ขวัญใจเจ้าเอย (เจนิส)

ขวัญใจเจ้าเอย (เจนิส)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786167715520
มีสินค้าในสต็อค
ราคา: 229.00 บาท 57.25 บาท
ประหยัด: 171.75 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

1

ท่ามกลางบรรยากาศวุ่นวายภายในท่าอากาศยานเชียงใหม่

ที่คลาคล่ำไปด้วยผู้คน ไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวกรุ๊ปทัวร์ทั้งไทยและ

เทศ แขกเขมรจีนลาว หัวดำหัวแดง เรื่อยไปจนถึงหัวไม่มีผมทั้งหลาย

สัตวแพทย์สาวแสนสวย เจ้าของดวงหน้าเรียวรูปไข่ นัยน์ตากลมโต

เปล่งประกายหวานฉ่ำ และมีจมูกโด่งรั้นอันเป็นเอกลักษณ์ จัดการ

ลากกระเป๋าสัมภาระใบใหญ่ออกมายืนสอดส่ายสายตามองหาคนจาก

ไร่ศิธรา ฟาร์มปศุสัตว์ขนาดใหญ่กว่าพันไร่ใจกลางอ้อมกอดขุนเขา

อำเภอแม่แตง ทว่าหญิงสาวตั้งหลักชะเง้อชะแง้อยู่นานก็ไม่มีทีท่าว่าจะ

มีใครโผล่มารับสักที

“คอยมาเกือบสามชั่วโมง ใจคอจะให้ฉันรอจนแก่ตายแล้ว

ค่อยมารับศพทีเดียวรึไง ให้ตายเถอะ คอยดูนะ ถ้านับหนึ่งถึงสิบเมื่อไร

แล้วยังไม่มีใครมาอีกละก็ ฉันจะแช่งให้ท้องร่วง แล้วยังหาห้องน้ำเข้า

ไม่เจออีกต่างหาก คอยดู!” หญิงสาวบ่นพึมพำทั้งแช่งชักหักกระดูกจบ

จึงทรุดตัวนั่งลงบนกองสัมภาระ สภาพเธอตอนนี้ดูไม่ต่างอะไรจาก

อุรังอุตังสาวที่กำลังคอยเจ้าของมารับอยู่ในด่านกักกันสัตว์ไม่มีผิด

“โธ่เอ๊ย เงินเดือนสูง สวัสดิการดี ฟรีบ้านพัก บรรยากาศ

สวยงาม พูดมาได้ แน่จริงทำไมไม่โฆษณาให้รู้กันไปเลยล่ะว่าฝ่ายบุคคล

ของไร่นี้น่ะพูดจาไม่รู้เรื่อง นัดไม่เป็นนัด แถมเสียมารยาทถึงขนาดมา

รับตัวสัตวแพทย์กิตติมศักดิ์อย่างฉันช้าไปร่วมสามชั่วโมง คิดแล้ว

หงุดหงิด ทำไมเมื่อเช้าออกจากบ้านถึงไม่ถือไฟแช็กกับน้ำมันเบนซิน

ติดมือมาด้วยนะ ถ้าไปเจอไอ้ไร่บ้านั่นเมื่อไร จะได้เผาให้วอดวายไป

ซะเลย”

เสียงบ่นกระปอดกระแปดของหญิงสาวดังพอจะทำให้ใคร

หลายคนที่เดินผ่านไปผ่านมามองเธอด้วยสายตาแปลกๆ แต่แปลก

ที่สุดเห็นจะเป็นชายหนุ่มเจ้าของร่างสูงสง่า ใบหน้าหล่อเหลาที่กำลัง

 

 

 

 

ยืนกอดอกแล้วใช้ดวงตาคมกริบราวกับใบมีดของเขาจ้องมายังเธอจาก

ทางด้านหลัง

“ถ้าไร่ที่เธอพูดถึงคือไร่ศิธรา และถ้ามือถือเธอติดต่อได้ละก็

ฉันเชื่อว่าคงไม่มีใครต้องลำบากหิ้วแกลลอนน้ำมันจากกรุงเทพฯ มา

วางเพลิงถึงที่เชียงใหม่นี่หรอก” เจ้าของน้ำเสียงห้าวห้วนทว่าน่าฟัง

เปรยขึ้น แม้คนพูดจะมีสีหน้าไม่สบอารมณ์นัก แต่สายตาเขาก็ไม่ได้

กร้าวกระด้างอย่างที่ควรจะเป็น ตรงกันข้ามนัยน์ตาคมคู่นั้นกลับฉาย

แววประหลาด เมื่อได้เห็นใบหน้าสวยหมดจดของสัตวแพทย์สาว

คนใหม่

แต่ครั้นเขมขวัญได้ยินเข้า ด้วยความฉุนเฉียวที่สะสมมา

ร่วมสามชั่วโมง และทั้งเหนื่อยทั้งหิวทำให้เธอหันขวับมาถามเขาอย่าง

เอาเรื่องทันที

“พูดอย่างนี้นายคงเป็นคนที่ทางไร่ส่งมารับฉันสินะ ถึงมือถือ

ฉันจะติดต่อไม่ได้ แต่ในเมื่อนัดเวลากันแล้ว ต่างฝ่ายต่างต้องพยายาม

มาให้ตรงเวลาสิ ไม่อย่างนั้นจะต้องนัดแนะกันทำไม”

โพล่งออกมาโดยไม่สนว่าตนจะเป็นฝ่ายสะเพร่าเองหรือไม่

หญิงสาวก็เงยหน้าขึ้นจ้องตากับเขาอย่างคนอวดดี แต่ทว่าลมหายใจก็

ต้องติดขัด

ดวงตากลมโตใสแป๋วของเขมขวัญมีแววหวั่นไหววูบหนึ่ง เมื่อ

สายตาปะทะเข้ากับใบหน้าหล่อเหลาคร้ามคมอย่างร้ายกาจของอีกฝ่าย

หัวใจดวงน้อยเกิดอาการกระตุก เพราะไม่ทันตั้งหลักว่าชายที่มารับจะ

หน้าตาหล่อเหลายิ่งกว่าพระเอกหนังได้ถึงขนาดนี้ ยิ่งเมื่อเห็นลักษณะ

การแต่งตัวที่ดูภูมิฐาน เสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินราคาแพงระยับเข้ากับยีนส์สีเข้ม

ทำให้ผิวขาวจัดของคนตรงข้ามน่ามองมากขึ้นไปอีก ยิ่งทำให้เขมขวัญ

พูดไม่ออก...ทว่าไม่นานเธอก็พยายามรักษาอาการให้ดูเป็นปกติ

‘เชอะ หน้าหล่อๆ แต่งตัวดีๆ อย่างนี้อาจเป็นพวกพนักงาน

ออฟฟิศทำงานในสำนักงานของไร่ก็ได้

หญิงสาวยิ้มเยาะ แม้จะเห็นอยู่ตำตาว่าคนตรงหน้าราศีดีกว่า

 

 

 

ที่เธอคิดไว้มาก

“ที่พูดมาก็ถูก แต่เธอไม่คิดเผื่อไว้บ้างเหรอว่ามันอาจมีเรื่อง

ไม่คาดฝันเกิดขึ้น อย่างกรณีนี้มันสุดวิสัยจริงๆ รถทุกคันถึงกำหนด

ส่งเข้าเช็กสภาพที่ศูนย์กันหมด พนักงานที่ทราบเรื่องก็ไม่ได้ทำบันทึก

รายงานล่วงหน้าเอาไว้ ดังนั้นกว่าผู้จัดการไร่จะรู้ เครื่องเธอก็ลงจอด

ไปได้พักหนึ่งแล้ว โชคดีที่ฉันเข้ามาทำธุระแถวนี้พอดี”

ศิวภพพยายามจะอธิบาย แต่เมื่อเห็นยายตาแป๋วไม่เลิกทำ

ตาเขียวใส่เขาเสียทีราวกับเขาเป็นคนร้ายคดีอุกฉกรรจ์ ชายหนุ่มก็อด

แขวะต่อไม่ได้

“ซึ่งถ้าเราติดต่อกันได้เร็วกว่านี้ ป่านนี้เธออาจจะไปเดินเล่น

ช็อปปิ้งรอในห้างสบายอารมณ์ไปนานแล้ว ไม่ต้องมายืน เถียงกับฉันว่า

ใครผิดให้อายคนอื่นอยู่ตรงนี้หรอก”

“งั้นก็กลายเป็นว่าคนที่แบตมือถือหมดอย่างฉัน ซ้ำยังต้อง

นั่งรอจนรากงอกนานเกือบสามชั่วโมง ต้องยอมรับความซวยไปอย่าง

ไม่มีข้อโต้แย้งงั้นสิ ใช่ไหม” หญิงสาวเท้าสะเอวถาม สีหน้าบอกชัดว่า

ไม่ยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นง่ายๆ เธอก้าวมายืนประจันหน้ากับเขา ดวงตา

สีน้ำตาลสบกันนิ่งกับนัยน์ตาสีสนิมพร้อมด้วยไฟโทสะที่คุโชน

มาถึงจุดนี้ศิวภพเองก็บอกไม่ถูก ทั้งที่เขาพกความหงุดหงิด

มาเต็มพิกัดไม่แพ้กันกับเธอ แต่เหตุใดพอได้เห็นอีกฝ่ายใกล้ๆ แทนที่

จะโกรธ เขากลับยิ่งรู้สึกเอ็นดู จะว่าไปทั้งรูปร่างหน้าตารวมทั้งฐานะที่

ไม่ธรรมดาของเขา ทำให้พบเจอผู้หญิงสวยๆ มามากต่อมาก แต่ไม่เคย

มีใครทำให้เขารู้สึกสะดุดใจได้เท่ากับยายแสบตาแป๋วรายนี้ หรืออาจ

เป็นเพราะความร้ายเดียงสาจากนัยน์ตาคู่นั้นได้ร่ายมนตร์สะกดใจเขา

ให้ถูกชะตาเธอตั้งแต่แรกเห็น!

ในขณะที่ทั้งสองยังจ้องตากันไม่ยอมหลบ เจ้าของร่างสูงก็

ไหวไหล่ “มันก็ช่วยไม่ได้ ถ้าเธอจะคิดอย่างนั้น” และเขมขวัญก็มี

ปฏิกิริยากับคำตอบนั้นทันที

“ฉันต้องการคำขอโทษ ไม่ใช่การปัดความรับผิดชอบแบบนี้”

 

 

 

หญิงสาวยืนกราน ตั้งท่าจะผลักอกเขาตามสัญชาตญาณของ

สาวเลือดร้อน ติดที่ศิวภพใช้สายตาคมดุปรามเธอเสียก่อน

“ไม่คุ้มกันหรอก ถ้าเธอคิดจะทำร้ายฉัน...ส่วนเรื่องขอโทษ

ในเมื่อต่างคนต่างผิด ฉันว่าเราก็น่าจะหายกัน” ชายหนุ่มบอกด้วย

น้ำเสียงปนรำคาญ แต่เขมขวัญยิ่งฉุนหนักขึ้นไปอีก

“ไม่มีทาง เราไม่มีทางหายกัน เพราะนายไม่ได้มานั่งรอนาน

เกือบสามชั่วโมงเหมือนอย่างฉันนี่ อีกอย่างฉันใช้โทรศัพท์สาธารณะ

โทร.ไปถามที่ไร่แล้ว เขาบอกว่าถึงรถทุกคันจะส่งเข้าศูนย์ แต่ก็ส่งคน

มารับฉันหลังจากที่เครื่องลงได้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง แล้วอย่างนี้ใครกันที่

ต้องเป็นฝ่ายยอมรับผิดกันแน่”

“นี่ฟังนะยายตาแป๋ว ที่ไร่ขอให้ฉันมารับเธอก็จริง แต่อย่าลืม

ว่าฉันเองก็มีธุระเหมือนกัน และฉันมีความจำเป็นต้องรีบจัดการให้เสร็จ

ก่อนมารับเธอ สุดท้ายมันก็เหมือนกับที่บอกไปแต่แรกนั่นแหละ หาก

มือถือเธอติดต่อได้ เธอจะได้หาอะไรทำฆ่าเวลาไม่ต้องมาหงุดหงิดใส่

ฉันแบบนี้” ศิวภพเองก็เริ่มเหลืออด เขารู้ว่าเขมขวัญรอจนเหนื่อย แต่

เขาก็เร่งทำธุระจนเสร็จเพื่อรีบมารับเธอเหมือนกัน

“ไม่ๆๆ ฉันไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ธุระส่วนตัวจะมาสำคัญกว่า

ธุระของไร่ได้ยังไง ท่าทางนายจะมีปัญหาทางการสื่อสารนะฉันว่า เป็น

แรงงานต่างด้าวรึไง ถึงได้ฟังภาษาไทยไม่รู้เรื่อง แถมยังเถียงเก่งเป็น

ที่หนึ่งอีกต่างหาก ไม่รู้ละ ยังไงคนนัดไม่เป็นนัดก็ต้องเป็นฝ่ายผิด ฉัน

รู้เท่านี้” เขมขวัญตีรวน คราวนี้ศิวภพจึงตกอยู่ในอาการปวดขมับเข้า

จริงๆ

“ถ้าฉันเป็นคนงานต่างด้าวจริงๆ คนที่พูดแล้วชวนให้รู้สึก

ปวดหัวเป็นที่สุดอย่างเธอคงไม่พ้นเป็นมนุษย์ต่างดาวแน่ๆ เข้าใจคำว่า

เหตุสุดวิสัยไหม มันก็เหมือนกับไอ้การที่อยู่ดีๆ แบตมือถือเธอหมด

นั่นแหละ จะต้องโวยวายหาคนผิดไปทำไม”

ถ้าทำได้ศิวภพอยากจับผู้หญิงตรงหน้ามาหวดก้นสักทีสองที

ผู้หญิงดื้อรั้น หัวแข็ง แถมยังเถียงคอเป็นเอ็นขนาดนี้ น่าจับมาหวด

 

 

 

เสียให้เข็ด

“เลิกพูดเรื่องแบตได้แล้ว มันไม่ได้เกี่ยวอะไรสักหน่อย”

เขมขวัญอ้อมแอ้มปัดความผิด ก่อนจะข่มขู่

“ยังไงก็ตามคนที่ต้องเสียเวลารอนานๆ อย่างฉันต้องได้รับ

การชดใช้ เอาไว้ไปถึงไร่และฉันมีโอกาสพบคนมีอำนาจจัดการเรื่องนี้

เมื่อไร เราได้เห็นดีกันแน่” หญิงสาวชี้หน้าหล่อๆ อย่างคาดโทษ

แต่คนฟังที่กำลังยืนกอดอกใช้สายตาคมมองเธออย่างรำคาญ

กลับไม่รู้สึกสะทกสะท้านเลยสักนิด ศิวภพเพียงแค่พ่นลมหายใจ เมื่อ

เห็นว่าการปะทะคารมครั้งนี้มีแววจะสิ้นสุดลงเสียที

“เอาเถอะ เจอคนคนนั้นเมื่อไร บอกให้มาจัดการฉันได้เลย

แต่ก่อนจะถึงตอนนั้น ถ้าไม่อยากไปรายงานตัวสายก็รีบตามมา พล่าม

จนทำฉันเสียเวลามานานแล้ว” ชายหนุ่มรีบปิดเกมอย่างรวดเร็วโดย

ถือวิสาสะเข็นกระเป๋าเขมขวัญไปขึ้นรถ เป็นการบังคับให้อีกฝ่ายต้อง

รีบจ้ำตามโดยอัตโนมัติ และเธอก็เดินตามมาพร้อมกับอาการเข่นเขี้ยว

“ทำปากดีไปเถอะ ฉันถึงศิธราเมื่อไร รับรองนายได้หางาน

ใหม่ทำแน่” ขณะที่ปากบ่น ขาก็ก้าวตาม ระหว่างทางหญิงสาวพยายาม

สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ หวังให้ความหงุดหงิดในใจได้คลายลงบ้าง

แต่ก็เปล่าประโยชน์ เพราะเมื่อเธอนั่งลงบนเบาะข้างคนขับได้ ความ

โกรธก็เดือดขึ้นอีกครั้ง

“ถามจริงเถอะที่หอบมาน่ะมันกระเป๋าธรรมดาหรือตู้เสื้อผ้า

เคลื่อนที่กันแน่ ขนมาทำไมตั้งเยอะ หนักอย่างกับจะขนไปเดินแบบ อยู่

ที่ไร่ใส่แบบเดิมๆ ซ้ำไปซ้ำมาก็ได้ ไม่ต้องคิดจะใส่ไปล่อเสือล่อตะเข้

ที่ไหนหรอก คนงานที่นั่นมีเมียหมดแล้วทุกคน”

เพราะความที่ต้องยกของหนักขึ้นรถจนเหนื่อย คนที่ทั้งชีวิต

ไม่เคยต้องบริการใครมาก่อนเลยอดบ่นไม่ได้ เขมขวัญจึงหันไปจ้องตา

คู่ปรับอย่างจะกินเลือดกินเนื้ออีกครั้ง รู้สึกทั้งโกรธทั้งอายที่อีกฝ่ายดูถูก

เอา

“ฉันว่านายถามแมวๆ แบบนี้เหมือนอยากได้อะไรที่มากกว่า

 

 

 

คำตอบนะอีตาผู้ชายเฮงซวย มารับช้าแถมไม่ยอมรับผิดยังไม่พอ ยังจะ

มาพูดจากวนโมโหกันอีก ในเมื่อพูดกันดีๆ ไม่รู้เรื่อง ก็เอากำปั้นไปกิน

เลยไป๊” ไม่ต้องรอให้จบประโยคด้วยซ้ำ กำปั้นเล็กๆ ของสัตวแพทย์สาว

ก็เสยเข้าที่ปลายคางศิวภพเต็มเปา

พลั่ก!

“เฮ้ย เจ็บนะยายตัวแสบ กล้าดียังไงมาต่อยฉัน” คนที่โดน

โจมตีหันมามองเขมขวัญอย่างคาดไม่ถึง มือข้างหนึ่งยกขึ้นลูบปลายคาง

โดยอัตโนมัติ แม้จะไม่เจ็บมาก แต่ถ้าวัดกันถึงเรื่องศักดิ์ศรีแล้ว คนที่

ถูกขนานนามให้เป็นพ่อเลี้ยงอย่างเขา อยู่ดีๆ ถูกผู้หญิงต่อยถือว่าหยาม

กันเกินไป

“ก็นายนั่นละ กล้าดียังไงมาว่าฉันเสียๆ หายๆ ผู้หญิงดีๆ

ที่ไหนจะขนเสื้อผ้ามาใส่อ่อยคนงาน พูดไม่รู้จักคิดโดนแบบนี้ละถึงจะ

สาสม” เจ้าของจมูกโด่งรั้นเชิดหน้าขึ้นอย่างไม่กลัวเกรง แววตาติดจะ

พออกพอใจเสียด้วยซ้ำที่สั่งสอนเขาได้

ศิวภพเห็นอีกฝ่ายยังทำเก่ง แม้จะรู้อยู่บ้างว่าตัวเองปากไม่ดี

แต่เพราะไม่เคยมีใครกล้า ‘หือ’ จึงทำให้เขายิ่งรับไม่ได้กับการที่ถูก

เด็กเมื่อวานซืนลูบคม

“ไม่พอใจไม่เห็นต้องใช้กำลังเลยนี่ แต่ก็จริงอย่างเธอพูด

ในเมื่อเราคุยกันดีๆ ไม่ได้ ก็เถียงกันด้วยภาษากายแล้วกัน”

เลื่อนมือออกจากปลายคางตัวเองได้ ริมฝีปากได้รูปก็ฉกวูบ

ลงมาบดเบียดกลีบปากสีกุหลาบของเขมขวัญด้วยความดุดันทันที เรียว

ลิ้นอุ่นร้อนสอดแทรกค้นหาความหวานไปทั่ว แม้เป็นการลงทัณฑ์ที่

หนักหน่วงแต่ก็แฝงความหวามหวานอยู่ในที ยิ่งเจ้าของร่างบอบบาง

พยายามขัดขืนด้วยท่าทางที่ไม่ประสา ยิ่งเร่งเร้าให้คนบ้าอำนาจอยาก

กำราบให้หนำใจ

“ปล่อยฉันนะ คนบ้า คนเลว” เสียงต่อต้านดังขึ้นแผ่วเบาแล้ว

ขาดห้วง เพราะศิวภพกดปลายจมูกโด่งเป็นสันของเขาเข้ากับซอกคอ

หอมกรุ่นแล้วลากไล้ ความหวานละมุนแสนบริสุทธิ์ของเขมขวัญเป็น

 

 

 

เชื้อไฟอย่างดีที่ช่วยแปรเปลี่ยนความโกรธของเขาให้ค่อยๆ กลายเป็น

ความปรารถนาที่คุโชนขึ้นจากภายใน

“หวานชะมัด ไม่น่าเชื่อว่าผู้หญิงปากจัดขี้โวยวายจะจูบแล้ว

ชื่นใจขนาดนี้” คนพูดยิ้มกริ่มเมื่อเงยหน้าขึ้นมองคนอวดดีที่กำลัง

สิ้นฤทธิ์ อาการหมดเรี่ยวแรงกะทันหันเพราะสัมผัสที่ไม่คุ้นเคยทำให้

เขมขวัญต้องเอนศีรษะพิงกับพนัก แล้วหลับตาพริ้มพร้อมลมหายใจ

อ่อนระทวย

ศิวภพย่ามใจจึงไล้ริมฝีปากขบเม้มเรียวปากสีกุหลาบของเธอ

อีก ยิ่งจูบเสียงลมหายใจเขายิ่งหอบกระเส่า ความหอมจากเรือนกาย

เขมขวัญเปรียบได้กับกลิ่นหอมจากดอกไม้ที่กำลังคลี่กลีบแย้มบาน

ต้อนรับแสงแรกแห่งอรุณ และก่อนที่ศิวภพจะคุมตัวเองไม่อยู่ เขมขวัญ

ก็รวบรวมเรี่ยวแรงเฮือกสุดท้ายผลักอกเขาออกห่างอย่างสุดแรง

เธอลุกขึ้นได้ก็ถลึงตาใส่ชายหนุ่ม พร้อมกับเงื้อฝ่ามือทำท่า

ว่าจะฟาดลงมาอีก แต่เจ้าของนัยน์ตาสีสนิมเปี่ยมเสน่ห์กลับปรามเธอ

ด้วยสายตาคม

“ถ้าอยากให้ฉันจูบอีกก็ตบเลย หวานไปทั้งเนื้อทั้งตัวแบบนี้

มันก็คุ้มอยู่หรอกที่จะแลก” ศิวภพมองดวงหน้าสวยหวานอีกครั้งด้วย

แววเจ้าชู้กรุ้มกริ่ม มีผลให้คนถูกมองอยากยกมือขึ้นข่วนหน้าหล่อๆ

ของเขาให้สมแค้น แต่ติดที่คำขู่นั้นทำให้เธอไม่กล้าลงมือทำอะไร และ

ครั้นตอบโต้ไม่ได้ คนที่ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบก็ฟาดงวงฟาดงา

“ไอ้คนชอบฉวยโอกาส ถอยไปให้ห่างฉันเลยนะ ไม่งั้นเจอ

เครื่องช็อร์ตไฟฟ้าจริงๆ ด้วย หลีกไป ฉันจะลง! ไม่ปงไม่ไปมันแล้ว

ไร่ศิธราบ้าบออะไรเนี่ย” มือบางเลื่อนไปที่ประตู ตั้งใจจะเปิดออกไป

ข้างนอก แต่ศิวภพรั้งต้นแขนไว้ได้เสียก่อน พร้อมกับสตาร์ตเครื่องยนต์

“จะไปง่ายๆ ได้ยังไง ลืมแล้วเหรอว่าเธอยังติดสัญญาจ้างงาน

กับทางไร่อยู่ ไม่ทำตามสัญญาก็เตรียมตัวจ่ายค่าปรับได้เลย แต่ถ้ายัง

ดึงดันจะกลับอีกละก็ ฉันไม่แปลกใจหรอก เพราะรู้ดีอยู่แล้วว่าผู้หญิง

ปากเก่งแถมยังอวดดีแบบเธอ ที่สุดแล้วก็เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อกันทุกคน...

 

 

 

อ้อ แล้วไอ้เครื่องช็อร์ตอะไรนั่น เธอไม่จำเป็นต้องใช้มันหรอก เพราะ

ถ้าเธอไม่ทำร้ายฉันก่อน ฉันก็ไม่คิดที่จะแตะต้องตัวเธอ”

ชายหนุ่มพยายามควบคุมสถานการณ์ ตอนนี้เริ่มรู้แล้วว่า

ความบาดหมางระหว่างเขากับเขมขวัญชักเตลิดไปไกล

“ฉันไม่ใช่คนเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ แต่นายต่างหากที่เป็นคนบีบ

ให้ฉันต้องล้มเลิกความตั้งใจ นายกล้าดียังไงมา เอ่อ...มาจูบฉัน!”

เขมขวัญโพล่งขึ้นด้วยความอาย แต่ก็พยายามกัดฟันพูดต่อ

“นายกล้าทำถึงขนาดนี้ นายจะต้องชดใช้”

ถ้าทำได้เขมขวัญอยากเอากระเป๋าสะพายที่ถืออยู่ในมือทุ่ม

ใส่เขานับครั้งไม่ถ้วนเพื่อสยบแค้น แต่พอรถค่อยๆ เลี้ยวเข้าสู่ทางออก

หญิงสาวก็ถูกเบี่ยงเบนความตั้งใจ

“ก็บอกแล้วไง ฉันไม่ได้อยากจะล่วงเกินเธอนักหรอก ถ้า

เธอไม่ทำร้ายฉันก่อน เอาเป็นว่าถ้าอยากพิสูจน์คำพูดตัวเองพร้อมกับ

ล้างอาย เธอก็ต้องทนนั่งรถกลับไปกับฉัน จากนั้นค่อยไปฟ้องเอาผิด

กับเจ้าของไร่ อ้อ แล้วก็ไม่ต้องกลัวว่าฉันจะล่วงเกินเธออีกหรอกนะ

เว้นแต่เธออยากให้ฉันจูบอีก” คนเจ้าเล่ห์เสนอทางเลือก

“เฮอะ ให้นายจูบเนี่ยนะ ฉันว่าให้หมาเลียปากยังไม่เสียความ

รู้สึกมากเท่านี้เลย...แต่ก็เข้าท่าดีที่นายเสนอมา ไปถึงไร่แล้วฉันเองก็

อยากจะเห็นตอนที่คนผิดได้รับโทษอย่างสาสมเหมือนกัน”

เขมขวัญเชิดหน้าขึ้นแล้วมองเมินออกไปนอกหน้าต่าง

พยายามแสดงออกให้อีกฝ่ายรู้ว่าเธอไม่ได้กลัวเขา ทว่าลึกลงไปหัวใจ

กลับเต้นไม่เป็นส่ำ

ศิวภพลอบยิ้มเมื่อเห็นสัตวแพทย์สาวเย็นลงแล้ว แม้เขาจะ

เพิ่งพบเขมขวัญเป็นครั้งแรก แต่ชายหนุ่มก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ายายเด็กแสบ

คนนี้มีแรงดึงดูดต่อหัวใจเขาอย่างประหลาด การได้จูบเธอเมื่อครู่ ถึง

จะรู้ตัวว่าตนเองเป็นฝ่ายผิดที่ทำเกินกว่าเหตุ แต่เขากลับไม่นึกเสียใจ

เลยที่ได้ตัดสินใจทำลงไป ซึ่งพอกันกับการดึงดันรั้งเธอไว้ไม่ยอมปล่อย

หลุดมือ

 

 

 

 “เสียความรู้สึกน่ะดีแล้ว แต่ถ้าเสียดายที่จะไม่ได้จูบอีกเพราะ

เกิดติดใจขึ้นมาละก็ มันจะยุ่ง” ชายหนุ่มบ่นพึมพำพร้อมกับยั่วยิ้ม

เป็นเหตุให้เขมขวัญต้องรีบควานหาเครื่องมือป้องกันตัวในกระเป๋ามา

ถือไว้ทันที

“ถ้านายคิดตุกติกขึ้นมาอีก ฉันเตือนไว้ก่อนนะว่าคราวนี้จะ

ไม่ใช่แค่เจ็บ แต่ถึงตายเลยทีเดียว” คนถือไพ่เหนือกว่ามองคนข้างๆ

อย่างไม่ค่อยจะไว้ใจนัก แต่เธอก็พยายามข่มอารมณ์

‘เอาน่าเขม ใจสู้หน่อย อย่าให้คนบ้าแค่คนเดียวมาทำให้

การทำงานครั้งแรกในชีวิตเราต้องล้มพังไม่เป็นท่าเลย จากตัวเมือง

เชียงใหม่ไปแม่แตงแค่ชั่วโมงเดียว เกิดผิดพลาดอะไรขึ้นมาก็จี้ด้วย

เครื่องช็อร์ตไฟฟ้าให้ชักแหง็กๆ ตายไปซะเลย แต่ถ้ารอดมาได้ กลับไป

เขาจะต้องถูกไล่ออกจากงานอยู่ดี

หญิงสาวคิดปลอบใจตัวเองแล้วก็ค่อยใจชื้นขึ้น จนสามารถ

ทำใจนั่งรถไปพร้อมกับศิวภพได้จนตลอดทาง


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (95 รายการ)

www.batorastore.com © 2024