Kiss Me, Miss X ปฏิบัติการลับปลุกดีกรีรัก

Kiss Me, Miss X ปฏิบัติการลับปลุกดีกรีรัก

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786160604890
ผู้แต่ง: TheLittleFinger
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 139.00 บาท 34.75 บาท
ประหยัด: 104.25 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

If love is a sin, punish me by kisses.

And if love is a crime, I wanna be your victim.

หากความรักคือบาป โปรดลงโทษฉันด้วยจุมพิตละมุน

หากความรักคืออาชญากรรม...

ฉันหวังเหลือเกินว่าจะตกเป็นเหยื่อของคุณ

 

บทนำ

Aloha Miss X

 

ภายในบ้านหลังใหญ่ประหนึ่งคฤหาสน์ประจำตระกูลหลง กระแสลมเย็นๆ ในช่วงหัวค่ำทำให้บรรยากาศภายในห้องนั่งเล่นซึ่งเปิดโล่งออกไปยังสวนสวยกว้างขวางภายนอกนั้นเย็นสบายอย่างไม่น่าเชื่อ

เป็นครั้งแรกที่ชายหนุ่มสี่คนซึ่งนั่งกระจัดกระจายอยู่ภายในห้องต่างๆ รู้สึกผ่อนคลายกว่าทุกที เมื่องานทั้งหลายที่พวกเขาต้องดูแลรับผิดชอบอย่างต่อเนื่องมาตลอดถูกปลดออกเหมือนยกภูเขาออกไปจากไหล่

หลงจินฟง...ชายหนุ่มผมสีดำ ใบหน้าคมคายดูหล่อเหลาและร้อนแรงด้วยดวงตาคมสีเทา เอื้อมมือหยิบแก้วทรงสี่เหลี่ยมใสแจ๋วบรรจุวิสกี้ชั้นดีซึ่งวางอยู่บนโต๊ะขึ้นจิบน้อยๆ ก่อนแย้มยิ้มมุมปากบางๆ

“อาฮะ ในที่สุดเวลารีแลกซ์ของพวกเราก็มาถึง”

“เวลารีแลกซ์ที่ว่า...” คำพูดนั้นถูกเอ่ยทวนออกจากริมฝีปากบางบนใบหน้าคมคายที่ล้อมกรอบด้วยเส้นผมสีน้ำตาลเข้ม “นายคงหมายถึง...เวลาที่ ‘มิสเอ็กซ์’ ไม่อยู่งั้นสินะ” เร็นคลี่รอยยิ้มอ่อนโยน ก่อนวางโทรศัพท์ที่เพิ่งจะจบบทสนทนากับคนรักลงบนโต๊ะ

“เฮอะ ดีใจเกินไปรึเปล่า” เสียงขุ่นๆ จากชายหนุ่มผมดำเอ่ยสวน วงคิ้วคมขมวดอย่างจริงจังจนแทบเป็นปมเมื่อเจ้าตัวเงยหน้าขึ้นจากแล็ปท็อปตรงหน้ามายังเพื่อนอีกสองคน “ถึงเจ้าตัวไม่อยู่ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีงานสักหน่อย”

“หมายความว่ายังไง” เร็นถามอีกหนด้วยน้ำเสียงสนใจ

“เฮอะ” ออกัสถอนหายใจเบาๆ ยกปลายนิ้วดันกรอบแว่นขึ้นเล็กน้อยให้เข้าที่ ก่อนพรมนิ้วลงยังแป้นพิมพ์ต่อ “รายงานคราวก่อนที่ส่งไปเพิ่งถูกสั่งให้เอามาแก้นี่ไงล่ะ”

“อ้อ” จินฟงคลี่ยิ้มกว้างที่มุมากอีกหน “ผมจำได้ละ...วันก่อนมีคนโทรมาหาผมให้ไปรับรายงานเรื่องคดีนักค้ายารัสเซียมาแก้...แต่ผมลืมไปซะสนมเลย”

“ ‘สนิท’ จินฟง” ออกัสแก้คำเบาๆ พร้อมถอนหายใจเฮือก “ก็เพราะนายไม่ไปเอามาแก้นี่ไง ฉันถึงต้องวุ่นวายแก้เองอยู่เนี่ย”

“แก้งาน? คดีนักค้ายารัสเซียน่ะเหรอ ยังมีส่วนต้องแก้ด้วยงั้นเหรอ” เร็นถามงงๆ เพราะคดีที่ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเขาอยู่ไม่มากก็น้อย

“อืม...แต่ไม่มากนักหรอก ฉันทำจะเสร็จแล้วล่ะ” ออกัสตอบ

“เยี่ยมไปเลย” จินฟงแย้มยิ้ม “นี่เป็นเพราะนายเป็นคนเอาการเอางานที่สุดแล้วนี่นะ”

“ไม่เหมือนอีกคนล่ะมั้ง” ออกัสถอนหายใจเบาๆ อีกหน ก่อนปรายตาไปยังโซฟาตัวใหญ่เบาะนุ่มที่เสมือนเป็นที่นอนได้ และที่ตรงนั้นก็มีร่างสูงของชายหนุ่มผู้มีใบหน้าเนียนใสใต้เส้นผมสีน้ำตาลส้ม นอนขดตัวกลมหลับอยู่อย่างสบายอุรา

“เอาน่า...ยังไม่ชินรึไง ถ้าตื่นตลอดเวลาก็ไม่ใช่เชสเซียร์แล้วล่ะ” เร็นหัวเราะเบาะๆ ก่อนช่วยเปลี่ยนเรื่องออกจากน้องเล็กของกลุ่ม “ว่าแต่...แล้วทำไมรายงานเราต้องแก้ล่ะ ก่อนส่งก็ให้มิสเอ็กซ์ตรวจดีแล้วไม่ใช่เหรอ”

“เฮอะ ก็เพราะเป็น ‘Miss X’ ไง” ออกัสพึมพำ

“นายพูดแบบนี้...มันทำให้ผมคิดออกเลยล่ะ” จินฟงเอ่ยก่อนส่งเสียงเดาะลิ้นสนุก “คนตรวจถัดจากนั้นคงเป็น ‘Another X’ แบบนั้นสินะ”

“เดาไม่ผิดหรอก” ออกัสยักไหล่เบาๆ “เพราะงานนั้นดันมีคนของ ‘X’ คนนั้นเข้ามาเกี่ยวไง แทนที่จะส่งรายงานตรงขึ้นไปได้ เลยต้องมาโดนอ่านก่อน”

“หึ เอาน่า...ผมออกจะชอบนะ” จินฟงหัวเราะ

“ชอบ?” เร็นกับออกัสแทบออกเสียงพร้อมกัน “หมายความว่าไง ที่ว่าชอบน่ะ”

“แหม..ก็...มันสนุกทุกที เวลาเห็นสองคนนั้นเจอกันนี่นะ”

คำตอบนั่นทำให้ออกัสและเร็นถอนหายใจเบาๆ แทบจะวินาทีเดียวกัน...

สนุก? แน่ใจเหรอว่าสนุก

การที่สองเอ็กซ์มาเจอกันเมื่อไหร่มันก็เหมือนพร้อมจะเกิดปฏิกิริยาปรมาณูตามสูตร E=mc2 ของไอน์สไตน์ทุกครั้งไปซะมากกว่า...

“เสียดายอยู่อย่าง...” จินฟงแย้มยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์เอ่ยลอยๆ ขึ้นมาเฉยๆ ก่อนจบวิสกี้ในแก้วต่ออย่างสบายอารมณ์...เดือดร้อนให้คนอยากรู้แล้วถ้าไม่รู้จะอึดอัดสุดๆ ตามนิสัยของคนกรุ๊ปเออย่างออกัสเอ่ยเร่ง

“เสียดายอะไรของนายจินฟง”

“ก็เสียดายตรงที่...” จินฟงกำลังจะเอ่ยต่อ...

หากแต่...

“เร็น...กี่โมงแล้วนะ” เสียงจากคนขี้เซาที่เพิ่งลืมตาตื่น หลังจากมาถึงก็หลับแบไม่คิดจะลืมตามองโลกหรือคุยกับใครเอ่ยสวนขึ้นมาดื้อๆ ส่งให้คนที่กำลังจะเอ่ยตอบคำถามปิดปากต่อ ส่วนคนอยากรู้ก็หงุดหงิด คิ้วขมวดแทบเป็นปม ส่วนคนถูกเรียกชื่อก็ได้แต่คลี่ยิ้มมองนาฬิกาข้อมือตอบคำถาม

“หือ? เกือบสองทุ่มแล้วน่ะ”

“อ้อ”

“จินฟง ตกลงนายเสียดายอะไร” พอการถามตอบเงียบไป คนอยากรู้ก็คิ้วขมวดเร่งถามหาคำตอบอีกหน

“ก็เสียดายที่...”

“เร็น...โทรศัพท์ของผมแบตฯ หมด ผมยืมของนายหน่อยได้มั้ย” เสียงเนือยๆ เอ่ยขัดขึ้นอีกหน ก่อนร่างสูงๆ ที่เพิ่งโงหัวขึ้นจากที่นอนจะเดินโซเซเข้ามาในวงสนทนา

วงคิ้วของคนอยากรู้จักขมวดเป็นวงหนักกว่าเก่า ก่อนพยายามหาทางระบายอารมณ์กรุ่นในใจด้วยการปลอบตัวเองว่าเดี๋ยวก็ได้รู้แล้ว...

“ได้สิ” เร็นหยิบโทรศัพท์ของเขายื่นไปให้

เดี๋ยว็ได้รู้คำตอบแล้ว...

อีกไม่นาน...ล่ะมั้ง...

หากแต่ยังไม่ทันถึงมืออีกฝ่าย โทรศัพท์ก็แผดเสียงร้องลั่นเป็นเพลงที่ตั้งเอาไว้เฉพาะหวานใจเสียก่อนจนเจ้าตัวชะงักมือดึงกลับ

“อา โทษทีเชส โอโบโทรมาพอดีน่ะ”

“แย่จัง” เชสเชียร์ทำเสียงเนือยๆ เหมือนผิดหวังนิดหน่อย ก่อนหันมองหาเป้าหมายใหม่ และแล้วก็... “ออกัส...ผมขอยืมโทรศัพท์นายหน่อยได้มั้ย”

“เอาไปทำอะไร” คนหัวเสียถามกลับเสียงขุ่น ความจริงก็ไม่ได้มีปัญหาเรื่องให้ยืมอะไรหรอกนะ เพียงแต่...มันช่าง ‘ขัดจังหวะ’ เหลือทน

“ผมจะโทรหาคริสตินน่ะ เมื่อกี้ฝันถึง...เลยอยากได้ยินเสียง”

เหตุผลไม่น่าให้ยืมเท่าไหร่เมื่อเอาความหมั่นไส้มาประกอบ แต่ออกัสก็ยอมถอนหายใจพรืดก่อนหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองออกจากกางเกงยื่นไปให้

“เอาไป แล้วไปหาที่คุยที่อื่นล่ะ”

เฮ้อ คนมีความรักเหมือนกัน ก็พอเข้าใจน่ะนะ เพราะจริงๆ ก่อนมาที่นี่ เขาก็ไปหาลูน่าที่บ้านมาเหมือนกัน...

“ผมไม่คุยกับคริสตินให้นายฟังอยู่แล้วล่ะน่า”

เชสเชียร์พยักหน้ารับโทรศัพท์ส่งท้ายคำพูดให้ยิ่งหงุดหงิดในฐานะคนให้ยืม ก่อนจะเดินจากไปทิ้งตัวลงนอนที่เดิม แต่คราวนี้เปลี่ยนจากนอนหลับมาเป็นโทรศัพท์หาคนรักแทน...

เฮ้ออออ...ออกัสถอนหายใจเบาๆ ยกปลายนิ้วดันขอบแว่นขึ้นอีกหน เสร็จเรื่องจากเชสเชียร์เจ้าตัววุ่นวายเสียที ถึงเร็นจะหนีไปคุยโทรศัพท์กับคนรักด้านนอก แต่ก็ไม่ใช่ประเด็น...เมื่อคนที่จะตอบคำถามที่เขาอยากรู้ได้ไม่ใช่คนพวกนั้น...

แต่เป็น...

“จินฟง ตกลงว่า...” เขากำลังจะได้คำตอบแล้ว...

...ถ้าไม่ใช่ว่า...เสียงโทรศัพท์เครื่องที่เหลือดังขึ้น พร้อมกับท่าทางเลิกคิ้วพอใจน้อยๆ ของหลงจินฟง

“อา โทษทีนะออกัส ‘Lace Girl ของผม’ โทรมาน่ะ”

จินฟงยักไหล่ส่งให้เหมือนใช้แทนคำพูดว่า ‘คนรักสำคัญกว่า โทษทีนะ’ ก่อนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแย้มยิ้มกว้างกดรับ กรอกน้ำเสียงคิดถึงผ่านลงไป

คนอยากรู้ใจจะขาดถึงขั้นอ้าปากค้าง..อุตส่าห์ตัดตัวปัญหาเชสเชียร์ออกไป เร็นก็ไม่รู้เรื่อง แต่สุดท้ายแทนที่จะได้รู้...ก็กลายเป็นหนีไปคุยโทรศัพท์กับแฟนต่อดื้อๆ เนี่ยนะ!!!

ให้ตายเหอะ!! แล้วเขาต้องรออีกนานแค่ไหนกว่าหลงจินฟงจะวางสายมาตอบคำถามล่ะเนี่ย!!?

...ท่าทางอยากรู้จนแทบคลั่งตายนั่นทำให้คนเพิ่งคุยโทรศัพท์แอบเหล่มองปฏิกิริยาแล้วหัวเราะพอใจเบาๆ ในลำคอ...

คนกรุ๊ปเอเอ๊ย...คำตอบจริงๆ มันสั้นนิดเดียวเท่านั้นแหละ...

แต่มันก็สนุกนี่นะที่ได้แกล้งคนอยากรู้ให้อยากรู้จนแทบทนไม่ได้แบบนี้

เพราะงั้นแล้ว...

รอคำตอบไปอีกสักนิดก็แล้วกัน

 

1

Aloha Hawaii

 

Miss X Kisses :

ความไม่แน่นอนก็คือความไม่แน่นอน...และฉันโคตรเกลียดคำนี้เลย

 

“Mahalo (ขอบคุณค่ะ)”

“Mahalo”

คำขอบคุณตามภาษาพื้นเมืองของฮาวายดังขึ้นหลังจากพนักงานประจำร้านขายเสื้อผ้าพื้นเมืองรับเงินไปจากฉัน ส่วนฉันก็รับเอาเสื่อสำหรับปูนอนอาบแดดที่ชายหาดจากเธอมาพร้อมขอบคุณตอบเธอไปบ้างให้เข้ากับสถานที่

เมื่อวานหลังอาศัยอยู่บนเครื่องบินร่วมสิบกว่าชั่วโมง ในที่สุดฉันก็มาถึงสนามบินโฮโนลูลู บนเกาะของโอวาฮูของฮาวายตอนราวๆ สามทุ่ม ทันทีที่มาถึงฉันก็รีบลากกระเป๋าเข้าโรงแรมนอนพักให้หายเหนื่อยแล้วค่อยมาเริ่มต้นเก็บช่วงเวลาแสนสุขของการพักร้อนที่ฮาวายในวันนี้..

“หมู่เกาะฮาวายเกิดจากแนวภูเขาไฟโผล่ขึ้นกลางมหาสมุทรแปซิฟิกทอดยาวต่อเนื่องกันเป็นลูกโซ่ ประกอบด้วยเกาะขนาดใหญ่ที่ปรากฏให้เห็นตามแผนที่ทางภูมิศาสตร์แปดเกาะ และเกาะเล็กเกาะน้อยอีกหนึ่งร้อยยี่สิบสี่เกาะ แต่เดิมถูกเรียกชื่อว่าหมู่เกาะแซนด์วิช...”

เสียงบรรยายเป็นภาษาอังกฤษจากไกด์ทัวร์ประจำกรุ๊ปทัวรืเอเชียกลุ่มใหญ่ดังขึ้นจากข้างทางที่ฉันกำลังจะเดินผ่าน ก่อนที่มันจะชะงักค้างหายไปเฉยๆ เมื่อฉันเดินผ่าน

“โว้ววว คนสวย”

“เซ็กซี่ชะมัด!!”

“วิ้ว มาคนเดียวเหรอ ผมดำแฮะ ลูกครึ่งเอเชียรึเปล่าน่ะ!?”

เสียงบรรยายขาดหาย ซ้ำเสียงร้องแซวอย่างอดใจไม่ไหวจากพวกหนุ่มชาวเอเชียในกรุ๊ปก็ดังตามมาติดๆ เดือดร้อนบรรดาสาวๆ กับพวกป้าแก่ๆ ในกรุ๊ปต้องช่วยกันส่งเสียงกระแอมดังลั่นเรียกสติ

เฮอะ...ขึ้นชื่อว่าผู้ชาย จะเป็นประเทศไหนก็เหมือนกันไปหมด

ฉันถอนหายใจระอาเบาๆ เดินออกมายังชายหาด ปูผ้าลงบนผืนทรายในตำแหน่งที่คนไม่พลุกพล่านนัก ก่อนถอดเสื้อคล้องคอสีแดงสดออกพ้นหัว เหลือเพียงแค่บิกินีสีขาวด้านในซึ่งสวมมาตั้งแต่ที่โรงแรม หยิบแว่นกันแดดออกมาสวมก่อนหาไอพอดออกจากกระเป๋าสานกดไล่รายการหาเพลงสบายๆ ที่น่าจะเหมาะกับการนอนอาบแดด...

“โอ้ เธอเห็นนั่นมั้ยน่ะ!”

แต่ก่อนฉันจะเสียบหูฟังเข้ารูหูเพื่อตัดขาดโลกภายนอก เสียงยัยสาวๆ เจแปนสามสี่คนที่นอนอาบแดดอยู่ไม่ไกลนักก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงดี๊ด๊าสุดๆ ก่อนบรรดาเพื่อนในกลุ่มจะพากันพยักหน้ารับส่งภาษาญี่ปุ่นโต้ตอบกันไปมาสนุกปาก

“ให้ตาย!! หล่อชะมัด คนประเทศอะไรน่ะ!”

“อ๊าย ฉันรักหนุ่มเซิร์ฟจัง!”

เฮอะ...ไม่ใช่แค่ผู้ชายล่ะมั้ง บางที...ผู้หญิงประเทศไหนก็คงเหมือนกันไปหมด ไม่เว้นแม้แต่ยัยยุ่นพวกนี้ด้วย

เฮ้อออ บางทีการฟังภาษาต่างประเทศออกหลายภาษานี่ก็ไม่ได้ดีเท่าไหร่แฮะ เหมือนโดนลากเข้าไปร่วมวงสนทนาด้วยยังไงก็ไม่รู้

“ว้าววว...ฉันชอบผมเขาจัง สีน้ำตาลอ่อนยาวระต้นคอ ดูเซอร์นิดๆ แต่กลับน่าค้นหาดีนะ”

ว่าไงนะ...?

คีย์เวิร์ดแสนสยองบางคำทำให้ฉันรีบหันขวับไปตามทิศทางที่สายตาสาวยุ่นพวกนั้นพาไปทันใด เพียงแต่ทว่ามันก็สายไปนิด เมื่อร่างสูงเป้าหมายสายตาสาวๆ ที่ว่าแบกเซิร์ฟบอร์ดอันใหญ่วิ่งมุ่งหน้าลงทะเลไปแล้วเรียบร้อย...

แต่ทว่า...ไอ้ ‘ผมสีน้ำตาลอ่อน’ กับ ‘น่าค้นหา’ ที่ว่านั่น มันก็ยังคาใจฉันอยู่ดี...

ถ้อยคำสั่งเสียที่ฉันสั่งเอาไว้กับจินฟงก่อนออกจากบ้านตระกูลหลง

(ติดตามอ่านต่อได้ในฉบับเต็ม)


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (70 รายการ)

www.batorastore.com © 2024