
Lapis Lazuli ภารกิจเสิร์ฟรักจากดวงดาว
ประหยัด: 48.65 บาท ( 35.00% )
มีสินค้ามือสองอยู่จำนวน : 4 รายการราคา 30.00 บาท - 69.00 บาท ซื้อสินค้ามือสอง
Quick View
เนื้อหาบางส่วน
เพราะไม่เคยเชื่อว่ามีพรหมลิขิต...
จนกระทั่ง...
ได้เห็นสิ่งที่ยอมรับได้ว่าเป็น ‘โชค’ ชะตา
ปรากฏอยู่ตรงหน้าผม
บทนำ
“ฌาปง!” สาวหน้าคมตะโกนเรียกชื่อรูมเมตของตัวเองที่กำลังนอนจะหลับมิหลับแหล่อยู่บนเตียงนุ่มภายในห้องพัก
ฌาปงสะดุ้งดีดตัวลุกขึ้นมานั่งเกาหัวพลางหันไปมองหน้าคนเรียกด้วยหัวคิ้วที่พันกันยุ่ง
“ลาซูลี จะตะโกนทำไม ยืนห่างไม่กี่ก้าวแค่เนี้ย” ฌาปงบ่นเสียงงัวเงีย
“แกไปรับใบปลิวนี่มาใช่มั้ย” ลาซูลีถามเสียงดังก่อนจะก้มลงหยิบกระดาษพิมพ์สีสวยเป็นสัญลักษณ์ของราศีต่างๆ ที่เริ่มต้นหัวกระดาษด้วยตัวอักษรภาษาอังกฤษว่า ‘Zodiacs’ Club’
และเนื้อหาใจความที่เหลือก็คือ
ร้อนนี้...
คุณอยากถอดหัวใจส่งต่อให้ใครสักคนช่วยดูแล
ให้อยู่ในอุณหภูมิที่เหมาะสมบ้างไหม
‘Zodiacs’ Club’
เพราะรักของเรา คือดวงดาวของคุณ
แล้วพบกันเมื่อลมร้อนแรกแห่งปีพัดผ่านคุณ
ลาซูลีหยิบมันขึ้นมาส่งให้แม่เพื่อนสนิทตัวดีที่ยื่นมือมารับไปอ่านอย่างงงๆ ส่วนเธอก็พยายามเขี่ยกระดาษที่เหลืออีกหลายสิบแผ่นออกไปให้พ้นอาณาเขตห้อง เพิ่มหน้าที่เก็บกวาดให้แม่บ้านประจำตึกทำอีกสักหน่อย
“ใบปลิวอะไรล่ะเนี่ย”
“แกรับมาไม่ใช่หรือไง”
“เหอะ” ฌาปงส่ายหน้าดิก “ตอนฌาปงเข้ามายังไม่เห็นมีเลย”
“ไร้สาระ อ่านเสร็จแล้วเอาไปทิ้งด้วย”
ลาซูลีบอกฌาปงในขณะที่เดินไปเปิดโทรทัศน์ดู แต่เพราะความเคยชินเลยไม่ได้สังเกตเสียงกรุ๋งกริ๋งของกระดิ่งที่ดังกระทบกัน เดือดร้อนฌาปงที่อยากจะนอนหลับสักตื่นต้องบ่นหงุงหงิง
“ลาซูลี ถอดกำไลข้อเท้าด้วย ฌาปงจะนอน” พูดจบก็ล้มตัวลงนอนท่าเดิม
เมื่อลาซูลีถอดเครื่องประดับที่ก่อให้เกิดเสียงดังตามใจคนอยากนอนเสร็จแล้ว สาวหน้าคมเหมือนมีเชื้อสายกรีกก็แทบอ้าปากค้างเพราะรายการโทรทัศน์ทางช่องของหอพักกำลังฉายโปรแกรมที่ทางมหาวิทยาลัยจัด
แล้วไอ้ช่องนี้มันก็กำลังพาดหัวตัวใหญ่ๆ จนเห็นกันไปถึงมหาวิทยาลัยฝั่งโน้นว่า...
‘Zodiacs’ Club’
เพราะรักของเรา คือดวงดาวของคุณ
ไอ้คลับบ้าๆ นี่มันจะตามหลอกหลอนไปถึงไหนกัน! อยากจะเขวี้ยงรีโมตใส่หน้าจอที่ขึ้นพื้นหลังเป็นรูปดวงดาวระยิบระยับให้รู้แล้วรู้รอดกันไปเลย
1
ใบปลิว
“แก...แกได้รับใบปลิวเรื่องโซดิแอกส’ คลับแล้วใช่ป่ะ”
“ได้แล้วๆ น่าใช้บริการโคตรๆ อ่ะแก”
“แต่แพงไปนิดนะ ตั้งชั่วโมงละหนึ่งพันแน่ะ”
“แกก็ลองซื้อมันธ์ลี่ แบร์มาก่อนสิ ตัวละห้าร้อยเอง คุ้มจะตายนะฉันว่า”
ไม่ว่าจะก้าวขาไปทางทิศไหนของมหาวิทยาลัย ลาซูลีที่ผูกใจเกลียดก็ได้ยินแต่เสียงซุบซิบของเรื่อง ‘โซดิแอกส’ คลับ’
ไอ้คลับบ้าๆ ที่เมื่อวานมายัดใบปลิวไว้ใต้ประตูห้องพักของเธอในคราวเดียวประมาณห้าสิบแผ่น
...เจ้าของคลับเป็นลูก ‘บับเบิ้ล เอ’ หรือไง! มันถึงได้กล้าใช้กระดาษสิ้นเปลืองทรัพยากรโลกขนาดนี้
“นี่ลาซูลี! เมื่อไหร่จะเลิกเดินกระแทกส้นสักที” คนถูกเรียกหันไปมองฌาปงตาขวาง
“เราเดินกระแทกส้นลงบนพื้น แล้วแกมายุ่งอะไรด้วยล่ะ”
“เสียงกระดิ่งที่กำไลข้อเท้าของลาซูลีมันน่ารำคาญนี่ ทีหลังก็อย่าใสสิ”
...ยัยเตี้ยนี่ก็อีกคน...เป็นอะไรกับกำไลข้อเท้าของเธอกันนะ
“ทีแกชื่อฌาปง เรายังไม่เห็นบอกให้แกเลิกใช้ชื่อนี้เลย”
“กำไลข้อเท้าของลาซูลีไม่เห็นจะมาเกี่ยวอะไรกับชื่อของฌาปงเลย อย่ามาติสต์แถวนี้ได้มั้ย”
...อีกแล้ว...ใครๆ ก็ชอบหาว่าเธอน่ะเป็นสาวติสต์
ไม่รู้ว่าคำว่าติสต์ในที่นี้หมายถึงอย่างไหนในกิจวัตรประจำวันของเธอ...บางคนก็ว่าการแต่งตัว แต่ถ้าเป็นคำว่า ‘ติสต์’ จากฌาปงล่ะก็ เธอรู้ดีว่าแม่เพื่อนสาวตัวเล็กหมายถึงนิสัย เพราะฌาปงชอบหาว่าเธอเป็นสาว ‘ติสต์แตก’ หรือ ‘อาร์ตตัวแม่’ อะไรประมาณนั้น
ลาซูลียังไม่ค่อยแน่ใจว่า ‘ติสต์แตก’ หรือ ‘อาร์ตตัวแม่’ นั้นมีความหมายในแง่บวกหรือแง่ลบ แต่ที่พอจะเข้าใจน่าจะหมายถึงพวกคนที่ทำอะไรไม่มีเหตุผล
ชอบเถียงข้างๆ คูๆ
ชอบเอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่
ไม่ต้องการความเข้าใจ แต่ทุกคนต้องเข้าใจเธอ
เอ่อออ...ไอ้ที่พูดมาทั้งหมดนี่มันไม่มีอะไรเป็นแง่บวกเลยใช่มั้ย!
พอเห็นเพื่อนสาวหน้าคมเงียบเสียงไป ฌาปงก็เริ่มปฏิบัติการออดอ้อนออเซาะเหมือนลูกแมวน้อยขนฟูตามนิสัย เพราะโดนว่าว่าติสต์เป็นไม่ได้ ลาซูลีจะปิดปากฉับ ไม่ต่อล้อเถียงอะไรทั้งสิ้น
“ฌาปงล้อเล่นนะ จริงๆ แล้วลาซูลีใส่กำไลข้อเท้าแล้วน่ารักจะตาย” ฌาปงพูดพลางถูๆ ไถๆ กับต้นแขนของลาซูลี คนถูกอ้อนเลยเกิดอาการขนลุกเกรียว รีบผลักหัวของสาวตัวเล็กออกไปทันที
“มาถูไปถูมาแบบนี้ด่าว่าเราว่าติสต์ดูจะเข้าท่ากว่า” แล้วลาซูลีก็ยักคิ้วกวนให้คนอ้อนหนึ่งที
เดินกันไปเรื่อยๆ จนกำลังจะถึงอาคารเรียนรวมซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางของการเรียนช่วงเช้าวันนี้ ฌาปงที่เดินนำอยู่ข้างหน้าก็หยุดเดินฉับพลัน ปล่อยให้คนเดินตามหยุดเท้าตัวเองแทบไม่ทัน
“หยุดทำไมล่ะ เดี๋ยวก็ไปเรียนสายหรอก”
“ลาซูลี...นั่นใช่เจ้าของโซดิแอกส’ คลับหรือเปล่า” ฌาปงชี้ไปทางด้านข้างของคัฟเวอร์ เวย์ที่มีชายหนุ่มหน้าตาเข้าขั้นว่าดีมากๆ ยืนแจกใบปลิวเหมือนใบปลิวเมื่อวานที่ลาซูลีเขี่ยทิ้งไว้ตรงระเบียงทางเดินทั้งกอง
“แล้วแกไปรู้กับเขาได้ยังไงล่ะว่าคนไหนคือเจ้าของคลับ คนไหนคือลูกทีม หรือคนไหนคือลูกค้าน่ะ” ลาซูลียักคิ้วกวน ถามเสียงชวนหมั่นไส้กลับไปแทนคำตอบ
“ก็ถ้าลาซูลีไม่เอาแต่ปิดหูปิดตาหรือเปลี่ยนช่องหนีทุกครั้งที่มีโฆษณาของโซดิแอกส’ คลับฉายทางช่องของหอล่ะก็นะ ฌาปงก็จะแน่ใจเหมือนกันว่าลาซูลีจะต้องรู้จักหนุ่มหน้ามนคนนี้แน่นอน”
ลาซูลีส่งค้อนคมให้ฌาปงเมื่อได้ฟังคำยวนกลับก่อนจะสะบัดหน้าหันไปมอง ‘หนุ่มหน้ามนคนนี้’ ที่ยัยเพื่อนสาวตัวเตี้ยชี้โบ๊ชี้เบ๊อย่างไม่อายใครหรือไม่เกรงกลัวว่าเจ้าตัวจะหันมาเห็น
ลาซูลีเข้าใจแล้วว่าทำไมคลับนี้ถึงได้รับความสนใจจากนักศึกษาสาวทั่วทั้งมหาวิทยาลัย...
เพราะแค่เจ้าของคลับคนเดียว (ที่ตอนนี้ลาซูลียังไม่รู้ว่าชื่ออะไร) ก็หน้าตาหล่อขั้นเทพ กินขาดไปถึงไหนต่อไหน
ถ้าจะให้อธิบายว่าหล่อแค่ไหนเธอก็คงบอกเป็นคำพูดออกมาได้ไม่หมด เพราะชายหนุ่มที่แจกใบปลิวอยู่นั้นหน้าตาดีเกินบรรยาย
ผิวสีขาวอมชมพูแบบคนสุขภาพดีสุดๆ แก้มขาวขึ้นเลือดฝาดจนผู้หญิงอย่างเธอยังอิจฉา ปล่อยให้เส้นผมบางปอยที่ยาวเกินพอดีตกลมาระใบหน้า บดบังนัยน์ตาสีเข้มจัดพอๆ กับสีผม ริมฝีปากบางคล้ายปากแมว
...หน้าตาดูคุ้นมากๆ เหมือนเคยเดินสวนหรือเจอกันมาก่อน แต่บุคลิกที่เคยจดจำได้ไม่ใช่แบบนี้
แต่เธอเองก็ไม่สามารถบอกได้ว่าเขาหน้าเหมือนใคร...เหมือนมันติดอยู่ที่ปาก (เอ่อ...แต่ไม่มีเผือกติดฟันนะ)
ยิ่งเวลายิ้ม...จุดดำเล็กๆ ใต้ตาก็จะขึ้นไปอยู่ที่หางตาซ้าย แต่ถ้าไม่สังเกตให้ดีจะไม่รู้เลยว่าจุดดำใต้ตานั้นมีรูปร่างเหมือนดาวดวงเล็กโชว์รอยบุ๋มที่แก้มข้างเดียวกันนั้นให้เห็นชัดเจน นั่นยิ่งทำให้ดูมีเสน่ห์ดึงดูดอย่างน่าประหลาด
“หล่อมากๆ เลยลาซูลี” ฌาปงเขย่าแขนเรียกสติคนช่างสำรวจ
“ไม่เห็นจะเท่าไหร่ คิดจะเอาเงินจากผู้หญิงมันต้องหน้าตาดีก่านี้ แบบนี้เขาเรียกเบๆ” สาวติสต์ที่ผูกใจเกลียดคลับนี้ไปตั้งแต่เมื่อวานตอบและเบนสายตากลับไปมองทางเดินข้างหน้าอีกครั้ง
“ขวางโลก! แฟนก็ยังหาไม่ได้ยังมีหน้าไปว่าคนหล่อๆ แบบนั้นว่าหน้าตาเบๆ อีกนะ”
“จะไปเรียนมั้ย ถ้าไม่ เราจะได้ไปก่อน” พูดจบก็สาวเท้าเดินออกจากบริเวณนั้น ไม่ยอมรอฌาปงที่ยืนทำหน้างงอยู่ด้านหลัง
“รอก่อนสิ โธ่ แค่แหย่เล่นก็โกรธ” ฌาปงบ่นอุบอิบก่อนจะวิ่งตามเพื่อนสนิทหน้าคมไปโดยไม่ลืมแวะรับใบปลิวของโซดิแอกส’ คลับจากมือเจ้าของคลับมาสองแผ่น
...เผื่อลาซูลีด้วยหนึ่งแผ่น...ต้องดีใจแน่ๆ!
“ฌาปง!’ ลาซูลีเรียกเสียงดัง
“อยู่ใกล้กันแค่นี้ ลาซูลีจะเสียงดังทำไม” คนถูกเรียกขมวดคิ้วจนพันกันยุ่ง เงยหน้าขึ้นจากนวนิยายเล่มหนาที่กางไว้บนโต๊ะม้านั่งใต้อาคารเรียนรวมร้างไร้ผู้คน...แต่ยังแพ้สาวหน้าคมที่คิ้วพันกันยุ่งเหยิงยิ่งกว่า
“ไอ้นี่มันอะไร!” ลาซูลีถามพลางยื่นข้อความที่ขึ้นหราอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์มือถือแบบฝาเลื่อนของตัวเองให้เพื่อนสนิทดู
“บอกแล้วไงว่าอยู่กันแค่นี้จะเสียงดังทำไม” ฌาปงบ่นหงุงหงิงแต่ก็ยอมรับโทรศัพท์มือถือของเพื่อนมาอ่าน
มันธ์ลี่ โฮสต์ : แจนยัวร์
ค่าบริการ : ห้าร้อยบาท
ระยะเวลา : หนึ่งเดือน
ชื่อผู้รับบริการ : ลาพิส (ลาซูลี)
สถานที่รับ-ส่งของ : ตู้ล็อกเกอร์ใต้หอพักโซนอัลฟา อาคาร C3 ห้อง 717
Thank you
For you served
XoXo : Januar
“ไอ้นี่มันอะไร!”
“โอ๊ย ฌาปงจะบอกเป็นรอบที่สามแล้วนะว่าอยู่ใกล้กันแค่นี้อย่าเสียงดัง นี่ลาซูลีได้แจนยัวร์เหรอ โชคดีจัง”
“ฉันว่าแล้วว่าเป็นฝีมือแก ยัยฌาปง” ลาซูลีกอดอกมองฌาปงด้วยสายตาคาดโทษ เปลี่ยนสรรพนามการเรียกเป็นสัญญาณเตือนว่าระดับความกรุ่นร้อนสูงเข้าขั้นวิกฤต
“โธ่ ก็ฌาปงเห็นว่ามันน่าสนุกดีออก เนี่ย ฌาปงอุตส่าห์ยอมออกเงินให้ก่อนเลยนะ”
“ไปบอกแจนยัวรืแจนมีอะไรนี่เลยว่าฉันไม่อยากใช้บริการ”
“ได้ไงล่ะ ฌาปงจ่ายเงินไปแล้วนะ ลองดูก่อนก็ไม่เห็นเสียหายเลยนี่ น่านะ” ฌาปงใช้น้ำเสียงออดอ้อนพลางถูไถกับแก้มกับต้นแขนของลาซูลี
“มันไม่เสียหาย แต่น่าเสียดายเงิน ตั้งห้าร้อยบาท เอาไปทำอะไรได้ตั้งเยอะ” พอโดนลูกอ้อนของเพื่อนสนิทตัวเล็ก ลาซูลีเลยใจอ่อนเพราทำใจโกรธยัยลูกแมวน้อยขนฟูตัวนี้ไม่ลง
“ฌาปงก็ออกให้นี่ไง ไม่ใช่เงินลาซูลีเสียหน่อย”
ถึงแม้จะไม่อยากใช้บริการโซดิแอกส’ คลับอะไรนี่สักเท่าไหร่ แต่ในเมื่อฌาปงจ่ายเงินไปแล้วจะให้เธอไปยกเลิกบริการก็กระไรอยู่
คิดสะระตะไปเพลินๆ ก็เพิ่งจะมาสะดุดใจกับคำว่าสถานที่รับ-ส่งของที่บอกไว้ในข้อความที่เธอได้รับ
“แล้วไอ้รับ-ส่งของนี่มันหมายถึงอะไร”
ฌาปงส่งยิ้มด้วยความโล่งอกเมื่อเห็นว่าสาวหน้าคมเหมือนคนกรีกเลิกตะโกนใส่เธอแล้ว
“อ้อ ลืมบอกไปว่าห้าร้อยบาทนี่ซื้อได้แค่มันธ์ลี่ แบร์”
“มันธ์ลี่ แบร์อะไรของแกอีกล่ะ” ลาซูลีตวัดนัยน์ตาสีดำเหลือบน้ำเงินมองเพื่อน มีแววความไม่ไว้วางใจพาดผ่านดวงตาคมสีสวย
“เอ้า มันธ์ลี่ แบร์ไง เราต้องไปเช่ามันธ์ลี่ แบร์จากทางคลับมาสนนราคาที่ห้าร้อยบาทต่อมันธ์ลี่ แบร์หนึ่งตัวต่อหนึ่งเดือน”
“กะอีแค่ซื้อตุ๊กตาหมีตัวเดือนนี่ห้าร้อยบาทเลยเรอะ” ลาซูลีเบิกตาโตถามเสียงสูง
“บ้าสิ บอกแล้วไงว่าทางคลับเขาให้เช่า ไอ้ห้าร้อยบาทที่จ่ายน่ะ เป็นค่าตอบแทนสำหรับบริการที่มันธ์ลี่ โฮสต์ให้บริการผ่านน้องหมีตัวนี้
(ติดตามอ่านต่อได้ในฉบับเต็ม)