รัก...ร้าย (พิมพ์ซ้ำ เปลี่ยนปก) (ณารา)

รัก...ร้าย (พิมพ์ซ้ำ เปลี่ยนปก) (ณารา)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786160022397
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 340.00 บาท 85.00 บาท
ประหยัด: 255.00 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

 

 
   

 

 

 

ปัจจุบัน

“ป่าน ป่าน” เสียงกระซิบเบา ๆ ดังขึ้นข้างตัว ปุษยาเงยหน้าจากหน้าจอ คอมพิวเตอร์ หันไปมองหญิงสาวร่างผอมที่ยืนอยู่ข้างโต๊ะทำงาน

“อะไรเหรอคะพี่นี”

“พี่ได้ยินข่าวว่าวิศวกรกลุ่มใหม่ที่มาจากอเมริกาน่ะ มาถึงเมื่อคืน ตอนนี้ มาถึงบริษัทหรือยัง” สาริณี ผู้สื่อข่าวประจำบริษัทออกแบบเครื่องยนต์แห่งนี้

รีบเข้ามาสอบถามเลขานุการของมิสเตอร์จอห์น นายใหญ่ เมื่อรู้ว่าปกติปุษยา

จะเป็นผู้ดูแลและรับรองแขกต่างประเทศของบริษัท ฉะนั้นหากอยากรู้ความ คืบหน้าเกี่ยวกับวิศวกรกลุ่มใหม่นี้ก็ต้องถามเธอ

“ยังไม่เข้าค่ะพี่” ปุษยาตอบ “เมื่อคืนเครื่องถึงดึก คงยังปรับตัวไม่ทัน

แต่แจ้งมาแล้วค่ะว่าจะเข้าสาย ๆ”

“อ๋อ” สาริณีลากเสียงยาว “เออ ๆ แล้วป่านเคยเห็นหรือยัง มีหล่อ ๆ

มั่งมะ” หล่อนถามรายละเอียด

“ยังไม่เคยเห็นเหมือนกันค่ะ” ปุษยาตอบ “เดี๋ยวมาแล้วพี่ค่อยยลโฉมเอง ไม่ดีหรือคะ”

“แหม ป่านก็ พูดเป็นเล่น นี่ก็แวบออกจากโต๊ะทำท่าว่ามาเข้าห้องนํ้า นึก ว่ามาแล้ว ใจร้อนน่ะ อยากเห็นว่าหล่อมะ พี่จะได้จีบเสียหน่อย” สาริณีบอก

พลางหัวเราะคิกคัก

ปุษยาได้แต่ยิ้มบาง ๆ ทุกคนในบริษัทนี้รู้นิสัยของสาริณีดี ไม่มีใครถือสา ความทะเล้นของหล่อน และเพราะเป็นคนคุยเก่ง ปากไว จึงเข้ากับเพื่อนร่วมงาน ได้ทุกคน ด้งนั้นเรื่องความเห็นที่ไม่สมกับเป็นกุลสตรีไทยของหล่อน จึงไม่มีใคร เก็บมาใส่ใจ

“ยังไม่มาก็แล้วไป งั้นพี่กลับไปก่อน เดี๋ยวอีกสักชั่วโมงค่อยแวบมาใหม่ ตอนนั้นคงจะได้ยลโฉมว่างามหรือไม่งาม แล้วค่อยตัดสินใจจีบ” สาริณีบอก

ก่อนรีบผลุบไปจากข้างโต๊ะของเลขานุการสาว

ปุษยาส่ายหน้าอ่อนใจ ไม่อยากเอานิยายอะไรกับสาริณีมาก หล่อนก็

กระดี๊กระด๊าทุกครั้งที่มีแขกจากต่างประเทศมาเยี่ยม และเมื่อมีวิศวกรมาคุม

โปรเจ็กต์ใหม่ แตกไม่เห็นลงเอยกับใครเสียที หรือว่าหนุ่ม ๆ เหล่านั้นไม่ยอม

ลงเอยกับเธอก็ไม่รู้ ก็ได้แต่ชะเง้อชะแง้คอยมองมาอยู่หลายปีจนจะขึ้นคาน

อยู่รอมร่อแล้ว

เลขานุการสาวหันไปสนใจหน้าจอคอมพิวเตอร์อีกครั้ง เธอต้องพิมพ์ รายงานการประชุมที่กำลังจะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ เกี่ยวกับโครงการเครื่องยนต์ชนิด ใหม่ ที่ทางบริษัทแม่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาล่งต้นแบบมาให้บริษัทในไทย

จัดหาตัวแทนผลิตเพี่อน่าไปติดตั้งในรถกระบะรุ่นล่าสุดของบริษัท ดังนั้นเพี่อ

ให้เครื่องยนต์นวัตกรรมใหม่เป็นไปตามมาตรฐานการผลิตที่กำหนด บริษัทแม่

จึงล่งทีมวิศวกรที่ออกแบบเครื่องยนต์ตัวใหม่นี้มาดูแลการผลิตอย่างใกล้ชิด จากนั้นก็จะเหลือตัวแทนของทีมไว้ที่นี่หนึ่งคน เพี่อควบคุมมาตรฐานการผลิต ต่อไปอีกหกเดือนแล้วจึงจะเดินทางกลับ

ปุษยามีหน้าที่เป็นผู้ดูแลคณะวิศวกรชุดใหม่นี้เหมือนเช่นเคย นอกจาก งานเลขาฯ แล้วเธอยังต้องทำหน้าที่อีกหลายอย่างตามแต่เจ้านายจะสั่ง เพราะ บริษัทเล็ก ๆ แห่งนี้ เป็นเพียงบริษัทในเครือของบริษัทผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่

ของโลก และยังเป็นส่วนหนึ่งของโรงงานผลิตที่จังหวัดระยอง แต่มีการบริหาร

งานเป็นเอกเทศ ซึ่งดูแลเรื่องเครื่องยนต์โดยเฉพาะ ทั้งด้านการผลิตและออกแบบ ดังนั้นจึงมีพนักงานเพียงไม่กี่สิบชีวิต และไม่มีฝ่ายประชาสัมพันธ์คอยดูแล

แขกโดยเฉพาะ จึงไม่น่าแปลกใจที่หน้าที่นี้จะตกมาเป็นของเธอโดยปริยาย

แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่ถือว่าเป็นงานหนักหนาอะไร เพราะบริษัทได้เช่าห้องพัก ที่คอนโดมิเนียมติดแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ที่ทำงานซึ่งเป็นออฟฟิศให้เช่า หลังใหม่บนถนนสาทรสำหรับผู้บริหารทั้งสี่ท่านที่ทำงานประจำที่นี่อยู่แล้ว

ดังนั้นเมื่อมีทีมงานจากต่างประเทศมาดูงาน เธอก็เพียงแค่ติดต่อไปทางผู้จัดการ คอนโดฯ และขอเช่าห้องเพิ่มตามจำนวนคนพร้อมทั้งจัดรถรับส่ง ส่วนเรื่อง

อาหารการกินก็ดูแลกันเอง เพราะใต้คอนโดฯ ก็มีร้านอาหารทั้งแบบหรูและ

แบบฟูดเชนเตอร์อยู่แล้วภายในห้องพักเธอก็จัดพวกอาหารง่ายๆพร้อม

เครื่องดื่มไวในตู้เย็นเรียบร้อยแล้ว และให้แม่บ้านของคอนโดฯ คอยเข้าไปตรวจ

ดู หรือหากแขกต้องการอะไรเพิ่มเติมก็สามารถสั่งเธอได้ เสียงโทรศัพท์ภายใน

บนโต๊ะทำงานดังขึ้น ปุษยาละมือจากแป้นพิมพ์คอมพิวเตอร์ยกหูโทรศัพท์ขึ้นมา

                “คะบอส ?”

“ช่วยติดต่อหัวหน้าทีมวิศวกรที่เพิ่งมาถึงให้ด้วยว่าผมจะเลี้ยงข้าวกลางวัน เดี๋ยวจะให้รถของบริษัทไปรับตอนสิบเอ็ดโมงครึ่ง จากนั้นผมจะพาพวกเขาไปชม บริษัทของคุณพิชัย แล้วจัดการเรื่องอาหารเย็นกับสถานที่สังสรรค์คืนนี้ด้วย”

“บอลจะกลับเข้าบริษัทอีกหรือเปล่าคะ” ปุษยาถาม ด้วยหน้าที่เลขาฯ

เธอต้องละเอียดรอบคอบ เพราะหากทีมวิศวกรจะเข้ามาที่บริษัท เธอจะต้อง

เตรียมอาหารว่างยามบ่ายให้กับทุกคน

“ไม่ละ เลยจากบริษัทคุณพิชัยก็จะไปกินข้าวเย็นเลย และว่าจะพาพวก

เขาไปทำความรู้จักกับกรุงเทพฯ ยามราตรีเสียหน่อย พรุ่งนี้เข้าค่อยประชุม

เป็นเรื่องเป็นราว” มิสเตอร์จอห์นบอก

“ได้ค่ะ” เธอเข้าใจดี เพราะบริษัทคุณพิชัยที่มิสเตอร์จอห์นเอ่ยถึงนั้น

อยู่ไกลเกือบถึงชลบุรี การเดินทางไปกลับก็ใช้เวลาหลายชั่วโมง

“อย่าลืม อาหารกลางรันและอาหารคํ่า เอาแบบไทย ๆ นะ ส่วนผับ ผม

ขอที่หรูๆ แถวๆ สุขุมวิทก็แล้วกัน” มีสเตอร์จอห์นระบุรายละเอียด

“ได้ค่ะ” ปุษยารีบจด เธอมีลิสต์ร้านอาหารที่บอสชอบเป็นแถวยาวเหยียด รวมไปถึงแหล่งบันเทิงยามคํ่าคืน ซึ่งมีสเตอร์จอห์นมักจะบอกให้เธอบันทึกลงไป

 

ทุกครั้งหากประทับใจที่ใด เพี่อจะได้รับรองแขกของบริษัทในภายหลัง

ปุษยาวางโทรศัพท์ไป แล้วรีบติดต่อร้านอาหารให้เจ้านายทันที แล้วจึง แจ้งพนักงานขับรถให้เปลี่ยนเป็นรถตู้ เพี่อจะให้ทีมวิศวกรรวมไปถึงเจ้านายของ เธอนั่งสบายๆ ไปกลับชลบุรี

โชคดีที่มิสเตอร์จอห์นไม่เคยเรียกให้เธอไปรับรองแขกในยามคํ่าคืน พร้อมกับเขา เธอเคยไปรับประทานอาหารกับแขกบ้างเมื่อการรับประทานอาหาร นั้นเป็นการตกลงทางการค้า แต่ไม่เคยไปเมื่อเป็นการลังสรรค์ส่วนตัว และหลัง จากรับประทานอาหารเย็นแล้วเธอก็จะกลับบ้าน ซึ่งเจ้านายของเธอก็เข้าใจดี

ไม่เคยบังคับให้เธอต้องตามไปซึ่งทำให้เธอค่อนข้างสบายใจกับงานที่ทำอยู่ ไม่ เช่นนั้นเธอคงได้ยื่นใบลาออกไปหลายหน เพราะทุกครั้งที่มีแขกมาจากสำนักงาน ใหญ่ ต้องมีฝรั่งชีกอลักคนสองคนที่มาคอยตามตื๊อเธออยู่เป็นประจำ เธอ

พยายามวางเฉยเสีย และทำใจว่าอีกไม่นานพวกนี้ก็กลับ แล้วก็โชคดีที่พวกเขา

ยอมรามือ เมื่อเห็นว่าเธอไม่เล่นด้วยจริงๆ

ส่วนเจ้านายของเธอก็ไม่เคยสร้างความลำบากใจให้กับเธอ เพราะเขามี ครอบครัวสุขสันต์อยู่พร้อมหน้าพร้อมตาที่กรุงเทพฯ นี่อยู่แล้ว และเขาเป็น คนที่รักภรรยาและครอบครัวมาก จึงไม่เคยมาวอแวฉันชู้สาวกับเธอ ซึ่งนับว่า เป็นความสบายใจที่สุดที่ได้ทำหน้าที่เลขาฯ ของมิสเตอร์จอห์น แถมเงินเดือน ก็ยังสูงลิ่ว จึงทำให้เธอไม่เคยคิดจะเปลี่ยนใจไปทำงานอื่นในเร็วๆ นี้

 

“นี่ตัวเอง บ่ายขนาดนี้แล้วยังไม่เห็นเข้ามาอีก ตกลงมีฝรั่งมาจากสำนักงาน

ใหญ่จริง ๆ หรือเปล่านี่” สารีณีเจ้าเก่ากลับมาเท้าแขนข้างโต๊ะทำงานของปุษยา

อีกครั้งในตอนบ่ายด้วยทำทางเซ็ง ๆ

“ไม่มาแล้วละพี่นี บอสพาไปที่นิคมอุตสาหกรรมชลบุรีโน่น จะเลยไปกิน- เลี้ยงกันเลยตอนเย็น” ปุษยาบอก พร้อมกับรวบรวมเอกสารส่าหรับการประชุม

ในรันรุ่งขึ้น และจัดแยกเข้าแฟ้มสำหรับผู้เข้าร่วมประชุมอย่างเป็นระเบียบเรียบ- ร้อย

“อาไร้ ใจคอจะไม่แวะมาที่บริษัทนี่ลักหน่อยเชียวหรือ ใจร้ายกันจริง คน อุตส่าห์ตั้งหน้าตั้งตาคอย” สารีณีปน เป็นเวลาเดียวกับที่ดารัตน์เดินเข้ามาสมทบ เมื่อแซมเจ้านายของเธอก็เดินทางไปกับขบวนของมิสเตอร์จอห์น จึงมีเวลาว่าง

มานั่งเมาท์ด้วย

“พี่นีก็ พรุ่ง,นี้ก็มา ใจร้อนไปได้” ดารัตน์บอก ทำเสียงอ่อนใจ

“แหม ก็แน่,สิยะ น้องดาจ๋า ก็หนูน่ะมีมิสเตอร์แซมให้ต้องคอยสนใจ

ส่วนหนูป่านของเราก็มีคู่หมั้นคู่หมายแล้ว ก็มีแต่พี่แห้งเหี่ยวหัวโตแบบนี้ ถ้าไม่

 รีบหา มีหวังได้เกาะคานไปจนตาย” สาริณีทำเสียงสะบัดงอนๆ

ดารัตน์หน้าแดงซ่าน ข่าวเรื่องแซมจีบเลขาฯ หน้าห้องนั้นถูกเมาท์กันไป ทั่วบริษัท หลายคนอิจฉาตาร้อนที่ดารัตน์สามารถพิชิตใจเจ้านายฝรั่งหนุ่มโสด

ไปได้ และหากสองคนนี้คบกันออกหน้าออกตาเมื่อไร ดารัตน์คงต้องออกจาก

งาน เพราะถือเป็นกฎเหล็กของที่นี่ ที่ห้ามพนักงานชายหญิงที่เป็นสามีภรรยา ทำงานด้วยกัน แม้แต่เป็นแฟนกันก็ยังต้องระวังตัว และใครคนใดคนหนึ่งต้องไป แต่ในกรณีของดารัตน์ คงจะเป็นฝ่ายหญิงเสียมากกว่าที่ต้องเสียสละ

“พี่ก็ มาตั้งสี่คน คราวนี้มีให้เสือกตั้งเยอะแยะน่า” ดารัตน์ปลอบใจ

“รู้ย่ะ แต่คนมันใจร้อน อยากเห็นหน้า จะได้เสือกก่อนที่คนอื่นจะตัดหน้า ไปย่ะ” สาริณีตอบ แต่ยังไม่ยอมรามือง่าย ๆ หันมาสะกิดปุษยา “แล้วนี่มีชื่ออะไร บ้างพอจะรู้บ้างไหม”

สองเลขานุการสาวหันมาสบตากัน แล้วก็ยิ้มพราย “ถามดาก็ได้ ดารู้ค่ะ” ดารัตน์อาสาตอบ “มีชื่อ นิโคลัส แบรนดอน แอนดรู แล้วก็นาธานค่ะ”

“ตาย ชื่อหล่อ ๆ ทั้งน้าน” สาริณีทำหน้าเคลิ้ม “หล่อไม่หล่อเดี๋ยวก็รู้” ดารัตน์บอก

“แล้วตกลงเข้าประชุมพรุ่งนั้กี่โมงนะ” สาริณีถามเพี่อความแน่ใจ “เผื่อ

จะได้แวบ ๆ มาแถวหน้าห้องประชุม”

“เก้าโมงครั่งค่ะพี่” ปุษยาตอบแทน “แต่ป่านว่า พี่นิใจเย็นๆ ก็ได้ค่ะ

เดี๋ยวก็เห็นกันจนชิน”

“ก็พี่มันคนใจร้อน” สาริณีบอก แต่ก็ทำทำตัดใจ “ก็ได้ พรุ่งนี้ก็พรุ่งนี้

จะมาดูสิว่าสี่หนุ่มจะมีคนไหนหล่อต้องตาสาริณีบ้าง มากันเป็นพวงแบบนี้ คงจะ

มีใครตาดีคว้าหญิงไทยคนสวยคนนี้ไปเชยชมบ้างหรอกน่า” สาริณีทำทำเคลิ้มฝัน ทำให้สองเลขาฯ สาวหันมาสบตากันแล้วก็อดอมยิ้มออกมาไม่ได้

 

ตลอดบ่ายนั้นปุษยาง่วนอยู่กับการเคลียร์งานที่เหลือ กว่าจะออกจาก

ที่ทำงานได้ก็ล่วงไปถึงห้าโมงครึ่ง ซึ่งใกล้เวลาที่ภานุวัฒน์จะเลิกงานแล้ว เธอจึง เร่งฝีเท้าไปรอที่ริมฟุตบาท เมื่อรถบีเอ็มซีรี่ห้ารุ่นล่าสุดสีบรอนซ์เงินของภานุวัฒน์ แล่นเข้ามาเทียบเธอก็เปิดประตูก้าวขึ้นไปนั่งเคียงข้าง

“เป็นไงบ้างวันนี้ เหนื่อยไหม” ภานุวัฒน์ทักทาย พร้อมล่งยิ้มหวาน เขารู้ จากปุษยามาหลายวันแล้วว่าต้องทำงานหนักหน่อยในช่วงนี้ เพราะบริษัทกำลัง

มีโครงการใหม่ แถมยังต้องคอยดูแลแขกต่างชาติที่มาใหม่อีกด้วย

“วันนี้เตรียมเอกสารอย่างเดียว วิศวกรที่มาจากอเมริกายังไม่เข้าบริษัท

เลยค่ะ เพราะคุณจอห์นพาไปดูโรงงานที่ระยองโน่นแน่ะ” ปุษยาตอบพร้อม รอยยิ้มบางๆ

“พอโปรเจ็กต์ใหม่เริ่ม ป่านต้องทำงานเหนื่อยแน่ๆ เลย” ภานุวัฒน์ทาย

“นี่ถ้าแต่งงานกันแล้วนะ พี่ไม่อยากให้ป่านต้องมาเหนื่อยแบบนี้อีก อยากให้ป่าน เป็นแม่บ้าน และคอยเลี้ยงลูกเราอย่างเดียว” เขาแจ้งความประสงค์ “เงินเดือน

ของพี่เลี้ยงป่านได้สบาย ๆ”

“ก็จริงค่ะ แต่ป่านเสียดายรายได้ตั้งเยอะ ถึงเงินเดือนพี่วัฒน์จะสูงกว่า

ป่านหลายเท่า แต่ป่านก็ภูมิใจนะคะที่ทำงานหาเงินได้ด้วยลำแข้งของตัวเอง อีก อย่างเดี๋ยวนี้ผู้หญิงสมัยใหม่สามารถทำงานและเป็นแม่บ้านได้ดี ป่านยังไม่อยาก ลาออกไปทำงานบ้านเฉย ๆ น่ะค่ะ”

ภานุวัฒน์เอื้อมมือมากุมมือคู่'หมั้นสาว แล้วยกขึ้นประทับจุมพิตบน

หลังมืออย่างรักใคร่

“แต่พี่ไม่อยากให้ป่านเหนื่อย พี่เลี้ยงป่านได้” เขายืนกราน

ปุษยาเห็นว่าทั้งสองเคยโต้เถียงเรื่องนี้มาหลายครั้งแล้ว และไม่เคยได้ ข้อสรุปเสียที จึงไม่อยากเสียเวลาโต้เถียงกับเขาอีกต่อไป

“แล้วเราค่อยคุยกันดีไหมคะ อีกอย่างงานแต่งก็ยังอีกตั้งหลายเดือน เรา

ค่อย ๆ มาหาข้อดีข้อเสียแล้วคุยกันใหม่ดีกว่า” เธอประนีประนอม

“ก็ได้จ้ะ นี่พี่ไม่เข้า'ใจ'จริง ๆ ว่าทำไมแม่ต้องหาฤกษ์หมั้นกับฤกษ์แต่ง

ห่างกันเสียขนาดนี้ พี่อยากให้เราสองคนแต่งงานกันเร็ว ๆ ใจจะขาดอยู่แล้ว ไม่รู้

ว่าทำไมช่วงนี้ไม่มีฤกษ์ดีๆ เลยหรือไง” ภานุวัฒน์บ่น

 

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ อย่างนี้ก็ดีแล้วนี่คะ จะได้มีเวลาจัดหาชื้อของได้ทัน ห่วงที ไม่ต้องห่าแบบฉุกละทุกเหมือนบางคู่” เธอปลอบ ค่อย ๆ ดึงมือออกจาก

การเกาะกุมของชายหนุ่ม รู้สึกอึดอัดขึ้นมาทันทีเมื่อเอ่ยถึงภารตี มารดาของเขา

ปุษยารู้ว่าภารตีนั้นไม่ค่อยเห็นด้วยกับการหมั้นหมายของบุตรชายนัก

เธอมั่นใจเสียด้วยซ้ำว่าหล่อนไม่อยากให้มีงานมงคลเกิดขึ้นเลย เพียงแต่ไม่กล้า

ขัดใจลูกชายหัวแก้วหัวแหวน แม้จะไม่เอ่ยปากออกมาตรง ๆ ปุษยาก็ดู'จาก

ท่าทางของหล่อนออก

ทำไมน่ะหรือ ค่าตอบง่ายมาก ก็ใครล่ะอยากจะให้ลูกชายที่เพียบพร้อม อย่างภานุวัฒน์ต้องมาแต่งงานกับหญิงสาวที่มีตำหนิอย่างเธอ...

แม้ปุษยาจะไม่ได้ผ่านการสมรส แต่เธอก็มีบุตรชายอายุสี่ขวบที่เป็น หลักฐานยืนยันการกระทำอันไม่งามในอดีตชองเธอ แต่เธอไม่แคร์ ใครจะนินทา ว่าร้ายอย่างไรก็ช่าง เธอตั้งใจอุ้มท้องกุญช์กรินทร์ด้วยความรักและทะนุถนอม เพราะเขาเป็นเพียงสายใยผูกพันเดียวที่ยังหลงเหลืออยู่ ที่เชื่อมโยงเธอกับ

กรินทร์ไร้ด้วยก้น เป็นเพียงสิ่งเดียวที่เหนี่ยวรั้งเธอมิให้ตายตามชายอันเป็นที่รัก

ไปนับแต่ได้ข่าวการหายสาบสูญไปชองเขา

ภารตีนั้นตั้งห่ารังเกียจตั้งแต่เธอท้องโตเดินทางเช้ามากรุงเทพฯ พร้อม

กับแม่เพี่อมาขอเช่าบ้านหลังเล็กภายในเขตบ้านชองหล่อน

เวลานั้นปุษยาไม่อยากย้ายเช้ามาในกรุงเทพฯ เลย แต่ด้วยสถานการณ์ บังคับ บ้านที่เคยเช่าก็ถูกเจ้าชองคนใหม่ชายทอดตลาด รายได้ชองแม่ก็ไม่ได้ มากมายพอจะเลี้ยงเธอคับลูกที่กำลังจะคลอด ในเวลานั้นเอง ภานุวัฒน์ ลูกผู้พี่

ของภาวิตาเพื่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัยได้ยื่นมือเช้ามาช่วยเหลือ

เธอรู้จักภานุวัฒน์ตั้งแต่เช้าเรียนมหาวิทยาลัยชั้นปีที่หนึ่ง ขณะนั้นเขาเป็น นักศึกษารุ่นพี่ปีสี่ เช้ามาตามจีบเธอตั้งแต่ครั้งแรกที่พบกัน แต่เธอกลับเคารพ

เขาเหมือนพี่ชายคนหนึ่ง เพราะหัวใจของเธอมีกรินทร์เป็นเจ้าของทั้งดวงอยู่แล้ว

ภานุวัฒน์ดูเหมือนจะเช้าใจ จึงถอยห่างไป และทันทีที่เขาทราบข่าวการหายตัวไป ของกรีนทร์จากภาวิตาซึ่งขณะนั้นสองพี่น้องกำลังเรียนอยู่ที่อเมริกา เขาก็ เดินทางมาหาเธอที่เชียงใหม่ พร้อมคับเสนองานรายได้ดีให้เธอ ปุษยาจำต้อง คว้างานแรกที่ผ่านเช้ามา เพราะในสภาพตั้งครรภ์อย่างเธอไม่ใช่จะมีงานมาให้ 

 

       (โปรดติดตามต่อในฉบับเต็ม)


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (95 รายการ)

www.batorastore.com © 2024