บุหลันรัญจวน (กฤษณา อโศกสิน)
ประหยัด: 80.50 บาท ( 35.00% )
เนื้อหาบางส่วน
ชาย หนุ่ม เดิน พลาง แหงน มอง ฟาก ฟ้า เบื้องบน ที่ แสง ทอง ค่อยๆ เรื่อ เรือง
จน สีชมพู อ่อน แกม เงินยวง แผ่ คลุม ไป ทั่ว สวน ใหญ่ บริเวณ กระทรวง ที่ ผู้คน ตาม
บ้าน เรือน โดย รอบ ได้ อาศัย เป็นที่ เดิน ออกกำลัง ทั้ง เช้า และ เย็น พร้อม กับ รู้สึก ว่า
โยคะ ที่ เขา ไป เรียน สัปดาห์ ละ สอง ครั้ง ครั้ง ละ สอง ชั่วโมง ได้ ช่วย เปลี่ยน การ ไหล
เวียน ของ โลหิต และ ปรับ วิธี ใช้ ชีวิต ประจำ วัน ให้ ดี ขึ้น จาก ผู้ ที่ มัก ตื่น ๑๐ นาYิกา
อันเป็น เวลา ที่ พี่ ชาย ขับ รถมี พี่ สาว นั่ง เคียง แล่น ออก จาก บ้าน ไป ทำ งาน ทั้ง ราชการ
และ เอกชน นาน หลาย ชั่วโมง แล้ว มา เป็น ตื่น ตี ๕ ครึ่ง พลาง เปิด ประตู เดิน ออก
ไป ท่ามกลาง แสง ไฟ เป็น ระยะ ตลอด ซอย ใน ท่า เดิน เร็วๆ ไม่ ทอดน่อง อันเป็น
ท่า ที่ ถูก ต้อง ของ การ เดิน ออกกำลัง เมื่อ ผ่าน หัวเลี้ยว สอง เลี้ยว แล้ว สัก ครู่ ก็ จะ เข้า
ประตู กระทรวง ที่ เต็ม ไป ด้วย ตึก ใหญ่ โอ่อ่า รวม เอา กรม หลาย กรม เข้า ไว้ ภายใน
เนื้อที่ หลาย ร้อย ไร่ ปลูก ไม้ ยืนต้น แน่นขนัด ล้อม รอบ สระ ยาว เหยียด ขนาน ไป กับ
ถนน ที่ ตัด ไว้ เป็น ระเบียบ
ช่าง เหลือเชื่อ จริงๆ ที่ ว่า ‘สุขภาพ ดี คือ ลาภ อัน ประเสริฐ ของ คน เรา’
ดังนั้น ถ้า ไม่ ประสบ เข้า กับ ตน เอง แล้ว ละ ก็ คง ไม่ รู้ เลย ว่า ‘จาก ตี ๕
ครึ่ง ถึง ๑๐ โมงที่ แก มัว นอนกิน เมือง อยู่ นั่น น่ะ ผู้คน เขา ทำ งาน เสร็จ ไป สอง-
สาม อย่าง แล้ว’ คือ เรื่อง จริง ที่ พี่ ชาย คน โต เคย พูดจา ว่ากล่าว ครั้น แล้ว ก็ เลิก พูด
เพราะ เบื่อ หน่าย เนื่องจาก ไม่ เป็น ผล
สิ่ง ที่ ดลใจ เขา ให้ เปลี่ยน พฤติกรรม จาก ‘ขี้เกียจ สันหลังยาว’ มา เล่น โยคะ
ก็ เนื่องด้วย มด นั่นเอง มา ชักชวน แล้ว เขา ก็ เลย ตามใจ หล่อน ไป อย่าง นั้น เท่ากับ
ไป เป็นเพื่อน มาก กว่า ไป เพราะ ตัวเอง พอใจ
แต่ ที่ไหนได้ เมื่อ เรียน ไป เรียน มา เพียง แค่ สาม เดือน เขา ก็ เริ่ม รู้สึก ว่า
องคาพยพ ของ ตน เอง เปลี่ยนแปลง ไป
จาก อาการ ไม่ อยาก ตื่น หนัง ตา เหมือน ถูก ใคร สัก คน กด ไว้ ไม่ ให้ ลืม ความ
รู้สึก ทั้งปวง ใน เรือน กาย ก็ ราวกับ หมด กำลังใจ จะ เผยอตัว ออก จาก ผ้า ห่ม เปลี่ยน
เป็น รู้สึก ตัวอย่าง แช่มชื่น ตั้งแต่ ทุก หน แห่ง ยัง มืด มิด ไม่ มี อาการ บิด แล้ว บิด อีก
เหมือน ก่อน หน้า ด้วย ว่า คราว นี้ เขา ถึง กับ สลัด ผ้า ห่ม ออก จาก ตัว โดย แรง ลุก
ลง จาก เตียง เปิด ประตู ห้อง นอน ลง บันได ไป สวม รองเท้า ไม่ กี่ อึดใจ ต่อ มา ก็
ถึง ประตู กระทรวง ที่ เพิ่ง เปิด
กระปรี้กระเปร่า ผิด ไป จาก เดือน เก่า ปี ก่อน
‘ขอบใจ มด มาก จริงๆ ที่ ชวน ไป เล่น โยคะ’ เรือง วิชา นึก ใน ใจ ขณะ เดิน แกม
วิ่ง ไป ตาม ถนน คอนกรีต สะอาด สะอ้านที่ ทุก ตึก ยัง เงียบ สงัด เพราะ กว่า จะ ถึง
เวลา ราชการ ก็ ๐๘.๓๐ น. แม้ว่า รถยนต์ ขนาด และ สี ต่างๆ จะ เริ่ม ทยอย เข้า ซอย
มา จนถึง ประตู กระทรวง ตั้งแต่ ๐๖.๐๐ น. เป็นต้น ไป จน ใคร ต่อ ใคร เอ่ย ขาน
ว่า ‘เดี๋ยวนี้ แถว นี้ กลาย เป็น สุขุม วิท ๒ ไป แล้ว’ แต่ นัก วิ่ง ออกกำลัง กาย บาง คน
ผู้ส่วน ใหญ่ เกษียณอายุ เรียบร้อย แล้ว ก็ ยัง เดิน แกม วิ่ง หรือ ไม่ ก็ เดิน เร็วๆ สวน
กับ รถ ให้ ได้เห็น
เหงื่อ ท่วม กาย จน เสื้อ และ กางเกง วอร์ม ชุ่มโชก ดวง หน้าเป็น มัน แต่ ผม
ที่ ตัด เกรียน ก็ ช่วย ให้ ไม่ ส่งกลิ่นเหมือน ตอน ไว้ ผม ยาว เอาอย่าง นัก ร้อง ดัง บาง
คน เพราะ ถ้า ขี้เกียจ สระ แค่ วัน เดียว ก็ เอา แล้ว ทั้ง พี่ ชาย พี่ สาว จะ คอย ทำ จมูก
ฟุ ด ฟิด ‘แม่ มี หนู ตาย แถว นี้ หรือ เปล่า’
เรือง วิชา นึก แล้ว ก็ ขำ
ทั้ง เรข และ ระ ดา พี่ ชาย พี่ สาว นั้น ช่าง ไกล กัน กับ เขา สุดกู่ จน แม่ ก็ ไม่ รู้ จะว่า
อย่างไร
ถ้า ว่า…เขา ก็ จะ ย้อน ตอบ
‘กรรม สร้าง เรือง มา แบบ นี้ นี่ แม่ ก็ จะ เอา อะไร นักหนา พี่ เรข กับ พี่ ดา นั่น
น่ะ เขา เป็น เครื่อง ไม่ ใช่ คน’
ฟ้า กระจ่าง เต็ม ฟ้า เมื่อ ชาย หนุ่ม เปิด ประตู เข้า บ้าน แม่ ยืน คอย เหมือน ทุก
เช้า เนื่องด้วย ตื่นเต้น ต่อ ความเปลี่ยนแปลง ไป ของ ลูกชาย
เพียง แต่ เช้า นี้ ดูเหมือน เธอ จะ มี เรื่อง แปลก ใหม่ เพราะ รีบ เดิน เข้า มา
บอก
“ป้า เดียง โทร. มา ถาม ว่า รู้จัก ผู้ชาย หนุ่ม แข็ง แรง มี ความรู้ เกี่ยว กับ ดูแล
ผู้ สูงอายุ มั่ง ไหม ต้อง เป็น คน ซื่อสัตย์ ไว้ใจ ได้ด้วย นะ เพราะ จะ ต้อง อยู่ กับ เขา
ตลอด ๒๔ ชั่วโมง…แม่ ก็ เลย บอก เขา ว่า แล้ว จะ ลอง ถาม เรือง ให้ เพราะ เขา อาจ
รู้จัก พวก ที่ เคย ทำ งาน ใน โรง พยาบาล”
“ไม่ มี แล้ว ละ แม่” อีก ฝ่าย สั่น หน้า “ไอ้ ต้อ ม ไอ้ สิทธิ์ ก็ มี คน จ้าง ไป ตั้งแต่
ปี ก่อน แล้ว ก็ ยัง อยู่ บ้าน เก่า มา จนถึง เดี๋ยวนี้ นัยว่า ทั้ง คุณ ปู่ คุณ ลุง ติด มัน เป็น
ตังเม เลย ลูก หลาน เขา ก็ ไม่ ยอม ให้ มัน ออก”
เรือง วิชา กลับ จาก ต่าง ประเทศ แล้ว มา สมัคร เป็น ทหาร เกณท์รับ ใช้ ชาติ อีก
สองปี ถูก ส่ง ไป ทำ งาน ที่ โรง พยาบาล พระ มงกุฎ เกล้า จึง ได้ วิชาการ พยาบาล และ
ดูแล ผู้ ป่วย ติด กลับ มา ด้วย นอกเหนือ จาก วิชา ทหาร พอเหมาะ พอดี กับ นิสัย ของ
เขา ที่ ชอบ งาน เบ็ดเตล็ด โดย เฉพาะ อย่าง ยิ่ง งาน บริการ…เมื่อ บวก กับ พื้นฐาน ที่
เรียน จบ ศิลปะ จึง ช่วย ให้ งาน บริการ ที่ เขา ทำ มัก จะ ผสม ความคิด ด้าน ศิลป์ เข้า
ไว้ ด้วย
แม่ เป็น คน แรก ที่ พอใจ ฝีมือ งาน บริการ ของ เขา
“ถ้า ยัง ไง เรือง ก็ ช่วย หา ให้ เพื่อน ป้า เขา หน่อย แล้วกัน”
“เอา เรือง ไหม ล่ะ” ชาย หนุ่ม โพล่ง ออก มา อย่าง ไม่ เป็นจริงเป็นจัง สัก เท่าไร
“เบื่อ งาน ค รี เอ ที ฟ เต็ม ทน ถ้าให้ เงินเดือน ดี ก็ เอา”
“เงินเดือน น่ะ ไม่ ดี แน่นอน” แม่ ของ เขา ยืนยัน “อย่าง ดี ก็ สัก หมื่น ห้า มั้ง
แต่ หมื่น ห้า นี่ ก็ ไม่ ได้ กิน อยู่ กับ เขา เสร็จ สรรพ หรอก นะ เรา ต้อง ออก เอง หมด เลย
อาจจะ ได้ ทิป อีก ต่างหาก นิดหน่อย แต่ ก็ ไม่ แน่”
“เขา เป็น ใคร กัน นะ แม่ นิวาส สถาน อยู่ ที่ไหน” ลูกชาย ถาม พลาง เดิน ตาม
กัน เข้า ห้อง อาหาร นั่ง ลง บน เก้าอี้ คน ละ ตัว ขณะ ที่ เด็ก รับ ใช้ เพิ่ง ทำ ความ สะอาด
เสร็จ สิ้น
“เป็นเพื่อน สนิท สมัย เรียน ธรรมศาสตร์ กับ ป้า” แม่ ของ เขา หมาย ถึง ป้า
เผ ดี ยง ลูกพี่ลูกน้อง ผู้ ไป มา หาสู่ กัน เป็น ครั้ง คราว แต่ คุณ รัย เรียน วิทยาลัย สวน-
ดุสิต แต่งงาน แล้วต่าง คน ต่าง มี ธุรกิจ เกี่ยว กับ การ ดูแล ครอบครัว จนกระทั่ง ลูกโต
เป็น หนุ่ม เป็น สาว สามี ของ ทั้ง เธอ และ เผ ดี ยง เสียชีวิต นั่นเอง จึง กลับ มาคบหา
กัน อีก “เขา ชื่อ นวยนาด สามี เขา ชื่อ สิน เทา…คทา ทิพย์ ไง ล่ะ”
“อ๋อ…” เรือง วิชา ลาก เสียง อย่าง รู้จัก ตระกูล นี้ ดี เนื่องด้วย เป็นที่ รู้จัก อย่าง
กว้างขวาง ใน วง สังคม มี ทั้ง ทหาร ใหญ่และ ดารา นัก แสดง
“แต่ เวลา นี้ เจ็บป่วย ทั้ง คู่ เห็น บอก ว่า คน ดูแล คุณ นา ดก็ เพิ่ง ลา ออก เมื่อวาน”
“แก อายุ เท่า ไหร่ แล้ว แม่”
“ดูเหมือน จะ ๗๐ เท่า กัน หรือ ไง นี่แหละ” คุณ รัย คาด คะเน “แก่ กว่า ป้า
เ ดี ยง สัก ปี สอง ปี เห็นจะ ได้ แต่ ป้า เ ดี ยง มีชีวิตชีวา กว่า มาก”
เรือง วิชา พยัก หน้า เมื่อ นึกถึง ป้า เผ ดี ยง ลูก ผู้ พี่ ของ มารดา ผู้ บัดนี้ ผม ขาวโพลน
แต่ หัวเราะ แจ่มใส อารมณ์ ดี อยู่ เป็น นิจ
“ก็ ลูก ป้า สาม คน ไม่ ต้อง เป็นห่วง อะไร แล้ว นี่ แถม ยัง ให้ เงิน ใช้ พา บิน ไป
ดู ละคร ถึง สิงคโปร์”
“ลูก คุณ นา ด สอง คน ก็ดี ทั้ง สอง เหมือน กัน”
“แล้ว ลูก แม่ ล่ะ ดี ไหม” ชาย หนุ่ม ทำ เสียง อ้อน ซึ่ง เป็น อาการ ที่ มัก จะ ทำ อยู่
เสมอ กับ มาร ดา
นี่ ถ้า ไม่ มี เหงื่อ ทั้ง ตัว เขา ก็ คง เข้าไป กอด และ หอม เธอ จุ๊บ หนึ่ง แล้ว ละ
“ดี ซี ทำไม จะ ไม่ ดี น่า รัก ทั้ง สาม คน เลย จ้ะ” มารดา ตอบ อย่าง เอาใจ
“ว่า แต่ ว่า เรือง ชัก อยาก ไป ลอง ทำ งาน แปลกๆ ดู มั่ง แล้ว ซี แม่”
คุณ รัย ได้ แต่ ยิ้มๆ เพราะ รู้ นิสัย ลูกชาย คน เล็ก ดี ว่า ขี้ เบื่อ
ขณะ นี้ เขา กำลัง เบื่อ งาน ที่ รับ มา ทำเป็น ชิ้นๆ เกี่ยว กับ การ ออก แบบ โฆษณา
และ ผลิตภัณฑ์ เต็มประดา ลำพัง เนื้อ งาน ก็ ไม่สู้ จะ ยุ่งยาก กระไร นัก แต่ ความ
ยาก และ ยุ่ง กลับ ไป อยู่ ที่ ความ ขัดแย้ง ของ ผู้ ร่วม งาน สอง สาม ฝ่าย แล้ว พลอย
ลุกลาม มา ถึง เขา
“ไป ก็ได้”
“ไป ได้ เดี๋ยวนี้ เลย หรือ ฮะ”
ครั้น แม่ พยัก หน้า เขา ก็ รีบ กระโดด ผ ลุง ขึ้น บันได ที ละ สอง สาม ขั้น ไม่ กี่
พรวด ก็ ถึง ชั้น บน
รถ จอด หน้า ทาวน์ เฮา ส์ เก่า แก่ แต่ อยู่ ใน ซอย ตัน ที่ ค่อนข้าง สบาย แห่ง หนึ่ง
ที่ ลูกชาย คน โต ของ ป้า เผ ดี ยง ใน สมัย ที่ ทำ ทาวน์ เฮา ส์ ขาย กัน ไว้ ให้ แม่ หนึ่ง ชุด
จ้าง แม่บ้าน ไว้ เป็นเพื่อน นอกจาก ทำ อาหาร ให้ กิน ไป ซื้อ ของ ให้ ใช้ แล้ว ยัง มี
หน้าที่ คอย ฟัง เผ ดี ยง เล่า เรื่อง เก่า เรื่อง ใหม่ ที่ เธอ ไม่ หลงลืม มี หน้าที่ ตอบ คำ ถาม
เมื่อ นายจ้าง สงสัย มี หน้าที่ ช่วย วิพากษ์วิจารณ์ ยาม ดู ละคร หลัง ข่าว ด้วย กัน
กด กริ่ง เพียง ครั้ง เดียว คุณ เผ ดี ยง ก็ โผล่ ออก จาก ห้อง ข้าง ใน มา ลูบ เนื้อ
ลูบตัว ชาย หนุ่ม
“มา…เข้า มา ดู ห้อง รกๆของ ป้า ก่อน” เธอ จูงมือ หลาน ชาย ให้ เข้าไป ใน ห้อง-
กลาง อันเป็น ห้อง สำรวม ทั้ง กิน ข้าว รับแขก ดู โทรทัศน์ นั่ง ถัก ไหม พรม ยาม
เบื่อเปิด ปาก คุย กับ แม่บ้าน จนกว่า ลูกสาว คนกลาง ที่ มี อยู่ คน เดียว ทั้ง สวย และ
รวย จะ มา รับ ไป กิน ข้าว นอก บ้าน แถม ด้วย ภาพยนตร์ อีก หนึ่ง รอบ “ไหนๆ เมือง
ไทย ใน ทศวรรษ ใหม่ จะ เป็น ทศวรรษ ของ ผู้ สูงอายุ แล้ว ก็ ต้อง มา พูดจา กับ ป้า น้า ย่า
ยาย ให้ รู้ เรื่อง อย่า เอาแต่ รังเกียจ คน แก่”
เรือง วิชา นั่ง ลง ตาม มือ ป้า ของ เขา อย่าง เต็มใจ เนื่องด้วย ก่อน ไป พบ สามี
ภรรยา คู่ นั้น เขา จะ ต้อง ตกลง กับ ป้า เสีย ก่อน ว่า
“ป้า ครับ ผม คุย กับ แม่ แล้ว เมื่อกี้ แล้ว ก็ โทร.ไป บอก พี่ เรข กับ พี่ ดา แล้ว
ว่า ผม จะ ไป สมัคร เป็น ผู้ ดูแล คุณ สิน เทา สามี ของ เพื่อน ป้า น่ะ ฮะ”
ป้า เผ ดี ยง หัวเราะ เกิ้ก เลย ทีเดียว พลาง จับ แขน เขา บีบ เบาๆ อย่าง เอ็นดู
พร้อม กับ เอ่ย ชม
“อื้อ ฮือ กล้าม สวย เลย ละ นะ แน่น แข็ง ยัง กับ ยัด นุ่น นั่น แน่ะ”
คุณรัย นั่ง ข้างๆ บน เก้าอี้ ตรง กับ หน้าต่าง กระจก ที่ เผ ดี ยง ทำ ม่าน ลาย ฉลุ
ผืน หนึ่ง ขึง ไว้ กัน มิ ให้ คน ภายนอก แล เห็น สรรพสิ่ง ภายใน ที่ แม้ แม่บ้าน จัด แล้ว
สัก ครู่ เธอ ก็ รื้อ มัน ออก มา จน รก อีก
“พี่ เ ดี ยง ก็ นึกถึง ตอน ที่ นาย คน นี้ ไป ดูแล คน เจ็บ แล้วกัน มัน จะ น่า ขัน ซัก
แค่ ไหน”
“อ้าว…แม่…อย่า ทำ เล่น ไป เป็นอันขาด เลย นะ” เรือง วิชา หัน ไป ทาง มารดา
ดึง มือ คุณ รัย มา จูบ หนึ่ง ที
“นี่ พ่อคุณ” ป้า เผ ดี ยง ส่งเสียง แกม หัวเราะ “ที่ จะ ไป นี่ น่ะ ไป ดูแล คน-
เจ็บ นะ จ๊ะ ไม่ ได้ ไป เลี้ยง เด็ก”
“คน เจ็บ ก็ เหมือน เด็ก นั่นแหละ ป้า เขา ก็ อยาก ให้ ใครๆ เอาใจ ยิ่ง คน เจ็บ
เป็น คน แก่ ด้วย ก็ ยิ่ง ชอบ เอาใจ มาก เท่านั้น”
“แต่…” ป้า เผ ดี ยง นิ่ง นึก “แต่ ก็ ต้อง บังคับ เขา ดุ เขา เหมือน กัน นะ คุณ
สิน เทา ตอน แก่ๆ นี่ เปลี่ยน ไป มาก บางที ป้า ก็ ยัง ต้อง เอ็ด เขา บ่อยๆ เลย จ้ะ”
“ป้า ครับ…ไม่ ต้อง ห่วง เลย เรื่อง นั้น ขอ ให้ ผม พบ เขา ก่อน รับ งาน ก็ คง
พอ จะ ทราบ หรอก ว่า ไหว ไหม” เรือง วิชา บอกกล่าว
คุณ เผ ดี ยง ฟัง พลาง ลูบคลำ ตาม บ่า ไหล่ ใน เชิ้ต เก็บ ชาย คาด เข็มขัด เรียบ
ร้อย กะทัดรัด ของ เขา พลาง พิจารณา ดู หน้าตา คิ้ว คาง ที่ ไม่ ถึง กับ หล่อ แต่ ไม่
บกพร่อง ที่ สัดส่วน ใด แม้แต่ น้อย ของ ชาย หนุ่ม วัย ๒๗ ปี ด้วย สีหน้า เปรม ปลื้ม
“เพียง แต่ มี อยู่ อย่าง ที่ ผม ขอ ไว้ คือ ป้า ไม่ ต้อง บอก ชื่อ จริง ผม ก็ได้ บอก
แต่ ว่า ชื่อ เรือง เฉยๆ ก็ พอ…ผม ชื่อนาย เรือง…เอ…นามสกุล อะไร ดี…”
“อ้าว” คุณ เผ ดี ยง ร้อง เสียงหลง “ทำไม ถึง เป็น ยัง งั้น ล่ะ จ๊ะ”
“เขา คง ไม่ ขอ ดู บัตร ประจำ ตัว ประชาชน หรอก นะ ฮะ”
“ไม่ หรอก…ก็ ป้า พา ไป…”
“แล้ว ก็ ไม่ ต้อง บอก ด้วย ว่า เป็น หลาน ป้า” เรือง วิชา หัวเราะ ขำ สตรี สูง วัย ผู้
มอง เขา อย่าง แปลก ใจ ใน ความ พิสดาร “คือ ผม ไม่ อยาก ให้ เขา รู้จัก ผม มาก ไป กว่า
เคย เป็น ทหาร เคย ทำ งาน ใน โรง พยาบาล มา บ้าง ก็ เลย พอ จะ ดูแล และ ปฐม-
พยาบาล คน เจ็บ ได้ เท่านั้น ละ ฮะ อ้อ…นึกออก แล้ว ถ้า เขา ถาม นามสกุล ผม
ก็ จะ บอก ว่า ผม นามสกุล หนองหาน แล้วกัน นะ”
“ดู…ดู มัน ล้น” คุณ รัย พยักพเยิด ยิ้มๆ
ครู่ ต่อ มา เขา ก็ ขับ รถ พา คุณ รัย และ คุณ เผ ดี ยง ไป ถึง บ้าน คุณ สิน เทา โดย จอด
ไว้ บน ไหล่ทาง นอก คฤหาสน์ ที่ เมื่อ มอง ข้าม กำแพง สี ครีม เข้าไป ก็ เห็น ได้ ว่า ใหญ่ โต
โอ่อ่า ทีเดียว
ประตู เล็ก แง้ม อยู่ แล้ว เรือง วิชา จึง เดิน ตาม สตรี สูง วัย ทั้ง คู่ เข้าไป ถึง บันได
หน้า ตึก ที่ ปู ด้วย หิน แกรนิต สี เทา เป็น ขั้นโค้ง มน ยาว ตลอด ผนัง กระจก
แม่บ้าน วัยกลางคน เปิด ประตู ออก มา เชื้อเชิญ ทั้ง สาม เข้าไป ใน ห้อง ด้าน
หน้าที่ มี ชุด รับแขก ลำลอง บุ ผ้า ฝ้าย ลายไม้ ดอก พร้อม หมอนอิง หลาก สี มี คน นั่ง รอ
อยู่ แล้วแต่ ไม่ ปรากฏ ตัว เจ้าของ บ้าน
คน ที่นั่ง รอ เป็น สตรี กลางคน กับ หญิง สาว ผิว ขาว ผม ยาว เสย เปิด หน้าผาก
แล้ว ติด กิ๊บ พลาสติก สี เข้ม ไว้ เรียบๆ สวม กางเกง สี เนื้อ เสื้อ ยืด ขาว แขน สั้น
แล เห็น ท่อน แขน เนียน มน เกลี้ยงเกลา
“คุณ จิต มา จาก ศูนย์ จัดหา พนักงาน น่ะ ค่ะ” แม่บ้าน กระซิบ กับ เผ ดี ยง
“อ้อ”
“ดิฉัน เลย พา หนู คน นี้ มา ให้ คุณ นวยนาด เพราะ เห็น ว่า แก ทำ งาน ด้าน นี้ มา
สอง ปี แล้ว บ้าน สุดท้าย ก็ ดูแล นายจ้าง เป็น มะเร็ง จนกระทั่ง เสีย ก็ เลย ต้อง มา หา
งาน ใหม่ พอดี คุณ นวยนาด ให้ คน โทร. ไป ถาม เลย พา มา ค่ะ นี่ ก็ ถือว่า ต่าง คน
ต่าง ก็ โชค ดี เหมือน กัน ที่ ไม่ ต้อง รอ นาน”
แม่บ้าน หาย เข้าไป พัก หนึ่ง ก็ จูง คุณ นวยนาด ผู้ เดิน ได้ เตาะแตะ ออก มา จัด
ให้ นั่ง บน เก้าอี้ ถัด ไป โดย คุณ สิน เทา เดิน กระฉับกระเฉง ตาม มา ทักทาย เสียง ดัง
“อ้อ…คุณ เ ดี ยง ชื่อ คุณ เผ ดี ยง ใช่ ไหม”
“เดี๋ยว เถอะ…ทำ จำ ไม่ ได้” คุณ เผ ดี ยง เงื้อ ฝ่า มือ ทำท่า จะ ตี ด้วย ท่าที
สนิทสนม “ก็ เผ ดี ยง น่ะ ซี ได้ ข่าว ว่า ขาด คน ดูแล เลย พา เด็ก มา ฝาก ทำ งาน
ลอง ให้ เขา ทำ สัก อาทิตย์ ก่อน ก็ได้ ถ้า ไม่ ชอบ ก็ ยกเลิก ได้”
“คน ไหน”
“คน นี้ ไง” คุณ เผ ดี ยง วางมือ ลง บน ไหล่ เรือง วิชา ชาย หนุ่ม จึง พนมมือ ไหว้
อย่าง นอบน้อม “เป็น ไง มั่ง ท่าทาง เข้า ตา กรรมการ ไหม คุณ สิน”
“เข้า ตา…เข้า ตา” เจ้าของ บ้าน พยัก หน้า
ท่าทาง ของ เขา ภูมิฐาน ผม ดก สี ดอก เลา ช่วย ให้ บุคลิก ดู น่า นับถือ แม้อายุ
เจ็ด สิบ แล้ว แต่ ก็ ไม่ เหี่ยว ย่น ตรงกันข้าม กับ คุณ นวยนาด ภรรยา แม้ มี เค้า ว่า
ครั้ง หนึ่ง เคย เป็น คน งาม แต่ ใน ยาม นี้ เหลือ เพียง ดวง หน้า ผอม เรียว แก้ม ตอบ
หนัง ตา ห ลุ บ ท่าทาง อ่อน ระโหย ตั้งตัว ให้ ตรง ไม่ ได้ แม่บ้าน ต้อง คุกเข่า ลงข้างๆ
จับ บ่า ให้ พิง เก้าอี้
(โปรดติดตามต่อในฉบับเต็ม)