รักสลักแค้น (shayna)

รักสลักแค้น (shayna)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786160012756
ผู้แต่ง: shayna
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 370.00 บาท 92.50 บาท
ประหยัด: 277.50 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

ชีวิตจริงยิ่งกว่านิยาย

 

“เธอมันเลว เธอทำอย่างนี้กับฉันได้ยังไง!” เสียงด่าที่มาพร้อมกับ

ท่าทีคุกคามของคนพูดซึ่งกรากเข้ามาเหมือนต้องการจะทำร้าย ทำให้ตวิษา

สะอื้นจนตัวโยน เมื่อเจ้าพนักงานรุดมากุมตัวเขาไว้และลากออกไปจากศาล

“น้องเตยไม่ต้องกลัวนะลูก แม่จะไม่ยอมให้ไอ้คนเลวระยำมันทำร้าย

หนูอีก ศาลท่านให้ความเป็นธรรมกับเราแล้ว ไอ้คนเลวมันกำลังจะได้รับผล

กรรมของมันแล้วลูก” คุณหญิงวิชุดาแห่งคฤหาสน์วัฒนดำรงศักดิ์รวบเธอ

เข้าไปกอดประหนึ่งว่ารักและหวงแหนเหลือเกิน แต่วินาทีถัดมา นางกลับ

กระซิบไม่ต่างจากคำรามใส่หูของสาวน้อยในวงแขนว่า “เธอทำถูกแล้วละเตย

จำไว้ว่าเธอติดหนี้บุญคุณครอบครัวของฉัน ถ้าไม่มีฉันกับคุณธร เธอก็ยัง

เป็นแค่เด็กกำพร้าที่ไม่มีใครต้องการ...ไม่มีอนาคต ฉันสัญญาว่านับจากนี้ไป

เธอกับตายุตม์จะไม่เจอกันอีก”

ตวิษาร้องไห้หนักขึ้นไปอีกกับคำขู่ปนปลอบโยนนั้น เธอเห็นสายตา

ชิงชังจากมารดาของอัจฉริยะที่จ้องมองมาทั้งน้ำตา ที่เห็นบุตรชายถูกศาล

ตัดสินจำคุกถึงเก้าปีในข้อหาพยายามข่มขืน ทำร้ายร่างกายทั้งเธอและชยุตม์

ซึ่งครอบครัววัฒนดำรงศักดิ์กุเรื่องขึ้นมาว่า บุตรชายได้ยินเสียงตะโกน

ร้องขอความช่วยเหลือ จึงรุดเข้าไปช่วยเธอแล้วถูกอัจฉริยะทำร้าย ชยุตม์

บาดเจ็บสาหัสจากการถูกแทงสองครั้ง และเข้าพักรักษาตัวในห้องไอซียูนานกว่าสิบวัน

ทุกอย่างกลับตาลปัตรไปหมด เพราะผู้อุปการะของเธอต่างต้องการ

ปกป้องบุตรชายของตัวเอง ทั้งสองบีบบังคับให้เธอบอกตำรวจไปว่า อัจฉริยะ

ปีนรั้วเข้ามาในอาณาบริเวณของคฤหาสน์เพื่อดักฉุดและพยายามข่มขืนเธอ

มารดาของอัจฉริยะเดินเข้ามาหยุดตรงหน้า จ้องใบหน้าสวยสดใส

ตามประสาสาวรุ่นของตวิษาด้วยประกายตาเหมือนคนไม่เคยรู้จักกันมาก่อน

และวินาทีที่สาวน้อยกำลังยกมือขึ้นไหว้ ฝ่ามือของนางก็ตวัดเข้าหาแก้มขาวซีดอย่างเต็มกำลัง

“นี่แกกล้าดียังไงถึงมาตบหน้าลูกสาวฉันแบบนี้” ผู้อุปการะของเธอ

โวยวายลั่น ทว่าคนลงมือกลับเค้นเสียงลอดไรฟันบอกเธอว่า

“ป้าไม่คิดเลยว่าหนูจะเป็นคนแบบนี้ เสียดายที่ป้ารักป้าเอ็นดูเหมือน

ลูกเหมือนหลานคนหนึ่ง คนโกหกอย่างหนูจะต้องตกนรกทั้งเป็นไปตลอด

ชีวิต” คำตัดพ้อที่ไม่ต่างจากคำสาปแช่งของนางเอมอรยิ่งทำให้สาวน้อยสะอื้น

หนักขึ้นไปอีก เธออยากจะก้มลงกราบแทบเท้าของนางเพื่อขอโทษ แต่

ผู้ปกครองของเธอก็เหมือนนกรู้ รีบบิดสีข้างเธอราวกับจะเรียกสติ

 

“ยายเตย...เตย! เป็นอะไรน่ะ” เสียงเรียกพร้อมกับการเขย่าแรงๆ

ปลุกตวิษาจากภวังค์ฝัน เธอลืมตาขึ้นมาพบว่าตนเองนอนละเมอร้องไห้

เหมือนที่เคยเป็นมาแทบทุกเดือน

“ฝันเรื่องนั้นอีกแล้วเหรอ” เรวดี หรือ เร เพื่อนสนิทตั้งแต่ที่เธอย้าย

มาเรียนนิติศาสตร์ของมหาวิทยาลัยรามคำแหงถามด้วยสีหน้าหวั่นวิตก

“อืม ขอโทษนะเรที่เตยทำให้ตื่นอีกแล้ว” คนพูดปาดน้ำตาตัวเองด้วย

ความรู้สึกหนักอึ้ง เรื่องที่เธอฝันนั้นมันผ่านมาเกือบห้าปีแล้ว แต่คนมีชนัก-

ติดหลังอย่างเธอก็ยังวนเวียนฝันถึงเสมอ เหมือนจิตใต้สำนึกจะตอกย้ำว่า

คำพูดของมารดาอัจฉริยะกับเสียงก่นด่าของเขาเป็นจริง

เธอจะต้องตกนรกทั้งเป็นและอยู่กับความรู้สึกผิดนี้ไปตลอดชีวิต การ

เปลี่ยนมาเรียนนิติศาสตร์และสามารถจบภายในเวลาเพียงสองปีครึ่ง แล้ว

ทำงานทนายจัดการคดีมาหลายสิบคดีเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้คนอื่นๆ

นั้น ไม่ช่วยให้เธอรู้สึกผิดบาปกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวน้อยลงเลย นับวันความ

ผิดนั้นก็ยิ่งฝังรากลึกลงกลางใจให้เธอทรมาน

“ไม่เป็นไรหรอก เรยังไม่นอนเพราะต้องเตรียมอุปกรณ์ไว้สอนเด็กๆ”

คนพูดซึ่งเป็นอาจารย์สอนเด็กอนุบาลบอกเสียงหวาน “เสาร์นี้ไปทำบุญกันไหม”

“เสาร์นี้เตยว่าจะไปเยี่ยมพี่อัจจ้ะ” ทนายสาวตอบด้วยสีหน้าหงอยๆ

ตั้งแต่อัจฉริยะติดคุก เธอก็แวะเวียนไปเยี่ยมเขาทุกสามเดือน แม้จะ

ถูกด่าสารพัดแต่ก็ยังฝืนไป มารดาของอัจฉริยะคงเป็นเพียงคนเดียวที่ยอม

ให้อภัยเธอหลังจากที่พบกันครั้งสุดท้ายเมื่อครึ่งปีก่อน สามเดือนต่อมานาง

ก็ล้มป่วยและเสียชีวิต ซึ่งเธอรู้ตอนไปหาที่บ้านและได้พบน้องสาวของนาง

ซึ่งมอบจดหมายฉบับหนึ่งให้ เนื้อความในจดหมายบอกว่านางยอมให้อภัย

กับสิ่งที่เธอทำ เพราะรู้ว่าไม่มีทางเลือกและจำใจทำ พร้อมกันนั้นนางก็ขอให้

เธอให้อภัยตัวเองและอย่าทำผิดพลาดอีก

“ไปเยี่ยมให้เขาด่าเหมือนหมูเหมือนหมาและร้องไห้กลับมาอีกเหรอ

ยิ่งแม่ตายแบบนี้ เขาก็จะยิ่งโกรธและโทษเตยนะ” เรวดีพ่นลมหายใจ

ออกแรง เพราะเห็นเพื่อนสนิทร้องห่มร้องไห้กลับมาทุกครั้งที่บากหน้าไปหานักโทษหนุ่ม

“เตยรู้ แต่มันก็เป็นความผิดของเตยจริงๆ เตยทำให้ชีวิตเขาพัง เตย

ทำลายอนาคตของเขา” น้ำใสๆคลอเต็มเบ้าตาของตวิษา อนาคตการเป็น

นายร้อยของอัจฉริยะอับปางลงเพราะเธอ ส่วนหนึ่งที่มารดาของเขาตายก็คง

เพราะตรอมใจด้วย ไม่ว่าเธอจะขอโทษกี่แสนกี่ล้านครั้ง มันก็ยังน้อยกว่าที่

เขากับมารดาได้รับอยู่ดี

“เรว่าเตยตัดสินใจคบคุณพลเถอะ ไม่งั้นถ้าเรย้ายออกไปอยู่ที่อื่น เตย

นอนละเมอร้องไห้แล้วไม่มีคนปลุกแน่ๆ” คนที่ซื้อคอนโดมิเนียมซึ่งอีก

สามเดือนจะสร้างเสร็จและสามารถย้ายเข้าไปอยู่ได้เปรยเสียงเอื่อย คุณพล

หรือ ปองพล คือทนายความรุ่นพี่ที่ทำงานอยู่สำนักงานทนายความเดียวกับ

ตวิษา เขาแวะเวียนตามจีบเธอมาตลอดระยะเวลากว่าสองปี แต่เพื่อนสนิท

ของเธอก็ยังไม่ยอมตกลงปลงใจคบเสียที

“เตยคงคบใครไม่ได้หรอกเร” คนปวดร้าวรำพึงรำพัน เรวดีอาจจะรู้

ความเป็นไปแทบทุกอย่างของเธอ แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยรู้คือ ผู้ชายที่เธอรักมา

ตลอดระยะเวลากว่าห้าปี คืออัจฉริยะ

“ถ้าเตยเอาแต่ติดอยู่กับอดีตร้ายๆ และไม่ยอมให้อภัยตัวเองแบบนี้

คนที่จะทรมานไปจนตายก็คือเตยนะ”

“เตยรู้” เสียงตอบอันแหบพร่าของเธอ ส่งผลให้เรวดีส่ายหน้าและ

เปลี่ยนมาชวนเข้านอน

 

ตวิษาเฝ้ารอวันเวลาที่จะเดินทางไปเยี่ยมนักโทษหนุ่มด้วยความ

กระวนกระวายใจ เมื่อถึงวันเสาร์เธอก็จัดการซื้อของฝาก รวมถึงนำเงิน

บางส่วนใส่ซองเพื่อจะฝากให้อัจฉริยะเหมือนทุกครั้งที่แวะไปเรือนจำ

หลังจากลงทะเบียนขอเยี่ยม จัดการฝากของกับเงินให้อัจฉริยะไว้กับ

ทางเจ้าหน้าที่ และนั่งรอเรียกชื่อประมาณยี่สิบนาที ตวิษาก็ได้ยินเสียงเรียก

ชื่อตัวเอง เธอสูดลมหายใจเข้าลึกก่อนเดินไปยังหน้าต่างเยี่ยมญาติตาม

หมายเลขที่เจ้าหน้าที่ประกาศผ่านไมโครโฟน

“เธอนี่หน้าด้านเสมอต้นเสมอปลายจริงๆ” เจ้าของใบหน้าบึ้งตึง

ทักทายด้วยสีหน้าหยามหยัน แววตาบ่งบอกว่าไม่ได้ยินดีกับการมาของทนายสาวเลย

“อยากด่าหรือว่าอะไรก็ตามสบายเถอะค่ะ เตยชินแล้ว” ตวิษากล่าว

เสียงแผ่ว เพราะไม่อยากให้เจ้าหน้าที่ที่มอนิเตอร์บทสนทนาปราดเข้ามาด่า

หรือตะคอกนักโทษหนุ่มเหมือนหลายครั้งที่ผ่านมา

“ฉันบอกเธอแล้วไม่ใช่เหรอว่าอย่าเสนอหน้ามาให้เห็นอีก หรือว่า

อยากมาสมน้ำหน้าที่ฉันไม่ได้ไปงานศพแม่” อัจฉริยะระเบิดความเกรี้ยว-

กราดไว้ภายใต้น้ำเสียงราบเรียบ เขารู้สึกเหมือนตายทั้งเป็นเป็นครั้งที่สอง

ของชีวิต เมื่อน้ามาแจ้งข่าวร้ายว่ามารดาเสียชีวิตเมื่อสามเดือนก่อน สัญญา

ที่เคยบอกนางว่าจะบวชให้ทันทีที่เรียนจบพลัดหายไปอย่างไม่มีวันกลับ เขา

ไม่มีโอกาสแม้แต่จะได้บอกลา กราบศพ หรือบวชหน้าไฟอย่างที่ลูกชายพึง

กระทำเพื่อส่งดวงวิญญาณของมารดาสู่สุคติ

“เตยรู้ว่าพี่อัจ...”

“อย่ามาเรียกฉันว่าพี่! ฉันไม่เคยคิดจะนับคนนิสัยอย่างเธอเป็นน้อง

เป็นนุ่ง” คนโกรธสวนกลับด้วยแววตาชิงชัง สำหรับเขาแล้วข้อดีเพียงข้อเดียว

ซึ่งเป็นเหตุผลที่เขายังปล่อยให้อีกฝ่ายมาเยี่ยม ก็เพราะจะได้ระบายความ

เคียดแค้นที่ยังอัดแน่นอยู่ในใจ

“ค่ะ” หญิงสาวกล้ำกลืนฝืนรับ “เตยรู้ว่าคุณคงเกลียดเตยมากขึ้น

เพราะไม่มีโอกาสร่วมงานศพของคุณป้า”

“เธอจะมาตอกย้ำความเลวของตัวเองอีกทำไม หรือว่าอยากมาร้องขอ

ความเห็นใจจากฉัน ฉันจะบอกให้นะตวิษา น้ำตาของเธอมันไม่มีความหมาย

อะไรกับฉัน ตั้งแต่วันที่เธอกุเรื่องขึ้นมาใส่ร้ายฉันแล้ว” อัจฉริยะกล่าวเสียง

เหยียด เวลาหลายปีที่อยู่ในคุกทำให้เขากร้านโลก กร้าวแกร่ง และเย็นชา

มากกว่าสมัยก่อนหลายสิบเท่า

“ผู้หญิงเลวๆ อย่างเธออาจจะโกหกคนทั้งโลกได้ อาจจะดูน่าเชื่อถือ

เพราะอยู่ในคราบของทนาย แต่อย่าหวังว่าเธอจะได้รับความเห็นใจหรือความ

สงสารจากฉันอีก”

“นี่เป็นครั้งสุดท้ายที่เตยจะมาให้คุณเห็นหน้าค่ะ หลังจากนี้ แล้วแต่

คุณว่าอยากจะเจอเตยอีกหรือเปล่า”

“ถึงโลกนี้จะเหลือแค่เธอกับฉัน ฉันก็จะทำทุกวิถีทางเพื่อหนีให้ห่าง

จากเธอที่สุดตวิษา ถ้าเธอยังอยากมีชีวิตสุขสบายอย่างทุกวันนี้ละก็ อยู่ให้

ห่างจากฉันซะ ไม่งั้นวันหนึ่งเธอนั่นแหละจะเสียใจ ที่ยังป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้

ไอ้ขี้คุกอย่างฉัน” อัจฉริยะคำรามลอดไรฟันและจ้องตาดำขลับนิ่งนานด้วย

นัยน์ตาน่าสะพรึงกลัว เขาไม่รู้ว่าหากหลุดรอดออกไปสู่โลกภายนอกและ

เผชิญหน้ากับเธอ จะควบคุมตัวเองไม่ให้กรากเข้าไปบีบคอเธอได้หรือไม่

“เตยไม่คิดจะหนีคุณไปไหนหรอกค่ะ ถ้าหากคุณออกจากคุกและ

ต้องการเอาคืน เตยพร้อมที่จะทดแทนทุกอย่างให้คุณด้วยชีวิต” ทนายสาว

จ้องตอบตาไม่กะพริบเช่นกัน

“หึ…ข้อเสนอของเธอฟังดูดีนะ แต่ชีวิตของเธอมันทดแทนสิ่งที่ฉัน

สูญเสียไปทั้งหมดไม่ได้หรอก” มุมปากของนักโทษหนุ่มยักขึ้นข้างหนึ่ง

เหมือนกำลังฟังเรื่องตลก ก่อนที่สายตาของเขาจะพินิจพิจารณาดวงหน้าสวย

ผุดผาด ไล่ต่ำลงไปยังลำคอขาวผ่องที่มีสร้อยทองคำขาวเส้นเล็กๆ ประดับ

อยู่ เขายอมรับว่าตวิษาสวยผุดผาดกว่าสมัยก่อนหลายเท่า สวยจนเขากับ

เพื่อนในคุกบางคนที่เคยเห็นถึงกับเก็บเอาไปจินตนาการตามประสาผู้ชาย

“เตยรู้ค่ะ” เจ้าของเสียงสั่นขยับมือมารวบสาบเสื้อตัวนอกเข้าหากัน

ด้วยอาการใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เธอรู้ดีว่าตลอดเวลาที่อยู่ในคุก เขาไม่มี

โอกาสเจอะเจอหรือใกล้ชิดผู้หญิง และในความเป็นจริงก็มีสิทธิ์มีสัมพันธ์

ทางกายกับนักโทษชายในคุกอย่างที่เธอเคยได้ยินได้ฟังมา

“เธอสวยขึ้นนะ มีแฟนรึยัง” คำถามด้วยสายตาโลมเลียมของเขา

ทำเอาแก้มคนฟังแดงแปร๊ดขึ้นทันตา อัจฉริยะหัวเราะในลำคอเมื่อเห็นท่าทาง

พิพักพิพ่วนของคนฟัง

“ยังค่ะ” เรียวปากอิ่มขมุบขมิบตอบ เธอรู้สึกร้อนผ่าวไปทั้งหน้ากับ

สายตาโลมเลียมอย่างไม่เกรงใจของเขา

“เธอควรจะฉลาดและโกหกฉันว่ามีแฟน มีผัว หรือมีลูกแล้วนะตวิษา

เพราะไม่งั้นฉันหลุดจากที่นี่เมื่อไร เธออาจจะโดนเหมือนกับที่เคยโกหก

ทุกคนว่าถูกฉันทำอะไร” สายตาจาบจ้วงหลุบลงมองบริเวณหน้าอกหน้าใจ

ของเธอเหมือนจะให้เห็นว่า นักโทษกลัดมันอย่างเขาพร้อมจะทำเรื่องเลวๆได้ทุกเมื่อ

 

“ถ้าการทำแบบนั้นทำให้คุณรู้สึกว่าได้รับความเป็นธรรม เตยก็เต็มใจ

ค่ะ” ชั่วขณะตวิษารู้สึกว่าเธอบ้าดีเดือดเกินไปที่กล้าตอบแบบนั้น แต่ก็คิด

ว่าการถูกเขาทำร้ายร่างกายและข่มขืนจริงๆ คงจะทำให้ความรู้สึกผิดบาป

ในใจที่หมักหมมมาหลายปีลดน้อยลง

“พูดได้ดีนี่ แต่ฉันคงไม่หลงกลคนร้อยเล่ห์เหลี่ยมอย่างเธออีกแล้ว

บอกตามตรงว่าถึงฉันจะชอบรูปร่างหน้าตาของเธอ แต่ฉันเอาเงินไปเที่ยวอีตัว

ยังจะดีเสียกว่า กลับไปสู่สวรรค์วิมานของเธอได้แล้ว และก็ไม่ต้องกลับมา

ให้ฉันเห็นอีก” ชายหนุ่มตอบเสร็จก็หันไปหาเจ้าหน้าที่ เพื่อส่งสัญญาณว่า

เขาไม่มีอะไรจะคุยกับผู้มาเยี่ยมอีกแล้ว

“เตยฝากเงินกับที่อยู่ แล้วก็เบอร์โทรศัพท์ไว้ให้คุณแล้วค่ะ ถ้าหาก

คุณเดือดร้อนหรือมีปัญหาอะไร เตยยินดีจะช่วยคุณทุกอย่าง” คนพูดบอกเสียงพร่า

“สิ่งเดียวที่ฉันจะขอให้เธอช่วย คือช่วยออกไปจากชีวิตของฉันอย่าง

ถาวรเสียที ฉันเกลียดเธอ” อัจฉริยะตอบก่อนเดินหนีกลับเข้าไปด้านใน

คนมองตามกลืนก้อนแข็งๆ ลงไปในลำคอแห้งผาก หากเป็นเมื่อก่อน

เธอคงร้องไห้ทุกครั้งที่ฟังคำด่าทอถากถางของเขา แต่วันนี้เธอกลับพบว่า

สามารถสะกดความเจ็บปวดไว้ภายใต้ใบหน้าราบเรียบได้

เวลาอาจทำให้เราลืมเลือนความผิดพลาดในอดีตไม่ได้ แต่มันจะทำให้

เราชินชาจนสามารถอยู่กับความขมขื่นนั้นได้

 

อัจฉริยะไม่คิดจะแตะเงินที่ทนายความฝากไว้ เขานำข้าวของมูลค่า

กว่าหนึ่งพันบาทที่ตวิษาซื้อให้ทุกครั้งที่แวะมาเยี่ยมมอบให้สมัครพรรคพวก

ในแดนเดียวกัน นี่เป็นอีกหนึ่งวิธีของการอยู่รอดในทัณฑสถาน และเขาก็

                              (โปรดติดตามต่อในฉบับเต็ม)

รายละเอียด

ชีวิตที่กำลังจะไปได้สวยของหนุ่มอนาคตไกลอย่างอัจฉริยะ พลิกผันประหนึ่งถูกผลักดิ่งลงสู่ขุมนรกเมื่อเขายื่นมือเข้าไปช่วยสาวสวยอย่างตวิษาจากการถูกข่มขืน แล้วงูเห่าอย่างหล่อนกลับยัดเยียดความผิดจนเขาต้องติดคุกถึงห้าปีในข้อหาพยายามข่มขืนและทำร้ายร่างกาย เมื่อโชคชะตานำพาให้หล่อนกลับมาเผชิญหน้ากับเขาอีกครั้ง อัจฉริยะไม่มีวันให้อภัยผู้หญิงที่ทำลายอนาคตของเขาเด็ดขาด ตวิษาจะต้องชดใช้กรรมที่ทำให้เขาไม่มีโอกาสแม้แต่จะกราบศพหรือบวชส่งดวงวิญญาณของแม่ 


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (95 รายการ)

www.batorastore.com © 2024