กลรักเล่ห์พิศวาส (วิลัลวลี)

กลรักเล่ห์พิศวาส (วิลัลวลี)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786167715513
มีสินค้าในสต็อค
ราคา: 279.00 บาท 69.75 บาท
ประหยัด: 209.25 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

บทนำ

ร่างอรชรในเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงขาสั้นตัวบางซุกตัวใต้ผ้าห่ม

ผืนหนาอย่างสบาย อาจเพราะด้วยอากาศยามเช้าที่เย็นสดชื่นของฟาร์ม

หมอกฝันเป็นเหตุให้คนที่ตั้งใจจะตื่นแต่เช้าลากเวลายาวต่อออกไปอีก

ทว่าเสียงกุกกักที่ดังขึ้นใกล้ๆ ก็ปลุกให้ร่างเพรียวตื่นขึ้นด้วยอาการงัวเงีย

ร่างสูงกำยำที่กำลังวุ่นวายกับการค้นหาอะไรบางอย่างภายใน

กล่องใบใหญ่ชะงักมือ ใบหน้าคมเงยหน้ามองคนบางคนที่อยู่บนเตียงกว้าง

ของเขาพลางถอนหายใจ

เมื่อคืนเธอคงนอนด้วยความสุขสบายไม่น้อยบนเตียงนุ่มนั่น

ขณะที่เขาต้องอัปเปหิตัวเองออกไปนอนในห้องรับรองแทน ดวงตาสีเข้ม

ทอดมองไปยังแขกที่ไม่ได้รับเชิญ เธอยังคงนอนบิดตัวอยู่บนเตียงกว้าง

และเมื่อเขาสบตาเข้ากับนัยน์ตากลมโตที่ลืมขึ้นมองมาทางตน ยิ่งทำให้

เขาครุ่นคิดและหนักใจมากขึ้นไปอีก

“หาอะไรอยู่เหรอคะ” คนถามยกมือขึ้นเท้าคางพลางจ้องมอง

คนตัวสูงแสนสมาร์ตในเสื้อลายสกอตแขนยาวกับกางเกงยีนส์สีซีดด้วย

นัยน์ตายิ้มๆ

“หาของ” คำตอบแบบกำปั้นทุบดินของอีกฝ่ายทำให้ ‘ใบบุญ

ว่านรักษา’ หรือ ‘ลูกหมู’ สาววัยยี่สิบสองปีที่เพิ่งเรียนจบมาได้ไม่กี่เดือน

ถึงกับตวัดค้อนควัก ก่อนขยับตัวลุกขึ้นนั่งทันที

“ทราบค่ะ! ว่าคุณตฤณหาของ...แต่ไอ้ของที่ว่านั่นมันคืออะไร

ล่ะคะ” ไม่พูดเปล่าแต่ยังสะบัดผ้าห่มผืนหนาออกจากตัวหน้าตาเฉย

เผยให้เห็นร่างเพรียวระหงอยู่ใต้เสื้อยืดตัวบางกับกางเกงผ้ายืดขาสั้น

เต็มตาคนมอง

‘ตฤณ ตฤณลักษณ์’ ชายหนุ่มวัยสามสิบสองปีถอนหายใจยาว

พลางหรี่ตาคมดุมองแม่ลูกหมูจอมยั่ว เธอกลับมาคราวนี้เล่นเอาเขา

แทบตั้งตัวไม่ติด ครั้งแรกที่พบ เขาแทบจำเธอไม่ได้ เพราะเมื่อครั้งอดีต

เธอยังเป็นยัยลูกหมูตัวกลม แก้มยุ้ย หน้าตาจิ้มลิ้ม แต่ตอนนี้กลับ

เปลี่ยนแปลงเหมือนลอกคราบจากเดิมจนหมดสิ้น ตรงหน้าเขาตอนนี้

กลายเป็นนางสาวใบบุญโฉมใหม่ที่สวยใสและไฉไล ไม่ว่าใครได้พบเจอ

ก็คงอดมองตามตาเป็นมันไม่ได้

เสียงถอนหายใจแผ่วเบาทำให้ลูกหมูตัวน้อยเผยอยิ้มที่มุมปาก

ก่อนลงจากเตียงนอนแล้วตรงเข้าไปหาร่างสูงที่ยืนนิ่งขึงขังอยู่ ทว่าชายหนุ่ม

เจ้าของห้องกลับสั่งเสียงเครียดเมื่อเห็นเธอเข้ามาใกล้

“หยุดอยู่ตรงนั้นละลูกหมู!”

คนถูกสั่งชะงักกึก คิ้วเรียวสวยที่เคยหนาเป็นพืดบัดนี้โก่งงาม

ได้เลิกขึ้นนิดๆ ราวกับข้องใจ ผิดกับดวงตากลมโตที่พราวระยับ เมื่อชื่อ

ที่เขาเคยเรียกเธอเมื่อครั้งเก่าหลุดจากปากได้รูปนั้นให้ได้ยินอีกครั้ง

ยิ่งแววตาคมกริบราวมีดโกนของเขาที่ไล้ไปทั่วเรียวขาที่โผล่พ้นจาก

กางเกงขาสั้นจุ๊ดจู๋ยิ่งทำให้ใบบุญได้ใจ ทว่าอีกความรู้สึกหนึ่งของเธอ

กลับตีตื้นขึ้นมาในเวลาเดียวกัน นั่นคืออาย! เธอรับรู้ความรู้สึกของ

ตนเองได้จากใบหน้าที่ร้อนวูบ แต่เพราะความที่อยากเอาชนะใบบุญจึง

ข่มความรู้สึกนั้นลงเพื่อไม่ให้ชายที่อยู่ตรงหน้าได้รับรู้

“ไม่หยุด!”

เธอตอบพลางสาวเท้าเข้าไปหาร่างแข็งแกร่งตรงหน้าอย่างท้าทาย

ชายร่างสูงขยับถอยหลังสองก้าวโดยอัตโนมัติแล้วยืนนิ่ง เมื่อร่างระหง

กลมกลึงของยัยลูกหมูตัวแสบมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้า ทั้งยังยกมือบาง

ขึ้นวางบนแผงอกหนาบึกบึนของเขาอย่างจงใจ

“ลูกหมู!”

เสียงทุ้มคำรามดังลั่น แต่ใบบุญกลับรู้สึกคล้ายอีกฝ่ายเพียง

ส่งเสียงกระซิบแผ่วพร่าเสียมากกว่า

“ขา...คุณตฤณ” ใบบุญแสร้งลากเสียงขานรับ นัยน์ตาคู่งาม

ออดอ้อน รู้ดีว่าอีกฝ่ายพยายามข่มความรู้สึกเพียงใด สังเกตจากกล้ามเนื้อ

บนแผงอกของเขาที่กระตุกรับสัมผัสจากฝ่ามือเรียวบางของเธอ

มือแข็งแรงตะครุบหมับที่ข้อมือเล็กๆ ที่เจ้าของจงใจเลื่อนไล้

ปลุกเร้าเขาอย่างต่อเนื่อง คิ้วหนากระตุกอย่างหงุดหงิด ริมฝีปากหยัก

ได้รูปเม้มสนิทอย่างขัดใจ ดวงตาคมกริบหรี่มองคนตัวเล็กตรงหน้า

ที่ก๋ากั่นขึ้นกว่าแต่ก่อนด้วยแววตาวาววับ

ยัยตัวแสบ...คิดจะยั่วเราหรือไง

ชายหนุ่มคำรามในใจ คิดอยากจะสั่งสอนให้ได้รู้สำนึกเสียบ้าง

ว่าอย่ามาเล่นกับไฟอย่างเขา!

“อย่าทำตัวแบบนี้...นี่มันก็เช้าแล้ว กลับบ้านไปซะ”

เขาพยายามใช้น้ำเสียงและแววตาดุดันแสดงออกให้น่าเกรงขาม

แต่ไม่ได้ทำให้ใบบุญหวาดหวั่นแต่อย่างใด ในเมื่อเธอตั้งใจแล้วว่าอย่างไร

เสียเธอก็จะไม่มีวันถอย!

เกมรักเกมนี้ฉันต้องเป็นผู้ชนะเท่านั้น!

“ไม่กลับค่ะ ลูกหมูจะอยู่ที่นี่ จะอยู่กับคุณตฤณ เข้าใจไหมคะ”

ดวงตาแจ่มจรัสบ่งบอกถึงความดื้อรั้น

ตฤณหลุบตามองมือเล็กที่เขากุมไว้อย่างแน่นหนา ก่อนตวัด

เอวกลมเข้าแนบร่างอย่างรวดเร็วด้วยมืออีกข้างที่ยังว่างอยู่ ใบบุญหัวใจ

กระตุกวูบเมื่ออีกฝ่ายเคลื่อนไหวรวดเร็วเสียจนเธอยังไม่ทันตั้งตัว

“อุ๊ย!”

ใบบุญอุทานเสียงแผ่ว ก่อนยิ้มหวานแล้วส่งสายตายั่วยวน

“คุณตฤณแกล้งลูกหมูหรือคะ”

เสียงหวานๆ ที่ถามออกมาพร้อมแววตาที่แฝงความหวาดหวั่น

อยู่นั้นยิ่งทำให้คนหน้าเข้มกระตุกยิ้ม เพราะรู้ว่าหญิงสาวในอ้อมแขนตน

แม้จะเสแสร้งทำกล้าสักเพียงใด แต่เธอก็ยังคงเป็นยัยลูกหมูตัวกลมที่

ขี้กลัว ชอบน้อยใจ และตกใจง่ายอยู่วันยังค่ำ

ทว่าสิ่งที่เปลี่ยนไปจนเขารู้สึกหงุดหงิดคือ เธอไม่ได้อวบอิ่ม

ดั่งฉายายัยลูกหมูคนก่อนของเขาอีกต่อไปแล้ว แต่กลับมาพร้อมทรวดทรง

ระหงเย้ายวนใจที่เธอพยายามพามาให้เขาขย้ำจนถึงที่ จะเป็นเพราะด้วย

เหตุใดก็ตาม เธอก็สมควรได้รับการสั่งสอน!

“กลัวเหรอ”

ใบบุญสบตาคมตรงหน้าหัวใจสั่นระริก แน่นอน...ฉันกลัว

แต่เรื่องอะไรจะต้องบอกด้วยเล่า ไม่มีทางเสียละ!

“ใครว่า...ลูกหมูไม่กลัวสักนิด คุณตฤณต่างหากละที่ไม่กล้า”

เธอท้าทายอย่างไม่เกรงกลัว ทว่าในใจกลับรู้สึกหวาดหวั่น เมื่ออีกฝ่าย

กระชับอ้อมแขนที่กอดเธอแน่นขึ้น ยิ่งทำให้สะท้านไปถึงหัวใจ เขาหัวเราะ

ขึ้นเบาๆ

“ฉันน่ะหรือไม่กล้า” เขาส่ายหน้า “ไม่ใช่หรอกมั้ง แต่คนที่

ไม่กล้า แล้วกลัวจนตัวสั่นคือเธอต่างหากล่ะ...ยัยลูกหมู”

เขาบอกพลางลากฝ่ามือลูบไล้แผ่นหลังบอบบางเล่นแล้ว

กระตุกยิ้มเมื่อเห็นร่างเล็กทำตัวลีบ ดวงตากลมโตฉายแววหวาดหวั่น

ทว่าเพียงชั่วพริบตาหญิงสาวก็รวบรวมสติพลางเม้มปากแน่นเมื่อได้ยิน

คำสบประมาทจากอีกฝ่าย

“ใครว่าลูกหมูตัวสั่น! คุณตฤณนั่นละ ถ้าไม่กล้าก็ปล่อยลูกหมู

เถอะค่ะ อย่าแกล้งลูกหมูให้เสียเวลาเปล่า เพราะยังไงลูกหมูก็ไม่ยอม

กลับบ้านเด็ดขาด!”

เธอขู่ฟ่อพลางดันอกกว้างให้ออกห่าง เมื่อรับรู้ว่าตนเองกำลัง

‘สั่น’ อย่างที่เขาบอกจริงๆ แต่เจ้าของอ้อมกอดรู้ทัน คิ้วหนาจึงเลิกสูงแล้ว

เผยอยิ้มอย่างขบขัน

“อย่างนั้นเหรอ เก่งจริงนะ ถ้าอย่างนั้นลองบอกฉันหน่อยว่า

ทำไมเธอถึงไม่ยอมกลับบ้าน...แล้วยังมาแย่งเตียงฉันนอนแบบนี้อีก

บอกเหตุผลมาหน่อยสิลูกหมู”

ดวงตากลมโตที่จ้องอีกฝ่ายอย่างเอาเรื่องเมื่อครู่เผลอหลุบลง

วูบหนึ่ง แต่เพียงครู่ก็เหลือบตามองเขาอีกครั้งพลางแสร้งยิ้มหน้าระรื่น

“ก็ลูกหมูคิดถึงคุณตฤณนี่คะ อยากอยู่ใกล้ๆ คุณตฤณสักพัก

ก่อน ว่าแต่คุณตฤณเองเถอะค่ะ คิดถึงลูกหมูบ้างหรือเปล่า”

ชายหนุ่มยืนนิ่ง สายตามองมายังคนที่พยายามเบียดตัวเข้าหา

อีกครั้งด้วยท่าทีเฉยเมยจนอีกฝ่ายใจหายวาบ

“ตอบมาตามตรงดีกว่าลูกหมู ว่าทำแบบนี้เพื่ออะไร”

ชายหนุ่มถามเพราะรู้อยู่แก่ใจว่าไม่ควรทำเช่นนี้ ในเมื่อต่างฝ่าย

ต่างก็หมดสิทธิ์ที่จะทำอะไรตามใจเหมือนอย่างเคยอีก

ใบบุญสบตาคมกริบนั้นอย่างตัดพ้อ จากสายตาที่เคยมองเขา

อย่างออดอ้อนหรือไม่ก็ค้อนกลับค่อยๆ หม่นหมองและขรึมลงอย่าง

เห็นได้ชัด

“ลูกหมูรู้มาว่าคุณตฤณกำลังจะแต่งงาน เรื่องจริงใช่ไหมคะ”

เธอถามแม้รู้สึกเจ็บแปลบ

“เธอรู้ได้ยังไง”

แม้มันจะไม่ใช่คำตอบแต่ก็ฟ้องชัดว่าสิ่งที่เธอรู้มานั้นเป็น

ความจริง แต่คำตอบที่ตอกย้ำความจริงได้สร้างความรู้สึกปวดแปลบกับ

หัวใจดวงน้อยจนเกินทน หญิงสาวผลักอกกว้างแสนอบอุ่นออกห่าง

ทันทีที่อีกฝ่ายลืมระวังตัว

“รู้ก็แล้วกัน!” ตฤณขมวดคิ้วมุ่นก่อนปรับสีหน้าเป็นปกติแล้ว

ถามเสียงเรียบ

“รู้แล้วจะทำไมมิทราบ” เขากล่าวพร้อมยืนกอดอกนิ่งพลาง

กวาดสายตามองเธอตั้งแต่ศีรษะจดเท้า แววตาแพรวพราวนั้นยิ่งทำให้

ใบบุญฉุนจัด ก่อนเธอจะสะบัดหน้าหนีไปอีกทาง

“ก็ไม่ยังไง แค่อยากจะมาเห็นหน้าผู้หญิงคนนั้นก็เท่านั้น!”

ใบบุญบอกเสียงสะบัดก่อนหันหน้ากลับมาจ้องตาอีกฝ่ายเขม็ง

“อีกอย่าง...อยากจะมาเห็นหน้าของคนสับปลับไงคะ!”

สิ้นเสียงพูด มือที่กอดอกก็ถูกปล่อยลงแนบลำตัวทันที โดยเฉพาะ

ใบหน้าคมที่ขรึมจัด จนหญิงสาวนึกหวั่น แต่ยังทำใจดีสู้เสือเชิดหน้าเข้าหา

อย่างไม่เกรงกลัว!

“สับปลับอย่างนั้นรึ!”

“ใช่! คุณมันคนสับปลับ! หลอกลวง! ลูกหมูมาเพราะอยาก

จะรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นรู้หรือเปล่าว่าธาตุแท้ของคุณตฤณเป็นคนยังไง!”

พูดจบร่างบางก็ถูกชายหนุ่มกระชากเข้าหาอย่างเร็วและแรงเป็นเหตุให้

คนปากกล้าถึงกับใจหายวาบ

 “คุณตฤณ! จะบ้าหรือไงคะ ปล่อยนะ ปล่อยลูกหมูเดี๋ยวนี้!”

ใบบุญร้องลั่นเมื่อถูกร่างสูงลากไปยังตู้เสื้อผ้า พร้อมกับรื้อเอา

เสื้อตัวน้อยและกางเกงตัวจิ๋วที่เธอถือวิสาสะจัดเข้าตู้ของเขาออกมาโยน

ลงบนพื้น แล้วหันไปคว้าเอากระเป๋าลากใบหรูของเธอออกมา จ้องตา

หญิงสาวเขม็งพร้อมสั่งเสียงกร้าวราวกับเป็นคนละคนกับตฤณเมื่อ

ห้านาทีก่อน

“เก็บซะ! เก็บไปให้หมด! แล้วจงจำใส่สมองตื้นๆ ของเธอ

ด้วยนะว่าคนอย่างฉันไม่เคยสับปลับ ไม่ว่ากับใครทั้งนั้น!”

ร่างเล็กถูกผลักออกห่าง ขณะที่ชายร่างสูงที่หมุนตัวเดินออกไป

จนถึงประตูบานสูง ก่อนหันมาอีกครั้งพร้อมคำพูดเจ็บแสบที่ทำให้คนฟัง

ถึงกับสะอึก

“ยืนบื้อทำไมล่ะ! เก็บสิ เจ้าของห้องเขาไล่แล้วยังจะยืนนิ่งอยู่ได้

ฉันมันคนสับปลับไม่ใช่หรือไง แล้วจะมาอยู่กับฉันทำไมให้เสียความรู้สึก

กลับไปซะ! ส่วนเรื่องที่เธอได้ยินจากใคร ฉันไม่สน แต่ฉันจะบอกให้นะ

ว่าเรื่องทั้งหมดที่เธอรู้ มันเป็นความจริง!”

ปัง!

เสียงประตูถูกกระแทกลงมาเต็มแรงจนร่างบางสะดุ้งเฮือก แต่

มันยังไม่แรงพอจะทำให้คนตัวเล็กต่างจากชื่อของเธอเสียน้ำตาได้เท่ากับ

คำพูดก่อนหน้านี้

เขากำลังจะเป็นของคนอื่นจริงตามที่เรารู้ เขาไม่รักยัยลูกหมู

คนนี้อีกแล้ว คำรัก และความอ่อนโยนในอดีตไม่มีค่าพอให้เขาจำ

เหมือนที่เราจำ!

“คุณตฤณ...คุณทำกับลูกหมูแบบนี้ได้ยังไง” เรียวปากเต็มอิ่ม

รำพันแผ่วเบา น้ำตาใสๆ เอ่อเต็มสองหน่วยตา ทั้งๆ ที่เธอยังรัก ยังคิดถึง

แต่ไฉนเลยเขากลับไม่สนใจไยดีเธอที่มาอยู่ตรงนี้ต่อหน้าเขาสักนิด

ฤณออกมายืนสงบสติอารมณ์อยู่ที่ระเบียงดิน บริเวณที่

เขาและใบบุญเคยนั่งเล่นกันเสมอในวันเก่า แต่มาวันนี้หลายอย่างกำลังจะ

เปลี่ยนไป...

“พี่ตฤณมายืนทำอะไรเงียบๆ อยู่คนเดียวครับ แล้ว...”

‘ไตร ตฤณลักษณ์’ น้องชายเพียงคนเดียวของเขาสอดส่าย

สายตามองหาคนตัวบางพลางเหลือบตาขึ้นมองอย่างเป็นคำถามต่อพี่ชาย

ของเขาที่ยืนนิ่งอยู่พลางขมวดคิ้วมุ่น เมื่อเห็นตฤณถอนหายใจเฮือก

“เป็นอะไรไปพี่ตฤณ แล้วยัยลูกหมูล่ะ หายไปไหน”

คนตัวสูงกว่าน้องชายหลายเซนติเมตรหลุบตาลงมองพลาง

ส่ายหน้า

“นายช่วยเตรียมรถไว้ให้หน่อยแล้วกัน จะให้ไปส่งลูกหมูที่

บ้าน” เขาตอบพลางเดินหนีไปอีกทาง ทำให้คนที่ตั้งป้อมถามเกาหัวแกรก

“อะไรของเขาเนี่ย” ไตรบ่นงึมงำก่อนจะเดินเข้าบ้านไป

ลูกหมูไม่กลับ!” ใบบุญตอบพลางตวัดสายตาค้อนต่อไตร

น้องชายคนที่เธอรัก แล้วจึงขยับกายย้ายไปนั่งเก้าอี้บริเวณริมระเบียงสูง

เธอทอดสายตามองไปเบื้องหน้า สะดุดลงตรงภาพของชายร่างสูงที่อยู่

ไกลลิบบนรถจี๊ปคันใหญ่แล้วให้นึกเจ็บใจ

“อ้าว! แล้วตกลงมันยังไงกันล่ะ ผมงงไปหมดแล้วนะลูกหมู”

ชายหนุ่มที่อายุห่างกว่าใบบุญเจ็ดปีและห่างจากพี่ชายสามปีถามด้วย

ใบหน้าฉงน แต่คนตัวบางกลับเพียงไหวไหล่

“ก็ไม่กลับไงคะ พี่ชายของคุณไตรน่ะใจร้ายเกินไปแล้ว ไล่

ลูกหมูกลับบ้านทั้งที่ลูกหมูมาเยี่ยมด้วยความคิดถึง คนอะไรใจร้ายที่สุด!”

จบคำตัดพ้อ นางอิ่มอรุณมารดาของตฤณและไตรก็เดินเข้ามา

พอดี นางยิ้มให้บุตรชายคนเล็กที่ถอดแบบใบหน้าจากบิดาแต่ได้รูปร่าง

มาจากนาง ก่อนหันไปยิ้มให้สาวน้อย

“คุยอะไรกันจ๊ะ ว่าแต่เมื่อคืนนอนสบายหรือเปล่า ป้าไม่รู้ว่า

หนูจะมาที่บ้านเลยไม่ทันให้คนมาจัดห้องเอาไว้ให้ ว่าแต่พอนอนได้

หรือเปล่าจ๊ะ”

คนถูกถามหลุบตาลงแวบหนึ่ง เพราะความจริงแล้วห้องรับรอง

สำหรับแขกก็ยังว่างเป็นปกติอย่างเคย แต่เธอกลับไม่เคยคิดย่างกราย

เข้าไปนอนในห้องนั้นเลย นอกจากจะดื้อดึงนอนในห้องของคนหน้าเข้ม

ที่เธอถือวิสาสะเข้ายึดเป็นของตน

“สบายค่ะ ลูกหมูนอนหลับสนิททั้งคืน คุณป้าไม่ต้องห่วงนะคะ”

นางอิ่มอรุณตามไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมหญิงสาวจึงได้แต่พยักหน้าแล้วยิ้มให้

“ถ้าอย่างนั้นป้าว่าเราไปทานของว่างกันดีกว่าจ้ะ”

คนถูกชวนหันมองร่างสูงสันทัดของไตร ทว่าอีกฝ่ายได้ทีจึง

เอ่ยขอตัวเสียเลย

“งั้นผมขอตัวไปดูพี่ตฤณก่อนนะครับ ไปก่อนนะลูกหมู”

“อ้าว คุณไตร...เดี๋ยว” ใบบุญเอ่ยได้แค่นั้นก็ต้องรีบหุบปาก

เมื่อนางอิ่มอรุณมองมาอย่างแปลกใจ

“มีอะไรหรือเปล่าจ๊ะ”

ใบบุญยิ้มแห้งๆ ก่อนตอบ “เปล่าค่ะ”

“ถ้าอย่างนั้นเราไปทานของว่างกันดีกว่าจ้ะ”

ว่าแล้วมือเล็กนุ่มอย่างคนไม่เคยผ่านความลำบากก็ถูกมารดา

เจ้าของบ้านจูงออกไปจากตรงนั้นทันที หญิงสาวจำยอมเดินตามไปเงียบๆ

แม้ใจจริงต้องการตามไตรออกไปเพื่อหาตฤณมากกว่า

เพิงที่พักคนงานกลางฟาร์ม

“ตฤณคะ...น้ำค่ะ”

มือหนาได้รูปรับน้ำเย็นจัดจากเจ้าของใบหน้าหวานมาดื่มอย่าง

กระหาย ก่อนส่งคืนแล้วยิ้มให้อย่างขอบคุณ

‘ชมนาด’ ลูกสาวกำนันชัย หญิงสาวที่ชายหนุ่มตกลงปลงใจ

จะใช้ชีวิตร่วมกับเธอ ทว่าในเวลานี้เค้าลางแห่งความยุ่งยากดูเหมือนจะ

เริ่มก่อตัวขึ้นแล้วเพราะในบ้านของเขามีแม่ลูกหมูฤทธิ์มากที่ไม่ต่างกับ

เสือสาวอยู่อีกคน แล้วสาวสวยอ่อนหวานอย่างชมนาดจะเอาอะไรไป

สู้รบตบมือได้ แล้วถ้าหากแม่ลูกหมูของเขาเกิดเอาจริงขึ้นมา เขาควร

จะทำอย่างไรเพื่อไม่ให้แม่ลูกหมูตัวร้ายเข้าถึงตัวชมนาดได้

“ขอบคุณครับ วันนี้ไม่เข้าร้านหรือครับ”

“ชมเข้าไปที่ร้านมาเรียบร้อยแล้วค่ะ แต่วันนี้ลูกค้าไม่เยอะ

ชมเลยให้ลูกจ้างดูแลแทน ว่าแต่เย็นนี้คุณตฤณว่างหรือเปล่าคะ คุณพ่อ

ให้มาเชิญคุณตฤณไปทานอาหารเย็นที่บ้านค่ะ แต่ถ้าคุณตฤณไม่ว่างก็

ไม่เป็นไรนะคะ ชมเข้าใจค่ะ”

ชมนาด...เธอคือหญิงสาวที่แสนน่ารักและอ่อนหวานราวดอก

ชมนาดไม่มีผิด ดูเป็นช้างเท้าหลังที่จะคอยหนุนส่งกำลังให้ช้างเท้าหน้า

ได้เป็นอย่างดี ผิดกับยัยลูกหมูตัวแสบ ที่ทั้งพยศ ทั้งดื้อรั้นร้ายกาจ และ

เอาแต่ใจจนน่าระอา และเดาได้เลยว่าหากปลงใจด้วย ยัยลูกหมูจะต้อง

ตั้งตนเป็นช้างเท้าหน้าอย่างแน่นอน

ชายหนุ่มขมวดคิ้วมุ่น นึกตำหนิตนที่เผลอคิดเปรียบเทียบ

ใบบุญและชมนาดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทั้งที่เขาไม่ควรคิดถึงใครอีกแล้วเวลานี้

นอกจากหญิงสาวผู้เพียบพร้อมตรงหน้า

“ไม่มีปัญหาครับ เย็นนี้ผมว่าง เอาเป็นว่าชมรอผมก่อนก็แล้วกัน

เสร็จงานเมื่อไหร่เราค่อยไปพร้อมกัน”

ชมนาดยิ้มด้วยความพอใจเมื่ออีกฝ่ายรับปากโดยไม่เกี่ยงงอน

หญิงสาวแอบหวังไว้เหลือเกินว่าเขาจะไม่ปฏิเสธ ดวงตาเรียวสวยช้อนมอง

คนตัวสูงที่เดินห่างไปเรื่อยๆ ด้วยสายตาที่เต็มเปี่ยมด้วยความชื่นชม

และภูมิใจเพราะเธอรู้ตัวดีว่าสาวๆ ทั้งอำเภอต่างพากันอิจฉาตนเองที่

คว้าหนุ่มหล่อมาครอบครองได้ ทั้งที่ไม่เคยคิดฝันมาก่อนว่าเขาจะเลือก

เธอเป็นศรีภรรยาในอนาคต ทุกอย่างเกิดขึ้นเหนือความคาดหมาย เริ่ม

จากการพบกันครั้งแรกในงานประจำปีระหว่างเขาและเธอ จนต่อมา

ทำให้เขาตัดสินใจมาสู่ขอเธอกับบิดามารดาในที่สุด

ที่นี่เปลี่ยนไปเยอะเลยนะคะคุณป้า” ใบบุญเปรยเมื่อ

กวาดตามองรอบระเบียงที่สร้างด้วยดิน อีกฝ่ายหันมามองสาวสวยตัวเล็ก

ข้างตัวแล้วยิ้มอ่อนโยนพลางคิดถึงที่มาที่ไปของระเบียงดินหลังนี้ ก่อน

มองลงไปยังสายน้ำเบื้องหน้าที่ปรากฏเรื่องราวและปลาน้อยใหญ่ที่

แหวกว่ายแข่งกันโผล่หน้าขึ้นมาให้เห็น

คุณป้าขา คุณตฤณ!

สาวน้อยร่างปุ๊กลุกเมื่อห้าปีที่แล้ววิ่งถลาเข้ามาหานางอิ่มอรุณ

และร่างสูงของตฤณที่กำลังยืนปรึกษาบางอย่างกันอยู่ พร้อมกับวาง

นิตยสารชาวบ้านลงตรงหน้าแล้วชี้บทความพร้อมรูปถ่ายให้ทั้งคู่ดูพร้อมกัน

คุณตฤณขา นี่ค่ะ บ้านดิน คุณตฤณสนใจไหมคะ แต่ลูกหมู

สนใจค่ะ เห็นเขาบอกว่ามันเย็นสบายมาก คุณป้าคิดอย่างไรคะ เรามาสร้าง

ระเบียงดินกันดีไหม ตรงที่เรายืนอยู่นี่ก็ได้ค่ะ เพราะข้างๆ มีคูเล็กๆ

ไหลผ่าน ดูเข้าท่าดีนะคะ ท่าทางจะเย็นสบายดี...

คนตัวป้อมขยับปากเร็วเสียจนคนฟังอย่างตฤณถึงกับส่ายหน้า

หลังจากนั้นอีกไม่ถึงอาทิตย์บ้านดินก็เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาตามความ

ปรารถนาของสาวน้อย เด็กสาวยิ้มแก้มปริเมื่อชายหนุ่มให้สิทธิ์แก่เธอ

เป็นคนตั้งชื่อ...

‘ระเบียงดิน’

ชื่อนี้มีความหมายมากมายจนจำแทบไม่หมด นางอิ่มอรุณมอง

อดีตสาวน้อยตัวกลมป้อมที่สดใสร่าเริง ก่อนที่รอยยิ้มของนางอิ่มอรุณนั้น

จะค่อยๆ จางหายจากใบหน้านั้นเมื่อคิดถึงสาเหตุที่ทำให้คนทั้งสองต้อง

ห่างกันไปในที่สุด

“กระถางส้มของลูกหมูหายไปไหนคะคุณป้า แล้วนี่...ใครเอา

กระถางอะไรมาวางไว้แทนคะ” ใบบุญหันมาถามนางอิ่มอรุณเมื่อกวาดตา

ไปสะดุดเข้ากับกระถางต้นไม้หน้าตาแปลกๆ ที่เธอจำได้ว่าไม่ได้เป็น

เจ้าของและไม่เคยเห็นมาก่อน ซึ่งตอนนี้ได้มาวางไว้แทนที่กระถางของเธอ

“อ๋อ...ของหนูชมจ้ะ”

ร่างบางหันกลับมาทั้งตัว ดวงตากลมโตสบตาอ่อนแสงของ

นางอิ่มอรุณด้วยความสงสัย

“หนูชม...” เธอครวญชื่อคุ้นหูด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ใบบุญ

จำขึ้นมาได้ว่า ชิดจันทร์เคยบอกกับเธอว่าคู่หมั้นของตฤณชื่อชมนาด

สาวสวยที่กำลังแย่งตฤณไปจากเธอ

นางอิ่มอรุณมองหญิงสาวแล้วผ่อนลมหายใจแผ่วพร่า รอยยิ้ม

อ่อนละมุนเลือนหายไปอย่างรวดเร็ว

“หนูชมเธอเป็นคู่หมั้นของตาตฤณจ้ะ อีกไม่นานก็จะแต่งงาน

กันแล้ว หนูคงรู้เรื่องนี้แล้วใช่ไหมลูก”

คำตอบของนางอิ่มอรุณเหมือนเข็มที่ตอกย้ำลงไปในหัวใจ

ดวงน้อยของเธอนับพันนับหมื่นเล่ม แม้จะรู้เรื่องนี้มาจากชิดจันทร์และ

อีกครั้งจากปากของตฤณชายที่เธอรักแล้ว แต่พอมารู้จากปากนางอิ่มอรุณ

อีกครั้ง ความเจ็บช้ำยิ่งเหมือนตอกลึกลงไปในจิตใจจนเป็นแผลเหวอะหวะ

ดวงหน้าซีดเผือดของสาวน้อยตรงหน้าทำให้นางอิ่มอรุณอด

นึกสงสารไม่ได้ เพราะตัวนางอิ่มอรุณเองก็เอ็นดูอดีตสาวน้อยตัวป้อม

คนนี้มาก แม้เวลานั้นจะผ่านมาแล้วเนิ่นนาน แต่ความรักความเอ็นดู

ต่อเธอก็ยังคงอยู่ไม่เคยจืดจาง ยิ่งเวลานี้ยิ่งเพิ่มความน่าสงสารมากขึ้น

เมื่อมองผ่านดวงตาเข้าไปเห็นอดีตอันแสนน่ารักของเด็กสาวที่เคยตามติด

เป็นเงาตามตัวของตฤณบุตรชายคนโตของเธอ

“เธอเป็นคนดีหรือเปล่าคะ” ใบบุญถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

ดวงหน้าหวานก้มนิ่งนานอยู่ครู่หนึ่ง กระทั่งอีกฝ่ายตอบมา

“หนูชมเป็นคนดีทีเดียว ทั้งขยันและน่ารัก ใครๆ ก็ต่างพากัน

ชอบเธอทั้งนั้น”

“แม้แต่คุณตฤณก็ชอบใช่ไหมคะ”

ใบบุญเปรยเสียงแผ่วพลางหมุนตัวมองกลับไปยังคูสายเล็ก

ที่ถูกขุดลอกผ่านระเบียงดินยาวออกไปตรงหน้า ก่อนเหลือบตาไปยัง

กระถางชมนาดทั้งสองข้างของระเบียงดิน ซึ่งบัดนี้กระถางหนึ่งออกดอก

สีขาวงดงาม ส่งกลิ่นหอม ดวงตากลมโตมองนิ่งนานอย่างตัดพ้อและ

น้อยใจ

หญิงสาวพยายามปัดอารมณ์หวั่นไหวของเธอให้พ้นไปจาก

ความคิด เมื่อสิ่งที่เธอตั้งใจคอยกระตุ้นเตือนเธอว่าถึงเวลาแล้วที่เธอ

จะต้องลงมือทำ

“คุณป้าคะ ถ้าลูกหมูจะขออยู่ที่นี่อีกสักพักคุณป้าจะว่าอะไร

ไหมคะ”

คำถามของใบบุญทำให้นางอิ่มอรุณแปลกใจไม่น้อยและเริ่ม

กังวลใจเรื่องบิดาของสาวน้อย ไหนจะยังคู่หมั้นของเธออีก

“จะดีหรือจ๊ะ...” คำถามของนางอิ่มอรุณทำให้ใบบุญหันกลับ

มามองด้วยแววตาหม่นหมอง จนนางต้องถอนหายใจแล้วเอ่ยเสียงเบา

“ที่ถามแบบนี้ไม่ใช่ว่าป้ารังเกียจอะไรหนูนะ แต่ป้าเป็นห่วง

มากกว่า เพราะถ้าคุณพ่อของหนูรู้ว่าหนูอยู่ที่นี่ท่านคงไม่พอใจ ไหนจะ

คู่หมั้นของหนูอีก”

“ก็นั่นแหละค่ะ ที่ทำให้ลูกหมูอยากมาอยู่ที่นี่” คำตอบที่หลุด

จากปากจิ้มลิ้มทำให้คนฟังถึงกับขมวดคิ้ว แต่เพียงครู่ก็เข้าใจ

“ลูกหมูไม่อยากแต่งงานกับคุณสันติ ลูกหมูไม่เคยคิดชอบเขา

เลย ให้ลูกหมูอยู่ที่นี่สักพักเถอะนะคะ ถ้าลูกหมูหาที่อยู่ได้เมื่อไรลูกหมู

จะรีบไปทันที รับรองว่าจะไม่ทำให้คุณป้าลำบากใจแน่นอนค่ะ”

คำพูดของหญิงสาวทำให้นางอิ่มอรุณตกใจไม่น้อย นางจึงรีบ

สาวเท้าเข้ามากอดใบบุญแนบแน่นอย่างปลอบใจ

“อย่าคิดมากสิจ๊ะลูกหมู ป้าไม่เคยนึกรำคาญหรือไม่เต็มใจนะจ๊ะ

ตรงกันข้ามป้าเต็มใจอย่างยิ่ง เพียงแต่กังวลเรื่องคุณพ่อของลูกหมูเท่านั้น

เอง”

ใบบุญรู้สึกดีขึ้นเมื่อนางอิ่มอรุณเต็มใจให้อยู่ต่อ แม้จะยังไม่แน่ใจ

ว่าลูกชายคนโตตัวดีของนางจะอนุญาตให้เธออยู่ต่ออีกหรือไม่ เพราะ

ก่อนหน้านี้เขาเป็นคนไล่เธอออกไปจากบ้านหยกๆ

“ลูกหมูขอขอบพระคุณคุณป้ามากนะคะที่อนุญาตให้ลูกหมู

อาศัยอยู่ด้วย ลูกหมูจะทำตัวให้เป็นประโยชน์ค่ะ”

หญิงสาวขันอาสาแข็งขัน อย่างน้อยแผนของเธอก็สำเร็จไปได้

หนึ่งขั้น นั่นคือการเข้ามาอยู่ในบ้านโดยไม่มีใครคัดค้าน โดยเฉพาะ

นางอิ่มอรุณผู้เป็นแม่ที่อนุญาตเธอเรียบร้อยแล้ว

กเย็น...ใบบุญยังคงนั่งรอตฤณอยู่ริมระเบียงบ้าน จน

ร่วมสามทุ่มครึ่งจึงได้ยินเสียงรถยนต์เคลื่อนเข้ามาใกล้แล้วเงียบเสียงลง

หญิงสาวขยับตัวลุกขึ้นยืนแล้วรีบวิ่งกลับเข้าไปในห้องนอนของชายหนุ่ม

อย่างรวดเร็ว

ตฤณถอนหายใจแผ่วเบาเพราะคิดว่าใบบุญคงกลับไปแล้ว

ยิ่งนึกถึงตอนที่เขาไล่เธอหัวใจก็รู้สึกโหวงเหวงชอบกล แต่ป่านนี้ยัยลูกหมู

จอมดื้อคงกลับถึงบ้านเรียบร้อยแล้ว

ขณะเดียวกันคนที่หนีเข้าห้องก็หมกตัวเงียบอยู่ใต้ผ้าห่มผืนหนา

รอเขากลับเข้ามาด้วยใจระทึก แม้ความจริงจะแอบเคืองอยู่นิดๆ ที่เขา

หายไปนานโดยไม่ยอมบอกกล่าว

แอ๊ด...ปัง...

เสียงเปิดปิดประตูดังขึ้นและเงียบลง ใบบุญลุ้นจนคอแห้งจน

แทบลืมหายใจ ผิดกับอีกคนที่เดินเข้ามาใกล้ ดวงตาสีนิลเขม้นตาจ้องมอง

ไปยังเตียงใหญ่ของตนเองเขม็งจนมั่นใจว่ามีบางอย่างอยู่ใต้ผ้าห่มของเขา

แน่นอน ก่อนจะ...

พรึ่บ!

ผ้าห่มผืนหนาถูกมือแกร่งกระตุกพรืดเดียวจนพบกับร่างบาง

ที่นอนตัวลีบอยู่ใต้ผ้าห่มนั้น ใบบุญยิ้มหวานให้คนหน้าขรึมทันทีที่ถูก

จับได้

“สะ...สวัสดีค่ะ คุณตฤณกลับมาแล้วเหรอคะ เหนื่อยๆ อาบน้ำ

ก่อนสิคะ” ใบบุญกุลีกุจอลุกขึ้นแล้วรีบวิ่งไปยังตู้เสื้อผ้าพร้อมกับดึงเอา

ผ้าขนหนูผืนหนาออกมาแล้วส่งให้เขาอย่างเอาใจ แต่อีกฝ่ายกลับยืนนิ่ง

จ้องเธอตาไม่กะพริบ

“รับสิคะ” หญิงสาวยังทำใจดีสู้เสือ

“ทำไมยังไม่กลับไปอีก”

คำถามแรกของคนใบหน้าขรึมตรงหน้าทำให้คนที่พยายาม

ปรนนิบัติหัวใจกระตุกวูบ ริมฝีปากเม้มแน่นแล้วโพล่งออกไปอย่างน้อยใจ

แกมขุ่นเคือง

“ลูกหมูจะอยู่ที่นี่! และจะอยู่ไปอีกนานด้วย ที่สำคัญคุณตฤณ

ก็ไม่มีสิทธิ์มาไล่ลูกหมู” คำตอบและใบหน้าที่ลอยเข้ามาใกล้ทำให้ชายหนุ่ม

แปลกใจไม่น้อย แต่นั่นยังไม่เท่ากับความหมั่นไส้ที่มีต่อคนอวดดีตรงหน้า

“ฉันไม่สนหรอกนะว่าเธอจะอยู่ได้เพราะใคร แต่ที่ฉันสนใจก็คือ

ช่วยออกไปจากห้องของฉันสักทีเถอะ ฉันต้องการความเป็นส่วนตัว!”

ตฤณพูดพลางหันหลังให้คนตัวเล็กที่เชิดหน้าขึ้นอย่างทระนง ก่อนหัน

กลับมาอีกครั้งราวกับนึกได้

“เอ้อ..แล้วอีกอย่าง ฉันกะว่าจะเก็บเตียงนี้ไว้ต้อนรับภรรยา

ในอนาคตเท่านั้น คนอื่นไม่มีสิทธิ์มานอนบนเตียงนี้ โปรดเข้าใจเสียด้วยนะ

คุณหนูใบบุญ!”

มือบางกำจนแน่น เมื่อคนใจร้ายตอกกลับมาอย่างเจ็บปวด

อีกทั้งยังปฏิเสธผ้าขนหนูในมือของเธอด้วยการเดินไปหยิบผืนใหม่ออก

มาจากตู้แทน ก่อนจะเดินผ่านหน้าเธอไปราวเป็นอากาศธาตุก็ไม่ปาน!

“นั่นมันเรื่องของคุณตฤณ! ที่คิดอยากจะเอาเตียงนี้ไว้ให้ใคร

นอนใครนั่งก็เชิญทำตามสบาย! แต่ลูกหมูจะนอนซะอย่าง คุณตฤณจะ

ทำไมไม่ทราบ!”

คนดื้อแพ่งตะโกนไล่หลัง ทั้งยังยกมือขึ้นเท้าสะเอวราวกับ

นางมารร้ายในละครตอนหัวค่ำไม่มีผิด ตฤณเม้มปากแน่นก่อนจะไหวไหล่

แล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำโดยไม่คิดตอบโต้ เป็นเหตุให้คนตัวเล็กได้แต่

ทำเสียงดังโหวกเหวกโวยวายอยู่ฝ่ายเดียว!

“บ้า! บ้า! บ้า! บ้าที่สุด!”

ร่างเล็กทิ้งตัวลงอย่างโกรธเคืองบนที่นอนกว้างของเขาซึ่งเธอ

ครอบครองได้สองวันแล้ว ก่อนจะเด้งตัวขึ้นนั่งจากที่นอนเมื่อนึกถึงคำพูด

ของชายหนุ่มก่อนหน้านี้

“เชอะ! จะเอาไว้ต้อนรับภรรยาในอนาคตอย่างนั้นเหรอ! ฝัน

ไปเถอะ! ข้ามศพลูกหมูไปก่อนเถอะ ลูกหมูไม่มีทางยอมแน่ ต่อให้

หัวเด็ดตีนขาดยังไงก็ไม่ยอม!”

ขณะที่ใบบุญยังคงพึมพำด้วยความแค้นใจ คนที่อยู่ในห้องน้ำเอง

ก็กลัดกลุ้มไม่ใช่น้อย มือหนาลูบหยาดน้ำออกจากใบหน้า ก่อนวางมือ

ทาบลงไปกับฝาผนังเมื่อคิดถึงคนตัวเล็กที่อยู่ภายนอก

“บ้าชะมัด! ยัยลูกหมูนะยัยลูกหมู จะมาป่วนให้ได้อะไรขึ้นมา...”

เสียงประตูห้องน้ำเปิดออกทำให้คนหน้างอหันขวับ ก่อนที่จะ

ค้อนตากลับเมื่อหันไปเจอร่างสูงเดินอวดหุ่นทรมานใจ เพราะทั้งเนื้อทั้งตัว

มีเพียงผ้าขนหนูผืนเดียวที่ห่อหุ้มเรือนกายท่อนล่างของเขาไว้!

ตฤณเดินผ่านร่างบางที่นั่งนิ่งเป็นหุ่นอยู่บนเตียงของเขาไป

ก่อนไปหยุดอยู่หน้าตู้เสื้อผ้าพร้อมกับหยิบเอากางเกงนอนขึ้นมาสวมใส่

โดยไม่สนใจคนตัวเล็กที่นั่งหน้าแดงก่ำเลยสักนิด หญิงสาวหันรีหันขวาง

อย่างหงุดหงิดทันทีเมื่ออีกฝ่ายไม่คิดจะสนใจสาวโสดบริสุทธิ์ราวน้ำค้าง

กลางหาวเช่นเธอ

กระทั่งชายหนุ่มเดินไปหยุดอยู่หน้ากระจกพลางยกกระป๋องแป้ง

ขึ้นมาประเนื้อตัวด้วยท่าทีไม่ใส่ใจต่อผงแป้งขาวๆ ว่าจะตกไปอยู่ตรงไหน

บ้าง เมื่อจัดการทาแป้งเสร็จ เขาจึงใช้มือเสยผมลวกๆ ก่อนหมุนตัว

ทำท่าเตรียมจะเข้านอนหน้าตาเฉย ทำเอาคนที่มองอยู่ด้วยใบหน้าบูดบึ้ง

ถึงกับต้องอ้าปากค้าง...

“นี่! คุณตฤณ...จะทำแบบนี้กับลูกหมูไม่ได้นะ!” หญิงสาว

ร้องสั่งด้วยใบหน้าแดงก่ำ ดวงตากลมโตมองเขาอย่างขัดใจ ทำให้ชายหนุ่ม

เลิกคิ้วอย่างงงๆ ก่อนไหวไหล่อย่างไม่ใส่ใจ ยิ่งทำให้คนตัวเล็กโมโห

มากขึ้นไปอีก

“คุณตฤณ!”

“อะไรของเธอน่ะ ลูกหมู!” ตฤณหันมาเอ็ดคนเจ้าปัญหาอย่าง

หัวเสียแล้วส่ายหน้าอย่างระอาเมื่อหญิงสาวทำหน้าเหมือนคนถูกขัดใจ

“ก็แล้วทำไมคุณตฤณต้องทำแบบนี้ด้วยล่ะ”

เธอถามพลางทำหน้ามุ่ย ชายหนุ่มมองหญิงสาวด้วยสีหน้าฉงน

ก่อนจะถามกลับไปอย่างมึนๆ

“ก็เธอเป็นอะไรล่ะลูกหมู ฉันไปทำอะไรเธอ” เขาถามพลาง

ทอดสายตาสำรวจการแต่งกายของหญิงสาวไปพลาง ตอนนี้ใบบุญอยู่

ในเสื้อนอนตัวยาวคลุมเข่าไม่มีแขนดูน่ารักสมกับเธอดี ไม่เหมือนชุด

ที่เธอใส่เมื่อเช้านี้เลยสักนิด เมื่อคิดถึงภาพของใบบุญเมื่อเช้านี้อะไรๆ

ภายในร่างกายก็เหมือนกับถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมา ชายหนุ่มจึงรีบหมุนตัวหนี

คนหน้างอขึ้นไปนอนบนเตียงของเขา โดยไม่ลืมรั้งเอาผ้าห่มผืนเดิมขึ้นมา

คลุมกายไว้จนมิดชิด

“คุณตฤณต้องพูดกับลูกหมูให้รู้เรื่องก่อน”

คิ้วหนาเลิกสูง สบตากลมโตเอาเรื่องอย่างท้าทาย

“เราไม่มีอะไรต้องพูดกันอีกแล้วละลูกหมู”

เขาตอบพลางพลิกตัวหันหลังให้อย่างตัดบท

“แต่ลูกหมูต้องการให้คุณตฤณอธิบายเรื่องทั้งหมด! ลุกขึ้นมานะ

คุณตฤณ ลุกขึ้นมาก่อน” หญิงสาวคว้าข้อมือชายหนุ่มได้ก็ออกแรงดึง

และแทนที่ชายหนุ่มจะลุกขึ้น กลับกลายเป็นหญิงสาวที่ล้มลงไปตาม

แรงกระชากของชายหนุ่มเองเสียนี่ เป็นเหตุให้อีกฝ่ายโมโหจนนึกอยาก

สั่งสอนคนอวดเก่ง

“ว้าย! คุณตฤณ ปล่อยนะ! ปล่อยสิ ลูกหมูบอกให้ปล่อย!”

เสียงอุทานของใบบุญยิ่งทำให้ตฤณนึกสนุกจึงคิดแกล้งหญิงสาว

ด้วยการรวบร่างบางเข้ามากอดไว้แน่น ก่อนเบียดแนบร่างกายของตนเอง

เข้าหาร่างบางของหญิงสาวอย่างแนบชิด คนตัวบางก็ได้แต่ร้องและดิ้น

อย่างเอาเป็นเอาตาย แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่าตนมาเพื่ออะไร หญิงสาวก็ค่อยๆ

ลดระดับความโกรธลงทีละนิดจนในที่สุดก็นิ่งสนิท คนตั้งใจแกล้งเริ่ม

แปลกใจ พร้อมกับความรู้สึกหลากหลายที่เข้ามาแทนที่โดยเฉพาะสัดส่วน

อวบอัดที่เบียดเสียดแนบสนิทกับเรือนกายของเขาขณะนี้กำลังทำให้

บางสิ่งบางอย่างของเขาตื่นเตลิดขึ้นอย่างง่ายดาย

ยิ่งเมื่อสบตากลมโตคู่สวยตรงหน้าตฤณยิ่งอยากให้เวลาหยุด

หมุนลงแค่ตรงนี้...แค่เขาและเธอ แต่ความจริงไม่อาจทำให้เขาปล่อยตัว

ปล่อยใจไปกับหญิงสาวได้ เขาจึงผลักร่างบางออกห่างทันทีที่ยังมีสติ

ครบถ้วน เพราะหากขืนชักช้าหลายสิ่งหลายอย่างที่ตั้งใจไว้คงจะล้มเหลว

ไม่เป็นท่า

“คุณตฤณรังเกียจลูกหมูหรือไม่กล้าทำตามใจตัวเองกันแน่”

ใบบุญท้าทายเมื่ออีกฝ่ายพยายามผละห่างและมันก็ได้ผลเมื่อชายหนุ่ม

ชะงักพร้อมกับขบฟันเข้าหากันแน่น

“อย่ามาทำเป็นรู้ดีหน่อยเลย อย่างเธอจะรู้อะไร ถอยไป ฉัน

ไม่มีเวลามาเล่นกับเด็กไม่รู้จักคิดอย่างเธอหรอกนะ” หัวใจดวงน้อย

กระตุกวูบ นิ่งอึ้งและจ้องมองเขาด้วยแววตาตัดพ้อก่อนวาววับขึ้น

“ไม่ใช่ลูกหมูหรอกค่ะที่ไม่รู้จักคิด แต่ความรักต่างหากที่มันสั่ง

ให้ลูกหมูทำแบบนี้! มันสั่งให้ลูกหมูกลับมาทวงสิ่งที่ควรจะเป็นของลูกหมู

ตั้งแต่แรก! มันไม่ใช่แค่ความคิด! แต่มันเป็นความรู้สึกและความตั้งใจ

ของลูกหมู!”

จบประโยคร่างบอบบางก็โถมเข้าหาร่างหนาทันที ดวงตาคมกริบ

เบิกกว้างเมื่อถูกคนตัวเล็กซุกไซ้อย่างจงใจ ทั้งยังบดเบียดริมฝีปากเต็มอิ่ม

ไม่ประสาเข้าหาริมฝีปากกระด้างของเขาอย่างสะเปะสะปะ ทว่าความ

ไม่ประสาแต่เต็มไปด้วยความตั้งใจเปี่ยมล้นนั้นกลับทำให้คนประสบการณ์

โชกโชนอย่างเขาถึงกับใจแกว่งจนแทบจะโลดออกมาข้างนอกเสียให้

รู้แล้วรู้รอด! แค่เธอประทับทาบเรียวปากแนบปากเขา กายแกร่งก็แทบ

จะระเบิดด้วยไฟรักที่แผดเผาให้ร้อนเร่าอยู่ภายใน

ดังนั้นเมื่อเธอเสนอเขาก็ต้องสนอง! มือหนาที่ผลักดันเริ่ม

แปรเปลี่ยนเป็นกอดรัดร่างบางเข้าหาตัว และด้วยความช่ำชองเขาจึง

พลิกร่างเล็กลงใต้ร่างใหญ่โตของเขาอย่างรวดเร็ว เปลี่ยนจากรับเป็นรุก!

และกดจุมพิตบดประทับเรียวปากหนาเข้ากับปากบางอย่างเร่าร้อนและ

ถือเป็นการสั่งสอนคนดื้อแพ่งไปด้วยเสียเลย

คนที่คิดว่าเป็นฝ่ายควบคุมสถานการณ์ได้นั้นหัวใจเริ่มกระตุก

ติดๆ กันหลายครั้ง เมื่อลิ้นเล็กๆ ของเธอถูกลิ้นร้อนๆ ซุกไซ้ชอนไช

อย่างดุดัน ทำเอาคนไม่เคยมีประสบการณ์อะไรเลยสักอย่างแต่ทำอวดเก่ง

เช่นเธออ่อนเปลี้ยไปทั้งกายและใจ พลางนึกตำหนิตนเองว่าไม่น่าริอ่าน

ไปแหย่เสือหลับให้ตื่นขึ้นมาขย้ำตนเองเลย แล้วถ้าหากเขาหยุดตัวเอง

ไม่ได้ขึ้นมาเธอไม่ต้องกลายเป็นผู้หญิงใจง่ายหรอกหรือ

หากแต่สำหรับตฤณ แม้ร่างระหงตรงหน้าจะไม่อวบอัดเช่นแต่ก่อน

แต่ความอวบอิ่มยังแจ่มชัดในทุกสัมผัสของเขาเสมอ อาจเพราะสัดส่วน

ความสาวที่เพิ่มมากขึ้นตามกาลเวลา และดูท่าทางเธอจะหวงแหนเป็น

อย่างมาก เพราะเมื่อใดที่เขาเคลื่อนย้ายฝ่ามือป้วนเปี้ยนเวียนวนอยู่กับ

ความอวบอิ่มของดอกบัวตูม เธอเป็นต้องปัดมือของเขาออกทุกคราวไป

ใบหน้าคมคายก้มซุกไซ้ซอกคอขาวผ่องทันที เมื่อถอนจุมพิตร้อนออก

ห่างจากเรียวปากนุ่มหวานจับใจ ก่อนลากไล้ลงสู่แอ่งชีพจรสั่นระริก

เช่นเดียวกับฝ่ามือหนาที่ลากลงรั้งเสื้อนอนตัวสวยจนร่นขึ้นมาถึงเอว

ใบบุญสะดุ้งเฮือกเมื่อฝ่ามืออุ่นของอีกฝ่ายวางทาบลงบนหน้าท้องแบนราบ

ของเธอ!

“อย่านะคุณตฤณ!” เธอร้องห้ามอย่างลืมตัว เพราะอย่างไรเสีย

ความรู้สึกนึกคิดของเธอก็ยังย้ำเตือนให้เธอรักนวลสงวนตัวอยู่เสมอ แม้

จะตั้งปณิธานหนักหนาว่าจะต้องพิชิตใจอีกฝ่ายให้ได้ก็ตามที ทว่าความ

หวาดหวั่นตามประสาสาวน้อยผู้ไร้ประสบการณ์รัก ทั้งความตั้งใจเป็น

ทุนเดิมที่จะเก็บทุกอย่างไว้ให้เขาเชยชมในวันสำคัญของชีวิตเธอเท่านั้น

มันคอยเตือนให้เธอปกป้องตัวเองจากอันตรายของชายหนุ่มตรงหน้า

จนกว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยจวบจนวันนั้น!

แต่แล้ว...ในขณะที่ทุกอย่างกำลังสับสนอลหม่าน ร่างบางก็

สะดุ้งขึ้นเมื่อฝ่ามืออุ่นครอบครองทรวงงามอย่างไม่อาจห้ามปรามไว้ได้

ปากเล็กขยับเหมือนจะห้ามแต่กลับถูกริมฝีปากได้รูปประกบทาบลงปิด

กั้นเสียงหวานๆ เสียก่อน เธอจึงได้แต่อึกอักในลำคอ ยิ่งนานเข้าทั้ง

เสียงร้องและแรงดิ้นก็ยิ่งเลือนหายลงทุกขณะ

ต่างจากคนที่พยายามจะห้ามตนเองไม่ให้ทำสิ่งใดก็ตามอันเป็น

เหตุแห่งความยุ่งยากใจทำให้ไม่อาจถอนตัวออกจากความงามตรงหน้า

และความไม่ประสาในอนาคตได้ ในเมื่อเธอเปรียบเสมือนบ่อน้ำทิพย์

ที่ชโลมใจอันแห้งเหือดของเขาให้ชุ่มฉ่ำหลังจากบอบช้ำมานานแสนนาน

ยิ่งเป็นเหตุให้เขาดำดิ่งลงลึกสู่ความหวานล้ำที่เชิญชวนให้ตักตวงเอา

จากเธออย่างไม่อาจฉุดรั้งไว้ได้

“ลูกหมู...น่ารักเหลือเกิน”

เสียงนุ่มทุ้มที่เอื้อนเอ่ยแผ่วพร่าทำเอาคนที่สติกำลังเลือนไป

เพราะความอ่อนหวานที่ชายหนุ่มมอบให้ปรือตาขึ้นมอง ยิ่งสะท้านเมื่อ

เสื้อนอนตัวสวยถูกดึงออกจากตัวไปในที่สุด ไม่นานบราลูกไม้สีชมพูหวาน

ก็หลุดลอยตามกันไปติดๆ พร้อมกับความอุ่นซ่านที่ผ่านเข้ามาครอบครอง

แทนกรวยผ้าสีหวานพลางลูบไล้อย่างแผ่วเบาราวกับกลัวว่าจะสร้างความ

เจ็บปวดให้แก่เธอมากมาย แต่ตรงกันข้าม! การกระทำของเขากลับสร้าง

ความหฤหรรษ์อย่างร้ายกาจ

“ยะ...อย่า คุณตฤณ พอแล้ว” ร้องห้ามด้วยน้ำเสียงแผ่วพร่า

ในขณะที่ตฤณยังคงเดินหน้าต่อไปไม่หยุด!

“ไม่...ยัง...ยังไม่พอ” ตฤณตอบกลับด้วยน้ำเสียงเดียวกัน

อย่างไม่ผิดเพี้ยน ในขณะที่มือไม้และริมฝีปากต่างทำงานอย่างต่อเนื่อง

โดยเฉพาะริมฝีปากของเขาที่เลื่อนไล้ซุกไซ้เนินเนื้อนุ่มอย่างทะนุถนอม

ก่อนเข้าครอบครองจุดยอดสีเรื่อในเวลาต่อมา

ร่างบางสะดุ้งวาบ เมื่อความอุ่นชื้นเข้าปัดป่ายจุดอ่อนไหวอย่าง

รวดเร็วจนแทบละลายลงในทันที! เป็นเหตุให้มือทั้งสองข้างที่ลดต่ำลง

อย่างหมดแรงยกขึ้นขยำขยุ้มเรือนผมหนานุ่มของเขาราวละเมอ

“คะ...คุณตฤณ อย่า...ลูกหมูกลัว อือ...ไม่นะคะ คุณตฤณ...”

ทั้งที่อยู่ในอารมณ์แสนเร่าร้อน แต่หญิงสาวก็ยังทำให้เขาอยากจะหัวเราะ

ออกมาให้ได้

ปากร้องกลัว แต่มือกลับดึงรั้งผมเราไว้ซะแน่น!

เขายังคงสร้างความทรมานแก่หญิงสาวด้วยการปัดป่ายเรียวลิ้น

มากขึ้นราวกับอยากจะกลั่นแกล้ง ก่อนชายหนุ่มจะผละออกแล้ววกขึ้น

จุมพิตเรียวปากอิ่มเย้ายวนที่ช่างพูดอีกครั้งอย่างอดใจไว้ไม่อยู่ แม้เธอ

จะร้องขอให้เขาหยุดแต่ความรู้สึกที่ได้รับช่างดีเสียจนหักห้ามใจให้หยุดลง

ไม่ได้เพียงแค่นี้

“ยอมรับแล้วใช่ไหมว่าเธอกลัว”

คนได้เปรียบเปรยถามเสียงพร่า ต่างจากคนที่เสียท่า ที่กำลัง

หูอื้อตาลายกับบ่วงจุมพิตที่เขามอบให้อย่างต่อเนื่อง

“อะ...อะไรนะคะ คุณตฤณว่าลูกหมูกลัวเหรอคะ” ใบบุญถาม

ราวละเมอ อีกฝ่ายกระตุกยิ้มเมื่อไถลใบหน้าลงซุกกับซอกคอหอมกรุ่น

“ใช่ แต่ถ้าเธอกลัวก็ยอมแพ้ซะ แล้วรีบกลับบ้านไป”

แม้จะอยู่ในอารมณ์เคลิบเคลิ้ม ทว่าเมื่อถูกอีกฝ่ายออกปากไล่

อีกครั้ง หญิงสาวก็เลยยิ่งออกอาการฮึด

“ไม่ค่ะ! ลูกหมูไม่ไป ลูกหมูไม่ได้กลัวคุณตฤณเลยสักนิด

ตรงกันข้ามลูกหมูอยากอยู่กับคุณ ใกล้คุณ รักคุณ...และทำให้คุณรัก”

พูดจบริมฝีปากจิ้มลิ้มช่างเจรจาก็กดประทับเข้ากับเรียวปาก

ได้รูปของตฤณเพื่อแสดงความกล้าและบอกกลายๆ ว่าเธอไม่กลัวเขา

เลยสักนิด มิหนำซ้ำยังทำใจกล้าด้วยการฉกเรียวลิ้นนำทางเพื่อเปิดริมฝีปาก

กระด้างก่อนเลื่อนไล้ลงไปทักทายลิ้นของอีกฝ่าย แม้จะเก้ๆ กังๆ แต่ทว่า

ความมั่นใจเกินร้อยของเธอก็สามารถพังทลายกำแพงใจอันแข็งแกร่ง

ให้กระเจิดกระเจิงด้วยการทำให้คนตัวโตถึงกับสะท้านวาบขึ้นได้ทั้งกาย

และใจ

“ลูกหมู...อย่าทำแบบนี้สิ ให้ตายเถอะ!”

ตฤณสบถงึมงำ หากแต่กลับรั้งเอวบางเข้าหาตัว มือเล็กๆ จึง

ตอบรับด้วยการสวมกอดรอบลำตัวบึกบึน แล้วก็ต้องสะดุ้งไหววาบหวาม

เมื่อผิวเนื้อเนียนนุ่มบริเวณหน้าท้องขาวผ่องถูกลุกล้ำด้วยปลายนิ้วเรียวยาว

และก่อนที่เธอจะไม่เหลือผ้าติดกายเลยสักชิ้น เสียงเรียกจากเครื่องสื่อสาร

ก็ดังขึ้นราวกับระฆังพักยก!

กริ๊งงง...

อารมณ์ที่กำลังตื่นเพริดดับวูบราวกับถูกปิดสวิตช์ ร่างใหญ่โต

ที่ทาบทับร่างเล็กชะงักพร้อมกับสติที่กลับคืนมาอีกครั้ง ใบหน้าคมคาย

ผละออกจากทรวงอกอวบ ดวงตาฉ่ำปรือบ่งบอกชัดเจนว่าเขากำลังเสียดาย

มากเพียงใด ก่อนเขาจะตัดสินใจผละห่างตรงไปที่ต้นตอของเสียงเรียก

ที่ร้องดังเป็นระยะๆ

“สวัสดีครับ ตฤณพูดอยู่ครับ”

ใบบุญรีบตวัดผ้าห่มผืนหนาขึ้นมาปกปิดเรือนกายอย่างรวดเร็ว

ดวงหน้าแดงก่ำเพราะความขวยเขินปนความรู้สึกสุขซ่าน ทว่าความ

อ่อนหวานที่เพิ่งได้รับกลับมลายหายพลัน เมื่อเสียงพูดคุยที่ดังลอดมาจาก

เครื่องมือสื่อสารและคนตรงหน้าชัดเจนเสียจนไม่ต้องเดาให้เสียเวลา

“ครับ...เพิ่งถึงเมื่อสักครู่นี่เองครับ” ตฤณกรอกเสียงลงไป

พลางหันกลับมามองคนหน้าหวานที่เวลานี้แดงเถือกไปทั้งหน้า ผมเผ้า

ยุ่งเหยิงไม่เป็นระเบียบ ก่อนจะยิ้มบางๆ แล้วพูดต่อ

“ขอบคุณชมมากนะครับที่เป็นห่วง ชมเองก็อย่านอนดึกนะครับ

เดี๋ยวจะไม่สบายเอา”

มือบางกำแน่น รู้สึกเหมือนกำลังถูกทำร้ายด้วยคำหวานที่อีกฝ่าย

ปรนเปรอให้แม่คู่หมั้นของเขา แล้วเรื่องเมื่อครู่นี้เล่าเขาคิดอย่างไรกันแน่

หรือเขาเห็นเธอเป็นเพียงแค่ผู้หญิงไร้ค่า!

ขณะเดียวกันคนโทร.หาก็มีสีหน้าแดงก่ำ เมื่อเขาหยอกเย้า

อย่างที่ไม่เคยกระทำมาก่อน...ก่อนจำใจวางสายเมื่ออีกฝ่ายบอกอำลา

“แค่นี้นะครับ หลับฝันดีครับ”

ใบบุญเม้มปากแน่น เมื่ออีกฝ่ายหันกลับมาหลังจากวางโทรศัพท์

แล้ว ดวงตาสีเข้มจ้องมองมายังร่างบางแต่อวบอิ่มจนแทบทำให้เขาเกือบ

ล้มเลิกความตั้งใจที่จะไม่ยุ่งกับเธอด้วยสายตายิ้มยั่ว

“ว่าไง มีอะไรอีกหรือเปล่า หรืออยากให้ฉันทำต่อหรือไง แม่ลูกหมู

คนสวย” ขณะที่เขายิ้มยั่ว คนตัวบางกลับมองด้วยสายตาปวดร้าว ขอบตา

ร้อนผ่าวจนแทบกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่

“คุณตฤณคงเห็นลูกหมูเป็นผู้หญิงข้างถนนใช่ไหมคะถึงได้

ทำแบบนี้ หัวใจคุณตฤณทำด้วยอะไร” เสียงสั่นพร่าของหญิงสาวเขย่า

หัวใจเขาสั่นไหวอย่างรุนแรง ใบหน้าคมคายที่ยิ้มยั่วเมื่อครู่คลายลง

“เธอกลับไปซะเถอะลูกหมู กลับไปก่อนที่อะไรๆ มันจะแย่ไป

กว่านี้” เขาเอ่ยพลางหันหลังให้เพราะไม่อยากเห็นน้ำตาที่เอ่อล้นขอบตา

คู่สวยที่ทำให้เขาเจ็บปวด

“ใจร้าย!”

ร่างสูงหันขวับแล้วต้องชะงักนิ่ง ใจหายวาบเมื่อสบตาแดงก่ำ

ที่เอ่อล้นไปด้วยน้ำตาไหลกลิ้งลงบนพวงแก้มหอมอย่างรวดเร็ว ใบบุญ

มองเขาด้วยแววตาตัดพ้อ มือเล็กๆ กำแน่น

“ลูกหมูอยากเกลียดคุณตฤณ”

เสียงสั่นพร่าและแผ่วเบาไร้น้ำหนัก แต่กลับทำให้เขารู้สึกเหมือน

ถูกกระชากหัวใจออกไปต่อหน้าต่อตา ทั้งสองสบตานิ่งอยู่นาน...นานจน

แทบลืมเวลา

“ฉันอนุญาต เชิญเกลียดฉันได้เลยลูกหมู เกลียดให้มากเท่าไร

ยิ่งดี” ท้ายประโยคฟังดูไม่หนักแน่นเลยสักนิด เขารู้ดี ทว่ากลับทำให้

ใบบุญยิ่งน้อยใจเป็นทวีคูณ

“บ้า! คนบ้า คนเลว”

ร่างบางกรีดร้องน้ำตานองหน้าก่อนจะผลุนผลันออกจากห้อง

ของเขาด้วยความเสียใจอย่างที่สุด ตฤณนึกอยากตามไป อยากเข้าไป

ปลอบโยนให้เธอหายน้อยใจ หายเสียใจ แต่รู้ตัวว่าเขาไม่อยู่ในฐานะที่

จะทำได้ เขาจำต้องแข็งใจและคิดห้ามตัวเองไม่ให้ใจอ่อนเด็ดขาด

ใบบุญปิดประตูห้องได้ก็ทิ้งตัวลงไปบนที่นอนหนานุ่มแล้วปล่อย

เสียงร้องไห้โฮออกมาอย่างไม่คิดข่มกลั้นอีกต่อไป นานนับหลายนาที

กว่าอารมณ์แห่งความเสียใจจะผ่อนลง ดวงตากลมโตช้ำชอกเหม่อมอง

ออกไปนอกหน้าต่างด้วยความรู้สึกอ้างว้างหดหู่อย่างล้นพ้น เมื่อต้องอยู่

เพียงลำพัง ความเสียใจน้อยใจก็ถาโถมเข้ามาราวระลอกคลื่นที่สาดซัด

โหมกระหน่ำไม่หยุดหย่อน น้ำตาเอ่อล้นจนปริ่มก่อนกะพริบตาเบาๆ

ไล่ม่านน้ำตาที่ทำทีว่าจะไหลรินให้กลับลงสู่ก้นบึ้งหัวใจ

“ลูกหมูไม่เชื่อ...ไม่เชื่อเด็ดขาดว่าคุณตฤณไม่รักลูกหมูแล้ว”

ใบบุญรำพึงอย่างแผ่วเบา ไม่อยากคิดว่าอนาคตจะเป็นเช่นไรหากข้างๆ

กายเธอไม่มีเขา แล้วเธอจะทนได้ไหมหากคนที่เคียงข้างชายหนุ่มจะเป็น

หญิงอื่นที่ไม่ใช่เธอ

ไม่ต่างจากตฤณ ชายหนุ่มทิ้งตัวลงนอนบนเตียงกว้างด้วย

ความหนาวเหน็บสุดขั้วหัวใจเมื่อคิดถึงใบหน้าที่นองด้วยน้ำตาเมื่อครู่

รอบตัวเขายังคงหลงเหลือกลิ่นอายรอยรักความอาวรณ์ของใบบุญไว้

ครบถ้วน เขาไม่ควรใกล้ชิดเธอเลย ไม่ควรสักนิด ตฤณรู้สึกผิดอย่าง

บอกไม่ถูก ใครก็รู้ว่าเขากำลังจะแต่งงานในอีกไม่ช้า ส่วนใบบุญเองก็มี

คู่หมั้นคือนายสันติ ผู้ชายที่นายบารมีเห็นดีเห็นงามที่จะให้หญิงสาวใช้

ชีวิตร่วมกับชายผู้นี้ในอนาคต ส่วนตัวเขาคือชายที่ถูกมองว่าเป็นเพียง

ส่วนเกินของเธอเท่านั้น

ตฤณเคยตั้งคำถามว่าเหตุใดจึงกีดกันไม่ให้เขาคบหาใบบุญ

ต่อไป ทว่าไร้ซึ่งคำตอบจากอีกฝ่าย เขาจึงเดาได้ว่านายบารมีคงเห็นเขา

เป็นเพียงชาวไร่ธรรมดาๆ จะมีภาษีดีกว่าคนอื่นหน่อยก็แค่เป็นชาวไร่

ที่มีใบปริญญาการันตีก็เท่านั้น แต่นายสันติคือลูกชายของนักธุรกิจของ

จังหวัดที่มีชื่อเสียงมาช้านาน มีแต่คนนับหน้าถือตามากมาย หากเปรียบ

กับเขาก็คงจะไม่ต่างราวฟ้ากับเหว!

“เป็นแบบนี้ก็ดีแล้ว ทุกอย่างมันจะได้จบลงเสียที” ตฤณรำพัน

ด้วยความขมขื่นใจ ความติดดินของเขาไม่ได้ช่วยให้คนอย่างนายบารมี

มองว่าดีขึ้นมาได้เลยสักนิดเพราะนายบารมีนั้นมองคนเพียงแค่เปลือก

มองจากชื่อเสียงและฐานะ และไม่เคยคิดให้ลึกลงไปว่าภายใต้หน้ากาก

อันสวยหรูของคนเหล่านั้นอาจซ่อนความร้ายกาจที่มีเพียงความกลวงโบ๋

ของจิตใจเอาไว้อย่างที่คาดไม่ถึงก็เป็นได้

รายละเอียด

‘นี่หรือ...คุณตฤณที่ลูกหมูเคยรัก เคยรู้จัก ทำไมวันนี้ถึงได้เย็นชาถึงเพียงนี้นะ’
 
                   ศึกระหว่าง ‘คนเลี้ยงหมู’ กับ ‘ลูกหมู’ ซึ่งเดิมพันไว้ด้วยหัวใจและความรัก นับวันก็ยิ่งเข้มข้นและยากจะรู้ว่าใครจะเป็นฝ่ายมีชัยในเกมรักสุดว้าวุ่นใจครั้งนี้ เพราะไม่ว่าอย่างไร ‘ยัยลูกหมูตัวแสบ’ ก็ไม่มีวันยอมยกเขาให้กับใครแน่นอน!
 
                   หมองูตายเพราะงูฉันใด คนเลี้ยงหมูก็ต้องพ่ายแพ้ให้กับหมูฉันนั้น เพราะไม่ว่าจะต้องใช้เล่ห์หรือกลอันใด ใบบุญ ก็จะต้องทำให้ ตฤณ กลับมาอ้อนวอนขอความรักจากเธอเหมือนเดิมให้ได้!
 
                   และต่อให้ ‘คุณตฤณ’ พยายามสู้เพียงใดก็คงไร้ประโยชน์ เพราะคนที่จะชนะต้องเป็นลูกหมูคนเดียวเท่านั้น!
 
 

รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (72 รายการ)

www.batorastore.com © 2024