เมื่อน้ำค้างสลาย (นายา)

เมื่อน้ำค้างสลาย (นายา)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9789742533120
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 230.00 บาท 57.50 บาท
ประหยัด: 172.50 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

“นิม...นิม...น้องอยู่ไหน”

นทศกเผลอพึมพำออกมาจากห้วงลึกของหัวใจอันรวดร้าว''''''ดวงตามองกวาด

ไปมาตามทางดินเล็ก ๆ เบื้องล่างอันขรุขระไปด้วยก้อนทินใหญ่น้อย ขนาบสองข้าง

ด้วยพุ่มพฤกษาและทิวไม่หนาทึบแห่งร็อคครีคปาร์คตอนที่ตัดกับถนนคอนเนทิคัท

และสะพานที่เขายืนอยู่ ราวกับหวังว่าแรงเรียกร้องของดวงใจจะสามารถเสกอภินิหาร

ให้ดวงตาแลเห็นร่างสตรีที่รักมาปรากฏ...เขาและนิราเคยมายืนเกาะลูกกรงคุยกัน

บนสะพานนี้ หลังจากที่เขาพาหล่อนมาชมสวนสัตว์ที่วู้ดลี่ปาร์คซึ่งอยู่ไม่ไกล...ยาม

นั้นหล่อนอายุใกล้ ๑๗ และเข้ากำลังจะเต็ม ๒๒...หนึ่งปีพอดีก่อนที่นิราจะหาย

ตัว

๑ ปีกับ ๑๕' วันแล้วสิหนอที่นิมหายไปอย่างลึกลับ...เป็นความจริงที่เหมือน

มีแผลกลัดหนองอยู่ในทรวงอก

๑ ปีกับ ๑๕' วันที่พี่นัทเฝ้ามองหาน้องทุกแห่งหน ไม่ว่าจะเป็นการสัญจร

ไปด้วยเท้า นั่งรถ หรือลงเรือ พี่จะเหลียวข้ายมองขวากวาดตาไปรอบ โดยไม่ได้

หวนว่าคนอื่นเขาจะคิดว่าพี่ผิดปกติ

มักใช้เวลาวันเสาร์-อาทิตย์ขับรถไปจอดแล้วเดินตระเวนไปทั่วตามทุ่งนาป่า

เขา...ทุกแห่งที่ดูลึกลับหรือมีหุบห้วยช่องชั้นสำหรับแอบซ่อน-ทั้งในวอชิงตัน ดี.ซี.

แมรี่แลนด์ เวอร์จิเนีย และเดละแวร์...ทุกแห่งที่พี่เคยพาน้องไป ‘ไฮกิ้ง’ หรือไป

ปิกนิกด้วยกัน

‘นิมรู้สึกปลอดภัยเวลามากับพี่นท’ นิมเคยพูดกันพี่อย่างนี้..นทศกกล้ำ

กลืนความเจ็บแปลบในใจ...ได้ยินเลียงใสของหล่อนแว่วมา...ในด้านการพูดจา นิม

มีวุฒิภาวะเกินตัวทีเดียว ถึงแม้รูปร่างหน้าตาจะดูอ่อนเยาว์

 ‘โดยเฉพาะเวลามาไฮกิ้งในร็อคครีคปาวัค...นิมได้ทั้งความรู้สึกผจญภัยและ

โรแมนติค...ผจญภัยเพราะมีก้อนอิฐก้อนหินทางเดินขรุขระ สูงๆตาๆ...บางแห่ง

ต้องป่ายปีน บางแห่งพงไม้หนาทึบ ถ้ามาคนเดียวก็คงน่ากลัว...และที่โรแมนติค

ก็เพราะธรรมชาติที่นี่ดูทั้งลึกลับทั้งสวยงาม...แต่ขณะเดียวกัน...เพราะนิมมากับพี่นท

นิมไม่ด้องกลัว’

‘น้องนิมคิดว่าปาร์คนี้ลึกลับหรือจ๊ะ’ พี่ย้อนถาม

‘ค่ะ’ นิมหันมาตอบพี่ นัยน์ตาสวยของนิมช่างสุกใส.,.ตอนนั้นพี่นทยัง

ไม่ทันรู้ตัวว่าพี่รักนิมเหมือนที่ชายหนุ่มรักหญิงสาว ยังคงเผลอคิดว่าพี่รักนิมอย่าง

น้อง...น้องที่พี่รักอย่างสุดจิตสุดใจ...รักอย่างล้ำลักว่าที่พี่วักพี่สาวของตัวเองที่

คลานตามกันมาเสียอิก...พี่มารู้ตัวและคิดจะสารภาพกับนิมหลังจากวันนั้น-วันที่เรา

ไปงานวันเกิดอ๊านท์ลิสาด้วยกัน...แต่ไม่หันมีโอกาสิ

‘มีนักเขียนชาวไอริซคนหนึ่งเขียนว่า...ไม่มีอะไรลึกลับอยู่ในโลก...ความลึกลับ

อยู่ที่สายตา'ของคนมองนั้นต่างหาก นิมหัวเราะเอียงหน้าทำตาหวานกับพี่...พี่คิด

ว่านิมช่างเป็นหญิงสาวที่บริสุทธิ์สะอาดและฉลาดเฉลียวนี่กระไร ‘พี่นทเห็นด้วยมั้ย

คะ’

‘พี่เห็นด้วยเฉพาะส่วนของจักรวาลที่ตาเรามองเห็น...ตาเราอาจได้วับอิทธิพล

ของจิตทำให้เกิดภาพลวงตา อย่างเช่นคนที่เดินหลงทางเป็นระยะไกลในทะเลทราย

ความเหน็ดเหนื่อยหิวโหยและสภาวะปีนป่วนของร่างอาจทำให้ตาเขามองเห็นภาพ

โอเอสิสิอยู่ช้างหน้า มีลำธารใสสะอาดชวนไห่วิ่งไปดื่ม เสียงนั้นชาะโขดหินด้ง'ชู่ช่า

มีคนนั่งก่อไฟบงเนื้อกลิ่นหอมอยู่ช้างลำธาร มองดูเหมือนเป็นภาพจริง แต่พอเขา

วิ่งเข้าไปใกลั ทั้งลำธาร ทั้งคน ทั้งโอเอสิสิก็หายวับไปทันที บางคนคิดว่าตัวถูก

ผีหลอก แต่นั้นเป็นเพราะมายาของจิต มันไม่ใช่ความลึกลับอะไรเลย’

‘แต่มีส่วนของจักรวาลที่เรามองไม่เห็น ที่พี่คิดว่าเป็นความลึกลับ ที่แม้

แต่วิทยาศาสตร์ก็ไม่อาจบอกเราได้...อย่างเรื่องเทพยดานางฟ้า เรื่องความเป็นรูป-

ธรรมของสวรรค์และนรก...เราไม่มีอะไรพิสูจน์’

นิมหันมาแย้งพี่ นัยน์ตาวาว ‘แล้วที่บางอย่างเราแลเห็นได้ด้วยตาอยู่ครึ่ง

แต่อีกครึ่งเรามองไม่เห็นเล่าคะ เราสามารถอนุมานภาคที่เรามองไม่เห็นจากภาคที่

เรามองเห็นได้ไม่ใช่หรือคะ อย่างเช่นการเวียนว่ายตายเกิด...เราเห็นได้ทั้งการเกิด

แก่ เจ็บ และตาย...เพราะฉะนั้นเราก็อนุมานได้ว่าด้องมีการเวียนว่ายของวิญญาณ

...ไม่ใช่หรือคะ...นิมเชื่ออย่างนั้น’

‘พี่ก็เชื่ออย่างนั้น...แต่นั้นเป็นความเชื่อ...เหม่อนความเชื่อในศาสนาหรือปรัชญา

....ศาสนาอื่น—ปรัชญาอื่น เขาอาจไม่เชื่ออย่างเรา’

น้องมีสีหน้าครุ่นคิด จ้องหน้าพี่ด้วยนัยน์ตาที่อ่อนหวานเสียเหลือเกิน พี่

เพิ่งมารำลึกได้ว่าพี่หลงรักความสดใสบริสุทธิ์บนใบหน้าและดวงตาของนินก่อนสิ่งใด

อื่น ผิวหน้าของนิมขาวใสไม่มีไฝฝ้ามลทิน นัยน์ตาโตลำแวววาวด้วยความรักโลก

และเห็นโลกในแง่ดี แต่ไม่ใช่จากความไร้เดียงสา เพราะนิมมีความฉลาดและ,พลัง

ปัญญาเกินกว่าที่จะเป็นเด็กไร้เดียงสา....พี่เคยเปรียบนิมเหมือนหยาดน้ำค้าง

บนกลีบกุหลาบสิชมพู...เหมือนแววตาใสบนใบหน้าใสของนิม

‘นิมเชื่อเรื่องบุญกรรมจากชาติปางก่อน’ นิมพูดขึ้นมาอีก ‘นิมเชื่อ'ว่านิม

กับพี่นทคงทำกรรมดีอะไรต่อกันไว้ ชาตินี้เราถึงได้มาพบกันและรักกันเหมือนพี่

น้อง...,น่าประหลาด'ใช่’ไหมคะที่พ่อแม่เรามาเจอกันอีกที่นี่ และบังเอิญชื้อบ้านอยู่

ใกล้กัน’

อนิจจา ล้าเป็นบุญที่เราสร้างสมด้วยกันไว้แต่ชาติก่อนอย่างที่นิมเชื่อ ที่ทำ

ให้เราได้มาพบกัน และพ่อแม่ก็เห็นดีเห็นชอบอยากให้เราเป็นคู่ครองกัน...ถ้าเป็น

กรรมดีที่พี่ได้ทำไว้ที่พูเกือบจะได้สารภาพรักกันนิม และเกือบจะได้ฟังจากปาก

นิมว่านิมก็รักพี่...ไม่Mพียงแต่รักอย่างน้องรักพี่ชาย แต่รักอย่างหญิงสาวรักคนที่

เธอด้องการมาไว้เป็นคู่ชีวิต...อย่างที่พี่เห็นในสายตาของนิมตลอดสองสามเดือน

ก่อนที่นิมจะหายตัว...แล้วเป็นกรรมเลวว้ายอะไรเล่าที่พี่กันนิมได้ร่วมกันก่อชื้นที่มา

พรากนิมไปจากพี่.,.จากไปอย่างที่พี่ไม่สามารถติดตามไปพบได้...จากไปด้วยวีธีที่โหด

เหี้ยมทารุณทางจิตใจเป็นที่สุด

เฝ้าแต่คิดว่าพี่คงจะกลายเป็นเพียงโครงร่างอันไร่วิญญาณหากวันหนึ่งตำรวจ

จะมาบอกว่า...ได้พบศพเน่าเปื่อยของนิม ณ ที่ว้างแห่งใดแห่งหนึ่งที่ไอ้อาชญากรใจ

โหดมันไปโยนหรือขุดหลุมทิ้งไว้

อย่างไหนจะโหดเหี้ยมยิ่งกว่ากัน...การได้รันข่าวว่านิมตายไปอย่างไม่ต้อง

ทรมานตั้งแต่วันแรกของการลักพา...กับการได้รับข่าวว่า นิมถูกเอาไปกักขัง ถูก

ข่มขืนยายีวันละหลายครั้งโดยชายแก่โรคจิตทราม อย่างกรณีเด็กสาวผิวขาวแสน

สวยและแสนดีอายุ ๑๔ ที่ชื่อ เอลิชาเบธ สมารท ซึ่งพ่อแม่ได้ตัวคืนมาทลังจาก

๙ เดือนผ่านไปโดยไม่ได้ข่าวคราว...หรืออย่างกรณีเด็กสาวผิวขาวอ่อนเยาว์น่ารัก

อายุ ๑๑ ชื่อ เจชี ดูการ์ด ที่ถูกชายแก่โรคจิตทรามเช่นกัน ลักตัวไปกักขังไว้

เป็นเมียสำรองถึง ๑๘ ปีในบริเวณบานเดียวกันกับเมียหลวงซึ่งกลัวผัวจนงันงกถึง

กับร่วมมือสมคบปดบังตำรวจ กระทงเจชีผลิตลูกของไอ้จอมมารออกมาสองคน

แล้วลูกนี่เองเป็นสาเหตุน่าตำรวจติดตามตัวเจชีได้พบ

๑ ปีกับ ๑๔ วันที่พี่ตื่นขึ้นมาทุกเข้าด้วยความคิดแรกที่แล่นเข้ามาเขย่าขวัญ

-น้องนิมของพี่ถูกจำขังอยู่ที่ใดที่หนึ่งและถูกกระทำยํ่านี่ทกวี่วันโดยคนหยาบช้าลามก

ไม่มีใดเปรียบ อันทำไห้หัวใจพี่ปวดเจ็บอปวงสุดประมาณ เมื่อนึกถึงใบหน้าสวย

สว่างนัยน์ตาใสชื่อของนิม...นิมผู้เชื่อในคุณความดีของมนุษยชาติ....

อะไรอย่างหนึ่งบอกพี่ว่านิมบังไม่ตาย

แต่การตายหรือการอยู่อย่างไหนจะร้าวรานน้อยกว่า...หากนิมของพี่จะต้อง

ทนทุกข์ทรมาน?

ตำรวจกับผู้อาสาสมัครนับร้อยช่วยกันติดตามด้นหานิมเป็นเวลาเกือบปี

คุณลุงธีกับคุณป้าหมอถึงกับตั้งกอ^ทุนรางวัลห้าหมื่นดอลลาร์ให้ผู้ใดก็ตามที่ติดตาม

ลูกสาวน้อยพบ หรือมีข้อมูลสำคัญที่จะน่าตำรวจไปพาน้องกลับมาด้วยชีวิตรอด...

หลายองค์การในรัฐแมรี่แลนด์ช่วยลงโฆษณาตั้งในโทรทัศน์และหนังสือพิมพ์ประโคม

ข่าวการหายตัวของสาวรุนชาวไทยวัยสิบแปด

แต่ก็ไม่มีใคร่ได้เห็นน้องนิมหลังบ่ายสองของวันที่ ๑๔ มิถุนายนของหนึ่งปี

ที่แล้ว

มีแต่กล้องเบื้องหน้าไฮสถูสลับภาพนิมเดินลงบันไดมาจากประตูทางเข้าของ

โรงเรียนเมื่อบ่ายสองโมงตรง...ห้องถนนด้านหน้าโรงเรียนว่างเปล่า...ใบหน้าของนิม

แจ่มใส น้องหยุดอยู่ตรงปากทางไม่ถึงอึดใจ แล้วจึงเลี้ยวซ้ายไปทางทิศที่จะไปบ้าน

เดินอย่างไม่เร่งร้อนเช่นคนที่กำลังแช่มชื่นเบิกบาน...ไม่มีใครลักคนเดินตามนิมมา

มีก็แต่รณเวนยี่ห้อนิสสันคูบสีตำที่โผล่ออกมาจากซอยตรงข้าม เยื้องไปจากด้าน

หน้าโรงเรียนเล็กน้อย...สิ่งที่ตำรวจหนึ่งในสองซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตรวจภาพในกล่อง

สังเกต—คือรถคันนั้นแล่นไปตามเส้นทางที่นิมเดินไป

พี่จำดำโต้ตอบระหว่างสองนักสืบตำรวจได้ดิ...ตัวพี่เองต้องถูกสัมภาษณ์ครั้ง

แจ้วครั้งเล่า จนทุกคนที่กองสืบสวนวางใจได้แจ้วว่าพี่ไม่ใช่คนราย แจ้วท่านผู้กำกับ

กองตำรวจแห่งบะเธสด้าจึงอนุญาตให้พี่ติดตามผลการสอบสวนคดีของนิมอย่าง

ใกล้ชิด

แเต่นีราเดินคล้อยหลังไปแล้วสองหรือสามนาที เราถึงได้เห็นเจ้านิสสันโผล่

ออกมาจากซอยนี่นะชาร์ลี...สองเหตุการณ์มันอาจไม่เกี่ยวของกันเลยก็ได้’ นายสิบ

ตำรวจดรชื่อจิมพูด

‘จริง...มันอาจไม่เกี่ยวข้องกันเลย’ สิบตำรวจโทชาร์ลีตอบข้าๆ สีหน้า

ตรึกตรอง-ชาร์ลีเพิ่งได้เลื่อนขั้นเป็นสิบโทเพราะความฉลาดเฉียบแหลมมีไหวพริบ

ในการสืบสวนคดี

‘แต่จ้ามันเป็นคนที่วางแผนลักพานีรา มันคงต้องรู้ว่ามีกล้องจับภาพอยู่ทุก

ด้านของโรงเรียน...แจ้วมันคงต้องสืบเสาะดูแล้วว่าบ้านมีอยู่ซอยไหน เพราะฉะนั้น

มันขับตามอยู่ไกล ๆ ก็ได้ จะได้ไม่มีใครสงสัยมัน’

ชาร์ลีนี่เองพาพี่กับสิบตำรวจจิมเดิน ‘ตามรอย’ ที่นิมและวีเคยเดิน—จาก

โรงเรียนไปจนถึงบ้าน วิพาเราเดินไปทั้งสองเส้นทางที่เธอบอกว่านิมเคยเดิน และ

ทางหนึ่งนิมชอบเป็นพิเศษ

‘เพราะหน้าบ้านตามซอยในเส้นทางนี้เค้ามีสวนสวย ๆ ทั้งนั้นค่ะ’ วีบอกเรา

‘นิมชอบดอกไม้...ชอบชมสวน...โดยเฉพาะเวลานิมเดินคนเดียว นิมคงจะมาเส้น

ทางนี้’

พี่อดตื้นตันจ้อยคำของวีไม่ได้...เพื่อนสนิทคนไทยคนนี้ของนิม...เธอรู้จัก

นิมลํ้าลึกเหมือนที่พี่รู้จัก

ชาร์สี จิม และพี่พาวีไปล่งที่บ้านเธอแจ้ว เราทั้งสามจึงกลับมาทั้งต้นเดิน

เป็นครั้งที่สองและที่สามจากไฮสกูล ตามเส้นทางที่วีบอก...เดินข้าๆ ด้วยการใช้

ความสังเกตทุกฝีก้าว ทุกตารางนิ้วของทางเท้าและห้องถนน พี่เฝ้าดูอาการก้มๆ

เงยๆของชาร์ลีเพื่อคอยจับว่า เขาคิดอย่างไร แลเห็นเขาเวียนมองไปตามหน้าต่าง

ของตัวตึกที่ขนาบข้างซ้ายและบางทีก็สองข้างของซอย ในที่สุดก็ได้ยินเขาพึมพำ

‘ถ้าเป็นไอ้แวนสีดำ...ทำไมถึงไม่มีใครเห็นเวลาไอ้คนขับมันลากเอาตัวนีรา

ขึ้นรถ...ผมให้คนไปสอบปากดำผู้คนแถวนี้ที่อยู่บ้านตอนกลางวัน มีแต่คนให้การว่า

แลเห็นรถทั้งที่เป็นแวนและที่ไม่ใช่แวนสีต่างๆ...รวมทั้งแวนสีดำ...ผ่านไปผ่านมาตาม

ปกติ...ไม่มีอะไรผิดสังเกต’

พี่ถือโอกาสถามทันที ‘ ผู้คนตามบ้านแถวนี้!..ไม่มีใครน่าสงสัยหรือครับชาร์สี

...จะเป็นไปไดไหมที่ใครคนหนึ่งจะโผล่มาจากตึกแถวนี้จับตัวนิมไปทำมิดีมิร้าย’ แม้

ตัวพี่และนิมเองก็รู้จักเพื่อนบไนตามซอยอยู่แล้วหลายครอบครัว ทว่าพี่ต้องการให้

การสืบสวนเป็นไปอย่างละเอียดรอบคอบที่สุด

ชาร์สีกับจิมหันมามองหน้าพี่ ชาร์ลีเป็นคนตอบ ‘สถานีตำรวจบะเธสด้า’

 อยู่ห่างจากซอยพวก!ไม่ถึงสองฟากถนน เรารู้จักผู้คนในชอยจนจะเล่าประวัติให้

คุณฟังได้ไหมือนทีองสูตรคุณ...เป็นครอบครัวชั้นดีทั้ง!แครับ...ส่วนมากอยู่กันมา

ยาวนานเท่ากับความโบราณของตึก

‘แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ยังไปสอบปากคำพวกเขามาแล้วทุกครอบครัว’ จิมเสริม

‘พวกเขาอาสาจะช่วยตำรวจออกตันก้นทั้ง!น’

‘จะต้องเป็นคนมาจากข้างนอก...ไม่ใช่คนในละแวก!’ ชาร์สีทำสีหน้าย้ำดำ

พูด

เราเดินสำรวจกันไปอย่างไม่ยอมให้วัตถุชิ้นน้อยนิดหลุดรอดสายตา มาจน

ถึงบริเวณที่มีรั้วคอนกรีตสูงกั้นทั้งสองฟากของถนน ทันใดชาร์ลีก็ร้องออกมา

ใช่แล้ว...ต้องเป็นตรง!นี่เองที่นิราถูกจับชิ้นรถ...เป็นที่เดียวที่มีกำแพงบัง...

ผู้คนในตึกที่อยู่หลังกำแพงจะมองมาไม่เห็น’

พี่และจิมเห็นด้วยทันที...และเนื่องจากวันนั้นเป็นเพียงวันที่สามหลังจากนิม

หายตัว อีกทั้งตามชอยต่างๆของบะเธสด้าไม่มีผู้คนเดินกล่นเกลื่อนเหมือนในถนน

ใหญ่ เราสามคนต่างหวังว่าหลักฐานบางอย่างยังคงหลงอยู่...เพราะฉะนั้น โดยไม่

ต้องพูดอะไรกันอีก เราต่างย่องเดินทีละก้าวขณะที่สายตาเพ่งมองทั่วทุกเชนดีเมตร

ของบาทวิถีและขอบถนนไปจนสุดกำแพงยาว ต่างก็รูซึ้งดีว่า ไม่ว่าไอ้คนร้ายมันจะ

ใช้คลอโรฟอร์มกับนิมหรือไม่ก็ตาม น้องคงจะใช่วนาทีสุดท้ายที่กังรู้สึกสติดิ้นรน

อย่างสุดกำลัง อาจมีวัตถุชิ้นใดชิ้นหนึ่งตกจากร่างน้องกระเด็นอยู่ใกล้ๆ นั้น

แล้วในสองสามนาทีต่อมา พี่ก็รูสึกถึงความปลาบปลื้มสุดแสนกับความเจ็บ

ปวดมหาศาลที่เกิดชิ้นเกือบจะพร้อมกัน มือถือของนิม...มันเป็นมือถือของนิม!

หมกอยู่ข้างกองหินห่างไปจากขอบทางเดินเพียงไม่ก้าว...ลักษระที่มันกระเด็นจาก

ที่สูงมากระแหกกับกองหินหำไท้กระจกหุ้มด้านหน้าแดกออุกเป็นเสี่ย

‘ใช่ของนิราแน่นะคุณ’ ชาร์ลีกันจิมมองหน้าพี่ ชาร์ลีใช้เศษผ้ารับมือถือ

สีชมพูเครื่องกระจิ๋วจากมือพี่ไปใส่ไว้ในถุงพลาสติกที่เขาใช้เก็บหลักฐาน...เป็นที่แน่ชัด

สำหรับพี่และสองเจ้าหน้าที่ว่า...ไม่ว่าน้องนิมจะอยู่ที่ไหนก็ตาม.น้องขาดอุปกรณ์ที่

จะติดต่อกับโลกภายนอก...กับพี่และทุกคนที่''รักน้อง''

เพราะการสันนิษฐานของชาร์ลี...กับการที่มีนิสสันสีดำคันเดียวคันนั้นปรากฏ

อยู่ในกล้องคู่กันนิรา ท่านผู้กำกับจึงสั่งให้ชาร์ลีส่งแถลงการณ์ไปยังกองตำรวจ

จราจรและกองตำรวจทางหลวง^พ!พ ช่วยกันติดตามสืบหานิลล้นลีตำที่มีทะ-

เบียนรถตัวเลขและอักษรเดียวกันกับคันในภาพ พร้อมทั้งตรวจในบัญชีแล้งความ

รถหายแห่งรัฐแม่รี่แลนด์กับรัฐใกล้เคียงทุกแห่ง

สี่วันต่อมาจึงมีผู้พบนิลล้นแวนสี!เงินจอดทิ้งอยู่ในบริเวณจอดรถของศูนย์

การค้าแห่งหนึ่ง ณ เมืองสปริงฟีลด์ รัฐเวอร์จิเนีย...ห่างจากบะเธสด้า รัฐแมรี่-

แลนด์ประมาณ ๒๕ ไมล์ รุหรือราว ๔๐ กิโลเมตร...ที่ข้างหน้าและท้ายรถไม่มี

ป้ายทะเบียนติดอยู่

สารวัตรใหญ่แห่งเมืองสปริงฟีลด์จึงสงอากัดแวนคันนั้นไว้ในสถานกักรถของ

ตำรวจ ทั้งอนุญาตให้เจ้าหน้าที่กองลีบสวนกับเล้าหน้าที่นิติเวชแห่งบะเธสด้ามาตรวจ

สอบ...ได้การว่ารถคันนั้นถูกทาสีทับจากตำเป็นน้ำเงิน กับทั้งได้รับการชัดล้างอย่าง

สะอาดเกลี้ยงเกลาทั่วทั้งคันรถ เกือบไม่มีไฟเบอร์หรือฝุ่นผงแม่หนึ่งธุลีเหลืออยู่

...นอกจากเส้นผมสีดำปนน้ำตาลเส้นหนึ่งติดอยู่ตรงชอกเท้าแขนของที่นั่ง

ด้านหลัง ซึ่งหลังจากการตรวจสอบในกล้องจุลทรรศน์เปรียบเทียบกับเส้นผมของ

นิราที่ได้จากแปรงแปรงผม...รวมทั้งการทดสอบดีเอ็นเอจากรากผม...เจ้าหน้าที่สรุป

 

(โปรดติดตามต่อในฉบับเต็ม)


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (96 รายการ)

www.batorastore.com © 2024