตรียมฉากหลังที่จะใช้ถ่ายแบบ

“มาแล้วเหรอจ๊ะ แม่นางแบบใหญ่ ช้าไปตั้งสิบนาทีแน่ะ”

“ขอโทษนะวุ้น พอดีฉันวนหาที่จอดรถอยู่” มินตรารีบขอโทษเพื่อนสาวทันที

“ไม่เป็นไรหรอก อีตาช่างภาพยังไม่โผล่มาเลย ฉันเสียอีกที่ต้องขอโทษ เธอ คราวนี้ก็ต้องพึ่งเธออีกแล้วละยายมิน”

วุ้นเงยหน้าขึ้นจากกองฟางที่ใช้ตกแต่งฉาก สีหน้าของมินตรายังคง

ฟ้องถึงอารมณ์ไม่ปกติจนเพื่อนสังเกตได้

“เป็นไรน่ะมิน ไปโดนใครเหยียบตาปลามาเหรอถึงได้ทำหน้านิ่วแบบนี้” วุ้นถามสัพยอกเป็นเชิงหยั่ง

“บ้า! ฉันไม่1มีตาปลาหรอกย่ะ ถึงจะทำงานในฟาร์มแต่ฉันก็ดูแลตัวเอง เหมือนกันนะ แล้วอีกอย่าง ฉันไม1ได้โดนใครเหยียบเท้ามาหรอก แค1ไปเจอ คนกวนประสาทมาก็เท่านั้นเอง”

“ใครกันนะบังอาจมาท่าให้นางแบบกิตติมคักดิ์ของฉันอารมณ์บูด

เดี๋ยวเสื้อผ้าฉันก็พลอยหมองตามนางแบบกันพอดี”

“ไม่ต้องมาโทษฉันเลยยายวุ้น เสื้อจะหมองไม่หมองมันเกี่ยวกับความ

รู้สึกของคนใส่ที่ไหนล่ะ” มินตราส่งค้อนวงย่อมๆ ให้เพื่อนก่อนจะทิ้งตัวลงนิ่ง

บนเก้าอี้พลาสติกไม่มีพนัก ค่อยๆ ถอดบูตหนังออกทีละช้าง “วันนี้กิมจูไม่ได้

มาด้วยเหรอวุ้น” หล่อนถามเมื่อไม่เห็นเพื่อนสนิทอีกคน

“เห็นอาป๊าเรียกเข้ากรุงเทพฯ ดูท่าจะไปหลายวันอยู่...เสื้อแขวนอยู่บน

ราวนะมิน เธอเริ่มใส่จากตัวรีมขวามือก็แล้วกัน ฉันจะโทร.ไปตามตากล้อง

ก่อน ปานนี้แล้วยังไม่มาอีก เดี๋ยวก็หักค่าแรงซะเลย”

มินตรานึกขำเพื่อนที่กำลังบ่นงึมงำถึงช่างภาพ ก่อนจะเดินไปยังราว

แขวนเสื้อที่มุมห้อง

                             (โปรดติดตามต่อในฉบับเต็ม)

รายละเอียด

 ฟาร์มหมื่นไร่ ป่าสมบูรณ์ผืนใหญ่ที่ใครๆ ก็ปรารถนาจะครอบครอง ฝ่ายหนึ่งต้องการเปิดรีสอร์ต ล่องไพร อีกฝ่ายหนึ่งต้องการใช้เป็นที่ซ่อนสิ่งผิดกฎหมาย เรื่องวุ่นวายจึงเกิดขึ้น บางเรื่องลงเอยด้วยความตาย บางเรื่องลงท้ายด้วยความรัก "วิศว์" นักธุรกิจหนุ่มไฟแรงต้องการครอบครองฟาร์มหมื่นไร่เพื่อเปิดรีสอร์ตล่องไพร ต้อนรับนักท่องเที่ยว 
       ทว่า "มินตรา" นายหญิงแห่งฟาร์มกลับต้องรักษาผืนป่าธรรมชาติเอาไว้ให้คนรุ่นต่อไปเพราะเป้า หมายอันแตกต่างทำให้นักธุรกิจหนุ่มต้องกลายเป็นนักวิจัยกำมะลอเพื่อหาทางเปลี่ยนใจหญิงสาว แต่สุดท้าย ใครกันที่ต้องเปลี่ยนใจโดยไม่รู้ตัว

รีวิว (3)

เขียนรีวิว

Boa Hancock | 3 รีวิว
05/10/2014

ฟาร์มเอ๋ย . . . ฟาร์มรัก ชื่อเรื่องน่าอ่านมากๆค่ะแบบว่าเห็นแว๊บแรกก็สนใจเลย แต่ก็แอบคุ้นๆชื่อมาก่อนนะคะเพราะมีการนำไปเป็นละครทีวีด้วยแหละค่ะ เป็นนิยายแนวเรียบๆง่ายๆอ่านแล้วผ่อนคลายดีนะคะ พระเอกของเรื่อง คือ วิศว์ นั้นเป็นนักธุรกิจอสังหาฯแต่ได้ปลอมตัวเป็นนักวิจัย เพราะว่าเขาอยากได้ฟาร์มของนางเอกคือ มินตรา ซึ่งก็คือฟาร์มหมื่นไร่มาทำเป็นรีสอร์ทที่ออกแนวเป็นธรรมชาติ จึงได้พยายามทำให้นางเอกได้เห็นว่าตนเองจะทำรีสอร์ทที่เป็นการใกล้ชิดกับธรรมชาติจริงๆเพื่อให้นางเอกวางใจและยอมขายที่นี้ให้กับพระเอก แต่ทั้งคู่ก็ได้ใกล้ชิดกันมาขึ้นจนทำให้เกิดเป็นความรัก เนื้อเรื่องก็ไม่ได้น่าเบื่อเกินไปนะคะ เพราะว่ายังมีตัวละครตัวอื่นที่จ้องจะฮุบฟาร์มของนางเอก พระเอกของเราก็มีหน้าที่ต้องคอยช่วยเหลือแหละค่ะ เนื้อหาก็ประมาณนี้ค่ะรวมๆแล้วชอบมากๆเลยค่ะเรื่องนี้อ่านแล้วผ่อยคลายดีไม่มีฉากซีเรียสอะไร พระเอกก็เป็นคนสบายๆ มาดกวนๆนิดๆ คอยเถียงคอยทะเลาะกับนางเอกแทบตลอด เพราะว่าช่วงแรกๆที่นางเอกไม่ไว้ใจก็จะคอยจ้องจับผิดตลอด สำหรับคุณผู้อ่านที่ชอบอ่านนิยายเบาสมองไม่มีแบบฉากบู๊ แอคชั่นอะไรก็น่าจะชอบนิยายเรื่องนี้เหมือนกันนะคะ เรื่องก็จะมีฉากเศร้าๆปนน่ารักๆบ้างค่ะอย่างที่เล่าตอนแรกเพราะว่าพระเอกนั้นโกหกตั้งแต่แรกที่เข้ามาในฟาร์ม เมื่อนางเอกมารู้ความจริงทีหลังก็ต้องง้อกันใหญ่เลยล่ะค่ะ แนะนำลองซื้อหามาอ่านดูนะคะ แล้วมาลุ้นกันค่ะว่าตอนจบจะลงเอยอย่างไร
Eng_za | 3 รีวิว
13/12/2013

ฟาร์มเอ๋ยฟาร์มรัก นิยายเรื่องนี้ออกจะธรรมดามากๆ ไม่ค่อยมีอะไรโดเด่นนอกจากปกที่ดูเฉยๆ จะทำให้รู้สึกสะดุดและคิดว่าน่าอ่านพอสมควรแต่อาจจะผิดหวังเล็กน้อยสำหรับคนที่คาดหวังเอาไว้สูงไปนิด เพราะหลายคนอาจจะได้ผ่านตามาบ้านใน part ที่เป็นละครช่วงเย็น ๆ เราก็เป็นอีกคนที่ได้ดูละครเรื่องนี้ ซึ่งเราว่าละครสนุกเราเลยไปหานิยายมาอ่าน แต่พออ่านนิยายแล้วเรากลับรู้สึกว่า รู้งี้ดูละครอย่าเดียวดีกว่า เพราะว่าเนื้อหาในนิยายกับเนื้อเรื่องของละครมีการดัดแปลงมากพอสมควร สำหรับนิยายเรื่องนี้ออกแนวนิยายที่เน้นเรื่องความงดงามของธรรมชาติ ความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่า และฟาร์มหมื่นไร ตัวละครพระนางธรรมดามากเลย พื้นๆ ไม่ค่อยหวานซึ้งให้เราได้มีอาการจิกหมอนเท่าไรนัก คือ สรุปแล้วคือว่าอ่านได้แบบเรื่อย ๆ อ่านบ้างหยุดบ้าง ไม้ได้ดึงดูดให้เราเราจดจ่ออยู่กับมัน ถ้าเทียบกับที่เอามาทำเป็นละครแล้วเราว่าละครทำได้ดีมากเพราะจริง ๆ เรื่องมันก็ไม่ได้มีอะไรหรือมีประเด็นให้นำเสนอมากสัก นอกเสียจากธรรมชาติอย่างที่บอกในช่วงต้น แต่สำหรับคนที่ชอบอ่านนิยายแนวโลกสวย อิงสารคดีที่เกี่ยวข้องกับธรรมชาติ เรื่องนี้ก็โอเคเลยค่ะ สำหรับคนที่ชอบนะคะ แต่ถ้าคนที่ชอบแนวตบจูบไม่แนะนำค่ะ เพราะอ่านแล้วเรื่องนี้อาจจะทำให้คุณผิดหวังก็เป็นได้ เพราะโดยเนื้อของนิยายแล้วไม่ใช่แนวนี้ อ่านแล้วจะออกแนวคล้ายๆ กลุ่มนิยายชุดไต้ร่มใบภักค์ คือเน้นความงดงามของเนื้อหามากกว่าความสุกสนานแบบไร้สาระค่ะ คือ เป็นนิยายแนวมีสาระพอสมควร
ศรัญญา | 3 รีวิว
12/08/2013

นิยายเรื่อง ฟาร์มเอ๋ย ฟาร์มรัก เป็นเรื่องราวของนักธุรกิจหนุ่มไฟแรง วิศว์ ที่ต้องการครอลครองที่ดินของฟาร์มหมื่นไร่เพื่อไปทำรีสอร์ทสุดหรู ตรงกันข้ามกับนางเอกอย่าง มินตรา ที่ต้องการเก็บรักษาธรรมชาติรอบฟาร์มเอาไว้ไม่ยอมขายที่ดินของฟาร์มหมื่นไร่ให้ใครหน้าไหนเด็ดขาด ทำให้พระเอกและผองเพื่อนต้องปลอมตัวเข้าไปเป็นนักวิจัยพันธุ์พืชและสัตว์ป่าซะงั้น นิยายเล่มนี้ถูกนำมาสร้างเป็นละครแต่ในละครอาจจะมีการปรับเปลี่ยนบทนิดหน่อยถ้าใครดูละครพระเอกและผองเพื่อนปลอมตัวเข้าไปเป็นทีมถ่ายทำสารคดี แต่ด้วยความสวยและเก่งของเจ้าของฟาร์มสุดสวยมินตราดีกรีนักเรียนนอกจากประเทศเดนมาร์กที่เชี่ยวชาญทั้งเรื่องโคนมและเรื่องสัตวบาล ทำให้นายวิศก์ตกหลุมรักนางเอกในตอนแรกที่ต้องการเพียงที่ดินจากฟาร์มหมื่นไร่เพื่อนำไปทำรีสอร์ท แต่ยิ่งนานวันยิ่งได้อยู่ในฟาร์มหมื่นไร่พระเอกยิ่งผูกพัน ยิ่งรักทั่งเจ้าของฟาร์ม รักทั้งธรรมชาติในฟาร์มจนความคิดเริ่งไขว้เขว และยิ่งพระเอกและนางเอกต้องเผชิญอุปสรรคต่างๆด้วยกัน โดยเฉพาะฉากที่ทั้งคู่หลงป่า การหลงป่าด้วยกันทำให้นางเอกรู้สึกได้ถึงอะไรหลายๆอย่างที่วิศก์ทำให้เขายอมเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยเธอ ทำให้มินตราเริ่มเปิดใจแต่ดันมารู้ความจริงเรื่องที่นายวิศก์เข้ามาในฟาร์มก็เพื่อมีแผนจะซื้อที่ดินและนำไปทำรีสอร์ท นางเอกรู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมาก แต่ทว่าตอนนี้พระเอกเองที่มีจุดประสงค์จะเอาที่ดินมาทำรีสอร์ทหรูให้ได้เริ่มเปลี่ยนแปลงความคิดเพราะวิศก์เองก็หลงรักความงดงามของธรรมชาติในฟาร์มจนไม่อยากที่จะให้มันกลายเป็นรีสอร์ทแล้ว สุดท้ายแล้วทุกอย่างก็ลงเอยด้วยดี จริงๆ แล้วพ่อปู่รู้ตั้งนานแล้วว่าวิศก์ไม่ใช่นักวิจัยอะไรแต่เป็นคนที่จะเข้ามาซื้อที่ดินที่ตนหวงแหน แต่ทำไม่พ่อปู่จึงยอมล่ะ ลองหามาอ่านกันนะคะ สนุกดี ชอบบทวิศก์เป็นผู้ชายที่ดูน่ารัก ขี้เล่น อบอุ่น จริงใจ อ่านเพลินดีค่ะ ยิ่งอ่านหลังจากดูละครแล้วจะทำให้เราสามารถจินตนาการได้ง่ายเลยค่ะ แต่นิดนึงถ้าหากว่ามีจากหวานๆ กุ๊กกิ๊ก เพิ่มอีกนิดจะดีมากเลยค่ะ จะได้ฟินไปเลย เพราะว่าเรื่องนี้จะเน้นในส่วนของเรื่องราวและพรรณาถึงบรรยากาศ และออกแนวผจญภัยในป่าบ้างเล็กๆน้อยๆ

สินค้าที่ใกล้เคียง (96 รายการ)

www.batorastore.com © 2024