ร้ายรักเหนือเมฆ (ลัลลาบาย)

ร้ายรักเหนือเมฆ (ลัลลาบาย)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786160018512
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 320.00 บาท 80.00 บาท
ประหยัด: 240.00 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

                   รอยรักกับลูกไก่

 

‘ที่ใดมีรัก...ที่นั่นมีทุกข์...แต่ที่ใดมีเซ็กซ์...ที่นั่นย่อมมีความสุข’

นี่คือคติประจำใจของเขาที่ยึดมั่นมานานนับปีและจะไม่มีวันเปลี่ยนใจ

ลายเมฆ อารีลักษณ์ ตื่นมารับเช้าวันใหม่ในห้องที่ไม่คุ้นเคยเป็นครั้ง

ที่สามของสัปดาห์นี้ เมื่อรวบรวมสติได้เกือบครบ ร่างสูงใหญ่ก็ลุกขึ้นจาก

เตียงนอนที่เกลือกกลิ้งอยู่

ชายหนุ่มผิวปากหวือ เมื่อเห็นใบหน้าสวยหวานของหญิงสาวข้างกาย

ที่ยังหลับพริ้มได้ชัดเต็มตาเป็นครั้งแรก เพราะเมื่อคืนนี้นอกจากรูปร่าง

อวบอัดกับลีลาร้อนแรงถูกใจเขาแล้ว อย่างอื่นก็เหมือนจะเลือนรางเสีย

เหลือเกิน นิ้วแข็งไล้แผ่วๆ ไปที่แก้มนวล เธอสวยน่ารักจนเขาต้องมองซ้ำ

เนินอกอวบอิ่มโผล่พ้นออกมาจากผ้าคลุมบุนวมสีน้ำตาลอ่อนอย่างหมิ่นเหม่

จนเขานึกอยากจะปลุกหญิงสาวขึ้นมา ‘รับอรุณ’ กันอีกสักรอบสองรอบ

ติดก็แต่วันนี้เขามีนัดประชุมตอนสาย ไม่อย่างนั้น...

มือใหญ่ควานหากางเกงชั้นในยี่ห้อดังซึ่งเผลอปาทิ้งไปตอนไหนไม่รู้

ถ้าจำไม่ผิดก็คงจะเป็นตอนกำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม แรงเหวี่ยงในตอนกำลังคึก

ราวกับช้างสารตกมันจากบนเตียงน่าจะทำให้ปราการด่านสุดท้ายของเขา

ลอยออกไปในระยะไม่ต่ำกว่าห้าเมตร

ดวงตาสองชั้นสีน้ำตาลอ่อนจางแบบลูกครึ่งกวาดมองไปทั่วห้องซึ่ง

มีแต่เสื้อผ้าข้าวของระเนระนาด ก่อนจะไปหยุดอยู่ที่บนโคมไฟแบบตั้งโต๊ะ

สีครีมลายหินอ่อนเข้ากับการตกแต่งห้องของโรงแรมห้าดาวแสนทันสมัยแห่งนี้

“ไปอยู่บนนั้นได้ยังไงวะ” ชายหนุ่มสบถพลางส่ายหน้าน้อยๆ

ร่างสูงใหญ่บึกบึนลุกขึ้นยืนเต็มความสูงเกือบหนึ่งร้อยแปดสิบห้า

เซนติเมตร ปัดเสื้อชั้นในลูกไม้สีดำบางเบาที่ติดอยู่ที่หน้าแข้งแข็งแรงให้

หลุดออก ก่อนจะเดินดุ่มๆ เข้าไปหากางเกงในตัวน้อยซึ่งห้อยร่องแร่งอยู่

บนโคมไฟที่หมายตา

ลายเมฆไม่เคยมีปัญหาในการเดินเปลือยกายในห้องที่ไม่ได้อยู่

เพียงลำพัง ไหล่หนาบึกบึนแม้จะมีร่องรอยแผลเป็นขนาดใหญ่จากการ

ผ่าตัดสมัยที่ยังเป็นนักกีฬา แต่เขากลับพบว่าแผลเป็นนี้ดึงดูดสายตาของ

สาวๆ ให้อ่อนระทวยได้มากกว่าที่คิด แผ่นอกบึกบึนซึ่งมีขนสีอ่อนประปราย

นั้นทำให้ผู้หญิงอยากลูบไล้ แขนล่ำสันทั้งสองข้างพร้อมเสมอสำหรับการ

เกี่ยวกระหวัดร่างบางระหงหรืออวบอัดของผู้หญิงทุกคนให้มาอยู่ที่ใต้ร่างเขา

เอวแกร่งและสะโพกสอบได้รูปก็มีเอาไว้ออกแรงในเกมรักอย่างทรหดได้

ตลอดคืนจนถึงรุ่งเช้า

ขายาวก้าวเพียงไม่กี่ก้าวก็ถึงโคมไฟอันนั้น เขาจัดแจงสวมชั้นใน

ให้เรียบร้อยก่อนจะหยิบกางเกงสแล็กส์สีเข้มที่ตกอยู่ข้างเตียงขึ้นมาใส่

ตามด้วยเสื้อเชิ้ตสีเทายับย่น ชายหนุ่มพยายามแต่งตัวให้เงียบที่สุดเพื่อจะได้

ไม่รบกวนหญิงสาวนิรนามสุดร้อนแรงเมื่อคืนนี้ที่กำลังนอนหลับเป็นตาย

กว่าเขาจะยอมให้เธอได้พักก็เกือบเช้าวันใหม่ คงอีกนานกว่าเธอ

จะตื่นขึ้นมา นึกไปถึงมือเรียวที่สอดเข้าไปในกลุ่มผมสีน้ำตาลเข้มของเขา

เมื่อไฟรักถูกจุดติด กับสะโพกผายแน่นตึงที่ตอบรับการมาเยือนของเขา

ด้วยความยินดีครั้งแล้วครั้งเล่านั่นแล้วก็อดคอแห้งผากขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้

ลายเมฆจัดแจงโทร.สั่งอาหารมื้อเช้าสำหรับหญิงสาวมาวางรอเอาไว้

ที่โต๊ะอาหารด้านนอก ซึ่งยังเรียบร้อยพอใช้ได้ ต่างกับโซฟายาวบุด้วย

ผ้ากำมะหยี่สีน้ำตาลเข้มซึ่งสภาพไม่ต่างกับห้องนอนนัก คาดว่าเมื่อคืนมัน

คงจะเป็นหนึ่งในสมรภูมิรบระหว่างเขากับเธอ

“ขอบคุณนะที่รัก สำหรับค่ำคืนที่แสนร้อนแรง”

ชายหนุ่มกระซิบที่ข้างหูแล้วกดจูบหนักหน่วงลงไปที่แก้มนวลนั้น

อีกครั้ง มือใหญ่คว้ากระเป๋าสตางค์เดินลิ่วลงไปชั้นล่างของโรงแรมสุดหรู

เพื่อชำระค่าห้อง

 

เหนือกาล...หนึ่งในหุ้นส่วนของร้าน ‘บัวนิสสิโม’ เงยหน้าขึ้นจากของสด

ของแห้งนับสิบกล่องในสต็อกหลังร้าน ใบหน้าขาวทว่าคมคายคล้ายดารา

เกาหลีกระตุกยิ้มเมื่อเห็นสภาพของลายเมฆที่สวมเสื้อเชิ้ตสีเทายับย่นกับ

กางเกงสแล็กส์ตัวเดิม

“ได้กลับบ้านหรือเปล่าวะไอ้มาร์ค”

เหนือกาลเป็นเพื่อนคนเดียวที่ยังเรียกเขาด้วยชื่อเล่นเหมือนสมัย

ที่ยังเด็ก ต่างกับคนอื่นที่พากันเรียกสั้นๆ ว่าเมฆ หรือหนักกว่านั้นก็จะ

เรียกตามฉายาที่เขาแสนภูมิใจว่า ‘ไอ้เสือ’

ใช่...เขาคือไอ้เสือลายเมฆ

“ยังจะมาถามอีก สารรูปอย่างนี้” ลายเมฆยักคิ้วอย่างไม่ยี่หระ “แต่ก็

คุ้มว่ะ เมื่อคืนนี้อย่างกับได้ขึ้นสวรรค์” ชายหนุ่มโฆษณาพร้อมยกนิ้วโป้ง

ขึ้นมารับรองคุณภาพ

“ก็เห็นพูดอย่างนี้เกือบทุกครั้ง” อีกฝ่ายไม่ได้สนใจอะไรมากนัก

อันที่จริงเหนือกาลก็ไม่เคยจะสนใจผู้หญิงคนไหนมาตั้งแต่ไหนแต่ไร

อยู่แล้ว ใครๆ ก็รู้ว่าชายหนุ่มผิวขาวปักใจอยู่กับเพื่อนสนิทข้างบ้านที่คบกัน

มาตั้งแต่เด็กๆ เพียงแต่หญิงสาวผู้โชคดีคนนั้นกลับไม่มีสัญชาตญาณของ

ความเป็นผู้หญิงอยู่เลยสักนิด เธอจึงไม่เคยรู้เลยว่าเพื่อนสนิทกำลังคิด

ไม่ซื่อ เหนือกาลผู้น่าสงสารจึงทำได้แค่ร้องเพลงรอจีบสาวอยู่ในใจเท่านั้น

เพื่อนของเขายังคงก้มหน้าก้มตาเช็กจำนวนสินค้าในกล่องต่ออย่าง

ตั้งใจ ก่อนจะหันมาไล่เมื่อเห็นเขายังยืนเก้ๆ กังๆ อยู่

“รีบขึ้นไปอาบน้ำล้างหน้าไป พอไอ้จิวมันมาจะได้ประชุมประจำเดือน

กันได้เลย วันนี้ท่าจะยาวเพราะมีเรื่องที่ต้องเตรียมเกี่ยวกับเมนูโปรโมชัน

แล้วก็เรื่องรับเด็กฝึกงานใหม่ด้วย ว่าจะปรึกษาสักหน่อย คงมีอีกหลายเรื่อง

เลยวันนี้ ถ้านายชักช้ากว่าจะคุยเสร็จก็คงเย็น สงสารไอ้จิวมัน กว่ามันจะ

ขับรถกลับถึงระยองก็ค่ำ”

ลายเมฆพยักหน้ารับ หยิบโหลลูกกวาดหลากสีสันของทางร้านที่ใช้

สำหรับแจกลูกค้าหลังอาหารมาเขย่าเพื่อเลือกสี โลกของเขาสดใสขนาดนี้

ต้องลูกกวาดสีแดงรสเชอร์รีจึงจะเข้ากัน

เขาแกะลูกกวาดโยนเข้าปากพลางยกนาฬิกาขึ้นดูเวลา เมื่อพบว่าอีก

ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็จะถึงเวลาที่นัดกับจอมภพ หรือ ‘จิว’ หนุ่มลูกครึ่งไทย

ฮ่องกงซึ่งเป็นหุ้นส่วนอีกคนหนึ่งของร้านอาหารแห่งนี้ ชายหนุ่มจึงรีบผลัก

ประตูกระจกที่กั้นไว้สำหรับพนักงานของร้านเข้าไปเพื่อขึ้นสู่ชั้นบน

ชั้นสองของร้านอาหารนี้เป็นที่สำหรับให้พนักงานใช้นั่งเล่นและ

ทำงานเกี่ยวกับเอกสาร ส่วนชั้นที่สามทำเป็นห้องพักเอาไว้สองห้อง เผื่อ

เวลาที่ใครเลิกดึก ดื่มหนัก หรือยังไม่อยากกลับบ้าน ห้องทางซ้ายมือติดกับ

ประตูหนีไฟเป็นของเหนือกาล อีกห้องหนึ่งตรงกลางเป็นของเขา ส่วนจอมภพ

นั้นสิ้นเดือนถึงจะเข้ามาดูร้านอาหารสักครั้ง เพราะชายหนุ่มมีรีสอร์ตของ

ตัวเองที่จะต้องดูแลอยู่ที่จังหวัดระยอง เลยไม่ต้องการห้องส่วนตัว ห้องว่าง

ตรงปลายทางเดินใกล้กับบันไดจึงจัดเอาไว้เป็นห้องประชุมเล็กๆ แทน

ลายเมฆอาบน้ำชำระร่างกายด้วยความรวดเร็ว ฟังจากเสียงรถด้านนอก

ก็พอจะรู้ว่าไอ้จิวของเพื่อนๆ น่าจะมาถึงแล้ว มือหนาปาดครีมสีขาวข้น

จากกระปุกมาป้ายส่งๆ ไปบนใบหน้า จำได้ว่าตอนที่ซื้อครีมกระปุกนี้มา

พนักงานขายเฝ้าแต่ย้ำให้เขาใช้นิ้วนางเกลี่ยเบาๆ ให้ทั่ว แต่ใครเล่าจะไปทำตาม

กระจกบานใหญ่สะท้อนภาพรอยจ้ำสีแดงตรงซอกคอไม่ต่ำกว่า

สามจุดที่หญิงสาวสุดร้อนแรงเมื่อคืนได้ฝากเอาไว้ ยังไม่รวมร่องรอยตาม

ร่างกายอีกนับสิบ

“ร้อนแรงจริงๆ”

ชายหนุ่มกระตุกยิ้มพลางนึกไปถึงเบอร์โทรศัพท์ในกระดาษรองแก้ว

ที่อีกฝ่ายทิ้งไว้ให้

แม้จะรู้สึกถูกใจไม่น้อย แต่ผู้ชายอย่างลายเมฆก็ไม่คิดที่จะเดิน

ย้อนรอยเดิม เขาไม่อยากรู้สึกผูกพันกับใครมากไปกว่าหนึ่งคืน

การ ‘แลกเปลี่ยนประสบการณ์’ ชั่วข้ามคืนหรือที่ฝรั่งมักเรียกว่า

‘วันไนต์สแตนด์’ จึงเหมาะกับคนอย่างเขามากที่สุด

ลายเมฆคว้าเสื้อยืดโปโลสีสดกับกางเกงยีนพอดีตัวมาสวมลวกๆ

ยกปกเสื้อขึ้นเล็กน้อยเพื่อปิดบังรอยจ้ำสีแดงทับทิมซึ่งกำลังจะเปลี่ยนไป

เป็นสีม่วงในไม่ช้า ยังไม่ทันจะลงมาถึงชั้นล่าง ร่างสูงของเหนือกาลก็เดินสวน

ขึ้นมาพร้อมกับแฟ้มพลาสติกบางใส มือหนารีบยัดแฟ้มใส่เขา ขณะที่ปาก

ขยับบอกง่ายๆ

“ไปสัมภาษณ์เด็กฝึกงานใหม่ให้หน่อย เอาแค่พอเป็นพิธีแล้วก็รับ

เข้าทำงานได้เลย เดี๋ยวฉันขอดูเรื่องเมนูโปรโมชันกับไอ้จิวแป๊บนึง แล้ว

อีกครึ่งชั่วโมงไปเจอกันที่ห้องประชุมชั้นบน”

“อ้าว คนเราพอแล้วไม่ใช่เหรอ จะรับเพิ่มอีกทำไม”

“รับเพิ่มอีกทำไมน่ะเหรอ” เหนือกาลย้อนถามเสียงห้วน “ฉันกับ

ไอ้จิวตัดสินใจให้ต้นอ้อกับนัทที่เพิ่งเริ่มงานเมื่อสองเดือนก่อนไม่ผ่านงาน

ทั้งคู่ มีอย่างที่ไหน ให้มาทำงานดันมาทะเลาะตบตีกันต่อหน้าลูกค้าเพื่อ

แย่งนาย อาหารตกเกลื่อนกลาด ยังไม่รวมวีรกรรมอื่นๆ ที่ทำเพื่อเรียกร้อง

ความสนใจจากนายอีก บอกตรงๆ ว่าขอบาย”

“แหม...ก็คนมันหล่อและมีเสน่ห์ ให้ทำไงได้” เขาแกล้งโม้

“แล้วคนนี้พวกฉันขอนะ ห้ามเลย อย่าทำเสียเรื่องอีกล่ะ” เหนือกาล

กำชับก่อนเดินเร็วๆ จากไป

ชายหนุ่มเปิดดูแฟ้มนั้นคร่าวๆ พลางเดินเข้าไปในห้องทำงานที่ชั้นสอง

ยักไหล่น้อยๆ เมื่อเห็นภาพถ่ายหน้าตรงของหญิงสาวอายุราวสิบเก้าถึงยี่สิบต้นๆ

เธอมีใบหน้ารูปไข่เรียวเล็กจุ๋มจิ๋ม ปากนิดจมูกหน่อย เรียกได้ว่า

อะไรๆ ในเครื่องหน้าดูเล็กกะทัดรัดไปเสียหมด แม้กระทั่งมวยผมรูปร่าง

คล้ายโดนัทอันจิ๋วที่อยู่สูงเด่นบนศีรษะเล็กๆ ของเธอ จะมีก็แต่ดวงตาดำขลับ

กลมโตราวกับตากวางเท่านั้น ซึ่งเป็นส่วนเดียวที่โดดเด่นออกมา

จากรูปร่างหน้าตาในรูปถ่าย สาวน้อยคนนี้ผ่านเกณฑ์ความสวย

ขั้นพื้นฐานของเขาอย่างไม่ต้องคิดซ้ำ

มาสมัครงานในตำแหน่งเด็กฝึกงานอย่างนั้นหรือ

ลายเมฆอ่านประวัติของหญิงสาวดูคร่าวๆ ในระหว่างที่นั่งรอให้

เด็กในร้านอีกคนไปเรียกหญิงสาวขึ้นมาเพื่อเริ่มการสัมภาษณ์

‘ชื่อ วาริสา นามธรรม อายุยี่สิบสองปี’

อืม...ผิดจากที่เขาคาดไปเล็กน้อย

เพิ่งจบปริญญาตรีสาขาคหกรรมศาสตร์จากมหาวิทยาลัยที่มี

ชื่อเสียงแห่งหนึ่ง และต้องการประสบการณ์เกี่ยวกับร้านอาหารจากที่นี่

เพื่อการสมัครงานในอนาคต

นั่นหมายถึงว่าเธอจะอยู่ไม่นาน

แต่จะว่าไป...เด็กฝึกงานในร้านก็มักอยู่ไม่ทนอยู่แล้ว แต่นี่เป็น

ครั้งแรกที่จะมีเด็กฝึกงานจบปริญญา

เสียงเคาะประตูดังขึ้น ดึงสมาธิของลายเมฆให้ห่างออกจากประวัติ

ของสาวน้อยจบใหม่ ใบหน้านวลเนียนกระจุ๋มกระจิ๋มโผล่เข้ามาตามรอยแง้ม

ของประตูอย่างกล้าๆ กลัวๆ ตามมาด้วยโดนัทลูกเล็กๆ บนศีรษะเธอ

ที่วันนี้ดูกลมเป็นพิเศษมากกว่าในรูปถ่าย ริมฝีปากจิ้มลิ้มเม้มเข้าหากันนิดๆ

เหมือนกำลังรวบรวมความกล้า

“สวัสดีค่ะ หนูมาสัมภาษณ์งานค่ะ”

“เข้ามาสิ” เขาเอ่ยปากอนุญาต ตวัดสายตาไปทางเก้าอี้ตัวหนึ่งที่ว่างอยู่

เป็นสัญญาณให้หญิงสาวเดินไปนั่งที่เก้าอี้ตัวนั้น

ร่างบอบบางคงคอนเซปต์ ‘เล็กกะทัดรัด’ ค่อยๆ กระมิดกระเมี้ยน

เข้ามาในห้อง ก่อนยกมือเรียวขึ้นไหว้เขา แล้วจึงเดินไปนั่งตรงเก้าอี้ตัวเดียวที่ว่างอยู่

เมื่อเพลย์บอยหนุ่มเห็นการแต่งตัวของเธอก็ถึงกับต้องขมวดคิ้ว

ความประทับใจเมื่อแรกเห็นเพียงรูปถ่ายลอยหายวับไปทันที

เธอคนนี้เพิ่งกลับมาจากการทำบุญหรืออย่างไร

หญิงสาวแต่งตัวด้วยเสื้อเชิ้ตแขนยาวติดกระดุมถึงคอ คู่กับกระโปรง

ทรงสอบสีน้ำเงินเข้มซึ่งมีความยาวคลุมเข่า สวมรองเท้าคัตชูสีดำไร้ลวดลาย

บนร่างกายไม่มีเครื่องประดับอื่นใดนอกจากสร้อยข้อมือเส้นน้อยที่มอง

ยังไงก็เหมือนลูกประคำที่แจกตามวัดเวลาทำบุญ

แต่งตัวเรียบร้อยมิดชิดและเชยขนาดนี้น่าจะไปบวชเป็นชีเสียให้

รู้แล้วรู้รอด หลุดมาจากดาวแห่งธรรมะหรืออย่างไรก็ไม่รู้

แต่เมื่อเขาได้พิจารณาเธอใกล้ๆ ก็เริ่มเปลี่ยนความคิด โดยเฉพาะ

รอยแยกจากสาบเสื้อทางด้านหน้าของเสื้อเชิ้ตตัวเล็กสีขาวสะอาดตา

ซึ่งติดกระดุมอย่างมิดชิดตัวนั้น ทำเอาลายเมฆเผลอกลืนน้ำลายติดๆ

กันหลายครั้งอย่างลืมตัว

แม่เจ้าโว้ย...แม่ชีสาวคนนี้มีผลิตภัณฑ์ล้นเหลือจริงๆ ไม่เห็นจะเล็ก

เหมือนส่วนอื่นของร่างกายสักนิด ความยืดหยุ่นยามเธอก้าวเดินบอกให้เขา

รู้ว่าเป็นนมสดแท้แบบครบส่วน แถมไม่พร่องมันเนยของจริง ไม่ได้หลอกลวง

ผู้บริโภคแบบที่ใช้นมผงดัดแปลงหรือนมผงขาดมันเนยมาทดแทนอย่าง

                                (โปรดติดตามต่อในฉบับเต็ม)


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (96 รายการ)

www.batorastore.com © 2024