รสล้ำตำรับรัก (ดาริยา)

รสล้ำตำรับรัก (ดาริยา)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786160018536
มีสินค้าในสต็อค
ราคา: 270.00 บาท 67.50 บาท
ประหยัด: 202.50 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

                  คุณครูขี้เก๊กปะทะเด็กข้างบ้าน

 

“ผมบอกคุณแล้วนะ ว่าห้ามคน!”

เสียงทุ้มปรามลั่นครัว พร้อมมือแข็งแกร่งที่ซัดเผียะลงบนหลังมือ

บอบบางของหนูจ๋า ทำเอาหญิงสาวหน้ามุ่ย เผลอถลึงตาใส่อีตาคุณครูสอน

ทำอาหารซึ่งเธอตั้งใจไว้แล้วว่าจะพยายามอ่อนน้อมถ่อมตนกับเขา หลีกเลี่ยง

การปะทะ เพื่อให้ความมุ่งมั่นฝันใฝ่ของเธอบรรลุผล

คนเพิ่งถูกทำโทษพยายามข่มอารมณ์ขณะวางทัพพีลงในชาม ยืน

ตัวตรงเพ่งมองน้ำต้มยำที่กำลังเดือด เนื้อปลาช่อนที่ใส่ลงไปเมื่อครู่มองด้วย

ตาคนไม่เคยเข้าครัวก็รู้ว่ายังไม่สุก...ก็มันยังดูใสๆ อยู่เลย หญิงสาวอดไม่ได้

จึงบ่นไปไม่เต็มเสียงนัก

“บอกกันดีๆ ก็ได้ ไม่เห็นต้องตีเลย”

เท่าฟ้าคงไม่รู้หรอกว่าเมื่อครู่นี้มืออันนุ่มนวลของสาวน้อยผู้ไม่ค่อย

เคยหยิบจับอะไรอย่างเธอเพิ่งต้องมือชายเป็นครั้งแรก...ไม่นึกเลยว่าจะเป็น

แบบนี้ เจ็บชะมัด แทนที่จะเป็นสัมผัสแผ่วชวนวาบหวามแบบในนิยายที่

เธอเคยอ่าน

“ก็คุณน่ะ กวนอารมณ์ผมอยู่เรื่อย เริ่มตั้งแต่หั่นตะไคร้แล้วรู้มั้ย

ใครเขาหั่นสั้นขนาดนั้น ตามตำราดั้งเดิมน่ะต้องค่อนข้างยาว จะได้คัดออก

บ้างถ้าจำเป็น อีกอย่างนึงเราเอาตะไคร้ไปทุบด้วย ยังไงกลิ่นก็ออก เลยไม่ต้อง

หั่นชิ้นเล็กมากนะ จำไว้ นี่ถ้าวิญญาณย่าน้อมของผมมาเห็นคุณหั่นตะไคร้สั้น

จนแทบเหมือนซอยละเอียดแบบนี้ มีหวังโดนค่อนขอดว่าเนื้อคู่คุณน่ะอยู่ใกล้”

จ๊าก! ไม่นะ หนูจ๋าตะโกนลั่นในใจ ขอร้องละ จะอยู่ใกล้แค่ไหนก็ขอ

อย่าให้ถึงขนาดอยู่รั้วติดกันเชียว เธอไม่อยากให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย...ต้อง

ไม่เป็นอย่างนั้น ไม่มีวันเด็ดขาด

กลิ่นหอมที่ปะปนกันทั้งตะไคร้ ใบมะกรูด และข่าแก่นั้นอบอวลไป

ทั่วห้องครัว แต่ก็ไม่ช่วยให้บรรยากาศแห่งความตึงเครียดคลายลงเลย แววตา

แข็งกร้าวของเท่าฟ้าเลื่อนจากใบหน้าเธอสูงขึ้นไปอีกนิด ปากก็บอก

“แล้วคราวต่อไป ไอ้ผมยาวๆ เนี่ย รวบซะด้วย ไม่ใช่รวบธรรมดานะ

เกล้าเป็นมวยขึ้นไป เก็บผมให้หมด”

ผู้ชายข้างบ้านสั่งด้วยน้ำเสียงจริงจัง สายตาคมจ้องมองเรือนผมยาว

สลวยสีดำอมน้ำตาลเงางามของเธอจนหญิงสาวต้องยกมือขึ้นลูบศีรษะ มั่นใจ

ว่าขณะนี้ผมเส้นเล็กนุ่มๆ ต้องยุ่งเหยิงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เพราะกิจกรรม

ในครัวที่ครูหนุ่มระดมสั่งให้เธอทำสารพัด เริ่มตั้งแต่หั่นและล้างเนื้อปลาช่อน

คาวๆ กันทีเดียว ครั้งแรกเลยนะ ที่เธอจำต้องใช้มือสัมผัสเนื้อปลาสดๆ ลื่นๆ

...มันใกล้เคียงกับคำว่าขยะแขยง แต่เพื่อบรรลุเป้าหมาย ยังไงหนูจ๋าก็สู้

“อะไรนะ ให้เกล้ามวยมาฝึกทำกับข้าวเนี่ยนะ” เธอแหวออกไป

อย่างน้อยเขาควรรู้ว่าไอ้ที่ยอมมาตลอดเช้าน่ะ เธอจำฝืนใจหรอกน่า ใครๆ

ก็ไม่อยากโดนวางอำนาจใส่ตลอดเวลาทั้งนั้น

“ใช่ นั่นเป็นคำสั่งที่คุณต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ผมไม่ให้ใส่

หมวกคลุมไว้ก็บุญแล้ว เรื่องความสะอาดสำคัญมาก คิดดูว่าถ้าอาหารของ

ร้านคุณมีเส้นผมตกลงไป ลูกค้าจะเสียความรู้สึกขนาดไหน ครั้งเดียวเขา

ก็บ๊ายบาย ไม่มาเหยียบร้านอีก”

จริงอยู่ ไอ้ที่พูดมาทั้งหมดนั่นเป็นความจริง แต่วิธีการอธิบายมันไม่ใช่

เลย ก็เคยได้ยินมาหรอกนะ ว่าหลานชายปู่ทองเป็นคนดุ แต่ไม่นึกว่าจะกล้า

ทำกับเธอด้วย เขาลืมไปรึเปล่าว่าเธอเป็นหลานยายส้มจี๊ด กิ๊กเก่าของปู่ทอง

ไม่ใช่แค่เด็กข้างบ้านที่เคยเล่นด้วยกันสมัยยังเล็ก เธอโตแล้วนะ ยังไงก็น่าจะ

เกรงใจกันบ้าง นี่อะไร เอาแต่ดุๆๆ ตั้งแต่เริ่มเข้าครัวตอนแปดโมง จนป่านนี้

จะเที่ยงแล้วยังบ่นเรื่องนั้นเรื่องนี้ไม่เลิก

“ตกลงจะทำตามที่ผมบอกมั้ย พรุ่งนี้เกล้าผมมาด้วยนะ เก็บให้

เรียบร้อย” เขาสำทับ ดวงตาสีนิลจ้องตาเธออย่างคาดคั้นไม่ลดละ

“ค่ะ”

หนูจ๋าจำต้องตอบออกไปเบาๆ...เดี๋ยวก่อนเถอะ นี่วันแรกยังไม่อยาก

แผลงฤทธิ์ เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่จะยอมให้ใครโขกสับกันง่ายๆ หรอกนะ ถึงคนโขก

จะหน้าตาดีจนน่าหมั่นไส้ก็เถอะ ดูสิ มาสอนทำครัวดันแต่งตัวอย่างกับคุณชาย

หลงยุค เสื้อคอโปโลสีน้ำตาลเข้มควรสวมกับยีนเท่ๆ ไม่ใช่กางเกงสแล็กส์

สีครีมแบบนี้ นึกแล้วมันน่าแกล้งทำน้ำต้มยำกระเด็นใส่ซะจริง ได้ข่าวว่า

เดี๋ยวต้องใส่น้ำพริกเผาด้วย จุดด่างดวงคงชัดดีพิลึก

“เอาละ น้ำเดือดมาพักใหญ่แล้ว ทีนี้คุณลองสังเกตว่าเนื้อปลาเริ่ม

เปลี่ยนจากใสๆ เป็นสีขาว นั่นคือสัญญาณว่าสุกแล้ว เห็นมั้ย” เขาชี้นิ้วไป

ในหม้อที่มีควันลอยออกมาตลอดเวลา

“คนได้รึยัง”

“คุณนี่! เป็นอะไรกับการคนของในหม้อนะ คันไม้คันมืออยากคน

เสียจริง บอกแล้วว่าถ้ารีบคนปลาจะคาว กินไม่อร่อย” ดวงตาคมของคนพูด

สำรวจเนื้อปลาในหม้อจนมั่นใจว่าสุกทุกชิ้น จึงบอกต่อ “อะ ตอนนี้อนุญาต

แล้ว คนเบาๆ ล่ะ แค่พอให้เนื้อปลาที่เราหย่อนลงไปกระจายตัว” เขาส่ง

ทัพพีให้เธอ ก่อนบอกด้วยน้ำเสียงที่ถ้าฟังไม่ผิด เหมือนจะนุ่มนวลขึ้น...

นิดเดียว “คุณเริ่มได้กลิ่นของต้มยำแล้วใช่มั้ย ตะไคร้ ใบมะกรูด ข่าแก่

รวมทั้งหอมแดงบุบที่เราใส่ลงไปจะส่งกลิ่นอบอวลเลย จะว่าไปก็น่าภูมิใจนะ

แค่ต้มยำ เมนูง่ายๆ ของไทยเรา ฝรั่งได้กลิ่นไม่มีทางนึกออกว่าส่วนผสม

มีอะไรบ้าง เสน่ห์ของอาหารไทยคือเครื่องปรุงและเครื่องเทศที่หลากหลาย จำเอาไว้ด้วย”

หนูจ๋าฟังไป มือก็คว้าทัพพีมาคนเบาๆ พอให้เนื้อปลาช่อนแยกออก

จากกัน กลิ่นต้มยำหอมฉุยพาให้รู้สึกภูมิใจยังไงไม่รู้ นี่เป็นการเข้าครัว

ครั้งแรกในชีวิต เธอทำได้ขนาดนี้ก็ควรรู้สึกดีไม่ใช่หรือ

“แล้วมะนาวใส่ตอนไหน...คะ”

อยู่ด้วยกันในครัวมาเกือบสี่ชั่วโมง โดนดุจนหูชา หนูจ๋าแทบไม่อยาก

พูดคะขากับอีตานี่แล้ว คำสุดท้ายกว่าจะหลุดออกมาได้ บังคับปากแทบแย่

“ให้คุณลองเดาดีกว่า ตามความคิดคุณ น่าจะใส่มะนาวตอนไหน”

ชายตัวโตยืนกอดอกถามอย่างเป็นต่อ ดวงตาทรงพลังจดจ้องบนใบหน้า

ชื้นเหงื่อของสาวน้อย พร้อมอมยิ้มนิดๆ

“นี่เนื้อปลาก็สุกแล้ว น้ำกำลังเดือด ใส่ลงไปเลยก็ได้มั้ง” หนูจ๋าเดา

“จำไว้ว่าการทำอาหารต้องมีหลักการ คำว่า ‘มั้ง’ น่ะ ตัดทิ้งไปได้ คุณต้อง

รู้ลึก รู้จริง อย่างต้มยำเนี่ย ถ้าคุณบีบมะนาวลงไปในหม้อเดือดๆ สิ่งที่ตามมา

คือความขม กลิ่นและรสที่ผิดไป ไม่สดใหม่ เอาเป็นว่าเราต้องทำอะไรต่อไป

คุณตามมาดูเอง อ้อ หรี่ไฟก่อนก็ได้ เดี๋ยวน้ำขุ่นหมด”

‘พ่อจอมละเอียด’ หันมาสั่ง จุกจิกเสียจริงกับทุกขั้นตอน ถ้าบอกว่า

อีตานี่เป็นเก้งแฝงตัวมา หนูจ๋าเชื่อร้อยเปอร์เซ็นต์ หญิงสาวหรี่ไฟ ก่อนหัน

ไปยังโต๊ะไม้กลางครัว ซึ่งใช้เป็นที่จัดเตรียมอาหารก่อนปรุง ชายหนุ่มร่างสูง

สง่าไม่เหมาะกับสถานที่กำลังคว้ามะนาวที่ล้างแล้วมาผ่าซีก เขาไม่ยักผ่าครึ่ง

เป็นสองชิ้น แต่กลับผ่าแบบเลี่ยงไส้ตรงกลาง

“การฝานมะนาวนี่แล้วแต่คนถนัดนะ สำหรับผม การผ่าครึ่งแล้วบีบ

พร้อมไส้ทำให้เราต้องคอยระวังเม็ด ผมชอบฝานแบบไม่ติดเม็ดเลย เวลา

ใช้ก็สะดวก อันนี้ไม่ใช่วิถีโบราณหรอก บางอย่างเราก็เลือกตามถนัด คุณ

เป็นลูกศิษย์ผม ก็ทำอย่างผมไปก่อนแล้วกัน ลองดูซิ ทำไปพร้อมๆ กัน

เราต้องใช้มะนาวเยอะ ต้มยำปลาช่อนรสเปรี้ยวต้องนำ”

หนูจ๋าจำต้องรับมีดและมะนาวอีกลูกมาวางลงบนเขียงไม้ อันที่จริง

เขาสาธิตให้ดูจนจบก็หมดเรื่อง ทำไมต้องให้เธอลงมือทำทุกขั้นตอนมาตั้งแต่

เช้า ทำจนมือไม้เมื่อยไปหมด หญิงสาวจดคมมีดลงบนผิวลื่นๆ ของมะนาว

การจะเฉือนไม่ให้โดนไส้ที่ติดเม็ดมาด้วยนั้นยากกว่าผ่าครึ่งตั้งเยอะ...

หาเรื่องเสียจริง

แล้วก็ได้เรื่อง เมื่อออกแรงลูกมะนาวก็หมุนติ้ว มีดที่ควรกรีดลงบน

ผิวมะนาวกลับกรีดผิวเธอเสียเอง

“โอ๊ย!”

หญิงสาวร้องลั่นครัว ยกนิ้วชี้ขึ้นดูก็พบว่ามีเลือดออกซิบๆ เท่าฟ้า

รีบคว้ามือเธอไปสำรวจ แววตาเขาดูตื่นตระหนกไม่น้อย

“มีดบาดจนได้ รีบมาล้างมือก่อน”

ชายหนุ่มจูงเธอเดินไปยังอ่างล้างจาน เปิดก๊อกให้น้ำไหลผ่านนิ้วชี้

คนเพิ่งโดนคมมีดแสบแผลจนน้ำตาไหล

“เกิดอะไรขึ้นเนี่ย นังหนูจ๋าของยายจี๊ดเป็นอะไรไป”

เสียงยายส้มจี๊ดมาพร้อมร่างผอมอันแสนคล่องแคล่ว ผ้าถุงลายไทย

ถูกถลกขึ้นเล็กน้อยเพื่อให้เดินได้ไวเท่าที่ใจต้องการ ไม่กี่วินาทีนางก็มาถึง

อ่างล้างจานที่สองหนุ่มสาวยืนอยู่ก่อนแล้ว

“มีดบาดน่ะครับคุณยาย นิดเดียวเอง ไม่ลึกมาก” เท่าฟ้าหันไปส่งยิ้ม

เจื่อนๆ ให้หญิงสูงวัยก่อนที่มือแข็งแกร่งจะคว้ามือหนูจ๋าไปสำรวจใกล้ๆ

“โถ! นังหนูของยาย”

เสียงยายส้มจี๊ดเต็มไปด้วยความห่วงใยสงสาร ราวกับหลานสาวเพิ่ง

โดนรถชนจวนสิ้นลม แต่พอเห็นว่ามือใหญ่ของชายหนุ่มกำลังเกาะกุมมือ

บอบบางของหลานเท่านั้น นางก็ตัดใจหันหลังเดินออกจากครัว ตะโกน

บอกคนรับใช้ที่ทำท่าจะวิ่งตามเข้ามา

“ไม่มีอะไรต้องตกใจ นังเหงี่ยม แกวิ่งขึ้นไปเอากล่องยาสีแดงๆ บน

บ้านมาให้คุณเท่าฟ้าทำแผลให้หนูจ๋านะ เสร็จแล้วก็รีบตามมานวดขาให้ข้า

ต่อบนเรือน เข้าใจมั้ย” เจ้าของเรือนดอกรักสั่งการเสียงเข้ม

“เจ้าค่ะ คุณนายส้มจี๊ด” หญิงรับใช้วัยกลางคนถลาตามแรง

กระชากแขนของเจ้านาย หายไปครู่เดียวก็กลับเข้ามาพร้อมกล่องปฐมพยาบาล

ก่อนวิ่งออกไปจากห้องครัวอีกครั้งอย่างรวดเร็ว

ครูหนุ่มพาลูกศิษย์สาวไปนั่งบนเก้าอี้ไม้เก่าๆ ตรงมุมห้อง ยกมือซ้าย

ที่มีบาดแผลขึ้นมาทายาให้ แล้วปิดแผลด้วยปลาสเตอร์ยาอย่างเบามือ กิริยา

ทั้งหมดนั้นช่างตรงข้ามกับตอนเขาเป็นครูสอนทำอาหารเสียจริงๆ...รวมทั้ง

สายตาอ่อนโยนที่ส่งมาแวบหนึ่งนั่นด้วย

“โชคดีที่แผลไม่ลึกมาก เราไปปรุงรสต้มยำกันต่อเลย” เสียงออกคำสั่งเข้มๆ กลับมาอีกครั้ง

“อะไรนะ ขอพักแป๊บไม่ได้รึไง ฉันยังเจ็บนิ้วอยู่เลย” หญิงสาวโอดโอย

“อย่าลืมว่าเรายังไม่ได้ปิดแก๊ส ขั้นตอนยังค้างคา แข็งใจอีกนิด ทำให้

เสร็จไปเลย คุณไม่อยากภูมิใจเหรอ ที่ทำต้มยำเป็นตั้งแต่วันแรกที่เข้าครัวน่ะ”

น้ำเสียงแบบปะเหลาะเด็กกับแววตาวับๆ ที่ส่งมาทำเอาหนูจ๋าใจเต้นแรง

...เธอไม่ได้คิดไปเองแน่ๆ มีแววเอ็นดูแฝงอยู่ในนั้น ชักอยากรู้ว่าอีตานี่ดุ

อย่างปากและการกระทำที่ผ่านมาราวสี่ชั่วโมงนั่นหรือเปล่านะ

“ขอบคุณที่ทำแผลให้ ฉันก็อยากทำต้มยำให้เสร็จเหมือนกัน”

เธอลุกพรวดขึ้นจากเก้าอี้ ไม่อยากนั่งเคียงข้างเขานานๆ เพราะเริ่ม

รู้สึกถึงไออุ่นๆ จากกายหนุ่ม ดูน่าอันตรายชอบกล เท่าฟ้าเดินตามมายืน

ใกล้ๆ ตรงโต๊ะกลางห้อง

“เอาเป็นว่าผมฝานมะนาวและบีบให้เลย กลัวคุณแสบแผล เฮ้อ!

วันแรกก็ได้เรื่องเสียแล้ว” ปากบ่น แต่มือเขาบีบมะนาวลงชามอย่างแคล่วคล่อง

ก่อนหันมาอธิบาย

“จำไว้ว่าต้มยำต้องปรุงสดๆ ทีละชามเท่านั้น บีบมะนาวลงไปแล้ว

ตามด้วยน้ำปลานิดนึง คุณจะสังเกตว่าในหม้อบนเตานั่น เราใส่เกลือลงไปแค่

พอปะแล่ม เราเน้นปรุงรสให้สมบูรณ์แบบกันในชามนี่ ดังนั้นปริมาณน้ำปลา

มะนาว พริกขี้หนูสวนจะเป็นตัวกำหนดรสชาติต้มยำกันชามต่อชามนะ”

“อ้าว! แล้วไม่ใส่น้ำพริกเผาเหรอคะ ฉันเห็นต้มยำส่วนใหญ่ใส่น้ำพริกเผาด้วยนี่นา”

ลูกศิษย์สาวถามขึ้น นอกจากเพื่อแสดงว่าเธอสนอกสนใจและมี

ภูมิความรู้อยู่บ้างแล้ว ยังถามเพราะรู้สึกผิดหวังอย่างแรงที่น้ำต้มยำไม่ดูข้นๆ

เป็นสีแดงอมส้มอย่างที่คิด โหย! อดแกล้งทำกระเด็นใส่กางเกงสแล็กส์สีอ่อนนั่นเลย

“ต้มยำปลาช่อนสูตรดั้งเดิมไม่ใส่น้ำพริกเผานะ จำไว้ ถ้าเป็นต้มยำกุ้ง

น่ะถึงจะใส่ คุณก็ตักน้ำพริกเผาลงไปผสมกับมะนาว น้ำปลาและพริกขี้หนู

ในชาม ปรุงรสทีละชามเหมือนเดิม ห้ามใส่ลงไปผสมในหม้อเด็ดขาด

เข้าใจมั้ย” เขาย้ำราวกับเป็นเรื่องสำคัญระดับชาติ

“เข้าใจค่ะ” เธอบอก รู้สึกทึ่งกับการปรุงโน่นนี่อันแสนคล่องแคล่ว

ของชายหนุ่มตัวโตๆ ไม่น้อย เผลอแป๊บเดียวครูหนุ่มก็พาชามเครื่องปรุง

ที่ผสมไว้ไปยืนหน้าเตา หญิงสาวเดินตามไปดูอย่างสนใจ เพิ่งรู้จริงๆ นะเนี่ย

ว่าต้มยำต้องปรุงสดๆ ทีละชาม อาหารไทยที่ใครคิดว่าง่าย กลับมีเทคนิค

แพรวพราวแอบซ่อนอยู่อย่างไม่น่าเชื่อ

เท่าฟ้าตักน้ำต้มยำร้อนๆ จากหม้อใส่ลงในชามแล้วคนให้เข้ากับ

เครื่องปรุงรสเข้มข้นในนั้น

“ผมสอนละเอียดนะ บอกเลยว่าไม่เคยทำแบบนี้กับใคร ทีนี้ลอง

สังเกตสิ ตอนตักขึ้นมา ผมเริ่มจากน้ำก่อน แบบนี้ อย่าเพิ่งตักเนื้อปลากับ

เห็ดฟางขึ้นมานะ มันจะเละหมด ผสมเฉพาะน้ำให้ได้รสชาติ เหลือที่ในชาม

ไว้ให้เนื้อปลากับเห็ดด้วย”

                                       (โปรดติดตามต่อในฉบับเต็ม)


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (95 รายการ)

www.batorastore.com © 2024