หนี้ร้ายพ่ายรัก (รัตน์มณี)

เธอคือคุณหนูอลิส อลิศรา เพตราสกุล คุณหนูเอาแต่ใจที่

ใครๆ ต่างไม่ชอบหน้าเพราะเธอแรง ไม่มีใครสักคนที่ต้องการเป็นเพื่อน

กับเธอ เธออยู่กับบิดาที่ไม่ใส่ใจเธอเพราะกำลังเห่อแม่เลี้ยงคนใหม่ที่

มีลูกติด ลูกสาวนอกไส้ที่ใครๆ ก็หลงรักในความอ่อนหวาน น่ารัก แสนดี

ซึ่งต่างกับเธอลิบลับ พ่อรักลูกสาวนอกไส้อย่างมินตรา มายะเมษ ที่รับ

มาเป็นบุตรสาวบุญธรรม และแม่เลี้ยงที่เธอไม่เคยนับถืออย่างปลินดา

มายะเมษ สองคนนี้ที่ต่อหน้าดีสารพัด แต่ลับหลังก็ร้ายกับเธอสารพัด

เหมือนกัน แต่มีหรือที่คนอย่างคุณหนูอลิสจะยอม

“อุ๊ย! หนูอลิสจ๊ะ เช้านี้แม่เตรียมของโปรดให้หนูเต็มเลย เนี่ย

มินตราทำมาให้หลายอย่าง” ปลินดาพูดเสียงอ่อนเสียงหวานจนทำให้

เธอรู้สึกหมั่นไส้

“เก็บอาหารขยะของเธอไป ฉันไม่มีวันกิน” อลิศราตอบเสียงห้วน

หากบิดาของเธอก็อยู่ตรงนั้นเลยพูดออกมาอย่างอดไม่ไหว

“ทำไมแกพูดอย่างนี้ นี่ปลินดากับหนูมินอุตส่าห์เตรียมไว้ให้”

ได้ยินประโยคนั้น ความน้อยใจก็แล่นขึ้นมาจุกอก ทีกับแม่เลี้ยง

พูดดี และกับมินตรามีหนูทุกคำ แต่ทีเธอล่ะ ไม่มีสักครั้งที่บิดาจะเคย

พูดดี เธอได้แต่สกัดกั้นน้ำตาแห่งความเสียใจไว้ ใช่สิ เธอก็เป็นแค่ลูกที่

พ่อไม่ต้องการ

“เอ่อ...คุณท่านคะ อย่าไปว่าคุณอลิสเลย พวกเราผิดเองที่ทำให้

คุณอลิสลำบากใจ” เสียงมินตราพูดอ่อนโยนแต่สีหน้าแสดงความสะใจ

ชัดๆ จนเธอแทบอยากเข้าไปกระชากหัว

“มินตรา พ่อบอกแล้วว่าอย่าเรียกคุณท่าน ให้เรียกว่าพ่อ”

มินตรากราบที่อกบิดาของเธออย่างจงใจให้เห็น เพียงเท่านั้น

อลิศราก็เดินออกจากบ้าน และขับรถออกไปด้วยความเร็ว และมันก็

ทำให้สองแม่ลูกพอใจที่ทุกอย่างลงตัว

ภาพเหตุการณ์ในอดีตวนซ้ำเข้ามาในหัวของอลิศรา ตอนนั้น

 

 

 

 

 

 

 

 

 

เธอยังมีบิดาและมารดาพร้อมหน้าอย่างมีความสุข

“พ่อขา อลิสรักพ่อกับแม่มากที่สุด” อลิศราที่ตอนนั้นมีความสุข

กับการร่วมโต๊ะอาหารและการทำกิจกรรมของครอบครัว

“พ่อกับแม่ก็รักอลิสนะลูก” ราเมศว์ เพตราสกุลบอกกับลูกสาว

แล้วลูบหัวไปมา

“แม่ว่าอลิสโตเป็นสาวแล้ว อีกหน่อยก็ไม่พูดอย่างนี้หรอกจ้ะ

ใช่ไหมคะคุณ”

ราเมศว์กับสสิลินภรรยาคนสวยหยอกเย้าลูกสาวจนหญิงสาว

ต้องเข้ามาอ้อนว่าไม่จริง ภาพครอบครัวที่มีแต่ความสุขหายไปเมื่อแม่

ของเธอประสบอุบัติเหตุทางเครื่องบิน จากนั้นไม่นาน ความโศกเศร้ายัง

ไม่ทันจาง พ่อของเธอก็พาเมียคนใหม่และลูกติดเข้ามาทำความรู้จักกับ

เธอ นั่นเป็นสิ่งที่เธอรับไม่ได้ ซ้ำร้ายพ่อของเธอยังหลงเมียใหม่อย่าง

ปลินดาที่ตอนนี้มีหน้ามีตาอยู่ในวงสังคมไฮโซอย่างไม่ลืมหูลืมตา พร้อม

โชว์ตัวลูกสาวที่แสนสวย อ่อนหวาน อย่างออกหน้าออกตา และไม่เพียง

แค่นั้น ปลินดาและมินตรายังเคยบอกเธอลับหลังบิดาว่า

“คอยดู ฉันจะเฉดหัวแกให้ออกจากบ้านนี้ ที่นี่เป็นที่ของฉัน

และลูกของฉัน ส่วนพ่อของแกเขาก็หลงฉันมากๆ ระวังตัวให้ดี ฉันจะ

ทำให้พ่อแกเกลียดแก”

แล้วภาพทั้งหมดก็หายไป เธอขับรถมาเรื่อยๆ มายังสถานที่หนึ่ง

ที่เธอมาร้องไห้อยู่บ่อยๆ

“แม่คะ อลิสอยากอยู่กับแม่นะคะ อลิสรู้ว่าแม่ไม่อยากให้อลิส

พูดแบบนี้ แต่วันนี้อลิสเหนื่อยจริงๆ แม่คะ อลิสไม่อยากร้องไห้ อลิสไม่

อยากเสียใจ ไม่มีใครรักอลิสสักคน แต่แม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ อลิส

สัญญาว่าอลิสจะไม่อ่อนแอให้ใครเห็น อลิสรักแม่ค่ะ” อลิศรายิ้มอ่อนหวาน

เป็นอลิสที่ไม่มีคราบคุณหนูขี้วีนเลย สายตาไร้เดียงสา ซึ่งเธอจะทำแบบนี้

ให้กับคนที่เรียกว่าแม่เท่านั้น

“แม่คะ อลิสรู้ว่าแม่ชอบฟังอลิสสีไวโอลิน วันนี้อลิสจะสีให้แม่

ฟังนะคะ” อลิศราเอาไวโอลินออกมาสีด้วยความไพเราะ ไวโอลินราคาแพง

 

 

 

 

 

 

 

อย่างดีที่สั่งทำขึ้นเอง ของขวัญที่พ่อกับแม่ของเธอซื้อให้ในวันครบรอบวันเกิด

อลิศราเล่นเพลงจบก็กล่าวกับแม่เบาๆ ก่อนเดินออกไปจากที่นี่

“แม่คะ อลิสไปก่อนนะคะ แล้วจะมาเยี่ยมใหม่” อลิศราวาง

ดอกไม้ไว้ข้างหลุมศพมารดา ก่อนจะเดินกลับไปที่รถและขับออกมา

ด้วยความเร็วสูง เธอกลับบ้านมาก็ราวๆ เที่ยงคืนจนพ่อของเธอเป็นห่วง

แต่ก็ไม่แสดงให้เห็น แต่นั่นมันทำให้แม่เลี้ยงอย่างปลินดาหาโอกาส

เป่าหูใส่ร้ายอลิศราได้อีกครั้ง

“คุณราเมศว์คะ ดาว่าไปนอนก่อนเถอะค่ะ ป่านนี้หนูอลิสคง

ไปอยู่ที่ผับหรือไม่ก็บ้านเพื่อนของเขาแหละค่ะ เดี๋ยวดารอเอง”

“ไม่ไหวเลยจริงๆ ยัยอลิส มันเคยรู้ไหมว่าทำให้ผมเป็นห่วง”

ปลินดาทำหน้าเยาะเย้ยลับหลังสามีของเธอก่อนจะพาไป

ห้องนอน

“ดาว่า ป่านนี้หนูอลิสคงยังไม่กลับ เดี๋ยวดาจะให้มินตรายก

อะไรร้อนๆ มาให้คุณดื่มก่อนนอนนะคะ” ปลินดาและมินตรามีแผนร้าย

ในใจ มินตราเอาน้ำชาร้อนมาชงแล้วยกไปให้พ่อเลี้ยงคนใหม่ของเธอก่อน

พึมพำออกมาเบาๆ

“นังคุณหนูอลิส ฉันจะไม่มีวันยกพ่อราเมศว์ให้แกหรอก เพราะ

พ่อต้องรักฉันคนเดียว” มินตราแสยะยิ้มก่อนจะเอาน้ำชาไปให้คุณพ่อ

คนใหม่ของเธอ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ไรวินด์ อดิศราวัฒน์ ชายหนุ่มรูปงาม ร่ำรวย เจ้าของธุรกิจ

ในเครือไรวินด์กรุ๊ปซึ่งมีครอบคลุมไปทั้งประเทศ เป็นชายหนุ่มที่สาวๆ

เห็นแล้วอยากเป็นนายหญิงด้วยกันทั้งนั้น แต่ชายหนุ่มรูปหล่อคนนี้ยัง

ไม่สนใจใครเท่าไร มีเพียงเล็งๆ มินตรา ลูกเลี้ยงของราเมศว์ เพตราสกุล

ไว้ เพราะเธอทั้งสวย อ่อนหวาน น่ารัก แต่เขาก็ยังไม่รุกเท่าไร เนื่องจาก

ไรวินด์เป็นนักธุรกิจที่งานรัดตัวตลอดเวลา และวันนี้เขาต้องไปงานเลี้ยง

ร่วมทุนบริษัทเครือไรวินด์ ซึ่งเขาเป็นประธานเจ้าของธุรกิจทั้งหมด

“เฮ้ย! ไอ้วินด์ เป็นไงมั่ง ไม่เจอกันซะนาน” ม่านเมฆ ไพศาลศิตรา

เพื่อนซี้ท่านประธานหนุ่มหล่อเอ่ยทักก่อนจะยกแก้วไวน์ขึ้นจิบ

“เออ! ก็ดีว่ะ แต่งานรัดตัวไปหน่อยช่วงนี้ เออ! ไอ้เมฆ แล้ว

คีย์มันไม่มาด้วยเหรอ” ไรวินด์ถามถึงเพื่อนซี้อีกคนที่ตอนนี้กำลังเดิน

เข้ามาทัก เป็นการเจอหน้ากันของสามหนุ่มที่สาวๆ ทั้งประเทศอยาก

ครอบครอง

คีย์ คีตะยะ อานอฟเฟอร์ หนุ่มลูกครึ่งอังกฤษ คาสโนวาเนื้อหอม

เดินมากอดคอเพื่อนทั้งสอง

“เฮ้! ไอ้วินด์ ไอ้เมฆ คิดถึงพวกแกว่ะ” คีตะยะทักแต่สายตา

สอดส่ายไปทั่วงานเพื่อหาเหยื่อ

“เออ! ทักพวกฉันแต่ตาแกมองหาสาวๆ นะไอ้คีย์” ม่านเมฆ

ส่ายหัวกับพ่อหนุ่มคาสโนวา

“เฮ้ย! ไอ้วินด์ ได้ข่าวว่างานนี้คุณราเมศว์ก็จะมาไม่ใช่เหรอวะ

แล้วลูกสาวสองคนจะมาด้วยหรือเปล่า อยากเห็นชะมัด” คีตะยะพูด

ด้วยความตื่นเต้นจนออกหน้าออกตา

“ไม่รู้เหมือนกัน อยากรู้ก็ต้องรอดูเอาเอง”

ไรวินด์ ม่านเมฆ และคีตะยะเดินกลับมาที่โต๊ะที่ถูกจัดเตรียม

ไว้อย่างดี และทั้งสามคนยังเป็นที่สนใจของสื่อมวลชนที่มาในงานนี้ ซึ่ง

เป็นงานใหญ่พอตัว

 

 

 

 

 

 

 

 

 

อีกด้านหนึ่ง ที่บ้านเพตราสกุล ทั้งแม่เลี้ยงและมินตรา

แต่งชุดหรูหราเพื่อไปงาน มีเพียงอลิศราเท่านั้นที่ไม่คิดจะไป แต่ราเมศว์

ก็บังคับโดยแลกกับไวโอลินที่โดนยึดไป อลิศราเลยจำต้องไปเปลี่ยนเป็น

ชุดราตรีเซ็กซี่ สวยสะดุดตา ร่างบางระหงผิวขาวผ่อง ใบหน้าสวยหวาน

ผสมเซ็กซี่เล็กๆ ทำให้เธอเป็นที่จับตามอง และความสวยของอลิศรา

นั่นเองทำให้มินตราเกิดความอิจฉาที่อลิศราสวยกว่า แต่อย่างไรเสียเธอ

จะใช้ความอ่อนหวานและน่ารักดูดีที่เธออุตส่าห์สร้างขึ้นมาให้เป็น

ประโยชน์ด้วยการกลบความสวยของอลิศรา และจะได้รู้กันว่าผู้หญิง

แสนดีเรียบร้อยแบบเธอ กับคุณหนูอารมณ์ร้ายที่มีแต่ข่าวฉาว ใครกันแน่

ที่ดูดีมีราคากว่ากัน

เมื่อรถคันหรูมาถึงงาน มินตราก็ลงจากรถมายืนตรงกลางระหว่าง

ราเมศว์กับปลินดา อลิศรามองภาพนี้อย่างเฉยเมย เธอเป็นลูกสาวแท้ๆ

แต่ไม่มีสักครั้งเลยที่จะเรียกเธอไปยืนข้างๆ แต่นั่นมันทำให้เธอชินชา

ในหัวใจจนไม่รู้สึกอะไรแล้วกับภาพแบบนี้ นักข่าวกรูกันเข้ามารุมสัมภาษณ์

ราเมศว์ ปลินดา และมินตราอย่างสนใจ

“วันนี้น้องมินตราสวยมากเลย ชุดเสื้อผ้าน่ารักเข้ากันดีนะคะ”

นักข่าวคนหนึ่งเอ่ยชม

“ค่ะ แม่เป็นคนจัดให้น้องเองแหละชุดนี้ คุณราเมศว์ก็ทุ่มสุดๆ

อยากให้หนูมินตราดูดีที่สุดน่ะค่ะ” ปลินดาเอ่ยยิ้มๆ ตอบนักข่าวพร้อมกับ

สอดแขนเข้าควงแขนราเมศว์ไว้

“เออ! ได้ข่าวว่าวันนี้น้องอลิสก็มาด้วย อยู่ไหนครับ”

ราเมศว์ยิ้มน้อยๆ พร้อมกับนักข่าวแหวกทางให้กับสาวสวย

ที่มาในชุดแต่งกายเซ็กซี่ และนี่เองทำให้ไรวินด์มองอย่างสะดุดตา

“ฉันเอง ขอทางด้วย” เธอตอบสั้นๆ เชิดหน้าเดินเข้าไป

ในงานอย่างไม่แคร์เสียงซุบซิบของนักข่าวก่อนหันมาพูดเสียงเรียบแต่

แฝงความเผ็ดไว้

“ฮึ! ก่อนที่จะซุบซิบใคร ให้เกียรติเจ้าของชื่อที่นินทาได้เข้างาน

ไปก่อนนิดหนึ่ง ถือว่าเป็นจรรยาบรรณของพวกปากแมลงหวี่นะ” นั่นเอง

 

 

 

 

 

 

 

ทำให้นักข่าวอึ้งกับคำพูดของคุณหนูอลิส และเป็นที่โจษจันของความไม่ชอบ

ทันที เพราะแบบนี้นักข่าวจึงแอนตี้ พยายามหาเรื่องฉาวโฉ่มาใส่ร้าย

คุณหนูอย่างเธอ แต่นั่นไม่ได้ทำให้เธอแคร์

งานนี้บิดาของเธอถึงกับควันออกหู พยายามระงับความไม่พอใจ

ของตัวเองไว้ มินตราเองก็สร้างภาพความเป็นคนอัธยาศัยดีกับนักข่าว

ให้เป็นที่สนใจ และให้ไรวินด์หันมามองเธอ เพราะเธอรู้ว่างานนี้เขาจะมา

 

อลิศรารู้สึกอึดอัด จึงออกจากงานเลี้ยงมาเดินเล่นที่สวน

ด้านหลังซึ่งปลอดคน เธอเดินมาเรื่อยๆ จนชนใครคนหนึ่งเข้าเต็มๆ

“โอ๊ย!” เธอล้มพับลงไปบนพื้นหญ้า

“เป็นอะไรมากไหมคุณ” ไรวินด์ตกใจรีบดึงมือหญิงสาวตรงหน้า

ขึ้นโดยไม่ทันได้มองว่าเป็นใคร จนอลิศราเงยหน้าขึ้นมาพร้อมกับปัด

มือเขาออก

“ไม่เป็นไร ขอบใจ” เธอลุกขึ้นแต่ก็เซจนไรวินด์ต้องรีบประคอง

“นี่คุณ อยากซบอกผมก็ไม่บอก” ไรวินด์พูดจาประชดประชัน

ไปให้

“ใครอยากซบอกคุณกัน สำคัญตัวเองผิดไปหน่อยไหม” หญิงสาว

เชิดหน้าตอบพร้อมกับดันตัวเองออกมาจากอกกว้างนั้น

“คุณเองก็ไม่ได้น่าพิศวาสเหมือนกัน”

เขาพูดดูถูกเธอจนเธอมีอารมณ์ อยากเข้าไปตบหน้าผู้ชายตรงหน้า

เสียจริง แต่เธอพยายามสะกดกลั้นอารมณ์ไว้

“ฮึ! คุณมันก็แค่ผู้ชายที่ดีแต่ปากสินะ” เธอพูดจบแล้วหา

ทางหนีออกไปจากตรงนี้ แต่นั่นมันทำให้ชายหนุ่มถึงกับกระชากหญิงสาว

ให้หันกลับมา

“งั้นมาลองกันดูว่าผมจะมีดีแค่ปากหรือเปล่า” เมื่อเธอดูถูก

เขา คนปากดีอย่างเธอก็ต้องได้รับการสั่งสอน เมื่อคิดได้ดังนั้นเขาก็

ประกบปากเข้ากับปากของเธอ จูบอย่างเร่าร้อนรุนแรงจนเธออ่อนระทวย

 

 

 

 

 

 

 

 

กับจูบแรกที่ชายหนุ่มอุกอาจปล้นเธอไป เมื่อเขาผละออกจากปากเธอ

หญิงสาวก็ได้สติ ตบหน้ากลับทันที

เผียะ!

“ฉันไม่ใช่ที่ระบายอารมณ์ของคุณ จำเอาไว้” เธอเดินหนีออกไป

จากที่นั่นทันที ชายหนุ่มมองตาม ยังรู้สึกติดใจรสจูบจากหญิงสาว มัน

เป็นจูบที่เร่าร้อนและหอมหวานอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ส่วนอลิศรา

หนีกลับบ้านทันทีอย่างโมโหกับผู้ชายป่าเถื่อนที่ขโมยจูบเธอในคืนนี้

 

เช้ารุ่งขึ้นอลิศราเดินลงมาข้างล่างแล้วก็เห็นปลินดากับมินตรา

นั่งเอาใจพ่อของเธออยู่นั่น มันทำให้เธอหมั่นไส้ขึ้นมา

“ตอแหล” เธอพูดอย่างไม่เกรงใจหน้าอินทร์หน้าพรหม นั่น

มันทำให้ราเมศว์ที่ต้องควบคุมอารมณ์ไว้ตั้งแต่เมื่อคืนถึงกับสติขาดผึง

ทันที

“แกอย่ามาว่าดากับหนูมินนะ แกเองต่างหากที่ทำตัวแย่ขึ้น

ทุกวัน”

เธอมองพ่อตาขวางก่อนตอบกลับไปตรงๆ

“พ่อเคยสนใจอลิสด้วยเหรอคะ ทุกวันนี้อลิสมันก็แค่ลูกที่พ่อ

ไม่ต้องการ” เธอตะโกนอย่างอัดอั้นตันใจมานาน วันนี้เธอได้ระบาย

ออกมาแล้ว และสิ่งที่เธอได้รับกลับมาคือพ่อของเธอตบหน้าเข้าเต็มๆ

เผียะ!

เมื่อมือหนาสัมผัสแก้มนวลไปอย่างแรง ราเมศว์จึงได้สติ รีบ

หันกลับมามองมือตัวเองอย่างเสียใจ ตั้งแต่อลิศราเกิดมา เขาไม่เคยตีลูก

สักที แต่วันนี้เขาได้ทำมันลงไปแล้ว

“พะ...พ่อ อลิส พ่อ...”

เธอแสยะยิ้มอย่างเวทนาตัวเองที่พ่อกล้าทำกับเธอ

“ค่ะ อลิสเข้าใจพ่อ ไม่ต้องพูดหรอกค่ะ อลิสขอตัว”

พูดจบอลิศราก็ก้าวเดินออกไปด้วยแรงอารมณ์ ราเมศว์ได้แต่

 

 

 

 

 

 

 

 

เสียใจกับสิ่งที่ตนเองกระทำ แต่ปลินดาและมินตรากลับลอบยิ้มอย่าง

สมใจที่ทำให้พ่อลูกแตกคอกันได้

 

ทางด้านไรวินด์ ม่านเมฆ และคีตะยะ มานั่งดื่มที่ผับหรูชื่อดัง

มีสาวๆ คลอเคลียอยู่ข้างๆ ไรวินด์กำลังดื่มอยู่ และสายตาพลันเหลือบ

ไปเห็นผู้หญิงที่เขาจูบเมื่อคืน เขามองตามเธอไปแล้วยิ้มที่มุมปาก อลิศรา

เดินไปยังที่ประจำที่มีกลุ่มเพื่อนของเธอ

“เฮ้! อลิส เธอมาก็ดีเลย ฉันกับพี่เทมส์รอแกอยู่นะ”

นั่งลงใกล้ๆ กับเทมส์ ปฐภาคย์ สกุลสิทธิ์ ที่เธอคิดว่า

เป็นเพียงแค่พี่ชายที่แสนดี เสียงของน้ำ สายธาร วรรณกรสั่งน้ำส้มให้เธอ

ทันที เนื่องจากเธอแพ้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด

“น้องอลิสเป็นอะไรหรือเปล่าครับ พี่ว่าหน้าตาดูเครียดๆ นะ”

ปฐภาคย์เห็นอาการของหญิงสาวที่เขาพึงใจออกจะดูตึงเครียดเลยถาม

อย่างเป็นห่วง