หนังสือชุด หอมลมหวน : รักมาแล้วแม่เอ๊ย (คำแพง)

หนังสือชุด หอมลมหวน : รักมาแล้วแม่เอ๊ย (คำแพง)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786160012893
มีสินค้าในสต็อค
ราคา: 200.00 บาท 50.00 บาท
ประหยัด: 150.00 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

                พรหมลิขิตบันดาลอำลา

 

มีใครสักคนบอกฉันว่า ความรักก็เหมือนสายลม ลมปากเคล้า

ลมรัก เมื่อพัดมาให้รัก รักนั้นมักอาบอิ่มไปทั่วทั้งหัวใจ ทว่ายามลมรักพัดหาย

สิ่งที่เร้นร้างไปด้วยไม่ใช่แค่หัวใจ แต่เป็นจิตวิญญาณที่แตกสลายทั้งดวง

หากหัวใจใครอาบไปด้วยรักแท้ ก็เปรียบเสมือนได้รับพรจากพระพรหม...

แล้วผู้ที่ไม่ได้รับพรแห่งพระพรหมเล่า ยังหวังกับรักแท้ได้หรือไม่...

สายลมคล้ายกระซิบตอบคำถาม ทว่าแผ่วเบาเกินจะได้ยินคำตอบ

นั้น ต่อเมื่อความชื้นจากหยาดน้ำฝนต้องผิวเนื้อ หญิงสาวรูปร่างเพรียว

ระหงจึงรู้ว่าได้รับคำตอบจากพระพรหมแล้ว...ความรักดุจดั่งหยาดน้ำตา

จากฟากฟ้า มีรักที่ใด ที่นั่นย่อมมีทุกข์เป็นเรื่องธรรมดา

ขณะที่ทุกคนวิ่งหลบฝนกันจ้าละหวั่น พราวพุดกลับอยากยืนนิ่งๆ

อยู่ใต้แผ่นฟ้า...จะกลัวฝนไปทำไม ดีเสียอีก ที่ร้อนอยู่จะได้คลายลงบ้าง

“เอ้าคุณ! ฝนตกแล้ว ทำไมไม่หาที่หลบล่ะครับ มัวยืนตากฝนทำไมมาครับ มาทางนี้”

เพื่อนร่วมโลกผู้อารีเอ่ยเรียกผู้ที่ยืนตากฝนอยู่นอกชายคาร้าน

ไอศกรีมชื่อดังแห่งหนึ่ง หญิงสาวที่ยืนตากฝนหันมายิ้มละไมให้ผู้หวังดี

แต่ไม่ขยับหาที่หลบตามคำแนะนำ ยังคงยืนนิ่งเฉยดังเดิม ดวงตาคมเฉี่ยว

กวาดมองโดยรอบอย่างสำรวจ

ทุกที่เต็มไปด้วยผู้คน ไร้ที่ให้พราวพุดเข้าไปเบียดแทรก พอจะมี

ที่เหลืออยู่บ้างก็กลายเป็นร้านไอศกรีมเสียได้ คงไม่มีทางเลี่ยงแล้วจริงๆ

“ขอบคุณนะคะ” หญิงสาวเอ่ยเสียงหวานเนิบช้ากับผู้หวังดี การแต่งตัว

เข้ากับบุคลิกแสนเรียบร้อยน่ามอง ผสมกับรอยยิ้มอ่อนหวาน ทำให้ใบหน้า

ที่เปียกน้ำฝนกระจ่างขึ้นทันตา หญิงสาวเดินผ่านผู้หวังดีเข้าไปในร้าน พลาง

คิดว่าผู้ชาย...ไม่ว่าจะกี่ยุคกี่สมัยก็ยังชมชอบผู้หญิงนุ่มนิ่มเรียบร้อย

“อ้าว หนูพราว ลมอะไรหอบมาถึงนี่” น้ำเสียงทักรื่นเริง ผิดกับแววตา

รู้ทันผู้มาเยือน “วันนี้รับอะไรดี ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ ยังสวยเหมือนเดิมเลยนี่นา”

“โธ่! นึกว่าจะสวยมากกว่าเดิม รู้งี้ไม่ลงทุน...ไอ้นี่หกสิบเก้า ส่วน

นี่สองร้อยห้าสิบ หมดไปหลายร้อย” คนพูดชี้ไปที่กิ๊บสีชมพูน่ารัก และ

สร้อยเงินประดับเข้าชุด น้ำเสียงคล้ายหยันตัวเองมากกว่าเสียดายจริงๆ

หญิงสาวปัดเรือนผมเหยียดตรง ซึ่งเปียกชื้นไปด้วยน้ำฝนอย่างกังวล ส่วน

ที่เปียกเริ่มหยักศกเหมือนเดิมแล้ว

“อ้ะ...นี่ น้ำเปล่า ของโปรดพราว พี่จำได้” โยธกา เจ้าของร้านนำมา

เสิร์ฟด้วยตัวเองถึงที่ ไม่วายสัพยอก “ไม่รับไอศกรีมเพิ่มสักถ้วยเรอะ”

คนถูกสัพยอกจิกตาค้อน แต่เมื่อหันไปเห็นสายตาของคนในร้าน

ก็เปลี่ยนท่าทีเป็นอ่อนโยน ไว้ตัวสมกิริยาเรียบร้อยดังเดิม จนเจ้าของร้านยิ้มน้อยๆ

“เข้าท่าแฮะ แต่ไม่ค่อยชินเท่าไหร่ ว่าแต่ไปไงมาไงถึงได้ผ่านมา

แถวนี้ ปกติที่นี่เป็นเขตต้องห้ามไม่ใช่เรอะ” เจ้าของร้านนั่งลงคุยด้วย

ดวงตาคู่สวยเหลือบมองคนนั่ง... ‘พี่โย’ เป็นผู้หญิงรูปร่างอวบ

สมกับเป็นเจ้าของร้านไอศกรีม เห็นหน้าตาท่าทางอย่างนี้ เจ้าหล่อน

มีแฟนหล่อระเบิด แถมยังรวยอีกต่างหาก

“โดนฝนไล่มาแถวนี้ค่ะ ที่จริงก็ไม่อยากมานักหรอก” ลูกค้าเอ่ยพร้อมกับยิ้มละไม

“จริงอ้ะ ไม่ใช่มีคนคาบข่าวไปบอกหรอกเหรอว่าพี่โยจะขายร้าน”

น้ำเสียงรู้ทันลูกค้าอีกแล้ว

“นั่นก็ส่วนหนึ่งค่ะ” ลูกค้ายิ้มใส่ตาเจ้าของร้าน บอกชัดว่าเหลี่ยมจัดไม่แพ้กัน

“ทำตาอย่างนี้ค่อยสมกับเป็นไอ้พราวหน่อย...วางเงินมัดจำเลยไหม

ราคาไม่รวมที่นั่งตรงนั้นนะ” เจ้าของร้านผายมือไปยัง ‘ที่หวงห้าม’ ก่อน

ลุกขึ้นไปบริการลูกค้า

‘ที่ตรงนั้น’ เป็นเขตมนตร์รักของคนคู่หนึ่ง...ซึ่งไม่ใช่เธอ

ภาพเหล่านั้นวนเวียนคล้ายฉายซ้ำ ทั้งที่ทุกเหตุการณ์ยังชัดเจน

ในความทรงจำ ไม่ตกหล่นแม้แต่ตอนเดียว

 

‘ไม่นะ! ฉันสอบตก เฮ้อ! จนได้...แล้วงี้ทำไงดีล่ะ’

เจ้าของเกรดหันไปถามเพื่อนสาว ซึ่งตอนนี้หน้าซีดอย่างกับเป็น

เจ้าของเกรดเสียเอง

ยายนวลเอ๊ย! พราวแค่สอบตก ไม่ใช่จะตายวันนี้ซะหน่อย เจ้าของ

เกรดคิดอย่างละเหี่ยใจ ต้องกราบขอโทษเพื่อนรักด้วยไหม ที่ทำให้ตกใจ

จนหน้าซีดเป็นไก่ต้มแบบนี้

‘พราว พาไปนั่งตรงโน้นหน่อย รู้สึกหน้ามืดน่ะ’ เพื่อนตัวเล็กพยักพเยิด

พราวพุดรีบพาเพื่อนไปหาที่นั่ง ทั้งที่ยังเสียใจที่สอบตก...คราวนี้

คงได้แก้กันมันหยดแน่ โอ๊ย! ล้มลุกคลุกคลาน เฉียดตกมาได้หลาย

เทอม มาพลาดเอาตอนปีสองเทอมแรก มันน่าเจ็บใจจริงๆ

‘สอบผ่าน จะหน้ามืดทำไม พราวต่างหากที่ต้องหน้ามืด’ คนพามานั่งเอ่ย ทำหน้าม่อย

‘เรียนเอกภาษาไทย จะตกวิชาภาษาไทยก็ไม่แปลก ไม่เห็นน่าตกใจ

สอบตกก็ซ่อมได้ พราวซะอย่าง สบายอยู่แล้ว จริงไหม’ คนหน้ามืดยังมีอารมณ์ขัน

‘อือ...มันก็จริง เครียดไปทำไมเนอะ’ พราวพุดยิ้มให้เพื่อนรัก

นวลปรางเป็นคนน่ารัก กิริยาสุภาพเรียบร้อย อ่อนแอนุ่มนิ่ม คล้าย

ตุ๊กตาแก้ว เหมาะที่จะเรียนเอกภาษาไทย ไม่เหมือนเธอ...อยากเรียนพยาบาล

แต่ไปไม่ถึงฝัน ไอ้ที่อยากดูแลรักษาคนไข้อย่างที่ต้องการ ก็เลยต้องเปลี่ยน

เป็นอนุรักษ์ภาษาไทยให้คู่ไทย ดำรงความเป็นไทยเอาไว้แทน...

ภาพนั้นดุจความฝัน...ที่ฉายความสุขและทุกข์ ในครั้งนั้นเธอต้อง

แลกเปลี่ยนด้วยค่าของหัวใจเพื่อให้ได้เป็นลูกศิษย์ของครูผ่องทิพย์ เรื่อง

ทั้งหมดควรจบลงอย่างสวยหรู ถ้าโชคชะตาไม่ชักพาให้เธอรู้จักกับลูกชายของท่านด้วย

 

‘ผมตกลงให้คุณแม่ของผมสอนพิเศษให้เพื่อนของนวลก็ได้ แต่ผมมีข้อแม้นะ’

น้ำเสียงทุ้มเสนาะหูดังขึ้นในบริเวณหนึ่งซึ่งรายล้อมไปด้วยต้นหาง

นกยูงขนาดเล็ก ข้างๆ ร่างสูงประเปรียวคือนวลปรางที่เอาแต่นั่งก้มหน้า

ไม่ยอมพูดยอมจา โดยมีพราวพุดนั่งดูดน้ำเปล่าที ลอบมองชายหนุ่มที เพราะ

นึกสงสัยว่าเพื่อนรักไปรู้จักมักจี่กับหนุ่มนักเศรษฐศาสตร์ผู้นี้ได้ยังไง

อักษรศาสตร์ปีสองกับนักเศรษฐศาสตร์ปีสุดท้าย เข้ากันดีพิลึก!

ความนุ่มนวลละมุนละไมของภาษา มองยังไงก็ไม่อาจเข้ากับผู้ที่ชอบดีดลูกคิดรางแก้วได้

การจะเข้าถึงตัวธงไทได้นั้น นวลปรางต้องฝ่าวงล้อมหญิงสาวนับสิบ

ซึ่งเป็นเรื่องยากมาก อีกอย่าง...สาวน้อยผู้แสนจะอ่อนแออย่างนวลปราง

คงไม่ใจกล้าท้าสู้กับสาวๆ พวกนั้นอย่างแน่นอน

‘รุ่นพี่มีอะไรก็พูดมาตรงๆ ได้เลย ฉันไม่ชอบคนอ้อมค้อม อีกอย่าง

...ฉันไม่ชอบคุยกับคนแปลกหน้า ถ้าอยากจะทำความรู้จักก็เรียกฉันยาวๆ

ว่าพราวพุด แต่ถ้าจะเรียกสั้นๆ ก็เรียกว่าพราวแค่นี้ ง่ายๆ’ หญิงสาวเอ่ย

เสียงใส ขณะมองเพื่อนรักที่เอาแต่นั่งนิ่งท่าเดียว

ธงไทมองพราวพุดแค่แวบเดียว แล้วจากนั้นจึงเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงมีไมตรี

‘ยินดีที่ได้รู้จักนะครับพราวพุด ข้อแม้ของผมก็คือ คุณต้องมาเป็น

แฟนกับผม โดยมีข้อตกลงว่า...’ เขาเอ่ยค้างเมื่อเห็นสีหน้าตกใจของคนฟัง

พราวพุดถึงกับสำลักน้ำเปล่า มองหน้าคนพูดก่อนไปหยุดที่นวลปราง

เพื่อนสนิทผู้นำโชคดีมาให้ ข้อแม้พ่วงมาด้วยนั้นเลิศมาก จริงอยู่...คำพูด

ของเขาเหมือนไว้ตัวอยู่บ้าง แต่เธอก็พอใจลึกๆ...ใครเล่าจะคิดว่าหนุ่มหล่อ

จากคณะเศรษฐศาสตร์ ที่สาวๆ หลายคนคลั่งไคล้จะขอเธอเป็นแฟน แล้ว

นี่เขาแอบชอบเธอตั้งแต่ตอนไหน ไม่เห็นรู้ตัวเลย

‘เมื่อกี้...รุ่นพี่ว่าอะไรนะ ไหน...พูดใหม่อีกทีซิ’ คนถามออมเสียง

จนเกือบพูดตะกุกตะกัก

‘ผมบอกว่า ข้อแม้ของผมก็คือคุณต้องมาเป็นแฟนกับผม แต่มี

ข้อตกลงเพิ่มนิดหน่อยว่า...’ พอต้องพูดจริงๆ ธงไทกลับพูดไม่ออกเสีย

อย่างนั้น ท่าทางกระมิดกระเมี้ยนเหนียมอายของพราวพุด ทำให้ผู้เสนอ

ข้อแม้อมยิ้มน้อยๆ เขากำลังคิดว่าจะเอ่ยต่อยังไง แต่เธอก็พูดขึ้นก่อน

‘แหม...แล้วอะไรล่ะ ไอ้ ‘แต่’ น่ะ’ พราวพุดตาเป็นประกาย...เรียนมา

หลายเทอม กว่าพรหมลิขิตจะวาดวงโคจรมาบรรจบได้ก็เกือบต้องแยกย้าย

กันไปแล้ว โชคดีนะที่มาบอกก่อน ไม่งั้นนายแห้วแน่ นายธงไทเอ๊ย!

‘แต่เป็นแค่แฟนหลอกๆ จะได้ไหมพราว’ เสียงของนวลปรางคล้าย

ขวานเล่มใหญ่ ผ่าฉับลงบนอกของคนฟัง

‘หา! ว่าอะไรนะ ทั้งสองคนเล่นอะไรกันอยู่เนี่ย’ หญิงสาวเอ่ยปนหัวร่อ

กลบเกลื่อนที่ตัวเองเกือบหน้าแตก แล้วยกแก้วน้ำขึ้นมาดื่มรวดเดียวจน

หมด ยิ้มสดใส...ยิ้มเข้าไว้ ทำใจให้ประเสริฐ...เธอคิดอย่างนั้นจริงๆ

‘คือ...’ นวลปรางอึกอัก ขณะที่ชายหนุ่มเอาแต่มองหน้าสาวแสบประจำคณะอักษรศาสตร์

‘เอ้า! เลยกลายเป็นคนพูดติดอ่างกันทั้งสองคน รุ่นพี่ ถึงฉันจะ

ได้ยินกิตติศัพท์ของคุณมาบ้างนะ แต่เราไม่เคยรู้จักมักจี่กันมาก่อน อยู่ดีๆ

มาขอคบ แล้วทำไมต้องทำอะไรให้มันซับซ้อนด้วย บอกมาให้หมดเลย’

เอ่ยพลางกวาดตามองธงไทตั้งแต่หัวจดเท้า

ไร้ที่ติ เขาดูดีมาก แต่ก่อนเคยแอบมองจากที่ไกลๆ ตอนนี้อยู่ใกล้

กันแค่นี้ แต่ใกล้แล้วยังไง ใกล้แล้วทำอะไรไม่ได้อยู่ดี...สาวแสบคิดอย่างปลงในอก

‘พูดแบบไม่อ้อมค้อม ที่จริงผมจะคบกับนวลปราง’ ชายหนุ่มเอ่ยด้วยสีหน้าเฉยสนิท

พราวพุดพยายามจ้องลึกเข้าไปในตาคมกริบอย่างจงใจ เพื่อจับพิรุธ

เผื่อเขามาหลอกลวงเพื่อนรัก เธอจะได้เขี่ยไปไกลๆ ทว่าไม่เห็นสิ่งใดนอกจาก

กระแสแห่งความเชื่อมั่น

‘ถ้ารุ่นพี่จะคบนวล ก็คบไปสิ เกี่ยวอะไรกับฉันไม่ทราบ’ พูดแล้ว

อารมณ์ชักขึ้น เธอมองนวลปรางด้วยอีกคน แต่ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นร่องรอย

บางอย่างที่มือของเพื่อนสนิท

‘บางทีหน้าตาของผมก็เป็นอุปสรรคต่อความรักของเรา’ เขาพูด

หน้าตาย แต่หมายความตามที่พูด

‘อย่าบอกนะว่านี่เป็นรอยแผลจากสาวๆ ที่หมายปองรุ่นพี่อยู่’ สาวมั่น

ไม่พูดเปล่า จับเนื้อจับตัวเพื่อนสนิทเพื่อดูว่ามีแผลที่อื่นอีกไหม

‘ขอบใจที่คุณเข้าใจอะไรง่าย’ ชายหนุ่มเอ่ยด้วยความโล่งอก

‘ย่ะ!’

เพราะคำตกลงนั้นแท้ๆ เชียว ทำให้ชีวิตของเธอกับธงไทเดินบน

เส้นทางเดียวกัน พราวพุดไม่ปฏิเสธว่ามารดาของเขาเป็นคนใจดี สอน

หนังสือให้เธอจนสอบผ่าน แต่การใกล้ชิดกับธงไทเป็นปัญหาในเวลาต่อมา

ใจคนเราไม่ใช่หิน จะไม่ให้หวั่นไหวได้ยังไง ในเมื่อธงไทเป็นผู้ชายที่แสนดี

ขนาดนั้น

‘พราว ตอนนี้คุณอยู่ไหน นวลเขาอยากกินไอศกรีม อีกครึ่งชั่วโมงเจอกันที่ร้านนะ’

‘เดี๋ยว! นี่...อย่าเพิ่งวางสายนะรุ่นพี่ อย่าเพิ่งวางสาย ฉันกำลัง

ต้องการความช่วยเหลือ...’ ทว่าไม่ทันแล้ว เขาวางสายไปแล้ว ‘ฉันอุตส่าห์

เฝ้ายามให้พวกเขาสองคนจู๋จี๋กัน กล้าดียังไงถึงได้ตัดสายฉันทิ้ง คนบ้า...นี่ หยุดนะ!’

ประโยคหลังหันไปตวาดคนที่กำลังมีเรื่องด้วย เบื้องหลังที่ธงไทไม่รู้

พราวพุดกำลังถูกคู่อริกลุ่มหนึ่งล้อมหน้าล้อมหลังไว้ โดนต้อนจนชนกับโต๊ะหินอ่อน

‘อย่าคิดนะว่าไอ้พราวคนนี้จะกลัว ใครอยากลองดีก็เข้ามา’ หญิงสาว

ประกาศกร้าว ท้าชนไม่ว่าใครหน้าไหนก็ช่าง

แม้จะประกาศออกไปอย่างนั้นแต่น้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ กว่าจะเอาตัว

รอดมาได้ พราวพุดก็โดนข่วนไปหลายแผลเหมือนกัน แต่มันสะใจตรงที่

ได้ถีบคนหาเรื่องจนจุกไปหลายคนนี่แหละ

‘อูย...’ หลังจากจบสงครามรักหลอกๆ พราวพุดร้องไห้อย่างหนัก

ยกมือข้างที่ไม่เป็นอะไรมากกดนิ้วที่โดนกรีดด้วยมุมของโต๊ะหิน เธอยืน

ไม่มั่นคงเอง แทนที่จะคว้าเพื่อยึดให้ยืนได้ กลายเป็นว่าได้แผลมาอีกหนึ่ง

แผล เฮ้อ...นี่ถ้าเป็นยายนวลป่านนี้ร้องไห้แงๆ ตัวสั่นไปแล้วแน่ๆ

หลังจากทำแผลเสร็จแล้ว พราวพุดก็รีบไปตามนัด พอไปถึงก็พบว่า

คนแน่นร้าน พื้นที่ข้างนอกยังไม่เหลือให้ยืนด้วยซ้ำ แล้วฝนยังตกอีก

หญิงสาวยืนเก้ๆ กังๆ อยู่พักใหญ่ กระทั่งเสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น

จึงรีบยกโทรศัพท์ขึ้นแนบหู แล้วกรอกเสียงหวานลงไป

‘ว่าไงจ๊ะนวล’

                       (โปรดติดตามต่อในฉบับเต็ม)

รายละเอียด

พราวพุดสาวแสนสวยที่ครองตัวเป็นโสดมาหลายปี เพราะยังขยาดกับรักหลอกๆ ที่ทำให้เธอต้องใช้ชีวิตในรั้วมหาลัยอย่างแสนรันทดมาหลายปี ธงไทเป็นนักศึกษาปีสุดท้ายจากคณะเศรษฐศาสตร์ แต่มาชอบพอนวลปรางเพื่อนสนิทแสนอ่อนแอของพราวพุด ธงไทกับพราวพุดยอมตกลงเป็นแฟนกันหลอกๆ เพื่อสับขาหลอก บรรดาสาวๆ ที่ตามหวงธงไทไม้เว้นแต่ละวัน พราวพุดเข้มแข็งกว่าจึงออกรับหน้าแทนนวลปรางกระทั่งโดนสาวๆ ของเขาทำร้ายกลับมาทุกวัน กระทั่งธงไทเรียนจบแล้วบินไปเรียนต่อที่เมืองนอกพร้อมกับนวลปราง ทำให้พราวพุดที่เพิ่งรู้ตัวว่ารักธงไทช้ำใจอย่างหนัก  
 
          กระทั่งวันหนึ่งพราวพุดได้พบกับธงไทอีกครั้ง ธงไทมาแจ้งความลูกชายหาย และพบว่าเด็กชายไตรลักษณ์ ลูกศิษย์จอมแสบของเธอคือลูกชายของธงไท โดยไม่มีใครพูดถึงนวลปรางอีกเลย พราวพุดและธงไทยังคงพบกันบ่อยครั้งโดยมีเด็กชายตัวน้อยเป็นตัวเชื่อม แต่รักแท้ย่อมมีอุปสรรค์เสมอ พ่อแม่ของพราวพุด ตั้งใจให้เธอตบแต่งไปกับทหารหนุ่มรูปหล่อ
 
          งานนี้เล่นเอาธงไทถึงกับปวดใจหนึบ แต่คราวนี้เขาจะไม่ปล่อยให้พราวพุดหลุดมือไปอีกแล้ว จึงเดินหน้าทำคะแนน ต่อสู้กับนายทหารหนุ่ม พร้อมสารภาพว่า ที่ผ่านมาเขารักพราวพุดมาตลอด เมื่อพราวพุดรู้ความจริงแล้ว ความสัมพันธ์ของเธอกับธงไทก็ดีขึ้นเป็นลำดับ และตกลงแต่งงานกันในที่สุด งานแต่งถูกจัดขึ้นในเวลาต่อมาอย่างยิ่งใหญ่ ขบวนขันหมากยกมาโดยขบวนเรือ รักมาแล้วแม่เอ๊ย จงเชยชม รักมาแล้วเจ้าอย่าตรม หมองไหม้ รักมาแล้วแก้วตา ยอดดวงใจ รักมาแล้ว รักนี้มั่นนิรันดร ทั้งสองคนครองรักกันอย่างมีความสุขในที่สุดสาวสวยที่รอรักมานานแสนนาน ก็เลยต้องลงจากคานแต่โดยดี

รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (96 รายการ)

www.batorastore.com © 2024