K-Boy สะกิดรักล่าหัวใจยัยจอมเปิ่น (ชุด Boy หนุ่มนานาชาติ)

K-Boy สะกิดรักล่าหัวใจยัยจอมเปิ่น (ชุด Boy หนุ่มนานาชาติ)

1 รีวิว  1 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786110600958
ผู้แต่ง: may112
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 139.00 บาท 34.75 บาท
ประหยัด: 104.25 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

Don’t let her go. If this is true love, do you think this

Happens everyday?

อย่าปล่อยเธอไป ถ้านี่คือรักแท้

นายคิดว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นทุกวันเรอะ

 

บทนำ

 

ในที่สุด...ฉันก็มาถึงสนามบินอินชอนเรียบร้อยแล้ว ฮูเร่!

นี่เป็นการบินเดี่ยวครั้งแรกของฉันเลยนะ หลังจากเก็บหอมรอมริบมาแสนแปดชาติ ฉันก็ได้เงินค่านกเหล็กบินไปดินแดนโสมพอดิบพอดีเลย บวกด้วยการขูดรีดญาติพี่น้องให้ช่วยสนับสนุนเงินพ็อกเก็ตมันนี่อีกนิดหน่อย (ฉันสัญญาว่าจะซื้อเครื่องสำอางไปฝากทุกคน) เมื่อทุกอย่างพร้อมสรรพฉันก็เหินฟ้ามาเกาหลีทันที

ใช่! มาคนเดียวแบบโดดเดี่ยววิเวกเอกาเนี่ยล่ะ

ถ้าฉันไม่ตัดสินใจมาลำพังแบบนี้ล่ะก็...อีกสามชาติหน้านู่นล่ะฉันถึงจะได้มาเหยียบแผ่นดินกิมจิ เพราะยัยเพื่อนร่วมอุดมการณ์ที่สัญญากันเป็นมั่นเหมาะว่าจะไปเกาหลีด้วยกันน่ะมันไม่เคยเก็บเงินได้เกินอาทิตย์สักคน เดี๋ยวค่าเสื้อผ้า ค่าเครื่องสำอาง ค่าแผ่นเพลง ค่าตั๋วหนัง ค่าบัตรคอนเสิร์ตนักร้องเกาหลีที่บินมาสูบเงินพวกมันถึงที่อีก เลยเหลือแค่ฉันคนเดียวที่เก็บเงินได้ตลอดรอดฝั่ง (แสดงให้เห็นว่าฉันแต่งตัวไม่เป็น ไม่รู้จักแต่งหน้าทาปาก ไม่ฟังเพลง ไม่ดูหนัง และไร้ไมตรีจิตกับนักร้องเกาหลีทุกคน)

แล้วฉันมาทำซากอะไรที่เกาหลี...ทั้งๆ ที่ไม่ได้พิศวาสเลยสักกระติ๊ด

ฉันมาหายองเเอ! อึนยองแอไงล่ะ!

เธอไม่ใช่ดาราเกาหลีหรอกนะ แต่เป็นเพื่อนรักของฉันเอง เมื่อก่อนครอบครัวของยองแอมีบ้านอยู่ติดกับบ้านฉันแบบรั้วชนรั้ว เราเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เรียนอนุบาล ประถม จนกระทั่งถึง ม.3 เลยล่ะ ฉันกับยองแอสนิทกันมากราวกับเป็นพี่น้องฝาแฝดเลยนะ แต่พอยองแอกำลังจะขึ้น ม.4 พ่อของเธอก็ได้รับตำแหน่งใหม่และต้องย้ายไปประจำการอยู่ที่เกาหลี สองปีกว่าแล้วนะที่ฉันไม่ได้เจอยัยนั่น แต่เราก็ยังติดต่อกันมาตลอด เจอกันใน MSN บ้าง โทรศัพท์คุยกันบ้าง และเราก็ยังแลกของขวัญวันเกิดทุกปี

แล้ววันนี้ฉันก็จะได้เจอเพื่อนรักแล้ว

ถ้าฉันโทรไปหายัยนั่นแล้วบอกว่า...

‘ยองแอ! ฉันอยู่ที่เกาหลีแล้วนะ’

ฉันรับประกันได้เลยว่ายัยนั่นจะต้องกรี๊ดสลบแน่นอน! ยองแอไม่เคยรู้เรื่องที่ฉันจะมาเกาหลี ฉันปิดปากเงียบเพราะอยากจะเซอร์ไพรส์เพื่อนรัก

ตู๊ดดด...

ฉันโทรเข้าเบอร์ของยัยนั่น หัวใจเต้นตึกตัก แต่แล้วก็มีเสียงผู้หญิงเหมือนพวกเครื่องตอบรับพูดภาษาเกาหลีกลับมา

“%&#%)#(%_))”

เวร! ฉันไม่เข้าใจแม้แต่ประโยคเดียวจึงตัดสายแม่ไซบอร์กออนไลน์นั่นทิ้ง

ฉันโทรเข้าเบอร์ยองแออีกครั้ง รับหน่อยสิยะยัยเพื่อนบ้า!

ตู๊ดดด...

“%#*)%(#_(_”

ชักไม่ถูกต้อง โอเค! ฉันอยากเซอร์ไพรส์เพื่อน แต่เพื่อนไม่ต้องเซอร์ไพรส์ฉันแบบนี้หรอกนะ

ฉันลองโทรเข้าเบอร์ยองแออีกรอบ เธออาจจะแบตฯ หมดหรือไม่ก็ปิดเครื่องชั่วคราว อีกไม่กี่นาทีโทรศัพท์เธอจะต้องกลับมาใช้ได้เป็นปกติ ฉันเป็นคนมองโลกในแง่ดี แต่ตลอดสามสิบนาทีมานี้...ฉันได้ยินแต่เสียงของยัยเครื่องตอบรับนี่!

“#%#%)_)_(%#_%(+”

เอาล่ะ! ฉันพยายามลองแปลประโยคจากเครื่องตอบรับอัตโนมัติ แต่ในความที่ฉันจับได้คือ...

“หมายเลข...บลาๆๆ ติดต่อไม่ได้ บลาๆๆ”

เออ ดีมาก ฉันติดต่อยองแอไม่ได้ กรี๊ดดดด! เซอรไพรส์มากๆ

ฉันจะทำยังไงต่อล่ะทีนี้

 

1

First time…when I saw your eyes

ครั้งแรกที่ฉันสบตาเธอ

 

เออ ฉันมันบ้า! ฉันยอมรับ

เพราะความสะแหล็นแป๋นของตัวเองแท้ๆ ตอนนี้ฉันเลยกลายเป็นยัยโดดเดี่ยวผู้น่าสงสารอยู่กลางแดนโสมไปแล้ว ทั้งๆ ก่อนมาที่นี่ ฉันรับคำกับแม่หนักแน่นว่า

‘ยองแอจะมารับหนูแน่นอน ไม่ต้องห่วงนะ!’

แล้วไหนล่ะยองแอ แม้แต่เงาหัวยัยนั่นฉันยังไม่เห็นเลย ทีนี้ฉันจะทำยังไงล่ะ ฉันไม่มีแผนสองรองรับเลยสักนิด ฉันไม่ได้คิดล่วงหน้าเลยว่าจะไม่ได้เจอยัยนั่น ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ฉันคงไม่สามารถปักหลักรอความหวังจากยองแอที่สนามบินทั้งวันทั้งคืนได้หรอก ฉันมีเป้ใบบักเอ้กแบบอยู่บนบ่า แถมด้วยกระเป๋าเดินทางติดล้อขนาดกลางที่แน่นเอี้ยดและหนักอึ้งอีกหนึ่งใบ ฉันเดินทางจากบางกอกแดนเจอรัสตอนตีหนึ่งครึ่ง ถึงสนามบินอินชอนราวๆ เจ็ดโมงเช้า แต่จนบัดนี้...เก้าโมงกว่าแล้ว หน้าฉันยังไม่ถูกน้ำสักหยด ฟันเฟินก็ยังไม่ได้แปรงเลยด้วย หนทางเดียวที่ฉันคิดออกตอนนี้คือนั่งรถบัสจากสนามบินเข้าไปในตัวเมืองกรุงโซล ฉันต้องหาที่พักให้ได้ก่อนคืนนี้ หาข้าวกิน และไม่ว่าจะเป็นหรือตายฉันต้องโทรหายองแอให้ติด!

บรื้นนนน

รถบัสแล่นออกไปแล้ว ข้างในรถแน่นเอี้ยดไปด้วยคนเกาหลี ฉันปรารถนาอย่างยิ่งที่จะเจอเพื่อนร่วมรถเป็นคนไทยสักคน แต่ไม่ว่ามองไปทางไหน ฉันก็เจอแต่คนหน้ายี่ห้อเกาหลีเต็มไปหมด (ขาวผ่อง หมวยหน้าม้า) ฉันสงสัยว่าตัวเองคือคนตัวดำที่สุดในรถคันนี้หรือเปล่า แม้แต่คุณป้าชะแลแก่ชราที่นั่งอยู่ข้างๆ ยังมีผิวพรรณเปล่งปลั่งกว่าเด็กสาววัยสิบแปดอย่างฉันเลย ถึงเกาหลีจะมีโสมขาว แต่ประเทศไทยก็มีกระทิงแดงนะ เอามาสู้กันไม่ได้เรอะ

“ไงจ๊ะแม่หนู”

คุณป้าผิวสวยกล่าวทักทาย ฉันพอฟังเกาหลีออกนิดหน่อย สืบเนื่องมาจากการที่ฉันเป็นเพื่อนยองแอนั่นล่ะ ในบ้านของยองแอไม่มีใครพูดภาษาไทยสักคน สงสัยเพื่อให้มีสำนึกรักบ้านเกิดล่ะมั้ง ครอบครัวนี้เลยพูดแต่ภาษาเกาหลีกันตลอด และชีวิตในวัยเด็กส่วนใหญ่ของฉันก็คลุกคลีอยู่แต่ที่บ้านของยองแอตั้งแต่เช้าจรดค่ำ (พ่อแม่ฉันเอาแต่ค้นหาความเป็นเลิศอยู่ในบริษัท) ฉันจึงเกิดภาวะปรับตัวเพื่อความอยู่รอด (ขอข้าวบ้านนี้กินเป็นประจำ) ฉันเลยพอฟังภาษาเกาหลีได้บ้าง พูดได้อีกนิดหน่อย (แต่เขียนไม่เป็นและอ่านไม่ออกนะ) แถมแม่ของยองแอยังเคี่ยวเข็ญยัยนั่นเรื่องภาษาเกาหลีอย่างหนัก แบว่าคุณลูกที่รักห้ามลืมภาษาเกาหลีเด็ดขาดและมันก็เผื่อแผ่มาถึงฉันด้วยไงล่ะ

“สวัสดีค่ะคุณป้า”

ฉันทักทายและโค้งอย่างมีมารยาท ฉันประกวดมิสโคเรี่ยนได้นะเออ

“กิน@$@...”

ดีจัง ฉันฟังออกแต่คำว่ากิน แต่เดาว่าคุณป้ากำลังชวนฉันกินขนมอะไรสักอย่าง ฉันปฏิเสธ แต่คุณป้าผู้อารีคนนี้ก็ยัดใส่มือมาจนได้ ฉันรู้สึกซาบซึ้งกับน้ำใจอันงดงามของคุณป้าเหลือเกิน ฉันค่อยๆ หยิบขนมขึ้นมากัด แต่สามวินาทีต่อมาฉันก็แทบจะคายทิ้ง

แหวะ โคตรไม่อร่อยเลยอ่ะ แล้วคุณป้าผู้แสนอารีก็ยัดมาให้ฉันหมดทั้งห่อ

ขอบคุณเหลือเกิน ฟันฉันจะหักอยู่แล้ว

อ้อ! ฉันยังไม่ได้แนะนำตัวเลยนี่นะ ฉันชื่อปาแปงกี้...ทำไมทุกคนต้องทำหน้าแบบนั้นเวลาฉันบอกชื่อนี้

เออ! ก็ได้ ฉันชื่อปาแปง ส่วนคำว่ากี้นี่ฉันเติมลงไปเองล่ะ แต่อย่าถามนะว่าปาแปงแปลว่าอะไร ฉันก็ไม่รู้ คุณแม่บอกว่ามันเป็นชื่อภาษาฝรั่งเศส ส่วนคุณพ่อบอกว่านี่คือชื่อนักฟุตบอลที่ท่านเคยชอบ

คำถามคือ...ทำไมถึงเอาชื่อนักฟุตบอลมาตั้งชื่อลูกสาว คุณพ่อต้องการอะไรกันแน่คะ

ฉันอายุสิบแปดและกำลังเรียนอยู่ ม.6 เคยมีแฟนคนหนึ่งแต่เลิกกันไปแล้ว เพราะเขาย้ายไปเรียนที่จีน ฉันคิดว่ามันยากนะที่เราจะสามารถคบใครสักคนที่อยู่ห่างจากเราเป็นพันๆ กิโลแบบนั้น คนที่อยู่คนละผืนดินคนละแผ่นฟ้ากับเราน่ะ แม้ฉันจะไม่ใช่สาวหวานจ๋าที่ต้องการความรักมาปลอบประโลมชีวิตอยู่ตลอดเวลา แต่ฉันก็คือผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่สุข เศร้า และเหงาเป็น ถ้าฉันจะคบใครสักคน ฉันก็อยากเจอเขาได้ทุกเวลาที่ฉันคิดถึง ฉันจะโทรหาเขาได้โดยไม่เสียเงินชั่วโมงละเป็นร้อย ฉันแค่อยากให้เขาเดินข้างฉัน จับมือฉัน...กินข้าวกับฉัน...มันก็เท่านั้นเอง

กลับมาสู่เหตุการณ์ชีวิตของฉันดีกว่า ชีวิตรักนี่มันรันทดเกินไป รถบัสเดินทางมาเกือบๆ ชั่วโมงแล้ว ฉันเริ่มเห็นโซลทาวเวอร์มันอยู่ไม่ไกลนัก อากาศในเกาหลีตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงผลัดเปลี่ยนจากฤดูร้อนเป็นฤดูใบไม้ร่วง แม้ว่าคนเกาหลีจะบอกว่านี่ยังร้อนอยู่ แต่ฉันพนันได้เลยว่าคนไทยต้องบอกว่ามันหนาวแล้ว

และสิ่งที่ฉันคิดถึงมากที่สุดในตอนนี้คือ...

อึน-ยอง-แอ!

บอกเลยนะว่าด้วยเงินที่ฉันมีอยู่ในตัวตอนนี้คงประทังชีวิตฉันให้อยู่รอดในโซลแค่ไม่เกินห้าวัน นี่มันมหานครที่ค่าครองชีพติดอันดับต้นๆ ของโลกนะ ถ้าฉันติดต่อยองแอไม่ได้เร็วๆ นี้ ฉันได้กลายเป็นขอทานแน่

ในที่สุดรถบัสก็มาถึงสถานีโซล ตอนที่คนขับขนกระเป๋าฉันออกมาตากใต้ท้องรถ เขาแทบจะแยกเขี้ยวงับหัวฉัน รู้น่าว่ามันหนักมาก ข้างในบรรจุของสารพัดอย่าง มีของฝากให้ครอบครัวยองแอเยอะแยะเลยนะ

แต่คำถามคือยัยนั่นอยู่ไหน

ฉันแบกเป้แล้วลากกระเป๋าไปที่ตู้โทรศัพท์สาธารณะเพื่อโทรหายองแออีกครั้ง รับหน่อยยัยเพื่อนบ้า! เธอจะปล่อยให้ฉันโดดเดี่ยวเอกาอยู่ที่เกาหลีแบบนี้ไม่ได้นะ ไหนสาบานว่าจะไม่ทิ้งกันไง

ตู๊ดดด....

“$(_)@@$(@_*%_!”

กรี๊ดด ยัยโอเปอเรเตอร์! แกอีกแล้ว! แกให้ยองแอรับสายบ้างก็ได้นะ

ฉันวางหูโทรศัพท์ลงอย่างสิ้นหวัง ไอ้เป้ที่แบกอยู่บนบ่านี่มันกำลังฆ่าฉันชัดๆ นี่ถ้าฉันไม่ทำตัวเว่อร์อยากจะเซอร์ไพรส์บ้าบอคอแตกอะไรนั่น ป่านนี้ฉันคงอยู่บ้านยองแอ กินหมูย่างเกาหลี หรือไม่ก็นอนตีพุงสนุกกับการรื้อของฝากมาอวดเธอไปแล้ว ฉันกลายเป็นยัยบ้าหอบฟาง ไม่มีบ้าน ไม่มีคนรู้จัก เงินกำลังจะหมด อย่างที่บอกว่าฉันไม่มีแผนสำรอง หนังสือไกด์บุ๊กบอกทางสักเล่มก็ไม่ได้เอาติดตัวมา แผนที่สักแผ่นก็ยังไม่มี ฉันไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองงี่เง่าขนาดนี้มาก่อนเลย ฉันปลดเป้หนักอึ้งออก ถอนหายใจและมองไปรอบตัว...

ถนนหนทางที่ไม่คุ้นเคย... (ดูสะอาดกว่าที่ไทย)

ผู้คนที่ไม่ได้พูดภาษาเดียวกับฉัน

ท้องฟ้าสีครามกว้างใหญ่

การเดินทางคนเดียวนี่มันไม่ใช่เรื่องตลกเลยนะเนี่ย

ฉันสูดลมหายใจเข้าปอดเพื่อเรียกพลังงาน ฮึบ! ฉันจะต้องพยายามดิ้นรนให้ถึงที่สุด สิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่ทอดทิ้งนางงามอยู่แล้วน่า เอาล่ะ! ฉันกลั้นใจยกเป้ขึ้นมาแบกอีกครั้ง เราต้องหาที่พักก่อน เคยอ่านตามเว็บบอร์ดพวกท่องเที่ยวเมื่อแสนชาติที่แล้ว เขาบอกว่าที่เกาหลีมีเกสต์เฮ้าส์ราคาถูกๆ เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวยาจกอย่างฉัน ปกติเขาคงจะจองผ่านเน็ตกันมาแล้วล่ะ แต่ฉันคิดมาตลอดว่าจะได้นอนบ้านยองแอ

(ติดตามอ่านต่อได้ในฉบับเต็ม)

รายละเอียด

"K-Boy สะกิดรักล่าหัวใจยัยจอมเปิ่น"

โดย "may112"

อ๊า~ ในที่สุดสาวไทยหัวใจอินเตอร์อย่างฉันก็ได้มาเหยียบแดนกิมจิซะที นี่เป็นการบินเดี่ยวครั้งแรกในชีวิตของฉันเลยนะ รู้สึกตื่นเต้นและสดชื่นอย่างบอกไม่ถูก ฮิๆ >O< ว่าแล้วก็โทรไปหาเพื่อนสาวชาวเกาหลีสุดซี้ให้มารับดีกว่า ยัยนั่นยังไม่รู้เลยนะเนี่ยว่าฉันมาหา แบบว่าอยากเซอร์ไพรส์เพื่อนร้ากกก~ ฉันก็เลยไม่บอกล่วงหน้าน่ะ แต่เอ๊ะ...ทำไมโทรหาเท่าไหร่ก็ไม่ติดซะที นี่อย่าบอกนะว่าเปลี่ยนเบอร์แล้วอ่ะ O[]O ไม่น้า~ แล้วฉันจะไปนอนที่ไหนล่ะเนี่ย ภาษาเกาหลีก็รู้แค่งูๆ ปลาๆ ด้วย ฮือๆ T_T
 
สุดท้ายฉันก็ตัดสินใจนั่งรถบัสเข้ากรุงโซลเพื่อหาที่พัก (ราคาถูก) สำหรับคืนนี้ -_-“ เข้าใจคำว่าไปตายเอาดาบหน้าก็วันนี้เอง แง้ๆ แล้วก็ดูเหมือนว่าฉันจะตายจริงๆ ซะด้วยนะ เพราะกระเป๋าลากตัวดีของฉันดันไถลลื่นลงไปอยู่กลางวงล้อมของนักเรียนหนุ่มเกาหลีที่กำลังมีเรื่องกัน O_O ทุกคนหยุดชะงักและพากันหันมามองหน้าฉันอย่างหงุดหงิด อ๊าก! ฉันนี่มันเปิ่นจนงานเข้าได้ทุกทีสิน่า =[]=

รีวิว (1)

เขียนรีวิว

ภัทราพร | 1 รีวิว
02/07/2014

K-Boy สะกิดรักล่าหัวใจยัยจอมเปิ่น เป็นนิยายของพี่เมย์ ‘may112’ ค่ะสนุกมากๆคือเรื่องนี้อ่านมานานแล้วๆก็ออกขายมานานมากแล้วด้วยสนุกจริงๆอะไรจริง พล็อตเรื่องเขาออกจะโกอินเตอร์ดำเนินเรื่องที่ประเทศเกาหลีเพราะเปิดเรื่องมานางเอกก็บินไปเที่ยวหาเพื่อนที่แดนกิมจิแล้วค่ะไปเจอกับพระเอกที่ประเทศเกาหลี พล็อตนิยายของพี่เมย์จะมาแนวแปลกใหม่ตลอดพอจบจากเรื่องนี้ก็จะมีเรื่องที่พระนางโกอินเตอร์อีกหลายๆประเทศเลยแหละค่ะ นิยายเรื่องนี้เรียกได้ว่าดำเนินเรื่องสนุกมากๆไม่น่าเบื่อเลยค่ะ เรื่องนี้จะมีเนื้อหาที่สำคัญประมาณว่านางเอกเขาเก็บเงินเก็บหอมรอมริบเพื่อนที่จะไปเที่ยวที่เกาหลีไปหาเพื่อนที่นั่นและที่สำคัญคือนางเอกเกิดอยากจะเซอร์ไพร์เพื่อนนั่นก็คือไปหาแบบไม่บอกไม่กล่าวไว้ก่อนพอมาถึงเข้าจริงๆกลับติดต่อเพื่อนไม่ได้ก้เลยไม่มีที่พักนางเอกก็เลยตัดสินใจนั่งรถบัสเข้ากรุงโซลเพื่อที่จะไปหาที่พักราคาถูกก่อนแต่ดั๊นพี่เหตุเกิดให้ไปเจอกับกลุ่มนักเรียนเกาหลีที่กำลังมีเรื่องกันอยู่พอดีและนี่ก็เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องที่นางเอกจะได้เจอกับพระเอกแล้วก็มีเรื่องราวต่างๆตามมาอีกบลาบลา มีความรู้สึกว่าพี่เมย์เป็นคนที่สร้างสรรค์พล็อตนิยายเก่งค่ะเพราะส่วนใหญ่นิยายของพี่เมย์จะเอาพล็อตมาจากเรื่องจริงหรือประสบการณ์ที่เกิดขึ้นจริงที่ได้ไปเที่ยวโน่นนี่มาสร้างพล็อตเป็นนิยายเรียกได้ว่าพี่เมย์ไปเที่ยวที่ไหนก็มีพล็อตกลับมาเขียนเป็นนิยายตลอดเลยเรื่องนี้ก็เช่นกันแถมการดำเนินเรื่องก็ไม่น่าเบื่อด้วยค่ะเพราะในเรื่องนี้นั้นจะมาทุกอารมณ์จริงๆที่บอกว่าไม่น่าเบื่อคือพี่เมย์บรรยายสนุกชอบมีคำตลกๆมาให้ขำเวลาอ่านโดยรวมก็คือมันดูสนุกตั้งแต่พล็อตแล้วรวมถึงตัวละครด้วยพี่เมย์บรรยายลักษณะรูปร่างหน้าตาของตัวละครได้มีเสน่ห์ค่ะถ้าเป็นพระเอกนี่คือบรรยายแบบว่าหล่อไปเลยอย่างเรื่องนี้พระเอกเขาเป็นคนเกาหลีพระเอกก็จะหล่อแบบคมๆเกาหลีๆอารมณ์เหมือนผู้ชายกรีดตาอ่ะค่ะตาคมๆส่วนนางเอกก็มาแนวน่ารักๆสดใสเพราะนางเอกเรื่องนี้อายุแค่สิบแปดเองก็จะมาแนวน่ารักสมวัยค่ะเรื่องนี้ฉากกุ๊กกิ๊กเยอะแบบเมย์บรรยายฉากเลิฟของพระนางได้น่ารักอ่ะเพราะเรื่องนี้พระเองดูเหมือนจะออกแนวปากจัดฮ่าๆที่บอกว่าเรื่องนี้มีทุกอารมณ์ก็คือมันมีทุกอารมณ์จริงๆอ่ะค่ะอ่านแล้วจะรู้สึกได้เอาเป็นว่าอ่านแล้วไม่เบื่อเพราะเรื่องดำเนินแบบสนุกแล้วก็ตื่นเต้นตลอดเวลาพี่เมย์บรรยายได้ดีอ่ะในฉากต่างๆให้ความรู้สึกถึงประเทศเกาหลีจริงๆเพราะเนื้อเรื่องดำเนินที่เกาหลีทุกอย่างมันก็จะเป็นเกาหลีทั้งหมดเลยไม่ว่าจะเป็นฉากที่พัก บ้าน ที่เที่ยวอะไรแบบนี้สนุกมากๆค่ะต้องลองอ่าน

สินค้าที่ใกล้เคียง (70 รายการ)

www.batorastore.com © 2024