เข้ม แรง แกร่ง รัก (เข็มพลอย)

เข้ม แรง แกร่ง รัก (เข็มพลอย)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9789742533816
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 325.00 บาท 81.25 บาท
ประหยัด: 243.75 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

 

‘บ้านริมทะเลสาบ’ หลังนั้น ลังคงตั้งสงบขาวนวลตรงชายน้ำผืนกว้าง

ลมสดชื่นยามเช้ามืดกำลังพัดเอื่อย ปลุกไล่ความ^ของผืนน้ำเรียบ จน

เริ่มกระเพื่อมไหวเป็นระลอกน้อย ๆ ฟ้ายังไม่สว่างแจ้งนัก เสียงนกสวนใน

หมู่บ้านหลากชนิด ส่งเสียงเป็นกำลังใจ ให้กับลูกบ้านที่มาวิ่งออกกำลังกาย แล้ว

เสียงคุยกันเฮฮาเช่นทุกวันจากกลุ่มนักวิ่ง-นักเดิน ดังลอดเข้าไปในครัว

กว้างสีอิฐ ที่ซึ่งสตรีสูงวัยกำลังเสียบกระเอนเตรียมพร้อมสำหรับ

กาแฟมื้อเช้าของทุกคนในครอบครัว ประกอบด้วยลูกชาย ลูกสะใภ้และหลาน

สาวโสดสองคน จากนั้นจึงล้างจานที่ค้างบนโต๊ะ กันเป็นผลงานของหลานสาว

คนโตตั้งแต่เมื่อคืน พลางกำลังคิดอยู่ว่า อาอะไรออกมาจากตู้เย็น เพื่อยัก

เยื้องเป็นอาหารเช้า เพราะมีทั้งอาหารเย็นที่เหลือ อาหารสำเร็จรูปที่หลานสาว

ชอบซื้อมายัด ๆ เอาไว้ในตู้นั้น และยังของสดอีกหลายชนิด ที่ต่างคนต่างขน

ซื้อกันมาตุนไว้ ตามประสาคนอยู่บ้านจัดสรรชานเมือง

สมองยังไม่ทันจะได้คำตอบ เสยงออดหน้าบ้านพลันดังขึ้นอย่างเกรงใจ

สองครั้ง

คุณย่าเหลือบมองดูนาฬิกากุ๊กกูข้างฝาในครัว เห็นว่าเป็นเวลาห้านาฬิกา

สามสิบห้านาทีเท่านั้นเอง พอเห็นเวลาจึงต้องทำปากขมุบขมิบ คล้ายๆจะ

สวดมนต์แต่ฟังได้ยินว่า

“ไอ้บ้า!!”

รีบเช็ดมือจนแห้ง ค่อยเดินชะโงกมองฝานหน้าต่างห้องครัว ไปที่ประตู

เหล็กหน้าบ้าน มองแล้วยังนึกไม่ออกอยู่ดีว่าใครมาหา เพราะรถที่จอดอยู่ริม

รั้วนั้นไม่คุ้นตาเอาเลย เป็นรถเก๋งสีทรายอ่อนใหม่เอี่ยมจนเงาวับ ทำทางน้ำยา

เคลือบยังไม่ไต้ล้างออกด้วยซ้ำ แต่คนมายืนเกาะรั้วนั้นรู้สึกคุ้นๆตาอยู่บ้าง เป็น

 

ชายหนุ่มร่างสูงอย่างที่เรียกกันว่าหุ่นดี พอเป็นพระเอกหนังได้ ไว้ผมสั้นเรียบ

ร้อยตามสมัยนิยม แต่หน้าตายังเห็นกันไม่ชัด

สตรีร่างเล็กไม่รอช้า รีบเดินเขม้นตาออกไปเพื่อถามไถ่ ทันใด มีเสียง

คุ้นหูมากตะโกนข้ามรั้วเข้ามา

“วู้ คุณย่าครับ สวัสดี กู๊ดมอร์'นิ่ง ฮาวอาร์ยู  ไม่ได้เจอกันนานแล้ว

ลองไทม์โมซี สบายดีหรือครับ”

สั้นเสียงนั้นคุณย่าตบอก ผางร้องออกมาดัง ๆ ว่า

“พ่ออู๋ พ่ออู!นั่น ตายจริง ย่านึกว่าใคร!!

แล้วสาวเท้าไว ๆ จนเกือบเป็นวิ่งไปที่ประตูใหญ่ เสียงแขกยามเช้าร้อง

ห้ามว่า

“สโลว์บัตชัวร์คุณย่า ช้า ช้า อย่าวิ่งซีครับ เดี๋ยวหกล้มไปอู๋จะเสียใจ

ว่ามาทำให้คุณย่าไม่สบาย ผมยืนรอได้สบายมาก คุณย่ากำลังหุงหาอาหารอะไร

อยู่หรือเปล่าครับ”

ประโยคตอนท้ายมีสุ้มเสียงเต็มไปด้วยความหวัง สตรีสูงวัยหัวเราะกิ๊ก

“แหม ตาอู๋ เรานี่หายหนชไม่มีเปลี่ยนเลยนะ เป็นไงล่ะไป

ออสเตรเลีย”

“โอ๊ย เรื่องยาวครับ ไปนั่งคุยกันดีกว่า ห้องร้องแล้ว”

พอคุณย่าไขกุญแจประตูหน้าบ้าน มือแข็งแรงรีบช่วยดันเหล็กโปร่งนั้น

ออกห่างจากกัน หน้าหล่อเหลาคมเข้มยกมือไหว้งาม ๆ ที่บ่าสตรีร่างเล็กอย่าง

นอบน้อม น้ำใสรื้นตาขึ้นมาทั้งสองคน เสียงย่าเครือเล็กน้อยเมื่อรับไหวและ

กล่าวว่า  

“ไหว้พระเถอะพ่อคุณ ย่าคิดถึงเหลือเกินไม่ได้เจอกันเสียนาน

คุณพระคุณเจ้าคุ้มครองให้กลับมาครบสามสิบสอง”

ชายหนุ่มรีบทันตัวกลับไปช่วยเจ้าของบ้านปิดประตูใหญ่ที่รั้วให้เรียบร้อย ก่อนจะพากันเดินเข้าไปในตัวบ้านด้วยความคุ้นชิน

บ้านริมทะเลสาบกับความหลังมากมาย นั่งกับคุณย่า หลานสาวคน
สุดท้องและเจ้าของโครงการหมู'บ้าน ไม่น่าเชื่อว่าวันเวลาฝานไปอย่างรวดเร็ว

เหมือนติดปีก ชีวิตคล้ายเพียงคลิกปมแล้วรีดผ่านไปจริงๆ ภายในบ้านดูเปลี่ยน

แปลงไปมากกับเครื่องเรือนที่เพิ่มขนตามความจำเป็น แล้วยังกองหนังสือพิมพ์

และนิตยสาร ที่เริ่มหนาแน่นชั้นตามโต๊ะตู้และชั้นที่เคยว่างโล่ง สุดบ้ายคือ

ต้นไม้ที่เติบโตจนสูงใหญ่ใบ้ความร่มกริ่ม จากที่ใครคนหนึ่งบ่นว่า

“ต้นไม้น้อยไป ต้องไปขนมาลงอีกจะได้บังแดด”

วันนี้ ร่มเงาของไม้เหล่านี้นครอบคลุมไปทั้งตัวบ้านจนชื้นเย็น แผ่น

ซีเมนต์มีคราบเขียวของพืชชั้นตํ่าจับแน่น ดูคล้ายว่าน่าจะลื่น ดอกสีขาวเล็ก ๆ

ของต้นโมกที่ยืนเรียงเป็นทหารเผ่ารั้วหลังบ้าน กระจายกลิ่นหอไปทั้งครัวนอก

ซึ่งเป็นดินแดนที่เกิดชั้นเพื่อต่อต้านการรุงล้ำของ โรงทาน’ บ้านติดกัน อู๋ยิ้ม

แล้วมองไปยังที่มาของกลิ่น เห็นพวงสีขาวบานยิบเต็มยอดไม้เสมอรั้ว เพราะ

เป็นส่วนที่รับแดดแรงไปเต็ม ๆ ตลอดวัน ลมยาพาพัดหยอกเอินจนดอกพวก

นั้นไหวตุ้งติ้งน่าเอ็นดู

คุณย่ายังแข็งแรงกระฉับกระเฉงและดีเช่นเกย หนุ่มที่เคยเข้านอก

ออกใน จนคล้ายว่าที่นี่เป็นบ้านตัวเอง เดินตามเข้ามาที่ ‘ครัวใน’ อย่างกันเอง

แล้วลงมือหยิบจับจัดเต็มข้าวของด้วยความเคยมือ

“มา พ่ออู๋ กาแฟคนละถ้วยก่อนเลยนะ เมื่อวานแม่โจเค้าซื้อเค้กมะตูม

มาไว้หลายชิ้น พายเนื้อบดก็มี เรามาจัดการกันให้เรียบวุธเลยดีกว่า”

แหม ออกเกรงใจครับคุณย่า ความจริงผมชอบทุกอย่างที่เอ่ยมานั่นนะ

แมนคิดถึงข้าวต้ม'ไข่เค็มกับเกี้ยมฉ่ายน่ะ”

สตรีร่างเล็กกำลังเป็ดตู้เย็นหยิบขนมออกมาชะงักมือ หันมาร้องว่า

“นั่นซีพีออู๋ คนเพิ่งกลับจากเมืองนอกคงคิดถึงอาหารพื้น ๆ ของเรานะ

ไม่เป็นไร เอาเจ้าเค้กกับพายนี่เป็นอาหารเรียกน้ำย่อยกินกับกาแฟไปก่อนแล้ว

กัน ยังไม่ได้ต้มข้าวเลย”

“โห คุณย่า จะกินกันเอิกเกริกขนาดนั่นเลยหรือครับ เกรงใจเปล่าๆ”

“กุ๊ย พ่ออู๋ละก็” ย่าค้อนให้วงใหญ่มาก “บ้าเป็นเกรงอกเกรงใจ แต่

เห็นกินยังกะคนตายอดตายอยากทุกที อย่าทำพูดมากเลย มาลำเลียงอุปกรณ์

การกินไปตั้งโต๊ะเถอะย่ะ”

เสียงหัวเราะลั่นจากหนุ่มหล่อ

“แหม มาเจอสำนวนคุณย่าแบบนี้ค่อยสบายหูหน่อย คิดถึงจังเลย อยู่

ที่นั่นไม่มีใครพูดอะไรแบบนี้ให้ได้ยินเลย”

“แน่ละซี เค้าพูดภาษาอังกฤษกันนี่ยะ

เสียงประสานของความสุขที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะเป็นเสียงเอก เสียง

ถ้วยกาแฟและส้อมสเตนเลสกระทบกันกรุ๋งกริ๋งเสียงสอดประสาน รับกับ

เสียงพื้นหลังของนกร้องและใบไม้ไหวอยู่ด้านนอก กลิ่นกาแฟหอบฉุยตลบ

ครัวขณะหม้อข้าวต้มกำลังเดือดพลุ่ง กลิ่นหอมละม้ายใบเตยอ่อน ๆ แข่งกับ

กลิ่นเครื่องดื่ม

“ไงล่ะพ่ออู๋ มีสะใภ้แหม่มมาไหว้ย่าหรือเปล่า

คุณย่าหาโอกาสยิงค่าถามที่สนใจใคร่รู้เป็นที่สุดจนได้ เมื่อกาแฟและขนม

เข้าไปตุนอยู่ในกระเพาะได้ครึ่งหนึ่งแล้วทำเสียงเหมือนถามไปงั้น ๆ แต่

กำลังคอยฟ้งคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ

“ไม่มีทางครับคุณย่า ผมเป็นพวกรักชาติเข้มข้น ยังไงต้องรักษาสายเลือด บริสุทธิ์ของความเป็นไทยไว้อย่างที่สุด ลูกผมจะได้มีเพดดีกรีสูง’’

“ขนาดนั้นเชียวพ่ออู๋ ย่าทำเสียงไม่ค่อยเชื่อถือ อีกฝ่ายจึงหัวเราะเบา ๆ

                “ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกคุณย่า ทุกวันนี้เราเป็นพลเมืองโลกแล้ว จะมา

แบ่งเป็นไทยจีน อินเดืยน หรือฝรุ่งคอร์นเคเชียนได้ยังไงจริงไหมครับ จะมา

จริงผมยังไม่เจอคนถูกใจต่างหากครับ ที่ออสเตรเลียเต็มไปด้วยเด็กไทยจีน

เกาหลีญี่ป่นแถมญวนกับเขมรที่มีสตางค์ก็แยะไปหมด ไอ้ผมน่ะเวลาคิดจะ

ชอบคนต่างชาติ ไหกลัวจะวุ่นวายแบบไอ้คุณหินของน้องเจนนี่ทุกที เลยคิดว่า

จะมาตายเอาเมืองไทยนี่แหละ”

“ฮื้อ ฟออู๋อาจคิดมากไปก็ได้นะ ดูอย่างแม่เมย์พี่สะใภ้พ่อหินเขายังดืออก

เออ รู้ไหม” ย่าลดระดับเสียงลง เพราะรู้สึกว่าเรื่องซึ่งกำลังจะคุยให้ฟังเป็น

อะไรที่ไม่ควรแพร่งพรายออกไป “ตอนนี้ทางบ้านพ่อหินเค้ากำลังมีเรื่องมีราว

กับบ้านคุณนายผุดผ่องอยู่ เห็นว่าฟ้องร้องกันอุตลุดไปเลย นี่ย่าไม่ได้พูดเองนะ

แม่เจนนี่กับพ่อหินเขามาเล่าให้ฟ้ง”

หน้าเข้มขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย ใจคอไม่ดีเมื่อถามว่า

“เรื่องเกี่ยวกับคุณแตงหรือเปล่าครับ”

“มันก็ก้ำ ๆ กึ่ง ๆกันอยู่ปะ”

“น่าเสียดายนะครับ แล้วคราวนี้คุณแตงเธอมีเรื่องกับคุณอิฐหรือ ไอ้คุณ

หินล่ะครับ ลูกคนรวยเอาแต่ใจตัวแล้วทำให้คนอื่นเดือดร้อนนี่ผมไม่ชอบเลย” “แล้วกัน พ่ออู๋คิดว่าเรื่องอะไรล่ะ”

“แล้วเรื่องอะไรล่ะครับ” อ๋ทำหน้าเหลอ

เรื่องขายบริษัทย่ะ

หนุ่มที่นั่งอยู่ตรงข้ามกันถอนไจเฮือกใหญ่ แล้วตักเค้กเข้าปากคำโตอย่าง

สบายใจ

“แหม ไอ้ผมนึกว่าเรื่องผัว ๆ เมีย ๆ เรื่องบริษัทมันเป็นไงล่ะครับ เห็นว่า

ขายกันให้ทางบริษัทพัฒนาแลนด์แล้วนี่ครับ อะไรๆ น่าจะลงตัวไปแล้ว”

“ไม่ยังงั้นน่ะซี คุณนายผุดผ่อนน่ะ ตอนมีเรื่องเธอรีบขายยกโครงการ

ไปให้กับนายทรงชัย แต่พอตั้งสติได้ ทั้งลูกสาวกับสามีบอกว่าจะเอากลับมา

ทำเอง เลยแต่งทนายไปฟ้องกันนัวเนียจนทุกวันนี้ เพราะต่างอ้างว่าตัวเองได้ ลงทุนกันคนละหลายร้อยล้านบาท ความเสียหายไม่เพียงเรื่องเงินทุน แต่ยัง

เกี่ยวพันกันถึงชื่อเสียงของบริษัท อุ๊ย คนรวยเขาคิดหยุมหยิมนะพ่ออู๋ ตอนนี้

เลยกลายเป็นมองหน้ากันไม่ติดทีเดียว”

คนฟังนิ่งไปอย่างใช้ความคิด แต่คุณย่าไม่ปล่อยให้คิดนาน รีบลุกขึ้น บอกว่า

“ข้าวต้มเรียบร้อยแล้วพ่ออู๋ ผักกระปองโน่นแน่ะเอามาเป็ดเลย ไข่เค็ม

อยู่ในตู้เย็น จัดการกันเลย เออ หมูหย็องก็มีนะ เอามั้ย”

“อย่าถามครับ อย่าถาม บอกมาว่าอยู่ที่ไหนดีกว่า”

เสียงหัวเราะกันเฮฮา อาหารเช้าตัวจริงถูกลำเลียงมาตั้งบนโต๊ะเล็กใน

ครัว คนที่เพิ่งกลับมาเมืองไทยกินข้าวต้มอย่างเอร็ดอร่อยเข้าไปหลายถ้วย

หลังจากคุยกันสารพัดเรื่องชายหนุ่มค่อยถามขึ้นว่า

“แล้วคุณย่ามีหลานหรือยังล่ะครับ”

“ยั้ง” คนตอบทำเสียงสูงเจือด้วยความขัดข้องไม่ได้อย่างใจ “วุ้ย คน

สมัยนี้น่ะจะมีลูกต้องคิดแล้วคิดอีก คิดซะละเอียดยิบ พ่อหินกับแม่เจนนี่เลย

เอากะเขาเหมือนกัน แต่งงานกันมาจะจนป่านนี้แล้วยังไม่ยอมมีลูก กลัวลูก

ลำบากไม่มีใครเลี้ยง เพราะตัวเองยังมีงานทำอยู่พะเรอเกวียน กลัวจะมีเงิน

ไม่พอเลี้ยงลูก กลัวยังโง้นกลัวยังงี้ เดี๋ยวว่าเสียดายวิชาความรู้ที่เรียนมา ยัง

ไม่ได้ใช้เลยต้องมานั่งเลี้ยงลูกซะแล้ว วันดีคืนดีเกิดบ้าอะไรขึ้นมาไม่รู้ กลัว

ว่า...

คุณย่าชะงักคำพูดไว้เท่านั้นจนอู๋ต้องซักด้วยความอยากรู้เป็นที่สุดแล้ว

“อะไรครับคุณย่า”

“กลัวมนุษย์ต่างดาวบุกโลกน่ะซี เดี๋ยวลูกจะลำบาก”

อู๋หัวเราะก๊าก แค่คนพดทำหน้าจริงจัง

“อย่าทำหัวเราะไปพ่ออู๋ คนทุกวันนี้น่าสาร เพราะถูกสื่อครอบงำจน

สติสตังไม่ค่อยจะอยู่เนื้อกับตัว ปัญญาเลยพลอยหดหายไปด้วย บางคน

เป็นถึงนักวิชาการยังบ้า ๆ บอ ๆ เต้นไปตามสื่อ นี่แม่เจนกับพ่อหินมาเปรย

ว่าโลกกำลังตกอยู่ในอันตราย มันเกิดวิกฤติมากมาย ถ้ามีลูกเป็นห่วงกลัว

ลำบากสารพัด อาจเกิดอุกกาบาตชนโลก อาจมีมนุษย์ต่างดาวมาบุกโลกอาจ

มีภัยธรรมชาติ โอ๊ย ย่าจะบ้าตาย สมัยย่าน่ะนะ เรื่องลูกมันเรื่องธรรมชาติ

แท้ ๆ เชียว

เอาเถอะครับ ดีกว่าได้แต่งได้หกเดือนมีหลานนะครับ”

คุณย่าค้อนตาแทบหลุด แล้วถามต่อ

“เออ แล้วพ่ออู๋จะไปทำงานการอะไรที่ไหนล่ะ”

“สบายมากครับคุณย่า บ้านเมืองเราเจริญใหญ่แล้ว รัฐบาลกำลังจะให้

โอกาสทุกคนเป็นเถ้าแก่เจ้าของกิจการ ฉะนั่น ผมคงไม่กลัวว่าจะไม่มีงานทำ เพราะเถ้าแก่จะเต็มบ้านเต็มเมือง เรามันพวกไวต์คอลลาร์กินเงินเดือนไปวันๆ

ได้อาศัยตามน้ำเขาไปซีครับ”

               

(โปรดติดตามต่อในฉบับเต็ม)

 


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (96 รายการ)

www.batorastore.com © 2024