บ่วง (จุลลดา ภักดีภูมินทร์)

บ่วง (จุลลดา ภักดีภูมินทร์)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9789742535162
สั่งจองสินค้า (ต้องการสินค้า)
ราคา: 300.00 บาท 75.00 บาท
ประหยัด: 225.00 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

รถ แท็กซี่ วิ่ง ผ่าน ประตู ไม้ เก่าๆ เข้าไป ภายใน บริเวณ ที่ มี รั้ว ลวดหนาม แซม

ต้น มะขามเทศ กับ พู่ระหง ขึ้น เกะกะ หนา ทึบ ถนน เป็น คัน ดิน ขนาบ ด้วย ท้องร่อง

ตื้น เขิน เต็ม ไป ด้วย หญ้า ปล้อง กับ ผักบุ้ง บริเวณ ทั่วไป ยัง ทิ้ง ร่องรอย ของ ข นัด สวน

รก เ รื้อ

ถนน นั้น พุ่ง ตรง ไป ยัง เรือน ไม้ ที่ เห็น อยู่ ข้าง หน้า แม้ จะ เป็น เวลา บ่ายแก่

แดด ยัง ไม่ ลบ แต่ ก็ ดู สถานที่ อัน เงียบ สงบ นั้น ค่อนข้าง จะ วังเวง อย่างไร พิกล บางที

อาจ เป็น เพราะ เนื้อที่ กว้างขวาง มี ต้นไม้ ใหญ่ ขึ้น หนา จนกระทั่ง บาง ตอน แสง แดด

ไม่ อาจ ลอด ผ่าน ใบ ลง มายัง พื้น ดิน ได้

สภาพ ดังนี้ ทำให้ รัม ภา หน้าเสีย แต่ ลูก แฝด ชาย หญิง ของ หล่อน ศรัท กับ

ศรัย อายุ ยัง ไม่ เต็ม สี่ ขวบพา กัน ตื่นเต้น และ มี ทีท่า ว่า จะ สนุก กับ บริเวณ กว้าง

ขวาง นี้

ศรัท อุทาน ออก มา ว่า

“ดี จัง เลย” พ่อ หนู ติด ประโยค นี้ เวลา ชอบใจ อะไร มากๆ มัก จะ ร้อง ว่า…

‘ดี จัง เลย’

แม่ หนู คู่ แฝด อุทาน ตามอย่าง บ้าง

“ดี จัง เลย” หล่อน ชอบ ทำ ตา มอย่าง พี่ ชาย ไม่ ว่า จะ เป็นการ พูดจา หรือ

การ กระทำ

เด็กชาย ถาม บิดา ด้วย สำนวน เด็กๆ ว่า

“Can we run and play around…Daddy?”

รัม ภา บอก ลูก ว่า

“พูด ภาษา ไทย ซี ลูก”

รถ วิ่ง มา หยุด ตรง ลาน ดิน หน้า เรือน พอดี เด็กหญิง ชาย แย่ง กัน ลง จาก

รถ ส่งเสียง กรี๊ดกร๊าด กับ เกสร ชมพู่ สีชมพู แปร๊ด ที่ หล่น โปรยปราย ลง มา กอง

หา ทาง ป่าย ปีน

พ่อ ของ เด็กหญิง ชาย ก็ มี ท่าทาง ตื่นเต้น เช่น เดียวกัน เขา ก้าว ลง จาก รถ

พร้อม กับ ชาย หนุ่ม ผู้ นั่ง อยู่ ข้าง หน้า คู่ กับ คน ขับ ช่วย กัน ยก กระเป๋า ออก จาก

กระโปรง หลัง รถ คน ขับ ได้ เงิน ค่า จ้าง เรียบร้อย แล้ว ก็ ขับ รถ จาก ไป

ผู้ชาย วัย ประมาณ หก สิบ เดิน ดุ่มๆ ออก จาก ดง ไม้ ด้าน หลัง ลอด ใต้ถุน

เรือน ซึ่ง เป็น ใต้ถุน แบบ เรือน โบราณ ตรง เข้า มา อย่าง รีบ ร้อน ขณะ เดียว กับ ที่

ผู้หญิง วัย เดียวกัน เดิน รีบ ร้อน ลง มา จาก เรือน

“ตา หล้า…ยาย คำ เป็น ยัง ไง บ้าง”

หญิง ชาย สูง วัย ต่าง ไหว้ ชาย หนุ่ม และ หญิง สาว ข้าง กาย เขา ยาย คำ มอง ดู

เด็กหญิง ชาย ผู้ วิ่ง ถลา ไป ทาง โน้น ทาง นี้ อยู่ แถวๆ นั้น

“พ่อคุณ…แม่เจ้า ลูก คุณ มนห รือ คะ น่า รัก ทั้ง คู่”

“เชิญ ขึ้น ไป บน เรือน เลย ดี กว่า ครับ สืบ มัน ยก กระเป๋า ขึ้น ไป ข้าง บน แล้ว”

ศา มน หัน ไป ชวน ภรรยา รัม ภา ร้อง เรียก ลูก หญิง ชาย ให้ มา หา จับ มือ

จูง ไว้ คน ละ ข้าง พา ขึ้น บันได เรือน ซึ่ง ค่อนข้าง ชัน

“มัมมี้… นี่บ้าน ใคร น่ะ” เด็กหญิง ถาม เสียง ใส

“บ้าน คุณ ทวด…grand-grandmother ของ แดด ดี้น่ะ จ้ะ”

รัม ภา เดิน ตาม สามี ขึ้น บน เรือ นถึง ชาน บันได ซึ่ง เป็น ชาน แบบ เดียว กับ

ศาลา ท่า น้ำ มี หลัง คา คลุม สอง ข้าง เป็น ม้า นั่งเล่น ประตู เข้า เรือน อยู่ ตรง กลาง

พอดี…

พอ ก้าว ล้ำ ประตู เข้าไป รัม ภา ก็ ชะงัก!

เบื้องหน้า หล่อน คือ โถง กว้าง ครึ่ง หนึ่ง ของ เรือน โถง นั้น มี ส่วน ยาว ที่

ยาว กว่า ส่วน กว้าง ด้าน หนึ่ง ของ ส่วน กว้าง ทาง ซ้าย มือ คือ หีบ ศพ!

เป็น หีบ ศพ สี ขาว ลาย ทอง ตั้ง อยู่ บน ม้า สูง ประมาณ หนึ่ง เมตร ล้อม ด้าน

หน้า ด้วย โต๊ะหมู่ ประดับ แจกัน ดอกไม้ กระดาษ บน หลัง หีบ ก็ ประดับ ด้วย ดอกไม้

กระดาษ เช่น กัน สี กระดาษ ค่อนข้าง ซีด แสดง ว่า คง จะ อยู่ อย่าง นี้ มา หลาย เดือน

โดย ไม่ ได้ เปลี่ยน เป็น อย่าง อื่น

คู่ แฝด หญิง ชาย จ้อง ดู หีบ ศพ ด้วย นัยน์ตา พิศ วง ขณะ ที่ มารดา รู้สึก ว่า

ใจ ของ หล่อน เต้น ผิด ปกติ

ตาม ธรรมดา หล่อน ไม่ ใช่ คน กลัว ผี ทว่า…บรรยากาศ ของ ที่ นี่ ทำให้ หล่อน

รู้สึก อย่างไร ชอบกล เหมือนกับ มี บาง สิ่ง บาง อย่าง วูบๆ วาบๆ อยู่ ใกล้ ตัว…

คล้าย กระแส คลื่น ไฟฟ้า หรือ อะไร ทำนอง นั้น

สามี เดิน นำ หล่อน กับ ลูก หญิง ชาย เข้าไป นั่ง พับเพียบ เบื้องหน้า หีบ ศพ

ยาย คำ หรือ แสง คำ ของ สามี เล่า ให้ ฟัง เรื่อยๆ ว่า

“ท่าน ไม่ ได้ เป็น อะไร หรอก ค่ะ ตอน หลังๆ ท่าน หลง บ้าง รับ ทาน แล้ว ก็

ว่า ยัง ไม่ ได้ รับ ทาน อะไร ยัง งั้น แหละ ค่ะ แต่ ท่าน ไม่ ได้ เลอะเทอะ นะ คะ อุจจาระ

ปัสสาวะ ท่าน ไม่ เคย ทำ สกปรก เรี่ยราด เหมือน คน แก่ บาง คน เป็น แต่ ว่า บางที

ท่าน ก็ นึก ว่า คน โน้น คนนี้ ยัง อยู่ แต่ บางที ท่าน ก็ จำ ได้ อย่าง คุณ แม่ ของ คุณ มน

บางที ท่าน ก็ นึก ว่า ยัง อยู่ ที่ นี่ บางที ท่าน ก็ นึก ขึ้น ได้ ว่า เธอ เสีย ไป นาน แล้ว”

“แล้ว ไง” ศา มน ถาม ขณะ ที่ จุด ธูป ทั้ง กำ แบ่ง ให้ ภรรยา

“แล้ว ท่าน ก็ งอม หล่น ไป เฉยๆ น่ะ ซี คะ ตอน เช้า วัน หนึ่ง อีฉัน ลุก ขึ้น ดู

ท่าน เห็น ท่าน นอน นิ่ง เงียบ ท่าน คง จะ หลับ ผล็อย ไป เลย แหละ ค่ะ คุณ มน…

ท่าน ไป สงบ ไม่ เจ็บ ไม่ ป่วย ไม่ กระโตกกระตาก อะไร เลย”

รัม ภาย ก มือ ที่ ถือ ธูป ขึ้น ประนม นัยน์ตา มอง ดู ภาพถ่าย ของ หญิง วัย-

กลางคน เบื้องหน้า หีบ ศพ…คุณ ทวด ของ สามี เพิ่ง สิ้นชีวิต เมื่อ ปี ที่ แล้ว นั่นเอง

อายุ ของ ท่าน ๙๙ อีก เพียง ปี เดียว ก็จะ ครบ ร้อย! ภาพ นี้ คง เป็น ภาพถ่าย เมื่อ

อายุ ไม่ เกิน ห้า สิบ หน้าตา ยัง มี เค้า สะสวย

รัม ภา ไม่ อยาก สบ สายตา ซึ่ง ดู คล้าย กับ ว่า กำลัง จ้อง มอง หล่อน แต่ ก็

ดู ราวกับ ว่า มี อำนาจ ลึกลับ บาง อย่าง บังคับ ไม่ ให้ หล่อน เมิน หนี ทำให้ รัม ภา ต้อง

แข็ง ใจ สบตา ด้วย…

…แล้ว หล่อน ก็ ขนลุก ซู่ ขึ้น มา โดย ไม่ มี เหตุผล!

“นี่ ตั้งแต่ คุณ ทวด เสีย มี สวด ทำ บุญ อะไร กัน บ้าง ห รือ เปล่า นี่” ศา มน

ถาม สอง สามี ภรรยา ตา หล้า ตอบ ว่า

“มี ครับ ท่าน เขียน สั่ง เอา ไว้ ว่า ไม่ ให้ เอา ศพ ท่าน ไป ตั้ง ที่ วัด ให้ ตั้ง ที่ บ้าน

คุณ สุร เดช กับ คุณ วิกรม ท่าน ก็ เลย ให้ สวด ที่ นี่ เจ็ด วัน ครบ ร้อย วัน ที ผม ก็ ไป

นิมนต์ พระ ที่ วัด ใกล้ๆ มา สวด ให้ ท่าน…สอง ครั้ง แล้ว ครับ”

“แล้ว พี่ เดช กับ พี่ วิกรม เขา ไม่ ได้ มา อีก เลย เรอะ”

“ไม่ ได้ มา ครับ ท่าน บอก ว่า ให้ รอ คุณ มน มา จัดการ เอง”

“อือ ม์…” ศา มน คราง เบาๆ สุร เดช กับ วิกรม เป็น หลาน ย่าทวด ที่ เหลือ

เพียง สอง ของ คุณ ทวด ส่วน เขา เป็น หลาน ยายทวด ความ สัม พัน ธ์ ของ สุร เดช

และ วิกรม ต่อ คุณ ย่าทวด ของ เขา ทั้ง สอง นั้น ห่างเหิน กัน จน แทบ จะ ไม่ เหลือ เยื่อใย

สุร เดช เพียง แต่ โทรศัพท์ ไป บอก เขา ว่า

‘คุณ ทวด ของ เธอ ตาย แล้ว ตา หล้า แก มา บอก พี่ ก็ เลย ไปจัด การ เรื่อง

ศพ ให้ ถ้า เธอ มา ได้ ก็ มา แต่ ถ้า มา ไม่ ได้ ก็ ไม่ จำเป็น ต้อง ห่วง จะ เก็บ ไว้ ให้ เธอ

มา เผา เอง เพราะ เธอ เป็น คน รับ มรดก บ้าน ของ ท่าน ที่ ใน สวน…’

พอ แดด ลบ หมด อากาศ ก็ มืด ครึ้ม ลง อย่าง รวดเร็ว ตา หล้า ลุก ขึ้น เปิด

ไฟ ห้อง โถง และ ไฟ หน้า เรือน ศา มน บอก ภรรยา ว่า

“เรา มา ถึง มัน จวน ค่ำ พอดี เลย ไม่ ได้ เดิน ดู ทั่วๆ สวน”

“นี่ คืน นี้ เรา ต้อง นอน ที่ นี่ จริงๆ หรือ คะ นี่” รัม ภา ถาม เบาๆ ศา มน ยิ้ม

“คืน นี้ หรือ คืน ไหน เรา ก็ ต้อง อยู่ ที่ นี่ เพราะ มัน เป็น บ้าน ของ เรา ทีนี้

จะ ได้ สมใจ คุณ เสียที ยัง ไง ล่ะ จ๊ะ…อยู่ โน่น เรา อยู่ อ พา ร์ตเ มนต์ เล็ก นิดเดียว คุณ

เคย อยาก ได้ บ้าน ที่ มี บริเวณ เป็น ส่วนตัว บ้าน เรา ตอน นี้ มี บริเวณ กว้างขวาง ถึง

ห้า ไร่ เชียว นะ”

“คุณ เล็กๆ สอง ค นจะ สนุก…พรุ่งนี้ ผม จะ พา ไป วิ่ง เล่น ให้ ทั่ว สวน เลย”

“จริงๆ นะ อย่า โกหก รัตตี้ นะ รัตตี้ จะ วิ่ง…วิ่ง…วิ้ง ให้ ทั่ว สวน เลย” เด็กชาย

ทำท่า วิ่ง เด็กหญิง ยานคาง พูด ตาม ว่า

“ไล ล่า ก็ จะ วิ้ง…วิ่ง… วิ่ง เหมือน กัน”

ตา หล้า กับ ยาย คำ หัวเราะ แต่ รัม ภา หัวเราะ ไม่ ออก…หล่อน ไม่ อยาก อยู่

บ้าน นี้ เลย ไม่ รู้ ว่า เพราะ อะไร

รัม ภา เดิน ตาม สามี ไป ยัง ห้อง ซึ่ง ตา หล้า กับ ยาย คำ จัด เตรียม ไว้ ให้ เรือน

ใหญ่ นั้น แบ่ง ตอน หน้าเป็น โถง กว้าง แล้ว ก็ แบ่ง ตอน หลัง ออก เป็น สอง ซีก ด้วย

ช่อง ทาง เดิน ไป สู่ ชาน หลัง เรือน ใหญ่ ด้าน ซ้าย ของ ช่อง ทาง เป็น ห้อง กว้าง เพียง

ห้อง เดียว เคย เป็น ห้อง ของ คุณ ทวด แต่ บัดนี้ ถูก ปิด คล้อง กุญแจ เอา ไว้ ส่วน

ด้าน ขวา แบ่ง ออก เป็น สอง ห้อง ตา หล้า ยาย คำ กับ ลูกชาย ของ แก คือ บุญ สืบ พา

ศา มนเดิน เลย ไป ยัง ห้อง ที่ สอง

“อีฉัน จัด ห้อง นี้ ไว้ ให้ คุณ มน คุณ มน จะ รับ ทาน ข้าว เมื่อ ไหร่ บอก อีฉัน นะ คะ

อีฉัน จะ จัด ให้ ที่ โต๊ะ นี่”

‘โต๊ะ นี่’ ของ ยาย คำ คือ โต๊ะ สี่เหลี่ยม ยาว วาง อยู่ ตรง ช่อง ทาง เดิน ซึ่ง

กว้าง พอ ที่ จะ วาง โต๊ะ อาหาร และ เก้าอี้ ได้ อย่าง สบาย

“ขอบใจ มาก นะ เดี๋ยว ฉัน เรียบร้อย แล้ว จะ เดิน ไป หา ที่ ครัว”

“ร้อง เรียก ผม ดี กว่า ครับ ชาน แล่น หลัง เรือน มัน ผุ มาก แล้ว บาง ตอน

ผม ต้อง เอา ไม้ กระดาน พาด ไว้ บาง ตอน ก็ หลุด ไป ทั้ง แผ่น ตอน หลัง ท่าน หลงๆ

เลอะๆ ว่า จะ ซ่อม ก็ ไม่ ได้ ซ่อม จน ท่าน สิ้น”

บุญ สืบ ลูกชาย อายุ ๒๕ ของ ตา หล้า กับ ยาย คำ กล่าว กับ ศา มน ว่า

“ถ้า คุณ ไม่ มี อะไร ใช้ ผม แล้ว ผม จะ กลับ ไป นอน อู่ นะ ครับ พรุ่งนี้ ผม จะ

เข้า มา หา คุณ แต่ เช้า”

เขา หมาย ถึง อู่ ซ่อม รถยนต์ ของ พ่อตา เขา บุญ สืบ เรียน จบ วิทยาลัย เทคนิค

แผนก เครื่องยนต์ เขา แต่งงาน กับ ลูกสาว เจ้าของ อู่ ซ่อม เล็กๆ ทาง ฝั่ง ธนบุรี นี้

เหมือน กัน อยู่ ไม่ ไกล จาก บ้าน สวน ของ คุณ ทวด เท่าใด นัก

บุญ สืบ กลับ ไป แล้ว ตา หล้า กับ ยาย คำ ข้าม ไป เรือน ครัว ซึ่ง มี นอก ชาน ผุๆ

เชื่อม กับ เรือน ใหญ่ บน เรือน ใหญ่ เห ลือ ศา มน กับ ภรรยา และ ลูก น้อย สอง คน

ห้อง ที่ ตา หล้า กับ ยาย คำ จัด ไว้ ให้ นั้น ศา มน เคย มา นอน กับ มารดา เมื่อ

สิบ ห้า ปี ก่อน ตอน นั้น อายุ ของ เขา เพิ่งจะ สิบ หก จำ ได้ ว่า บ้าน นี้ ยัง มี ผู้คน อยู่

หลาย คน เวลา ผ่าน ไป คุณ ทวด แก่ หง่อม ลง จน ไม่ อาจ เป็นที่ พึ่ง ของ คน จำนวน

มาก…ที่ แก่ ชรา มา ด้วย กัน ก็ ตาย ไป ก่อน ที่ มี สามี ภรรยา ก็ พา กัน ออก ไป อยู่ ข้าง

นอก ใน ที่สุด ก็ เหลือ อยู่ เพียง ครอบครัว เดียว…ตา หล้า กับ ลูก เมีย ผู้ บากหน้า มา

พึ่ง คุณ ทวด ขอ เพียง ข้าว กิน กับ หลังคา คุ้ม หัว…

แล้ว ก็ เลย อยู่ เป็นเพื่อน จนกระทั่ง ถึง วาระ สุดท้าย ของ คุณ ทวด…

ยาว ลง ชะแล็ก ค่อนข้าง ใหม่ ไม่ เก่า เหมือน ไม้ ด้าน นอก ซึ่ง โดน แดด โดน ฝน

อยู่ ตลอด เวลา สภาพ ของ ห้อง ไม่ มี อะไร น่า กลัว แต่ เครื่อง แต่ง ห้อง นี่ สิ…เตียง

เหล็ก ซึ่ง พื้น สปริง ค่อนข้าง หย่อน ยาน วาง อยู่ ชิด ฝา ด้าน หนึ่ง ปู ด้วย ที่นอน ไม่

หนา นัก บุ๋ม ลง ไป เป็น แอ่งตาม ความ หย่อน ของ พื้น เตียง ทั้ง หมอน ที่นอน

และ มุ้ง กาง คร่อม เสามี กลิ่น สาบๆ ของ การบูร ชิด ฝา ตรง ข้าม กับ เตียง มี ตู้ เก่าๆ

หลาย ใบ สูง บ้าง ต่ำ บ้าง วาง เรียง กัน เต็ม ปลาย เท้า ก็ มี ตู้สูง ท่วม หัว ขนาบ

สอง ข้าง ประตู ออก ไป ห้องน้ำ ตู้ บาง หลัง บาน ตู้ เป็น กระจก เก่าๆหลอก ตา ดู น่า

กลัว แม้แต่ เงา ของ ตัวเอง!

กลาง ห้อง ปู ที่นอน หลัง เล็กๆ ไว้ สอง หลัง พร้อม ด้วย หมอน ผ้า ห่ม และ

มุ้ง พับ วาง เอา ไว้ เรียบร้อย มี กลิ่น สาบ ชวน ให้ รัม ภา ขนลุก เยือกๆ พิกล…

ลูก แฝด ของ หล่อน ไม่ เคย เห็น มุ้ง พา กัน ส่งเสียง กรี๊ดกร๊าด แหวก ประตู

มุ้ง เล่น แล้ว ปีน ขึ้น ไป กระโดด ขย่ม เตียง สปริง อย่าง สนุกสนาน

“This is circus…Mommy” ลูกชาย ส่งเสียง

ความ รื่นเริง ของ ลูก แฝด ทำให้ บรรยากาศ ค่อย ดี ขึ้น บ้าง รัม ภา ฝืน หัวเราะ

กับ ลูกๆ ปราม ว่า

“อย่า ส่งเสียง ดัง นัก ลูก…”

“เดี๋ยว คุณ ทวด ของ แดด ดี้ ตื่น ใช่ ไหม” ลูกสาว ทำ เสียง กระซิบกระซาบ

ยานคาง ถาม คำ ถาม ของ แก ทำให้ มารดา ผู้ หวาด กับ บรรยากาศ ใน บ้าน อด สะดุ้ง

อยู่ ใน ใจ ไม่ ได้

“ไม่ หรอก ลูก…” ตอบ ได้ แค่ นั้น ศา มน ก็ หัวเราะ ขัด ขึ้น บอก ลูกสาว ด้วย

เสียง ธรรมดาๆ ว่า

“คุณ ทวด ของ แดด ดี้ ไม่ ตื่น แล้ว ท่าน ตื่น ขึ้น มา อีก ไม่ ได้ เพราะ ท่าน ตาย

แล้ว”

“ตาย เป็น ยัง ไง หือ แดด ดี้” ลูกชาย ถาม

ก่อน ที่ บิดา จะ ทัน อธิบาย ถึง เรื่อง ความ ตาย ใน บ้าน ซึ่ง มี ศพ ตั้ง คา บ้าน

อยู่ รัม ภา ก็ รีบ ขัด ขึ้น บ้าง

“เลิก พูด ถึง เรื่อง นี้ กัน ที ลูก สอง คน ไป เข้า ห้องน้ำ กับ แม่ อาบ น้ำ เปลี่ยน

เสื้อ ผ้า เดี๋ยว จะ ได้ ออก ไป กิน อาหาร”

* * *

คืน วัน นั้น รัม ภา จัด ให้ ลูก ทั้ง สอง นอน บน เตียง ซึ่ง ออก จะ เป็นที่ สบ

อารมณ์ ของ ลูก แฝด มาก เพราะ เตียง สปริง มัน ยวบยาบ เหมือน เปล ส่วน หล่อน

กับ ศา มน นอน บน ที่นอน เล็ก ปู กับ พื้น ห้อง และ กาง มุ้ง

ใน สภาพ อย่าง นี้…แน่ ละ…รัม ภาพ ยา ยาม ข่ม ใจ ให้ หลับ เท่าใด ก็ ไม่ ยอม

หลับ หล่อน รู้สึก ผิดหวัง กับ บ้าน ซึ่ง สามี คุย ให้ ฟัง ว่า มี บริเวณ กว้างขวาง ร่ม รื่น

ด้วย ต้นไม้ มากมาย ทำให้ หล่อน นึก วาด ภาพ เรือน ไม้ โปร่งๆ อย่าง ที่ ฮาวาย

ท่ามกลาง สวน สวย หรือ อย่าง น้อย ก็ ไม่ ใช่ สวน รกๆ รุงรัง แบบ นี้…

รัม ภา ชะเง้อ ดู ลูก หญิง ชาย เห็น นอน เอียง เข้าหา กัน เบียด กัน อยู่ ตรง กลาง

แอ่ง ที่นอน…หลับ ปุ๋ย…

หัน มา มอง ดู สามี…เขา หลับ สบาย เช่น กัน หายใจ เป็น จังหวะ สม่ำเสมอ

แสดง ว่า หลับ สนิท…และ อาจจะ ฝัน ดี!

บ้าน นี้ ทั้ง หลัง รวม ทั้ง เรือน ครัว เห็นจะ มี แต่ หล่อน คน เดียว นอน ลืมตา

ตื่น อยู่ ทั้งๆ ที่ หวาด หล่อน ก็ อด เหลือบ ดู โน่น นี่ ท่ามกลาง แสงจันทร์ สลัว ที่ ส่อง

ผ่าน ช่อง หน้าต่าง เข้า มา ไม่ ได้…

ต้นไม้ ใหญ่ หลาย ต้น ข้าง นอก…กิ่ง และ ใบ มี รูป ลักษณะ ต่างๆ ยิ่ง เพ่งยิ่ง

เห็น เป็น รูปร่าง คล้าย อย่าง โน้น อย่าง นี้…เหมือน คน กวัก มือ…เหมือน คน ส่าย หัว

…เหมือน อสุรกาย…

เงา ภายใน ห้อง ไหว วูบวาบ เนื่องจาก กระจก สะท้อน แสงจันทร์ ยิ่ง เพิ่ม

ความ น่า กลัว จนกระทั่ง รัม ภา นึก อยาก ปลุก สามี ให้ ตื่น ขึ้น มา เป็นเพื่อน ถ้า ไม่

เกรง เขา จะ บ่น เอา ว่า หล่อน เหลวไหล

ท่ามกลาง อารมณ์ ไหว หวาด อย่าง ไม่ เคย เป็น มา ก่อน…รัม ภา นอน เคลิ้ม…

หลับๆ ตื่นๆ…

หล่อน ฝัน ร้าย…ฝัน เห็น หน้า ผู้หญิง หลาย หน้า…พร่าๆ เลือนๆ บาง หน้า

ยิ้มแย้ม บาง หน้า ก็ ถมึงทึง เต็ม ไป ด้วย ความ เกลียด ชัง และ อาฆาตมาดร้าย สลับ

 

(โปรดติดตามต่อในฉบับเต็ม)


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (96 รายการ)

www.batorastore.com © 2024