3 Jigsaws ขออภัยความรักขัดข้อง

3 Jigsaws ขออภัยความรักขัดข้อง

3 รีวิว  3 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786160605842
ผู้แต่ง: เจ้าปลาน้อย
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 179.00 บาท 44.75 บาท
ประหยัด: 134.25 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

การที่ไม่แสดงออกไม่ได้แปลว่า...ฉันไม่รัก

แคนน่อน

 

1

 

ตายล่ะ จะต้องไม่ทันแน่เลย!

แม่นะแม่ รู้ทั้งรู้ว่าวันนี้ฉันไม่ว่างก็ยังอุตส่าห์จะรั้งไม่ให้ฉันไปไหนเพียงเพราะจะทำแกงไก่ แล้วก็รู้ทั้งรู้ว่าฉันทำอาหารไม่เป็นก็ยังจะยัดเยียดให้ฉันจำ จด เขียนอะไรต่ออะไรบนกระดาษ แล้วพอทำแกงไก่เสร็จสุดท้าย ฉันก็ทิ้งสูตรทุกอย่างใส่ถังขยะแล้วรีบระเห็จออกมาจากบ้านแทบจะทันที

เสียเวลานัก!

ป่านนี้ไม่รู้ว่าพี่ 'แคนน่อน, จะแข่งเทควันโดเส!จไปเรียบร้อยแล้ว หรือยัง ทั้งๆ ที่ฉันตั้งใจว่าจะโผล่ไปเป็นคนแรกให้เขาเห็นหน้าและจะจาก ไปเป็นคนสุดท้ายในสายตาเขา (ดูซึ้งเนอะ TAT) แต่กลับกลายเป็นฉันจะ ไม่ได้ดูการแข่งขันนั่น แถมยังทำแกงไก่ไม่เป็นอีกด้วย วันนี้มันโคตรจะเป็น วันที่แสนเซ็งของฉันเลย

แว้ก! 0_0

"ฉันคิดอยู่แล้วว่าเธอต้องมา >_<"

"พี่โอ้!"

"เธอไม่ต้องเข้าไปดูมันหรอก ไม่มีเธอมันก็แข่งชนะ"

"แต่ฉันอยากไปดูนี่"

"ต่อให้เข้าไปเธอก็เข้าไม่ทัน"

"ไม่ว่ายังไงฉันก็ยังอยากจะดู ให้ฉันเข้าไปเถอะ!"

พี่โอ้ เพื่อนสนิทของพี่แคนน่อน ที่มักจะชอบด่ามาริโอ้เป็นประจำว่าบังอาจมาตั้งชื่อเหมือนเขา! ชื่อที่พ่อแม่ประทานมาให้และเขาคิดว่ามัน คือความภาคภูมิใจที่สุดกลับถูกดาราวัยรุ่นในยุคปัจจุบันแย่งชื่อนี้ไปใช้ในวงการต่อหน้าต่อตา แถมยังมิการบอกว่ามาริโอ้หล่อน้อยกว่าเล็บขบฉันตั้งเยอะ มันดังเพียงเพราะใบเฟิร์นเท่านั้นแหละอีกต่างหาก เหมือนฉัน จะได้ยินด้วยว่าชื่อของเขาจริงๆ แล้วไม่ใช่มาริโอ้ แต่ชื่อว่า 'โอ้-มาย-ก็อด, เพียงเพราะแม่เห็นหน้าเขาตอนถือกำเนิดแล้วรับไม่ได้อย่างแรง แถมยังบ่นกับหมอด้วยว่า 'ตอนอัลตราซาวนด์ทำไมไม่บอกให้ฉันทำแท้ง ถ้าลูกจะออกมาหน้าอย่างนี้!'

เขาน่าเกลียดน่ะ พูดง่ายๆ ไม่ต้องบรรยายมาก =__=

แถมยังเป็นคนน่าเกลียดที่บังอาจมาชอบฉันด้วย แต่ฉันทำเป็นไม่รู้ ไม่ชี้ หัวสมองบู้นี้ชั่วขณะจิตเหมือนวิญญาณออกจากร่างตอนได้รับจดหมายรัก (เชยชะมัด)

"อุ๊ย งานจบแล้วเหรอ!"

"น่าจะอย่างนั้น"

เพราะถูกขัดขวางโดยพี่โอ้ มันเลยทำให้ฉันไม่ได้เข้าไปดูการแข่งขันตั้งแต่ต้น (อันนั้นมันความผิดฉันเอง) แม้แต่ตอนจบก็ยังคงไม่ได้ดู เพียงเพราะถูกผู้ชายหน้าปลวกขัดขวางอยู่ตรงนี้ ผู้คนที่เดินออกมาต่างทำหน้าผิดหวังแล้วก็พูดกันงุบงิบๆ ซึ่งฉันฟังไม่ได้ศัพท์สักเท่าไหร่ แต่มันก็ทำให้ฉันรับรู้ถึงสังหรณ์บางอย่าง...ที่ไม่ดี

"เฮ้ งานจบแล้วยังจะเข้าไปอีก ลูกหมี!"

ฉันฝ่ากระแสผู้คนเหมือนปลาทวนน้ำเข้าไปในโรงยิมที่เป็นสนามแข่งในวันนี้ แล้วก็ได้เจอกับพี่แคนน่อนที่นั่งดื่มน้ำแล้วก็ก้มหน้าก้มตาบังครูฝึก โดยไม่ใส่ใจสาวๆ ที่คอยถือน้ำถือท่ามาให้อยู่ข้างๆ นี่อย่าบอกนะว่าวันนี้...เขาแพ้

ครูฝึกตบบ่าพี่แคนน่อนเล็กน้อยแล้วก็เดินจากไปเงียบๆ ส่วนสาวๆ ที่คอยเอานํ้าเอาท่ามาเสิร์ฟพอเห็นสายตาฟาดงวงฟาดงาของพี่แคนน่อน ทุกคนต่างก็แตกกระจายเหมือนโยนหมูลงไปในบ่อแล้วถูกจระเข้ตะปบนํ้ากระเซ็น จากที่รกๆ กลายเป็นไร้ผู้คนภายในพริบตาเดียว!

แต่ทว่า...สายตาแบบนั้นทำอันตรายอะไรฉันไม่ได้ รู้สึกผิดจังที่ตัวเอง ไม่ได้มาดู TAT

"พี่ปืนใหญ่"

"-_ -++"

"=()= เฮือก!"

ทันทีที่ฉันเอื้อนเอ่ยออกเสียงก็ได้รับสายตาแหลมคมดุจใบมีดโกนของยิลเลตต์ และเมื่อพี่แคนน่อนเห็นว่าเป็นฉัน สายตาเขาก็ยิ่งเร่าร้อนกว่าการมองผู้หญิงพวกนั้นรวมตัวกันเป็นสิบเท่า แง้ TTOTT

"เธอมาทำไม"

"ฉะ...ฉันมาเชียร์ พี่อย่าเสียใจไปเลยนะคะที่แพ้ พี่ก็แค่เตรียมตัวมาไม่พร้อม..."

"หุบปาก!"

"เฮือก!"

"ทั้งๆ ที่เธอไม่ได้ดูฉันแข่งด้วยซํ้า กล้าดียังไงมาพูดแบบนี้” พี่แคนน่อนลุกขึ้นแล้วเอาผ้าขนหนูพาดบนไหล่แรงๆ อย่างมาดเท่ "น่าหงุดหงิดที่สุด"

"ฉัน...ขอโทษ"

"ถ้าอยากไถ่โทษ เธอต้องไม่โผล่หน้ามาให้ฉันเห็นอีก"

"T^T"

"แล้วก็เลิกเรียกฉันว่าปืนใหญ่เสียที มันน่ารำคาญ!"

พี่แคนน่อนเดินจากไปแต่ก็ไม่วายหันมามองฉันด้วยสายตาคาดโทษ เหมือนกับว่าการที่ผลการแข่งขันเป็นไปอย่างนี้มันเกิดขึ้นเพราะฉัน อะไรแบบนั้นเลย

"ไม่ต้องทำหน้าเศร้าขนาดนั้นก็ได้ พี่แคนน่อนเขาคงไม่ได้โกรธอะไรแกมากมายขนาดนั้นหรอก"

"เขาต้องโกรธสิ ถ้าแกเห็นสีหน้าและแววตาของเขา เขาต้องโกรธฉันแน่ๆ"

"เขาจะโกรธแกทำไมในเมื่อเขาไม่ได้รู้สึกอะไรกับแกด้วยซํ้า"

“แง TTOTT"

เสียงเพลง เพื่อนคนแรกและเป็นเพียงคนเดียวที่ฉันมี เมื่อมีความทุกข์ ความสุข ความเศร้า ฉันจะพุ่งตรงมาที่นี่ก่อน เพื่อนสาวผู้ห้าวหาญและพูดตรงประเด็นไม่มีอ้อมค้อม น่าจะมีหนึ่งเดียวในประเทศไทยแล้วในตอนนี้ มันเป็นเพียงคนเดียวที่ไม่ชอบพี่แคนน่อนหรือ 'ปืนใหญ่, ของฉันเลย การจะพูดจาให้ตัดอกตัดใจจึงเป็นสิ่งที่มันถนัดถนี่เป็นที่สุด >_< "ผู้หญิงเรานี่ก็แปลกนะ ผู้ชายดีๆ มีไม่รัก ดันไปรักผู้ชายที่เขาไม่สนใจเรา ไม่ชอบเรา ฉันก็รู้นะว่าการแอบรักแอบชอบมันเป็นความรู้สึกที่ขมขื่นและเต็มไปด้วยความตื่นเต้นเร้าใจ แต่จะทรมานตัวเองให้เสียศักดิ์ศรีไปเพื่ออะไรในเมื่อรู้ทั้งรู้ว่าเขาเกลียดเราอย่างกับขี้”

"ขี้เลยเหรอ T^T"

"เออ! ตั้งแต่แกเฝ้าไล่ตามเขา เพ้อถึงเขา ให้กำลังใจเขาในทุกครั้งที่มีโอกาส แล้วแกเคยได้รับความรักดีๆ ตอบกลับมาบ้างมั้ยนอกจากสายตาที่เต็มไปด้วยความดูถูกดูแคลน กับท่าทางเลวทรามที่เขาทำกับแกน่ะ,,

"ฉันคิดว่าบางทีความอดทนของฉันอาจจะทำให้เขาหันมาสนใจมองบ้าง"

"แกอ่านการ์ตูนเยอะไปแล้ว พวกการ์ตูนตาหวานกับนิยายรักที่เต็มไปด้วยความเพ้อฝันนั่นเขาสร้างเพื่อสาวน้อยที่มองโลกสวย"

"สมควรแล้วที่แกอ่านแต่นิยายผี! ยัยคนมองโลกเฮงซวย"

"ขอบใจ แกทำให้ฉันมองเห็นตัวเองขึ้นอีกเยอะเลย"

"ประชด!"

แม้สิ่งที่เพื่อนพูดจะเป็นสิ่งที่ฉันคิดมาโดยตลอด แต่ก็ไม่อยากยอมรับเท่าไหร่หรอก จะบอกว่าหลอกตัวเองก็คงจะได้ ถ้าฉันบอกกับตัวเองว่าเขาเกลียดฉัน มันคงจะน่าหดหู่ และถ้าฉันไม่ให้กำลังใจตัวเองว่าเขาแกล้งทำไปอย่างนั้นเองอะไรแบบนี้ ฉันก็คงจะรู้สึกอับอายขายขี้หน้าที่ตัวเองเสียศักดิ์ศรียอมรักผู้ชายคนหนึ่งที่ไม่สนใจในตัวฉันเลยแม้แต่น้อย

ทำไมความรักมันยากนักนะ เราจะรักเขาโดยที่เขารักตอบนี่มันเป็นเรื่องยากขนาดนี้ได้ยังไงกัน

"แต่น่าแปลกนะที่คราวนี้รุ่นพี่แข่งแพ้ สงสัยจะฟอร์มตกหรือไม่ก็สมาธิกระเจิดกระเจิง แต่ก็ดี ฉันนึกว่าเขาไม่ใช่คนเสียอีก เรียนก็ดี หน้าก็หล่อ ฐานะทางบ้านก็โคตรรวย แถมยังเก่งไปเสียทุกอย่าง ถ้าเขาไม่แพ้เสียบ้างก็คงไม่ใช่คนแล้วล่ะ แต่การที่คนเราอยู่ๆ เสียศูนย์แบบนี้มันมีอยู่ไม่กี่เหตุผลหรอก"

"เหตุผลอะไร"

"เหตุผลของวัยรุ่นมันจะมีอะไรล่ะ นอกจากเรื่อง..."

"เรื่อง?"

"ความรัก"

ดั่งไฟสุมทรวงทะลวงไส้ติ่ง! ก็รู้หรอกนะว่าใครๆ ก็สามารถมีความรักได้ แม้แต่พี่ปีนใหญ่ของฉันเองก็เช่นกัน แต่ความรักของเขา พอคิดว่ามัน ไม่ใช่ฉันแล้วก็รู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวนอนระทมน้ำไหลออกตามาประมาณสามลิตรเศษหลังจากที่ได้ยินการสันนิษฐานของไอ้เสียงเพลงเพื่อนรัก!

ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร (รู้ตัวดีอยู่แล้วว่าไม่ใช่ฉันแน่ๆ TT^TT) อยากรู้นัก นอนไม่หลับ กระส่ายกระสับ ฉันจะรู้ได้ยังไงโดยที่ไม่ถามพี่ปืนใหญ่ด้วยตัวเอง คิดไปคิดมาสะระตะ สุดท้ายคำตอบที่ฉันต้องการก็หาได้จากคนใกล้ตัวซึ่งก็คือ...

"ไอ้แคนน่อนเหรอ...ไม่รู้เลยแฮะ วันๆ พี่ไม่เห็นมันสนใจอะไรเลย นอกจากส่องกระจกมองหน้าตัวเอง อะไรทำให้เธอคิดว่ามันกำลังมีความรักล่ะ"

พี่โอ้มายก็อด (ฉันประทับใจชื่อนี้จริงๆ T^T) เอามือลูบคางแล้วมองฉันอย่างสงสัยในข้อสันนิษฐานของฉัน

“เพราะเขาแพ้กีฬา”

"คนเรามันก็ต้องมีแพ้กันได้นี่นา"

"แต่จากสถิติแล้วพี่ปืนใหญ่ไม่ใช่คนที่จะแพ้อะไรง่ายๆ ได้ยินมาว่า ตอนแข่งพี่ปืนใหญ่ดูวอกแวกด้วยไม่ใช่เหรอคะ"

"ไม่ได้สังเกตขนาดนั้น แต่ก็ได้ยินจากครูฝึกมาเหมือนกันว่ามันไม่มีสมาธิเลย เหมือนกังวลอะไรอยู่ อาจจะจริงก็ได้นะ บางทีมันอาจจะกำลังมีความรัก เย้! ดี เธอจะได้เลิกชอบมันแล้วมาคบพี่แทน >0<"

ต่อให้ฉันตายแล้วเกิดใหม่แล้วตายอีกรอบ ฉันสัญญาว่าจะไม่รักพี่โอ้มายก็อดถ้าพี่ยังไม่เปลี่ยนใบหน้าและชื่ออันแสนเท่นี่ไปซะ

"ฉันไม่ตลกเลย"

"งั้นให้พี่ไปถามมันตรงๆ เลยมั้ยล่ะ”

"บ้าเหรอพี่ ถามตรงๆ เขาก็..."

"เฮ้ย! แคนน่อน แกกำลังมีความรักเหรอวะ!"

เสียงตะโกนของพี่โอ้ทำให้ฉันหัวเราะเหอะๆ คิดว่าอำแบบนี้จะได้ผลเหรอไอ้หน้าพระเจ้าไม่ตั้งใจปั้น! คงกะว่าฉันจะตกใจตาเหลือกตาโปนแล้วตัวเองก็หัวเราะสนุกสนานล่ะสิ!

"อะไรทำให้แกคิดแบบนั้น"

เฮือก =()=!!!

"น้องลูกหมีเขาสงสัยเลยมาถามฉัน ฉันไม่รู้เลยถามแก >_0"

ฉันค่อยๆ เอี้ยวคอหันไปมองตามเสียงของคนที่ฉันถามถึงด้วยความรู้สึกเหมือนฟันเฟืองไม่ทำงาน หัวสมองฉันว่างเปล่าและหูตาพร่าเลือน =__= ทำไมฉันถึงไม่เชื่อพี่โอ้ ฮือๆๆ

"แล้วอะไรทำให้เธอคิดว่าฉันกำลังมีความรัก"

"เอ่อ..." ฉันอ้าปากพะงาบๆ แต่พี่โอ้ตอบแทนในสิ่งที่ฉันไม่ได้ขอ และเป็นการตอบที่ดูเหมือนจะทำร้ายจิตใจพี่แคนน่อนอยู่กลายๆ ด้วย

"เพราะแกแข่งแพ้ไง"

“ฉันดูเหมือนคนไร้สาระขนาดนั้นเชียวเหรอ!"

เสียงตวาดนั่นทำให้ฉันตัวลีบเล็กเหมือนมดแล้วอยากจะหดตัวหนีไปตามท่อก่อนจะโผล่ขึ้นมาอีกมิติหนึ่งในที่ที่ไม่มีใครรู้จักตัวตนที่แท้จริงของฉัน

แต่ทว่า...

แม้แต่ยามที่เขาโมโหก็ยังดูดีหมดจด เท่าที่จำได้เขาไม่เคยพูดจาดีๆ กับฉันเลยสักครั้ง แต่ก็มีบางอย่างที่ฉันรู้สึกได้ว่าเขาไม่ได้คิดจะทำแบบนั้นจริงๆ หรือไม่ฉันก็ยังคงคิดเข้าข้างตัวเองอยู่อะไรแบบนั้นแหละ วันนี้พี่ปืนใหญ่มาด้วยใบหน้าที่สวมแว่นสายตากับผมที่เสยไปข้างหลัง ใบหน้างดงามหมดจดของเขาไม่สามารถมีอะไรบดบังได้เลย แม้แต่แว่นตาที่ใครๆ ใส่แล้วพากันน่าเกลียด

"เหม่อบ้าอะไรอยู่ ฉันพูดกับเธออยู่นะ"

"อุ้ย เหรอคะ เอ่อ...ฉันก็แค่เป็นห่วง"

"เป็นห่วงฉันหรือเป็นห่วงตัวเอง"

"ทำไมแกชอบทำร้ายจิตใจน้องหมีน้อยของฉันจังวะ พูดกับเขาดีๆ สิ น้องกลัวหมดแล้ว" พี่โอ้ว่า

"ก็พูดดีๆ แล้วไม่ฟังมันก็ต้องพูดเสียงดังแบบนี้แหละ ฉันบอกเธอแล้วใช่มั้ยว่าเลิกยุ่งกับฉันเสียที พูดดีก็แล้ว ไล่ก็แล้วยังไม่รู้จักไป"

"T^T"

"แล้วนี่ยังจะมาสงสัยนั่นนี่ แพ้ก็คือแพ้ มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับความรัก..." พี่ปืนใหญ่เงียบไปแล้วมองฉันอย่างพินิจพิจารณา "อันที่จริง ฉันอาจจะวอกแวกเกี่ยวกับเรื่องรักๆ ใคร่ๆ จริงๆ ก็ได้"

"O_O"

"ถ้าเป็นอย่างนั้นมันคงทำให้เธอหายออกไปจากชีวิตฉันได้สินะ”

"พี่คะ ฉันไม่ถามแล้วก็ได้นะ..."

"เออ ฉันกำลังมีความรัก กับผู้หญิงที่สวยสดงดงามราวกับอวตารมาจากดาวดึงส์ พอใจหรือยัง ฉันกำลังจะหมั้น เรียนจบแต่งงานกะจะมีลูกสักห้าคน คราวนี้ก็ไปเสียที รำคาญ!"

"=()="

พี่ปืนใหญ่เดินจากไปเหมือนกับทุกครั้งที่เขาชอบทำใส่ฉัน และคราวนี้ก็เหมือนกัน เขาทำให้ฉันเศร้าได้อีกแล้ว T^T จริงๆ ฉันก็ไม่เข้าใจตัวเองนะว่าจะทนไปเพื่ออะไร โดนเขาด่าว่ามาขนาดนี้แล้วยังจะไปทนรองรับอารมณ์เขาอยู่ได้ แต่พอมานั่งคิดดีๆ เขาเป็นสิ่งที่ทำให้ฉันอยากมาโรงเรียน อยากมาเจอ ต่อให้โดนด่าก็ยอม

ฉันคิดแบบนี้ทุกวันเลยแหละ...

"อย่าไปสนใจมันเลยนะ ตั้งแต่มันแพ้มาก็หงุดหงิดอย่างนี้มาโดยตลอด พี่เห็นเธอโดนมันด่าทุกวันแล้วก็สงสาร พี่ว่าเธอควรจะเลิก..."

"พี่คะ รอฉันด้วย"

"=()= ทำไมไม่เคยฟังในสิ่งที่คนอื่นเขาพูดเลยยัยเด็กบ้า >0<"

ฉันไม่สนใจเสียงของพี่โอ้อีกต่อไป รีบวิ่งตามพี่ปืนใหญ่ไปอย่างบ้าคลั่ง กับอีแค่คำด่า ฉันเจอมาเยอะแล้ว มันไม่ได้ทำให้เจ็บปวดมากขึ้นหรีอน้อยลงไปกว่านี้ได้หรอก แล้วดูสิ แป๊บๆ พี่ปืนใหญ่ก็เดินจํ้าอ้าวออกไปนอกประตูโรงเรียนแล้วข้ามถนนไปแล้ว ต้องโทษที่ขาฉันมันสั้นและขาของพี่เขาที่ยาวเกินไป ฉันโกรธแม่!! (ไร้เหตุผลอย่างหาใครเปรียบไม่ได้) ทำไมต้องให้ กำเนิดฉันพร้อมกับขาที่สั้นเต่อแบบนี้ด้วย

"พี่ปืนใหญ่คะ คุยกับฉันก่อน ว้าย!"

จังหวะที่ฉันก้าวข้ามถนน ขาแสนสั้นของตัวเองก็สะดุดกับก้อนหินเล็กๆ เท่าขี้ตาแมวจนหัวทิ่ม เสียงแตรดังสนั่นลั่นทุ่งก่อนมอเตอร์ไซด์จะหักหลบล้มไปด้านข้างเสียงดังโครม! เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเรียกทุกสายตาให้หันมามองฉันเป็นจุดเดียว...แม้แต่พี่ปืนใหญ่

"ลูกหมี!"

เสียงตะโกนของเขาทำให้หัวใจฉันเต้นแรง ฉันแยกไม่ออกแล้วว่ามันเต้นแรงเพราะตื่นเต้นหรือว่าเพราะเสียงเรียกของเขา นี่ล่ะมั้งคือความรู้สึกที่เขาชอบพูดกันว่า 'ตายก็ยอม!’

"โอ๊ย"

เสียงร้องของคนขี่มอเตอร์ใซค์ล้มทำให้ฉันได้สติ แม้ฉันจะบาดเจ็บจากการที่ล้มลงเอาเข่ากระแทกพื้น แต่คนที่ล้มลงไปทั้งตัวนั่นน่าเป็นห่วงกว่า

"เป็นอะไรหรือเปล่าคะ"

"เธอเป็นบ้าอะไรเนี่ย!"

ปึก!

ฉันพยายามจะเอื้อมมือไปช่วยดึงเขาขึ้นมา แต่กลับถูกปัดออกแล้วผลักอย่างแรงแบบไม่ไยดีจนฉันล้ม นี่ฉันเจ็บตัวแล้วยังเสียหน้าอีกเหรอเนี่ย

"อะไรกัน ฉันแค่จะช่วย..."

"ไปให้พ้นเลย ถ้าฉันตายแล้วครอบครัวฉันจะทำยังไง"

พอลองมองให้ชัดๆ คนที่ขี่รถล้มคงเป็นวัยรุ่นประมาณเดียวกับฉันหรือพี่ปืนใหญ่เท่านั้นเอง ฉันมองใบหน้าของเขาไม่ถนัดนักเพราะหมวกกันน็อคปกปิดอยู่ แต่เสียงห้าวหาญเอาเรื่อง แทบจะเรียกได้ว่าฆ่ากันได้เชียวแหละ

"แต่แกก็ยังไม่ตายไม่ใช่หรือไงกัน"

"แกเป็นใครวะ! มายุ่งวุ่นวายอะไรด้วย อั้ก!"

พี่ปืนใหญ่ที่ฉันลืมไปชั่วขณะว่าเขายังอยู่เดินมาเหยียบอกแล้วควักแบงก์ห้าร้อยปาใส่หน้าคนขี่มอเตอร์ไซค์คันนั้น

"ให้เดาแกไม่น่าจะมีใบชับขี่หรอก แล้วแกเองก็ขี่เกือบจะชนคนบนทางม้าลายซึ่งมันเป็นทางที่คนเดินข้าม ตำรวจมาเคลียร์จะเรื่องเยอะเปล่าๆ ไปซะ ไม่อย่างนั้น...ฉันจะกระทืบแกให้จมเป็นผืนเดียวกับม้าลายบนถนนนี่เลย!"

เพราะคนขี่มอเตอร์ไซด์คันนั้นไม่ยอมรับเงิน พี่ปืนใหญ่เลยปาเงินใส่เขาแล้วถอนเท้าออกมาก่อนจะหันมามองฉันเล็กน้อย ฉันอ่านไม่ออกเลยว่าเขาคิดอะไรอยู่ แต่มันก็ทำให้ฉันรู้สึกกลัวที่จะถูกด่าอย่างที่ตัวเองชอบโดนจนต้องก้มหน้างุดๆ

"ส่วนเธอ เลิกทำตัวงี่เง่าเสียที กลับบ้านไปได้แล้ว เลิกตามฉันมาอีก!"

ปึก!

แบงก์ห้าร้อยที่ถูกขยำเป็นก้อนถูกปาใส่หน้าพี่ปืนใหญ่อย่างไม่ได้คาดคิด แม้จะไม่เจ็บแต่พอเห็นว่าเป็นเงินที่ถูกปามาก็ทำให้พี่ปืนใหญ่จ้องหน้าคนขี่นั้นอย่างเอาเรื่อง

"ฉันไม่ต้องการเงินของแก ไอ้พวกผู้ดีจองหอง เงินมันซื้อไม่ได้ทุกอย่างหรอกเว้ย"

"แล้วแกจะเอายังไง"

คนขี่มอเตอรไซค์ถอดหมวกกันน็อคออกเผยให้เห็นหน้าตาคมเข้ม จมูกโด่งเป็นสัน ใบหน้าเต็มไปด้วยบาดแผลแต่ก็ไม่ได้ทำให้เขาดูแย่แต่อย่างใด เหมือนผู้ชายประเภทบุกป่าฝ่าดงและเจอกับเรื่องอันตรายมาพอ สมควร ให้ความรู้สึกเท่ไปอีกแบบ เป็นผู้ชายในแบบที่ผู้หญิงทั่วๆ ไปชอบได้เลยเชียวแหละ

"ฉันจะกลับมาเอาคืนแกแน่ รวมไปถึงเธอด้วย!"

ฉันถูกชี้หน้าพร้อมกับรับคำคาดโทษ จากนั้นเขาก็สวมหมวกกันน็อค ก่อนจะยกมอเตอร์ไซค์ที่ล้มแล้วขี่ออกไปโดยไม่วายจอดรถอีกครั้งแล้ว ตะโกนมาพร้อมกับชูนิ้วกลาง

"ฉันต้องได้เจอกับพวกแกอีกแน่ คอยดู!"

 

2

 

ฉันรู้ดีว่าเงินห้าร้อยบาทสำหรับพี่ปีนใหญ่ไม่ใช่ปัญหาใหญ่โตมโหฬารอะไรเลย แต่กระนั้นเมื่อนึกถึงเงินที่เขาควักออกมาเพี่อจบปัญหาให้ฉันแล้ว ก็อดรู้สึกเป็นหนี้บุญคุณพี่เขาไม่ได้ ฉันก็เลยต้องบากหน้าเคาะประตูเรียกพี่ชายผู้แสนเลวของฉันที่มีนามว่า 'ลูกเสือ, ซึ่งกำลังนอนดูหนังโป๊อยู่ในห้องออกมาเผชิญหน้า แถมยังมายืนเกาตูดเสียงด้งแกรกๆ แบบไม่แคร์สายตาน้องสาวของเขาแม้แต่น้อย

"มีอะไร”

"ฉันรู้ว่ามาขัดจังหวะเวลาความสุขของพี่ แต่ฉันมีเรื่องต้องพึ่งพาหน่อย"

"พี่ชายมีไว้สำหรับให้พึ่งพาในยามยากอยู่แล้ว เสียแต่ว่าพี่ชายคนนั้นไม่ใช่ฉัน ฉันไม่ช่วยโว้ย!"

"ถ้าพี่ให้ฉันยืมเงินห้าร้อย..."

"ลาก่อน!"

ปัง!

พี่เสือปิดประตูใส่หน้าฉันแบบไม่แคร์สื่อ จนฉันต้องงัดไม้ตายที่คิดว่าน่าจะสามารถง้างประตูของเขาให้เปิดมาต้อนรับฉันได้อีกครั้ง

"ตอนพี่ไปค้างบ้านแฟน ฉันจะช่วยเป็นพยานให้กับพี่เป็นเวลาสามครั้ง นับจากนี้โปรโมชั่นฟรีฉันจะทำความสะอาดห้องให้พี่อีกสามวันเป็นดอกเบี้ย"

ราวกับร่ายคาถาเซซามิ พูดจบประตูก็เปิดออกอล่างฉ่าง พี่เสือยักคิ้วหลิ่วตาให้ฉันเหมือนพวกมาเฟียที่ต้องการแสดงความเหนือชั้น

"ถ้าแกให้ข้อตกลงนั้น ฉันจะให้แกยืม ห้าร้อยบาทมันเศษเงิน"

"ขอบใจ >o<"

"แล้วแกเอาเงินไปไหนหมด จำได้ว่าพ่อกับแม่ให้แกมาตั้งเยอะไม่ใช่เหรอ"

"ฉันเอาไปใช้ธุระส่วนตัวของฉันสิ"

"เกี่ยวกับไอ้แคนน่อนนั่นอีกสิ แกมันบ้าผู้ชาย"

"หยาบคายที่สุด ได้ทีล่ะขี่แพะไล่เลยนะยืมเงินแค่นี้"

"แล้วแกเปิดโอกาสให้ฉันด่าทำไมกัน"

"เลิกพูดมากแล้วเอาเงินมาเสียที ฉันจะได้กลับไปอาบน้ำทำแผลให้ตัวเอง"

"ทำแผลอะไร"

"=o= เอ่อ...ฉันหกล้มน่ะ”

"แกเป็นแผลตรงไหน"

"ไม่มือะไร"

"ตรงไหน!"

"ที่ขา"

พี่เสือคุกเข่ามองที่ขาฉันในทันทีแล้วมองแผลสลับกับหน้าฉัน จากนั้นก็ทะลึ่งลุกขึ้นพรวดราวกับตูดติดสปริง

"เรื่องที่ฉันได้ยินวันนี้เป็นความจริงสินะ ที่เขาบอกว่าแกถูกรถมอเตอรไซค์เฉี่ยวเพียงเพราะวิ่งตามไอ้เปรตนั่น!"

"ทำไมพี่ต้องพูดจาหยาบคายด้วย แล้วข่าวแบบนั่นมันเข้าหูพี่ได้ยังไงกัน"

"แกคิดว่าโรงเรียนเรามันกว้างใหญ่ไพศาลขนาดที่มีเรื่องน่าตื่นเต้นอะไรแล้วคนอื่นๆ เขาจะไม่พูดจนมาเข้าหูฉันหรือไงกัน ถ้าแกจะจำได้ว่า พี่ชายแกคนนี้ก็เป็นที่จดจำของคนอื่นๆ เหมือนกันนอกจากไอ้แคนน่อน! มันน่าขายหน้าแค่ไหนแกรู้มั้ยที่ใครๆ ต่างก็พูดกันว่าน้องสาวของฉันไล่เดินตามเพื่อนสนิทฉันต้อยๆ"

ฉันลืมเท้าความ...อันที่จริงแล้วพี่เสือกับพี่ปืนใหญ่นั้นเป็นเพื่อนสนิทกลุ่มเดียวกัน ทั้งคู่มีความป็อบปูล่าร์พอๆ กัน แต่คนละด้าน พี่ปืนใหญ่ของฉัน (ของฉันตลอด >O<) จะเด่นดังแต่ในด้านดีๆ เป็นที่รักใคร่ของคนทั่วไป แต่กับพี่เสือ...เขาดุสมชื่อ เป็นที่เด่นดังในเรื่องเลวๆ ตั้งแต่แย่งแฟนชาวบ้าน เล่นไพ่ ชกต่อย ตั้งแก๊ง โดดเรียน แต่ที่ยังคงอยู่ในโรงเรียนต่อไปได้เพราะเงินสนับสนุนก้อนโตของครอบครัวฉันที่ทำนุบำรุงโรงเรียนราวกับสร้างเอง!

อันที่จริงฐานะที่บ้านของฉันก็จัดว่าไม่ธรรมดาเลย ครอบครัวของฉันทำธุรกิจผลิตนํ้าปลาขาย และยังทำรายได้เป็นที่หนึ่งในยี่ห้อนํ้าปลาหลายๆ ยี่ห้อ เรียกได้ว่าบ้านฉันน่ะเศรษฐีชัดๆ เลยล่ะ

แต่ฉันกลับไม่มืเงินห้าร้อยบาทไปจ่ายพี่ปืนใหญ่ TOT

ตอนนี้ฉันกำลังเก็บเงินซื้อนาฬิกาให้พี่ปืนใหญ่เนื่องในวันเกิดอยู่ เหมือนฉันจะแอบได้ยินแว่วๆ มาจากที่ไหนสักแห่งว่าตอนนี้สิ่งที่พี่ปืนใหญ่อยากได้ที่สุดคือนาฬิกาข้อมือ แต่รสนิยมเขาไม่ธรรมดาเลย เพราะราคามันแพงชนิดที่ว่าฉันอาจจะเอาเงินก้อนนั้นมารักษามะเร็งขั้นสุดท้ายถ้าเกิดฉันเป็นขึ้นมาได้เลยทีเดียว T^T

"พี่เลิกทำเสียงจี้จ๊ะเสียที แผลแค่นี้เอง ตัวเองกลับไปดูหนังโป๊ต่อได้แล้วไป"

"ยัยเด็กบ้า!"

"ทำไมต้องตวาดด้วย"

“แกเจ็บมากมั้ยเนี่ย"

“ถ้าพี่ให้ยืมเงิน ฉันจะไม่เจ็บ”

“ให้ยืม"

“หายเจ็บทันทีเลย"

"แกต้องล้างแผลนะ"

"เออน่ะ"

"แกต้องใส่ยาด้วย"

"รำคาญ!"

"ไอ้ลูกหมา!"

ฉันคว้าเงินจากพี่ชายตัวเองมาไfhก็รีบเผ่นแน่บมายังห้องนอนของตัวเองเพราะรำคาญที่พี่เสือมานั่งจํ้าจี้จ้ำไชให้ทำนั่นทำนี่ ถึงแม้ว่าเขากับฉันจะชอบทำเป็นหมางเมินใส่กัน แต่ลึกๆ ฉันก็แอบรู้อยู่ว่าเขาค่อนข้างจะห่วงฉันอยู่ไม่น้อย แต่ไอ้ครั้นจะมาทำท่าว่าเรารักกันเหลือเกินมันก็น่าอ้วก ใช่มั้ยล่ะ ตีกันแบบนี้น่ะดีแล้ว

เอาล่ะ ได้เงินมาแล้ว พรุ่งนี้ฉันจะเอาไปคืนเขา!

แต่มันวันหยุดนี่หว่า แล้วจะเอาไปคืนยังไงเนี่ย =0=

 

ติ๊งหน่อง...

ในที่สุดฉันก็มาหยุดยืนอยู่หน้าคฤหาสน์อันแสนใหญ่โตมโหฬารของพี่ปืนใหญ่ของฉันจนได้ ฉันเคยมาที่นี่มาก่อนกับพี่เสือ ก็ที่นี่นั่นแหละคือที่ที่ทำให้ฉันได้มาตกหลุมรักคนใจร้ายอย่างเขาได้ จำได้เลยว่าภาพแรกที่เห็นเขาคือตอนเขาวิ่งเล่นกับหมาพันธุ์โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ มันเหมือนกับว่าเขาหลุดออกมาจากนิตยสารคนรักสัตว์บวกกับนิตยสารดาราวัยรุ่นอะไรแบบนั้น ทันทีที่ฉันได้สบตากับเขาฉันก็อึ้งตะลึงงันไป คล้ายร่างกายถูกไฟช็อต ตั้งแต่นั้นมาฉันก็บอกกับตัวเองว่าจะตามติดและติดตามเขาไปตลอด ทั้งอ้อนวอนและขอร้องให้พ่อฝากฉันให้เข้าโรงเรียนเดียวกับพี่เสือแม้จะรำคาญพี่ชายตัวเองมากแค่ไหนก็ตาม จะว่าไป...ฉันเฝ้าตามติดพี่ปืนใหญ่มาได้สามปีแล้วนะเนี่ยตั้งแต่ ม.ต้น จนกระทั่งตอนนี้

แต่สามปีของฉันมันช่างเหมือนเสียไปโดยเปล่าประโยชน์แถมยังบอบช้ำจากสายตาเย็นชาที่ส่งตรงมาตลอดเวลานั่นอีก แต่ฉันก็โรคจิตพอจะหลงรักสายตาแบบนั้น

"มาทำไม"

เสียงหวานแหลมเหมือนหอกทิ่มแทงตูดทำให้ฉันสะดุ้งปนหวาดหวั่น ‘น้ำฝน’ น้องสาวของพี่ปืนใหญ่โผล่ออกมาพร้อมยืนกอดอก เชิดหน้าราวกับนางพญางูเหลือม

"ฉันมาหาพี่ปืนใหญ่น่ะ"

"วันธรรมดาเจอที่โรงเรียนไม่พอหรือไงถึงต้องระเห็จมาถึงนี่ เธอนี่ เป็นผู้หญิงแบบไหนกันนะ"

"ฉันมีธุระกับเขา >0<"

"แต่ฉันไม่ให้เข้าไป"

นี่คืออีกอุปสรรคหนึ่งที่ฉันต้องเจอ ยัยนํ้าฝนเป็นน้องสาวผู้หวงพี่ชาย ราวกับจงอางหวงไข่ ยัยนี่น่ะเกลียดฉันอย่างกับอะไรดี ไม่สิ ต้องพูดว่า เกลียดผู้หญิงทุกคนที่เข้ามาใกล้พี่ปืนใหญ่ถึงจะถูก ถ้าพูดกันถึงผลประโยชน์ ที่ฉันจะได้รับ ฉันว่าโอเคที่หล่อนกันท่าคนอื่นให้ แต่ยัยนี่กลับมากันท่าฉันด้วย เคยมีข่าวลือว่ายัยนี่แอบชอบพี่ชายตัวเอง...สงสัยจะจริง

อ้อ แบบว่าสองคนนี้เขาไม่ใช่พี่ชายน้องสาวที่คลานตามกันมาแบบฉันกับพี่เสือนะ! ได้ยินมาจากพี่เสือว่าพ่อของพี่ปืนใหญ่กับแม่ของยัยน้ำฝนแต่งงานกัน ทั้งสองคนก็เลยกลายมาเป็นพี่น้องกันโดยปริยาย แต่ดูเหมือนว่ายัยนี่จะทำเกินหน้าที่น้องสาวที่พึงมีกับพี่ชายมากเกินไปหน่อยหรือเปล่า ฉันไม่เห็นจะเป็นแบบนี้กับพี่เสือเลย!

ฉันส่งสายตาทิ่มแทงให้ยัยผีนี่ก่อนจะตอบอย่างคนมีความอดทน...

"ฉันมีธุระกับเขาจริงๆ และฉันต้องพบให้ได้ คนไม่เกี่ยวก็ถอยไป"

"ฉันต้องเกี่ยวสิ ก็นี่มันบ้านฉันนี่ โอ๊ย ทำไมวันนี้มีแต่คนมาบ้านฉันเต็มไปหมด หงุดหงิดจริงๆ!"

ยัยน้ำฝนบ่นพึมพำพร้อมทั้งวิ่งไล่ตามฉันที่พรวดพราดเข้ามาในบ้านเหมือนแมวเหมียว และเมื่อฝ่าด่านมาได้ก็ต้องพบกับความแปลกใจที่ตอนนี้คฤหาสน์นี้มีแต่รถหรูหราเต็มไปหมด พอเข้ามาถึงเหล่าบรรดาผู้ใหญ่ที่ไม่รู้ว่าเป็นใครต่างก็นั่งหัวเราะหยอกเอินสนุกสนานกับครอบครัวของพี่ปืนใหญ่ ทุกคนหันมามองฉันด้วยความแปลกใจ มีแต่พี่ปืนใหญ่เท่านั้น ที่มองฉันแล้วก็เมินไปทางอื่นเหมือนไม่เห็น

"อ้าวลูกหมี มาถึงนี่มีอะไรหรือเปล่าลูก"

พ่อของพี่ปืนใหญ่ที่รู้จักมักคุ้นกับครอบครัวฉันเป็นอย่างดีถามขึ้นพร้อมทั้งเดินมาหา ฉันยกมือไหว้ผู้ใหญ่ที่รู้จักและไม่รู้จักอย่างคนมีมารยาท จนกระทั่งสายตาไปสะดุดกึก! เข้ากับผู้หญิงหน้าตาถือว่าน่ารักขั้นสุดยอด แทบปล่อยพลังซูเปอร์ไซย่าออกมา (แค่อยากจะบอกว่ามีออร่าเป็นประกายเท่านั้น) ผมสีดำเหมือนขนกาแต่เงาเหมือนพรีเซ็นเตอร์โฆษณายาสระผม ใบหน้าได้รูปกับรูปร่างเล็กๆ ทำให้ฉันรู้สึกใจไม่ดีอย่างไม่มีสาเหตุ

ใคร?

"หมีมาหาพี่ปืนน่ะค่ะ”

"ปืน? อ้อ แคนน่อนอ่ะนะ ฮ่าๆ เห็นจะมีแต่ลูกหมีคนเดียวที่เรี่ยกแคนน่อนแบบนี้ เอ้า! นั่งเฉยอยู่ทำไม น้องมาหาก็ลุกขึ้นมาคุยกับน้องสิ"

"คงไม่ใช่ธุระสำคัญอะไรนักหนาหรอก"

"แคนน่อน”

"ครับ คุยก็คุย"

พี่ปืนใหญ่เดินนำฉันออกมาพร้อมทั้งส่งสายตาเบื่อสุดชีวิตมาให้ โชคดีที่ฉันชิน อยากรู้จังว่าบนโลกนี้จะมีใครอดทนได้เท่าฉันอีกมั้ยนะ

"มีอะไร ฉันนึกว่าวันหยุดจะไม่ได้เห็นหน้าเธอสักสองวัน นี่เล่นโผล่มาถึงนี่อีกเหรอเนี่ย ฉันฝันเห็นเธอทุกวันยังไม่พอใจอีกหรือไง"

มาถึงเขาก็บ่นฟอดแฟดจนฉันตัวหด ก่อนจะรีบควักเงินให้พี่เขาแล้วก้มหน้างุดๆ

"คือ...คือฉันคิดว่าจะต้องเอาเงินนี่มาคืนพี่ให้ได้น่ะค่ะ”

"ค่าอะไร"

"ก็ค่าที่พี่จัดการเป็นธุระให้เมื่อวานนี้ตอนมอเตอร์ไซค์เฉี่ยวชนกับฉัน"

"อ้อ เรื่องนั้นเอง ไม่เห็นจำเป็นต้องมาถึงนี่เพียงเพราะเรื่องแค่นี้ เงินแค่นั้นสำหรับฉันไม่มีความหมายอะไรเลย"

"ฉันรู้ค่ะว่าพี่รวยมาก"

"นี่เธอประชดฉันเหรอ 0_0"

"อุ้ย ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นค่ะ เพียงแต่ฉันแค่อยากจะรีบคืน เพราะไม่อยากเป็นหนี้บุญคุณพี่ เดี๋ยวพี่จะยิ่งเกลียดฉัน แค่นี้ฉันก็รู้สึกแย่มากพอแล้ว..."

ฉันพูดออกมาอย่างจ๋อยๆ และคิดว่าพี่ปืนใหญ่ก็คงจะทับถมฉันต่อตามสไตล์ แต่กลับไม่มีอะไรแบบนั้นเลย เขาเงียบ...เรียกได้ว่าเงียบเกินไปด้วยซํ้าสำหรับคนที่ชอบบ่นใส่ฉันแบบนั้น จนฉันต้องเงยหน้าสบตากับเขาอย่างแปลกใจ

"ฉันไม่ได้เกลียดเธอ...ขนาดนั้น"

"O_O"

"เธอก็แค่น่ารำคาญมากเท่านั้นเอง แต่ไม่ได้เกลียด เธอพูดเหมือนฉันเป็นคนใจแคบ"

"ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น"

"ถ้าเธอไม่ได้คิดว่าฉันใจแคบแล้วจะรีบเอาเงินมาคืนฉันทำไมกัน"

"ก็ฉันบอกพี่แล้วว่าฉันไม่อยากให้พี่เกลียดฉันมากไปกว่านี้ การที่ฉันรีบเอามาคืนเพราะไม่อยากให้พี่มองฉันแย่ เอาเป็นว่าพี่มองฉันแย่อยู่แล้ว ฉันไม่ต้องการให้พี่มองฉันแย่ไปกว่านี้”

"แต่..."

"ฉันกลับดีกว่า พี่รับเงินไปแล้วเราหายกันนะคะ" ฉันหมุนตัวตั้งใจจะรีบวิ่งหนีเพราะกลัวเขาจะถกเถียงเรื่องเงินไม่เลิก แต่ความอยากรู้ไม่เคยปรานีใครเลยทำให้ฉันใจกล้าหันไปถามเขาอีกรอบ "ว่าแต่พี่ฝันถึงฉันทุกคืนเลยเหรอคะ"

"เธอพูดบ้าอะไร!"

"ก็..." อั้ยย่ะ! ฉันถามอะไรออกไปเนี่ย >_< "เมื่อนี้เห็นพี่บ่นออกมาว่าเจอหน้าฉันทุกวันเลยแม้แต่ในฝัน...พี่ฝันเห็นฉันเหรอคะ ในฝันของพี่ฉันทำอะไรเหรอ"

"ฉันจำไม่ได้ เอาเป็นว่าเธอหลอกหลอนฉันก็แล้วกัน"

"โธ่ T^T"

"พี่แคน พ่อให้มาตาม"

เหมือนระฆังช่วยชีวิตพี่ปืนใหญ่ของฉันแบบเฉียดฉิว เพราะฉันตั้งใจว่าจะเค้นให้ได้ว่าเขาฝันถึงฉันว่าอะไรบ้าง แต่ยัยน้องสาวจอมป่วนของเขาก็โผล่พรวดเข้ามาราวกับรู้ราวกับเห็น ยัยผี!

"จะไปเดี๋ยวนี้"

"คู่หมั้นของพี่กำลังจะกลับ"

เสียงต่อท้ายของน้ำฝนทำให้ฉันชะงัก แม้แต่พี่ปืนใหญ่เองยังหยุดขาแล้วจ้องมองน้องสาวต่างพ่อต่างแม่อย่างไม่พอใจก่อนจะหันมามองฉันแวบหนึ่ง อะไรนะ...คู่หมั้นอย่างนั้นเหรอ นี่ฉันอยู่ในละครหลังข่าวเรื่องไหนสักเรื่องหรือเปล่านี่ เด็กอายุเท่าๆ พวกเรามีคู่หมั้นกันแล้วด้วย เป็นไปได้ไ,ง!

"พูดมากเกินไปแล้วน้ำฝน"

"ก็มันจริงนี่! เธอได้ยินชัดเต็มสองรูหูเลยมั้ยยัยปลิงพิฆาต พี่ชายของฉันมีคู่หมั้นที่สวยหยาดฟ้ามาดิน แถมยังรวยทะลักทลายด้วยกิจการส่งออกอาหารทะเล ไม่ใช่เอาอาหารทะเลมาดองเป็นนํ้าปลาเหมือนครอบครัวเธอ!"

"จริงเหรอคะพี่” ฉันถามพี่ปืนใหญ่อย่างคาดหวังว่าเขาจะปฏิเสธกลับมา แต่ก็ได้รับเพียงการพยักหน้าเป็นการยืนยันคำตอบเท่านั้น

"ฉันไปล่ะ เธอก็กลับบ้านไปได้แล้ว"

เขาพูดเพียงเท่านั้นแล้วก็เดินเข้าบ้านไปในทันทีโดยไม่หันกลับมามองอีก ยัยน้ำฝนที่เป็นศัตรูตลอดกาลของฉันเดินเข้ามายืนข้างๆ แล้วกอดอก พูดคุยกับฉันราวกับเราเป็นเพื่อนสนิทกันมาสามชาติเศษทั้งๆ ที่ ความจริงเราไม่เคยมีคำว่า 'ดี’ ต่อท้ายนามสกุลของเราทั้งคู่เลย (นามสกุลใครเขาต่อท้ายด้วยคำว่าดีบ้างยะ -*-)

"น่าเจ็บใจใช่มะ ที่อยู่ๆ ก็มีตาอยู่มาคว้าพุงปลาไปกิน"

"ฉันเจ็บใจแล้วเกี่ยวอะไรกับเธอ"

"ฉันไม่ชอบยัยนั่น"

"เธอก็ไม่ชอบผู้หญิงทุกคนที่เข้าใกล้พี่ปืนใหญ่นั่นแหละ"

"ใช่! แต่ฉันเคยชินที่จะได้ฟาดฟันกับเธอมากกว่ายัยผู้หญิงที่แสนเพอร์เฟ็กต์นั่น อย่างน้อยสู้กับลิงยังดีกว่าสู้กับนางฟ้า"

หมายความว่าไง

"ฉันกลับก่อนดีกว่า"

"ถึงฉันจะเกลียดขี้หน้าเธอ แต่ฉันเกลียดขี้หน้ายัยนั่นมากกว่า เธอไม่ได้โดดเดี่ยวหรอกนะ...เฮ้! ไม่ฟังที่ฉันพูดเลยเหรอเนี่ย เธอกับฉันต้องช่วยกันขัดขวางนะ พี่ฉันดูเหมือนจะประทับใจยัยนั่นอยู่ด้วย!"

 

3

 

ความหมดอาลัยตายอยากทำให้ฉันเหมือนร่างเนื้อที่ไร้วิญญาณ คล้ายๆ กับตุ๊กตาที่คนจะชักจูงไปไหนมาไหนก็ได้แล้วแต่ใจปรารถนา คราวนื้ก็สนุกยัยเสียงเพลงเขาเลยล่ะ พอเห็นว่าฉันไม่ดื้อ ไม่ท้วงติงใดๆ มันก็เอาแต่สั่งๆ เหมือนกับฉันเป็นขี้ข้า =__=

"เดินอกผายไหล่ผึ่งหน่อยได้มั้ย"

“อือ"

"แกจะแค่ตอบอย่างเดียวไม่ได้ ต้องทำด้วย แล้วฉันจะเสกมนตร์ให้แกได้เห็นว่าถ้าทำตามฉันแล้วเรื่องดีๆ จะตามมาเอง"

"แกจะให้ฉันทำอะไร"

เสียงเพลงผายมือไปยังโรงอาหารที่มีผู้คนมากมายเต็มไปหมด แต่ละคนก็ทำสิ่งต่างๆ ที่ตัวเองสนใจอันได้แก่กิน กิน แล้วก็กิน (จะบรรยายเพี่อ) ฉันยังคงฉงนสนเท่ห์แล้วก็ฟังเพื่อนพูดต่อไปเรื่อยๆ

"เท่าที่ฉันคำนวณ ฉันแอบรู้มาว่าที่นี่มีผู้ชายประมาณ...หกสิบกว่าคน"

"แล้วยังไง"

“มีคนที่ชอบแอบมองแกประมาณสามสิบกว่าคน คนที่สนใจอย่างจริงจังแต่ไม่กล้าคุยกับแกด้วยราวๆ ห้า และก็มีคนที่ชอบแกแต่โคตรแสดงออกนั่งโบกไม้โบกมืออยู่นั่นหนึ่งคน นั่นก็คือ...พี่มาริโอ้”

“เรียกเขาว่า โอ้-มาย-ก็อด ซะ เพราะฉันทำใจให้เขาชื่อเหมือนดาราคนโปรดฉันไม่ได้จริงๆ”

เหมือนพี่โอ้จะอ่านปากออก เขาเลยรีบโบกไม้โบกมือจากโต๊ะกินข้าวแล้วตะโกนเรียกฉัน และที่โต๊ะนั้นดันมีพี่ปืนใหญ่นั่งเป็นประธานอยู่ด้วย เขาไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมามองฉันสักนิด เย็นชาอะไรอย่างนี้ก็ไม่รู้ ความมั่นใจที่ไม่มีอยู่แล้วยิ่งหดถอยเข้ากระดองจนฉันต้องไปยืนแอบอยู่หลังเพื่อนที่ยังคงพราวด์ทูพรีเซนต์

“อะไรของแก บอกให้อกผายไหล่ผึ่ง ไม่ใช่ห่อเหี่ยวแบบนี้”

“ฉันว่าเราเลิกยืนอยู่ตรงนี้แล้วรีบๆ ไปกินข้าวกันเถอะ”

“ก็บอกแล้วไงว่าให้ทำตามที่ฉันบอก”

“ก็ไม่เห็นแกบอกอะไรเสียทีนอกจากยืนอารัมภบท ฉันไม่อยากยืนนานๆ...ฉัน...ฉัน...”

“ฉันทำไม ฉันกลัวว่ายิ่งยืนนานเท่าไหร่พี่ปืนใหญ่ก็ยิ่งรำคาญฉันมากเท่านั้นน่ะสิ อย่านึกว่าไม่รู้นะเว้ย ฉันก็มองเห็นเขาอยู่ เขาไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมองแกด้วยซ้ำ”

“รู้อย่างนั้นแล้วแกยังให้ฉันยืนอีกเหรอ”

“ไอ้หมี!”

“คะ”

“เขาไม่เกี่ยวอะไรกับแกอีกแล้ว ต่างคนต่างอยู่ คราวนี้แกต้องมีชีวิตเป็นของตัวเองบ้าง เราจะค่อยๆ เดินไปตามทางนี้ แล้วแกทำตามที่ฉันบอก โอเค้?”

“เราจะไปนั่งกันแล้วใช่มั้ย อื้อๆ ไปๆ”

แต่แทนที่ฉันจะได้เดินตามหลังเพื่อน เสียงเพลงกลับเป็นฝ่ายผลักฉันให้เดินนำหน้าแล้วมันเดินตาม จากนั้นก็คอยกำกับให้ฉันทำอะไรต่อมิอะไรที่ฉันไม่เข้าใจ

“มองไปทางซ้าย เห็นรุ่นพี่คนนั้นมั้ย...ยิ้มให้เขา”

“หือ?”

“ยิ้ม!”

“^O^”

“หันกลับมามองทางอย่างรวดเร็ว ปฏิบัติ!”

ฉันทำตามคำสั่งอย่างไม่เข้าใจ แต่ก็ยอมทำเพราะไม่รู้อะไรทั้งนั้น จากนั้นเสียงเพลงก็สั่งให้ฉันมองไปทางขวาแล้วก็เหมือนเดิม ยิ้ม แล้วก็ยิ้ม จนกระทั่งรอยยิ้มสุดท้ายจบที่พี่โอ้ซึ่งดูเหมือนว่าเขาจะเป็นเพียงคนเดียวที่เสียงดังและแสดงออกมากที่สุด

“ลูกหมียิ้มให้พี่!”

ทันทีที่เขาตะโกน ฉันก็แทบจะเอาตัวมุดไปใต้โต๊ะด้วยความอับอาย ทำไมต้องเสียงดังด้วย เดี๋ยวพี่ปืนใหญ่รำคาญเข้าใจมั้ย แงๆๆ

“ทีนี้แกนั่งแล้วสังเกตฟีดแบ็กให้ดีๆ รับรองว่าวันนี้จะมีผู้ชายมาปรากฏอยู่ตรงหน้าแกให้ได้ทึ่ง”

“ฉันไม่เห็นเข้าใจเลย ทำไมแกต้องให้ฉันทำอะไรแบบนี้ด้วย ฉันยิ้มให้กับรุ่นพี่ที่ฉันไม่รู้จักด้วยซ้ำ”

“แกไม่เคยคิดจะสนใจรู้จักเขาต่างหาก รู้มั้ยว่าแต่ละคนที่แกยิ้มให้เขาด้อมๆ มองๆ แกแค่ไหน”

“หมายความว่ายังไง”

“คนที่แกยิ้มให้คือผู้ชายที่แอบชอบแกทั้งหมด ด้วยความที่ฉันเป็นเพื่อนสนิทแกและถูกบุคคลเหล่านี้ขอให้เป็นสะพานให้ ฉันเลยจำได้ดีว่าใครเป็นใคร”

“แกพูดเหมือนฉันป็อบปูล่าร์เลยนะเนี่ย”

“ก็แกมัวแต่ไปจมอยู่กับผู้ชายที่ไม่สนใจแกเลยมาตลอดชีวิตถึงได้ไม่รู้ว่าตัวเองมีอะไรดี”

“แต่พี่เสือบอกว่าฉันหน้าตาน่าเกลียด...”

“พี่แกเป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของผู้ชายปากเสียที่ไม่ต้องการให้น้องสาวได้ดี หรือพูดให้ถูกก็คือกันท่านั่นเอง!”

“พูดเป็นเล่น”

“เผื่อแกจะไม่รู้...พี่แกชกกับเพื่อนรุ่นเดียวกันไปกี่คนแล้วเพียงเพราะคนพวกนั้นมาบอกว่าชอบแก”

“แกอย่าทำให้ฉันรู้สึกตลก การมีพี่ชายที่ดูเหมือนจะรักน้องสาวแบบนั้นไม่ใช่ชีวิตฉันเลย”

“มันเกิดขึ้นแล้ว เอาน่าๆ อย่าถามมาก ก็แค่เดินไปซื้อข้าว แล้วก็มานั่งกิน ต่อจากนี้แกก็คอยตั้งรับอย่างเดียวเท่านั้น ที่เหลือฉันจัดการให้” พูดจบเสียงเพลงก็มองไปทางโต๊ะของพี่ปืนใหญ่อย่างไม่ชอบใจเป็นอย่างสูง “หมอนั่นจะได้รู้เสียทีว่าตัวเองสูญเสียอะไรไป”

“สูญเสียคนไร้ค่าอย่างฉันไปมีคู่หมั้นที่แสนเลิศเลอเพอร์เฟ็กต์น่ะสิ”

“แกนี่ไม่ได้ดั่งใจฉัยเลย!”

 

ไม่มีอะไรเกิดขึ้นจนกระทั่งหลังเลิกเรียน ขณะที่ฉันกำลังจะกลับบ้าน เหล่าบรรดารุ่นพี่และรุ่นเดียวกันทั้งหลายที่ฉันคุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดี (ก็ทุกคนที่ฉันยิ้มให้นั่นแหละ) ต่างมายืนเฝ้าฉันที่หน้าประตูโรงเรียน สถานที่ที่รถทุกคันจะต้องมาจอดรับนักเรียนกลับบ้าน นี่มันอะไรกัน ทำไมทุกคนมายืนจ้องฉันแบบนี้ ไหนจะสายตาที่เต็มไปด้วยประกายแวววาวนั่นอีก สยองมาก!

“มองบ้าอะไรกันวะ ไม่เคยเห็นคนหรือไง!”

เสียงพี่เสือดังแปดหลอดเหมือนคลอดลูกแฝดมาแต่ไกล เพียงไม่ถึงอึดใจผู้ชายที่จับจ้องฉันก็แตกฮือเหมือนฝูงผึ้งโดนน้ำร้อนสาด! เขาจะมาแบบธรรมดาเหมือนที่คนปกติทั่วไปทำไม่ได้หรือไงกัน จะต้องโชว์พาวเวอร์แสดงอำนาจให้มันได้อะไรขึ้นมาก็ไม่รู้

“อะไรของพี่เนี่ย ฉันตกใจหมดเลย”

“แกก็เหมือนกันไอ้ลูกหมา ผิดหวังจากไอ้แคนน่อนหน่อยเดียวเที่ยวโปรยเสน่ห์ไปทั่ว ไม่รู้สึกทุเรศตัวเองบ้างเลยหรือไงกัน”

“พี่พูดบ้าอะไร ฉันไปโปรยเสน่ห์ที่ไหน ก็แค่ยิ้มให้ตามมารยาทที่พึงมี”

"ร้อยวันพันปีแกเคยยิ้มแบบนี้หรือไงกัน แล้วเกิดจะกระแดะยิ้มออกมาทำไม ทำหน้าบูดหน้าบึ้งเหมือนตูดก็ดีอยู่แล้ว"

"เอ๊ะพี่นี่! ฉันมีผู้ชายมองเข้าหน่อยก็ด่า พอฉันไม่สนใจคนอื่นก็ด่า จะเอายังไงกันแน่ ไหนบอกว่าถ้าฉันมีรักใหม่แทรกเข้ามาจะทำให้ฉันลืมรักเก่าไปได้ยังไงล่ะ นี่ฉันก็พยายามทำให้ตัวเองลืมพี่แคนน่อนอยู่นะ"

"โอ๊ย...ฉันจะบ้า ฉันจะบ้าตาย! แกเลิกคิดเรื่องความรักแล้วมาสนใจการเรียนไม่ดีกว่าหรือไง บวชไปเลยก็ได้"

“ทีพี่ยังมีเมียเป็นร้อยเลย"

"หยาบคายที่สุด!"

"ลูกหมีจ๋า >0<" เสียงของพี่โอ้มายก็อดดังขัดจังหวะการทะเลาะเบาะแว้งของฉันกับพี่เสือเหมือนระฆังช่วย พี่ชายฉันที่ได้ยินเสียงเพื่อนหันไปส่งสายตาเชือดเฉือนอย่างคนตั้งใจจะฆ่า "แม้แต่กำลังทะเลาะกันอยู่ ลูกหมีก็ยังน่ารักเลยน้า"

"คะพี่โอ้..."

"แกมีอะไรกับน้องฉัน" พี่เสือถามเสียงแข็ง

"ฉันมีธุระกับน้องแกน่ะใช่ แต่ฉันจะไม่ตอบคำถามแกเพราะมัน ไม่ใช่ธุระอะไรของแก เสาร์นี้ว่างมั้ยคะ ไปดูหนังกับพี่กัน พี่จ้างร้านทำผ้าม่านแล้วได้ตั๋วดูหนังมาฟรีสองใบ"

"ไม่ชวนเตี่ยแกไปดูล่ะ"

"เตี่ยฉันไม่ชอบดูหนังโรง เอ๊ะ แกนี่ไม่มีมารยาท ฉันกำลังชวนสาว ออกเดตอยู่นะ"

"สาวที่ว่ามันน้องสาวฉันโว้ย ปิดหูๆ อย่าไปฟังๆ” พี่เสือเอาสองมือปิดหูสองข้างของฉันแล้วรีบยันฉันขึ้นรถด้วยเท้า (หยาบคายมาก เจ็บด้วย T^T) จากนั้นก็รีบสั่งให้คนรถขับออกไปในทันที “พี่จะโทรหานะวันนี้ รับโทรศัพท์พี่ด้วยยย”

เสียงตะโกนไล่หลังของพี่โอ้ทำให้พี่เสือเอามือทุบกระจกอย่างไม่ชอบใจก่อนจะหันมาเล่นงานฉันเพราะไม่มีใครเป็นที่รองรับอารมณ์ของตัวเองได้เลย

"แกห้ามรับโทรศัพท์เด็ดขาดวันนี้ แล้วก็ห้ามสะแหล็นบังเอิญเดินไปโรงหนังอะไรแบบนั้นด้วย ห้ามไปไหนเด็ดขาด นี่คือคำสั่ง"

"พี่เป็นบ้าอะไรมากหรือเปล่าเนี่ย จะมากีดขวางรักครั้งใหม่ของฉันทำไม"

"แกจะมีรักครั้งใหม่อะไรไม่ว่า แต่ต้องไม่ใช่หน้าสับปะรดผสมขี้หมาแบบนั้น ไอ้โอ้มันเพื่อนฉันนะโว้ย!"

"แปลว่าถ้าไม่ใช่พี่โอ้ พี่โอเคหมดใช่ปะ ว่าแต่เราญาติดีกันตอนไหน พี่มีสิทธิอะไรมายุ่งกับเรื่องส่วนตัวของฉันเนี่ย พี่คบกับใครฉันเคยเข้าไ ยุ่งวุ่นวายหรือก้าวก่ายสักครั้งมั้ย"

"แกเป็นผู้หญิง ต่อให้ฉันไม่ชอบหน้าแก ฉันก็ต้องดูแลแกเพี่อไม่ให้ป๋ากับม้ามาว่าเอาได้"

"ฉันได้ยินมาว่าพี่หวงฉัน"

"มันไม่จริงอยู่แล้ว"

"ฉันก็คิดว่าอย่างนั้นแหละ พี่ทำไปก็เพี่อจะแสดงอำนาจใส่ฉันเท่านั้น แต่ขอบอกไว้เลยว่ามันไม่มีประโยชน์ ฉันไม่ได้กลัวพี่แม้แต่นิดเดียว!"

พี่เสือทำเสียงจี้จ๊ะอย่างไม่สบอารมณ์ตามประสาคนใจร้อน พอเห็นฉันเงียบเข้าก็ทนไม่ไหวเปิดประเด็นขึ้นมาเอง

"เออ ฉันเป็นคนพูดเองว่าถ้าจะลืมรักครั้งเก่าแกต้องหารักครั้งใหม่ แต่แกจะหาที่มันดีไม่ได้เหรอ แต่ละคนที่แกหามามีแต่ไอ้พวกกากๆ อย่าง ไอ้โอ้เงี้ย แกไม่เห็นหนังหน้ามันเหรอว่าเหมือนปลาสลิดขนาดไหน”

“ก็มีรุ่นพี่คนอื่นๆ ที่ชอบฉันนะ”

"ใคร!"

"บอกพี่ก็ไประรานเขาน่ะสิ คนส่วนมากไม่เข้ามาหาฉันเพราะพี่ด้วย จะบอกให้ นี่ถ้าวันนี้ฉันไม่ลองยิ้มกราดไปทั่ว ฉันไม่มีทางรู้เลยว่ามีคนชอบฉันอยู่เหมือนกัน ตอนนี้ใครสนใจฉันก็ขอบคุณมากแล้ว บางทีฉันจะลองคบใครสักคนเพี่อที่จะได้ลืมๆ พี่ปืนใหญ่ไปซะ แล้วจะได้คุยกับเขาได้แบบธรรมชาติขึ้นเพราะยังไงซะเขาก็เป็นเพื่อนกับพี่เสือ"

"คนอื่นๆ ที่ว่ามีแต่พวกขี้เกลือ ในโรงเรียนนอกจากไอ้แคนน่อนแล้วไม่มีใครร่ำรวยเหมือนเรา ผู้ชายสมัยนี้มันเกาะผู้หญิงกินเยอะแยะไป เวลาสร้างบ้านสร้างครอบครัวมันให้ผู้หญิงสร้างให้ แล้วตัวเองก็อยู่บ้านเลี้ยงลูกไม่ทำมาหากิน แกทนได้เหรอ"

"ฉันเพิ่งจะ ม.สี่ เองนะพี่ =__= พูดไปถึงเรื่องเลี้ยงลูกแล้วเหรอ ฉันไม่คุยกับพี่แล้ว เอาเป็นว่าฉันขอยื่นคำขาด เลิกยุ่งกับฉันเสียที เรื่องแฟนจะคบ จะเลิก มันเรื่องของฉัน โอเคมั้ย”

"ไม่โอเคเว้ย"

"ฉันจะไปดูหนังด้วย"

"ไม่โอเคใหญ่เลย ว้ากกกกกกกกก >0<"

ก็บอกแล้วว่าฉันน่ะไม่สนใจคำคัดค้านหรือการต่อต้านของพี่ฉันสักนิด พอตกดึก พี่โอ้มายก็อดก็โทรมาหาฉันจริงๆ แล้วฉันก็ตอบรับการไปดูหนังกับเขาอย่างไม่บิดพลิ้วใดๆ นี่คงเป็นผลผลิตมาจากการอกหัก เวลาทำอะไรมักจะไม่คิดหน้าคิดหลัง ไม่สนใจด้วยว่าตัวเองจะเสียใจทีหลังหรือเปล่า แต่ฉันแอบเห็นด้วยอยู่อย่างหนึ่งนะ...ว่าพี่โอ้หน้าเหมือนปลาสลิด

พอถึงวันนัด พี่โอ้มาในชุดเสื้อเชิ้ตสีแดงกับกางเกงขาเดฟสีขาว แล้วก็แว่นตากันแดดทรงการ์ตูนลายฟุตบอลโลกสีเหลือง เขาดูภูมิอกภูมิใจมากกับแฟชั่นหลากสีล่อควายแบบนี้ ผิดกับฉันที่ใส่แค่เสื้อเชิ้ตสีขาวกับยีนขาสั้น มันช่างไม่แมตซ์กันอะไรอย่างนี้ไอ้ปลาสลิด!

"เอาตั๋วนี่แล้วเข้าไปรอพี่ในโรงก่อนนะ"

"แล้วพี่ล่ะคะ"

"พี่ปวดขี้”

“=[]=”

"เมื่อคืนพี่ตื่นเต้นกลัวจะใส่กางเกงไม่พอดีเลยกินยาถ่ายเข้าไป แต่ไม่คิดว่ามันจะมาปรู๊ดปร๊าดเอาป่านนี้ เธอเข้าไปก่อนเลย แล้วเดี๋ยวตามไปนะคะ"

ด้วยความอับอายกับการสนทนาที่ไม่สร้างสรรค์ ฉันจึงรีบหยิบตั๋วหนังจากมือเขาแล้วเข้ามาในโรงอย่างเร็ว น่าเกลียด ชวนฉันมาเที่ยวแต่ตัวเองดันกินยาถ่าย แล้วนี่ก็หนังบ้าอะไรไม่รู้ ชื่อเรื่องอะไรเนี่ย 'สืบจากแย้’ มันหนังตลกหรือชีวิตสัตว์โลกวะ!

ฟื้ดดดดด

ฉันดูดนํ้าจากหลอดขณะดูโฆษณาแล้วก็ภาวนาขออย่าให้พี่โอ้มาเร็วนัก เพราะมันจะต้องมีกลิ่นมาจากห้องนํ้าหลังจากจัดการธุระเสร็จ แล้ว เขาจะต้องใช้มือที่เช็ดก้นมาล้วงป็อปคอร์นถังเดียวกับฉัน แหวะ! ทำไมฉันยังต้องทนมานั่งดูหนังเรื่องนี้ขณะที่รังเกียจไอ้ปลาสลิดนั่นด้วย

"รอนานมั้ย"

"พี่มาเร็วไปด้วยซํ้า" มือใหญ่นั่นล้วงป็อปคอร์นจริงๆ ด้วย แล้วฉันจะกินมันต่อได้ยังไง นี่โชคดีนะเนี่ยที่ไม่มีกลิ่นอะไรแบบนั้นติดมาด้วย...ติดจะหอมไปด้วยซ้ำ

"พี่ฉีดน้ำหอมกลิ่นเดียวกันกับพี่ปืน...เอ่อ พี่แคนน่อนเลย"

"น้ำหอมของฉันมันแพง ไอ้โอ้ไม่มีปัญญาฉีดหรอก"

ทันทีที่จบประโยคสนทนา ฉันก็หันขวับมาจ้องหน้าคนพูดในทันที พี่ปืนใหญ่ของฉันนั่งอยู่ข้างๆ สวมแว่นตาสีดำมองตรงไปยังจอภาพด้านหน้าแล้วเคี้ยวข้าวโพดอย่างเอร็ดอร่อย (>< )( ><) ฝันไปรึเปล่าน่ะ ฉันอกหักจนเพ้อหรือไงกัน!

"คิดว่าตัวเองฝันไปหรือไง"

"ทำไมพี่ถึงมาอยู่ที่นี่ได้"

"เพราะฉันรักเธอถึงได้มานั่งอยู่ที่นี่”

 

(ติดตามต่อได้ในฉบับเต็ม)

รายละเอียด

ทุกคนคงเคยแอบรัก รุ่นพี่สุดเท่ที่โรงเรียนใช่มั้ยล่ะ สารภาพมาซะดีๆ นะ แต่ได้โปรดอย่าบอกนะว่าพวกเธอสมหวังในรัก เพราะเธอจะอิจฉามากถึงมากที่สุด ทำไมน่ะเหรอ ก็เพราะเธอแอบชอบ "พี่แคนน่อน" เพื่อนสนิทของพี่ชายเธอมาตั้งนานแล้วน่ะสิ แต่ไม่รู้ทำไมเขาถึงได้เกลียดขี้หน้าเธอนักหนา เศร้าอ่ะ รักเขาข้างเดียวข้าวเหนียวนึ่งของแท้เลยเจ้า "ลูกหมี" แต่เธอยึดคติที่ว่า "ตื๊อเท่านั้นที่ครองโลก" ไม่นานเธอจึงพบว่า "พี่แคนน่อน" ก็เริ่มมีใจให้บ้างแล้ว แต่อย่าคิดว่าเราจะรักกันได้ตลอดรอดฝั่งนะ เพราะเรื่องร้ายแรงที่เกิดขึ้นกับชีวิตของลูกหมีตัวน้อยๆ ทำให้เธอได้รู้จักกับ "พระเพลิง" ผู้มีพระคุณสุดห่าม แล้วยังไงต่อไปน่ะเหรอ! เรื่องราวช็อกโลกที่ควรเป็นความลับก็ค่อยๆ พรั่งพรูออกมาน่ะสิ มาติดตามเรื่องราววุ่นๆ กันได้ใน "3 Jigsaws ขออภัยความรักขัดข้อง" เล่มนี้


รีวิว (3)

เขียนรีวิว

phattaraporn | 3 รีวิว
13/08/2014

3 Jigsaws ขออภัยความรักขัดข้อง นิยายเรื่องนี้เป็นผลงานของเจ้าปลาน้อยค่ะเป็นนิยายแนวเลิฟซีรี่ที่คงคุ้นหูคุ้นชื่อกับหลายๆคนที่เคยได้อ่านเรื่องนี้ไปแล้วเรียกได้ว่าซึ้งกินใจเลยแหละเราอ่านเรื่องนี้แล้วบอกตรงๆว่าวางไม่ลงเลยเพราะสงสารนางเอกแล้วอีกอย่างเลยเราเชื่อว่าเนื้อเรื่องนี้มันต้องตรงกับใครหลายๆคนบ้างแหละฮ่าๆๆๆๆแอบชอบรุ่นพี่อะไรประมาณนี้แต่ชีวิตจริงอาจจะไม่ค่อยสมหวังเหมือนในนิยายนะเพราะในนิยายสุดท้ายพระเอกกับนางเอกก็ต้องคู่กันแต่เราอ่านเรื่องนี้ที่ทำให้ชอบอยู่อย่างคือคติของนางเอกอ่ะที่เชื่อว่าตื้อเท่านั้นที่ครองโลกคือเอาจริงๆแล้วในชีวิตจริงมันก็ใช้ได้ผลอ่ะดูที่ดวงแล้วก็ระยะเวลามากกว่าอ่านแล้วรู้สึกว่ามันตรงกับชีวิตจริงก็เลยวางไม่ลงอ่ะติดงอมแงมเลยเรื่องนี้แถมยังมีดราม่าเล็กน้อยด้วยอ่านเรื่องนี้ทีแรกนี่เรามีความรู้สึกว่าอีพี่แคนน่อนนี่เป็นดูสูงส่งไปเลยอ่ะส่วนลูกหมีก็ดูตัวเล็กไปเลยแบบคงยากที่จะได้คู่กันอ่ะคิดว่าจะไม่สมหวังซะแล้วเพราะอ่านแล้วอยากร้องไห้สงสารในความพยายามของนางเอกที่ตามติดชีวิตพระเอกทุกวันอารมณ์แบบฉันรักเขาฉันต้องชนะใจเขาให้ได้อะไรเงี้ยเพราะเธอก็เชื่อดูลึกๆว่าเขาต้องมีใจให้บ้างแหละพระเอกก็ทำเป็นไม่สนใจไม่ได้คิดอะไรจนสุดท้ายที่เกือบเสียนางเอกไปนั่นแหละตอนนางเอกความจำเสื่อมชอบอ่ะอ่านแล้วร็สึกชอบมากอารมณ์คล้ายๆชีวิตจริงของคนอ่านฮ่าๆๆๆฟินเว่อมาแนวเพิ่งมารู้สึกว่ารักตอนที่กำลังจะเสียไปซึ้งมากอ่ะค่ะเรื่องนี้อยากแนะนำเลยถึงพล็อตเรื่องจะดูธรรมดานะแต่เนื้อเรื่องมันเป็นอะไรที่มากกว่านั้นจริงๆมันเหมือนเอาชีวิตจริงของคนทั่วไปเข้ามาแต่งเป็นนิยายอ่ะเพราะเราเชื่อว่ามันมีหลายคนอ่ะที่เป็นแบบนี้แต่อาจจะต่างกันตรงนี้คนๆนั้นไม่ได้ความจำเสื่อมเท่านั้นเองอ่านเรื่องนี้แล้วประทับใจพี่ปลาน้อยมากเนื้อเรื่องเล่มนี้ไม่ได้แฟนตาซีอะไรเลยอ่ะถมยังสนุกมากๆด้วยเหมือนเอาชีวิตวัยรุ่นมาแต่งอ่านเองก็อินเองอ่ะตอนแรกนี่สงสารนางเอกมากๆนะไม่สงสารพระเอกเลยอ่านเนื้อเรื่องมาเรื่องยๆเพราะเนื้อเรื่องเริ่มเข้มข้นขึ้นก็ยิ่งสงสารนางเอกเข้าไปใหญ่ไม่ค่อยสงสารพระเอกเท่าไหร่แต่ชอบที่พระเอกร็ใจตัวเองซะทีก็เลยยิ่งรู้สึกอินกับเนื้อเรื่องเข้าไปใหญ่บอกเลย ไม่ค่อยได้เห็นนิยายเรื่องนี้แล้วอ่ะแต่ดีใจที่เคยได้อ่านฮ่าๆๆแม้ว่าจะไม่ได้ซื้อก็ตามแต่ชอบมากๆค่ะเป็นนิยายอีกเรื่องที่ยังคงประทับใจและก็ยังอยากอ่านอีกสนุกมากๆค่ะ
อโนมา | 3 รีวิว
31/01/2014

นิยายเรื่องนี้หรอคะ อืม..เปิดตัวพระเอก ก็แบบว่ามันใช่อ่ะ สเปคเลยคะหล่อมากเพอร์เฟคคะมันโดนอ่ะจะมองมุมไหนก็ดูดีทุกมุมเลยคะ (อ๊ายยยยยกรี๊ดดดดชอบๆๆๆโคตรๆเลยอ่ะน่ะ) แต่นะอ่านไปแล้วนางเอกหลงรักพระเอกและทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อที่หวังว่าสักวันเขาจะหันมามองอืม...ทุ่มเทมากพยายามจริงๆด้วยแหม่แต่สุดหล่อก็ทำเป็นไม่สนใจนางเอกเลย น่าสงสารจัง แต่มันก็ไม่ทำให้นางเอกยอมแพ้ พยายามทุกวันทำเหมือนๆเดิมทุกวัน แม้ว่าจะโดนพระเอกด่าว่าหรือยังไงนางก็ไม่เคยสนใจเลย (แหม่..อดทนได้ใจเลยคะนางเอกนะ สู้ๆๆนะคะ) ยิ่งอ่านก็ทำให้รู้ว่าความรักมันทำได้ทุกอย่างจริงหากว่าวันหนึ่งเราได้พบคนๆนั้นและคิดว่าเขาคือคนที่ใช่ก็จะไม่ยอมปล่อยและจะทำให้ถึงที่สุด ความจริงมันก็เป็นเหมือนๆกันเลยล่ะคะ เฮ้อ...คิดแล้วก็ท้อแทนนะคะ อ่านแล้วก็สนุกมากเลยล่ะคะเป็นการผจญภัยที่มีจุดหมายคือการได้หัวใจเขามาครอบครองและเป็นการท้าทายมากถึงจะลำบากแต่หากได้มามันก็คุ้มค่าสำหรับหัวใจดวงน้อยๆนี้แล้วล่ะคะ แต่หากว่าเปลี่ยนจากที่นางเอกจะวิ่งไล่ตามเป็นพระเอกมันจะดีกว่านี้นะคะ ฉันคิดว่าน่ะ แต่ยังไงก็เถอะค่ะมันก็ทำให้พิสูจน์ว่ารักครั้งนี้ฉันเอาจริงและมีความสุขที่ได้ทำแบบนี้ (อินไปนิดคะ อิอิ) เป็นไปตามที่คิดจริงๆเลยอ่ะก็ในที่สุดพระเอกก็ต้องยอมแพ้กับความจริงใจจนได้ก็แหม่...ยังว่าแหละคะหากวันใดวันหนึ่งไม่มีเหตุการณ์แบบเดิมเกิดขึ้นเขาก็คงเหงาและทำให้คิดถึงนางเสมอ และแล้วทุกอย่างก็เปลี่ยนไปคะในเมื่อพระเอกได้เดินเข้ามาบอกกับนางว่า “อย่าจากไปไหนอยู่แบบนี้ตลอดไปน่ะ” ในที่สุดความพยายามก็ไม่ศูนย์เปล่า แหม่..ทำให้ลุ้นแทบตายคิดว่าจะไม่สมหวังซะแล้ว สมบูรณ์แบบคะสุดยอด เป็นความรักที่โรแมนติกไปอีกแบบนะคะ ตื่นเต้นมากทุกตอนที่ได้อ่านในที่สุดก็จบแบบมีความสุขสมหวัง และทำให้รู้ว่าความรักหากไม่ลองก็ไม่รู้หากไม่พยายามเลยก็อาจทำให้เสียคนที่คิดว่าใช่และเสียเขาไป ยิ่งอ่านก็ยิ่งชอบคะนิยายแนวนี้มันใช่เลยคะสนุกมากๆเลยคะ
มัตติกา | 3 รีวิว
05/12/2013

แคนน่อนหนุ่มที่หล่อขั้นเทพและรวยมากเป็นผู้ชายที่เล่นกีฬา เรียนเก่ง เอาเหอะทุกอย่างมันรวมอยู่ในตัวเขาทุกอย่างมันช่างเพอร์แฟคเสียจริงส่วนลูกหมีเด็กชั้นม.4ที่ไปหลงรักผู้ชายอย่างแคนน่อนทั้งที่เขานั้นไม่เคยคิดที่จะสนใจเธอเลยสักนิดเดียวแต่เธอนั้นมีคติประจำใจที่ว่า “ตื้อเท่านั้นที่ครองหัวใจพี่แคนน่อน” และเรื่องราวทั้งคู่ก็วุ่นวายเสียเหลือเกินเรื่องมันมีอยู่ว่า วันเปิดเรียนวันแรกก็ทำให้ลูกหมีมาไม่ทันดูพี่แคนน่อนแข่งบาสเกตบอลแต่แล้วผลการแข่งขันในครั้งนี้ก็สรุปว่าทีมของพี่แคนน่อนแพ้ไปโดยปริยายไม่รู้เพราะสาเหตุอันใดเพราะคนเขาที่เข้าไปดูการแข่งขันมักพูดกันว่าพี่เขาดูเครียดและคิดเรื่องอะไรอยู่ในใจ ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวและพอลูกหมีได้เดินเข้าไปหาและเรียกแคนน่อนทำให้ร่างสูงต้องถึงกับชงักเมื่อได้ยินเสียงของเธอและทำหน้ารำคาญไม่ชอบขี้หน้าฉันเสียเลยแต่ถึงอย่างไรฉันก็ยังเดินเข้าไปหาเขาอยู่ดีแม้เขาจะด่าหรือว่าฉันยังไงก็แล้วแต่เพราะคำด่าของเขาฉันฟังจนชินไปซะแล้ว เพราะถึงยังไงมันก็ทำให้ฉันเลิกชอบและรักพี่แคนน่อนไม่ได้หรอกไม่ว่าวันเวลามันจะผ่านไปนานสักเท่าไหร่ฉันก็ยังคงรักและเฝ้ารอให้พี่เขาตอบรักกลับมาให้จงได้ลูกหมีก็ยังคงตามตื้อแคนน่อนไม่เลิกราแม้จะโดนด่าโดนว่าทำให้เธอนั้นต้องเสียใจและเจ็บใจสักแค่ไหนแต่เธอก็ไม่ถอยอย่างง่ายดายสงสัยเพราะยังแคนน่อนมากเลยทำได้ทุกอย่างแม้ว่าจะโดนเพื่อนที่โรงเรียนด่าว่าหน้าไม่อายเลยจริงๆก็ตาม แต่ทางด้านของแคนน่อนก็ยังไม่ค่อยรู้ใจตัวเองสักเท่าไหร่นักแต่พอนานๆเข้าที่ลูกหมีคอยตามตื้อคอยตามกวนใจอยู่ตลอดเวลาไม่ว่าจะไปที่ไหนทำให้เขารู้สึกดีและยังมีอีกอย่างรอยยิ้มที่ลูกหมียิ้มนั้นทำให้เขามีความสุขทุกที่ที่ได้เห็นรอยยิ้มแบบนั้นบนใบหน้าของสาวน้อยแต่แล้วก็มีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อลูกหมีเกิดอุบัติเหตุรถเกิดประสานงากันทำให้ลูกหมี “ความจำเสื่อม” ทำอะไรไม่ได้เลยแม้แต่ตัวของเธอเอง ทำเอาแคนน่อนหนุ่มที่เคยพลักไสไล่ส่งเธอต้องหัวเสียและเหตุการณ์นี้ทำให้แคนน่อนได้รู้ความรู้สึกและหัวใจของตัวเองมากขึ้นว่าหากเสียลูกหมีไปเขาคงอยู่ไม่ได้และจะไม่ยอมเสียเธอนั้นจากวันนั้นแคนน่อนจึงทำทุกอย่างเพื่อที่จะทำให้ลูกหมีกลับมาจำทุกอย่างได้เหมือนเดิมและจำเขาได้ในที่สุดและแล้วสวรรค์ช่างเป็นใจให้แคนน่อนเสียจริงเมื่อวันที่เขารอคอยก็มาถึงเมื่อลูกหมีได้จำทุกสิ่งทุกอย่างได้หมด แคนน่อนดีใจมากและเข้าไปโอบกอดลูกหมีทันทีลูกหมีเรียกชื่อเขาทันทีโดยไม่รอช้าและบอกความรู้สึกทุกอย่างที่อยู่ในใจทั้งหมดของเขาให้เธอนั้นได้รับรู้และเขาจะไม่ปล่อยให้ลูกหมีไปไกลจากสายตาเขาอีกต่อไป ลูกหมีได้ยินคำนั้นถึงกับตกใจก็เมื่อผู้ชายที่คอยตามตื้อมาเป็นเวลาสามปีไม่คิดว่าจะมาบอกรักและสิ่งที่เธอเฝ้ารอมานานแสนนานมันก็เกิดขึ้นจริง ใครจะรู้ว่าการหลงรักรุ่นพี่มันจะดีสักแค่ไหนเมื่อได้รู้ว่ารุ่นพี่คนที่เราแอบชอบเขาจะรักเราเหมือนกัน มันช่างเป็นความรักที่มีแต่อุปสรรค์จริงๆเลย แต่มันก็ทำให้รู้ว่าเมื่อได้มันมาแล้วก็ควรรักษาให้ดีและก็ไม่ควรที่จะปล่อยไป นิยายเรื่องนี้น่ารักมากๆเลย ชอบเล่มนี้จริงๆค่ะอ่านแล้วสนุกสุดๆ

สินค้าที่ใกล้เคียง (69 รายการ)

www.batorastore.com © 2024