พยศรักวิวาห์ร้อน (ตะวันทอแสง)

พยศรักวิวาห์ร้อน (ตะวันทอแสง)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786167715087
มีสินค้าในสต็อค
ราคา: 257.00 บาท 64.25 บาท
ประหยัด: 192.75 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

บทนำ

มื่อตอนอายุสามปี

“แงๆ ๆ” เสียงร้องไห้จ้าของเด็กน้อยดังขึ้น เรียกให้ผู้เป็น

มารดาต้องรีบลุกจากโต๊ะหินอ่อนซึ่งอยู่ไม่ไกลเท่าใดนัก เพื่อวิ่งมาดูด้วยความห่วงใย

แล้วจึงพบว่าเด็กหญิงปาริฉัตร ปาละชาติ ในวัยสามปีล้ม

ลงกับพื้น โดยมีเด็กชายอินทร์ธราธร ธราธรทัตต์ ยืนหัวเราะร่าพร้อม

กับใช้มือเล็กๆ ขาวๆ กอบโกยเศษใบไม้แห้งที่ร่วงกราวใต้ต้นลีลาวดี

สีขาวโยนใส่ร่างอ้วนป้อมของเด็กหญิง

“ตายแล้ว! ทำไมแกล้งน้องแบบนี้ล่ะตาอินทร์” คุณอรอุมา

ผู้เป็นมารดาของเด็กชายตวาดลูกชายเสียงดัง ก่อนจะรีบเข้าไปห้าม

เหตุการณ์ตรงหน้า

“ลูกปลาไม่เป็นอะไรนะลูก โอ๋ๆ ๆ นิ่งเสียคนดี” คุณปรีชญา

อุ้มลูกสาวของนางไว้แนบอกก่อนปลอบประโลม

“ขอโทษน้องเดี๋ยวนี้!”

“ไม่!” อินทร์ธราธรวัยห้าปีพยศ

“แม่บอกให้ขอโทษ” คุณอรอุมาย้ำคำสั่งเดิมด้วยน้ำเสียง

เฉียบขาด

“ไม่!” เด็กชายรูปหล่อทำท่ากอดอกพร้อมยืนยันคำเดิม

“ถ้าอินทร์ไม่ขอโทษน้อง ก็จงจำไว้ โตขึ้นเมื่อไรต้องแต่งงาน

และดูแลน้องไปตลอดชีวิต”

มื่อตอนอายุห้าปี

“เธอมันขี้เหร่! เธอมันขี้เหร่! เธอมันขี้เหร่! อ้วนแล้วก็ดำมาก

ด้วย!” เสียงล้อเลียนร้องเป็นเพลงดังมาแต่ไกล ซึ่งปาริฉัตรสามารถ

รับรู้ได้ทันทีว่านี่คือเสียงของอินทร์ธราธร คู่ปรับคู่แค้นของเธอนั่นเอง

“โตขึ้นลูกปลาจะสวย!” เธอย้อนเขากลับไปทันทีที่เด็กชาย

เดินมาให้เห็นตัว

“โตขึ้นปลาร้าจะสวย” อินทร์ธราธรทำเสียงเล็กเสียงน้อย

ล้อเลียน ใบหน้าซึ่งเริ่มฉายแววหล่อยักคิ้วหลิ่วตาทำท่ากวนประสาท

“ไปที่อื่นเลยนะ ออกไปจากบ้านเขาเลย!” ปาริฉัตรเริ่ม

กระทืบเท้าเมื่อเขาแกล้งเดินเข้ามาเหยียบเท้าเล็กๆ ของเธอเต็มแรง

“ตัวก็ดำ อ้วนก็อ้วน” เด็กชายยังไม่เลิกเอาปมด้อยเด็กหญิง

มาล้อเลียน มิหนำซ้ำคราวนี้เขากลับแลบลิ้นปลิ้นตาให้เธอเป็นของแถม

อีกด้วย

“อย่าเหยียบเท้านะ! ป้าอรบอกว่าถ้าพี่อินทร์แกล้งลูกปลา

โตขึ้นเมื่อไรต้องแต่งงานและดูแลน้องไปตลอดชีวิต” เด็กน้อยเอ่ยออก

ไปตามที่ได้ยินมาตั้งแต่สามขวบ

“ฉันไม่แต่งงานกับคนขี้เหร่หรอกยายปลาร้า”

“ป้าอรบอกว่าพี่อินทร์ต้องแต่งงานและดูแลลูกปลาไปตลอด

ชีวิต!”

“เจ้าชายอย่างฉันต้องรักและดูแลเจ้าหญิง เจ้าหญิงที่ไม่มีทาง

เป็นยายปลาร้าแน่นอน” พูดจบก็กระแทกฝ่าเท้าลงที่เท้าเล็กๆ ของ

ปาริฉัตรเต็มแรง จากนั้นร่างผอมของเด็กชายอินทร์ธราธรก็รีบวิ่งหนี

หายไป โดยไม่นำพาต่อเสียงร้องไห้จ้าเลยสักนิด

“ลูกปลาเกลียดพี่อินทร์! เกลียดพี่อินทร์!”

มื่อตอนอายุเจ็ดปี

“ว้าย!” ปาริฉัตรร้องลั่นเมื่อจู่ๆ ชุดของเล่นหม้อข้าวหม้อแกง

ที่ทำจากดินเผาชุด ใหญ่ของเธอก็ร่วงกราวจากโต๊ะในสนามหญ้าลงสู่พื้น

 กระจัดกระจายไปหมด ซึ่งบางอันที่เปราะบางมากเมื่อกระทบกันก็

แตกหักเป็นเสี่ยงๆ

เด็กหญิงวัยเจ็ดขวบ ผิวคล้ำ ใบหน้ามอมแมมเงยหน้าช้อน

ดวงตาที่คลอระริก ไปด้วยหยาดน้ำ ใสขึ้น มองเด็ก ผู้ชายตัวสูง ผิว ขาวจัด

หน้าตาหล่อเหลา ผู้ทำลายร้านขายของขนาดย่อมของเธอให้พังลงใน

พริบตา

“ไม่ได้ตั้งใจ” อินทร์ธราธรรีบเอ่ยทั้งที่ตัวเองกลั้นหัวเราะไว้

เต็มที่ ดูหน้ายายเด็กนี่สิ ขมุกขมัวชะมัด แถมตัวก็อ้วนจนจะกลายเป็น

ลูกขนุนเดินได้อยู่แล้ว เขาไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมแม่ถึงได้ชอบพามาที่

บ้านหลังนี้บ่อยๆ เรียกว่าตั้งแต่จำความได้เลยทีเดียว แถมยังชอบนั่ง

คุยกับคุณน้าปรีชญาแม่ของยายตัวกลมนี่ตั้งนานสองนาน ปล่อยให้เขา

เหงาจนต้องมาหาเรื่องแกล้งคนทุกทีเลย ส่วนเหยื่อคลายเหงาก็ไม่ใช่

ใครที่ไหน ก็น้องลูกปลาผู้หญิง ขี้เหร่ลูก สาวของคุณ น้าปรีชญานั่นเอง

“พี่อินทร์แกล้งลูกปลาอีกแล้วนะ” เธอแผดเสียงดังก่อนที่

ปากบางจะเบะลง และก็เป็นไปตามที่เด็กชายคาดการณ์เอาไว้เมื่อ...

“แงๆ ๆ ๆ ๆ” ปาริฉัตรร้องไห้เสียงดังลั่น

“โอ๋ๆ ๆ อย่าร้องนะอย่าร้อง พอน้องปลาร้องไห้แล้วหน้าตา

ยิ่งน่าเกลียดไปกว่าเดิมร้อยเท่าเลยรู้ไหม” มันช่างเป็นคำปลอบโยนที่

เสียดแทงเข้าไปถึงขั้วหัวใจคนฟังเสียจริงๆ

“ลูกปลาเกลียดพี่อินทร์! โตขึ้นลูกปลาจะเป็นคนสวยให้ได้

เลย คอยดู” เด็กหญิงตัดพ้อต่อว่าเขาทั้งน้ำตานองหน้า เจอกันกี่ครั้งๆ

เขาก็มีแต่จะพร่ำต่อว่าเรื่องหน้าตาเธออยู่ร่ำไป

“ชาติหน้าตอนบ่ายๆ หรือ เปล่า” เด็กหนุ่มที่แก่ กว่าวัยเอื้อม

มือไปกระตุกผมเปียทั้งสองข้างของเด็กหญิงแรงๆ ก่อนจะวิ่งหนีไป

“คนนิสัยไม่ดี!” ปาริฉัตรเบะปากร้องไห้ด้วยความเจ็บทั้ง

กายเจ็บทั้งใจ เธอเกลียดเขานัก เกลียดเด็กผู้ชายคนนี้ที่สุดในโลกเลย

เพราะตั้งแต่เล็กจนโตเขาก็ชอบมาหาที่บ้าน แล้วกลั่นแกล้งเธอให้ต้อง

เจ็บตัว พร้อมพูดให้ต้องเจ็บใจอยู่เป็นประจำ

‘คอยดูนะ...โตขึ้นเมื่อไรฉันจะต้องสวย ต้องสวยๆ ๆ จน

ใครๆ ต่างก็ต้องชื่นชม ฉันจะต้องเป็นดาราในจอโทรทัศน์ให้ได้เลย

คอยดู!

 

1สบตา

 “จ้า ธันก็ดูแลตัวเองดีๆ นะ ตอนลูกปลาไม่อยู่ห้ามมอง

หญิงอื่นด้วย ธันต้องรักลูกปลาคนเดียวนะรู้ไหม” เสียงหวานๆ ของ

สาวร่างสมส่วนและแสนสมบูรณ์แบบกำลังยืนคุยโทรศัพท์มือถืออยู่

ตรงระเบียงที่ยื่นออกไป เพื่อชมทิวทัศน์ของคอนโดฯ ชั้นสูงสุดติด

แม่น้ำเจ้าพระยา

หากคุณกำลังนั่งมองเธอจากด้านในห้องชุดสุดหรูที่เน้นการ

ตกแต่งเครื่องใช้ด้วยโทนสีแดงสลับขาวจะพบว่าเธอคนนี้มีเรือนผม

ยาวสลวยสีบลอนด์เบจจากการย้อม ทั้งยังถูกดัดให้เป็นลอนใหญ่ๆ มี

วอลลุ่มตามสมัยนิยมของผู้หญิงสวยโดยทั่วไป

เมื่อมองเลื่อนต่ำลงมาอีกนิดจะเห็นแผ่นหลังขาวนวลเนียน

ไร้สิวฝ้าหรือรอยด่างดำให้ต้องรำคาญใจ ทำให้ชุดเปลือยหลังจนเกือบ

ถึงสะโพกสีดำสนิทนี้สวมใส่ออกมาได้อย่างน่ามองและน่าน้ำลายหก

เหลือเกิน

เอาละ! ถ้าคุณมองต่ำลงมากกว่านั้น คุณจะเห็นเอวคอดกิ่ว

รับกับช่วงสะโพกผายเต็มตึงแน่นหนั่นน่าสัมผัส เพราะมันไม่ใหญ่จน

ดูเทอะทะ แต่ก็ไม่ลีบแบนจนกลายเป็นปมด้อย แต่ถ้าคุณคิดว่านั่น

เพอร์เฟ็กต์เพียงพอแล้วคุณคงคิดผิด เพราะเมื่อไล้สายตาต่ำลงมาอีก

นิด คุณจะเห็นเรียวขาขาวผ่องเป็นยองใยที่ยืดเหยียดตรง ไม่โก่งและ

ไม่แตกลาย ทั้งยังนวลเนียนและนุ่ม ละมุน แถมกระโปรงเดรสที่สั้นเพียง

ปิดสะโพกนี้อาจจะทำ ให้คุณ ผู้ชายที่ยัง มีสมรรถภาพทางเพศฟิตเปรี๊ยะ

ต้องเกิดอาการลมหายใจติดขัดได้เมื่อเธอก้ม!

ลูกปลา...ปาริฉัตร ปาละชาติ หันหลังกลับเข้ามาภายในห้อง

ของเธอ จนผมสยายไปตามแรงเคลื่อนไหว และวินาทีนี้เองที่จะทำให้

คุณได้เห็นเครื่องหน้าอันงดงามราวกับจิตรกรชั้นเอกแห่งสรวงสวรรค์

สรรค์สร้างมา

เริ่มที่คิ้วโก่งเรียวสวยเป็นรูปคันศรของเธอที่พาดอยู่เหนือ

ดวงตาคู่งาม ที่ถูกตวัดเอาไว้ด้วยอายไลเนอร์สีดำ ดูโฉบเฉี่ยว

ขนตาของเธอเรียงรายกันเป็นแพโดยไม่ต้องพึ่งของปลอมให้เสียเวลาสักนิด

มาถึงดวงตาคู่สวยที่กลมรีได้รูป เปล่งประกายดุจตากวาง

ปาริฉัตรมีนัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนที่ได้จากคอนแทคเลนส์

ส่งให้ใบหน้าหวานดูเซ็กซี่ได้อย่างไม่ยาก จมูกโด่งของเธอสวยเพราะไม่ได้

เชิดรั้นตรงปลายแบบคนดื้อ แต่มองดูคล้ายกับหยดน้ำตรงปลายจมูก

เข้ากันกับเครื่องหน้าเหลือเกิน ทั้งหมดนั้นอาจจะทำให้คุณใหลหลง ทว่ามัน

ยังเทียบไม่ได้เลยสักนิดกับกลีบปากอวบอิ่มเย้ายวนที่เคลือบด้วย

ลิปสติกสีแดงเลือดนก เหมือนกับสีเล็บทั้งมือและเท้าไม่มีผิดเพี้ยน

สรุปได้แล้วว่าเธอสวย ไม่ใช่สวยธรรมดาด้วยนะ สวยมากๆ

จนถึงขนาดที่ใครได้ประสบพบเจอจะต้องหันหลังมองตามจนคอแทบ

เคล็ดกันเลยทีเดียว

“ทำอะไรอยู่ลูก” ปรีชญา ปาละชาติ ผู้เป็นมารดาเดินเข้ามา

เอื้อมมือแตะไหล่มนของลูกสาวเพียงคนเดียว ก่อนเอ่ยถามด้วยน้ำเสียง

เปี่ยมรัก

ปาริฉัตรอยู่คอนโดฯ แห่งนี้กับมารดา เพราะบ้านจริงๆ ของ

ครอบครัวเธออยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ บิดาเธอเสียชีวิตไปตั้งแต่เธอเพิ่ง

เรียบจบชั้นมัธยมปลาย หลังจากนั้นมารดาก็ทำหน้าที่เลี้ยงดูเธอมา

ตลอด ชนิดที่เรียกว่าไข่ในหิน ปรีชญาเป็นทั้งแม่ พี่สาว และเพื่อนที่

แสนดีให้แก่ลูก นางตามใจลูกทุกอย่าง แต่ปาริฉัตรก็ไม่เสียคน เพราะ

ได้ความรักความอบอุ่นจากผู้เป็นแม่อย่างเต็มเปี่ยม

“เพิ่งคุยกับเพื่อนเสร็จค่ะ” เธอไม่ได้บอกมารดาว่าคนปลาย

สายที่เพิ่งจบการสนทนาไปนั้นเป็นเพื่อนใจที่คบหากันมาหลายปี เพราะ

อยากให้ธันหรือธนา คนรักของเธอกลับมาจากการเรียนปริญญาเอก

ในประเทศเยอรมนีเสียก่อน แล้วค่อยมาคุยเรื่องแต่งงานกันทีเดียว

หมายถึงถ้าเธอจะตกลงแต่งกับเขาน่ะนะ หากอีกนัยก็เป็นเพราะเหตุผล

ที่มันซุกซ่อนอยู่ลึกๆ ภายในใจ ซึ่งก็คือเธอไม่ได้รักเขา แต่เพราะเขา

เป็นผู้ชายที่เหมาะสมกับเธอเพียงเท่านั้น

ความเหมาะสมอย่างแรกคือธนาหน้าตาดี ควงไปไหนแล้ว

ไม่อายใคร ความเหมาะสมอย่างที่สองคือธนาเอาใจใส่ดูแลเธออย่างดี

ชนิดที่ไม่มีขาดตกบกพร่องเลยแม้แต่น้อย และความเหมาะสมอย่าง

ที่สามก็คือเขารวย ทางบ้านเป็นราชาที่ดิน แถมตอนนี้ยังมีดีกรีเป็นถึง

ดอกเตอร์นักเรียนนอกอีกต่างหาก สามข้อนี้เป็นประเด็นหลักที่เธอ

ไม่คิดจะปฏิเสธตอนเขามาขอคบเป็นแฟน ส่วนประเด็นรองน่ะเหรอ...

ไม้กันหมาเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับอาชีพดาราน่ะสิ!

ปาริฉัตรกับธนาคบกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย ธนา

เป็นคนมีรูปร่างหน้าตาหล่อเหลาแบบชายไทยแท้ เขาเป็นคนเก่งใน

ทุกๆ ด้าน เป็นทั้งนักดนตรีและนักกีฬาของมหาวิทยาลัย แถมยังเรียน

จบปริญญาตรีและโทเกียรตินิยมอันดับหนึ่งในคณะวิศวกรรมศาสตร์

และขณะนี้กำลังไปทำงานวิจัยเกี่ยวกับวิศวกรรมนาโนพร้อมกับเรียน

ปริญญาเอกอยู่ที่ประเทศเยอรมนีมาปีกว่าแล้ว โดยธนาสัญญาเอาไว้

ก่อนไปว่ากลับมาเมื่อไรเขาจะขอเธอแต่งงานทันที

สำหรับปาริฉัตร แม้ว่ามันจะเป็นปีกว่าที่เธอและเขาได้เจอกัน

เพียงสามครั้ง แต่มันกลับเป็นปีกว่าที่ปาริฉัตรนึกโมโหตัวเองเหลือเกิน

เพราะว่าเธอไม่เคยคิดถึงหรือโหยหาธนาเลยแม้แต่นาทีเดียว การคุย

โทรศัพท์หรือส่งอีเมล์ก็เป็นไปตามหน้าที่ หน้าที่ที่แสนน่าละอายใจ

เพราะความรู้สึกที่มีนั้นมันไม่เคยตรงกับสิ่งที่พูดออกไปเลยสักนิด

ปาริฉัตรไม่เคยหวง ไม่เคยหึง ไม่เคยคิดถึง และ...ไม่เคยรัก

“วันนี้ลูกปลาไปงานเลี้ยงกับแม่นะ”

“งานเลี้ยงอะไรคะ” เธอเอียงคอถามมารดาด้วยความสงสัย

เพราะนานมากแล้วที่เธอไม่ได้ออกงานสังคมแบบนี้

“งานวันเกิดเพื่อนสนิทของแม่เอง”

“เพื่อนสนิท” เธอจะไปเข้าใจได้อย่างไรกันล่ะ ในเมื่อเพื่อน

ของแม่มีเป็นสิบ หรือบางทีอาจจะเป็นร้อยก็ได้ เพราะไหนจะเพื่อน

ในสมาคมสิทธิสตรีที่แม่เป็นนายกฯ หรือจะเพื่อนสมัยเรียนที่มีตั้งแต่

รุ่นอนุบาลยันมหาวิทยาลัย อ้อ! ยังมีเพื่อนไม่สนิทคิดไม่ซื่อ ชอบใส่

หัวโขนใส่กันในบรรดาแวดวงสังคมคุณหญิงคุณนายที่มักจะนัดไปนั่ง

แข่งประกายเพชรตามร่างกายก็อีกเพียบเชียวละ

“คนนี้น่ะซี้กันเลยนะลูก” ปรีชญาทำท่าซุบซิบกับลูกสาวทั้งๆ

ที่บริเวณนี้ไม่มีใครอื่นอยู่สักคน

“ซี้เลยเหรอคะ ถ้างั้นปลาต้องรู้จัก ใช่ไหม”

“รู้จักสิ ตอนปลาเดก็ ๆ เขามาเยี่ยมเราออกบ่อย แต่หลังจาก

ลูกชายเขาย้ายไปเรียนไฮสกูลที่เมืองนอกก็แทบไม่ได้มาอีกเลย แต่ปลา

น่าจะจำพี่อินทร์ได้นะ”

“โอย...ใครจะไปจำได้กันล่ะคะ” เธอทำปากยื่นใส่มารดา

อย่างน่ารัก

“ก็พี่อินทร์ไงลูก อินทร์ธราธร พี่ชายที่มาเล่นกับปลาไง”

ปรีชญาพยายามรื้อฟื้นความจำให้ลูกเต็มที่

“อินทร์...พี่อินทร์” ปาริฉัตรยกนิ้วชี้ขึ้นแตะข้างคางเบาๆ

หลายที ขณะยืนนิ่งคิดถึงเรื่องราวในวัยเด็ก ชั่วอึดใจภาพเหตุการณ์

ต่างๆ มากมายก็กรูกันเข้ามาในสมองของเธอ

ภาพแรกเป็นภาพผู้ชายที่ตัวโตกว่า ผิวขาวจัด วิ่งไล่แย่ง

ขนมสุดโปรดจนเธอหกล้มเข่าแตก แผลเป็นจางๆ ที่ยังเหลืออยู่จนถึง

ปัจจุบันนี้ยืนยันความเจ็บปวดของเธอได้ดีทีเดียว

ภาพที่สองเป็นภาพผู้ชายคนเดียวกันนั้นแอบดึงผมเปียของ

เธอจนเจ็บไปหมดทั้งหัว เธอร้องไห้จ้าวิ่งไปฟ้องแม่ แต่เขาก็ยื่นเท้ามา

สกัดขาเธอให้ล้มลงอีก

 

ภาพที่สามก็ยังคงเป็นไอ้บ้านั่นที่ชอบแกล้งเปิดกระโปรงของ

เธอให้อับอาย เพราะเขามักเปิดเวลาอยู่ในที่ชุมชนคนเยอะๆ ตลอด

ภาพที่สี่นี้คนคิดถึงกับกัดฟันกรอด เพราะเป็นภาพหลาย

ภาพที่ปะติดปะต่อกัน ซึ่งแต่ละภาพคือการทะเลาะกันระหว่างเธอกับ

เขาทั้งสิ้น!

‘คิดออกแล้ว! ไอ้อินทร์! ไอ้อินทร์ธราธรนิสัยเสียคนนั้น

นี่เอง!

“นึกออกหรือยังเอ่ย” ปรีชญาถามเสียงเน้นคำแบบพวกใน

เกมโชว์โทรทัศน์

“นึกออกแบบชัดแจ้งแดงแจ๋เลยละค่ะ!” เธอกัดฟันตอบ

เพราะความโมโหที่ต้องย้อนกลับไปนึกถึงเหตุการณ์ต่างๆ ที่มันเสมือน

ความทรงจำอันเลวร้ายในวัยเด็ก

อินทร์ธราธร...หมอนั่นช่างร้ายกาจนัก กลั่นแกล้ง ล้อเลียน

สบประมาทเธอสารพัด หาว่าขี้เหร่บ้าง ดำบ้าง อ้วนบ้าง โอ๊ย! สารพัด

สารเพไปหมดที่หมอนั่นสรรหามาบริภาษเธอ ไหนจะวีรกรรมแสบๆ

ล่าสุดก่อนจะไม่ได้เจอกันตลอดกาลที่มันยังติดตรึง อยู่

ตอนนั้นเธออายุสิบห้า เรียนมัธยมศึกษาปีที่สาม ครอบครัว

เธอพาหมอนั่นไปเที่ยวทะเลด้วย และไอ้พี่อินทร์คนนั้นก็ชวนเธอเล่น

น้ำ แถมไม่ได้เล่นเปล่า มันดันทำเธอจมน้ำอีกต่างหาก ครานั้นร่าง

ของเธอจมดิ่งสู่ท้องทะเลกว้าง เพราะเธอว่ายน้ำไม่เป็น จึงไม่สามารถ

ช่วยเหลือตัวเองได้ โชคดีที่พลเมืองดีช่วยเอาไว้ได้ทัน ไม่อย่างนั้นคง

ไม่มี ปาริฉัตร ปาละชาติ มายืนสวยอยู่ทุกวันนี้เป็นแน่!

นับแต่นั้นมาเธอก็ไม่ยอมพูดจากับเขาอีกเลย จนกระทั่งเขา

ไปเรียนไฮสกูลที่เมืองนอกนั่นแหละ จึงถือว่าเป็นการจากลาอย่างถาวร

 “ดีจ้ะ ไม่ได้เจอกันตั้งหลายปี ป่านนี้ตาอินทร์คงหล่อเหลา

เอาการ” นางพูดพร้อมยิ้มเพ้อฝันประกอบด้วย

‘อย่ามาทำท่าเพ้อเสียให้ยากเลยค่ะคุณแม่ เพราะยังไงปลา

ก็ไม่มีทางกรี๊ดไอ้บ้านั่นแน่ๆ เด็กๆ นิสัยเสียยังไง ทุกวันนี้ก็ต้องไม่

ต่างกัน เผลอๆ บางทีอาจแย่กว่านั้นก็ได้

ปาริฉัตรคิดในใจพลางแบะปากอย่างแสนรังเกียจ

“ปลาไม่ไปได้ไหมคะ”

“ทำไมล่ะลูก ไม่ได้เด็ดขาดเลยนะ วันเกิดเพื่อนสนิทของแม่

ทั้งที”

“อ้าว ซี้กับคุณแม่แต่ดันไปอยู่เมืองนอกเนี่ย นะคะ” ปาริฉัตร

แสร้งถามประชด เพราะถ้าหากสนิทกันจริงก็น่าจะไปมาหาสู่กัน บ่อยๆ

สิ ไม่ใช่อยู่กันคนละประเทศแบบที่แม่กำลังว่าอยู่นี้

“แหม! แม่ก็ติดต่อเขาตลอดแหละลูก แรกๆ ก็คุยโทรศัพท์

กัน ต่อมาเราก็ส่งอีเมล์และเล่นเอ็มเอสเอ็น เปิดกล้องส่องแคม เอ๊ย

เล่นเว็บแคมน่ะจ้ะ พอขยับยุคเข้ามาอีกนิดแม่ก็ไฮไฟว์ ทวิตเตอร์ แล้ว

ต่อมาก็เฟซบุ๊กจ้ะ แต่ว่าตอนนี้เราน่ะคุยบีบีหรือไม่ก็วอทส์แอพพ์กัน

แล้ว เพราะว่าเพื่อนแม่กลับไทยแล้วลูก”

ปรีชญาลอยหน้าลอยตาไปตามคำพูดจนคนเป็นลูกเริ่มงุนงง

กับพฤติกรรมของแม่วัยห้าสิบปี

“แม่รู้จักพวกนั้นด้วยหรือคะ” นี่สรุปเธอกับแม่ใครทันสมัย

มากกว่ากัน ดูที่พูดมาทั้งหมดนั่นสิ ทำเอาเธอตะลึงจนลืมเรื่องของ

อินทร์ธราธรไปได้วูบหนึ่งเลย

“แน่นอนสิจ๊ะ ล่าสุดนี้แม่ก็เถียงกับไก่ซิมซิมิ1 มันทุกวันเลย!

บริหารสมองด้วยการกลั่นคำด่าดีแท้ๆเชียว” คนพูดทำท่าเข่นเขี้ยว

เคี้ยวฟัน เพราะนังไก่เหลืองนั่นน่ะเป็นศัตรูตัวฉกาจของเธอ

“เอ่อ...แม่เล่นซิมซิมิด้วยเหรอคะ” ลูกสาวกลืนน้ำลายมอง

แม่ตัวเองแบบไม่ค่อยเชื่อสายตา

1 ซิมซิมิ หรือ ซิมซิมอิ (SimSimi) คือ แอพพลิเคชั่นในไอโฟนและโทรศัพท์ระบบแอนดรอยด์

ที่สามารถพูดคุยโต้ตอบเราได้เหมือนเราคุยกับเพื่อน

 

“แน่นอน ตอนนี้ลูกปลาไปเปลี่ยนเสื้อผ้าได้แล้ว เราจะไป

งานวันเกิดของคุณป้าอรอุมา เพื่อนสาวที่สนิทที่สุดในชีวิตของแม่กัน

ห้ามปฏิเสธเด็ดขาดนะคะ เพราะคุณแม่ขอร้อง” เธอทำท่าตาปริบๆ

ส่งท้ายให้ลูกสาวในเชิงออดอ้อน จนคนเป็นลูกปฏิเสธไม่ลงไปเลย

“เฮ้อ! ดึกไหมคะ พรุ่งนี้ปลามีถ่ายแบบแต่เช้าด้วย” ปาริฉัตร

ถอนหายใจอย่างหมดทางเลี่ยงก่อนจะถามออกไป

เนื่องจากอาชีพของเธอคือนักแสดงและนางแบบ ที่ตอนนี้

กำลังโด่งดังมีชื่อเสียงมากในเมืองไทย เรียกว่าเปิดทีวีไปช่องไหนก็ต้อง

เจอ ถ้าไม่ใช่ละครก็ต้องเป็นพรีเซ็นเตอร์โฆษณาหนึ่งในสิบห้าสินค้า

ของเธอนั่นแหละ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่หญิงสาวจะหมั่นดูแลรักษา

ร่างกายและใบหน้าของเธอให้ดูงดงามราวนางฟ้าอยู่เสมอ เพราะเธอ

ต้องใช้มันในการทำมาหากินนั่นเอง

“ไม่หรอกจ้ะ เป็นปาร์ตี้เล็กๆ ในหมู่เพื่อนฝูง” พูดจบก็ควัก

ไอโฟนขึ้นมาจากกระเป๋าปราด้า ก่อนจะเริ่มกดเข้าแอพพลิเคชั่นซิมซิมิ

เพื่อไปทักทายนังศัตรูไก่ยามเย็นเสียหน่อย

“ทำอะไรคะแม่”

“เดี๋ยวแม่นั่งด่าเจ้าไก่รอลูกแต่งตัวแล้วกันนะจ๊ะ” คุณปรีชญา

พูดจบก็หาที่เหมาะๆ นั่งรบรากับเจ้าแอพพลิเคชั่นสุดโปรดของนาง

ทันที

ปาริฉัตรเหลือบตามองแม่ที่นั่งทำหน้ายักษ์ใส่โทรศัพท์ด้วย

ความงุนงงบางครั้ง แม่ของเธอก็ค่อนข้างแปลกประหลาดผิดกับผู้หญิง

วัยกลางคนทั่วไปที่เลยวัยทองมาหลายปี เนื่องจากแม่คนนี้ก้าวตามโลก

มากเกินไปจนวัยรุ่นบางคนยังอาย

เมื่อเข้ามาอยู่ในห้องนอนได้ หญิงสาวก็เลิกคิดถึงเรื่องของ

แม่ไป เพราะภาพเหตุการณ์วัยเด็กย้อนกลับมาฉายซ้ำในสมองอีกครั้ง

“อินทร์ อินทร์ธราธร...ป่านนี้นายจะเลิกนิสัยแย่ๆ นั่นไป

หรือยังนะ”

ริมฝีปากแดงสดพึมพำ ตอนนั้นที่เธอถูกแกล้งเพราะเธอ

ยังเด็ก และไม่มีทางเถียงหรือต่อกรกับหมอนั่นได้ แต่ถ้าลองมาแกล้ง

เธอตอนนี้ดูสิ ปาริฉัตรจะทำให้รู้ดำรู้แดงกันไปเลยว่า...ใครที่ริอ่านมา

ต่อกรกับเธอ ต้องได้รู้จักกับคำว่า ‘นรก’ อย่างแท้จริง!

รีชญาขับเมอร์เซเดสเบนซ์สีดำคันงามพาลูกสาวคนสวย

เข้ามาในงานเลี้ยงริมสระว่ายน้ำภายในคฤหาสน์หลังโตสุดหรู เมื่อเดิน

เข้ามาถึงในงาน สองแม่ลูกจึงได้เห็นลูกโป่งสีขาวสีเดียวกับธีมงาน

ประดับประดาเอาไว้อย่างสวยงามท่ามกลางแสงไฟกะพริบสีส้มนวล

ที่ย้อยห้อยประดับอยู่ตามต้นไม้น้อยใหญ่ ซุ้มประตูตรงทางเข้างาน

เป็นซุ้มดอกไม้โค้งสวยราวกับนี่เป็นงานแต่งงาน แขกเหรื่อในชุดราตรี

ที่เน้นสีขาวสวมเครื่องเพชรเดินอวดความโอ่อ่ากันไม่ต่ำกว่าห้าสิบคน

ด้านข้างซุ้มประตูเป็นโต๊ะตัวยาวสองตัวต่อกันสำหรับเป็น

ที่วางกล่องของขวัญ ซึ่งขณะนี้มีกล่องเล็กใหญ่ลดหลั่นกันไปวางอยู่

ราวๆ ห้าสิบกล่องเห็นจะได้ ปาริฉัตรชักสงสัยเสียแล้วสิ ไหนแม่เธอ

บอกว่านี่เป็นงานปาร์ตี้เล็กๆ แต่เท่าที่มองดูรอบๆ เธอยังไม่เห็นว่าจะ

มีความเล็กตรงไหนเลย

“งานนี้เล็กแล้วเหรอคะแม่” เธอกระซิบถามข้างหูมารดาหลัง

จากกวาดสายตามองไปรอบๆ งานที่มีแต่ความอลังการใหญ่โต ทั้ง

สถานที่และการแต่งตัวของแขกรับเชิญมากมาย

“เล็กจ้ะ ถ้าใหญ่คงต้องไปจัดที่โรงแรมแล้วละ”

“ค่ะๆ เล็กก็เล็ก” ลูกสาวทำหน้าแห้งแล้งแล้วเดินตามมารดา

ที่ถือของขวัญสีฟ้ากล่องเล็กผูกโบสีม่วงน่ารัก ซึ่งข้างในนั้นบรรจุนาฬิกา

ข้อมือราคาเหยียบสามแสนบาทที่นำเข้ามาเพียงสองเรือนเท่านั้นในประเทศไทย

เรือนหนึ่งอยู่ที่ ข้อมือแม่ของเธอ ส่วนอีกเรือนก็กำลังนอนแอ้งแม้งอยู่ในกล่องนั่นแหละ

“ต๊ายตาย! ฉันคิดว่าเธอจะไม่มาแล้วนะเนี่ยคุณเพื่อน”

เสียงแหลมเล็กของผู้หญิงมีอายุตรงซุ้มทางเข้างานที่เน้นการตกแต่งด้วย

ดอกเบญจมาศหลากสีดังขึ้น ก่อนที่ร่างอ้วนกลมผิวขาวผ่องในชุดราตรีเปิดไหล่สีขาว

ประดับด้วยคริสตัลจะเคลื่อนตัวมาปะทะเข้ากับร่างของคุณนายปรีชญาอย่างแรง

ทั้งสองโผเข้ากอดสลับแนบแก้มที่ย่นไปตามวัย

พลางร้องวี้ดว้ายกระตู้วู้ราวเป็นสาวรุ่น!

วินาทีนี้ปาริฉัตรหายสงสัยเป็นปลิดทิ้งแล้วว่าสองคนนี้เป็น

เพื่อนสนิทกันได้อย่างไร...

“ฉันคิดถึงจะตายอยู่แล้วนะจ๊ะอร” แม่ของเธอว่า

“ฉันก็คิดถึงเธอมากที่สุดในโลกเลยล่ะจ้ะญาญ่าของฉัน”

คุณป้าอรอุมาบอก

แทบจะไม่เชื่อหูเลย ตอนนี้แม่ปรีชญาของเธอได้กลายร่าง

เป็นญาญ่าดาราสาวรุ่นน้องที่กำลังโด่งดังไปแล้วเหรอเนี่ย

“ตายแล้ว!” คุณอรอุมาเอามือทาบอกพลางจ้องมองมายัง

ปาริฉัตรจนดวงตาแทบถลน หน้าตาตื่นๆ บวกกับเสียงแหลมๆ นั่น

ทำเอาคนทั้งงานแทบโฟกัสมาตรงนี้จุดเดียว รวมทั้งปาริฉัตรด้วย

เพราะเธอกำลังสงสัยอยู่เหมือนกันว่ามีใครเป็นอะไร ทำไมคุณป้าจะ

ต้องตกอกตกใจเสียขนาดนั้น

“คะ” หญิงสาวถามหวั่นๆ เนื่องจากเธอชักจะกลัวอาการนั้น

ของคุณป้าคนนี้เข้าเสียแล้ว

“หนูลูกปลาใช่ไหมจ๊ะ โอ๊ย! สวยจนป้าแทบจำไม่ได้เลยนะ

เนี่ย ตาอินทร์ๆ ๆ อยู่ที่ไหนลูก มาดูหน้าน้องลูกปลาเร็วเข้า! สวยไป

หมดทั้งเนื้อทั้งตัวเลยละลูก” ดวงตาถลนแปรเปลี่ยนมาเป็นประกาย

วิบวับก่อนที่ร่างตุ้ยนุ้ย นั่นจะผละออกจากคุณปรีชญาเพื่อมาหาปาริฉัตร

และคว้าไปกอดเสียเต็มรัก จนฝ่ายถูกกอดแทบหายใจหายคอไม่ออก

“ตายแล้ว!” คราวนี้เป็นเสียงของแม่เธอบ้างที่พูดพร้อมกับ

เอามือทาบอกเหมือนกิริยาเมื่อครู่ของป้าอรอุมาไม่มีผิดเพี้ยน คราวนี้

ใครเป็นอะไรอีกล่ะ แค่ตัวเธอที่กำลังจะตายเพราะถูกกอดอย่างแรงมัน

ยังไม่พอหรือไง

“ตาอินทร์ใช่ไหมจ๊ะเนี่ย โอ๊ย! หล่อจนป้าแทบจำไม่ได้แน่ะ

ลูกปลาๆๆ ดูพี่อินทร์สิลูก หล่อกว่าพระเอกของหนูทุกเรื่องเลยนะ”

คำพร่ำพรรณนาของแม่เธอทำให้คุณป้าอรอุมาคลายอ้อมกอดออก

พร้อมคว้ามือปาริฉัตรเข้าไปหาลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของนางในทันที

ท่ามกลางความปลื้มปีติยินดีของแม่ๆ ทั้งสองฝ่าย ที่ในที่สุดลูกสาว

ลูกชายที่ได้หมายมั่นว่าจะให้ร่วมหอลงโรงกันได้ประสบพบพักตร์เสียที

ปาริฉัตรเงยหน้ามองบุรุษร่างสูงตรงหน้านิ่งราวกับกำลัง

ประเมินคู่ปรับเก่าของเธออยู่ในใจ

แม่บอกว่าเขาหล่อ แต่เธอกลับมีคำถามผุดขึ้นมาในใจว่าเขา

หล่อตรงไหน...ริมฝีปากสีนู้ดขยับแบะดั่งใจคิด เพราะเธอไม่เห็นว่า

นายอินทร์ธราธรนี่จะหล่อเหมือนที่แม่เธอพร่ำเพ้อเลยสักนิดเดียว ก็

แค่คิ้วหนาเข้ม ตาคมสวย จมูกโด่งเป็นสัน แก้มขาวเนียน ริมฝีปากหยัก

ได้รูปสีชมพูอย่างคนสุขภาพดี ต่อด้วยกรามแกร่งช่วงคางบึกบึน บุ๋ม ตรงกลางเล็กน้อย

เขามีลำคอตั้งตรงแล้วก็แผงอกผึ่งผายรับกับช่วงไหล่ที่กว้าง

อ้อ! แล้วก็แค่ผิวขาวจั๊วะอีกอย่างก็เท่านั้นเอง...ไม่เห็นจะมีส่วนไหนเลย

สักที่ที่บ่งบอกว่าชายตรงหน้านี้รูปหล่อ!

“ลูกปลา...เหรอ” อินทร์ธราธรจ้องหน้าผู้หญิง ที่สวมเกาะอก

ราตรีสั้นซีทรูสีขาวไร้ลวดลาย เผยหน้าท้องนวลเนียนขาวผ่องเข้ากันกับ

กระเป๋าคลัตช์ที่เธอเหน็บเอาไว้ตรงซอกแขน และรองเท้าส้นสูงสีขาว

เหมือนกับชุด

เขาว่าตัวจริงเธอสวยกว่าในรูปและสวยมากกว่าในโทรทัศน์

เสียอีก มิหนำซ้ำยังเชิดหยิ่งกว่าที่ควรจะเป็นมากโขทีเดียว ดูจมูกโด่งๆ

กับตาสวยๆ ที่กำลังมองเขาราวกับสำรวจนั่นสิ มันช่างต่างจากตอน

เด็กๆ ลิบลับทีเดียว ตอนเด็กปาริฉัตรผิวคล้ำกว่าตอนนี้เยอะ แถมยัง

ตัวกะเปี๊ยก สูงไม่ถึงไหล่เขาเท่านั้น แก้มป่องๆ ของเธอมักป่องขึ้นไป

อีกยามเด็กหญิงงอนเขา และมันจะแดงก่ำเมื่อเธอโกรธ แถมยังแดง

มากไปกว่านั้นเมื่อเขาแกล้งให้เธอร้องไห้...ตอนเด็กๆ เขายอมรับว่า

ชอบแกล้งเธอมาก เพราะมันน่าตลกชะมัดเลยที่คนตัวดำแต่แก้มแดง

เพราะอารมณ์โกรธน่ะ

จะว่าไป...สงสัยเขาจะโรคจิตนิดๆ ซะละมั้ง อีกอย่างตอนนี้

คงแกล้งเธอไม่ได้แล้ว แม่ลูกเป็ดขี้เหร่ลอกคราบราวถอดรูปกลายเป็น

นางฟ้าตัวเป็นๆ ที่ขาวผ่องเป็นยองใย และดูสวยผุดผาดเสียจนใคร

ต่อใครต้องเหลียวหลัง...ไม่เว้นแม้แต่เขาเสียด้วยสิ อินทร์ธราธรต่อ

ประโยคสุดท้ายในใจขณะที่ยังจดจ้องผู้หญิงสวยตรงหน้าไม่วางตา

“เงียบเลยลูกปลา ตะลึงในความหล่อของพี่เขาเหรอจ๊ะลูก”

ปรีชญาเอ่ยแซวลูกสาวที่เอาแต่ยืนจ้องหน้าฝ่ายตรงข้ามโดยไม่พูดไม่จา

มากว่าห้านาทีแล้ว

“เปล่าหรอกค่ะ ก็งั้นๆ” ปาริฉัตรตอบแล้วยักไหล่ก่อนจะ

ยกแขนขึ้นกอดอกและหันเดินกลับมายืนข้างๆ มารดา

การเมินของเธอทำให้อินทร์ธราธรถึงกับกล้ามเนื้อตรงแก้ม

ขวากระตุก ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนไม่สนใจเขาเหมือน

เธอ ‘งั้นๆ’ เธอกล้าใช้คำนี้กับเขาได้อย่างไร

“ครับ สงสัยน้องปลาจะเป็นคนละประเภทกับพวกตาถึงเลย

คิดแบบนั้น” อินทร์ธราธรสวนกลับตามนิสัยที่ไม่เคยยอมใคร เพราะ

ถูกตามใจมาตั้งแต่เด็กๆ

บิดาของอินทร์ธราธรเสียชีวิตพร้อมกับบิดาของปาริฉัตร ซึ่ง

คุณอรอุมาก็เลี้ยงลูกมาแบบตามใจ ไม่ต่างจากเพื่อนรักอย่างปรีชญา

เลยสักนิดเดียว ทำให้ทั้งอินทร์ธราธรและปาริฉัตรมีนิสัยไม่ยอมใคร

และยกเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางเหมือนถอดแบบกันมาเป๊ะๆ

“นี่นายหมายความว่าฉันตาต่ำหรือไง” เอาละ...เธอไม่ใช่จะ

ยอมให้ใครมาว่าเอาได้เหมือนกันนะ ตอนนี้ปาริฉัตรโตเป็นสาวอายุ

ยี่สิบเจ็ดปีเต็มแล้ว ไม่ใช่เด็กที่ยีอมให้ผู้ชายคนนี้กลั่นแกล้งได้อีก ต่อไป

“ฉันพดูแบบนั้นออกไปเหรอครับ ” ชายหนุ่มเลิก คิ้วถามด้วย

อาการกวนประสาทสุดฤทธิ์

“คุณแม่คะ!” ปาริฉัตรเรียกมารดาเสียงเข้มอย่างรู้กันว่า

เมื่อใดที่เธอเรียกแม่แบบนี้ นั่นหมายความว่าความอดทนที่แสนต่ำของ

เธอกำลังจะหมด

 “ใจเย็นๆ ก่อนค่ะลูกขา” คุณปรีชญาปรี่เข้ามาแตะต้นแขน

เกลี้ยงของลูกสาวอย่างว่องไว

“ใจเย็นๆ ก่อนสิจ๊ะลูกชาย” คุณอรอุมาก็ไม่ต่างกัน

“เข้าไปในงานกันก่อนดีกว่าครับคุณแม่ ตรงนี้บรรยากาศไม่

ค่อยดีเลย” อินทร์ธราธรพูดจบปุ๊บ วงแขนแกร่งของเขาก็โอบประคอง

มารดาเดินผ่านซุ้มประตูดอกไม้เข้าในงานไป โดยจงใจทำท่าไม่ใส่ใจ

หญิงสาวสวย และนั่นก็สร้างความรู้สึกถูกเมินที่ปาริฉัตรเกลียดแสน

เกลียดขึ้นมาทันที

“ปลาจะกลับค่ะ!” เธอหันมาบอกมารดาทันทีที่คล้อยหลัง

สองแม่ลูกนั่นไป

“ไม่ได้ลูก อย่าเพิ่งกลับ เรายังไม่ได้ฟังคุณป้าอรอุมาเปิดงาน

กันเลยนะ” คุณปรีชญารีบบอกลูก เพราะโอวาทเปิดงานของเพื่อนรัก

นั่นแหละคือประเด็นสำคัญที่นางต้องการให้ลูกสาวได้มาฟังวันนี้

“คุณแม่ก็อยู่สิ ค่ะ ปลานั่งแท็กซี่กลับเองก็ได้” เธอไม่ยอม ไม่

อยากจะอยู่เห็นหน้าอีตานั่นอีกต่อไปแล้ว แม้แต่นาทีเดียวก็ไม่เอา

“รีบกลับไปทำไมล่ะลูก งานยังไม่เริ่มเลย”

“ปลาไม่ชอบขี้หน้าหมอนั่น คุณแม่ไม่เห็นเหรอคะว่าปากคอ

ของเขายังร้ายกาจไม่เปลี่ยนไปเลย ตอนเด็กเคยเป็นยังไงพอโตมาก็

ไม่ต่างเลยสักนิด! ขืนอยู่ใกล้คนอย่างนั้นสักสิบนาที ปลาคงไม่ต้องถูก

ผลักตกสระน้ำให้จมตายเหมือนในอดีตเหรอคะ” หญิงสาวหยิบยก

เรื่องเก่าฝังใจขึ้นมาพูด ด้วยอารมณ์เริ่มคุกรุ่น

“โธ่! ตอนนั้นพี่เขาไม่ได้ตั้งใจ”

“ไม่จริง ! คุณ แม่ไม่รู้อะไร หมอนั่น น่ะแกล้งปลาสารพัด สารเพ

ไม่เอาหรอกค่ะ ปลาไม่มีทางเข้าไปในงานเพื่อนั่งมองหน้าเขาให้เจ็บใจ

เล่นแน่ๆ” เธอยืนกราน

“กลัวเหรอ” เสียงทุ้ม ถามขึ้นพร้อมกับร่างสูงโปร่งที่เดินตรง

เข้ามาหาหญิงสาวที่กำลังยืนนินทาเขาอยู่อย่างออกรส

“นาย!” ตาคู่สวยจ้องเขาเขม็ง

            “อินทร์ ฉันชื่ออินทร์” เขายักคิ้วพูดต่อพร้อมกับนัยน์ตายิ้ม

ได้ที่มันกำลังจงใจเยาะเย้ยเธอ

“ฉันจะกลับ!” วินาทีนี้ปาริฉัตรอยากจะเข้าไปตะกุยหน้าที่

กำลังกวนบาทาเธออยู่ยิ่งนัก!

“ครับๆ ถ้าคุณกลัวผมนักก็กลับไปเถอะ ตอนเด็กๆ ชอบหนี

ยังไง ตอนนี้ก็ไม่เปลี่ยนแปลงเลยนะน้องลูกปลา...ร้า” อินทร์ธราธร

ต่อคำหลังด้วยความตั้งใจ

“ไอ้...ไอ้...ไอ้บ้า!” ปาริฉัตรยกมือชี้หน้าเขาด้วยความโมโห

ภาพมากมายในวัย เด็ก ที่ผู้ชายคนนี้แลบลิ้นปลิ้นตาล้อเธอว่า

ยายปลาร้า ปลาบูด ปลาเน่า ปลาตัวดำ โผล่กันมาเต็มสมอง เธอเกลียด

ขี้หน้าเขา เกลียดการกระทำของเขาที่มันเคยถูกกลบฝังไว้จนลึกสุดใน

ความทรงจำ แต่วันนี้เขากลับดึงมันขึ้นมาเสียจนแจ่มแจ้ง! บ้าจริง! เธอ

ไม่น่าเจอเขาเลย

และก็เป็นเพราะคำล้อเลียนของเขาอีกนั่นแหละที่ทำให้เธอ

ฮึดสู้ หันมาทำทุกวิถีทางเพื่อจะให้ตัวเองสวยให้ได้ โชคดีที่ทรวดทรง

องค์เอวของเธอลดลงจากตอนเด็กๆ และขยายเฉพาะสิ่งที่สมควรขยาย

เป็นสาวสะพรั่ง ผิวพรรณที่เคยคล้ำแดดผุดผาดขาวผ่องเพราะการดูแล

เอาใจใส่อย่างดี ทำให้ทุกวันนี้เธอไม่มีปมด้อยเรื่องหน้าตาดั่งที่เขาเคย

ต่อว่าอีกต่อไป หลังจากเรียนจบไม่นาน ชื่อของ ปาริฉัตร ปาละชาติ ก็

โด่งดังในฐานะนักแสดงสาวหน้าใหม่ สังกัดผู้จัดการส่วนตัวที่พ่วง

ตำแหน่งแมวมองคนดังระดับแถวหน้าของเมืองไทย เธอยินดีและภูมิใจ

ในความสำเร็จของตนเองอย่างมาก เพราะอีกนัยก็เป็นการประกาศให้

ไอ้เด็กผู้ชายที่ชอบแกล้งเธอนั้นรู้เห็นไปเลยว่า วันนี้ความสวยของเธอ

เป็นที่ยอมรับและชื่นชอบของคนค่อนประเทศเรียบร้อยแล้ว

“แหมๆ ๆ รอนานแล้วแต่บุคคลสำคัญของค่ำคืนนี้ก็ไม่ยอม

มาเสียที งั้นเดี๊ยนขอประกาศเรื่องสำคัญตรงนี้เลยดีกว่านะคะ” เสียง

แหลมๆ ดังมาก่อนตัวขัดจังหวะการเชือดเฉือนสายตาของคนทั้งคู่ให้

หยุดชะงักลง ในนาทีต่อมาร่างอวบอ้วนขาวจั๊วะของคุณอรอุมาก็ปรากฏ

ตัวขึ้นคั่นกลางหนุ่มสาวที่กำลังยืนเถียงกัน

ไมโครโฟนสายยาวเฟื้อยถูกมืออวบอูมดึงขึ้นจ่อปาก ก่อนที่

คุณอรอุมาจะเริ่มแถลงการณ์สิ่งสำคัญท่ามกลางแขกเหรื่อมากมายที่

เดินมายืนล้อมสี่แม่ลูกเอาไว้

อินทร์ธราธรมองมารดาของเขาด้วยความไม่เข้าใจ

ปาริฉัตรมองทั้งมารดาของเธอที่กำลังทำสีหน้าดีอกดีใจและ

คุณป้าอรอุมาที่ยิ้มหวานหยาดเยิ้มด้วยความงุนงงเช่นเดียวกัน

‘พวกแม่ๆ จะมาไม้ไหนกันแน่’

คำถามนี้เกิดขึ้นมาพร้อมกันในใจของทั้งอินทร์ธราธรและปาริฉัตร

“ก่อนอื่นต้องขอบคุณทุกคนก่อนนะคะที่กรุณาสละเวลาอัน

มีค่ามาร่วมงานปาร์ตี้วันเกิดของเดี๊ยน เดี๊ยนรู้สึกดีใจมากที่ได้กลับมา

อยู่แผ่นดินพ่อของเรา หรือประเทศไทยแห่งนี้อีกครั้งโดยถาวร หลัง

จากที่ต้องระหกระเหินรอนแรมสร้างเนื้อสร้างตัวอยู่ในต่างแดนเสีย

นาน จนมาถึงวันนี้...วันที่แสนดีเหมาะเจาะสมควรจะกล่าวเรื่องนี้ เพื่อ

ประกาศให้ทุกคนได้รับรู้” คุณอรอุมาทำหน้าซึ้งและกรีดน้ำตาตรง

หัวตาออก ไม่ต่างไปจากคุณปรีชญาที่กำลังน้ำตาซึม

“นี่คือ อินทร์ธราธร ธราธรทัตต์ ลูกชายเพียงคนเดียวของ

เดี๊ยน ผู้เปรียบเสมือนแก้วตาดวงใจอันล้ำค่าที่สุดในชีวิต” แขนใหญ่

ผายออกไปทางลูกชาย ก่อนจะร่อนมาหยุดตรงหน้าปาริฉัตร ดาราดัง

ที่ใครต่อใครต่างก็รู้จักกันทั่วฟ้าเมืองไทย

“และนี่คือหนูลูกปลา ที่ใครๆ ในที่นี้ก็ต้องรู้จักเธอ เธอเป็น

ลูกสาวคนเดียวของเพื่อนสนิทที่เดี๊ยนรักมาก และที่สำคัญเธอกำลังจะ

มาเป็นลูกสะใภ้ของเดี๊ยนในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้านี้ค่ะ!”

“อะไรนะคะ!/อะไรนะครับ!” สองหนุ่มสาวที่ถูกคลุมถุงชน

สดๆ ร้อนๆ มองไปยังมารดาของแต่ละฝ่ายด้วยสายตาตั้งคำถาม

สุดฤทธิ์

เธอและเขาเพิ่งจะได้เจอกันอีกครั้ง ยังไม่ทันถึงครึ่งชั่วโมง

เลยด้วยซ้ำ แต่ภายในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้านี้ก็ต้องเป็นสามีภรรยากัน

แล้วอย่างนั้นหรือ

ไม่มีทาง! ใครยอมแต่งงานกับคู่ปรับ ที่แทบจะกระโจนเข้าหา

กันตั้งแต่เพิ่งกลับมาเจอหน้าก็บ้าแล้ว!


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (95 รายการ)

www.batorastore.com © 2024