ปฏิบัติการล่าตามหาหัวใจ (พิมพ์ซ้ำ เปลี่ยนปก)

ปฏิบัติการล่าตามหาหัวใจ (พิมพ์ซ้ำ เปลี่ยนปก)

1 รีวิว  1 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786115000067
ผู้แต่ง: ณารา
ของหมดถาวร (ต้องการสินค้า)
ราคา: 250.00 บาท 62.50 บาท
ประหยัด: 187.50 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

สำนักงานใหญ่ แลงลีย์ รัฐเวอร์จิเนีย

รติมา ริชาร์ตสัน เดินเข้าไปในตัวตึกหกชั้นรูปทรงสี่เหลี่ยม โครงสร้าง อาคารประกอบด้วยเหล็กกับกระจกสีเข้มสะท้อนแสงแดดอ่อนยามเข้า เจ้าหน้าที่ หลายสิบคนซึ่งทำงานในตึกเดียวกันรีบรุดเข้าไปเพี่อให้ท้นเวลาทำงานในเข้า วันจันทร์ที่อากาศสดใสในเดือนธันวาคม อันเป็นช่วงต้นฤดูหนาว ต้นไม้รอบ อาคารผลัดใบเมื่ออากาศหนาวเย็นเข้ามาทักทาย

ห้องทำงานของเธอตั้งอยู่บนชั้นสี่ของอาคารสำนักงานหกชั้น อาคารใหม่ ของชีไอเอสร้างขึ้นในช่วงปีแปดศูนย์ ตัวอาคารเชื่อมเข้ากับตึกเก่าด้านหน้าทาง ทิศตะวันตก รวมทั้งตึกทำงานหกชั้นสองตึก โดยตึกทั้งหมดเชื่อมกันด้วยอาคาร สี่ชั้นตรงกลาง

รติมาเข้าไปในลิฟต์พร้อมเพื่อนร่วมองค์กรนับสิบ เจ้าหน้าที่หญิงซึ่งยืน ขนาบสูงกว่าเธอเกือบคืบ หญิงสาวมองภาพสะท้อนแผ่นโลหะมันวาวภายในลิฟต์ ถ้าผู้โดยสารในนี้เป็นกราฟ ต้องบอกว่าเธอเป็นจุดต่ำสุดอย่างไม่มีข้อสงสัย

ความสูงของเธอเป็นสิ่งหนึ่งที่เธอไม่อยากหยิบยกขึ้นมาเอ่ยถึงแม้จะชาชินนับ

ตั้งแต่ย้ายตามแม่มาที่ประเทศของคนยักษ์เหล่านี้ เธอไม่ได้เตี้ย...เธอบอก

ตัวเองแบบนั้นเสมอ แต่พวกนั้นเป็นพวกประหลาดที่สูงเกินผู้เกินคนต่างหาก

ไฟแสดงหมายเลขชั้นบนแผงหน้าปัดเปลี่ยนไปเมื่อลิฟต์เคลื่อนขึ้น หลาย คนถือแก้วกาแฟกระดาษพิมพ์โลโก้สีเขียวยี่ห้อดังในมือ กลิ่นกาแฟหอมกรุ่น

ลอยกำจายในห้องแคบ ๆ เมื่อประตูเปิดออก ทุกคนต่างรีบมุ่งหน้าสู่ห้องทำงาน ของตน

รติมาเดินเข้าไปถึงโต๊ะทำงานของเธอซึ่งเป็นฉากกั้นสามด้าน แยกสัดส่วน ห้องทำงานให้ออกจากโต๊ะทำงานอีกเกือบยี่สิบโต๊ะภายในห้องใหญ่

“อรุณสวัสดิ์” เสียงร้องทักเป็นภาษาไทยสดใสดังขึ้น สาวน้อยหน้าหวาน ลูกครึ่งไทย-ลาวนามจันทร์มาลาที่เพิ่งเข้ามาทำงานได้ไม่กี่เดือน ชะโงกหน้าข้าม ฉากกั้นที่อยู่ติดก้น ส่งรอยยิ้มสว่างไสวให้เธอ

“สวัสดียามเข้า” เธอทักกลับไป “สุดสัปดาห์นี้เป็นไงบ้าง” รติมาถามพลาง ถอดเสื้อโคตตัวยาวลงพาดกับพนักเก้าอี้ทำงาน

สาวน้อยย่นจมูก “เหมือนเดิม อยู่บ้าน เช่า'หนัง'พี่บอนด์ภาคใหม่มาดู...

คนเดียว” เธอยํ้า “แล้วพี่ล่ะ ไปเที่ยวฟลอริดาสนุกไหม”

รติมายิ้มกับคำตอบของเพื่อนร่วมงาน เจมส์ บอนด์ เป็นหนังเรื่องโปรด ของจันทร์มาลา และเธอไม่จำเป็นต้องดูหนังคนเดียวหากต้องการเพื่อน

จันทร์มาสามีเชื้อเจ้าชาวลาวทางพ่อและมีแม่เป็นคนไทย พ่ออพยพมา อเมริกาตั้งแต่เธอยังเป็นเด็ก เธอเป็นคนสวย ใบหน้ารูปไข่เกลี้ยงเกลางาม

อ่อนช้อย ผมดำขลับเงางามรวบหางม้าอย่างลวก ๆ ผิวขาวนวลละเอียดลออแบบ ชาวเอเชีย หนุ่มๆ ในที่ทำงานหลายคนเคยชวนเธอออกไปกินข้าว แต่เพราะเธอ ไม่ใช่ผู้หญิงประเภทต้องการมีความสัมพันธ์ฉาบฉวย...ออกจะโรแมนติกประเภท มองหารักแท้ ดังนั้นเธอจึงมองหาคู่แท้ของเธอต่อไป

“ก็ดี”

“เท่านั้นน่ะ?” จันทร์มาลาถามเสียงสูง “อือ” เธอพยักหน้า

“เป็นไงบ้างล่ะ เล่าให้พิงหน่อยซิ” จันทร์มาลาเซ้าซี้ ทำหน้าแป้นอยากรู้ อยากเห็น

“คล้ำลงไปนิดหนึ่ง นอนอาบแดดสบายใจ” หญิงสาวยกแขนที่คลํ้าลง

เพราะแดดจัดให้เพื่อนสาวดู

“อิจฉาจังเลย วันหลังแจนขอตามพี่ไปด้วยนะ ขี้เกียจอยู่บ้านคนเดียว”

ทั้งสองสื่อสารด้วยภาษาไทย ทั้งพูดและการเขียนโน้ต ซึ่งนับว่าเป็นข้อ ได้เปรียบของทั้งคู่ แม้สำเนียงของจันทร์มาลาจะแปร่ง ๆ และบางครั้งศัพท์แสง ก็แปลก ๆ แต่เธอก็ไม่ระย่อกับการฝึกฝน จันทร์มาลาพูดได้ถึงสี่ภาษา อังกฤษ ฝรั่งเศส ลาว และไทย ซึ่งนับว่าเป็นความสามารถพิเศษที่ทำให้เธอได้เข้ามานั่ง ในห้องทำงานแห่งนี้

“ได้สิ คริสต์มาส'นี้พี่คงไปอีก ถ้าแจนไม่ติดอะไรก็ไปกับพี่ได้ พ่อแม่ของ พี่ใจดีจะตาย” เธอยิ้มเมื่อคิดถึงรอยยิ้มของแม่เมื่อตอนกล่าวลากันเมื่อคืน

รสรินและ ดร. เคนเนธย้ายไปอยู่ที่ฟลอริดาหลังจากเคนเกษียณจาก สถาบันวิจัยทางการแพทย์ขององค์การอนามัยโลกเมื่อปีก่อน เคนชื้อบ้าน

ที่พิลอริดาไว้เมื่อหลายปีที่แล้วเพี่อเอาใจแม่ที่ไม่ชอบฤดูหนาวอันหฤโหดของ นิวยอร์ก หลบลี้หนีความหนาวเหน็บไปยังฟลอริดาทุกปี จนกระทั้งเกษียณ ทั้ง

คู่จึงตัดสินใจย้ายไปอยู่ที่นั่นอย่างถาวร

แม่เป็นสตรีที่เพียบพร้อมในความคิดของรติมา ท่านเป็นอดีตพยาบาล ประจำโรงพยาบาลในอำเภอชายแดนทางเหนือของเขียงใหม่ พบรักกับ ดร. เคนเนธ ริชาร์ดลัน นายแพทย์หนุ่มพ่อม่ายลูกติดที่ถูกส่งตัวมาศึกษาวิจัยโครงการโรคใน แถบร้อนชื้น ตลอดระยะเวลาหนึ่งปีที่เคนอยู่ที่นั่น ผู้อำนวยการโรงพยาบาลได้ ให้แม่ของเธอคอยช่วยเหลือนายแพทย์ชาวต่างชาติในด้านต่าง ๆ ทั้งช่วยแปล เอกสาร สื่อสารกับพวกชาวบ้าน จนเรียกได้ว่าเป็นเลขาฯ ส่วนตัว

เมื่อสิบกว่าปีก่อนนั้นแทบจะหาคนพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ โดยเฉพาะ

อย่างยิ่งในอำเภอชายแดนติดกับประเทศพม่า แม่ชองเธอนับว่าสามารถสื่อสาร

กับหมอฝรั่งได้มากกว่าคนอื่นจึงรับหน้าที่นี้ไป หลังจบโครงการเคนขอแม่แต่งงาน ท่านจึงตัดสินใจแต่งงานใหม่หลังจากที่พ่อชองเธอถูกยิงเสียชีวิตในหน้าที่สองปี ก่อนหน้านั้น พร้อมกับพาลูกสาวคนเดียวมาอยู่อเมริกาด้วยกัน

เคนมีลูกชายซึ่งเกิดจากอดีตภรรยาที่แยกทางกันไป เนื่องด้วยหน้าที่การ งานชองเขาที่ต้องเดินทางอยู่บ่อยครั้งทำให้ชีวิตแต่งงานชองทั้งคู่พังครืนในที่สุด ทั้งสองมีลูกชายที่อายุมากกว่าเธอสี่ปี โจชัวเรียนมัธยมปลายปีสุดท้ายเมื่อรติมา

ย้ายมาอเมริกา หลังจากเคนแต่งงานกับแม่ก็มีลูกชายด้วยกันอีกสองคนคือ

วิลเลียมและแมทธิว ซึ่งกำลังเรียนอยู่มัธยมปลายในฟลอริดา รติมาในฐานะ

ลูกสาวคนเดียวจึงเป็นที่รักของสมาชิกทั้งบ้าน พ่อเลี้ยงของเธอให้ความรักและ ความอบอุ่นแก่เธอทัดเทียมกับลูกชายทั้งสามคน

“นี่พี่เรย์รู้ไหม เมื่อกี้มิสเตอร์ซางเขาเดินมาถามถึงพี่ด้วยนะ” จันทร์มาลาแจ้งข่าว

มิสเตอร์ซาง หรือ เดวิด ซาง หัวหน้าของเธอ ลูกครึ่งอเมริกัน-จีน อดีต สายลับมือหนึ่งแห่งภาคพื้นแปซิฟิก เขามารับตำแหน่งในสำนักงานใหญ่เมื่อสูงอายุ ด้วยความเชี่ยวชาญทำให้ได้เลื่อนขึ้นเป็นหัวหน้าสายงาน ปกติเขาไม่เคยเดิน มาตามหาลูกน้อง ยกเว้นเป็นเรื่องด่วนจริงๆ

“งั้นหรือ แกบอกหรือเปล่าว่าทำไม”

“ม่าย...รู้...” สาวน้อยทำเลียงยานคางส่ายหน้า “แจนสงสัยว่าจะเป็นเรื่อง ซีเรียส...แกหน้าหงิกเชียว”

ความรู้สึกหวาดระแวงทำให้ขนท้ายทอยลุกซู่ รติมาพยายามนึกถึงงานที่ เธอแปลส่งเมื่ออาทิตย์ก่อนว่ามีข้อผิดพลาดตรงไหนหรือไม่ แม่จะมั่นใจว่างาน ของเธอทำได้อย่างละเอียดรัดกุมแล้วแตกยังอดหวาดหวั่นไม่ได้ ก็เธอทำงานอยู่ ในองค์กรระดับโลกนี่นา หากมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นเพราะเธอละก็...ไม่ละ...เธอไม่อยากคิด

รติมาทำงานเป็นเจ้าหน้าที่วิเคราะห์ด้านการเมืองของภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก ประจำสำนักงานข่าวกรองกลาง หน้าที่ประจำของเธอคืออ่านข่าวและบทความทุก ชนิดที่เกี่ยวข้องกับประเทศไทยและเพื่อนบ้าน แปลและวิเคราะห์สถานการณ์ การเมืองของประเทศแบบเจาะสึกถึงแก่น โดยประมวลเข้ากับรายงานข่าวภายใน จากหน่วยงานของสหรัฐฯ มองทิศทางการดำเนินนโยบายของรัฐบาลแล้วทำ รายงานเสนอต่อเจ้านาย งานของเธอดูเหมือนง่าย แต่แท้จริงแล้วรายงานที่เธอ นำส่งนั้นจะต้องได้รับการวิเคราะห์อย่างถูกต้องและแม่นย่า หากมีข้อผิด'พลาด ขึ้นมาเพียงจุดเล็ก ๆ อาจก่อให้เกิดผลกระทบขยายเป็นวงกว้างเลยทีเดียว

“เดี๋ยวแกคงเรียก...ถ้าเป็นเรื่องด่วนจริงๆ”รติมาขมวดคิ้วก่อนจะคลายออก อย่าตีตนไปก่อนไข้...เธอเตือนตัวเองพลางนึ่งลงหน้าจอคอมพิวเตอร์

ประจำตัวหลังฉากกั้น การโดนเจ้านายเรียกมักจะไม่ใช่เรื่องดี อย่างน้อยที่สุด

ก็มักจะโดนตำหนิเรื่องความผิดพลาดของรายงานและต้องทำการแก้ไขโดย

ด่วน มิสเตอร์ซางไม่เคยเรียกตัวเธออีกเลยหลังจากการทำงานในสามเดือนแรก

ที่เข้มงวดเสียจนรายงานทุกฉบับของเธอต้องวิเคราะห์ได้อย่างละเอียด ปิดกั้น ข้อผิดพลาดทุกชนิด ไม่เปิดโอกาสให้เกิดคำถามใด ๆ กับผู้อ่าน นั่นกลายเป็น แนวทางให้เธอปฏิบัติในอีกสองปีต่อมา มิสเตอร์ซางเคยเอ่ยชมบทความเกี่ยวกับ ปัญหาชนกลุ่มน้อยในพม่าของเธอเสียด้วยซ้ำ

“แกถามหาพี่คนเดียวหรือว่าถามถึงคนอื่นๆ ด้วยล่ะ” รติมาลุกขึ้นอีกครั้ง ชะโงกหน้าข้ามฉากกั้น อดถามรายละเอียดไม่ได้

“แกเดินมาที่โต๊ะของพี่ พอไม่เห็นพี่แกก็ถามแจน พอแจนตอบไปว่า

พี่ยังไม่เข้ามา แกก็เดินไปเลย”

“ขอบคุณมากจ้ะ” รติมาทิ้งตัวลงบนเก้าอี้อีกครั้ง เปิดคอมพิวเตอร์ให้

พร้อมทำงาน บนชั้นนี้เธอและจันทร์มาลาตั้งชื่อว่าชั้นนานาชาติ เพราะมีเจ้าหน้าที่ หลายชาติหลายภาษารวมถึงเธอทิ้งสอง ในห้องทำงานของเธอมีเจ้าหน้าที่ผิว เหลืองผมด่าเกือบครึ่ง ส่วนห้องอื่นๆ ก็จะเป็นสำนักงานภูมิภาคอื่นๆ ทั่วโลก

รติมามุ่งมั่นที่จะเข้าร่วมงานในองค์กรกลางนับตั้งแต่เข้าเรียนในมหา- วิทยาลัย เธอเลือกเรียนปริญญาตรีด้านการเมืองระหว่างประเทศและปริญญาโท ด้านเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยในรัฐแคลิฟอร์เนียซึ่งมีชื่อเสียงติดอันดับ

เธอหวังว่าลักวันหนึ่งจะมีโอกาสได้ทำประโยชน์ให้แก่บ้านเกิดเมืองนอนของตนบ้าง

เสียงโทรศัพท์บนโต๊ะทำงานด้งขึ้น เธอยกหูเมื่อสิ้นเสียงกรงแรก

“รีชาร์ดลันค่ะ”

“รติมา เข้ามาหาผมหน่อย” เสียงสั่งเข้มงวดดังมาตามลาย ไม่ต้องบอก

ก็รู้ว่าเจ้านายเธอกำลังอยู่ในอารมณ์เคร่งเครียดเพียงไร

“ค่ะ” รติมาวางหูโทรศัพท์ลง คว้าสมุดบันทึกขึ้นมา พร้อม ๆ กับสาว

จันทร์มาลาเลื่อนเก้าอี้ชะโงกหน้าอ้อมฉากออกมา

“ใช่ไหม” เธอเลิกคิ้ว

“ใช่ เสียงเข้มมาก...พี่ไปก่อนนะ” รติมาหยิบปากกาขึ้นมาจากโต๊ะ ก้มลูบ ชุดเสื้อเชิ้ตเข้ารูปสีเขียวอ่อนและกระโปรงสีด่ายาวถึงเช่าให้เรียบร้อยก่อนจะก้าว

ไปตามทางสู่ห้องทำงานของมิสเตอร์ซางด้วยย่างก้าวที่มั่นคง ตรงกันข้ามกับ

หัวใจที่เต้นราวกับกลองรัวในทรวงอก

หญิงสาวสงบสติอารมณ์ที่กระเจิดกระเจิงอยู่หน้าห้องเจ้านาย ก่อนจะ

ยกมือเคาะประตู เสียงร้องอนุญาตด้งขึ้นทันทีเมื่อสิ้นสุดเสียงเคาะ ประหนึ่งว่า

เขากำลังรอคอยเธออยู่อย่างใจจดใจจ่อ

“อรุณสวัสดิ์ค่ะหัวหน้า” รติมากล่าวขึ้นหลังจากเปิดประตูเข้ามาในห้อง ทำงานของเดวิด

“สวัสดี เชิญนึ่ง” เดวิดผายมือไปยังเก้าอี้หน้าโต๊ะทำงานของเขา “ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวขยับเก้าอี้เบื้องหน้าพร้อมกับทรุดตัวลงนึ่ง เธอ มองเข้าไปในดวงตาสีดำคมกริบของหัวหน้า เขายังดูแข็งแรงแม้จะใกล้เกษียณ เต็มที กรามเหลี่ยมและรอยย่นรอบดวงตาบ่งบอกถึงความแกร่ง แววตาของเขา ยังมี'ไฟลุก'โชน เขาเป็นหัวหน้าที่เข้มงวดแต่ก็จริงใจและเป็นที่รักของลูกน้อง ทุกคนในฝ่าย

“ผมมีเรื่องด่วนต้องการให้คุณทำ” เดวิดเอ่ยขึ้นทันทีที่เธอนึ่งลง “คุณ

จำรายงานที่คุณทำเกี่ยวกับเรื่องชนกลุ่มน้อยที่อยู่ระหว่างพม่ากับไทยได้ไหม”

รายงานความเปลี่ยนแปลงอำนาจการค้ายาเสพติดของชนกลุ่มน้อยที่เธอ ทำเมื่อเดือนก่อนนี่เอง ทำไมเธอจะจ่าไม่ได้ “จ่าได้ค่ะ”

แล้วมีเรื่องอะไรเกี่ยวข้องกับรายงานนี้หรือไง...เธอสงสัยแต่ก็ไม่ได้ถามออกไป

“เมื่อสัปดาห์ก่อน สายลับของเราหายไปในการปฏิบัติงานในเขตไทย จาก รายงานที่ได้รับก่อนที่เขาจะสูญหายไปนั้นใกล้เคียงกับข้อมูลในรายงานของคุณ มาก เรามั่นใจว่าคุณมีข้อมูลของพวกชนกลุ่มน้อยมากพอ”

“ค่ะ ฉันใช้เวลากับมันมาก” เธอยอมรับ

“ผมเข้าประชุมด่วนกับกลุ่มเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านอาชญากรรมและ ยาเสพติดเมื่อวาน เราต้องการส่งคนของเราเข้าไปในพื้นที่ และพวกเขาเสนอ... คุณ”

“อะไรนะคะ!”รติมาถามเสียงสูง ตากลมโตของเธอโตกว่าเดิมอีกเท่าตัวด้วย     

“อะไรนะคะ! รติมาถามเสียงสูง ตากลมโตของเธอโตกว่าเดิมอีกเท่าตัว”

                              (โปรดติดตามต่อในฉบับเต็ม)

 

รายละเอียด

เมื่อสายลับของหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ หายตัวไปในระหว่างปฏิบัติการบริเวณรอยต่อไทย-พม่า ซีไอเอจึงตัดสินใจส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปค้นหา พวกเขาเลือกรติมา เจ้าหน้าที่หญิงชาวไทยจากฝ่ายวิเคราะห์ข่าว ทั้งที่เธอไม่มีความสามารถด้านการต่อสู้หรือการใช้อาวุธทุกชนิด แต่เธอถูกเลือกเพราะเป็นคนไทย และต้องการให้เธอเป็นคนนำทหารบกหนุ่มจากหน่วยรบพิเศษเข้าไปในพื้นที่อย่าง แนบเนียน 
 
ทั้งสองจำเป็นต้องเข้าไปในพื้นที่อันตราย ทว่าเรื่องกลับไม่ง่ายอย่างที่คิด เมื่อหัวหน้าทีม ร้อยเอกแดเนียล ทหารบกจากหน่วยรบพิเศษซึ่งถูกเลือกให้ทำงานนี้ คือคู่ปรับเก่าในวัยเด็กของเธอ 
 
คู่ปรับ...ที่ทำให้เธอเข็ดขยาดและสาปส่งผู้ชายทุกคนมาจนถึงทุกวันนี้...การ ทำงานที่แสนยากลำบากเริ่มต้นขึ้น และยิ่งยาก...เมื่อเวลาผ่านไปเธอพบว่า ตลอดหลายปีที่เธอคิดว่าตัวเองเกลียดผู้ชาย หากที่แท้เธอกลับค้นพบว่า แดเนียลเป็นเจ้าของหัวใจเธอมาตั้งแต่เด็กแล้ว !

รีวิว (1)

เขียนรีวิว

จตุพร | 1 รีวิว
27/07/2014

“ปฏิบัติการล่าตามหาหัวใจ” เป็นนิยายอีกเล่มที่มีพระเอกเป็นทหารบกหน่วยรบพิเศษของสหรัฐฯค่ะ เรื่องเริ่มต้นจากสายลับคนหนึ่งของหน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯหายตัวไป ระหว่างปฏิบัติงานในพื้นที่รอยต่อไทย-พม่า นางเอก “รติมา” ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายวิเคราะห์ข่าวจึงถูกเลือกไปหนึ่งในผู้ไปค้นหาสายลับคนนั้น เพราะนางเอกเราเป็นคนไทยค่ะ แล้วก็มีความรู้เรื่องพวกชนกลุ่มน้อยแถบนั้นด้วย แต่นางเอกเราไม่มีความสามารถทางด้านต่อสู้หรือใช้อาวุธ ภารกิจนี้ทำให้เธอได้กลับมาพบกับคู่ปรับในวัยเด็กอย่าง “แดนียล” ซึ่งเป็นทหารหน่วยรบพิเศษ เธอจึงต้องเป็นคนนำพระเอกไปค้นหาหลักฐานและสายลับอย่างแนบเนียน พระเอกกับนางเอกของเรื่องนี้รู้จักกันมาตั้งแต่สมัยเด็ก เพราะแม่นางเอกแต่งงานใหม่ ต่างคนก็ต่างมีลูกติด พ่อเลี้ยงนางเอกก็มีลูกชายจอมแก่นอยู่คนหนึ่ง ซึ่งพระเอกเป็นเพื่อนของลูกชายพ่อเลี้ยงนางเอก ทั้งสองคนชอบรวมหัวกันแกล้งนางเอกที่เป็นเด็กไทยมาอยู่ต่างบ้านต่างเมืองเป็นประจำ ทำให้นางเอกกลัวและไม่ชอบทั้งสองคนนี้มากๆ เหมือนสร้างปมให้นางเอกเกลียดผู้ชายไปเลยนะคะ แสบจริงๆ นิสัยไม่ดีเลย55555 แต่ดิฉันว่าพระเอกทำไปเพราะต้องการเรียกร้องความสนใจจากนางเอกมากกว่า การกลับมาพบกัน และต้องเดินทางไปปฏิบัติภารกิจด้วยกัน ทำให้ทั้งสองใกล้ชิดกันมากขึ้น งานนี้ไม่หวั่นไหวก็ให้มันรู้ไปค่ะ อิอิ รักท่ามกลางภารกิจ แฝงความอันตรายและร้อนแรงควบคู่กันไป ถ้าถามดิฉัน ดิฉันคิดว่าพล็อตไม่ค่อยแปลกใหม่เท่าไหร่นัก นางเอกและพระเอกได้ไปทำงานร่วมกัน รักกัน จบ ชะเอิงเอย แต่ทุกเล่มของณาราก็มีเสน่ห์ในตัวเองค่ะ ภารกิจเรื่องนี้ค่อนข้างอันตรายจริงๆ ทำเอาดิฉันลุ้นตลอดเลยค่ะ ตื่นเต้นอยากอ่านฉากต่อไปทั้งเรื่อง พระเอกนางเอกต้องปลอมตัวเป็นสามีภรรยา คู่แต่งงานใหม่เข้าไปสืบหาข้อมูล ขึ้นชื่อว่าพระเอกก็มีสาวมาติดพัน ทั้งๆที่รู้ว่าแต่งงานด้วยแล้วนะคะ โอ้โห ไม่ธรรมดาเลย ฮ่าๆๆๆ นางเอกแอบหึงเล็กๆ ฝ่ายนางเอกก็ไม่น้อยหน้ามีชายหนุ่มมาขายขนมจีบ หรือมาแกล้งทำหมาหยอกไก่ก็ไม่รู้ หุหุ หึงกันไปก็หึงกันมา แต่แสดงความงี่เง่าใส่กันได้ไม่มากหรอกค่ะ เพราะงานยังติดพัน คนร้ายอยู่ใกล้ตัวมาก จนตอนหลังทั้งคู่คิดว่าจะปิดคดีได้แล้ว เพราะสืบจนแน่ใจ แต่เรื่องราวก็ไม่ได้จบง่ายๆค่ะ นางเอกได้รับอันตรายจนต้องเข้าโรงพยาบาล ความเข้าใจผิด (เพราะคิดเองเออเองทั้งคู่) ทำให้พระเอกและนางเอกไม่ยอมติดต่อหากันอีก ทั้งๆที่รักกัน พระเอกก็คิดว่านางเอกยังเกลียดเขาอยู่จากการกระทำในวัยเด็ก นางเอกก็เข้าใจผิดว่าพระเอกไม่รัก กว่าจะปรับความเข้าใจกันได้ต้องให้คนรอบตัวมาช่วยบอกใบ้ แบะๆ ให้พระเอกตามไปง้อ เรื่องราวจึงจบลงด้วยดีค่ะ

สินค้าที่ใกล้เคียง (96 รายการ)

www.batorastore.com © 2024