ทายาทบัลลังก์อสูร (ซ่อนกลิ่น)

ทายาทบัลลังก์อสูร (ซ่อนกลิ่น)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786115000012
ผู้แต่ง: ซ่อนกลิ่น
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 270.00 บาท 67.50 บาท
ประหยัด: 202.50 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

ภูเปียงดาว

หนานคำนั้นเป็นชายที่ห่างไกลจากคำว่าหล่อราวท้องฟ้ากับหุบเหวลึก ดั่งที่พิณทองบอกจริงๆ เขามีหลังที่ค่อมเล็กน้อย ใบหน้าตกกระ คิ้วดกหนาเป็น ปีนเหนือดวงตาปูดโปน ฟันหน้ายื่นยาวออกมาจนเห็นเป็นคราบเหลือง ผิวเนื้อ คลํ้ากระดำกระด่าง แถมผมเผ้าก็ยังดูรุงรังไม่เป็นระเบียบเหมือนไม่เคยฝานการ หวีมาก่อนเลย

เขาทำให้อิงธารนึกไปถึงเจ้าควอสิโมโดในภาพยนตร์แอนิเมชันของ วอลต์ ดิสนีย์ เรื่องคนค่อมแห่งนอเทรอดาม (The Hunchback of Notre Dame) ขึ้นมา ถ้าพิณทองไม่แนะนำว่าเป็นพี่ชายละก็ เธอคงคิดว่าเขาหลุดออกมาจาก ภาพยนตร์เรื่องนั้นจริงๆ ทีเดียว

“นี่พิณ” หญิงสาวสะกิดเพื่อน “แน่ใจนะว่าพี่ชายจริงๆ”

“ก็บอกแล้วไงว่าคนละแม่”พิณทองตอบเหมือนจะไม่อยากพูดถึงเท่าไรนัก “ถึงอย่างนั้นก็เถอะ พ่อเธอก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่อะไรนี่นา” อิงธารกระซิบ อย่างข้องใจ เธอเคยเห็นบิดาของพิณทองมาแล้วจากรูปที่แขวนอยู่ในห้องของ เพื่อนสาว ท่านเรียกได้ว่าเป็นคนสูงอายุที่จัดอยู่ดูดีมากทีเดียว ไม่น่าเชื่อว่า ลูกชายของท่านจะมีใบหน้าและรูปร่างผิดแผกจากบิดาอย่างมากมายเช่นนี้ได้

“ไม่รู้” พิณทองยักไหล่พร้อมกับแบะปากอย่างเหยียดๆ “ถึงยังไงเขา ก็เป็นพี่ฉันละน่า จะสงสัยอะไรกันนักกันหนายะ”

“แหม...ทำเป็นรำคาญ” อิงธารเอ่ยด้วยความน้อยใจ “ไปเถอะ ให้คนพิการยีนรออยู่อย่างนั้นน่าทุเรศทุรังสิ้นดี” พิณทองกล่าว อย่างสมเพชมากกว่าความสงสาร ก่อนจะเดินจํ้านำหน้าไปยังท่าเทียบรถของ โรงแรมทันที

อิงธารรีบเดินตามไป และเมื่อเธอไปหยุดยีนต่อหน้าหนานคำ ดวงตาที่โต ไม่เท่ากันของเขาก็เบิกกว้างราวไข่ห่าน ใบหน้าถึงกับซีดเผือดลงไปถนัดใจ “เอ่อ...สวัสดีค่ะ” หญิงสาวกระพุ่มมือไหว้

แต่หนานคำก็ยังคงจ้องมองอิงธารอย่างชนิดที่เรียกได้ว่าตาไม่กะพริบ เลยทีเดียว อิงธารได้แต่ยิ้มแห้งๆ แล้วหันไปหาเพี่อนอย่างเคอะเขิน จนเธอพบ ว่าพิณทองดูจะไม่พอใจนักที่พี่ชายตัวเองมัวแต่จ้องมองเธอแบบนั้น

“หนานคำ” เธอตะคอกใส่อย่างไร้ความเคารพ “นี่เพื่อนฉันนะ จะจ้องไป อีกนานแค่ไหน”

เสียงของน้องสาวต่างมารดาดึงให้ชายร่างค่อมหลุดออกจากภวังค์ เขา หันไปท่าหน้าบึ้งใส่น้องสาวอย่างเฉยชาจนอิงธารรู้สึกเหมือนทั้งคู่ไม่ค่อยสนิทสนม กันนัก คล้ายๆ กับมีกำแพงอะไรบางอย่างที่ขวางกั้นอยู่ระหว่างคนทั้งคู่ ซึ่ง อิงธารเองก็ไม่อาจรู้เหมือนกันว่ามันคืออะไร ได้แต่คาดเดาเอาว่านั่นอาจจะเป็น เพราะความเป็นลูกเมียน้อยของหนานค่าก็เป็นได้

ชายหลังค่อมขยับปากเหมือนจะพูดอะไรออกมา แตกกลับเงียบไปแล้ว ดึงกระเป๋าเดินทางจากมือชองเธอกับพิณทองไปอย่างแรง ก่อนจะวางมันลงบน ช่องเก็บชองด้านหลังรถตู้ที่เปิดเอาไว้รอท่านานแล้ว ท่าทางของสองพี่น้องท่าให้ เธออึดอัดใจไม่น้อย จนกระทั้งหนานค่าเดินมาเปิดประตูรถให้แล้วผายมือเชิญ เธอขึ้นรถอย่างสุภาพนั่นแหละ อิงธารจึงยิ้มให้แล้วก้าวขึ้นไปบนรถ

“ปิดประตูด้วยนะ” หนานค่าเอ่ยพร้อมกับสะบัดหน้าใส่พิณทองแล้ว เดินตุปัดตุเป๋อ้อมไปขึ้นประจำตำแหน่งสารถีโดยที่พิณทองไม่ทันจะก้าวขาอีกข้าง ขึ้นรถเสียด้วยซ้ำ

ผู้เป็นน้องสาวหน้างอด้วยความโกรธ ก่อนจะสาวเท้าขึ้นไปบนรถแล้ว

 

เลื่อนประตูปิดอย่างแรง แต่ดูเหมือนหนานคำจะไม่รู้สึกรู้สม เขาหัวเราะหึๆ ใน ลำคอ ก่อนจะเข้าเกียร์กระชากรถให้พุ่งทะยานไปข้างหน้าอย่างแรง เป็นเหตุให้ น้องสาวคนสวยและเพี่อนของเธอหงายหลังไปกระแทกกับเบาะรถ “ไอ้พี่บ้า” ผู้เป็นน้องผรุสวาทออกไปอย่างเหลืออด “ไม่เอาน่าพิณ” อิงธารต้องคอยห้ามไว้ด้วยไม่อยากให้พี่น้องต้องมา ทะเลาะกันเองต่อหน้าเธอ

“ก็ดูมัน'ทำสิ” พิณทองบ่นอุบ

“พี่หนานคำเขาคงไม่ได้ตั้งใจหรอกน่า” นางแบบสาวพยายามไกล่เกลี่ย หวังให้บรรยากาศอันน่าอึดอัดทุเลาลง

“ไม่ต้องพิงต้องพี่หรอก เรียกหนานคำเฉยๆ ก็ได้”

“ช่างเขาเถอะครับคุณอิงธาร” เสียงแหบลอยมาจากด้านหน้า นี่เป็นครั้ง แรกที่เธอได้ยินเสียงของเขาเต็มสองหู ดูเหมือนชายคนนี้จะไม่มีอะไรดีเลย แม้แต่อย่างเดียว เพราะแม้แต่เสียงพูดก็ยังดูน่ากลัวพิลึก “รู้จักชื่อฉันด้วยหรือคะ”

“ก็นายแม่บอกว่าเพี่อนของยายพิณชื่ออิงธาร แล้ว,นี่ก็มากันสองคน คุณ คงไม่มีชื่ออื่นใช่ไหมครับ”

“ดูมันสิ ดูมันตอบ” พิณทองได้จังหวะแขวะพี่ชาย อิงธารได้แต่หัวเราะ แต่ก็ไม่ได้พูดว่าอะไร เงียบไว้คงเป็นทางที่ดีที่สุด และมันก็ได้ผล สองพี่น้องต่างคนต่างเงียบ และต่างคนต่างทอดสายตาไปคนละ ทิศละทาง สงครามน้ำลายจึงเป็นอันได้สงบลงชั่วคราว

บรรยากาศสองข้างทางของทางหลวงนั้นเต็มไปด้วยความเขียวขจีของ ทุ่งข้าวอันนับว่าเป็นภาพที่แตกต่างจากปาคอนกรีตของเมืองกรุงอย่างสิ้นเชิง นานๆ ทีจะมีสิงปลูกสร้างเล็กๆ โผล่มาให้เห็นบ้าง ทำเอาอิงธารรู้สึกเหมือนโลกนี้ กว้างขึ้นมาอย่างถนัดใจ เธอเหม่อมองไปยังทิวทัศน์ด้านนอกด้วยความรู้สึก ผ่อนคลายอย่างไม่เคยรู้สึกจากมหานครใหญ่ที่เต็มไปด้วยตึกรามบ้านช่องแออัด ยัดเยียดมาก่อน

ทุ่งนาที่ลดหลั่นเป็นชั้นๆ ทอดตัวสูงขึ้นไปยังภูเขาเล็กๆ ลูกหนึ่งที่อยู่ไกล

ออกไป อิงธารทอดสายตามองอย่างฉงน ถึงแม้มันจะรายรอบด้วยเทือกเขาสูง ใหญ่ แต่มันกลับดูโดดเด่นอย่างน่าประหลาด ราวกับว่ามีพลังงานอะไรบางอย่าง แผ่ซ่านออกมา เป็นพลังที่มองไม่เห็น ดูลึกลับน่ากลัวอย่างบอกไม่ถูก จนทำให้ หญิงสาวนึกไปถึงความฝันอันน่ากลัวเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา

“ภูเขาศารทูลครับ” เสียงของหนานคำลอยมาราวกับรู้ว่าเธอกำลังคิด อะไรอยู่

“คะ” อิงธารเอ่ยขึ้นด้วยความตกใจ เพราะนั่นเป็นคำตอบต่อคำถามที่เธอ เพียงถามตัวเองอยู่แต่ในใจคนเดียวเท่านั้น

“อะไรของนาย” พิณทองถือโอกาสเสริม “ยังไม่มีใครถามอะไรลักหน่อย” “ก็บอกให้รู้” หนานคำยักไหล่ก่อนจะโยกพวงมาลัยหลบหลุมบนถนน จนศีรษะของสองสาวโยกคลอนไปมา

“นี่ขับให้มันดีๆ หน่อยได้ไหม” พิณทองแหว

“ถ้าอยากขึ้นไปเที่ยวบอกผมได้นะครับ” หนานคำกล่าวออกมาอย่าง ไม่สนใจน้องสาว “ผมจะพาขึ้นไปเอง มันอยู่ห่างจากรีสอร์ตไปไม่ไกลหรอกครับ” “ขอบคุณค่ะ” อิงธารตอบยิ้มๆ แต่ก็ไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธ เมื่อหันกลับไปมองที่หน้าต่างก็พบว่าภูเขาลูกนั้นได้คล้อยหลังไปไกลแล้ว พร้อมๆ กับที่ความรู้สึกกดด้นจากพลังงานอันมากมายก็ได้มลายหายไปเช่น เดียวกัน ทำเอาหญิงสาวถึงกับเปาปากออกมาอย่างโล่งใจ ก่อนจะหลับตาลงด้วย ความเหนื่อยอ่อนอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

หลังจากนั้นไม่นานหนานคำก็พาเธอและพิณทองมาถึงภูเปียงดาว รีสอร์ต รีสอร์ตงามที่ตกแต่งสไตล์ล้านนาอย่างสวยงามกลมกลืนไปกับธรรมชาติ อันร่มรื่น รถตู้เคลื่อนตัวผ่านสวนสวยมุ่งสู่ทำเทียบรถหน้าอาคารไม้หลังใหญ่ที่มี ป้ายเขียนว่า ‘สำนักงานรีสอร์ต ปักอยู่ใกล้บันไดทางขึ้น

สำหรับอิงธารแล้ว มันดูคล้ายบ้านพักอาศัยเสียมากกว่าที่จะเป็นอาคาร สำนักงาน มันเป็นเรือนล้านนาแบบกาแล ที่หลังคามีไม้สลักลวดลายแบบไหลสู่ ฟ้าสองอันไขว้ทแยงเป็นรูปกากบาทประดับอยู่บนยอดจั่วเรือน ซึ่งมีชื่อเรียก อย่างเป็นทางการว่า ‘กาแล’ มันดัดแปลงมาจากเขาควายคู่ในสมัยบรรพกาลที่ผู้คนสมัยก่อนมีประดับไวให้เป็นสิริมงคลและแก้อาถรรพ์ตามคติไสยศาสตร์ อีกทั้งยังเป็นส่วนที่เชิดชูให้ตัวเรือนมีความสง่างามอีกด้วย และมันก็ทำให้อิงธาร รู้สึกอุ่นใจขึ้นมาว่า คืนนี้เธออาจจะไม่ได้ฝันเห็นอะไรที่แปลกประหลาดอีก ภายในหลังคากาแลนี้

เมื่อรถจอดสนิท ชายหลังค่อมจึงกระโดดลงมาเปิดประตูด้านข้างฝังที่ อิงธารนั่งอยู่ออกเนื่องจากเป็นรถตู้ที่เปิดประตูได้ทั้งสองด้าน ก่อนจะเอ่ยเสียง แหบแห้งเช่นเคยว่า “ภูเปียงดาวรีสอร์ตยินดีต้อนริบครับ”

“ขอบคุณค่ะ” อิงธารยิ้มให้แก1มิตรไมตรีของเขา

“เข้าไปข้างในก่อนเถอะครับ นายแม่รอพวกคุณอยู่ด้านใน ประเดี๋ยวผม จะ'ขน'ของไปไวในที่'พัก'ให้เองครับ นายแม่ให้คุณกับยายพิณไปพักที่บ้านติดกับ

ชายป่าด้านโน้น”

“เชอะ” พิณทองอดที่จะแขวะกับความสุภาพของพี่ชายจอมเถื่อนไม่ได้ ก่อนที่จะเลื่อนประตูด้านตัวเองเปิดออกแล้วเดินจํ้าอ้าวไปอย่างไม่สนใจสัมภาระ ของตนเอง

อิงธารมองเพื่อนแล้วส่ายศีรษะ ก่อนจะหันกลับมาหาบุรุษผู้อัปลักษณ์ “ขอบคุณอีกครั้งนะคะ”

ชายหนุ่มค้อมศีรษะเป็นเชิงยินดี ทำให้ร่างที่ค่อมแคระของเขายิ่งงองุ้ม ลงไปอีกราวกับข้าราชบริพารที่กำลังทำความเคารพเจ้านายผู้สูงศักดิ์

“อย่าลืมนะครับ ถ้าอยากจะไปเที่ยวศารทูลเมื่อไหร่ บอกผมนะครับ” “คะ?” หญิงสาวมองเขาอย่างงุนงงก่อนจะนึกขึ้นมาได้ว่าไอ้ศารทูลที่ว่านี่ มันคือชื่อภูเขาลูกที่ทำให้หัวใจของเธอเต้นไม่เป็นระสํ่าเมื่อลักครู่นี้ “อ๋อ...ค่ะ”

ชายหนุ่มยิ้มจนเห็นฟันเหลือง ก่อนจะหันไปจัดการกับสัมภาระมากมาย ที่ท้ายรถด้วยความกระฉับกระเฉง

“แล้วพี่จะไม่ขึ้นไปด้วยกันหรือคะ” อิงธารเดินตามมาสอบถาม “ไม่หรอกครับ เชิญคุณกับยายพิณเถอะ”

“ถ้าอย่างนั้นฉันขอตัวก่อนนะคะ”

“เชิญครับ” หนานค่าพยักหน้าก่อนจะยกกระเป๋าเดินทางสองใบเดินไป

 

ทางเรือนพักที่ปลูกอยู่เป็นหย่อมๆ ตามจุดต่างๆ ของรีสอร์ตอันสวยงาม

อิงธารเอียงคอมองเขาอย่างประหลาดใจ ก่อนจะหันหลังเดินตามเพื่อน สาวขึ้นไปยังเรือนไม้หลังใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้า

หญิงสาวก้าวขึ้นบันไดสู่ชานระเบียงและก็พบว่าพิณทองกำลังสนทนา อยู่กับหญิงสูงวัยคนหนึ่งที่นั่งอยู่บนเติ๋น

“อิงธาร มา,นี่สิ” เพื่อนสาวกวักมือเรียกเมื่อเห็นเธอขึ้นมาบนเรือนแล้ว “มาไหว้แม่ของฉัน”

ผู้ถูกเรียกค่อยๆ เดินเข้าไปหาอย่างนอบน้อม เธอนึ่งพับเพียบลงข้างๆ พิณทองแล้วยกมือไหว้ผู้อาวุโสที่นึ่งอยู่เหนือกว่าอย่างอ่อนน้อม “สวัสดีค่ะ” “สวัสดีเจ้า” หญิงสูงวัยตอบรีบด้วยเสียงหวานเป็นกันเอง อิงธารสังเกตเห็นว่ามารดาของพิณทองนั้นเป็นผู้สูงอายุที่ยังคงความ งดงามได้เป็นอย่างดีทีเดียว ผิวพรรณก็ดูขาวผ่องและเปล่งปลั่งสดใสราวกับสาวรุ่น ใบหน้ากลมรูปไข่นั้นงดงามไม่ผิดกับพิณทองเลยแม้แต่น้อย อีกทั้งกิริยาก็ อ่อนช้อยน่าชมทีเดียว

“แม่คะ นี่อิงธาร เพี่อนของหนูที่เคยเล่าให้พิงไงคะ” พิณทองแนะนำเสียงใส

“งามแต้ๆ เหมือนอย่างตี้พิณทองเล่าหื้อพิงเลย”

“ขอบคุณค่ะ” อิงธารอมยิ้มแล้วพนมมือไหว้รีบค่าชมนั้น

ระหว่างนั้นเองก็มีหญิงสูงวัยอีกคนถือถาดน้ำออกมาจากในครัว รูปร่าง ค่อนข้างเจ้าเนื้อผิดกับมารดาของพิณทอง แต่ผิวพรรณนั้นก็เปล่งปลั่งสดใส อย่างชาวเหนือไม่แพ้เจ้าของรีสอร์ตเช่นเดียวกัน

เพียงแรกที่หญิงคนนั้นเห็นอิงธาร เธอก็ถึงกับตะลึงยืนตัวแข็ง สายตา

จับจ้องมายังใบหน้างามของหญิงสาวเหมือนกับที่หนานค่าเคยทำเข่นนั้นที่โรงแรม    “เอ้า...” พิณทองแหวขึ้นอย่างขัดใจ ก่อนจะเอ่ยเสียงแข็งใส่หญิงสูงวัยที่

ได้แต่นึ่งตะลึงมองเพี่อนสาวของเธอ “รีบๆ วางแล้วก็ไปได้แล้ว ยืนเก้ๆ กังๆ  เติ๋น คือ พื้นชานที่ยกขึ้นสูงกว่าพื้นชานบันไดหรือชานระเบียงเดี๋ยวนํ้าก็หกหมดพอดี”

“ยายพิณ” ผู้เป็นแม่ส่งเสียงตำหนิ ก่อนจะหันไปช่วยยกถาดนํ้าลงวางบน พื้น “ขอบใจ๋จ๊าดนักคำปีน มีอะหยังก็ปิ๊กไปทำต่อเต๊อะ”

“เจ้า” ผู้ถูกเรียกว่าคำปีนค้อมศีรษะให้ แต่สายตาก็ยังไม่ละจากใบหน้า งามของผู้มาใหม่เลยทีเดียว

“เจ้า...แล้วก็ไปสิ มานั่งจ้องกันอยู่ได้” พิณทองแหว

“ยายพิณ” ผู้เป็นแม่ปรามอีกพร้อมกับส่งสายตาเป็นเชิงตำหนิบุตรีของตน

คำปีนจึงรีบลุกขึ้นแล้วเดินกลับเข้าครัว แต่อิงธารก็ยังคงเห็นสายตานั้น จ้องมองเธออยู่ตลอดจนหญิงสูงวัยที่ชื่อคำปีนหายลับสายตาไป

“แม่ของหนานคำเขาแหละ” พิณทองหันมากระซิบบอก ทำให้อิงธารเข้าใจ ขึ้นมาว่า นี่เองเป็นเหตุให้เพี่อนของเธอกระฟัดกระเฟียดผิดวิสัย

อิงธารส่ายศีรษะอย่างนึกสงสารหญิงชรากับลูกชาย แต่ก็มานึกสะกิดใจ

ว่ามันจะเป็นไปได้อย่างไรที่ชายอัปลักษณ์ร่างค่อมแคระจะเป็นลูกของคำปีน

ซึ่งมีรูปร่างหน้าตาและผิวพรรณงดงาม เฉกเช่นเดียวกันกับบิดาของพิณทอง

ซึ่งเธอเคยเห็นจากรูปถ่ายว่า ถึงแม้ท่านจะไม่ถึงกับเป็นคนหล่อเหลานัก แต่ก็ดู สมาร์ตสมวัยและงดงามไปด้วยผิวพรรณแบบชาวเหนือ

“จริงๆ” พิณทองยํ้าเมื่อเห็นสีหน้าของเพื่อนสาว

อิงธารหันกลับไปมองที่ประตูครัว และเธอก็พบกับสายตาคู่นั้นที่แอบ มองกลับมา มันทำให้รู้สึกสงสัยขึ้นมาว่าเธออาจจะเคยเจอหรือรู้จักกับแม่ลูกคู่นั้นที่ไหนมาก่อนก็เป็นได้

 

ตะวันตกดินไปนานแล้ว โลกกลับสู่ภาวะที่สร้างความปั่นป่วนหวาดกลัว ให้แก่อิงธารอิกครั้ง หญิงสาวมองแสงเดือนและดาวที่ระยิบระยับพร่างพราว เต็มท้องฟ้ายามราตรีพร้อมกับฟังเสียงหรีดหริ่งเรไรที่เริ่มดังสอดประสานรับกัน ราวจังหวะดนตรีอันไพเราะด้วยหัวใจที่หวาดหวั่นไม่น้อย เพราะห้วงเวลาแห่ง ความฝันกำลังจะมาถึงอิกแล้ว

อิงธารเอื้อมมือไปหมุนก๊อกเพี่อปิดน้ำที่พรั่งพรูออกมาจากฝักบัว เธอยก

(ติดตามอ่านต่อได้ในฉบับเต็ม)

รายละเอียด

“เลือดของเจ้าที่หยดลงบนผืนแผ่นดินแห่งครีษมะอีกครั้งจักทำให้สหเทพที่หลับใหลตื่นจากนิทรารมณ์อันยาวนาน และเมื่อถึงตอนนั้น เจ้ามีหน้าที่ต้องล้างคำสาปที่ฝังชาวครีษมะนครไว้ในนรกด้วยความพยาบาทอันแสนยาวนาน” 
 
บุรุษหนึ่งผู้สูงศักดิ์กับนางหนึ่งผู้เลอโฉมต้องพรากจาก 
หญิงที่รักกลายเป็นนางแพศยาที่แสนชิงชัง 
เสน่ห์เล่ห์นางนำมาซึ่งสงครามแห่งสายพระโลหิต 
คราใดที่เลือดของพระมเหสียมุนาเทวีหลั่งลงบนผืนดินครีษมะอีกครั้ง 
ครานั้นปีศาจอุรเคนทร์ เจ้าแห่งอาศิรพิษ จักถูกปลุกจากศิลาจองจำ!

รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (96 รายการ)

www.batorastore.com © 2024