บอดี้การ์ด

บอดี้การ์ด

1 รีวิว  1 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786165000406
ของหมดถาวร (ต้องการสินค้า)
ราคา: 160.00 บาท 40.00 บาท
ประหยัด: 120.00 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

เมื่อชายหนุ่มร่างสูงใหญ่อย่างศิลาก้าวเข้ามาในสำนักงานก็เรียก

สายตาหลายสิบคู่ให้จ้องไปที่เขาเป็นตาเดียวกัน โดยเฉพาะบรรดาสาวๆ เพื่อน

ร่วมงานที่มีเพียงหยิบมือเดียว เป็นประจำทุกวันอย่างนี้มาตลอดห้าปีตั้งแต่ที่ศิลา

เข้ามาทำงานในบริษัทนักสืบและบอดี้การ์ดแห่งนี้

ศิลาเป็นหนุ่มวัยสามสิบสองปี รูปร่างสูงใหญ่เกินมาตรฐานชายไทย

มืใบหน้าหล่อเหลาคมคายชนิดที่เรียกว่าสมบูรณ์แบบเกินมนุษย์ทั่วไป เครื่องหน้า

ประกอบด้วยคิ้วหนาได้รูป ขนตายาวราวกับขนตาเด็กๆ ล้อมรอบดวงตาคมกริบ สีนิล

จมูกโด่งตรงรับกับริมฝีปากบางเป็นกระจับหากได้รูปสวย บอกถึงความ เป็นคนฝีปากจัดของเขา

เขายังโสดทั้งแท่ง และไม่ชายตามองผู้หญิงคนใด ต่อให้สวยหยาดฟ้ามา ดินมาจากไหน เขาก็จะมองแค่รอบเดียวแล้วผ่านเลย ไม่มีใครเคยดึงดูดความ สนใจจนเขาต้องเหลียวมองซ้ำได้ การปฏิบัติตัวของเขาต่อเพศตรงข้ามเป็นไป อย่างฉาบฉวย ชนิดที่เรียกว่าแม้ไม่ถึงกับแข็งกระด้าง หยาบคาย ดิบเถื่อน แต่ก็ ห่างไกลจากค่าว่าอ่อนโยนนุ่มนวลนัก เพราะสำหรับศิลา...เพศหญิงเป็นได้เพียง ตัวป่วนและก่อความยุ่งยากรำคาญใจให้แก่เขาเท่านั้น

ศิลามีประสบการณไม่ดีนักจากเพศตรงข้ามนับแต่สมัยเรียนจวบจนเข้าสู่ วัยทำงานในระยะเริ่มแรก ด้วยรูปร่างและใบหน้าที่หล่อบาดใจ ได้ชักพาให้สาว น้อยสาวใหญ่เข้ามาหาเขามากมาย และสุดท้ายมักจบด้วยเหตุการณ์ที่ทำให้เขา ตกที่นั่งลำบาก หรือไม่ก็อยู่ในสถานการณ์คับขัน เหตุนี้ศิลาจึงทำตัวเป็นปฏิปักษ์ กับสาวๆ ทั้งหลาย เหลือแค่สองวัยที่เขายังคงให้ความเคารพและรัก นั่นคือ หญิงแก่ กับเด็กเล็กๆ ไร้เดียงสา และด้วยเหตุที่เขาไม่สนใจเพื่อนต่างเพศในทาง ชู้สาว จึงถูกบรรดาเพื่อนร่วมงานแอบตั้งฉายาลับหลังว่าเทพบุตรเถื่อน หรือไม่ก็

เทพบุตรเกย์

“ศิลา...หัวหน้าเรียกแน่ะ”

เจ้าของชื่อเงยหน้าจากแฟ้มงาน เพิ่งทรุดลงนั่งได้ไม่กี่วินาที ภาคภูมิ ซึ่งเป็นบอดี้การ์ดอีกคนของสำนักงานก็เข้ามายืนหลังคอกกั้นและร้องเรียกชื่อเขา บริษัทนักลืบและบอดี้การ์ดที่เขาทำงานอยู่รับจ้างงานอารักขาให้แก่บุคคล สำคัญๆ มาแล้วทั่วราชอาณาจักรไทย กลุ่มบุคคลที่มักเรียกใช้บริการมากที่สุด คือ นักการเมืองทั้งระดับชาติและระดับท้องถิ่น รองลงมาคือกลุ่มนักธุรกิจ สำหรับคดีจ้างวานให้ลืบ ส่วนใหญ่จะเป็นคดีประเภทเมียหลวงจ้างให้ลืบว่าสามี ตัว เองมีบ้านเล็กบ้านน้อยชุกช่อนไว้ที่ไหน

“ขอบใจ” ศิลาพึมพำขอบใจสั้นๆ ก่อนจะก้าวตรงไปที่ห้องกระจกลีชา เจ้าตัวเคาะประตูสองสามครั้ง เมื่อได้ยินเสียงอนุญาตจากคนหลังประตู จึงผลัก เข้าไป

“นั่งก่อนศิลา ขอเวลาฉันเซ็นงานอีกแป๊บ” พ.ต.ท. พสุ ผู้มีศักดิ์เป็นทั้ง พี่ชายและหัวหน้าเอ่ยบอกโดยไม่เงยหน้าจากเอกสารกองโต

บริษัทนักลืบและบอดี้การ์ดเป็นบริษัทภายในครอบครัวที่ลืบทอดกิจการ ก้นมาหลายช่วงอายุคนแล้ว นับจากรุ่นปู รุ่นพ่อ จวบจนมาถึงรุ่นลูก หลังจาก พล.อ. ศิลักษณ์ วนาลักษณ์ ผู้เป็นปูเกษียณอายุราชการก่อนกำหนด ในตำแหน่ง รองผู้บัญชาการทหารบก ก็ได้มาเปิดบริษัทนักลืบและบอดี้การ์ด ทว่าบริหารได้ ไม่กี่ปีก็มอบกิจการให้แก่ลูกชายคนเดียวดูแลต่อ คือ พ.ต.ท. พายัพ วนาลักษณ์ ซึ่งลาออกจากราชการในตำแหน่งสารวัตร เพี่อมาดูแลกิจการของครอบครัว

ภายหลัง พ.ต.ท. พายัพแก่ตัวลง ก็ได้เกษียณอายุการทำงานและมอบ หมายให้ พ.ต.ท.พสุ ลูกชายคนโต ดูแลบริษัทแทน พ.ต.ท.พสุ เจริญรอยตาม พ่อโดยการลาออกจากราชการตำรวจมาดูแลกิจการ โดยมีศิลา น้องชายคนเล็ก ชองครอบครัวเป็นผู้ช่วย พสุกับศิลาอายุห่างกันมาก...เขาอายุมากกว่าน้องชาย คนเดียวถึงสิบปี

ศิลาทรุดนั่งตรงหน้าโต๊ะเงียบๆ แฟ้มเอกสารกองโตวางอยู่ด้านหน้าพี่ชาย เขา บดบังใบหน้าที่ครึ้มไปด้วยหนวดเคราจนเกือบมีด

คอนโดมิเนียม และกลับมากินข้าวกับครอบครัวนานๆ ครั้ง

ศิลาจบปริญญาตรีในเมืองไทย แล้วเดินทางไปศึกษาและฝึกฝนหลักสูตร การอารักขาบุคคลสำคัญเพี่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในต่างประเทศสี่ปี จากนั้น

ก็ศึกษาต่อปริญญาโทสองปีที่ประเทศเดิม แล้วจึงกลับมาทำงานที่บริษัทชอง

พ.ต.ท. พสุยังคงก้มหน้าเซ็นเอกสารง่วนอยู่อีกพักใหญ่ แล้วจึงเงยหน้า เลื่อนแฟ้มออกห่างจากตัวและเอ่ยว่า “เมื่อวานไม่ไปกินข้าวที่บ้าน แม่ถามถึง

นาย” เขาเกริ่นขึ้น

พสุแต่งงานมีครอบครัวแล้ว แต่ยังคงปลูกบ้านอยู่ในอาณาเขตชองเรือน ใหญ่ ต่างจากน้องชาย หลังสำเร็จการศึกษาจากเมืองนอก ก็ย้ายออกไปอยู่

ครอบครัว ซึ่งถึงตอน'นี้ก็เป็นเวลาห้าปีเต็มแล้ว

ทายาทคนเล็กชองครอบครัววนาลักษณ์ค่อนข้างแหวกแนวจากคนใน ตระกูล เนื่องจากทุกคนในบ้านริบราชการในวงการทหารหรือไม่ก็ตำรวจกันหมด ยกเว้นก็แต่ศิลา ช่วงแรกเจ้าตัวเกิดความไม่มั่นใจว่าอยากสิบทอดกิจการชอง ครอบครัว จึงไม่คิดจะทำงานเป็นบุคคลในเครื่องแบบ แต่เบนเข็มไปเรียนนิติ- ศาสตร์ แต่กระนั้น ช่วงที่อยู่เมืองนอก เจ้าตัวก็ได้ฝึกฝนหลักสูตรอารักขาบุคคล สำคัญ ก่อนจะศึกษาต่อปริญญาโททางด้านบริหารธุรกิจจนสำเร็จกลับมา

ประสบการณ์ในการฝึกอารักขาบุคคลสำคัญเป็นเวลาหลายปีในต่างประเทศ ชองศิลาเป็นประโยชน์ต่อกิจการชองครอบครัวอย่างมาก แต่ก็นำพาทัศนคติที่ ไม่ดีต่อผู้หญิงมาให้เขาเช่นกัน

“ผมติดงานต่างจังหวัดนิดหน่อย...พ่อเลี้ยงอดุลเรียกให้ไปช่วยงาน” ศิลา เอ่ยตอบขึ้น

 

คุณอดุลที่ศิลาพูดถึง คือ อดุล อุทัยรัตน์ ซึ่งกำลังวุ่นวายอยู่กับการ ลงพื้นที่เพี่อเตรียมหาเสียงสำหรับการเลือกตั้งระดับชาติที่จะมีขึ้นในเร็วๆ นี้ คุณอดุลเป็นหนึ่งในคณะรัฐมนตรี การเมืองกำลังร้อนแรง และคาดการณ์กันว่า จะมีการยุบสภาเพี่อเลือกตั้งใหม่ในเร็ววัน คุณอดุลจึงต้องลงพื้นที่ในจังหวัด เชียงใหม่ที่เป็นจังหวัดบ้านเกิดถี่ขึ้นเพี่อหาเสียง การแข่งขันในพื้นที่ก็เป็นไป อย่างรุนแรงและเข้มข้นมาก คู่แข่งฝ่ายตรงข้ามเร่งสร้างคะแนนกับชาวบ้านเพี่อ ตีตื้นความนิยมและมีการลอบฆ่าหัวคะแนนกันเป็นระยะๆ คุณอดุลไม่มั่นใจใน ความปลอดภัยชองตัวเอง ฉะนั้นทุกครั้งที่ลงพื้นที่ จึงเรียกตัวเขาให้ไปช่วย อารักขาอยู่เสมอๆ

พสุฟังคำน้องชายแล้วพยักหน้า เขากล่าวต่อว่า “งั้นอาทิตย์หน้า...ถ้าว่าง ก็กลับไปกินข้าวบ้านแล้วกัน” คนเป็นพี่สรุปแค่นั้นแล้วเปลี่ยนเรื่อง “ที่เรียกเข้า มาเพราะมีงานให้นายทำ” พสุหมุนเก้าอี้ เอี้ยวตัวไปหยิบแฟ้มเอกสารบน เคาน์เตอร์ด้านหลัง วางบนโต๊ะตรงหน้าน้องชายพลางเอ่ยว่า “ช่วงนี้เด็กๆ ติดงาน กันหมด เหลือนายว่างอยู่คนเดียว ไม่ได้รับงานเป็นชิ้นเป็นอันอะไร เพราะงั้น รับงานชิ้นนี้ไปหน่อยนะ”

ศิลาเอื้อมมือไปหยิบแฟ้มเอกสารตรงหน้ามากางออกอ่าน คิ้วเข้มขมวด มุ่นทันควันเมื่อเห็นใบหน้าชองผู้ว่าจ้างที่มาพร้อมกับรายละเอียดการว่าจ้าง

มุมบนซ้ายติดรูปภาพคนว่าจ้าง ใบหน้าอ่อนเยาว์สะสวย

ชื่อ...หวานใจ อัครภิญโญ

ภารกิจงาน...ช่วยคุ้มกันตัวซึ่งขณะนี้กำลังถูกคุกคามจากอิทธิพลมีด...

“ไม่!” ศิลาปิดแฟ้ม โยนไปตรงหน้าพี่ชายทั้งที่ยังอ่านไม่จบ “ผมไม่ขอรับ งานนี้” เขาปฏิเสธเสียงแข็ง สีหน้ากระด้าง แล้วใบหน้าเยาว์วัยสวยหวานราวกับ สาวเกาหลีชองผู้ว่าจ้างก็มาลอยเด่นอยู่ตรงหน้า... กระนั้นศิลาก็รีบปัดออกอย่าง ไม่ไยดี เสริมต่อว่า “ผมเคยบอกพี่ไร้แล้วว่า จะเป็นงานบุกปาฝ่าดงยังไง หรือ อันตรายแค่ไหนผมก็ไม่เกี่ยง แค่ไม่รับงานจากผู้หญิงหรือต้องไปคุ้มกันผู้หญิง เท่านั้น โดยเฉพาะเด็กสาวๆ อย่างนี้ด้วยแล้ว ผมขอบายเด็ดชาด พี่ไปจ่ายงาน ให้คนอื่นเถอะ”

“ก็พี่บอกแล้ว เด็กคนอื่นติดงานหมด เหลือแต่นาย”

“ยังไงผมก็ยืนยัน ไม่ขอรับงานเด็กคนนี้”

“คุณหวานใจไม่ใช่เด็ก... ในแฟ้มงานก็บอกอยู่ว่าอายุยี่สิบห้าแล้ว”

“แต่สำหรับผม...เด็กมาก” ศิลาจงใจเน้นคำว่า ‘มาก’ ก่อนกล่าวต่อว่า “ถ้าจะเป็นผู้หญิง ผมบอกแล้วต้องอายุห้าสิบปีขึ้นไปเท่านั้น ผมถึงจะรับงาน” ศิลายังคงยืนยันคำตอบเดิมเสียงหนักแน่น

พ.ต.ท.พสุ ท่าหน้าขัดใจอย่างไม่ปิดบัง “นี่ไม่ใช่การขอร้องนะศิลา แต่ เป็นการบังคับ นายได้ยินฉันหรือเปล่า ฉันขอสั่งให้นายรับงานของคุณหวานใจ” “เหตุผล?” ศิลาย้อนนี้เสียงแดกดัน

“ฉันบอกนายแล้ว คนอื่นติดภารกิจหมด เหลือแต่นายคนเดียวที่ยังว่างช่วงนี้ เพราะงั้นแหวกกฎกติกาตัวเองบ้างเถอะ กฎทุกอย่างย่อมมีข้อยกเร้นทั้งนั้น” พสุโต้กลับด้วยน้ำเสียงเผ็ดร้อนพอกัน

เขารู้ว่าน้องชายเกลียดเพศตรงข้าม เข้า'ขั้นแอนตี้ก็ว่าได้ โดยเฉพาะพวก สาวน้อยสาวใหญ่ เนื่องจากในช่วงที่ฝึกงาน และได้รับมอบหมายให์ไปคุ้มคัน สาวๆ ขณะอยู่ต่างประเทศนั้น ศิลาถูกหลอกให้ขึ้นเตียงหลายครั้งภายในปีเดียว พวกผู้หญิงไม่ว่าจะเป็นคนจ้าง หรือคนที่ได้รับการคุ้มคันต่างใช้กลอุบายต่างๆ เพี่อปลุกปลํ้าน้องชายเขา นับจากนั้นศิลาก็เข็ดขยาด และเอ่ยปากว่าจะไม่รับงาน จากพวกสาวๆ อีกเลย อย่างไรก็ตาม เขาคิดว่ากฎทุกข้อควรมีการยกเว้น โดย เฉพาะรายล่าสุดนี้...

“เหตุผลแค่นั้นไม่พอหรอก ทุกทีพี่ไม่เคยบังคับผมอย่างนี้”

พสุถอนหายใจอย่างเปิดเผย “ก็ได้...เหตุผลคือ รายนี้เขาเจาะจงว่าต้อง เป็นนายโดยเฉพาะ และเธอก็ทุ่มเงินไม่อั้น”

“ผู้หญิงที่ทุ่มเงินไม่อั้นเพี่อจ้างผมให้ไปคุ้มกันก็มีมาหลายรายแล้ว แต่ผม ไม่เคยเห็นพี่จะให้ความสำคัญมากเท่าคับรายนี้” ศิลาแย้ง พลางนึกต่อว่าที่ผ่านมา พอเขาปฏิเสธไป ผู้เป็นพี่ชายก็ตื๊อต่อพอเป็นพิธีเล็กน้อยเท่านั้น แต่เมื่อเขา ปฏิเสธจริงจังหนักแน่น อีกฝ่ายก็ล่าถอยไป แต่รายนี้แปลกจริงๆ พี่ชายเขาให้ ความสำคัญมาก

“รายนี้ฉันวิเคราะห์แล้วว่าไม่น่ามีพิษมีภัยเหมือนคับพวกสาวๆ เปรี้ยว เข็ดฟันที่นายเคยเจอมาหรอก อีกอย่าง หน้าตาจิ้มลิ้มอย่างกับดารารัยรุ่นเกาหลี

 

เธอดูซื่อๆ ใสๆ ไม่น่ามีลูกไม้ตุกติกอะไรกับนาย” พสุหว่านล้อม

“บอกผมมาตรงๆ ดีกว่า ว่าทำไมรายนี้ถึงได้รับเกียรติจากพี่ให้มาเกลี้ย- กล่อมผม ทุกทีพอผมปฏิเสธ พี่ก็ไม่เคยตื๊อหนักขนาดนี้”

พ.ต.ท. พสุ หลบสายตาน้องชาย กล่าวแค่ว่า “ก็ไม่มีอะไรนี่ ฉันบอกแล้ว ว่าเธอทุ่มไม่อั้น สู้ราคามากกว่าทุกรายที่ผ่านมา ทุกทีพอเรียกค่าจ้างสูงเป็นห้าเท่า หกเท่าของค่าตัวนายปกติบรรดาคุณเธอทั้งหลายก็ถอยแล้ว แต่'ราย,นี้สู้-ราคาไม่ถอย ฉันแกล้งบอกไปเป็นสิบเท่า เธอก็ยังโอเค”

ศิลาครางออกมาไม่ได้ศัพท์ “คุณพระ ผู้หญิงอะไรเนี่ย สู้ราคากันอย่างกับ จะประมูลรัวไปเชือดอย่างงั้นแหละ อีกอย่าง ผมไม่ใช่กระทิงหนุ่มนะพี่พสุที่จะ เป็นเหยื่อล่อให้พวกสาวๆ พาไปเชือดน่ะ”

พสุค้อนปะหลับปะเหลือก “นายก็พูดเกินไป” จ้องใบหน้าหล่อเหลา คมคายของน้องชายอย่างเขม่นๆ พลางโน้มน้าวต่อว่า “แล้วพูดก็พูดเถอะ คุณ หวานใจ...ดูซื่อๆ ใสๆ หน้าตาก็จิ้มลิ้มอย่างกับดาราวัยรุ่นเกาหลีอย่างงั้น ไม่น่า จะมีพิษมีกับอย่างที่นายกลัวหรอก”

“พี่เป็นพวกบ้าดารา บ้าผู้หญิงสวยๆ ตั้งแต่เมื่อไหร่” ศิลาประชดกลับไป

“ก็ตั้งแต่นายเป็นโรคกลัวผู้หญิงสวยนั่นแหละ” พสุเหน็บกลับไปบ้าง

ศิลาโต้ทันควัน “ผมไม่ได้กลัว แต่ขยาด” บอดี้การ์ดหนุ่มแก้ความเช้าใจ ชองอีกฝ่าย

“นั่นแหละ ความหมายไม่ต่างกัน ความจริงนายควรจะโทษหน้าตาตัวเอง มากกว่านะ ที่ ‘ล่อ’ ให้พวกสาวๆ อยากเช้าหา แต่ที่น่าสงสัยคือ รายแม่ตุ๊กตา เกาหลีคนนี้เคยไปเจอนายที่ไหนถึงได้ติดอกติดใจ รีเควสต์ให้มาเป็นบอดี้การ์ด ส่วนตัว ทั้งที่ถ้าดูจากประวัติ ไม่มีโอกาสเจอนายได้เลย เธออยู่เมืองนอกตลอด เวลาห้าปีที่ผ่านมา เพิ่งจะกลับมาเมืองไทยก็ในปีนี้” พสุพูดอย่างยั่วๆ น้องชาย ศิลาท่าหน้ากึ่งยิ้มกึ่งบึ้ง “ไม่ขำนะพี่พสุ”

“ไม่อยากรู้เหรอว่าเธอมีเหตุผลอะไรถึงได้เจาะจงให้เป็นนาย”

“ผมไม่อยากรู้” ศิลาเน้นเลียงตอบ

คนที่เป็นทั้งพี่ชายและหัวหน้าหัวเราะ ก่อนจะเย้าต่อว่า “เธออาจมีเหตุผล อื่นช่อนอยู่เบื้องหลังก็ได้นะ อาจไม่ใช่เรื่องหลงหน้าตานายอย่างที่นายกลัว แต่

อาจเพราะอยากให้ไปคุ้มกันความปลอดภัยจริงๆ ก็ได้” พสุยังคงยั่วต่อไป

“ดูจากนามสกุล ไม่ใช่คนเด่นคนด้งถึงขนาดต้องมีอิทธิพลมืดมาคุกคาม หรือจะต้องจ้างบอดี้การ์ดมาคุ้มกัน” ศิลาตั้งข้อสังเกต

“ฉันพูดจริง เธออาจมีเหตุผลช่อนอยู่เบื้องหลังจริงๆ ก็ได้นะศิลา ทำไม นายไม่ลองค้นหาดู”

“อย่าเสียเวลาหว่านล้อมเสียให้ยาก เสียเวลาเปล่า ผมไม่อยากค้นหา อีกอย่าง เห็นๆ อยู่ว่าเธอไม่ได้บริสุทธใจ แต่มีวัตถุประสงค์แอบแฝงอยู่เบื้องหลัง ไม่อย่างงั้นคงไม่ยอมสู้ราคาไม่ถอยอย่างงั้นหรอก เพราะงั้นโนเวย์ ผมไม่รับงานนี้ เด็ดขาด ถ้าพี่จะรับ พี่ก็’ไปเป็น'บอตั้การ์ด'ให้เธอเองละกัน”

“ไอ้หอกหัก...ฉันไม่คุ้มกันสาวๆ มาเป็นสิบปีแล้ว นายอยากให้พี่สะใภ้นาย อกแตกตายด้วยความหึงรืไง”

กิตติศัพท์ความขี้หึงของประกายฟ้า พี่สะใภ้ของศิลาเป็นที่สีอกระฉ่อน จนทำให้พี่ชายเขาต้องเลิกเป็นบอดี้การ์ดให้สาวๆ มาเกือบลิบปีแล้ว

ศิลาจนต่อเหตุผลของพี่ชาย เขาจึงตอบเลี่ยงไปว่า “ก็คงไม่ แต่ยังไงผม ก็ไม่ขอรับงานนี้ ผมไม่ชอบที่เธอเจาะจงให้เป็นผม มันดูจงใจและน่าสงสัยใน เจตนาเกินไป”

“ก็ถ้าไม่เจาะจง จะได้ตัวนายไปคุ้มกันไหมล่ะ?” คนที่เหนือกว่าด้วย อำนาจหน้าที่ย้อนกลับ

ศิลาขมวดคิ้ว “คำพูดพี่ฟังดูแปลกๆ อีกแล้วนะ มันฟังดูทะแม่งชอบกล ถามจริงได้มาเท่าไหร่ ถึงได้พยายามเชียร์เธอออกนอกหน้าอย่างงี้ ทำอย่างกับจะ จับคู่ให้ผมอย่างงั้นแหละ”

“บ๊ะ...ไอ้น้องกวนบาทาคนนี้นี่” พสุโยนเมล็ดถั่วบนจานใส่น้องชาย หาก อีกฝ่ายรับไวได้ทัน และขณะนี้ฝ่ายนั้นขยับตัวลุก และทำทำจะเดินออกจากห้อง พสุมองตาม พลางว่า “ศิลา...ฉันพูดจริงนะ งานนี้ ถ้าจำเป็นต้องลากคอนายเพี่อ ให้ไปคุ้มกันคุณหวานใจ ฉันก็จะทำ”

ทว่าคนเป็นน้องกลับเดินหลังตรงออกไปอย่างเฉยเมย เขาทำ ‘ตัว’ และ ทำ ใจ’ แข็งสมชื่อ ตักอบอุ่นของผู้เป็นมารดารองรับศีรษะทุยได้รูปสวยของบุตรสาวได้ เป็นอย่างดี นางละอองจิตยื่นมือออกไปลูบผมซอยสั้นเทรนด์เกาหลีของหวานใจ อย่างนุ่มนวล สายตาอ่อนโยนทอดมองคนบนตักด้วยความปรานี

(ติดตามอ่านต่อได้ในฉบับเต็ม)

รายละเอียด

หลายคน...รอพรหมลิขิตนำพาไปเจอคนของหัวใจ แต่บางคน...ไขว่คว้าเพื่อให้ได้มาซึ่งคนที่พึงใจ ผิดไหม...ถ้าเธอจะเป็นฝ่ายเข้าหา ไล่ต้อน และงัดสารพัดวิธีมามัดเขาไว้ในหัวใจ? และทำไม...เขาถึงต้องหลีกเลี่ยง หลบลี้ สตรีทุกคนที่เข้าใกล้? บอดี้การ์ดหนุ่มแสนเย็นชาจะทำยังไง เมื่อสาวหน้าใสดับเครื่องชนแบบไม่เปิดโอกาสให้ตั้งตัว... ทางเดียวที่จะชนะได้คือ...ดูแลหัวใจตัวเองอย่าให้หวั่นไหวต่อฝ่ายตรงข้าม


รีวิว (1)

เขียนรีวิว

thippawan | 1 รีวิว
01/12/2015

เรื่องราวของผู้หญิงคนหนึ่งที่แอบชอบผู้ชายคนหนึ่งมาตั้งแต่สมัยเรียน จนปัจจุบันก็ยังรักอยู่ ให้เห็นความตั้งใจแน่นแน่ของผู้หญิงคนหนึ่งที่รักผู้ชายคนนั้น จริงๆและต้องการใช้ชีวิตร่วมกัน จึงยอมใช้วิธีต่างๆ เพือ่จะแต่งงานกัน หวานมาก ๆ

สินค้าที่ใกล้เคียง (96 รายการ)

www.batorastore.com © 2024