พันธนาการพิศวาส (ธีรธร)

พันธนาการพิศวาส (ธีรธร)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786167715124
มีสินค้าในสต็อค
ราคา: 227.00 บาท 56.75 บาท
ประหยัด: 170.25 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

1

เสียงดนตรีที่ไม่ว่าจะฟังอย่างไรชนิตราก็รู้สึกว่าเหมือนเอา

คนมานั่งบ่นงึมงำแข่งกันแล้วอัดใส่แผ่นกลมๆ มากกว่ากำลังส่งเสียง

ดังสนั่นจนหล่อนต้องยกมือขึ้นปิดหู พร้อมกับเบียดร่างผอมบางของ

ตัวเองผ่านฝูงชนที่เต้นแร้งเต้นกาไปอย่างยากลำบาก พอหลุดมายัง

บริเวณที่พอจะโล่งหน่อย จมูกกลับต้องถูกรังควานด้วยกลิ่นบุหรี่ที่

หล่อนชังเป็นที่สุด

ให้ตายเถอะ! หล่อนเกลียดผับจริงๆนะ

ชนิตราสาบานเลยว่าจะไม่เหยียบย่างมาที่นี่เด็ดขาดหลังจาก

เมื่อสี่ปีก่อนเคยโดนรุ่นพี่ลากมารับน้องที่ผับ หากนั่นไม่ได้หมายรวม

ไปถึงกรณีที่ผู้มีพระคุณฝากให้หล่อนมาลากตัวลูกสาวของพวกท่าน

กลับ

นั่นแหละวิญญาณบริสุทธิ์ถึงต้องมาคลุกคลีกับไส้เดือนดินที่

ดิ้นราวกับถูกไฟจี้

หญิงสาวเพ่งสายตาผ่านกรอบแว่นไปรอบๆ ตัวที่มืดแสน

มืด มีเพียงไฟดิสโก้เธคหลากสีส่องวูบวาบไปมาจนน่าเวียนหัว หล่อน

พยายามมองหาธาราภัส คุณหนูไฮโซจอมงี่เง่า ไม้เบื่อไม้เมาของหล่อน

ทำตัวอย่างนี้สิถึงได้เรียนไม่จบเสียที...

ชนิตราเป็นเด็กกำพร้า พ่อแม่ของหล่อนจากไปเพราะประสบ

อุบัติเหตุ หล่อนอยู่กับยายพุดซึ่งทำงานเป็นแม่บ้านให้คุณอิสระและ

คุณนิมมาน เจ้าของธุรกิจจิวเวลรี่ ทว่าบัดนี้ถังแตกกลายเป็นไฮโซ

ตกยาก แต่ยังรักษาภาพไว้อย่างเหนียวแน่นเพราะคำว่าตระกูลเก่าแก่

มันค้ำคอ ทั้งสองเป็นคนดีมีเมตตาและใจดีกับชนิตราเสมอ หากแต่

พิษเศรษฐกิจเมื่อสามปีก่อนทำให้เป็นอย่างนี้ ท่านลงทุนทำธุรกิจ

โรงแรม แย่ที่มันไม่เจริญรุ่งเรืองอย่างที่หวัง ซ้ำยังสร้างหนี้สินจน

กลายเป็นคนฐานะยากจน ดีที่ยังมีบ้านเป็นของตัว แม้ไม่มีเงินทองใช้

สบายมืออย่างเก่า แต่ก็ยังมีที่ซุกหัวนอน หากความเปลี่ยนแปลงด้าน

ฐานะนั้นไม่ได้ซึมเข้าหัวบุตรสาวคนเดียวอย่างธาราภัสเลย หล่อนยังคง

ใช้ชีวิตเหมือนเดิม เรียนมหาวิทยาลัยเอกชนค่าเทอมแพงหูฉี่ ข้าวของ

เครื่องใช้หรือก็ต้องแบรนด์เนมและเปลี่ยนยกเซ็ตทุกเดือน เมื่อบิดา

มารดาไม่สามารถตอบสนองความต้องการได้อย่างเก่า เจ้าตัวก็เปลี่ยน

ไปใช้ความสวยที่ติดตัวมาแต่กำเนิดให้เกิดประโยชน์ ด้วยการหลอก

ผู้ชายที่มาติดพันให้ซื้อโน่นซื้อนี่ให้ จุดนี้ชนิตราไม่เห็นว่ามันแปลก ถ้า

ผู้ชายโง่งมพอที่จะซื้อให้ละก็นะ ธาราภัสก็มีสิทธิ์ทำอย่างนั้น

แต่ไม่ใช่สิทธิ์ออกเที่ยวราตรีแล้วหล่อนต้องมาตามกลับแทบ

ทุกคืน!

ยิ่งตอนนี้คู่ควงของธาราภัสเป็นคนที่ชนิตราเกลียดเข้า

เส้นเลือดอย่างนี้ด้วย หล่อนยิ่งระอา!

ทำไมหนอหล่อนถึงต้องมาตกระกำลำบาก ต้องฝ่าสิ่งที่

รังเกียจเพียงเพื่อลากตัวธาราภัสกลับบ้าน ทุกครั้งที่มาหล่อนรู้ว่าต้อง

เจออะไรบ้าง ด่าหล่อนกลางผับบ้างละ แกล้งเอาน้ำสาดหน้าให้อาย

เพื่อนเล่นบ้างละ และจำเพาะเจาะจงทำให้ขายหน้าต่อหน้าแฟนหนุ่ม

ตัวเองด้วย

แฟนของธาราภัส...กิ้งกือของชนิตรา

ทีปกร...ชายหนุ่มรูปหล่อพ่อรวย ต้นตระกูลสืบเชื้อสายมา

จากขุนนางในรั้วในวัง ทั้งยังเสริมด้วยดีกรีนักเรียนนอก ฟังๆ ดูแล้ว

ก็น่ากรี๊ดอยู่หรอก หากไม่บังเอิญว่าชนิตรารู้ทันธาตุแท้เขาเสียก่อน

จะว่าบังเอิญก็คงได้ ทีปกรเป็นเพื่อนร่วมห้องสมัยไฮสคูล

ของชนิตรา

อืม...เหลือเชื่อไหมล่ะ หลานคนใช้กับคุณชายไฮโซเคยเรียน

ห้องเดียวกัน!

หล่อนอายุมากกว่าธาราภัสแค่ปีเดียว อิสระจึงตกลงกับ

นิมมานให้หล่อนเข้าศึกษาที่เดียวกับธาราภัสตั้งแต่ชั้นอนุบาลที่

โรงเรียนนานาชาติแห่งหนึ่งกระทั่งไฮสคูลที่ได้โคจรมาเรียนห้องเดียว

กับทีปกร สำหรับเขา หล่อนเหมือนกาในฝูงหงส์ ยากจนและน่ารังเกียจ

เขาสามารถสร้างบรรยากาศน่าอึดอัด ทำให้ชนิตรากลายเป็นตัวตลก

ไปได้เพียงแค่ขยิบตาครั้งเดียวแล้วหันไปหัวเราะกับเพื่อนๆ คิดดูแล้ว

กันว่าแย่แค่ไหนที่จู่ๆ โดนลอยแพ ไม่มีเพื่อน ต้องทนกับสายตาดูถูก

ที่ตลอดชีวิตแทบไม่เคยเจอ

ต้องใช้คำว่าแทบ เพราะปกติแล้วเจออยู่บ่อยๆ จากธาราภัส

นั่นแหละ เจ้าหล่อนไม่พอใจนักหรอกที่หลานคนใช้ในบ้านได้รับการ

เลี้ยงดูอย่างดีราวกับมีส่วนร่วมในวงศ์ตระกูล แต่นอกจากนั้นหล่อน

ก็ไม่เคยเจอใครดูถูกซึ่งๆ หน้าเลยนะ ทีปกรถือเป็นคนแรกที่ทำให้

หล่อนรู้สึกแย่ได้ขนาดนั้น และรับรองว่าหล่อนจะจำไปจนวันตาย!

ลึกกว่านั้นหล่อนรู้ว่ามันเป็นเพราะตัวหล่อนเองนั่นแหละ ที่

ทำให้ตัวเองต้องตกนรก

นับจากวันที่จบเกรดสิบสอง เขาบินไปเรียนต่อที่ไหนหล่อน

ไม่รู้ ไม่คิดจะสน แค่ยินดีกับตัวเองที่หลุดพ้นจากสายตาดูแคลนแล้ว

ที่ไหนได้ เมื่อสามเดือนก่อน ธาราภัสกลับควงแขนเขามาที่บ้าน เปิดตัว

ว่านี่คือแฟนใหม่ของหล่อน โอ! พระเจ้า ชนิตราอยากเอาหัวโขก

พื้นห้องน้ำตายให้รู้แล้วรู้รอด

ทางเดียวที่จะทำให้หล่อนหลุดพ้นจากการตามล่าตัวธาราภัส

กลับบ้านทุกคืน เห็นจะเป็นการถีบส่ง เอ่อ...หมายถึงวางแผนให้เด็กนั่น

ได้ลงเอยแต่งงานมีครอบครัวแล้วจะได้รับผิดชอบตัวเองได้

สงสารก็แต่สามียายภัสเท่านั้นแหละ ปวดกะโหลกยันวันตาย

แน่

“เอ๊ะ ภัส” ชนิตราเห็นผู้หญิงผมสีทองยาวระเอวก็จำได้ทันที

ว่าเป็นลูกผู้มีพระคุณ หล่อนปรี่เข้าไปหา แต่กลับมีชายหนุ่มร่างตึก

สวนออกมาก่อนเลยชนโดยไม่ได้ตั้งใจ

ไม่ต้องเงยหน้าขึ้นมองให้เสียเวลา แค่เหลือบดูนิดๆ ก็เห็น

ว่าเป็นฝรั่งพุงพลุ้ยหนวดเฟิ้ม ชนิตราหงุดหงิด ไม่ใช่เพราะคนไม่หล่อ

ชน แต่เพราะคลาดกับธาราภัสต่างหาก

‘โอ๊ย! ดึงเวลากลับบ้านไปอีกหลายนาทีเลยสิ!

พอตั้งหลักได้ หล่อนก็เดินสะเปะสะปะเข้าไปในตรอกมืดๆ

หลังร้าน ชนิตราเดาว่าอาจเป็นห้องคาราโอเกะอะไรเทือกนั้น

ประตูหน้าห้องเป็นอะลูมิเนียม หากมีช่องกระจกเล็กๆ พอ

ให้มองเข้าไปเห็นภายในได้ หญิงสาวเขย่งตัวชะโงกเข้าไปกวาดตามอง

หาธาราภัสทีละห้องๆ ใช้ความไวมองปราดเดียวแล้วละสายตาออก

ด้วยกลัวว่าจะถูกคนในห้องปารองเท้าเอา

ทว่าประตูห้องสุดท้ายที่มองเข้าไป ชนิตรากลับไม่อาจละ

สายตาได้ หญิงสาวถึงกับตัวชา สมองหยุดสั่งงานไปทันที!

ภาพชายหญิงสองคนเอนตัวทาบทับกันในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอน

สร้างความตกตะลึงให้ชนิตราในนาทีแรก หากนาทีถัดมาเมื่อตั้งสติได้

มุมปากเจ้าหล่อนก็กระตุกขึ้นอย่างมาดหมาย และหยิบโทรศัพท์มือถือ

ขึ้นมากดซูมผ่านกระจก ขัดใจนิดหน่อยที่มันไม่ชัดอย่างใจหวัง แต่ยัง

พอมองออกว่าใครกำลังทำอะไรกับใคร และเพื่อให้หลักฐานชัดเจนขึ้น

มือเล็กจึงผลักประตูเข้าไป เสียงครางดังขึ้นจนหล่อนต้องเบ้ปาก

เหมือนสองคนกำลังตกอยู่ในห้วงกิจกาม จนไม่รับรู้ว่ามี

บุคคลที่สามเข้ามา พอได้ภาพเท่าที่ต้องการแล้วชนิตราก็ลดโทรศัพท์

มือถือลง และยิ้มย่องกับตัวเอง

‘เสร็จโก๋!

“กรี๊ด!”

ชนิตราแกล้งปล่อยเสียงกรีดร้องล้านเดซิเบล งูที่กอดรัด

ฟัดกันอยู่ถึงกับแตกตื่น ผละออกจากกัน ธาราภัสเงยหน้ามองคนที่มี

ตำแหน่งเป็นพี่เลี้ยงของตัวเองอย่างตกใจสุดขีด

“ยายขิม!”

ทีปกรหันขวับ เห็นคู่แค้นเก่ายืนแสยะยิ้มอยู่ที่ประตูก็รู้สึก

หนาวเยือก ขนตั้งชันเพราะแลเห็นสิ่งที่อยู่ในมือชนิตราชัดเจนชนิด

ไม่ต้องอาศัยเลนส์ขยายเพิ่ม

“เอามานี่นะ” ชายหนุ่มโผเข้าหา หวังแย่งเครื่องมือสื่อสาร

ในมือหล่อน

ชนิตรากรี๊ดลั่นอีกครั้ง พร้อมกระโจนออกจากห้องคาราโอเกะ

แสนสวาท วิ่งสุดฝีเท้าเพื่อไปโบกแท็กซี่ ไม่นำพาเสียงโวยวายให้หล่อน

หยุดจากธาราภัสและทีปกร

“ไป...ค่ะ” ชนิตราบอกที่หมายกับคนขับ “เร็วค่ะพี่ ไอ้พวก

ขี้เมาในผับมันจะปล้ำหนู ดูสิๆ มันตามมาแล้ว”

พี่คนขับห้อตะบึงทันทีที่เห็นทีปกรพาตัวมาแปะกับกระจก

สีหน้าเขาใกล้จะฆ่าหล่อนได้แล้วกระมัง

แต่ใครจะสนล่ะ!

ชนิตราหันไปแลบลิ้นปลิ้นตาอย่างสนุกสนาน ยกมือขึ้นสาธุ

ดังๆ

“โอ๊ย! รอดแล้วยายขิม ทีนี้ละ ฉันจะทำให้สองคนนี้หลุดจาก

วงจรชีวิตไปให้ได้เลยเชียว!”

คนหนึ่งก็ทำให้หงุดหงิดสมอง อีกคนก็รกความทรงจำ

รถแท็กซี่แล่นเข้าไปจอดหน้าคฤหาสน์ใจกลางกรุง ชนิตรา

ยื่นธนบัตรสีแดงสองใบให้แล้วกระโดดผลุงลงจากรถโดยไม่รอเงินทอน

จากนั้นก็วิ่งตื๋อเข้าไปในห้องรับแขกที่ผู้อุปการะทั้งสองของหล่อนนั่ง

เอนหลังอยู่

“อะไรกันแม่ขิม วิ่งหน้าตื่นมาเชียว” นิมมานถามด้วยความ

เอ็นดูเด็กสาวที่ยืนหอบหายใจ

“แฮกๆ ขอเวลาสักครู่ค่ะ” ชนิตรายกมือขึ้นสูง สูดหายใจ

เข้าลึกๆ แล้วทรุดกายลงนั่งข้างเก้าอี้ “ขิมมีอะไรมาให้ท่านทั้งสองดูค่ะ”

“อะไรหรือขิม” อิสระชะโงกหน้ามาดูของที่หล่อนล้วงจาก

กระเป๋ากางเกง

“ทำใจดีๆ กันนะคะ” ชนิตรายิ้มแหย นึกขอโทษผู้มีพระคุณ

อยู่ในใจ และเตรียมปั่นหูรอเสียงก่นด่าของธาราภัสบวกกับต้องเผชิญ

หน้ากับยายพุดที่คงหยิกหล่อนจนเนื้อเขียวฐานสร้างเรื่องคราวนี้

แต่ถ้าทั้งหมดที่กล่าวมามันทำให้หล่อนรอดพ้นจากความ

วุ่นวายทั้งกายและใจแล้วละก็...นับว่าคุ้ม!

“ขิมไปตามคุณภัสกลับบ้านค่ะ แต่ที่ขิมไปเจอ เอ่อ...คุณท่าน

ดูกันเองเถอะค่ะ ขิมไม่มีอะไรจะพูด” หล่อนก้มหน้าลงต่ำซ่อนยิ้ม ก่อน

ยื่นสิ่งที่ใช้ต่างกล้องไปข้างหน้า

อิสระสบตากับนิมมานอย่างงุนงง นานๆ ครั้งชนิตราจะมี

ทีท่าแปลกๆ เช่นนี้ ท่านรับมาแล้วนิ่วหน้า ลางสังหรณ์บางอย่างโชย

มา นิมมานกระเถิบเข้าใกล้สามีแล้วกดปุ่มเล่นคลิป

หูย...สาบานว่าจะใช้โทรศัพท์รุ่นนี้ไปจนตายเล้ย เสียงคราง

ชัดแจ๋ว!ชนิตราจั๊กจี้หูไม่น้อยที่ต้องฟังเสียงนี้อีกครั้ง

บิดามารดาสาวน้อยในคลิปนั่งตัวแข็งค้างเป็นหินตาหินยาย

‘ฉันทำอะไรผิดไปหรือเปล่าเนี่ย’

“คุณท่านคะ...” ชนิตราแตะหน้าตักนิมมาน หล่อนห่วงความ

รู้สึกท่านจริงๆ ห่วงมากจนอยากเตะตัวเองที่สรรหาเรื่องมาจนได้

กตัญญูกับแก้แค้นนี่ช่างเลือกยากเสียจริงๆ

“คุณแม่!”

ธาราภัสพรวดพราดเข้ามาในห้องนั่งเล่น เห็นมือถือชนิตรา

อยู่ในมือนิมมานก็รู้ว่าไม่ทันแล้ว หน้าสวยจัดตวัดมาทางต้นเหตุอย่าง

เอาเรื่อง

“แส่นักนะนังขิม”

“พ่อเคยสอนให้ลูกพูดคำหยาบคายเหมือนพวกปากตลาด

อย่างนี้เมื่อไรกันภัส ” อิสระปรามบุตรสาวเสียงเข้ม ความกรุ่น โกรธจาก

ภาพที่เห็นผนวกกับคำหยาบนั้นแทรกซึมหัวใจจนเจ็บปวด

ท่านเลี้ยงลูกสาวผิดหรืออย่างไร ถึงได้ทำตัวเช่นนี้

ธาราภัสไม่ใช่เด็กสาวแสนเรียบร้อยแบบคุณหนูที่ถูกอบรม

บ่มมารยาทมาอย่างดี ตรงกันข้าม หล่อนเปรี้ยวจนเข็ดฟันและลอง

ทุกอย่างที่ขวางหน้า ไม่กลัวโลก ทุกอย่างที่เป็นไปในทางที่ผิด อิสระและ

นิมมานไม่คิดว่าเป็นเพราะสังคมในโรงเรียนหรอก เพราะชนิตราเองก็

ศึกษาโรงเรียนนานาชาติเช่นเดียวกับธาราภัส เด็กคนนั้นยังเป็นเด็กดี

ไม่เคยทำเรื่องช้ำใจให้ผู้อุปการะเลยสักครั้ง

อิสระเห็นว่าคู่ควงคนล่าสุดก็คือทีปกร ลูกชายของนักธุรกิจ

เจ้าของเสื้อผ้าแบรนด์ดัง อย่างพันกร ซึ่งคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี จึงไม่ได้

ห้ามปรามแต่อย่างใด ทว่าท่านลืมคิดว่าเด็กหัวนอกสองคนคบกันมัน

ไม่จบแค่กินข้าวดูหนังหรอก

นับหนึ่งไม่ทันถึงสาม อีกคนที่ร่วมก่อเรื่องก็วิ่งเข้ามาสมทบ

อิสระเหลือบด้วยหางตา ความเป็นพ่อทำให้อยากตะบันหน้าหล่อๆ นั้น

ไปสักที แต่ความเป็นผู้ใหญ่ก็ค้ำคอไว้

“คุณอา สวัสดีครับ” ทีปกรดึงขาตัวเองที่จะขยับเข้าไป

เล่นงานชนิตราให้กลับมายืนนิ่ง ยกมือไหว้ผู้ใหญ่ ซ่อนรอยเข่นเขี้ยว

แม่ตัวดีไว้เต็มกำลัง

“นี่มันอะไรกัน” นิมมานหน้านิ่ง วางโทรศัพท์มือถือลงบน

โต๊ะกลาง “ภัส แม่อยากได้คำตอบ จากเราด้วยที”

ทีปกรคราง “ซวยแล้ว...” ขณะที่ธาราภัสหน้าเผือดสี

“คุณแม่ไปเชื่อมันได้ยังไงคะ ภัสน่ะหรือจะทำอะไรน่าอาย

แบบนั้น” ธาราภัสเริ่มเถียง

หล่อนไม่ยอมรับเสียอย่าง ใครจะมาเอาเรื่องได้ หารู้ไม่ว่า

หลักฐานมันชัดกว่าที่คิด

“งั้นแม่รีเพลย์ให้ดูเอาไหม เผื่อแม่ลืมไปว่าเคยคลอดลูกสาว

ฝาแฝด” นิมมานสวนลูกสาว ตอกให้รับผิดจนดิ้นไม่หลุด

แน่ละ ธาราภัสเป็นลูกคนเดียว ทั้งภาพทั้งเสียง มันไม่มีตัว

ก๊อบปี้หรอก

“คุณแม่” ลูกสาวครวญ

นิมมานโบกไม้โบกมือไม่ฟัง และตวัดสายตาไปทางใบหน้า

ขาวตี๋ของทีปกร

“เอ่อ...คุณอา ฟังผมก่อนนะครับ”

“อาฟังแน่ ที แต่หลังจากที่เธอกับอาคุยกันเรื่องอนาคตจบ

แล้วนะ”

“คุณแม่!” ธาราภัสอุทานอีกครั้งพร้อมส่ายหน้าจนคอแทบ

หลุด “ไม่นะคะ ภัสไม่แต่ง”

ทีปกรอ้าปากค้าง ไม่คิดว่าจะมีสาวคนใดกล้าปฏิเสธการ

แต่งงานกับเขา “ทำไมล่ะภัส” เขาถามเสียงขุ่น

“ภัสยังไม่พร้อม คุณเองก็ด้วยแหละที โอ๊ย ไปกันใหญ่แล้ว

นะ นังขิม! เพราะแกคนเดียว อ๊าย” พอสู้แม่ไม่ได้ก็หันไปไล่เบี้ยกับ

ชนิตรา รายนี้ไวกว่า รีบกระถดตัวไปแอบหลังอิสระ

“ขิมขอตัวก่อนนะคะคุณท่าน” แล้วเผ่นแผล็วหายไปทาง

เรือนคนใช้หลังบ้าน ทิ้งเพียงรอยยิ้มเยาะเย้ยไว้ให้ทีปกรกับธาราภัส ที่

อย่างไรก็คงดิ้นไม่หลุดแน่ๆ

‘เชอะ! ขอให้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขในอเวจีสีชมพูนะยะ!

 

“ภัสไม่แต่งนะคะคุณแม่” ธาราภัสกระแทกตัวลงบนเก้าอี้

หนังเต็มแรง กรี๊ดเสียงลั่นบ้าน “คุณแม่ตัดสินใจอะไรไม่ถามความเห็น

ภัสเลย ทำไมต้องบังคับให้ภัสแต่งงานกับทีด้วย”

“ภัสจะยอมเสียตัวฟรีๆ งั้นหรือ” นิมมานย้อนถาม อยากรู้

จริงๆ ว่าลูกสาวคิดอะไรอยู่

“มันก็ไม่ใช่ครั้งแรกเสียหน่อยนี่คะ” ธาราภัสหลุดปาก แล้ว

นั่งนิ่งในความเงียบที่มารดาจงใจโปรยล้อมตัว

หล่อนไม่คิดว่าแม่จะเห็นลูกสาวคนนี้เป็นเด็กเรียบร้อย

รักนวลสงวนตัวหรอกนะ

“ยังไงก็ต้องแต่ง อย่าเรื่องมาก เสียหายไปแล้วจะให้แม่ปล่อย

ผ่านคงไม่ได้ นี่ถ้าขิมไม่ช่วยเปิดตาให้ แม่คงโง่งม ไม่รู้ว่าลูกสาวตัวเอง

เที่ยวไปถวายตัวให้ใครเขาแบบนี้หรอก” นิมมานคว้ายาดมมาจ่อจมูก

เกือบลมจับกะทันหันกับความก๋ากั่นไม่เข้าท่าของบุตรสาว

“คุณแม่!” ธาราภัสร้อง ทำหน้ามุ่ย หล่อนยังไม่อยากแต่งงาน

ยังไม่อยากถูกผูกมัด ทว่าก็ขัดมารดาไม่ได้เช่นกัน

ธาราภัสไม่ปฏิเสธว่าทีปกรครบสูตรชายในฝันทุกประการ แต่

นั่นไม่ใช่เหตุผลที่ทำให้หล่อนหยุดได้ เหมือนกับเขานั่นแหละ ชายหนุ่ม

เองก็เช่นกัน เขาไม่สามารถหยุดชีวิตอิสระตอนนี้ได้

‘โอ๊ย! ทั้งหมดนี่เพราะนังขิมคนเดียวเลย หญิงสาวกระแทก

เท้าออกไปอย่างหงุดหงิด พร้อมคาดโทษชนิตราในใจ

 

ชนิตราเข้าครัวหยิบขนมปังโฮลวีทมาสองแผ่น ใช้ไม้พาย

ขนาดเล็กปาดทูน่าสเปรดลงไปแล้ววางผักกาดหอมเพิ่มคุณค่าสาร

อาหาร เป็นของว่างเพิ่มพลังหลังทำตัวเป็นแม่สื่อชักนำคนมาแต่งงาน

กันได้

หญิงสาวอ้าปากจะงับขนมปัง หากสิ่งที่ฟันขบลงไปกลับ

เป็นมือปริศนาที่ยื่นมาจากด้านหลัง ร่างของใครบางคนแนบสนิท

ชิดแผ่นหลัง เนื้อนิ่มๆ ต่างจากรสชาติขนมปังทำให้คนกัดสะดุ้งโหยง

หมุนขวับไปดู พอเห็นว่าเป็นใครก็ตาค้าง อ้าปากเตรียมแหกปาก หาก

ไม่ติดมือที่ตะปบลงบนปากเสียก่อน

“ตกใจมากไหมยายดอกหญ้า” ทีปกรแสยะยิ้ม นัยน์ตา

ดำสนิทลุกวาวราวกับยมทูตที่จะเอาวิญญาณ

“อ่อยอ๊าน!” ชนิตราดิ้นสุดแรง ตัดสินใจลงเขี้ยวอีกครั้ง

ชายหนุ่มชักมือออก และสูดปาก “อู๊ย ยายขิม เป็นหมา

หรือไงฮะ” เขาซ่อนรอยเจ็บด้วยการซุกมือกอดอก

ชนิตรากระโดดถอยไปสามก้าว ก่อนกระทืบเท้าขัดใจที่เห็น

ศัตรูอยู่ตรงหน้าแต่ทำอะไรไม่ได้

“นายสิหมา เข้ามาทำไม”

“เธอทำแบบนี้ทำไม” ทีปกรเปลี่ยนโหมด ถามเสียงขรึม

หน้าเคร่ง

“ทำอะไร” หล่อนถามตาใส ในใจแลบลิ้นอย่างหมั่นไส้

‘ก็น่าไหมล่ะ!

“มายุ่งกับเรื่องฉันไง ทำทำไม” เขาขึ้นเสียง อยากคว้าคอ

หล่อนมาบีบนัก ‘หน็อย ทำแบ๊วหรือ

“เปล๊า” ชนิตราปฏิเสธเสียงสูง แจงเหตุผล “ฉันแค่ไม่อยาก

ให้ใครมาว่าท่านอิสระกับคุณนิมมานว่าเลี้ยงลูกไม่ดี ให้ผู้ชายแตะเนื้อ

ต้องตัวง่ายๆ ทำไม ไม่ดีหรือไง เห็นพากันไปลั้นลาทุกวัน นึกว่าอยาก

อยู่ด้วยกันเต็มแก่เลยสงเคราะห์ให้ไง”

หลังหล่อนร่ายเหตุผลยาวยืดที่ฟังไม่เข้าหูจบ ความโกรธก็

แล่นพล่านทั่วตัวทีปกร ดูยายนี่พูดเข้าสิ! แล้วคู่ควงอย่างธาราภัสมี

ตรงไหนให้มองว่าเขาพิศวาสจนอยากอยู่ด้วยทุกวันกัน มันแค่ความ

ใคร่ หาใช่ความรัก

ความรัก...ทีปกรยิ้มหยันคนตรงหน้า หาวิธีเอาคืนได้โดย

พลัน

“ทำใจได้หรือ ชนิตรา ถ้าฉันจะแต่งงานกับภัส”

น้ำเสียงกรุ้มกริ่มส่งให้ชนิตราหน้าตึง สัมผัสอะไรได้รางๆ

กลัวว่าเขาจะพูดอะไรแสลงหูออกมา

รอยยิ้มปรากฏขึ้นที่มุมปากคนตรงหน้าอีกครั้ง หรือไม่แน่ว่า

มันไม่ได้เลือนหายไปเลย

“จะต้องให้ทวนความจำให้ไหม” เขาสืบเท้าเข้ามาใกล้ มือ

ลูบคางอย่างยั่วเย้า “ว่าเธอเคยเอาช็อกโกแลตมาสารภาพรักกับฉัน”

“กรี๊ด!” ชนิตรากรี๊ดลั่น พร้อมยกมือขึ้นอุดหู

หล่อนไม่ต้องการฟังความอัปยศในอดีตของตัวเอง!

ใช่! หล่อนเคยทำอย่างนั้นจริงๆ ตื่นตีสามมาตุ๋นช็อกโกแลต

ทำเป็นรูปหมีถือหัวใจผูกโบไปให้เขาวันวาเลนไทน์ แล้วเป็นอย่างไรล่ะ

ตอนนั้นหล่อนเพิ่งสิบห้า ยังไม่รู้จักความรักเสียหน่อย แค่ใจเต้นไปกับ

ความหล่อเหลา ความเป็นนักบาสเกตบอลที่เก่งกาจของเขามันก็เท่านั้น

ทั้งหมดมันเกิดขึ้นก่อนที่จะรู้สันดานเขานี่!

“หึๆ” ทีปกรหัวเราะจนไหล่ไหว “ทำไมล่ะ ฉันยังจำภาพ

วันนั้นได้นะ เธอดูเรียบร้อยขี้อาย ไม่ปากจัดอย่างนี้สักนิด ยายก้นครัว

เอ๊ย เคยเห็นแต่หมาวัดริจะจีบดอกฟ้า นี่เพิ่งเห็นดอกหญ้าคิดจะสอย

เครื่องบิน”

ชนิตราขบริมฝีปากแน่น ถ้อยคำเจ็บแสบบาดลึกบนหัวใจ

‘ใช่สิ ฉันมันต่ำต้อย เป็นแค่เด็กก้นครัว เป็นแค่ดอกหญ้า

ริอ่านแหงนมองเครื่องบิน ก็ต้องถูกแสงอาทิตย์แผดเผาให้ระคายตา

แบบนี้แหละ

“แล้วยังไงล่ะ สุดท้ายดอกหญ้ามันก็ถูกเหยียบย่ำจมดินไป

แล้วนี่ นายจะมารื้อฟื้นอีกทำไม”

น้ำตารื้นขึ้นมาจนต้องรีบเบือนหน้าหนี ชนิตราก่นด่าตัวเอง

ที่มาอ่อนไหวอะไรตอนนี้

“ฉัน...”

น้ำตาที่ไหลออกมาโดยที่เจ้าตัวคงยังไม่ทันรู้สึกเหมือนหมัด

ที่น็อกเขาคาที่ เริ่มสำนึกว่าขุดเรื่องไม่ควรขึ้นมาพูด เขาลืมนึกไปว่า

ความจริงบางอย่างก็ควรเอาเวลากลบให้กลายเป็นฝันร้ายไป

“พูดจบแล้วก็กลับไปสิ” ชนิตราว่าเสียงเย็น ผินหน้าไปอีก

ทาง เมื่อเริ่มรู้สึกถึงของเหลวอุ่นๆ ที่อาบไล้แก้ม

หล่อนจะไม่เช็ดน้ำตาต่อหน้าทีปกรให้เขาสมเพชมากไปกว่า

นี้หรอก

เพราะฉะนั้น...กลับไปเสียที!

กลับไป...ก่อนที่หล่อนจะยืนทำเข้มแข็งต่อไปไม่ไหว

ทีปกรไม่ขยับ คนไล่จึงเป็นฝ่ายสาวเท้าหนีเสียเอง ชายหนุ่ม

เคลื่อนมือจะดึงแขนไว้ แต่หญิงสาวเบี่ยงตัวอย่างรู้ทัน...หนีออกไปด้วย

ความเร็วไม่ต่างจากปรอท ทิ้งให้คนปากเสียยืนถอนฉุนหงุดหงิดเพียง

ลำพัง


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (95 รายการ)

www.batorastore.com © 2024