มายานิรมิต (ม.มธุการี)

มายานิรมิต (ม.มธุการี)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9789742534172
ผู้แต่ง: ม.มธุการี
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 275.00 บาท 68.75 บาท
ประหยัด: 206.25 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

ปู่ยังไม่ตื่น ปิ่นนราทำอาหารเช้าเสร็จ มันสายเกินไป ปกติปู่จะตื่นแต่

เช้ามืดและออกไปเดินในสวนหลังบ้าน มองนาKิกาที่ข้างฝา เก้าโมงเช้า…ปู่

ไม่เคยตื่นสายขนาดนี้

เสียงกริ่งโทรศัพท์ดังกังวานและหล่อนก็รีบรับสาย แค่ได้ยินเสียงแหบ

เหี่ยวมาตามสายก็แอบถอนใจ

“พูดสายคุณคณาหน่อยซิ”

“ปู่ยังไม่ตื่นค่ะ”

“ใครล่ะนั่น”

“ปิ่นค่ะ”

“ยาหมด”

“งั้นปิ่นจะบอกปู่ให้ค่ะ”

“ด่วนหน่อยนะ”

สั่งเสร็จก็วางหูไปเลย ตามแบบฉบับที่เคยเป็นมา เพื่อนสนิทคนหนึ่ง

ของปู่ ดาราหนังรุ่นเดอะวัยเจ็ดสิบกว่าเกือบแปดสิบ ที่ปฏิเสธการรับบทเป็น

พ่อตั้งแต่เริ่มแก่ รวบรวมเงินทองมาซื้อที่ทางต่างจังหวัดและตัดขาดจากโลก

มายามาเนิ่นนาน เพื่อนสนิทคนเดียวที่ปู่รักมากที่สุดและแตกต่างจากปู่มาก

ที่สุด…

ปู่งัวเงียตื่นและเดินออกมาจากห้อง

“ใครโทร.มา”

“คุณวินน์ ยาหมดค่ะ”

“ก็เพิ่งให้ไป…ช่วยจัดให้เขาหน่อย”

เสียงปู่เข้าห้องน้ำและปิ่นนราก็นั่งจัดยา จำได้หมดว่ามียาอะไรมั่งที่

ต้องจัดให้ ล้วนแล้วแต่เป็นสมุนไพรที่ปู่ต้องสั่งพิเศษ พอจัดยาเสร็จปู่ก็ออก

มาสั่งต่อ

“เดี๋ยวช่วยเอาไปส่งที่บ้านคุณวินน์ให้หน่อย คนขับรถเพิ่งลาออกไปมา

รับยาไม่ได้พักนี้เราต้องรับหน้าที่ส่งยาไปก่อน”

“วางไว้หน้ารั้วได้ไหมคะปู่ ไม่อยากเห็นหน้าแกเลยให้ตายเพื่อนปู่คนนี้”

“ทำไม เขาไม่มีใคร คนงานลาออกหมดแล้ว เหลือคนครัวคนเดียว”

“อีกหน่อยก็ออกค่ะ ปู่จำได้ไหม ไปกินข้าวบ้านเขาเดือนที่แล้ว แค่

คนครัวทำอาหารไม่ถูกปากเอาแก้วปาหัวเลย ต่อหน้าเราด้วย ปิ่นไม่ไปกินข้าว

บ้านเขาอีกแล้วนะ”

“คุณวินน์เขาก็แบบนั้น เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย แต่ใจเขาจริงๆ ไม่มีอะไร นี่

ก็ถามตลอดเวลาเรื่องที่เราจะไปเรียนต่อที่อินเดีย เลยบอกเขาว่าขอทุนไป

แล้ว รอฟังผล”

“ปิ่นไม่หวังหรอกปู่เรื่องทุน ขอไปแบบนั้นเอง เพราะอยากไปอยู่กับ

น้าแต๋ว น้าแต๋วก็ว่าจบหกแล้วมาอยู่ด้วยกัน เพราะเขาไม่มีลูก” ปิ่นนราจัด

ยาใส่ถุงเสร็จสรรพ “จะให้ปิ่นไปเดี๋ยวนี้เลยหรือคะ”

“ก็รีบไป บอกเขาด้วยว่าค่ำนี้ปู่จะแวะไปคุยด้วย”

ปิ่นนราออกจากบ้านและขี่จักรยานไปตามเส้นทางขรุขระ มีถนนสาย

เล็กๆ สายเดียวที่เป็นทางลัดตัดผ่านระหว่างบ้านคุณวินน์คนนั้นกับบ้านปู่

หล่อนมองเห็นหลังคาบ้านอยู่ลิบๆ บ้านรูปทรงแปลกประหลาดเลียนแบบ

ปิระมิดไม่ผิดเพี้ยน นัยว่าเขาทุ่มทุนสร้างบ้านหลังนี้และหมดไปหลายล้าน

หลังคาบ้านสีดำสะท้อนแสงแดดวาบวับมองเห็นชัดจากระยะไกล

คงไม่มีใครรู้จักเขาได้ดีเท่าปู่ เพราะเคยเป็นเพื่อนสนิทกันมานาน เขา

เป็นดาราดัง ตั้งแต่สมัยที่หล่อนยังไม่เกิด พอหล่อนจำความได้เขาก็ไม่มี

ผลงานอะไรอีก จะมีก็แต่หนังทั้งจอเงินและจอแก้วสมัยที่เขายังหนุ่มฟ้อ กับ

ประวัติชีวิตที่ผ่านการแต่งงานมาครั้งหนึ่ง และหย่าร้างกันไป จากนั้นก็มี

ผู้หญิงผ่านเข้ามาหลายต่อหลายคน เลิกรากันไปทุกครั้ง เพราะไม่มีใคร

ทนนิสัยเสียๆ ของเขาได้ ความบ้าอำนาจหลงตัวเองอาจจะเป็นสาเหตุสำคัญ

ปิ่นนราเห็นความร้ายกาจของคุณวินน์คนนี้ด้วยตัวเอง และเกลียดเสียจนไม่

อยากเข้าหน้า…

กดออดเรียกที่หน้ารั้วเป็นนาน นานเสียจนเกือบจะทิ้งถุงยาเอาไว้ที่นั่น

ก็พอดีประตูบ้านเปิดออกมาช้าๆ คนข้างในเดินออกมาเมียงมองก่อน จาก

นั้นก็ค่อยๆ ก้าวเดินออกมาอย่างช้าๆ จากประตูบ้าน ตามทางซีเมนต์ที่มี

กระถางไม้ดอกเรียงรายเป็นระยะ ทุกย่างก้าวไม่ต่างอะไรกับการคืบคลานอัน

ยากลำบากและยาวนาน ร่างสูงผอมสวมเสื้อผ้าหลวมๆ อาจจะเพื่อให้ตัวเอง

ดูอ้วนขึ้นมาหน่อย ผมดำขลับรู้เลยว่าผ่านการย้อมมาอย่างโชกโชน เรื่อง

กลัวแก่ต้องยกให้ตาคนนี้…

รีบยกมือไหว้เมื่อฝ่ายนั้นเดินมาถึงที่รั้วบ้าน

“นึกว่าคุณคณาจะมาเอง” เป็นเสียงพูดมาแหบๆ แว่นสีชาใสทำให้

มองเห็นดวงตาในเงาแดดค่อนข้างชัด ความยับย่นของใบหน้ายังทิ้งริ้วรอยให้

เห็นว่าเคยหล่อมากในครั้งหนึ่ง…แต่ก็อาจจะแสนนานมาแล้วจนยากจะรื้อฟื้น

ความหลัง…

“ปู่อาจจะแวะมาตอนค่ำๆ ค่ะ ให้ปิ่นเอายามาให้ก่อน” พูดพลางก็ยื่น

ห่อยาเข้าไปก่อน ตามองมือสั่นๆ ที่เอื้อมออกมารับ มันเป็นมือผอมแห้งที่

เกร็งจนสั่น

“คนครัวเพิ่งกลับไปเยี่ยมบ้าน…” เป็นคำบอกเล่ามาเรื่อยๆ

…นึกว่าลาออก…ปิ่นนราตอบโต้ในใจ แต่ก็ยิ้มและรีบยกมือลา

“ปิ่นไปละค่ะคุณตา”

“ขอบใจนะ”

รีบปั่นจักรยานตัวปลิวจากมา เพราะกลัวว่าจะมีการคุยไม่หยุดเหมือน

ที่เขาเคยคุยกับปู่ มันจะเป็นการคุยมาราธอนจากเรื่องโน้นไปเรื่องนี้ จากเรื่อง

นี้ไปเรื่องโน้น บางทีก็วกวนจับต้นชนปลายไม่ถูก ปู่คงเป็นนักฟังที่ดีนั่นเอง

ทำให้สายสัมพันธ์มันยืดยาวมาได้ จนทุกวันนี้…

ขี่จักรยานเลยไปถึงตลาด มันเป็นอำเภอเล็กๆ และบ้านของปู่ก็อยู่

นอกเมืองออกไปไกล สงบเงียบห่างไกลจากที่ชุมนุมชน หล่อนเรียนจบ

มัธยมปลายจากโรงเรียนสตรีประจำจังหวัดเมื่อปีที่แล้วและตัดสินใจพักอยู่กับ

ปู่แทนการเข้ากรุงเทพฯ ไปอยู่บ้านแม่ แม่แต่งงานใหม่หลังจากที่พ่อเสียและ

มีลูกกับพ่อเลี้ยงสองคน แต่ละคนอายุอ่อนกว่าหล่อนนับสิบปี มันไม่ได้มี

ความผูกพันอะไรที่นั่นระหว่างหล่อนกับครอบครัวใหม่ของแม่ หล่อนโตมากับปู่

ตั้งแต่พ่อตายและปู่ก็ทำหน้าที่ทุกสิ่งทุกอย่าง ปู่เป็นหมอผ่าตัดและปลดเกษียณ

นานแล้ว บั้นปลายชีวิตของปู่หมดไปกับงานค้นคว้าเกี่ยวกับยาสมุนไพรใหม่ๆ

เป็นงานอดิเรก

แวะซื้อโจ๊กกลับไปให้ปู่ อาหารอย่างเดียวที่ปู่ยังกินได้ ปู่ผอมลงไป

ทุกวันและหล่อนก็นึกเป็นห่วง ยิ่งเห็นคุณวินน์วันนี้และความทรุดโทรมชรา-

ภาพของเขาหล่อนก็ยิ่งตกใจ เมื่อเดือนที่แล้วจำได้ว่าเขายังดูแข็งแรงกว่านี้…

คณานั่งกินโจ๊กที่หลานสาวซื้อมาฝาก ตามองร่างโปร่งที่ยืนล้างจาน

และคุยจ้อไปด้วย

“แก่ไปจมเลยคุณวินน์ มือสั่นแล้วค่ะปู่ เห็นชัดเลย ทั้งพาร์กินสันทั้ง

อัลไซเมอร์แน่แบบนี้ อายุเท่ากันกับปู่แต่ปิ่นว่าปู่ยังแข็งแรงกว่าแยะ ไม่สั่น

เลยเห็นไหม…” หันมามองเขาแวบหนึ่งและล้างจานต่อ กางเกงยีนส์พับขา

ขึ้นมาถึงน่อง เสื้อเชิ้ตตัวยาว คลุมลงมาถึงสะโพก จำได้ว่าเป็นเสื้อของเขา

สมัยหนุ่มและเจ้านี่ก็คงไปรื้อออกมาใส่…มองเส้นผมสลวยถักเปียสั้นๆ เคลีย

ไหล่ สิ่งเดียวที่บอกว่ายังเป็นผู้หญิงอยู่ โดยวัยเกือบจะเต็มสิบแปดปิ่นนรายัง

คงรักษาความเก้งก้างของเด็กวัยรุ่นเอาไว้อย่างครบถ้วนไม่ว่าจะเป็นการพูดจา

หรือเดินเหิน

“คุยอะไรกันมั่ง” เขาถามออกไป

“ไม่ทันได้คุยค่ะ ปิ่นไม่เปิดโอกาส เพราะเดี๋ยวนั่งอืดตรงนั้นแน่ กว่า

จะเริ่มนะ ยืดยาดอยู่นั่นแล้ว ปิ่นจบไปร้อยคำ แกยังเอ้ออ้าอยู่นั่นเอง”

“ก็เพราะแกมันพูดกันเร็วมากนักไง ยิ่งวันยิ่งพูดกันเร็วขนาดปู่ยังฟัง

ไม่ทัน จะรีบร้อนไปไหนกัน”

“ไม่ได้หรอกค่ะปู่ ยิ่งสมัยนี้นะ เพื่อนปิ่นมันพูดกันเร็วกว่าปิ่นอีก ปิ่น

นี่อย่างช้าแล้วนะคะ”

คณาส่ายหัว กินโจ๊กต่อ

“ค่ำนี้จะให้ปิ่นไปรับไปส่งด้วยรึเปล่าคะ” เสียงหลานสาวถามมา

“ไม่ต้อง ปู่ขับไอ้โกร่งไปเอง ใกล้ๆ แค่นี้”

“ปิ่นว่าดูๆ แล้วปู่แข็งแรงกว่าคุณวินน์เยอะ แกเลิกขับรถไปแล้วนี่ตอนนี้

คนขับลาออก คนครัวลาออกอีกคน”

“ใครบอก”

“คุณตาค่ะ”

“ไหนว่าไม่ได้คุยอะไรกัน”

“ก็สั้นๆ”

คณาแค่พยักหน้ารับรู้ อีกแล้วหรือนี่…คนงานบ้านนั้นลาออกกันเป็น

ห่าฝน ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าทำไม ใครทนเพื่อนเขาได้นานบ้าง มันเริ่มมาตั้งแต่

สมัยยังโด่งดังนั่นเลย…ความถือตัวทะนงตัว…บวกความหลงตัวที่อาจจะเกิดขึ้น

มาเองโดยอัตโนมัติจากฐานะความเป็นดาราค่าตัวสูงสุดในยุคนั้น วินน์เป็นแค่

ผลิตผลของอะไรบางอย่างที่ไม่มีคำอธิบายชัดเจนในตัวของมันเอง แค่ความแย่

ที่ใครทุกคนรู้…

จนแก่ตัวก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงและมีแต่จะมากขึ้น เพื่อนฝูงทุกคน

หนียกเว้นเขา อาจจะเป็นเพราะเขาเข้าใจเพื่อนได้ดีในส่วนลึกนั่นเอง ความ

แย่ของวินน์เป็นแค่เปลือกนอกผิวเผิน เจาะลึกลงไปในหัวใจเขายังไม่เคยมีใคร

เป็นเพื่อนแท้นอกจากอีกฝ่าย

ขับรถไปที่บ้านฝ่ายนั้นตอนเย็น แวะซื้อโจ๊กไปด้วย บ้านเงียบทั้งหลัง

ตอน วินน์เปิดประตูรับ ไม่มีกลิ่นอาหาร ไม่มีเสียงคนงานในบ้าน มันเงียบ

ผิดปกติ

“ออกกันไปหมดแล้ว” วินน์บอกเขาเนือยๆ “ผมเบื่อนะ เบื่อมากเข้า

เลยไล่เปิดกันไปหมด”

นั่งคุยกันเงียบๆ ในห้องนั่งเล่นที่มีแต่โล่รางวัลประดับประดาตามหิ้งเต็ม

ไปหมดไม่ต่างอะไรกับพิพิธภัณฑ์ เขาเห็นอีกฝ่ายรินเครื่องดื่มด้วยมือค่อนข้าง

สั่น ข้อมือผอมแห้งมีแต่หนังหุ้มกระดูกและวินน์ก็พยายามดึงแขนเสื้อลงมา

คลุม คณาถอนใจยาว

“ผมกำลังรอสมุนไพรที่สั่งพิเศษจากเมืองจีน คิดว่าจะมาถึงมือเร็วๆ นี้

ก็สมุนไพรที่เคยเล่าให้คุณฟัง”

“วิตามินเอ็กซ์? คุณว่ามันได้ผลแน่หรือ ยังนึกว่าเป็นแค่ข่าวลือ”

“ต้นกำเนิดมาจากฟาโรห์ที่อียิปต์ที่แสวงหาสมุนไพรชนิดนี้กันมานานมาก

การเก็บศพฟาโรห์มาทุกยุคทุกสมัยก็เพื่อการรอคอยสมุนไพรที่ว่า คุณลักษณะ

ของสมุนไพรนี้มีลักษณะพิเศษคือมันไม่ได้ขึ้นมาจากดินหรือน้ำ แต่ขึ้นมาจาก

ซากศพนักบุญในสุสาน ผมมีเพื่อนไปค้นคว้าเรื่องนี้โดยตรงและได้มันมา”

“ขึ้นจากศพนักบุญ? มันเป็นไปได้ยังไง”

“มันเป็นสมุนไพรที่เติบโตขึ้นมาจากเลือดและเนื้อของคนดี มันดูด

พลังชีวิตของคนตายไปไว้ในตัวมันเอง คนที่ได้สมุนไพรเข้าไปไว้ในตัวเองจะ

ได้พลังชีวิตใหม่และสามารถถอยชีวิตกลับไปสู่วัยต้นในเวลาอันรวดเร็ว”

“หมายถึงว่าคนแก่จะหนุ่มขึ้นมาอีกครั้ง? คุณแน่ใจอย่างนั้นหรือ”

“ข่าวลือก็คือข่าวลือนะ เพราะมันขึ้นอยู่กับการทดลอง จริงหรือไม่

กาลเวลาเท่านั้นที่จะพิสูจน์ได้ ที่ผ่านมายังไม่เคยมีการทดลองกันจริงจัง”

“ทำไม?”

“เพราะเราต้องทำมัมมี่กับคนเป็นๆ ต้องผ่าตัดสมองและเครื่องใน

คนเป็นๆ ก็เลยไม่มีใครอยากเสี่ยง เพราะอาจจะไม่กลับมาอีก มันก็เลยเป็น

ข่าวลือกันอยู่อย่างนั้นเรื่อยมา”

“ก็ใครอยากจะเอาชีวิตไปเสี่ยงตาย ไม่ใช่ผม” วินน์ถอนใจ “อยู่

อย่างแก่ๆ มันแบบนี้ไปเรื่อยๆ ยังดีกว่า ถึงเวลาถ้ามันจะตายไปเองแล้วจะให้ทำ

ยังไง ตอนนี้อยากจ้างพยาบาลพิเศษที่รู้งานหน่อย เราจะได้ไม่หัวเสียมาก

อย่างที่ผ่านมา คนงานผมแต่ละคนมันไม่รู้งานเอาเลยจริงๆ”

“หลานผมเป็นไง เด็กมันรู้งานอยู่หรอก เคยช่วยงานที่คลินิก”

วินน์นิ่งคิดอยู่นาน…

“อีกอย่างเด็กมันจะได้มีรายได้เก็บเงินเก็บทองไปเรียนต่อ” คณาพูดต่อ

“รู้ผลเรื่องทุนแล้วหรือ”

“ตอนนี้กำลังรอฟังผลอยู่”

“มันอาจจะเป็นงานหนักเกินไป ผมอยากได้ผู้ชายที่แข็งแรงหน่อย”

“ปิ่นมันแข็งแรง ขี่จักรยานออกกำลังทุกวัน อีกอย่างบ้านใกล้กันแค่นี้

เอง ที่สำคัญคุณอ่อนแอมากนะพักนี้ อันตรายมากถ้าอยู่คนเดียว นอกเสีย

จากคุณอยากเข้าไปอยู่บ้านพักคนชรา ถึงขั้นนั้นคุณไม่มีอิสระอะไรหรอก”

“งั้นลองเอามาฝึกงานดู สักวันสองวัน ไม่มีใครทนผมได้นานนักหรอก

นะ”

ปิ่นนรามารู้เรื่องการฝึกงานจากปู่เมื่อปู่กลับมาตอนดึก

“ทำงานให้คุณวินน์? แค่ผ่านหน้าบ้านแกปิ่นยังไม่อยากผ่าน…”

“ชั่วคราวจนกว่าแกจะหาผู้ช่วยได้ ปู่บอกตกลงไปแล้วเพราะไม่อยาก

ให้แกอยู่คนเดียว แค่ไปดูแลตอนกลางวัน พอแกหลับเราก็กลับมาบ้าน ใกล้

กันแค่นี้”

“แล้วเกิดปิ่นทนแกไม่ได้ แกร้ายมากนะคะเพื่อนปู่คนนี้ ใครๆ เขารู้กัน

ทั้งอำเภอ”

“ก็จะไปเอาอะไรกับคนแก่ คนแก่ก็ต้องจู้จี้ขี้บ่นทุกคน”

“แต่รายนี้ไม่ธรรมดาค่ะปู่ เกิดแกเอาอะไรมาขว้างปิ่นหัวแตก”

“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก ไปลองดูสักวันสองวันจนกว่าแกจะหาพยาบาล

มาอยู่เป็นเพื่อนได้ คุณวินน์ทรุดไปมากพักนี้ ปู่เป็นห่วง นี่กำลังรอสมุนไพร

ดีๆ จากเมืองจีน อาจจะช่วยแกได้”

“ปู่หมดเงินไปไม่ใช่น้อยนะคะเรื่องสมุนไพรพวกนี้ มันจะได้ผลหรือ”

“มันมีสมุนไพรดีๆ ที่ได้ผลจริงๆ เราจะพบมันหรือไม่แค่นั้น เพราะปู่

เชื่อสิ่งที่มาจากธรรมชาติมากกว่ายาชนิดอื่น มันมีสมุนไพรที่ช่วยคนเราไม่ให้

แก่ได้แต่คงความเป็นหนุ่มเป็นสาวเรื่อยไป เขาเริ่มพบกันแล้วที่เมืองจีน เรียก

มันว่าวิตามินเอ็กซ์”

ปิ่นนราได้แต่ถอนใจ ทั้งชีวิตเหมือนปู่จะแสวงหาเพียงสิ่งเดียวเท่านั้น

เช่นเดียวกับคนแก่ทั้งหลายที่ทุรนทุรายอยู่กับความเจ็บปวดของสังขาร คุณวินน์

คนนั้นก็อาจจะเป็นอีกคนหนึ่ง สิ่งที่คนวัยอย่างหล่อนยากจะเข้าใจ แก่ก็คือแก่

มันแปลกอะไรถ้าคนเราจะแก่…

 

            (โปรดติดตามต่อในฉบับเต็ม)


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (96 รายการ)

www.batorastore.com © 2024