เศรษฐินี (จุลลดา ภักดีภูมินทร์)

เศรษฐินี (จุลลดา ภักดีภูมินทร์)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9789742533281
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 240.00 บาท 60.00 บาท
ประหยัด: 180.00 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

พัดมองดูเสื้อที่หล่อนมีส่วนช่วยประดิษฐ์แล้วก็แอบกลืนน้ำลาย ด้วย

ความรู้สึกอย่างผู้หญิงทั่วไป เออ...ค้าพัดได้สวมเสื้อตัวนี่แล้วออกไม้เดินเฉิดฉาย

หล่อนคงแทบไม่ต้องกินข้าวไปสามวันทีเดียว! พัดลืมตาฝืนเห็นตัวหล่อน

เองอยู่ในเสื้อชุดนี้ หล่อนจะสวยอย่างรองนางสาวไทยผู้จะเป็นหุ่นโชว์เสื้อ

ตัวนี่ไหมหนอ?

พัดกลืนน้ำลายอีกครั้งหนึ่ง ดวงตายงจับอยู่ที่ชุดราตรียาว ตัดด้วยผ้ามัน

เลื่อมสีชมพูจาง {โกมุกและเลื่อมสีขาวสลับชมพูอ่อนเป็นช่อดอกไม้กระจายไปทั่ว

ตัว...คล้ายกับฉลองพระองค์ชุดหนึ่งของพระราชินีอังกฤษแต่แบบน่ารักกว่ามาก

ต่อใต้อกและบานออกน้อย ๆ ตั้งแต่รอยต่อไปจนถึงชายกระโปรง คาดได้อกด้วย

โบใหญ่ ทิ้งชายยาวลงมาข้างหน้าเพิ่มความน้ารักชิ้นอีกอักโข

พัดเหลือบดูเงาของตัวเองในกระจกที่ติดอยู่เกือบรอบห้อง ที่จริงหล่อนก็ไม่ใช่

คนขี้ริ้วขี้เหร่ ขาวกว่ารองนางงามผู้นั้นด้วยซ้ำไป แต่ผิวของหล่อนติดจะกร้านลม

กร้านแดด เพราะไม่เคยได้รับการบำรุงรักษา ถึงอย่างนั้นมันก็ดูเกลี้ยงตามธรรมชาติ

ส่วนหน้าดาของหล่อน พัดคิดเข้าข้างตัวเองว่าสวยพอดูเหมือนกัน แต่จะสวยเท่า

พวกนางแบบ เท่าพวกสาวๆ ที่เข้ามาทำผมตัดเสื้อได้อย่างไร เพราะไม่มีใครแต่ง

ให้หล่อนและถึงพัดจะพยายามแต่งเอง มันก็คงไม่เข้ากันตัวหล่อนซึ่งเป็นแค่เด็ก

บ้านนอกเข้ามาเรียนตัดผมตัดเสื้อ...ทำไมหนอ?...เขาเที่ยวไปเสาะหาผู้หญิงรุ่นสาว

มาประกวดนางสาวไทยกันถึงเมืองเหน่อเมืองใต้ ทำไมเขาถึงจะได้มองเลยนางสาว

พัด มานะงาน ซึ่งอยู่แค่เอื้อมไปเสียได้?

“อ้าวไอ้พัดยืนจ้องเสียจนเสื้อจะละลายหมดแล้ว กลับกันหรืออังล่ะ?”

กิ่งแก้วเป็นสหายร่วมเรียนของพัด ซึ่งบ้านอยู่แถบเดียวกันและกลับด้วยกัน

 

เกือบทุกวัน หล่อนเก็บของไข้เรียบร้อยแล้วและยืนคอยพัดอยู่จนกระทงคนอื่นๆ

ออกไปจนหมดสิ้น เมื่อเห็นพัดยังเคลิบเคลิ้มกับเสื้อที่ตัวทุ่นกลางห้องอยู่ หล่อน

จึงร้องสิ้น

“เสื้อตัวนี้สวยจังนะ”

พัดยังไม่ยอมละลายตาจากเสื้อ แต่หยิบกระเป๋าหนังเทียมราคาถูก ๆ มาคล้อง

แขนไว้

“ใส่แล้วคงสวยสง่ายังกับเล้าหญิง ทำยังไงหนอเราถึงจะไดใส่กันเขาบ้าง?”

“อย่าไปฝันเลย พัดเอ๋ย...ชุดหนึ่งเป็นพัน ๆ คนอย่างเราก็ได้แค่คิดประติด

ประดอยให้เขาใส่เท่านั้นเอง ไปกันเถอะ”

พัดเดินตามกิ่งแล้วออกมาจากห้องเรียนตัดเสื้อลงบันไดไปชั้นล่าง โรงเรียน

ตัดผมตัดเสื้อที่พัดเรียนนั้นเป็นตึกแถวสามชั้นหลายคูหาสุด ชั้นบนสุดเป็นห้องพัก

นักเรียนประจำ ชั้นกลางเป็นห้องเรียน ส่วนหนึ่งเป็นห้องดัดผม ส่วนหนึ่งเป็นห้องตัดเสื้อ

และกั้นไร้เป็นสัดส่วนงดงาม ส่วนหนึ่งเป็นห้องตัดผม ส่วนหนึ่งเป็นห้องตัดเสื้อ

สำหรับลูกค้า เป็นห้องกระจกใหญ่กั้นด้วยม่านสีเขียวเข้ม บันไดนี้นอยู่ทางด้าน

หลัง นักเรียนเมื่อเลิกเรียนแล้วก็ลงบันไดทางค้านหลัง หาได้เกี่ยวข้องกับทางด้าน

หน้าไม่

พัดกันกิ่งแก้วออกทางประตูหลัง แล้วก็เดินล้อมข้างตึกซึ่งเป็นซอกเล็ก ๆ

มาทางค้านหน้า สาวน้อยทั้งคู่เดินเลาะทางเดินเท้า ตรงไปยังป้ายรถประจำทางที่

เห็นอยู่ข้างหน้า แ^อุผ่านตึกหลังหนึ่งซึ่งมีค้านหน้าชิดกับทางเดินเท้า ทว่าคั่น

เอาไว้ด้วยสวนญี่ป่นและสนามเล็ก ๆ เขียวขจีพัดก็หยุดเดิน

เข้าไปดูรูปภาพกันหน่อยไหม ?”

กิ่งแก้วหน้าเบ้เล็กน้อย

“ดูก็ไม่รู้เรื่อง เห็นมีรูปสวยๆอยู่สองสามรูปเท่านั้นเอง นอกนั้นไม่เห็น

เข้าท่า”

“อ้าว...นั่นแหละ เขาเรียกว่ารูปโมเดิร์นละตัว ไม่รู้อะไร เป็นศิลปะสมัย

ใหม่ เดี๋ยวนี้รูปธรรมชาติ รูปคนทื่อ ๆ เขาไม่วาดกันแล้ว”

“นั่นซี รูปคนก็ต้องให้หน้าบิดๆเบี้ยวๆเหยเก เราดูแล้วไม่เห็นสวยตรง

ไหน ทุเรศตาด้วยซ้ำ ไอ้รูปที่เอาสีละเลงตัดกันไปตัดกันมาก็เหมือนกัน เราดูแล้ว

เวียนหัวเกือบตาย”

“ก็เลือกดูรูปที่ตัวว่าสวยซี เข้าไปด้วยกันนะกิ่ง”

พัดฉุดมือกิ่งแก้ว กิ่งแก้วถอนหายใจเบาๆ ดวงตามองไปกังสตรีสองนาง

ซึ่งเพิ่งลงจากรถยนต์ เป็นสาวสวยแต่งกายทันสมัยปรงสั้นแค่เข่าอ่อน

นางหนึ่งใส่ต่างหูดอกไม้อ้นใหญ่เข้าชุดกับสีเสื้อ อีกนางหนึ่งใส่ต่างหูห่วงพลาสติก

หลายห่วงสีเขียวสลับส้มเข้ากับเสื้อกระโปรงสั่นเช่นกัน เจ้าหล่อนทั้งสองเดินฉับ ๆ

ตรงเข้าไปในแกลเลอรี่ด้วยกิริยาอันสง่างาม

“คนเข้าไปดูรูปภาพแบบนั้น มันต้องแต่งตัวสวย ๆ นั่งรถยนต์อย่างสองคน

นั้น ปอนๆอย่างเราเข้าหัวเราะเอาเปล่า ๆ

“หัวเราะเยาะก็ช่างเป็นไร ทำไม...คนอย่างเราจะดูรูปยังงั้นเป็นขึ้นมาบ้างไม่ได้

รี?”

พัดเถียง ฉุดมือกิ่งแก้วแรงขึ้นอีกเล็กน้อย กิ่งแก้วเสียไม่ได้ จำต้องเดิน

ตามเพื่อนเข้าไปภายในแกลเลอรี่นั้น''''''

ชั้นลางดูเหมือนจะเป็นสำนักงานอะไรสักอย่างหนึ่ง บันไดชั้นสู่แกลเลอรี่อยู่

ทางขวามือ เมื่อโผล่พ้นบันไดชั้นไปก็ถึงห้องโถงแสดงภาพเป็นห้องแคบยาว มุมห้อง

ด้านหนึ่งชอุ่มด้วยตันไม้ใบร่ม สลับหินก้อนโตๆ เช่น บอน ว่าน เฟิร์น และ

พลูแฉก ใกล้ๆ กัน,นั้นมีเก้าอี้หวายกลมแบบสตูล บุนวมสีสด วางอยู่สามสี่ตัว

ดวีงตาของพัดเหลือบไปกังเก้าอี้หวายพนักสูง พัดเคยเห็นเขานั่งอยู่ที่ตรง

นั้นเสมออ้าเขาอยู่ 'แต่เวลานี้เก้าอี้ตัวนั้นกังว่างเปล่า พัดมองหาเขาในหมู่คนที่

ยืนดูรูปภาพแต่ก็ไม่เห็น ทำไห่ใจของหล่อนฝ่อลงเล็กน้อย...

กิ่งแก้วกระตุกมือพัดเบา ๆ

“ชวนชั้นมาแล้ว ทำไมไม่ดูเล่ายะ มัวแต่ยืนมองอะไรอยู่ก็ไม่รู้”

พัดรีบกวาดตาดูในหมู่คนอีกครั้งหนึ่ง แล้วก็เลิกมองหาเขา ทำเป็นสนใจ

ภาพที่อยู่เบื้องหน้าหล่อน แต่ให้ดูจนตาย ภูมิปัญญาและความละเอียดอ่อนใน

เรื่องศิลปะของหล่อนมีน้อยเกินไป จนเกินกว่าที่จะเข้าใจภาพแบบแอ็บสแตร็กต์ของ

จิตรกรสมัยใหม่

พัดนึกอิจฉาสตรีสวยงามท่าทางคงแก่เรียนผู้หนึ่ง อิจฉาที่ดูหล่อนซาบซึ้ง

ต่อภาพเบื้องหน้าของหล่อนเสียจริงๆ ไม่ว่าภาพอะไร หล่อนคงจะเข้าใจภาพเหล่า

นั้นอย่างแจ่มแจ้ง และเห็นมันสวยจริงๆ ทำอย่างไรหนอ พัดจึงจะมีอารมณ์

ละเอียดอ่อนอย่างหล่อนบ้าง?

พัดยืนพังหลอนสนทนากับเพื่อนสองสามคนที่มาด้วยกัน…

ภาพภาพหนึ่งนั้นตรงกลางคล้ายกับหน้าคนเบี้ยว ๆ พิกล แล้ว

ก็มีสีละเลงหมุนๆอยู่รอบหน้านั้น ซีกหนึ่งเป็นเทา สีน้ำเงิน ล้วนแต่

เข้มและหม่น อิกซีกหนึ่งตัดกันฉูดฉาด สีที่ตัดกันนั้นก็ไปเบี้ยวมา มีได้ตัด

กันเป็นสัดส่วน จนกระทงพัดดูแล้วเวียนหัวเหมือนอย่างที่กิ่งแก้วบ่นเมื่อสักครู่

แต่เจ้าหลอนผู้นั้นกล่าวอย่างชื่นชมว่า''''''

“รูปนี้ดูแล้วซึ้งจังนะ”

แล้วหล่อนก็เอียงคอน้อยๆ ทำให้ใครต่อใครต่างหันมามองดูหล่อน บุรุษ

บางคนมีสีหน้าแสดงว่าชื่นชมและบุกย่องทำทางของหล่อนจนออกนอกหน้า แต่

ดูเหมือนบางคนก็จะหมั้นไส้!

“ฉันดูไม่รู้เรื่อง”

สหาย'ของหล่อนผู้หนึ่ง'ขัดบี้'น หล่อนเป็นคนสวยอย่างทันสมัยเช่นกัน แต่

ที่ว่าไม่รู้เรื่องนั้นไม่ใช่ไม่รู้เรื่องอย่างพัดหรือกิ่งแก้ว ซึ่งเรียนหนังสือจบแค่ม.ศ.๓

เพราะหลอนกล่าวต่อไปว่า

รูปแบบอิมเพรสชั่นนิสม์ยังดูง่ายกว่าแบบแอ็บสแตร็กต์ ไอ้รูปแบบแอ็บ-

สแตร็กต์นี่ บางรูปดูยังกับคนบ้าวาด!”

หล่อนวิจารณ์อย่างตรงไปตรงมา แล้วก็ย้อนถามสหายที่ ‘ซึ้ง’ กับภาพ

แผ่นนั้นว่า

“เธอดูรู้เรื่อง ลองอธิบายใบ้ฉันพังหน่อยซี”

พัดก็อยากรู้ว่า หล่อนจะอธิบายว่าอย่างไร จึงมองดูหล่อนอย่างตั้งอก

ตั้งใจ แต่หล่อนกลับอึ้งไปเล็กน้อย แล้วก็ตอบด้วยเสียงไม่มั่นคงนัก

“ฉันเข้าใจว่า คนวาดคงจะหมายถึงมนุษย์กับอะไรสักอย่างหนึ่งที่เราไม่เข้าใจ

รูปภาพอย่างนี้บางคนดูแล้วก็คิดไปคนละอย่างไม่เหมือนกัน”

พัดระบายลมหายใจยาวและยิ้มอยู่ในหน้า เออ...หล่อนช่างฉลาดตอบจริง

หนอ ไอ้หน้าเบี้ยวๆเหมือนไข่แดงแตกอยู่ในไข่ขาวนั้น พัดก็เดาได้เหมือนกันว่า

มันคงหมายถึงมนุษย์

พัดกำลังจะเดินเลยไปดูภาพอื่น ก็พอดีเขาขึ้นบันไดมา ใจของพัดเต้นแรง

กว่าปกติเล็กน้อย วันนี้เขาแต่งกายด้วยสีอ่อนๆอย่างเก๋ตามเคย'''นุ่งกางเกงสีเทา

สวมเสื้อสีม่วงอ่อนแขนยาว เป็นผู้ชายคนเดียวที่พัดรู้สึกว่าสวมเสื้อเชิ้ตสีได้สวย

งาม โดยไม่เหมือนผู้ชายกะเทย ผิวของเขาซาวอย่างผิวพวกแขกขาว ผมหลักศก

ดำสนิท ขางหน้าหวีปาดๆปรกๆ ขางหลังยาวเลื้อยลงไปถึงต้นคอ จอนผมยาว

กลืนกับเคราเขียว ๆ ดู1ช่างเหมือนดาราหนังฝรั่งบางคนเสียนี่กระไร

พอเขาก้าวขึ้นมา พัดก็ได้ยินเสียงสตรีสองสามคนกระซิบกันอยู่ขาง ๆ...

“นั่น'ไง คนวาดรูปพวกนี้ หลอไหม?”

“หน้าตาดีจัง แต่งเนื้อแต่งตัวสมเป็นจิตรกร ชื่ออะไรนะ”

“ดีตา คุณากร ที่จริงแกลเลอรี่นี่ไม่ใช่งานของเขาคนเดียว มีเพื่อนอีกสอง

คนร่วมด้วย”

“ต๊าย! คนวาดหน้าตาหล่ออย่างนี้ ถ้าฉันมีเงินฉัน'จะ'ซื้อไอ้รูปที่ดูไม่รู้เรื่องนี่

เอาไปดีดโชว์เล่นโก้ ๆ “

คนหนึ่งกล่าวอย่างสตรีสาวคะนองปาก แล้วก็หัวเราะคิกๆ เขาเดินผ่าน

มาพอดี ไม่ได้มองพัด แต่มองเลยไปลังสาวน้อยผู้ ‘ซึ้ง’ ในภาพของเขา และ

ขณะนั้นก็ลังเอียงคอมองภาพของเขาอยู่...ก็น่าจะมองเลยไปลังหล่อนดอก เพราะ

หล่อนสวยสะดุดตาสะดุดใจที่สุดในที่นั้น

ถึงเขาจะไม่มองดูพัด แต่เขาก็บังเอิญมาหยุดยืนใกล้ๆพัด กิ่งแล้วกระตุก

มือพัดเบา ๆ เพราะดูเหมือนหล่อนจะรู้ไจพัดอยู่เหมือนกัน

อะไรอย่างหนึ่งทำไห,พัดถามออกไปว่า

“นั่นรูปอะไรคะ ดูไม่เห็นรู้เรื่อง?”

เขาเหลือบตามองดูพัด หล่อนคิดว่าเขาคงจะหัวเราะเยาะหรือทำหน้าตา

ดูแคลนหล่อน จึงเตรียมพร้อมที่จะหมดศรัทธาในตัวเขา แต่เขามีได้แสดงสิ่งใด

ดังที่พัดคิดเอาไว้ เขามองหล่อนแล้วก็ยิ้ม แววตาสมเพชเหมือนมองดูเด็กที่ยัง

เข้าใจภาษาของผู้ใหญ่ไม่พอ

“รูปนี้หมายถึงการแหวกว่ายอยู่ในทะเลชีวิต ซึ่งมีทั้งทุกข์ สุข โศกเศร้า

สนุกร่าเริง สีดำสนิทนั่นคือความตาย สีแดงคือตัณหาราคะ สีต่างๆที่ดัดกัน

ฉูดฉาดย่อมมีความหมายอยู่ในตัวของมันเอง”

เขาตอบพัด แต่ดวงตาชำเลืองดูหญิงสาวในชุดูกรมท่า ปกสลับสีแดงเข้า

ชุดกับเข็มขัดหลวม ๆ เหนือตะโพก หล่อนก็มองสบตาเขา ยิ้มน้อย ๆ และกล่าว

ขึ้นว่า

“ถ้างั้นดิฉันก็พอจะดูรู้เรื่องเหมือนกัน ดิฉันเดากับเพื่อนเมื่อครู่นี้เองว่า มัน

หมายถึงมนุษย์กับอะไรสักอย่างหนึ่งที่เราไม่เข้าใจ

เท่านั้นเองเขาก็ลืมพัดเสียสนิท ก็น่าจะลืมดอก กับแค่สาวน้อยสวมเสื้อ

ชุดนักเรียนดัดผมดัดเสื้อสีเขียวอ่อน ผ้าราคาถูก ๆ หน้าตาท่าทางก็ดังไม่ทิ้งความ

‘บ้านนอก’...

พัดเดินเคร่งขรึมออกนาล่าดันกลเลอรี่ หล่อนไม่อยากเห็นคีตาในกลุ่มของ

สตรีสาวสวยหยดย้อยเหล่านั้น /มันทำให้หล่อนสะท้อนใจตามวิสัยของเด็กรุ่น ซึ่ง

มักจะฝันเฟื่องเกินสภาพความเป็นอยู่ของตนเอง

กิ่งแล้วลงจากรถเมล์ก่อน เพราะบ้านของหล่อนอยู่ในซอยแถวพระโขนง

กิ่งแล้วหันมามองดูพัดท่อนจะลงจากรถ กล่าวแกมหัวเราะว่า

“เต่าเตี้ยแล้วอย่าต่อให้ตีนสูงเลย ไล้พัดเอ๊ย ล้มหน้าคลานกระดิบๆอยู่

กับดินต่อไปดีกว่า

พักตื่นขึ้นจากอารมณ์หมกมุ่นในทันที และหัวเราะออกมาได้ โบกมือกับ

กิ่งแล้วขณะที่กิ่งแล้วก้าวลงจากรถ

อีกครู่เดียวก็ถึงหน้าเคหาสน์ใหญ่ รถหยุดเลยไปเล็กน้อย เมื่อพัดเดิน

ย้อนกลับมา หล่อนเหลือบเห็นรถยนต์หลายดันจอดอยู่หน้าตึก พัดเดินเข้าซอย

ข้างเคหาสน์เพื่อเข้าทางประตูหลัง พอโผล่เข้าประตูติดกับเรือนครัว บุรุษในวัย

ชราผู้หนึ่งซึ่งนั่งคอยหล่อนอยู่ที่บันไดเรือนก็ลุกขึ้นร้องทักว่า

 

            (โปรดติดตามต่อในฉบับเต็ม)

 


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (96 รายการ)

www.batorastore.com © 2024