เลขายอดรัก (แก้วชวาลา)

เลขายอดรัก (แก้วชวาลา)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786169068600
ผู้แต่ง: แก้วชวาลา
มีสินค้าในสต็อค
ราคา: 229.00 บาท 57.25 บาท
ประหยัด: 171.75 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

เรื่อง เลขายอดรัก โดย แก้วชวาลา

“ฉานนนจะกินอีกไอ้เจ้านายขี้งก!” เสียงอ้อแอ้นั้นทำเอาอลงกตสะดุ้งไป

เลยทีเดียว

“เบาๆ หน่อยจะได้ ไหมยัยเบ๊อะ”

อลงกตรีบกระซิบ ทุกคนบนโต๊ะทำทีเป็นไม่สนใจ แต่เขารู้ดีทีเดียวว่า

พวกนั้นลอบฟังอยู่ตลอดเวลา

“หน็อยไอ้ขี้เบ่ง! ชอบแกล้งฉันนักเหรอ เชอะ! จำไว้เถอะ สักวันกรรมจะ

ตามสนองเอา ฉันไม่ ลืมหรอกนะ วันแรกที่แดนสรวงน่ะ นายนอนบนเตียงอย่าง

สุขสบาย แล้วไล่ฉันให้ลงไปนอนกับพื้นข้างล่าง โอ้โฮ! แมนมากเลยนะ เจ้านาย

ฉานนนนนนนน

“ยางงงงงงง ยังไม่หมด นายให้ฉันแบกกระเป๋าใบเท่าบ้านของนาย

เดินตั้งไกล ส่วนนายกลับหิ้วกระเป๋าเป้ใบเล็กนิดเดียวของฉันอย่างสบายใจเฉิบ

ทำเอาผู้หญิงบอบบางอย่างฉันต้องปวดแขนไปตั้งหลายวันแน่ะ เอิ้กกก!”

“เฮ้!” อลงกตร้องได้เท่านั้นก็หันหน้าหนีทันที เมื่อหล่อนแฉเขาเสร็จแล้ว

ยังบังอาจเรอใส่หน้าเขาอีกด้วย ดูท่าแล้วหล่อนจะไม่หยุดแฉกันง่ายๆ ก้มลงไป

เห็นคุกกี้พอดี จึงรีบหยิบมันขึ้นมาทันใด

“ยังๆ ยังไม่หมดนะ แล้วนายก็ยัง.........อุ๊บ!”

แล้วในที่สุดหล่อนก็สงบได้ด้วยคุกกี้รสช็อกโกแลตชิป อลงกตคิดอย่าง

สะใจ มองหล่อนเคี้ยวคุกกี้ที่เขาเพิ่งยัดใส่ปากตุ้ยๆ สักพักก็กลืนมันลงคอ

พอเสร็จแล้วก็เตรียมอ้าปากจะแฉเขาอีกรอบ แต่คนเมาหรือจะสู้คนมีสติ

ครบถ้วนอย่างเขาได้ เขาเลยยัดคุกกี้ ใส่ปากหล่อนอีกชิ้น เพื่อป้องกันการ

ถูกหล่อนโพนทะนาให้ทุกคนบนโต๊ะรับรู้เรื่องของตน

 

 

บทนำ

คนไม่เข้าตา

ะไรนะคะเจ้านาย?”

ปนิดาร้องตกใจ ขยับแว่นตาคู่ชีพ ซึ่งเป็นกรอบสี่เหลี่ยม

หนาๆ อันโตๆ ให้เข้าที่ เจ้าของดวงหน้านวลมองไปยังเจ้านายหนุ่ม

เขม็ง เธอกำลังข้องใจว่า เหตุใดเจ้านายจอมแสบจึงไม่ยอมให้เธอ

ลาออก ทั้งที่ปนิดาเองก็ทำงานไม่ได้เรื่อง ไม่เคยจะเข้าตาเขาสักหน

“ทำไมจะต้องถามย้ำด้วยเล่า หูตึงนักหรือไงยัยเต่า?”

เสียงถามฉิวๆ พร้อมดวงตายาวรีแต่ขนตายาวดกหนาของ

เจ้านายหนุ่มที่มองมายังเธออย่างขุ่นเขียวนั้น ทำให้ปนิดาต้องรีบ

ถอยห่างทันทีคิ้วเรียวสวยได้รูปตามธรรมชาติที่ประดับอยู่เหนือ

แว่นตาหนาเตอะกรอบสี่เหลี่ยมสีดำๆ สุดแสนจะเชยบรมนั้นขมวด

 

 

เข้าหากันมุ่น หญิงสาวเม้มปากแน่น เมื่อเห็นเจ้านายสุดเฟี้ยวของตน

เบ้หน้าน้อยๆ ส่ายศีรษะไปมา

แหม! ก็ใช่สิเธอมันไม่ดีโง่หัวไม่ไว ทำอะไรก็ไม่ได้เรื่อง

ไม่เคยถูกใจเขาสักอย่าง แต่เขาก็ยังไม่ยอมให้เธอลาออก หรือ

เนรเทศเธอให้ไปไกลหูไกลตาเขาเสียทีทั้งที่เธอเองก็ได้ทำการ

โบกมือบ๊ายบาย ขออำลาจากเขาเป็นสิบๆ รอบแล้ว

เอ่อ..เจ้านายคะ ช่วยพูดอีกทีสิคะ ว่าทำไมปอยถึงลาออก

ไม่ได้ในเมื่อปอยเองก็ทำงานไม่มีประสิทธิภาพเลยสักนิด แล้วตัว

เจ้านายเองก็ยังอึดอัดรำคาญใจ ชอบทำโมโหใส่ปอยบ่อยๆ ด้วย

ถามไปเท่านั้นก็หน้าเจื่อน เมื่อเจ้าของดวงตาชั้นเดียว

แต่ทว่าคมกริบมองมาที่เธออย่างฉุนๆ คิ้วเข้มหนาเป็นปื้นตัดกับ

หน้าขาวนวลอมชมพูน้อยๆ ของเจ้านายหนุ่ม ขมวดเข้าหากันมุ่น

ส่วนปากบางๆ สีชมพูระเรื่อของอลงกตนั้นก็เม้มแน่น แล้วไหนจะ

เสียงถอนหายใจยาวๆ นั่นอีกเล่า มันชัดเจนแจ่มแจ้งเลยว่า เขา

กำลังรำคาญเธอเป็นรอบที่ร้อยกว่าของวันแล้ว ปนิดาเลยยิ้มเฝื่อน

หน้าจ๋องลง

เธอมันคนมีกรรม ได้งานดี แต่กลับเป็นคนที่เจ้านายไม่ค่อย

ชอบขี้หน้ามากที่สุด ถูกกรรโชก ถูกตะคอก โดนชักสีหน้าใส่ทุกวี่วัน

บางครั้งอลงกตก็พาลแม้กระทั่งแว่นตาของเธอ

ถามแปลก! ก็เธอเป็นคนโปรดของพ่อฉันไงเล่า ใครเขาจะ

กล้าให้เธอออก ก็เธอน่ะมันเส้นใหญ่มาก

อลงกตลากเสียงยาว ปนิดาผงะอีกหนเมื่อดวงตายาวรีคู่นั้น

วกกลับมาจ้องเธอด้วยสายตากล่าวหาอีกทีจากนั้นก็เอ่ยกลับไป

เสียงปลงๆ

ถึงแม้ว่าฉันจะไม่ค่อยชอบการทำงานของเธอสักเท่าไร

และอยากจะเปลี่ยนเลขาฯ ใหม่ทุกๆ 2 วินาทีแต่เธอก็ต้องอยู่ที่นี่!

 

 

เพื่อที่พ่อของฉันจะได้ไม่ว่าเอาได้ว่าฉันข่มเหงรังแกผู้หญิงไร้หนทางสู้

แถมยังสุดแสนจะซื่อบื้อแบบเธอ จนร้องไห้ขี้มูกโป่งหนีกลับบ้าน

ไป

เหตุผลที่ออกมาพร้อมกับใบหน้าบึ้งๆ บอกบุญไม่รับนั้น

ทำให้ปนิดากลืนน้ำลายเอื๊อก ร้องโอดโอยในลำคอเบาๆ มือบาง

ยกขึ้นขยับแว่นอันโตๆ ของตนให้เข้าที่กระแอมหลายทีติดๆ กัน

เพื่อจะหาเสียงของตนให้เจอ ก็แหมจะมีเลขาฯ ที่ไหนเขาภูมิใจล่ะ

ทำงานไม่ถูกใจเจ้านายสักครั้ง แต่ที่สามารถเดินเฉิดฉายอยู่ใน

บริษัทใหญ่โตแบบนี้ได้ก็เพราะว่าตนมีเส้นก๋วยจั๊บ มีแบ็กใหญ่คือ

บิดาของเขาหนุนหลังอยู่นั่นเอง

เจ้านายคิดกับปอยแบบที่พูดออกมาจริงๆ หรือคะ มัน

เป็นแบบนั้นจริงๆ หรือคะ ปอยเป็นคนไม่เอาไหนเกินกว่าที่เจ้านาย

จะรับได้แต่ที่ปอยสามารถอยู่ที่นี่ต่อไปได้ก็เพราะมันเป็นความ

ต้องการของคุณพ่อเจ้านาย!

ปนิดาถามพร้อมจ้องอีกฝ่ายตาเป๋ง อยากให้เขาพูดกลับมา

ว่าล้อเล่น เพื่อที่เธอจะได้มีกำลังใจทำงานต่อ หญิงสาวไม่ได้คิดเลย

ว่า ดวงตาโตๆ ของตนที่จ้องผ่านแว่นหนาๆ กรอบสี่เหลี่ยมใหญ่ๆ

ที่ไม่มีใครเขาใช้กันอีกแล้วนั้น มันช่างดูตลกขนาดไหน เพราะเจ้า

แว่นตาทรงโตโบร่ำโบราณนี้ไม่ได้เหมาะสมกับดวงหน้าเล็กเรียว

ของเธอเลยสักนิดเดียว จ้องเจ้านายเสเพลบอยได้สักพัก ก็ต้อง

หลบตาเม้มปากแน่น เมื่ออีกฝ่ายถอนใจยาว หนำซ้ำยังทำหน้า

รำคาญใส่เธออีก

ก็จริงน่ะสิ ทำไมต้องคิดว่าฉันโกหกเธอด้วยเล่า ฉันไปเป็น

เพื่อนเล่นของเธอตั้งแต่เมื่อไรกัน?

เสียงดุๆ พร้อมอาการฮึดฮัดใส่เธอนั้น ทำให้ปนิดายิ้มเฝื่อน

แล้วก็ได้ยินเสียงทับถมของเขาลอยมาอีกหน

 

 

และนี่แหละคือเหตุผลเดียวที่ฉันไม่ให้เธอลาออกจากงาน!

รู้แล้วทีหลังก็อย่ามาถามอะไรที่มันเซ้าซี้จู้จี้แบบนี้อีกนะ เข้าใจไหม

ยัยทึ่ม!

เข้าใจค่ะเจ้านาย

ปนิดารับคำหงอยๆ เหลือบตาขึ้นมองเจ้านายหนุ่มที่กำลัง

ยกขาขึ้นพาดโต๊ะทำงาน เสร็จแล้วก็กระดิกเท้า ผิวปากเล่น ไม่ได้มี

ท่าทีว่าจะเริ่มงานที่กองอยู่เต็มโต๊ะแม้แต่นิดเดียว ปนิดามองสารรูป

เจ้านายจอมแสบของเธอแล้วก็ลอบกลืนน้ำลายเอื๊อกอีกหน รับไม่ได้

กับเสื้อผ้าทรงผม มันเหมือนกับเขาเพิ่งหลุดออกมาจากนิตยสาร

เกาหลีไม่มีผิดเลย

หญิงสาวอดคิดไม่ได้ว่า ตั้งแต่ที่ฟารีดาหรือพี่ฟางคนสวย

คนดีตัดสินใจแต่งงานอยู่กินกับเมธัสไปแล้ว อลงกตก็เริ่มทำตัว

เหมือนๆ เดิม หรืออาจจะแย่ยิ่งกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำ เขาเที่ยวเก่งขึ้น

มาทำงานสายทุกวัน บางวันก็ขอบตาดำปิ๊ดปี๋อย่างกับคนไม่ได้

หลับไม่ได้นอนมาเป็นแรมปีอย่างนั้นแหละ

ผมที่เคยตัดเป็นระเบียบตามแบบฉบับของผู้บริหารที่ดีก็

ถูกปล่อยยาวระไปจนถึงท้ายทอย ตามด้วยการย้อมสีไฮไลต์เป็นช่อๆ

เจ้านายเธอทำราวกับเด็กวัยรุ่นอายุ 17-18 แต่งตัวไม่ได้ภูมิฐานสม

กับตำแหน่งรองผู้อำนวยการใหญ่สักนิด นี่ถ้าจับเขาไปถ่ายแบบ

เดินแฟชั่นโชว์ ก็คงจะพอฟัดพอเหวี่ยงกับพวกนายแบบอยู่หรอก

แต่ตอนนี้เขาเป็นผู้บริหาร มาทำตัวแบบนี้ปนิดาก็จะ

เป็นลมเอา มันดูขัดหูขัดตายังไงก็ไม่รู้สิยังไม่ทันได้เจรจาให้จบดี

เสียงโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น หญิงสาวเห็นอลงกตเปิดยิ้มกว้าง

ดวงตายาวรีที่ล้อมรอบด้วยขนตาดกหนาเต้นระริกขึ้นมาโดยพลัน

ลองหูตาแพรวพราวเป็นมันวาววับอย่างนี้คงไม่พ้นผู้หญิงโทรศัพท์

มาหาอีกแน่

 

 

ครับ น้องจ๋าเองหรือครับ ว่ายังไงจ๊ะคนสวย แหม! พี่กต

กำลังคิดถึงน้องจ๋าอยู่พอดี นี่ถ้าอีกสัก 10 นาที น้องจ๋าไม่โทรมาหา

นะ พี่กตคงต้องรีบบึ่งรถไปหาน้องจ๋าถึงที่เลยรู้ไหมเอ่ย

ปนิดาฟังคำเลี่ยนเอียนของอลงกตเท่านั้น ก็เบือนหน้าหนี

แอบเบ้ปาก รู้สึกอยากอาเจียนขึ้นมาตงิดๆ ในหัวก็นึกถึงสตรีนามว่า

จ๋า ที่เพียรมาหาเขาอยู่บ่อยๆ สาวสวยผู้นั้นมีเอกลักษณ์คือสีชมพู

ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าหน้าผม แล้วก็กิริยาฉอเลาะ พี่กตคะ..พี่กตขา..

น้องจ๋าหรือจามิกาดูนุ่มนิ่ม คอยแต่ทำเนื้อตัวให้อ่อนปวกเปียกเวลา

อยู่ใกล้ๆ เขา แต่นิสัยที่แท้จริงนั้นจะนุ่มนวลอย่างที่เป็นอยู่ทุกวัน

หรือเปล่านั้น อันนี้ก็ไม่รู้

ดวงตาโตๆ ภายใต้กรอบแว่นหนาๆ ชำเลืองมองไปทาง

อลงกตอีกครั้งอย่างสนใจ เริ่มเห็นเค้าแล้วว่า วันนี้เจ้านายของเธอ

คงไม่ได้งานแน่แต่กำลังจะได้ตุ๊กตาหวานแหววนุ่มๆ นิ่มๆ สีชมพู

นามว่าจ๋าหรือจามิกามากอดแทน

ครับๆ ถ้าไปกับพี่กตแล้ว น้องจ๋าไม่ต้องกังวลใจอะไรทั้งนั้น

เลยครับ พี่กตจะไปรับน้องจ๋าให้ถึงที่เลย แล้วก็จะไปส่งให้ถึงที่ด้วย

เช่นกันครับ ว่าแต่ว่าที่ห้องของน้องจ๋านี่มีกาแฟให้พี่กตดื่มกลั้วคอ

สักแก้วสองแก้วหรือเปล่าครับ มีไหมจ๊ะกาแฟอุ่นๆ หอมๆ รสชาติ

นุ่มนวล หรืออะไรที่เนื้อนิ่มๆ ผิวขาวๆ น่ากอด น่าหอม ให้กันได้

หรือเปล่าเอ่ย

พอได้ยินอลงกตถามปลายสายเสียงกระซิบกระซาบ

แหบพร่า ชวนวาบหวามแบบนั้น ปนิดาซึ่งยืนอยู่ไม่ห่างจากเขานัก

ก็คอยๆ หรี่ตาลงมองเจ้านายสุดเปรี้ยวซ่าของตนอย่างแคลงใจ สักพัก

เลขาฯ จอมเฉิ่มก็พยักหน้าหงึกหงักลำพัง จากนั้นก็เดินจากไป โดยที่

เจ้านายจอมเจ้าชู้ไม่ได้หันมาชายตาแลเธออีกเลยแม้แต่นิดเดียว

 

 

 

1

สื่อเสน่หากับผ้าขี้ริ้ว

ลงกตกำลังคุยอยู่กับคู่ขาคนใหม่อย่างออกรส พอ

ชำเลืองสายตาไปก็เห็นปนิดาเดินถือแก้วอะไรสักอย่างเข้ามาหาตน

พอมาถึงได้ก็วางลงตรงหน้า จากนั้นก็จ้องเขาตาเป๋งผ่านแว่นตาโตๆ

ที่เขาเกลียดแสนเกลียด

จะไปไหนก็ไปไป๊ มาจ้องหน้าฉันอยู่ได้

อลงกตต่อว่าพร้อมทำตาขัดเคืองใส่ปนิดาทำคอย่น รีบ

ขยับกายหนี พอเลขาฯ สุดแสนเปิ่นถอยห่างออกไปได้เท่านั้นแหละ

จึงหยิบแก้วน้ำขึ้นมาดื่ม

โอ๊ย! นี่มันน้ำสะเดาต้มหรือไงนะยัยปอย

เจ้านายขี้โมโหร้องโวย ใบหน้าขาวอมชมพูบูดบึ้ง มือขาวๆ

 

 

กดปิดโทรศัพท์มือถือแทบไม่ทัน ก่อนจะตวัดสายตายาวรีแต่คมกริบ

ขึ้นมองปนิดาอย่างเอาเรื่อง

นี่เธอชงกาแฟภาษาอะไรของเธอปนิดา ทำไมมันถึงได้

ทั้งจืดทั้งขมแบบนี้?

ปนิดาไม่ตอบคำถาม แต่ทำตาโตลอดผ่านแว่นหนาเตอะ

เมื่อเห็นโต๊ะและหน้าตาที่เลอะเทอะไปด้วยคราบกาแฟของเจ้านาย

หนุ่ม

ตายแล้ว รอสักครู่นะคะเจ้านาย รับรองปอยไปไม่นาน

เอ่ยได้เท่านั้นก็รีบวิ่งออกไปจากห้อง สักพักร่างบอบบางที่

อยู่ในชุดรุ่มร่ามยาวมิดชิดก็กลับเข้ามาใหม่พร้อมด้วยผ้าผืนเล็กๆ

ในมือ

ต้องขอโทษด้วย ขอโทษจริงๆ นะคะ

ปนิดาเอ่ยอย่างลนๆ กับเจ้านายหนุ่มที่ทำตาเหลือกตาขวาง

ใส่เธอ

ปอยขอโทษค่ะเจ้านาย สัญญาว่าต่อไปจะไม่ชงกาแฟ

รสชาติแย่ๆ แบบนี้มาให้ดื่มอีกแล้ว

เธอสัญญากับฉันมาเป็นรอบที่ร้อยแล้วยัยปอยเอ๊ย แต่

รสชาติมันก็ยังเหมือนๆ เดิม

เสียงลอดไรฟันพร้อมตาขุ่นเขียวนั้นทำให้ปนิดายิ้มจืด

เดินไปหาเจ้านายเจ้าอารมณ์ตัวลีบเล็ก พอไปถึงก็รีบยกผ้าผืนบาง

ที่วิ่งกระหืดกระหอบไปหามา เช็ดไปที่ใบหน้าขาวนวลอมชมพู

ดุจอิสตรีของอลงกตอย่างว่องไว ก่อนที่เขาจะทำหน้ายักษ์ขมูขีใส่ตน

มากกว่านี้

หายแล้วค่ะ ไม่มีคราบแล้วเห็นไหมคะ เรื่องแบบนี้ปอย

แก้ไขได้ ส่วนรสชาติกาแฟนั้น ปอยก็สัญญาว่าจะปรับปรุง ขอเพียง

แต่คุณกต เอ๊ย! เจ้านายจะให้โอกาส

 

 

หญิงสาวเช็ดไปก็แก้ตัวไปปากคอสั่น เมื่อเขาทำท่าเหมือน

จะกระโดดงับหัวเธอ ปนิดาแทบจะกัดลิ้นตัวเอง เมื่อเผลอไปเรียก

เขาว่าคุณกต เพราะเขาเคยสั่งแล้วว่าเธอต้องเรียกเขาว่าเจ้านาย

เท่านั้น

เจ้านายมีอะไรหรือคะ?

ถามตาโตลอดแว่นหนา เมื่อเจ้านายสุดเอาแต่ใจที่นั่งกอดอก

สบายๆ ยอมให้เธอเช็ดหน้าโดยดีกลับทำจมูกฟิดฟัด ต่อมาดวงตา

คมยาวรีก็ตวัดมาจ้องเธอนิ่งด้วยสีหน้าไม่ค่อยไว้วางใจเท่าใดนัก

ทำให้หญิงสาวต้องรีบชักมือที่กำลังทำการเช็ดหน้าออกไปจากเขา

ทันที หน้าขาวนวลของเลขาฯ สาวเริ่มซีด เมื่อนึกอะไรบางอย่างขึ้น

มาได้ หญิงสาวก้มลงมองผ้าสีดำๆ มอๆ ที่ยังมีเศษต้นหอมผักชีอยู่

อย่างใจหาย จากนั้นก็ยกขึ้นมาดมให้แน่ใจอีกครั้ง แล้วก็ต้องเบ้หน้า

เมื่อได้ทั้งกลิ่นซอสพริกและน้ำส้มสายชู ร่างบางสะดุ้ง ก้มหน้าลงต่ำ

เมื่ออลงกตเรียกชื่อเธอด้วยเสียงยานคาง

ปนิดา.........

ปอยผิดไปแล้วค่ะเจ้านาย

หญิงสาวหลับตาปี๋รีบตอบ พอเห็นว่าห้องทั้งห้องเงียบกริบ

อลงกตยังไม่พูดอะไรต่อ ก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้น แล้วก็ต้องคอย่น เมื่อ

เห็นเจ้านายหน้าตี๋คำรามฮึ่มๆ ใส่ตนด้วยใบหน้าแดงก่ำ

ปอยเห็นหน้าเจ้านายเลอะกาแฟ สมองของปอยเลยสั่งว่า

ต้องรีบเช็ดออกไวๆ

เอ่ยเท่านั้นก็สะดุ้งอีกหน ผ้าหลุดออกจากมืออัตโนมัติ เมื่อ

เสียงที่คำรามใส่ดังฮึ่มๆ หนักยิ่งกว่าเดิม

เธอไปเอาผ้ามาจากไหนยัยทึ่ม! ตอบมาไวๆ ตอบให้ชัดๆ

ก่อนที่ฉันจะจับเธอหักคอ หลังจากนั้นก็โยนหัวเธอทิ้งลงไปในถังขยะ

ข้างๆ โต๊ะทำงานของฉัน!

 

 

เอ่อ....ปอย... ปนิดาพูดไม่ออกเอาดื้อๆ ..ฉะ..ฉัน คือว่า

.........ปอย.....อื้อ....

ว่าไงปนิดา ไม่ได้เอาลิ้นมาทำงานหรือไง ตกลงเธอไปเอา

ผ้าที่ไหนมาเช็ดหน้าให้ฉัน!

เสียงอลงกตถามออกมาอย่างคาดคั้น อุปาทานหรือเปล่า

ก็ไม่ทราบ พอเงยหน้าขึ้น ปนิดาก็เห็นเจ้านายที่เคยหล่อเคยสำอาง

ของตนมีเขี้ยวโค้งยาวขึ้นมา หน้าตาดุดันราวกับยักษ์กับมาร

ว่ายังไง ฉันถามทำไมเธอไม่ตอบ!

อู๊ย เจ้านายอย่าตะคอกสิคะ ปอยตกใจหมดเลย แล้วพอ

ตกใจหัวปอยมันก็จะทึบ สมองก็จะมึนงง ตอบอะไรไม่ค่อยถูก ลิ้นก็

แข็ง ใจเย็นๆ ก่อนนะคะ

หญิงสาวทำใจดีสู้เสือ ถูมือไปมา แต่คนที่เธอบอกว่าให้

ใจเย็นกลับลุกพรวด เท่านั้นเองปนิดาก็ถอยกรูไปจนชิดผนัง จากนั้น

ก็จ้องเขาตาปริบๆ ผ่านแว่นตาหนาๆ ของตน

อย่าให้ฉันถามอีกครั้งนะปนิดา ว่าเธอไปเอาผ้าจากที่ไหน

มาเช็ดหน้าให้ฉัน จะโมโหตายอยู่รู้ไหม ยัยเบ๊อะ!

สิ้นคำพูดพร้อมหน้าบูดบึ้ง ปากกระจับสีแดงๆ ตามธรรมชาติ

ของเจ้านายหนุ่มก็เม้มเข้าหากัน เท่านี้ปนิดาก็รู้แล้วว่าเขาเริ่มจะ

โกรธจริงๆ และถ้าเขาโกรธขึ้นมาละก็ สารพัดฉายาที่เธอไม่อยากได้

ก็จะถูกเขาตั้งขึ้นมาเรียกตน หญิงสาวเลยต้องรีบตอบคำถาม

......เอ่อ! ..นะ...ในครัวค่ะ ...ตะ....ตอนนั้นปอยรีบ

ไปหน่อย เลยไม่ทันได้ดู เป็นความผิดพลาดที่ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ นะคะ

บอกไปเสียงรัวเร็ว มิวายแก้ตัวในตอนท้าย เท่านั้นเอง

อลงกตก็แยกเขี้ยวใส่หญิงสาวเม้มปากแน่นเมื่อเห็นเขาเท้าสะเอว

ยืนแยกขา กรอกตาไปมากับเพดานเหมือนสะกดกลั้นอารมณ์

สักพักก็หันกลับมามองเธอด้วยสายตาจะกินเลือดกินเนื้อ ให้หญิงสาว

 

 

ต้องใจคอไม่ดีอีกหน

โธ่! ยัยจอมเซ่อ! ในที่สุดวันนี้เธอทำกับฉันอีกจนได้ ฉันว่า

ฉันระวังตัวดีแล้วเชียว แล้วไอ้หน้าที่มันคันยิบๆ ของฉันอยู่ในตอนนี้

ใครมันจะรับผิดชอบ!

ปอยไม่ได้แกล้งเจ้านายนะคะ ปอยบอกแล้วไงว่ามันเป็น

ความผิดพลาด ก็ปอยรีบ

หญิงสาวรีบเถียง แล้วก็หน้าจ๋องเมื่อเขาถอนหายใจเฮือก

ปนิดาเบียดกายติดผนังมากขึ้น เมื่ออลงกตเดินเข้ามาหาเธออย่าง

คุกคาม

อุ๊ย! หายใจไม่ออก

หญิงสาวตาโตหน้าร้อนรน มองอลงกตลอดผ่านแว่นอันโตๆ

อย่างตื่นๆ เมื่อเจ้านายหนุ่มมาถึงได้ก็ดึงคอเสื้อเธอเข้าไปหาเขา

ทันทีจากนั้นก็ชะโงกหน้ามาชิด ปากน้อยๆ สั่นเมื่อหน้าหล่อขาว

อมชมพูชิดใกล้ขาก็อ่อนไร้เรี่ยวแรงเมื่อได้กลิ่นหอมสะอาดๆ และ

กลิ่นน้ำยาโกนหนวดลอยวนมาเป็นระยะ

ออกไปค่ะ ผู้ใหญ่ที่บ้านนอกของดิฉันสอนอยู่บ่อยๆ ว่า

หญิงชายใกล้กันมากไม่ดี มันอันตราย

ยกเว้นเธอยัยปอย ยัยซื่อบื้อ ยัยเฉิ่ม ยัยเชย เธอไม่ใช่

รสนิยมของฉัน เพราะฉะนั้นใกล้เท่าไรก็ไม่อันตรายเข้าใจไหม

ค่ะเข้าใจ แต่ยังไงเจ้านายก็ต้องถอยไปก่อน มากำคอเสื้อ

ปอยเสียแน่นแบบนี้ปอยหายใจไม่ออกนะคะ แล้วถ้าปอยตายไป

เจ้านายก็จะไม่มีใครให้สับโขก

นับว่าคำขู่นี้ได้ผล เพราะอลงกตยอมคลายมือออกจาก

คอเสื้อเธอโดยดี แต่ก็ยังกำไว้หลวมๆ

ยัยเฉิ่ม เมื่อไรเธอจะทำอะไรให้มันปกติเหมือนชาวบ้านเขา

เสียทีนะ รู้ไหมยัยทึ่ม ตอนนี้หน้าฉันมันคันยิบๆ ไปหมดแล้ว ไป๊! ไป

 

 

ให้พ้นหน้าฉันเดี๋ยวนี้เลย ยัยเลขาฯ จอมเปิ่น ยัยซุ่มซ่าม ยัยเต่าล้านปี

ยัย..อี๊..

อลงกตกล่าวพร้อมกวักมือออกเป็นเชิงไล่ปนิดาให้ไปพ้นๆ

พอโดนเจ้านายทั้งต่อว่าทั้งแสดงออกบ่อยเข้า หญิงสาวก็ขอบตา

ชักร้อน ดวงหน้าเรียวรูปไข่ที่มีแว่นตาโตๆ บดบังใบหน้าชักเริ่มเบะ

มองเขาสายตาตัดพ้อ แต่ก็แค่นั้น อลงกตลอยหน้าลอยตาหันหลังให้

ไม่ได้สนใจความรู้สึกของเธอแม้แต่นิดเลย เขาก็เป็นแบบนี้เสมอ

แหละ ปนิดาทำอะไรไม่เคยดีสักอย่าง ดุด่าว่าเธอสารพัด แต่ก็ไม่ยอม

ให้เธอลาออกจากงานสักทีกำลังน้อยใจอยู่ดีๆ เขาก็หันกลับมาหา

หญิงสาวผละหน้าหนีแทบไม่ทัน เมื่อจู่ๆ นิ้วเรียวยาวของเขาก็แทบ

จิ้มหน้าเธอ

อีกอย่างนะยัยปอย คิดๆ ไปฉันก็เริ่มสงสัย ใครใช้ให้เธอ

เอากาแฟมาให้ฉันกินล่ะ?

อลงกตถามออกไปพร้อมกับขมวดคิ้วมุ่น เขาว่าเขายังไม่ได้

สั่งอะไรหล่อนเลยสักคำ แล้วหล่อนชงกาแฟมาให้เขาดื่มทำไมกัน?

..คะ...คือว่าฉัน เอ่อ..คือว่าปอยได้ยินเจ้านายพูดว่า

จะดื่มกาแฟๆ อะไรทำนองนี้ตอนที่เจ้านายคุยโทรศัพท์อยู่น่ะค่ะ

ปอยได้ยินเต็มสองหูเลยนะคะ ก็เลยรีบไปเอากาแฟมาให้ดื่ม ปอย

ทำดีที่สุดแล้ว เจ้านายจะได้ไม่เมื่อยปากสั่ง ตอบไปได้เท่านั้น

ปนิดาก็สะดุ้งโหยงเป็นรอบที่สอง

เอาอีกแล้วนะยัยปอย เธอนี่มันเป็นยังไงกันนะ สอนไม่จำ

สักที นี่แอบฟังฉันคุยโทรศัพท์อีกแล้วใช่ไหม?

โดนต่อว่าด้วยสีหน้าถมึงทึงแบบนั้น ปนิดาก็รีบส่ายศีรษะ

หวือ จนไอ้ผมก้อนโตๆ ที่เธอมวยไว้กลางศีรษะแกว่งไกวไปมา แล้ว

ยังจะแว่นตาหนาๆ อีก ยิ่งเสริมให้หญิงสาวดูเหมือนครูแก่ๆ ใน

สายตาของอลงกตเข้าไปใหญ่

 

 

ปอยเปล่าแอบฟังนะคะ ปอยไม่ใช่คนสอดรู้สอดเห็นเรื่อง

ของชาวบ้านสักหน่อย

ปนิดาเถียงหน้างอ ว่าเธอเซ่อว่าเธอเบ๊อะยังพอทน แต่ว่า

เธอเป็นคนชอบสอดรู้สอดเห็นนี้ไม่ชอบเลย

ไม่ได้สอดรู้เรื่องของฉัน แล้วเธอจะยกกาแฟมาให้ทำไม

เมื่อฉันร้องขอกาแฟจากน้องจ๋า ไม่ใช่เธอ!

คำพูดนั้นทำให้ปนิดามีแรงฮึด มือบางดึงมืออลงกตที่คว้า

คอเสื้อเธออยู่ออกไปอย่างง่ายดาย จากนั้นก็มองเขาโกรธๆ ผ่าน

แว่นหนาๆ

ปอยไม่ได้แอบฟังคุณกตนะคะ

เรียกฉันว่าเจ้านาย!

เสียงเน้นหนักๆ อย่างไว้ตัวนั้น ทำให้ปนิดาเผลอค้อนให้

แต่ก็ยอมทำตามที่เขาต้องการ

ปอยไม่ได้แอบฟังเจ้านายนะคะ แต่ปอยเป็นเลขาฯ ก็ต้อง

รับใช้ใกล้ชิด เจ้านายต่างหากเล่า ที่คุยโทรศัพท์เสียงดังเอง ไม่เห็น

จะต้องแอบฟังเลย ต่อให้เดินหนีไปนอกห้อง ก็ต้องได้ยินอยู่แล้ว

ชี้แจงไปเท่านั้นก็ต้องหน้ามุ่ย ปิดปากฉับ เมื่ออลงกต

แยกเขี้ยวใส่เธอ

ไปๆ ไป๊! ไปเลยยัยปอย ไปให้พ้นๆ ไปให้ห่างจากฉันเดี๋ยวนี้

เลย รีบไปก่อนที่ฉันจะหมดความอดทน ไปเลย เหม็นขี้หน้าจะแย่แล้ว

มีสักวันไหมที่จะไม่เถียง

ปอยแค่อธิบาย......

ออกไป!

สิ้นเสียงคำรามนั้น ปนิดาก็หลับตาปี๋ทำคอย่น จากนั้นก็

รีบวิ่งจี๋ออกไปทันที ตายแน่อลงกตกำลังจะฆ่าเธอแล้ว อยู่ต่อไปอีก

ไม่ได้แน่ เจ้านายอะไรหน้าตาก็ดีหรอก แต่ทำไมถึงได้ใจร้าย ขี้รังแก

 

 

นัก เธอก็เป็นแค่ผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งเท่านั้นเอง แล้วทำไมถึงไม่รู้จัก

เห็นอกเห็นใจกันบ้าง

ลงกตมองหลังไวๆ ของปนิดาแล้วถอนใจ ไม่รู้จริงๆ ว่า

เขาคิดถูกหรือคิดผิดกันแน่ที่เอาปนิดามาเป็นเลขาฯ ของตนแทน

ฟารีดา แต่เขาก็ไม่มีเวลาคิดได้นานนัก เมื่อรู้สึกคันยิบๆ ที่ใบหน้า

อีกแล้ว

ยัยปอย ยัยเบ๊อะเอ๊ย! ยัยเลขาฯ จอมเซ่อ แสบจริงนะ

ยัยคนนี้สักวันเถอะ ฉันจะเอาคืนให้สาสมเชียว โอ๊ย! ไม่ไหวแล้ว

คันไปหมดเลย ฮึ่มๆ

อลงกตฝากรอยแค้นไว้ได้แค่นั้น ก็เดินลงส้นไปยังห้องน้ำ

ทันทีคิดว่าจะอาบน้ำให้สดชื่นเสียหน่อย หลังจากที่วันทั้งวันต้อง

เผชิญกับความเบ๊อะและซุ่มซ่ามสุดๆ ของเลขาฯ ป้ายแดง

เดี๋ยวฉันจะหักเงินเดือนเธอให้เข็ดเลยยัยปอย ทีหลังจะได้

เลิกเบ๊อะซะที

อลงกตคาดโทษพร้อมส่ายศีรษะไปมา ปนิดานั้นช่างถนัดนัก

ในเรื่องสร้างปัญหา หล่อนทำให้เขาเดือดร้อนไม่เว้นวัน แล้วก็ไม่ซ้ำ

รูปแบบด้วย แต่เขาก็เหมือนคนโรคจิต ไม่ว่าหล่อนจะทำให้เขา

เสียหายขนาดไหน เขาก็ไม่เคยไล่หล่อนออกจากงานเสียทีไม่ว่า

อีกฝ่ายจะอ้อนวอนขอออกจากงานสักเพียงไหน

ฮึ่มๆ คันไปหมดเลย กรรมของฉันจริงๆ ที่ต้องมาอยู่กับ

เธอยัยปอย

เมื่อถึงห้องน้ำได้อลงกตก็บ่นออกมาหน้าบูด จัดการถอด

 

 

เสื้อผ้าที่เลอะคราบกาแฟออกไปจากร่างเพรียวสมส่วน กำลังจะ

ถอดกางเกงชั้นในอยู่แล้ว ก็ต้องสะดุ้งโหยง แก้วหูลั่นเปรี๊ยะ เมื่อ

ได้ยินเสียงกรี๊ดๆ ของผู้หญิงดังลั่นห้องน้ำ

ปนิดา!

เรียกออกไปเสียงตกใจ ทำอะไรไม่ถูก เมื่อพบเลขาฯ แม่ครู

ป้าปอยของตนปรากฏกายอยู่ในห้องน้ำเดียวกันกับเขา หล่อนกำลัง

หลับหูหลับตาร้องกรี๊ดๆ ในขณะที่เขาอยู่ในสภาพเฉียดอนาจาร ไม่สิ

คงอนาจารเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับหล่อน ไม่อย่างนั้นปนิดาคง

ไม่หน้าซีดตัวสั่นราวกับคนที่เพิ่งทำผิดศีลมาขนาดนี้หรอก แล้วเขา

ก็ตาเหลือก เมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูห้องน้ำหนักๆ

คุณปอยครับ คุณปอย เป็นอะไรหรือเปล่าครับ คุณปอย

ผมรปภ.เองนะครับ เกิดอะไรขึ้นครับคุณปอย คุณปอยครับ ผมจะ

พังประตูเข้าไปแล้วนะครับ

สิ้นเสียงเรียกของรปภ.เท่านั้น อลงกตก็รีบกระโจนเข้าหา

ปนิดาทันทีพอถึงตัวได้ก็ตะปบไปที่ปากของหล่อนเป็นอันดับแรก

จากนั้นก็กระซิบไปที่หูด้วยเสียงเข้ม

ชู่ว์อย่าร้องสิยัยเบ๊อะ เงียบเดี๋ยวนี้เชียว เธอนี่มันหาเรื่อง

แท้ๆ เดี๋ยวคนเขาก็รู้กันพอดีว่าฉันอยู่ในห้องน้ำกับเธอ เวรแท้ๆ เลย

แล้วนี่เธอเข้ามาในห้องน้ำส่วนตัวของฉันทำไมกัน ยัยป้าปอย?

ปนิดาตาเหลือก ร้องอึกอักพูดไม่ออก ได้แต่อ้าปากหวอ

ตาเบิ่งกว้าง เมื่ออลงกตเข้าถึงตัวเธอในสภาพเกือบเปลือย หัวใจ

ของหญิงสาวจะวายตายเสียให้ได้ เกิดมายังไม่เคยใกล้ชิดกับผู้ชาย

คนไหนในสภาพหมิ่นเหม่และลามกที่สุดในสายตาของเธอแบบนี้

มาก่อนเลย

เดี๋ยวฉันจะเอามือออกแล้วนะ แล้วเธอก็บอกกับน้ารปภ.

ไปว่า ไม่มีอะไรทั้งนั้น เข้าใจไหม! ยัยป้าปอย

 

 

อลงกตติวเลขาฯ สุดเฉิ่มของตนเสียงเข้ม พอเห็นปนิดา

พยักหน้าหงึกหงักก็เบาใจ มือเรียวขาวนุ่มนิ่มจนผู้หญิงอิจฉาค่อยๆ

ปล่อยให้ปนิดาเป็นอิสระ แต่ไม่นานก็แทบบ้า กรอกตาไปมาอย่าง

เหลืออด เมื่อจู่ๆ แม่ครูแก่ป้าปอยก็ร้องกรี๊ดๆ ขึ้นมาอีกครั้ง หล่อน

ตาค้าง ปากคอสั่น จ้องกางเกงชั้นในสีขาวของเขาตาเป๋ง

ให้มันได้อย่างนี้สิยัยเบ๊อะ ขนาดเตี๊ยมกันไว้แล้วนะ

ชายหนุ่มพูดเสียงลอดไรฟัน รีบเอามืออุดปากปนิดาอย่าง

ว่องไว เมื่อรปภ.ที่อยู่ด้านนอกเคาะประตูถี่ๆ

คุณปอยครับ เป็นอะไรหรือเปล่าครับ ผมจะเริ่มนับ 1-10

แล้วนะครับ ถ้าคุณปอยไม่ตอบ ผมจะพังเข้าไปทันทีเลยนะครับ

นับ 1 นับ 2 นับ 3

อือๆๆๆ ปนิดาร้องอย่างตกใจ พยายามดิ้นให้หลุดจาก

เงื้อมมืออลงกต

อยากให้คนเอาไปพูดว่าเราอยู่ในห้องน้ำด้วยกันไหม

อลงกตถามอีกฝ่ายเสียงกระซิบหน้าตาเดือดดาล เห็นปนิดาส่าย

ศีรษะหวือ

ดีมาก! งั้นเธอก็ต้องร่วมมือกับฉัน เข้าใจไหมยัยเบ๊อะ!

สิ้นคำพูดนั้นก็เห็นปนิดาพยักหน้าหงึกหงัก อลงกตจึงยิ้ม

อย่างมีชัย เมื่อเห็นดวงตาโตๆ แววตาซื่อๆ มองลอดผ่านแว่นตาโตๆ

ที่เขาเห็นว่ามันเป็นแว่นเชยเฉิ่มบรม โบราณเต่าล้านปี

บอกออกไปว่าที่เธอร้อง ก็เพราะว่าตกใจที่เห็นแมลงสาบ

อลงกตพูดกึ่งบังคับ ค่อยๆ ปล่อยมือจากปนิดาช้าๆ เห็น

อีกฝ่ายยังปากคอสั่นๆ มองเขาหวาดๆ ก็ถลึงตาใส่ นั่นแหละอีกฝ่าย

จึงยอมทำตามคำสั่ง

เอ่อ! ไม่มีอะไรหรอกค่ะคุณน้ารปภ. ปอยแค่ตกใจที่เห็น

แมลงสาบเท่านั้นค่ะ เอ่อ..คือปอยกลัวแมลงสาบ

 

 

ตกลงไม่เป็นอะไรจริงๆ นะครับคุณปอย คุณปอยแน่ใจ

นะครับ

พอเจอคำถามนี้ปนิดาก็อึกอัก หันไปทางอลงกตอย่างหารือ

เห็นเขาพยักหน้าให้อีกครั้ง ก็ตะโกนออกไป

ค่ะ ปอยไม่เป็นอะไรจริงๆ เชิญน้ารปภ.ตามสบายเถอะค่ะ

ปอยแค่ตกใจเท่านั้นเอง

พอปนิดาพูดจบ เสียงหน้าห้องก็เงียบไป สักพักทั้งสองคน

ก็รีบวิ่งไปที่ประตูเพื่อแนบหูฟังเสียงคนที่อยู่ด้านนอกกันอย่าง

พร้อมเพรียง

เฮ้อ! ไปซะที

อลงกตกล่าวออกมาอย่างโล่งใจ ปนิดาจึงถอนหายใจตาม

บ้าง แล้วก็หันไปจ้องอลงกตจริงๆ จังๆ อีกครั้ง แต่พอก้มต่ำลงไป

เห็นกางเกงชั้นในสีขาวของเขาเท่านั้น ก็รีบยกมือปิดหน้าตะเบ็ง

เสียงกรี๊ดๆ ออกมาอีกครั้ง

ว้าย! คนบ้า ผีเปรต ผีทะเล ชีเปลือย ฮือๆ เป็นกุ้งยิงหมด

แล้ว

ต่อว่าไปรัวเป็นชุดๆ เท่านั้นเองก็มีเสียงเคาะประตูดังมาถี่ๆ

อีกหน

คุณปอยครับ ผมจะพังประตูเข้าไปเดี๋ยวนี้เลยนะครับ?

สิ้นเสียงของรปภ.ก็มีเสียงกระแทกประตูปังๆ ตามมาทันที

คราวนี้ทั้งปนิดาและอลงกตต่างหันมามองกันอย่างพร้อมเพรียง

อย่านะคะ อย่าเปิด! ปนิดาร้องออกไปเสียงตื่นๆ อลงกต

ได้สติ รีบเดินไปคว้าเสื้อผ้ามาสวม ปากก็บงการปนิดาไปด้วย

บอกไปว่าเธอทำธุระส่วนตัวอยู่ ห้ามเปิดเข้ามาเป็นอันขาด

อย่าเปิดนะคะ ปอยทำธุระส่วนตัวอยู่ โป๊อยู่นะคะ อย่าเปิด

ร้องออกไปเท่านั้นเสียงประตูก็เงียบลง ถอนหายใจโล่งอก

 

 

เมื่อหันไปเห็นอลงกตอยู่ในสภาพเรียบร้อยแล้ว แต่ก็อดหน้าร้อน

ไม่ได้ เมื่อภาพเกือบเปลือยของเจ้านายหนุ่มเมื่อครู่นี้ยังติดอยู่ในหัว

เลย

ไปดูสิว่าน้ารปภ.ไปหรือยัง

อลงกตสั่งการ มือก็รัดเข็มขัดไปพลาง ปนิดาพยักหน้า

หงึกหงัก จากนั้นก็ค่อยๆ แง้มประตูออกไปมองซ้ายมองขวา เห็นว่า

ไม่มีใครสักคน ก็หันกลับไปมองเขาตาเป๋ง ไม่นานก็คอย่นเมื่อโดน

ทำหน้าหงุดหงิดใส่

โธ่เอ๊ยยัยเซ่อ จะยืนจ้องหน้าฉันอยู่อีกนานไหม ข้างนอก

มีคนหรือเปล่า ถ้าไม่มีก็รีบออกไปเสียทีสิจะรอให้น้ารปภ.ตาม

แม่บ้านมาฆ่าแมลงสาบให้เธอหรือไงกันเล่า ไปออกไปได้แล้ว

ยัยเบ๊อะ

อลงกตไม่กล่าวเพียงอย่างเดียว แต่เดินไปผลักประตูให้

เปิดกว้าง ปนิดาเลยลุกลี้ลุกลนหลีกทางให้ก่อนที่เขาจะดุจะเอ็ด

ตั้งฉายาให้เธอเสียๆ หายๆ มากกว่านี้แต่ด้วยความที่รีบร้อนมาก

จนเกินไป แข้งขาก็เลยพันกันไปหมด สุดท้ายหญิงสาวก็เสียหลัก

สะดุดเท้าของตนเองเข้าจนได้

ว้าย!

ปนิดาร้องออกมาอย่างตกใจ อลงกตที่อยู่ใกล้ตัวหล่อนที่สุด

จึงรีบคว้าเอวหล่อนไว้ก่อนที่อีกฝ่ายจะล้มลงไปกระแทกพื้น แต่ก็

ไม่สามารถช่วยอะไรได้เมื่อคนที่เขาจับไว้กลับเสียหลักมาเตะขา

ของเขาเฉยเลย ทำให้อลงกตที่ยังไม่ทันได้ตั้งตัวต้องเสียหลักล้มลง

ไปวัดพื้นด้วยกันกับหล่อนอีกหนึ่งคน

อุ๊บ!

อลงกตร้องออกมาทันที เมื่อโดนศอกของปนิดากระแทกลง

มาเต็มๆ ที่อก ส่วนร่างเล็กๆ นั้นก็เกยอยู่บนร่างใหญ่โตของเขา ทั้ง

 

 

สองคนจ้องหน้ากันตื่นๆ ต่อมาอลงกตก็ตะคอกใส่อีกฝ่ายทันที

ออกไปสิ! ยัยปอยสี่ตา ตัวหนักอย่างกับช้างอย่างกับม้า

มานอนทับฉันอยู่ได้ถามหน่อยเถอะเมื่อเช้านี้เธอไปกินช้าง กินโค

กินกระบือที่ไหนมาน่ะ ลุกๆๆ คิดว่าตัวเองตัวเบาเป็นปุยนุ่นนักหรือไง

ลุกไปให้ไวเชียว

พอโดนไล่ด้วยสีหน้าฉุนเฉียวแบบนั้น ปนิดาก็หน้างอ

พยายามตะกายร่างออกจากคนตัวโต แต่ขยับกายไม่เท่าไรก็สะดุ้ง

หลับตาปี๋ ผวากอดเขาอีกครั้ง เมื่อได้ยินเสียงผู้หญิงร้องกรี๊ดๆ ลั่น

ต๊าย! นี่มันอะไรกันคะพี่กต น้องจ๋าไม่ย้อม! ไม่ยอม! พี่กต

กอดผู้หญิงคนอื่น พี่กตนอกใจน้องจ๋า

สตรีเสียงแหลมปรี๊ดกล่าวขึ้นอย่างฉุนเฉียว ดวงตาที่แต้ม

ด้วยอายแชโดว์สีชมพูอ่อนมองลงไปที่หนุ่มสาวสองคนที่นอนกอด

กันกลมอยู่ที่หน้าห้องน้ำอย่างไม่ค่อยพอใจนัก เท่านั้นเองอลงกต

ก็รีบผลักปนิดาออกจากร่างเขา แล้วหันไปฉีกยิ้มให้กับสาวสวย

ชุดสีชมพูสุดหวานอย่างเอาใจ

แหะๆ น้องจ๋าจะมาทำไมไม่บอกพี่กตก่อนล่ะครับ

สตรีที่ถูกเรียกว่าจ๋าหาสนใจอลงกตไม่ กลับหันไปจ้องปนิดา

ที่นั่งจุ้มปุ๊ก หลังจากถูกอลงกตผลักออกจากกายตาเขียวปั้ด

จ๋าต้องการคำอธิบายค่ะพี่กต ว่าทำไมพี่กตจะต้องลงไป

นอนกอดกับแม่นี่จนกลมดิกแบบนี้ด้วย มันจะอะไรกันนักหนา แม้แต่

ห้องน้ำก็ยังไม่เว้น

สาวในชุดสีชมพูเอ่ยหน้างอ คราวนี้เจ้าหล่อนตวัดตาอัน

เขียวปั้ดมาทางอลงกตบ้าง ทำให้เขาต้องยิ้มแหย

โธ่น้องจ๋าครับ คิดว่าโกรธอะไร เรื่องแค่นี้เอง

อลงกตเรียกชื่อสตรีที่มีนามว่าจ๋าเสียงอ่อนหวานง้องอน

ค่อยๆ ลุกขึ้นแล้วเดินไปโอบบ่าของอีกฝ่ายอย่างเอาใจ

 

 

คิดอะไรมากล่ะจ๊ะ จ๋าก็รู้ว่าเลขาฯ พี่กตน่ะซุ่มซ่ามจะตาย

ไป มันเป็นอุบัติเหตุน่ะจ้ะคนดี อย่าบอกนะว่าหวงแม้กระทั่งเลขาฯ

เอ่ยไปเท่านั้นก็เห็นจามิกาสีหน้าดีขึ้นมานิด แต่ก็มิวายถูก

อีกฝ่ายค้อนปะหลับปะเหลือกให้

จ๋าก็ไม่อยากจะคิดมากหรอกค่ะ ถ้าใครบางคนไม่ใช่คน

เจ้าชู้ แหม! อุบัติเหตุอะไรกันคะ ทำไมพี่กตถึงต้องลงไปนอนกอดกับ

เขากลมดิกขนาดนั้นด้วย นี่ถ้าจ๋ามาไม่ทันนะ ใครจะไปรู้ สองคน

อาจจะทำอะไรกันมากกว่านี้ก็ได้

สาวเจ้าพูดเสียงงอนๆ สะบัดไหล่หนีอลงกตเสีย ส่วนตัว

ต้นเหตุอย่างปนิดานั้นก็ไม่ใส่ใจใครทั้งนั้น มือบางของหญิงสาว

คลำสะเปะสะปะเพื่อหาแว่นตาของตนไปเรื่อย

อย่าหน้างออย่างนั้นสิจ๊ะน้องจ๋า เดี๋ยวไม่สวยนะคะ มัน

ไม่มีอะไรจริงๆ จ๊ะ เดี๋ยวพี่กตให้เลขาฯ พี่กตไปเอาน้ำส้มมาให้ดื่ม

ดีกว่านะคะคนสวย น้องจ๋าจะได้ใจเย็น ผิวสวยๆ และไม่เครียดไงจ๊ะ

อลงกตกล่าวเอาใจ มองหน้าจามิกาตาหวานซึ้ง สักพักก็

ตะโกนเรียกเลขาฯ ตัวเอง

ยัยปอยๆ ทำไมไม่รู้จักหาน้ำมาให้น้องจ๋าดื่มเสียทีล่ะ

ยัยปอยไปเอาน้ำส้มมาให้คุณจามิกาสิ

อลงกตกล่าวพร้อมกับหันไปมองปนิดา แล้วก็ขมวดคิ้วมุ่น

เพ่งมองอีกฝ่ายจริงจัง เมื่อเห็นปนิดากำลังคลานๆ คลำๆ หาอะไร

สักอย่าง

ยัยแว่น นั่นเธอทำอะไรของเธอ ลุกขึ้นมา แล้วไปเอาน้ำส้ม

มาให้คุณจามิกาดื่มเดี๋ยวนี้!

เจ้านายอย่ามาเรียกปอยว่ายัยแว่นอีกนะคะ เพราะตอนนี้

แว่นของปอยมันหายไปแล้ว

แว่นหายเหรอ?

 

 

ก็ใช่น่ะสิคะ แว่นหายไปแล้ว ลองแบบนี้แล้วปอยจะเป็น

ยัยแว่นอีกได้ยังไง

ปนิดาเบะหน้าตอบกลับไปเสียงสั่น มือก็ไม่หยุดควานหา

แว่น ระหว่างนั้นก็พล่ามรำพันไปด้วย

แว่นอันนั้นมันเป็นสมบัติชิ้นสุดท้ายจากพี่ชายของปอย

นะคะ มันเป็นของที่ระลึกเพียงชิ้นเดียวที่ปอยเหลืออยู่เจ้านายก็รู้

ปอยเคยบอก...

พอๆ หยุดเลย อลงกตกล่าวพร้อมยกมือปรามปนิดาทันที

ไม่ต้องพูดต่อเลยยัยปอย หยุด! เพราะฉันรู้ว่าเธอจะพูดต่อ

ไปว่า แว่นอันนั้นพี่ชายของเธอซื้อให้ก่อนที่เขาจะตายไป มันจะหาย

ไม่ได้ เพราะนั่นคือตัวแทนของพี่เธอ ฉันรู้ๆ ฉันจำมันได้จนขึ้นใจ ฉัน

ฟังเธอพูดแบบนี้ตั้งแต่ตอนที่เลขาฯ คนเก่ายังอยู่จนกระทั่งตอนนี้

ฟางเขาก็ลาออกไปแต่งงาน จนจะมีลูกคนที่สองอยู่แล้ว เธอไม่ต้อง

พูดต่ออีกทั้งนั้น ทำเป็นฟูมฟายไปได้ ไม่รู้จักอายแขกบ้างหรือไงนะ

มาๆ ฉันช่วยเธอหาเอง

อลงกตกล่าวจบก็ช่วยปนิดาหาแว่น พบว่ามันอยู่ตรงขาโต๊ะ

ใกล้ๆ หล่อนนั่นเอง จึงหยิบขึ้นมาสวมให้หล่อน ส่วนปนิดาพอได้

แว่นเท่านั้นก็กระโจนพรวดเดียวถึงอลงกตทันทีทำให้ทั้งคู่ต้องล้ม

ลงไปนอนกอดกันกลมดิกอีกรอบ

โอ๊ะยัยนี่นิ! ตัวหนักอย่างกับช้างกับม้า แล้วยังมาพุ่งชน

ฉันอีก รีบถอยออกไปเลยไป๊!

อลงกตเอ่ยพร้อมดันปนิดาออกไป โดยที่แขนยาวๆ ของ

อีกฝ่ายยังคล้องอยู่ที่คอของเขา ไม่นานปนิดาก็ต้องหน้าเจื่อน ค่อยๆ

รู้สึกตัว หญิงสาวคอย่น เมื่อมองลอดแว่นไปเห็นจามิกากำลังมอง

มาที่เธอและอลงกตด้วยสายตาเอาเรื่อง

ขอโทษค่ะคุณจามิกา คือว่าปอยดีใจมากไปหน่อยค่ะ คือ

 

 

ว่าแว่นอันนี้มันเป็นแว่นที่ปอยรักมาก แล้วก็ใช้มานานแล้วด้วย

ปนิดาชี้แจงกับจามิกาด้วยเสียงรัวเร็ว หวาดหวั่นกับสายตาของ

อีกฝ่ายนักหนา

ก็ได้! ครั้งนี้ฉันจะยกโทษให้เธอก็แล้วกัน ที่บังอาจลวนลาม

พี่กตของฉัน แต่ทีหลังอย่าเผลออีกล่ะ

ค่ะคุณจ๋า

ปนิดารับคำหน้าเจื่อน ลุกขึ้นเดินตัวลีบเพื่อไปหาน้ำมา

รับรองจามิกาอย่างรวดเร็ว กระทั่งหล่อนไปลับตาแล้วนั่นแหละ

จามิกาจึงหันกลับมาคุยกับอลงกตจริงจัง

ซุ่มซ่ามขนาดนี้ ทำไมพี่กตถึงไม่ไล่ออกไปเสียทีล่ะคะ?

ไม่ได้! ป๋าสั่งมา ป๋าบอกเลยว่าให้ยัยปอยเป็นเลขาฯ ของ

พี่คนเดียวเท่านั้น ถ้ารังแกหรือไล่หล่อนออกไป ป๋าก็จะไล่พี่ออก

เหมือนกัน

พออลงกตอธิบายได้เท่านั้น จามิกาก็อ้าปากหวอ มองไป

ทางประตูที่ปนิดาเพิ่งก้าวออกไปอีกครั้งด้วยสายตาเหลือเชื่อ

แม่นั้นนะหรือคะ เป็นคนโปรดของท่านผู้อำนวยการใหญ่?

ครับ! ไม่ใช่แค่ป๋าของพี่คนเดียวเท่านั้นนะครับ แต่

ประธานใหญ่อย่างนายเมธัส รวมทั้งฟารีดา ก็ชอบหล่อนมากๆ ด้วย

เห็นอย่างงั้นเถอะ จริงๆ แล้วเขาเส้นใหญ่จะตายไป

ท้ายๆ อลงกตกล่าวถึงฟารีดาด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลนัก จน

จามิกาต้องพินิจมองเขาอย่างระแวง

แล้วคุณฟารีดานี่เป็นใครคะ? ทำไมเวลาที่พี่กตพูดถึงเขา

จะต้องทำตาเยิ้มขนาดนั้นด้วย

คำถามนั้นทำให้อลงกตอึ้งไป แต่แล้วก็ต้องกัดฟันกรอด

เมื่อยัยป้าปอยเลขาฯ จอมเบ๊อะอาศัยจังหวะที่เขากำลังมึนตึบอยู่

นั้นชิงพูดขึ้นมาเสียก่อน โผล่มาตอนไหนก็ได้เรื่องตอนนั้นเชียว

 

 

อ๋อ! พี่ฟางน่ะหรือคะ พี่ฟางเป็นผู้หญิงที่คุณกตหลงรัก

มากๆ ค่ะ แต่จริงๆ แล้วพี่ฟางเขาไม่ได้รักคุณกตหรอกนะคะ พี่ฟาง

เขารักคุณเมธัส และตอนนี้เขาก็ทิ้งคุณกตไปแต่งงานมีลูกกับคุณเมธัส

เรียบร้อยแล้ว ปอยว่าคุณจ๋าไม่ต้องกังวลหรอกนะคะ พี่ฟางไม่มีทาง

แย่งคุณกตไปจากคุณจ๋าอย่างแน่นอนค่ะ ปอยเอาตัวเป็นประกัน

เท่านั้นเองอลงกตก็ควันออกหู หันไปกล่าวกับเลขาฯ ของตน

เสียงเข้ม

ยัยปอย ใครใช้ให้เธอพูดไม่ทราบ! นี่เธอแอบฟังเจ้านาย

คุยกันอีกแล้วนะ ที่โรงเรียนไม่เคยสอนเรื่องมารยาทเลยใช่ไหม

อลงกตดุปนิดาเสียงเข้ม รู้สึกเสียหน้าไม่น้อยกับคำพูดของ

หล่อน ไม่นานก็รีบกล่าวแก้

หลงรักข้างเดียวอะไรของเธอกันยัยปอย พูดจาเหลวไหล

ใหญ่แล้วยัยคนนี้ เธอจะไปรู้เรื่องอะไร ระหว่างฉันกับคุณฟางน่ะ ก็

คุณฟางเขายังเคยมีโครงการที่จะแต่งงานกับฉันอยู่เลย

ไม่ใช่นะคะไม่ใช่! เจ้านายเข้าใจผิดไปใหญ่แล้ว ก็พี่ฟาง

บอกกับปอยเองแท้ๆ ว่าเขากลัวว่าคุณเมธัสจะเอาลูกไป เลยจำใจ

ต้องรับปากแต่งงานกับเจ้านาย เพื่อที่จะให้เจ้านายมีชื่อเป็นพ่อของ

ลูกเขา คุณเมธัสจะได้หมดสิทธ์ิไป มันก็เท่านั้นเอง ที่พี่ฟางทำแบบนั้น

ก็เพราะเขาเข้าใจคุณเมธัสผิดต่างหาก พอเขาเข้าใจคุณเมธัสถูก

แล้ว เขาก็ไม่คิดจะแต่งงานกับเจ้านายอีก

คำอธิบายยาวๆ ที่จี้ใจดำนั้น ทำให้อลงกตแยกเขี้ยวใส่ปนิดา

ทันที

ไปเลยยัยปอย เธอมีงานอะไรก็ไปทำเสียให้เรียบร้อย ไม่ใช่

มายุ่งเรื่องของเจ้านายแบบนี้คอยดูสิอาทิตย์หน้า ฉันจะยอมเสีย

เงินเยอะๆ เสียเท่าไรเท่ากัน เพื่อที่จะส่งเธอเข้ารับการอบรมเรื่อง

มารยาท ทีหน้าทีหลังจะได้ไม่มายุ่งจุ้นจ้านเรื่องของฉันแบบนี้

 

 

อีก ไปเลยไป มีอะไรก็รีบๆ ไปทำเดี๋ยวนี้เชียว โธ่! ที่ฉันเสียเปรียบ

นายเมธัสนั้น ก็เพราะว่าฉันน่ะเจอคุณฟางเขาช้าไปต่างหากเล่า พอ

มาเจอกันมันก็ดันฝากเจ้าเมธัสน้อยไว้ในท้องคุณฟางเขาเสียแล้ว

คนอย่างนายกตน่ะเกิดมาพร้อมขนาดนี้ ใครๆ เขาก็อยากได้กันทั้งนั้น

แหละ เธอก็รู้ เธอก็เห็นอยู่

พี่ฟางไง ไม่อยากได้คุณกตเลย

พอพูดไปแล้วปนิดาก็ตาโตตกใจ รีบเอามืออุดปาก

แล้ววิ่งหนีไปทันทีขืนอยู่ต่อไปอีกแม้แต่วินาทีเดียว เจ้านายจอม

หลงตัวเองของเธอมีหวังได้ฆ่ากันตายแน่เฮ้อ! เมื่อไรนะ ไอ้นิสัย

ปากไม่มีหูรูด พูดจาไม่ยั้งคิดนี้มันจะหายไปจากเธอเสียทีนะ ไปพูด

ถึงเรื่องพี่ฟางคนสวยต่อหน้าคู่ขารายล่าสุดของอลงกตแบบนั้น เขา

ก็เสียหน้าแย่สิรับรองว่าวันนี้ทั้งวัน เธอต้องถูกเขาหาเรื่องพาล

ใส่ไม่เลิกราแน่ เฮ้อ!


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (23 รายการ)

www.batorastore.com © 2024