คุ้มผาคำ (นิดา)

คุ้มผาคำ (นิดา)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9789742534844
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 200.00 บาท 50.00 บาท
ประหยัด: 150.00 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

รถยนต์เก๋งขนาดกลางวิ่งไต่ขึ้นไปตามทางมุ่งขึ้นไปสู่ดอยสุเทพ

พอกึงทางแยกเล็ก ๆ เซิงเขาด้านซ้ายมือ ความเร็วของรกก็ชะลอลงเล็กน้อย และเลี้ยวอย่างนุ่มนวลเข้าไปตามทางแยกนั้น เห็นซัดว่าเป็นทางส่วนตัว ตัดตรงไปยังคฤหาสน์หลังหนึ่งซึ่งมองเห็นสูงเด่นแต่ไกล บ้านหลังนั้นตรง กับคำว่า ‘คฤหาสน์’ ด้วยความเก่าแก่และมองดูโอ่อ่าภาคภูมิ

รถจอดลงข้างทาง ไกลจากประตูคฤหาสน์หลังนั้นไม่น้อย ชายซึ่งทำหน้าที่ เป็นผู้ขับหยุดเครื่อง และนั่งนิ่งลักครู่หนึ่ง สายตาจับจ้องอยู่ตรงยอดโดมของตึก เก่าหลังนั้นอย่างตรึกตรอง แล้วจึงหันมาหาบุรุษอีกผู้หนึ่งซึ่งนั่งอยู่เคียงข้าง

“ลงตรงนี้เถอะ นล แล้วเดินเข้าไปเอง ไม่ลังรั้นใครอาจมองเห็นเราจาก หน้าต่างชั้นบนได้” เขานึ่งไปครู่หนึ่งแล้วจึงพูดต่อ “ยอดโดมที่เห็นนั้นแหละ ‘คุ้มผาคำ’ ที่นายจะไปอยู่”

ชายหนุ่มผู้โดยสารเพียงแต่พยักหน้ารับทราบคำสงนั้น สีหน้าของเขาเฉย ๆ ไม่บอกอาการยินดียินร้าย ว่าไปตามจริงแล้ว เขาเป็นชายที่มีลักษณะรูปร่างและ หน้าตาน่าตูทีเดียว ถ้าหากอยู่ในเครื่องแต่งกายที่มีสง่าราคีกว่านี้ลักหน่อย ด้วย บัดนี้เขาเพียงแต่นุ่งกางเกงผ้าฝ่ายธรรมดาๆสีเข้ม จึงไม่ค่อยเห็นความลันยู่ยี่ ที่แสดงถึงคุณภาพชั้นกลางของเนื้อผ้านั้น เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวสะอาดตัดเย็บ เรียบร้อย แต่ก็ไม่สมกับความหนุ่มฉกรรจ์และสมัยนิยม ซึ่งบุรุษในวัยเดียวกับเขา นี้มักไข้เสื้อเชิ้ตสีต่าง ๆ สวยงามไปตาม ๆ กัน

ขณะนั้นเขาเอี้ยวตัวไปหยิบกระเป๋าเดินทางขนาดเล็กที่วางทิ้งอยู่ที่เบาะหลัง ด้วยทำทางเกียจคร้านนิดๆ ครั้นหยิบได้แล้วก็เอาวางไว้บนตัก ไม่ปริปากพูด และ

ไม่ทำท่าจะลงไปจากรถด้วย ชายผู้ทำหน้าที่ขับรถมาส่งมองดูกิริยานั้นอย่างรำคาญ “นายไม่ชอบชีนะ งานชิ้นนี้...”

ผู้ถูกถามหันไปมองดูชายผู้มีอาวุโสกว่า ด้วยสีหน้าเรียบเฉยตามเคย แต่ แล้วเขาก็พยายามยิ้มออกมาได้เล็กน้อย เมื่อกล่าวตอบ

“ชอบหรือไม่ชอบ ผมมีทางเลือกเสียเมื่อไหร่...ไปละ แล้วจะส่งข่าวตาม

เคย”

“โชคดี...” สหายของเขากล่าวพลางเอื้อมมือมาตบไหล่นลเบาๆ “คงไม่น่า เบื่อนักหรอกน่ะ นล บ้านนี้มีลูกสาวสวยตั้งสามคน แล้ว ‘งาน’ ที่เราล่งนาย มาทำครั้งนี้ก็,น่าสนใจพอควร ถึงจะไม่ต้องมีบทบู๊ล้างผลาญอย่างที่นายโปรดปราน ก็เถอะ”

นลก้าวลงจากรถ และเดินตัวตรงไปตามทางเล็กๆ ชึ่งค่อยๆสูงชันขึ้นไป

เรื่อยๆ

บุรุษผู้ทำหน้าที่ขับรถขังคงนั่งนิ่งเฉย มองตามร่างสูงๆที่เดินตรงแน่วไม่ เหลียวหลังอย่างนึกชำ นลเป็นคนเอางานเอาการ แต่ออกจะเฉยเมยเคร่งขรึมจน กระทงคนที่ไม่รู้จักสนิทมักจะกล่าวหาว่าเขาเป็นคนหยิ่งถือตัว แต่สำหรับ ร.ต.อ. ยุทธนา ผู้เป็นทั้งผู้'บังคับบัญชา และเพื่อนอาวุโสของนลรู้ดิว่าเขามีได้เป็นเช่นนั้น จริง ที่รู้จักคุ้นเคยและถูกอัธยาศัยกันรู้ดีว่า นลมีน้ำใจดีต่อเพื่อนเพียงไร ชั่วแต่

เขามักเคร่งขรึมเฉยเมยจนทำให้คนที่มีใช่เพื่อนสนิทเข้าใจผิดบ่อย ๆ ครั้ง

ยุทธนามองดูทำเดินของสหายอ่อนอาวุโสของเขาอีกครั้งหนึ่งอย่างนึกขันใน ใจ เกือบจะทายได้ว่าใบหน้าคมลันนั้น บัดนี้คงจะยิ่งเคร่งขรึมเฉยชา ริมฝีปากที่

ได้รูปงามบอกความฉลาดสุขุมและเอางานเอาการนั้น บัดนี้ก็คงจะหุบสนิทปราศ- จากรอยยิ้ม    บางครั้งนลช่างเหมือนรูปหุ่นชึ่งมีโครงสร้างและรูปลักษณ์ดีพร้อม

หากแต่ขาดชีวิตจิตใจ

ยุทธนารู้ดีว่าชีวิตในวัยเยาว์ของนลนั้น ต้องผจญกับความยากสำบาก และ เกือบจะถึงขนาดขัดสนอยู่ไม่น้อย สาเหตุสำคัญที่ทำให้บุคลิกของชายหนุ่มผู้นี้ดูคล้ายคนชิงขังสังคม ก็คือความที่เขาเป็นเด็กขาดบิดาโอบอุ้มอุปการะเช่นเด็กอื่น ๆ

โดยทั่วไป มารดาผู้มีเชื้อสายสกุลเก่าแก่ หากขาดเสียซึ่งทรัพย์สินพอที่จะพยุง

ฐานะดั้งเดิมให้คงอยู่ หรือแม้แต่การทะนุบำรุงบุตรชายคนเดียวในด้านการศึกษา

ซึ่งท่านตระหนักว่าเป็นหน้าที่สำคัญที่สุด จึงจำด้องละทิฐิบากหน้าเข้ามาขออาศัย อยู่กับญาติห่างๆของสามี ผู้มีหลักฐานดีพอประมาณ ท่านพยายามกระเหม็ด กระแหม่ ใช้เงินมรดกอันมีอยู่เพียงจำกัดส่งเสียบุตรชาย จนกระทงเขาเรียนจบ มหาวิทยาลัยสาขาวิชารัฐศาสตร์

เมื่อสอบได้ปริญญาบัตรแล้ว นลก็เข้ารับราชการในกรมตำรวจทันที และ ในปลายปีนั้นเอง เขาก็ได้รับทุนไปศึกษาต่อ ณ ประเทศอังกฤษเป็นเวลาถึงสามปี

เขาเดินทางกลับบ้านเกิดเมืองนอน เพียงเพื่อจะพบว่ามารดาเริ่มป่วยกระ- เสาะกระแสะ และได้ชื่นอกชื่นใจกับความสำเร็จของบุตรชายอยู่เพียงหกเดือนท่าน ก็จากเขาไปอีกคนหนึ่ง

และหลังจากนั้น นลก็ถูกย้ายมาประจำสถานีตำรวจในภาคเหนือ และ

ได้รับคำสงพิเศษจากกรมให้มาปฏิบัติงานหน้าที่สำคัญ ซึ่งจำเป็นต้องไข้คนที่ไม่มี ใครรู้จักหน้าคุ้นเคยในถิ่นนี้มาทำงานอย่างหนึ่งที่ ‘คุ้มผาคำ’ นี้

ร.ต.อ.ยุทธนา สหายเก่าเป็นผู้ชี้แจงการปฏิบัติงานโดยละเอียด ก่อนที่

จะพาตัวเดินทางมากังคฤหาสน์หลังนี้...

นลเดินตรงไปจนถึงประตูใหญ่ ซึ่งเป็นประตูเหล็กโปร่งแต่มองดูขึงขังมั่นคง กำแพงสีขาวหม่นนั้นสูงชื้นมาเพียงระดับอก ส่วนบนเป็นเหล็กตัดลวดลายรันกับ ประตู กำแพงนั้นทอดยาวระหว่างประตูไปตามทาง บอกอาณาเขตที่กว้างขวาง ใหญ่โต

นลแหงนหน้ามองดูประตูเหล็กนั้นอย่างสนใจ ไม่ข้าก็เห็นแผ่นโลหะสีทอง- แดงรูปรี ฝังผนึกอยู่ตรงส่วนยอดของเสาข้างประตูด้านขวามือ เมื่อเพ่งมองอยู่ครู่ หนึ่งจึงเห็นขัดว่าลายนูนในแผ่นโลหะนั้นเป็นรูปเชิงผาหรือทุบเขา ได้แผ่นโลหะนั้น มีตัวอักษรทำด้วยโลหะชนิดเดียวกันฝังลงไปในเนื้อชีเมนต์ เป็นตัวอักษรที่เขียน แบบอักขระโบราณ อ่านได้ความว่า ‘คุ้มผาคำ’

ถนนซึ่งทอดจากประตูไปสู่ตัวคฤหาสน์นั้น      เป็นอิฐสีแดงที่บดแน่นเรียบ

สองข้างถนนนั้นคือร่องไม้ดอกจำพวกฟล็อคและเวอร์บีน่าเฉพาะที่เป็นสีฟ้าอมม่วง ล้วน ไม่มีสีอื่นปน

ตัวตึกนั้นไม่ใหญ่โตมากอย่างที่นลคิดคาดไว้แต่ก่อนมาถึง หากมองตูภาคภูมิ บอกอายุว่าสร้างมาไม่ตากว่าหกสิบปีเป็นอย่างน้อย สนามหญ้าหน้าตึกกว้างใหญ่ ไปจรดกำแพงด้านหน้าและด้านข้าง เป็นสนามที่ได้รับการตกแต่งบำรุงรักษาอย่าง ดียิ่ง ร่องดอกไม้งาม ๆมิเป็นระยะ เรียงรายอยู่ตามขอบสนามนั้น

ชายหนุ่มพยายามกวาดตามองหาใครสักคน แต่ก็ไม่เห็นผู้ใดปรากฏกาย

ขึ้นภายในบริเวณบ้านหลังนั้น เขาลังเลอยู่1ชั้วครู่ เมื่อสังเกตเห็นประตูเหล็กใหญ่ที่ เขายืนประจันหน้าอยู่ปิดสนิท มองหากระดิ่งหรือสัญญาณเรียกคนในบ้านให้มา เปิดประตูก็ไม่เห็นมิ จนกระทงเมื่อกวาดสายตาไปอิกครั้งอย่างพินิจพิเคราะห์ จึง เห็นประตูเล็กๆข้างประตูใหญ่อิกบานหนึ่งเปิดแง้มอยู่ เขาถอนใจอย่างโล่งอก เปิด ประตูนั้นและก้าวเข้าไปภายใน

ขณะที่เดินตรงไปนั้น ออกจะประหลาดใจครามครันในความเงียบสงัดราว กับปราศจากผู้อยู่อาศัย เขาแหงนหน้ามองตูตัวตึกอิกครั้งหนึ่ง เป็นตึกสองชั้น ธรรมดา หากแต่ตรงยอดโดมนั้นมองตูเหมือนหอคอยโบราณ สีเหลืองนวลที่ฉาบ

ตึกนั้นเก่าซีดจาง แต่กังคงไว้ซึ่งความสง่างดงาม

เขาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าตึกนั้นเองอย่างงุนงงไปชั้วครู่ บันไดที่เห็นนั้นเป็น บันไดหินอ่อนสามชั้น และเฉลียงเล็กๆปูกระเบื้องสีสวย ประตูหน้าปิดสนิท...

อย่างรู้หน้าที่ดีในนาทีต่อมา นลก็เดินอ้อมตัวตึกไปกังด้านหลัง ซึ่งเป็นทาง เดินลาดซีเมนต์แข็งแรง ทางนั้นไปสุดตรงตึกเตี้ยๆเชื่อมติดกับตัวอาคารใหญ่ เห็น ชัดว่าเป็นอาคารที่สร้างเสริมชั้นใหม่เพื่อวัตถุประสงค์อะไรอิกอย่างหนึ่ง ซึ่งขณะนั้น เขาไม่รู้ชัด

อาคารเตี้ยชั้นเดียวด้านหลังของตึกใหญ่นี้ก็เช่นเดียวกัน คือมิประตูที่ปิด สนิท จนกระทงเมื่อนลตัดสินใจยกมือชั้นเคาะสองสามครั้ง มันจึงเปิดออกอย่าง กะทันหันจนเขาเกือบจะตกใจ หากแต่ชั้งสดีไว้ได้ทัน คนที่มาเปิดประตูรับเขานั้น

 

เป็นชายกลางคน ร่างสันทัดใบหน้าเรียบ ๆไม่มีอะไรน่าสะดุดตา นอกจากความ เรียบเฉยในท่าที เขาผู้นั้นแต่งกายอย่างเรียบร้อยสะอาดตา แต่ก็มีอะไรอย่างหนึ่ง ที่บอกให้นลรู้ว่า ไม่ใช่คนชั้นเจ้าบ้านหรือญาติพี่น้อง ชายหนุ่มกล่าวแนะนำตนเองอย่างเรียบร้อย “ผมชื่อนล ท่านรับไว้เป็นคนขับรถชั้วคราว สงให้ผมมาวันนี้...”

“ถ้าชั้นก็เข้ามาได้...ท่านสั่งไว้แล้ว” เมื่อพูดดังนั้นแล้ว ฝ่ายเจ้าบ้านก็เปิด ประตูให้กว้างชั้นอีกเล็กน้อย และทันกลับเดินน่าเข้าไป ห้องที่นลก้าวเข้าไปนั้นเห็น ได้ว่าเป็นห้องเตรียมอาหารหรือทำงานเล็ก ๆ น้อย ๆ ของพวกคนไข้ มีโต๊ะสี่เหลี่ยม ตั้งอยู่กลางห้อง มีภาชนะประจำบ้านอย่างลักษณะเป็นห้องแพนทรีแบบสมัยใหม่

 นลนั่งลงบนเก้าอี้ตัวหนึ่ง ในขณะที่ชายคนนั้นเดินไปเปิดประตูตู้ติดผนัง หยิบถ้วยแก้วและรินน้ำจากตู้เย็นขนาดย่อมที่มุมห้อง เสร็จแล้วนำมาวางให้บนโต๊ะ อย่างเรียบร้อย

“ฉันชื่อทัด...” ชายกลางคนผู้นั้นกล่าวชั้น “เป็นหัวหน้าคนรับใช้ที่นี่”

ทัดนั่งลงบนเก้าอี้อีกตัวหนึ่ง สีหน้าไม่บอกอาการยินดีต้อนรับหรือไมตรีจิต แต่อย่างใด หากเห็นได้ว่าเป็นคนมีอัธยาศัยพอสมควร หรือมีฉะนั้นก็เป็นคนที่ได้ รับการอบรมมาตี

ขณะนั้น ก็มีหญิงร่างใหญ่อีกคนหนึ่งเดินเข้ามาจากประตูชั้นในที่คงจะเชื่อม กับตึกใหญ่ ในมือของหล่อนมีจานอาหารเปล่าๆถืออยู่ นางหยุดยินมองดูนลด้วย ความสนใจอย่างเปิดเผย

“นี่คนรถใหม่ พี่พุ่ม ชื่อนล ท่านตกลงรับไว้แล้ว” นายทัดกล่าวเป็นเชิง

แนะนำ แม่ครัวยิ้มให้แต่มีได้พูดว่ากระไร นางวางจานนั้นลงบนโต๊ะมุมห้องแล้ว เดินกลับเข้าไปทางเดิม

นายทัดทันมาอธิบายว่า

“วันนี้คุณหญิงไม่อยู่ สงให้นายนลชั้นไปพบคุณหนูกลางแทน ประเดี๋ยวเธอ ก็คงจะเรียกลงมา แม่พุ่มคงจะชั้นไปเรียนแล้ว...”

แทบจะกังไม่ทันขาดคำ เสียงออดเบาๆก็ตังชั้น นายทัดลุกชั้นยินและ

๑๒

แหงนมองดูผนังด้านซ้าย นลมองตามก็เห็นแผงโลหะขนาดเล็ก มีตัวเลขสามแถว และขณะนี้ตรงหมายเลข ๕ มีแสงไฟสว่างวาบๆอยู่ครู่หนึ่ง

“คุณหนูกลางอยู่ในห้องหนังสือ...” หัวหน้าคนรับใช้พึมพำ ในขณะที่นล คิดถึงระเบียบของบ้านนี้อย่างชมเชยอยู่ในใจ

“ชั้นไปพบได้แล้วละ...ฉันจะนำไปเอง” และโดยไม่ยอมเสียเวลา นายหัดก็ เดินนำนลไปทันที ผ่านทางเดินคล้ายเฉลียง แล้วจึงไปทะลุถึงห้องกว้างใหญ่จัด เป็น,ห้องนั่งเล่น ห้องอาหารและห้องรับแขกตามลำดับ ทุกห้องตกแต่งด้วยเครื่อง เรือนที่มีอายุและแบบกลมกลืนกับตัวตึก

ตรงมุมห้องรับแขกนั้นเอง มีบันไดทอดชั้นไปสู่ชั้นบน ราวบันไดเป็นไม้ขัด วาบวับ และสลักเสลาลวดลายแบบโบราณ มีพรมสีแดงค่อนข้างเก่าปูเรียบร้อย สีคลํ้าของพรมทำให้ดูมีดสลัวไป

นายหัดนำคนรถใหม่ชั้นบันไดไปจนถึงชั้นบน พาเดินไปตามเฉลียงเล็ก ๆ และไปหยุดอยู่หน้าห้องห้องหนึ่ง ซึ่งประดูปดสนิทอยู่

สิ้นเสียงที่นายหัดเคาะประตู ก็มีเสียงสตรีตังแผ่ว ๆ ออกมา “นายหัดลงไปได้ ให้คนรถใหม่เข้ามาหาฉันเอง”

เสียงนั้นเรียบเย็น ไม่แสดงอำนาจของผู้เป็นนายอย่างเข้มงวดนัก แต่ก็ไม่ อ่อนหวานสดใสสมกับกระแสเสียง นลเปิดประตูออกและพาตัวก้าวเข้าไปภายใน ห้องที่มองเห็นอยู่นั้นเห็นขัดว่าเป็นห้องหนังสือ มีตู,หนังสือ มีโต๊ะเขียน หนังสือและอุปกรณในการทำงานเกี่ยวกับเอกสารอยู่พร้อมมูล

นลเดินเข้าไปยืนหยุดอยู่หน้าโต๊ะหนังสือตัวใหญ่นั้น มองดูสตรีที่นี้งอยู่หน้า โต๊ะนั้นด้วยสีหน้าขรึมเฉยตามเคยของเขา

ความสลัวของห้องไม่ทำให้นลเห็นหน้าของสตรีผู้นั้นถนัด จึงเดาไม่ออก ว่าเป็นหญิงวัยใด บอกได้แต่ว่าเป็นหญิงร่างเล็กบาง เครื่องแต่งกายเป็นสีเหลือง จาง ๆ เป็นเสื้อหลวมแบบสวมสบาย สีของเสื้อทำให้ห้องนั้นสว่างชั้นเล็กน้อยใน สายตาของชายหนุ่ม ถึงกระนั้นเขาก็ลังมองไม่เห็นใบหน้าของเจ้าของร่างนั้นได้ ถนัด ด้วยมันช่อนอยู่ในเงามัวๆเห็นแต่ผมซึ่งยาวสลวย แต่มองดูเป็นสีน้ำตาล

 

เข้มมากกว่าดำสนิทอย่างผมคนไทยทั่วไป

นลยืนรีรออยู่ครู่หนึ่งแล้ว เขาจึงตัดสินใจยืนนึ่งอยู่เช่นนั้น แทนที่จะนงลง บนเก้าอี้อย่างที่ใจปรารถนาแต่แรก

“คงรู้แล้วซีนะว่าคุณแม่ไม่อยู่ ท่านสงให้เธอมาพบฉันแทน...”

“ครับ” นลตอบสั้นๆ

“ชื่ออะไรแน่...นนท์” หล่อนแปลความหมายของชื่อเขาตามใจตัว “แปลว่า

อะไร...”

“นล ครับ” ชายหนุ่มเน้นเสียงเล็กน้อย “ก็นลธรรมดาๆอย่างพระนล”

“อ้อ นายนล” เสียงเรียบๆแต่หวานใสนั้นเอ่ยต่อไป “บอกหน่อยได้ไหมว่า ทำไมจึงรับงานนี้ นั่งๆที่เราประกาศไปแล้วว่า เป็นงานชั่วคราวเพียงเดือนเดียว?”

นลแสร้งเฉยเสียไม่ตอบดำถามนั้น เขาเพียงแต่มองหน้าที่ช่อนอยู่ในเงา

สลัวนั้น

“ฉันต้องการดำตอบ...” เสียงนั้นบอกความหงุดหงิดขึ้นมาทันที อย่างที่

นลคาดไร้

“คุณลงประกาศแจ้งความในหนังสือพิมพ์” นลชี้แจงเรียบๆ สีหน้าไม่ยิ้ม ไม่บึ้งตามเคย “ผมสมัครแล้วท่านก็รับไร้แล้ว...”

วิธีพูดของชายหนุ่มดูจะสะดุดหูหญิงสาวผู้เป็นนายจ้าง ด้วยเขาไม่ลงเสียง ‘ครับ’ หรืออะไร เพียงแต่ทอดหางเสียงให้ฟังดูนุ่มหูขึ้นเล็กน้อย

หล่อนลุกจากเก้าอี้อย่างโกรธ ๆ เดินไปที่หน้าต่างบานหนึ่งซึ่งอยู่เบื้องหลังโต๊ะ ทำงานนั้น ชักสายม่านออกโดยแรงแล้วก็ทันขวับมาเผชิญหน้านล โดยที่ลังยืนพิง ขอบหน้าต่างบานนั้นอยู่

แสงสว่างทำให้นัยน์ตาของชายหนุ่มพร่ามัวไปชั่วครู่ แต่ในวินาทีต่อมา เขา ก็เห็นร่างของหญิงสาวที่ยืนอยู่นั้นถนัดชัดเจน หล่อนเป็นหญิงสาวรูปทรงอรชร

คงจะอยู่ในวัยไม่เกินเบญจเพส หากแต่หล่อนแต่งหน้าไร้เข้มคมราวจะอำพรางอะไร สักอย่าง ดวงตากร้างใหญ่ ประกอบด้วยขนตายาว แต่ไม่งอนเข้งอย่างสาวสมัย

ใหม่บางคน หล่อนทาสีหลังตาด้วยสีฟ้าอมเทา มองดูลึกลับ รีมฝีปากนั้นเป็น

 

            (โปรดติดตามต่อในฉบับเต็ม)


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (96 รายการ)

www.batorastore.com © 2024