พิภพเพลินวาน (ภัทราธิป)

พิภพเพลินวาน (ภัทราธิป)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786160019564
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 200.00 บาท 50.00 บาท
ประหยัด: 150.00 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

งานแต่งงานที่ยิ่งใหญ่และสวยงามกำลังจะถูกจัดขึ้นในอีกสองเดือน

ข้างหน้า หญิงสาววัยยี่สิบสองที่เพิ่งเข้าทำงานได้เพียงไม่กี่เดือนหลังจาก

เรียนจบมหาวิทยาลัย เดินแจกการ์ดแต่งงานของตัวเองให้ผู้ร่วมงานใน

บริษัทและเพื่อนๆ ของเธออย่างมีความสุข

เจ้าบ่าวของเธอคือ อาร์ต ชายหนุ่มที่เป็นดั่งเจ้าชายในฝันของสาวๆ

ทุกคน เรียกได้ว่าตรงตามคอนเซปต์รูปหล่อพ่อรวย นอกจากรูปลักษณ์

ภายนอกที่สูงหล่อขาวตี๋และยังมีฐานะดีแล้วด้วยนั้น เขายังมีจิตใจดี เอื้อเฟื้อ

เผื่อแผ่ สุภาพอ่อนโยน ซึ่งความเพอร์เฟกต์ของว่าที่เจ้าบ่าวของเธอคนนี้

ทำให้ทุกคนต้องอิจฉาเธอทั้งนั้น

ว่าที่เจ้าบ่าวของเธอทำงานอยู่ที่บริษัทซึ่งทำกิจการเกี่ยวกับคอม-

พิวเตอร์ที่แสนร่ำรวยของผู้เป็นพ่อ ซึ่งเคยเป็นนายทหารสังกัดเดียวกับ

คุณพ่อของเธอ หลังแต่งงานเขาตั้งใจว่าจะให้เธอลาออกจากที่ทำงานปัจจุบัน

และย้ายมาช่วยงานเขาที่บริษัทแทน

‘แต่เพลินจบด้านภาษามานะคะ งานแปลหนังสือเป็นสิ่งที่เพลินใฝ่ฝัน

มาตลอด จะให้เพลินลาออกจากงานที่เพลินรักไปช่วยพี่อาร์ตทำงานด้าน

คอมพิวเตอร์ มันไม่โหดร้ายไปหน่อยเหรอคะ’ หญิงสาวพยายามขอร้อง

ว่าที่เจ้าบ่าวของเธอ

‘อย่าดื้อสิคะ คุณพ่อคุณแม่ของน้องเพลินก็เห็นด้วยที่จะให้เพลิน

มาช่วยงานพี่ ทำงานแปลไปเงินก็น้อย วันๆ พี่เห็นเราอ่านแต่หนังสือ ไม่เห็น

จะสนุกตรงไหน’ ชายหนุ่มกล่าวพร้อมกับส่งยิ้มหวานให้เธอเช่นเคย และ

เธอก็ต้องโอนอ่อนยอมทำตามเขาอยู่ดี

เมื่อห้าปีก่อน ‘พี่อาร์ต’ เป็นคนดังที่มหาวิทยาลัย สาวๆ ทุกคน

ในมหาวิทยาลัยต่างชื่นชอบเขาทั้งนั้น ในขณะที่เพลินเป็นแค่เด็กสาวธรรมดา

ซึ่งเรียนอยู่ในชั้นปีที่หนึ่ง แต่ทำไมรุ่นพี่สุดหล่อจากคณะวิศวกรรมศาสตร์

คนนี้ถึงได้สนใจเธอ ท่ามกลางผู้หญิงสาวสวยมากมาย ทำไมเขาถึงเลือกเธอ

ซึ่งทั้งหมดนี้เธอเองก็ไม่รู้คำตอบ แต่อย่างไรก็ตาม เขาก็ได้ทำให้เธอมั่นใจ

ว่าเธอเป็นผู้หญิงที่โชคดีที่สุดในโลก

เหลือเวลาอีกไม่ถึงสองเดือนก่อนงานแต่งงานที่เพลินเฝ้ารอคอย

ว่าที่เจ้าบ่าวขับรถพาเธอไปที่บ้านคุณยายของเขาซึ่งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา

บ้านเก่าหลังนี้มีอาณาบริเวณกว้างขวาง ล้อมรอบไปด้วยต้นไม้ใหญ่ร่มรื่น

ทั้งที่อยู่ใจกลางกรุงเทพฯ ซึ่งหาไม่ได้ที่ไหนอีกแล้วนอกจากบ้านหลังนี้เท่านั้น

ภายในรั้วสูงสีขาวที่เหมือนจะแบ่งกั้นเขตกรุงเทพฯ ที่ทั้งทันสมัยและแสน

จะวุ่นวายไว้เพียงภายนอก ส่วนภายในรั้วนั้นมีต้นไม้สูงใหญ่และสนามหญ้า

ที่มีอาณาบริเวณกว้างขวางหลายไร่ ซึ่งถูกตกแต่งไว้อย่างประณีตสวยงาม

และท่ามกลางความร่มรื่นที่เงียบสงบนั้น ไม่มีเสียงของรถราหรือ

ผู้คนจากภายนอกดังเล็ดลอดเข้ามาเลย สิ่งปลูกสร้างที่นี่มีเพียงบ้านสมัยใหม่

เล็กๆ ด้านหลังสองสามหลัง และบ้านโบราณหลังใหญ่ซึ่งถูกสร้างมาตั้งแต่

สมัยรัชกาลที่ ๕ ตามแบบตะวันตก ตึกฝรั่งทาด้วยสีเหลืองอ่อนทั้งหลัง

ประตูและหน้าต่างทาด้วยสีเขียวเข้ม หลังคากระเบื้องสีแดง ทำให้บ้าน

โบราณหลังนี้ดูสวยงามสดใส แม้เวลาจะผ่านมาเป็นร้อยปีแล้วก็ตาม ภายใน

ยังคงตกแต่งไว้เหมือนสมัยที่ถูกสร้างขึ้นมาแรกๆ เฟอร์นิเจอร์เก่าต่างๆ

และรูปภาพบนผนังได้รับการอนุรักษ์สืบทอดและทำนุบำรุงไว้เป็นอย่างดี

“ยายดีใจเหลือเกิน ที่หนูเพลินมาเยี่ยมยายวันนี้” หญิงชราวัยเจ็ดสิบ

หกปีกล่าวอย่างยิ้มแย้ม

“เพลินก็ดีใจค่ะที่ได้มาเยี่ยมคุณยายอีก คุณยายดูผอมลงไปนะคะ

สงสัยเพลินต้องทำขนมมาให้คุณยายทานเยอะๆ ซะแล้ว” เพลินนำขนมเค้ก

แคร์รอตที่เธอทำมาฝากคุณยาย เธอไม่มีทักษะในการทำอาหารเลย แต่

สำหรับเรื่องทำขนมแล้วเธอไม่เป็นที่สองรองใคร จนเธอเคยคิดว่านอกจาก

จะเป็นนักแปลนวนิยายแล้ว เธออยากจะเปิดร้านขนมด้วย

“แต่งงานแล้วก็ย้ายมาอยู่ด้วยกันที่นี่สิหนูเพลิน” คุณยายยื่นมือที่

เต็มไปด้วยรอยเหี่ยวย่นขึ้นลูบเส้นผมยาวสลวยสีดำขลับของหญิงสาว

อย่างเอ็นดู

อาร์ตได้แต่อมยิ้ม “ไม่รู้ทำไมนะ คุณยายท่านรักเพลินยิ่งกว่าพี่อีก”

“ก็หนูเพลินช่างคล้ายเหลือเกิน...” คุณยายแหงนหน้าขึ้นมองกรอบรูป

ของภาพถ่ายโบราณเก่าแก่บนผนังข้างบันได ซึ่งเป็นรูปภาพขาวดำเล็กๆ

จนแทบจะมองไม่เห็นใบหน้าของคนในภาพแล้ว

“ใครเหรอคะ” เพลินมองตามไปที่ภาพเก่านั้น ภาพหญิงสาวใส่ชุด

แบบฝรั่งกระโปรงสุ่มยาวคลุมเท้า ซึ่งในภาพนั้นก็เก่าเสียจนมองไม่ชัดว่า

เธอนั้นจะมีใบหน้าเหมือนกับผู้หญิงคนนั้นตรงไหน

“คล้ายกับหม่อมท่านเหลือเกิน” คุณยายจ้องมองใบหน้าของเพลิน

ด้วยรอยยิ้มอันอบอุ่น

ในห้องรับแขกชั้นล่างของบ้านโบราณหลังใหญ่ของคุณยาย เพลิน

นั่งบนโซฟาหลุยส์แบบโบราณ มีคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กเครื่องเล็กวางอยู่บน

หน้าตักของเธอ เธอกำลังเลือกรูปภาพพรีเวดดิงที่จะเอาไปใช้ในงานแต่งงาน

ในระหว่างที่อาร์ตขอตัวไปคุยกับคุณยายเป็นการส่วนตัว เพลินรับรู้ถึงการ

สั่นเตือนของโทรศัพท์มือถือบนโซฟาที่เธอนั่งอยู่ จึงยกหมอนขึ้นและก็พบ

โทรศัพท์ของพี่อาร์ต เขาคงลืมมันไว้ก่อนออกไปพูดคุยกับคุณยาย เธอจึง

ถือวิสาสะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา

เธอแปลกใจเมื่อเห็นหน้าจอโทรศัพท์ไอโฟนขึ้นรูปพร้อมชื่อของคน

ที่โทร. เข้ามาซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของเธอ “ยายดาวโทร.มาหาพี่อาร์ตทำไมกันนะ”

เพลินมองซ้ายแลขวาแต่ก็ไม่มีวี่แววว่า ว่าที่เจ้าบ่าวของเธอนั้นจะ

กลับมารับสาย จนเสียงเรียกเข้าเงียบไป

หน้าจอของมือถือสว่างขึ้นอีกครั้ง นอกจากข้อความที่แสดงขึ้นมาว่า

มีสายที่ไม่ได้รับจากดาวแล้ว ยังมีข้อความในไลน์แชตที่ดาวส่งมา

‘คิดถึงนะคะที่รัก’

เพลินรู้สึกชาไปทั้งตัว หัวใจของเธอปวดร้าว ในขณะที่มือของเธอ

สั่นเทาอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้

เพลินไม่เคยตรวจเช็กมือถือของพี่อาร์ตเลยเพราะเธอไว้ใจเขามา

ตลอด และนี่เป็นครั้งแรกที่เธอเริ่มรู้สึกไม่ไว้ใจ

“แย่จริง...ล็อกรหัสมือถือไว้ซะด้วย” เพลินไม่สามารถเปิดเข้าไปดู

ข้อความอื่นๆ ในมือถือเขาได้ แต่เธอก็ไม่ละความพยายามที่จะลองใส่รหัส

ต่างๆ เผื่อจะบังเอิญถูก

และความบังเอิญก็เกิดขึ้น เมื่อไม่ใช่วันเกิดหรือปีเกิดของเขาใน

การลองใส่รหัสสองครั้งแรก และเธอก็เดารหัสถูกในครั้งที่สาม...มันคือ

เลขทะเบียนรถคันหรูของเขา

ในตอนนั้นเพลินคิดว่าเธอเองไม่ควรจะไปละลาบละล้วงเรื่องส่วนตัว

ของเขา เพราะเรื่องราวที่เธอกำลังจะต้องรับรู้นั้น อาจทำให้หัวใจของเธอแทบหยุดเต้น

ข้อความหวานต่างๆ ในไลน์แชต รวมไปถึงภาพถ่ายคู่กับดาวและ

ผู้หญิงคนอื่นอีกมากมาย ประวัติการโทร. อีเมล และข้อความต่างๆ ในมือถือ

เครื่องนั้น อธิบายถึงเรื่องราวความหลังต่างๆ ที่เกิดขึ้นมาเป็นเวลานานมาก

แต่เธอกลับไม่เคยรู้มาก่อน

และวันนี้หลักฐานพวกนี้ก็ทำให้เธอตาสว่าง เธอโดนผู้ชายที่เธอหลงรัก

ไว้ใจ และกำลังจะแต่งงานด้วยในอีกไม่ถึงสองเดือนข้างหน้าหลอกเข้าอย่างจัง

เขามีคนอื่นมาโดยตลอด และไม่ใช่แค่เพื่อนสนิทของเธอที่ชื่อว่าดาวเท่านั้น

ยังมีผู้หญิงอื่นๆ อีกมากมาย ทั้งที่เธอรู้จักและไม่รู้จักอีกนับสิบ ‘พี่อาร์ต’

ที่เธอรู้จักมาห้าปีกลับกลายเป็นคนที่เธอไม่เคยรู้จักมาก่อนในวันนี้ และ

ตอนนี้เขาเป็นคนที่ทำให้เธอรู้สึกว่า จริงๆ แล้วเธอคือผู้หญิงที่โชคร้ายที่สุด

ในโลก ที่จะได้เป็นเจ้าสาวของเขา

โทรศัพท์สั่นขึ้นอีกครั้ง ดาวโทร.มาเป็นครั้งที่สอง และครั้งนี้เพลินก็ตัดสินใจรับสาย

“สวัสดีดาว”

ดาวเงียบไป ก่อนจะถามออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบ “...นั่นเพลินเหรอ”

“ใช่จ้ะ พี่อาร์ตไม่อยู่ มีอะไรฝากไว้ไหมจ๊ะ” เพลินแสร้งทำเสียงร่าเริง

ให้เหมือนกับว่าเธอไม่ได้เห็นข้อความและรูปภาพใดๆ ในมือถือนั้น

แต่ดาวกลับเงียบ ซึ่งนั่นทำให้เพลินกลั้นใจถามออกไปด้วยเสียงสั่นเครือ

“มีอะไรที่เพลินยังไม่รู้เกี่ยวกับดาวและพี่อาร์ตหรือเปล่า ดาวบอกเพลินได้นะ”

“เธอคงเห็นข้อความแล้วสินะ นี่พี่อาร์ตพลาดทิ้งมือถือไว้ให้เธอเห็น

ได้ยังไง...” ดาวพูดออกมาด้วยเสียงเรียบเช่นเคย “เธอคงรู้แล้วใช่ไหม

เพราะใครๆ เขาก็รู้กันทั้งนั้นว่าที่ผ่านมาพี่อาร์ตไม่ได้มีแค่เธอคนเดียว ก็คน

ที่ทั้งหล่อทั้งรวยขนาดนั้นจะมาหลงเสน่ห์อะไรผู้หญิงเรียบๆ อย่างเธอล่ะ”

“แต่พี่อาร์ตกำลังจะแต่งงานกับฉันนะ เขาเลือกฉันแล้ว” เพลินกัดฟัน

พูดในสิ่งที่เธอเองเคยเชื่อมั่นมาตลอด แต่ตอนนี้เธอต้องพูดมันออกมา

พร้อมน้ำตาและหัวใจที่แตกสลาย

“พี่อาร์ตบอกใครต่อใครว่าเขาต้องแต่งงานกับเธอ เพราะว่าคุณพ่อ

ของเขาอยากกลับเข้ารับราชการทหาร โดยที่จะใช้อำนาจของพ่อเธอไงล่ะ

มีพ่อเป็นพลเอกยศใหญ่ขนาดนั้น มีอำนาจบารมีมากมายนี่มันก็ดีอย่างนี้นี่เอง”

น้ำตาของเพลินไหลรินลงอาบแก้มทั้งสองข้าง นี่คือความจริงที่พี่

อาร์ตเลือกมาคบหากับเธอ ผู้หญิงเรียบๆ ที่ไม่มีอะไรเลยนอกจากความ

เป็นลูกสาวของนายทหารยศใหญ่โตเท่านั้น เพียงเท่านั้นที่เขาต้องการจะหวัง

ประโยชน์จากการแต่งงานกับเธอ

“รู้อย่างนี้แล้ว ยังอยากจะแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รักเธอเลยอีกอย่างนั้นเหรอ”

 

คำพูดของดาวทุกคำทิ่มแทงเข้าสู่กลางอกของเพลินอย่างโหดร้ายและ

เจ็บปวด เพลินวิ่งออกมาจากห้องรับแขก และเธอก็เห็นพี่อาร์ตยืนอยู่ข้างหน้า

ตัวตึก เขากำลังคุยโทรศัพท์มือถือ ‘อีกเครื่อง’

“เดี๋ยวพี่ไปหาคืนนี้นะเฟิร์น รออยู่ที่คอนโดฯ พี่ก่อนนะคะ ไม่งอนนะที่รัก...”

เพียงเท่านั้นที่เพลินบังเอิญได้ยิน ซึ่งก็ทำให้เธอมั่นใจว่าเธอเป็นผู้หญิง

ที่โง่ที่สุดในโลก คนอื่นๆ คงพากันหัวเราะเยาะเย้ยเธอมาตลอด โดยที่เธอ

เองไม่รู้เรื่องอะไรเลยมาตลอดห้าปี

เพลินตัดสินใจเดินกลับไปทางประตูหลังของตึกฝรั่งหลังนี้พร้อมกับ

น้ำตาที่ไหลรินด้วยความเจ็บปวดหัวใจ วิ่งผ่านสนามหญ้าไปจนถึงรั้วด้าน

หลังของบ้านที่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา ในยามเย็น ด้วยแสงจากดวงอาทิตย์

ที่กำลังจะตกน้ำ ทำให้แม่น้ำกลายเป็นสีส้มแสดพร้อมกับบรรยากาศโดย

รอบที่มีเรือยนต์ลำน้อยใหญ่แล่นผ่านไปมา ฝั่งตรงข้ามที่เป็นตึกรามบ้านช่อง

เรียงอยู่แน่นขนัด อีกทั้งขยะมากมายที่ลอยเกลื่อนอยู่ในแม่น้ำสายสำคัญ

แห่งนี้ หากแต่ยังมีเรือไม้โบราณพร้อมหลังคาไม้ที่แกะสลักอย่างวิจิตร

สวยงามลำหนึ่งจอดเทียบท่าเรือของบ้านหลังนี้อยู่

และเหมือนมีอะไรดลใจให้หญิงสาวที่ใบหน้าเปื้อนไปด้วยรอยน้ำตา

กับดวงตาที่บอบช้ำคิดจะเดินไปขึ้นเรือลำนั้น แต่เมื่อเธอก้าวเท้าขึ้นไปบน

เรือก็บังเอิญมีคลื่นซัดเข้ามา ทำให้เรือน้อยนั้นโคลงเคลง และหญิงสาว

ก็เริ่มทรงตัวไม่อยู่จนพลัดตกลงไปในน้ำในที่สุด

เมื่อตัวเธอได้สัมผัสกับผิวน้ำ ความรู้สึกที่ได้รับช่างอบอุ่นเหลือเกิน

คงเป็นเพราะความร้อนจากเปลวแดดที่แผดเผาลงมาทั้งวัน จึงทำให้อุณหภูมิ

ของน้ำอุ่นขึ้นกว่าปกติ เธอพยายามพยุงตัวว่ายขึ้น แต่ก็เหมือนกับว่าตัวเธอ

นั้นถูกดูดให้จมดิ่งลงสู่ก้นบึ้งของแม่น้ำ แม่น้ำที่แสนอบอุ่นตอนนี้ทว่าจู่ๆ

อุณหภูมิก็กลับเย็นลงจนน่าประหลาด เธอรู้สึกได้ถึงอุณหภูมิของน้ำที่เปลี่ยน

ไปอย่างกะทันหัน มันเย็นเสียจนเธอหนาวสั่นไปทั้งตัว

ที่น่าแปลกคือ แม่น้ำเจ้าพระยาหลังบ้านคุณยายมีความลึกมากจน

เธอมองไม่เห็นเบื้องล่าง เมื่อเธอกลั้นหายใจต่อไปไม่ไหว น้ำมากมายจึงได้

ไหลเข้าปากและจมูก ก่อนจะเข้าไปยังปอด เธอคงหมดหวังที่จะมีชีวิตรอด

ในเมื่อพยายามว่ายน้ำขึ้นไปเท่าไรก็เหมือนจะจมดิ่งลงไปเรื่อยๆ และเธอคง

จะต้องตายอยู่ที่นี่...ในท้องน้ำอันมืดมิดแห่งนี้

ทันใดนั้น มือใหญ่และแข็งแกร่งของใครบางคนก็ยื่นมาจับแขนของ

เธอไว้แน่น เธอพยายามลืมตามองใบหน้าของคนผู้นั้นที่พยายามใช้มือดึง

เธอขึ้นสู่ด้านบนด้วยสติที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิด ใบหน้าของคนผู้นี้ช่าง

เคร่งขรึม อีกทั้งดวงตาสีดำคู่โตที่มองมาที่เธอจากชายผู้นี้ แสดงถึงความ

พยายามที่จะฉุดดึงร่างของเธอขึ้นสู่เบื้องบน และนำพาเธอออกจากความ

มืดมิดที่แสนเยือกเย็นภายใต้ท้องน้ำแห่งนี้

 

                                               

 

ชายผู้นั้นฉุดพาร่างของเพลินขึ้นสู่ด้านบน แต่ด้วยสัญชาตญาณ

การเอาตัวรอด เมื่อถึงผิวน้ำ เธอก็รีบตะเกียกตะกายหาทางขึ้นสู่เบื้องบน

เพื่อสูดรับออกซิเจนเข้าปอด โดยไม่รู้ตัวว่าเธอกลับไปยกแขนทั้งสองข้าง

 กดศีรษะและไหล่ของชายผู้นั้นเอาไว้ ด้วยสัญชาตญาณเธอรีบหายใจเข้าออก

โดยเร็วเพื่อการมีชีวิตรอดต่อไป แต่ที่เธอไม่รู้ก็คือเธอกำลังทำให้ผู้ชายที่ช่วย

ชีวิตเธอไว้จมน้ำไป และแล้วร่างสูงใหญ่นั้นก็จมลงไปช้าๆ ในที่สุดก็ทำให้

สติของเธอกลับคืนมา เธอจึงรีบฉุดดึงแขนของผู้ชายคนนั้นขึ้นจากน้ำ และ

ร้องตะโกนขอความช่วยเหลือ

ผู้คนมากมายทั้งชายหญิงที่พบเห็นล้วนแต่งกายในชุดประหลาด บ้าง

สวมใส่โจงกระเบน บ้างห่มผ้าแถบ บ้างก็ไม่นุ่งอะไรเลย ต่างรีบวิ่งกันเข้ามา

ช่วยพาทั้งสองขึ้นจากน้ำอย่างทุลักทุเล เมื่อเพลินขึ้นมาบนท่าน้ำได้อย่าง

ปลอดภัย เธอก็รู้สึกหมดแรงจนแทบจะเป็นลม เธอหันไปมองผู้ชายร่างใหญ่

ที่ชาวบ้านช่วยกันพาขึ้นจากน้ำ ใบหน้าเขาซีดเผือด เปลือกตาที่ปิดสนิทของเขา

ประกอบกับหน้าอกที่ไม่ขยับขึ้นลงตามการหายใจ...ซึ่งก็แปลว่า ‘เขาไม่

       (โปรดติดตามต่อในฉบับเต็ม)

รายละเอียด

เพลิน หญิงสาวช้ำรักเพราะถูกผู้ชายลวงหลอก 
เธอเสียใจอย่างหนักจนพลัดตกน้ำจมลงสู่ก้นแม่น้ำเจ้าพระยา ทว่านอกจากเธอจะยังไม่ตายแล้ว กลับพบว่าตัวเองนั้นย้อนอดีตกลับไปยังปี 2457 หรือเมื่อ 100 กว่าปีก่อน! 
 
หญิงสาวจะทำเช่นไร เมื่อจู่ๆ ต้องมากลายเป็นภรรยา 
จำเป็นของ ท่านชายพิภพ ชายหนุ่มแสนขรึมแห่งวังสุริยศักดิ์ เพราะการผายปอดที่เธอช่วยเขาเอาไว้แท้ๆ แต่กลับถูกมองว่าไปล่วงเกินเขา แถมชายหนุ่มยังขอเป็นฝ่ายรับผิดชอบ ด้วยการรับตัวเธอไว้เป็นภรรยาเสียนี่ 
 
เธอจะได้กลับสู่ยุคสมัยของตนหรือไม่ เมื่อหัวใจลึกๆ เริ่มตกหลุมรักคนในยุคอดีตผู้แสนอบอุ่นเข้าให้แล้ว

รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (96 รายการ)

www.batorastore.com © 2024