End of PHOBIA วิกฤตการณ์รักท้าชนหัวใจ (ชุดเตกีล่า)
ประหยัด: 48.65 บาท ( 35.00% )
เนื้อหาบางส่วน
บทนำ
ในบรรยากาศที่มืดมิด..มองไปทางไหนก็ไม่สามารถคาดเดาได้ว่าตัวเองอยู่ที่ใด ความมืดมิดทำให้เธอเริ่มหวาดกลัว ความหวาดกลัวทำให้เธอเริ่มสติแตก สิ่งแรกที่เธอทำออกมาตามสัญชาตญาณของมนุษย์ที่พึงมีนั้นก็คือ...
“ช่วยด้วย...ช่วยฉันที ที่นี่มันที่ไหนกัน!!”
พึ่บ!
ทันทีที่เธอส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือ ไฟก็สว่างพึ่บอย่างกับถูกเสก เสียงย่ำเท้าค่อยๆ เข้ามาใกล้ตัวเธอเรื่อยๆ ก่อนที่บุคคลปริศนาจะเอ่ยถามเธออย่างอ่อนโยน
“เธอเป็นใคร”
“หะ...หา?”
“รู้ไหมว่าตัวเองเป็นใคร”
“ไม่รู้”
พอถูกถามอย่างนั้นเธอก็รีบตอบออกไปด้วยหัวสมองที่ว่างเปล่า ความมืดไม่ใช่สิ่งเดียวที่เธอกลัว เรื่องความทรงจำที่หายไปก็เป็นอีกสิ่งที่เธอกำลังกลัวแทบขาดใจ
“ไม่ต้องกลัวนะ”
“จะไม่ให้กลัวได้ยังไง ฉันจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าตัวเองเป็นใคร!!”
“เธอเป็นน้องสาวของฉัน”
น้ำเสียงอ่อนโยนของเขาทำให้เธอคลายความกลัวไปได้บ้าง แม้ว่าตอนนี้จะยังไม่วางใจเท่าไหร่
“ฉันเป็นน้องของคุณอย่างนั้นเหรอ แล้วทำไมฉันถึงจำอะไรไม่ได้เลยล่ะ”
“มันมีอุบัติเหตุนิดหน่อย ไม่ต้องพยายามนึกถึงมันหรอก เอาเป็นว่า เราจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยกันนะคะคนดี”
คนแปลกหน้าดึงเธอเข้าไปกอด แม้ในตอนแรกจะขืนตัวอยู่บ้าง แต่เมื่อคนแปลกหน้าตบหลังเธอเบาๆ อย่างปลอบใจ ก็ทำให้เธอสบายใจขึ้น แล้วกอดตอบพร้อมทั้งถามกลับ
“ถ้าคุณเป็นพี่ฉันจริงๆ คุณต้องรู้ว่าฉันชื่ออะไร”
“แน่นอน”
“ฉันชื่ออะไรเหรอคะ”
คนแปลกหน้าลอบยิ้มหลังเธอเมื่อได้ยินคำถามอย่างนั้น ละครฉากต่อไปกำลังจะเริ่มขึ้น ความสนุกของการไล่ล่าจะเริ่มต้นจากการเป็นคนแรกในเกมที่ชื่อว่า...โดมิโน
“เธอชื่อจินนี่”
1
เสียงออดเข้าชั้นเรียนในตอนเช้าแบบใหม่ที่ฉันไม่ค่อยคุ้นชินเท่าไหร่ ไม่ได้ทำให้ตัวเองรู้สึกตื่นตัวที่จะเข้าชั้นเรียนเหมือนตอนอยู่โรงเรียนเก่าที่จากมาเท่าไหร่นัก ชุดนักเรียนกับสภาพแวดล้อมใหม่ๆ ทำให้ฉันค่อนข้างจะประหม่าอยู่ไม่น้อย
ฉันมีชื่อว่า ‘องศา’ ย้ายมาจาก Royal High Scholl ตอนช่วงกลางเทอมพอดี เลยต้องมาเริ่มต้นใหม่กับโรงเรียนแห่งนี้ ที่นี่ดูต่างจากโรงเรียนเก่ามากมายไม่ว่าจะเป็นความกว้างของสถานที่ เด็กนักเรียนบางคนที่ดูจะไม่ค่อยอยู่กับร่องกับรอยเท่าไหร่นัก ไหนจะชุดนักเรียนที่ดูธรรมดามาก ทำให้ฉันรู้สึกกลายเป็นคนธรรมดาผิดกับตอนอยู่โรงเรียนเดิมที่ฉันถูกยกย่องให้เป็นถึงเจ้าหญิงน้อยแห่ง PHOBIA
ช่างมัน ฉันตั้งใจจะมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่นี่อยู่แล้ว การทำตัวเป็นเด็กธรรมดาทั่วไปนับว่าเป็นอะไรที่ดีที่สุดแล้วสำหรับฉันในตอนนี้ การไม่มีจุดเด่นและทำตัวเหมือนกับว่าเป็นอากาศธาตนั้นดูจะปลอดภัยกับชีวิตของฉันเป็นที่สุด
“นักเรียนใหม่ว่ะ”
“ผิวดีจังเนอะ แต่เพิ่งเห็นเอากลางเทอม สงสัยย้ายสายฟ้าแลบ”
“พูดจาเหมือนเขาท้องเลย”
“น่ารักจัง”
ทุกสายตาที่ดูเหมือนจะไม่ค่อยได้พบเจอกับเด็กแปลกหน้าที่ไหนนอกจากตามสถานที่เรียนพิเศษ ต่างจับจ้องมาทางฉันแล้ววิพากษ์วิจารณ์กันอย่างตื่นตาตื่นใจ เป็นอย่างนี้กันทุกโรงเรียนเลยสินะ
“แต่ดูหยิ่งจัง ว่าป่ะ”
“ยิ้มแล้ว”
คงจะพอใจคนพวกนี้แล้วสินะ การไม่ทำตัวเด่นทำไมมันยากอย่างนี้ ถ้าฉันยังเป็นจุดสนใจอยู่ไม่เลิกแล้วจะย้ายโรงเรียนมาทำไมกัน สงสัยว่าต้องอดทนต่อสายตาแปลกประหลาดของเด็กนักเรียนโรงเรียนนี้ไปอีกสักระยะเลยล่ะ
ก่อนจะเข้าห้องเรียนฉันถูกผู้อำนวยการโรงเรียนเรียกตัวไปพบ เมื่อเข้าไปในห้อง เขาซึ่งนั่งรออยู่ที่โต๊ะตัวใหญ่ก็ยิ้มร่าให้ฉันอย่างจอมปลอม (ดูออกทันทีเพียงแค่แย้มยิ้มออกมา เฮอะ...) แล้วลุกขึ้นเชื้อเชิญให้ฉันนั่ง
“ให้หนูยืนเถอะค่ะ”
“ได้ยังไงกัน ถ้าคุณแม่ของหนูรู้เข้าลุงก็แย่สิ”
“แม่ไม่รู้หรอกค่ะ แล้วก็ช่วยทำตัวแบบปกติกับหนู เหมือนกับว่าหนูไม่ได้เป็นลูกสาวนายกรัฐมนตรีได้ไหมคะ หนูย้ายโรงเรียนมาเพราะไม่ต้องการเป็นจุเด่น”
“แต่ก็แหม...”
นี่แหละสาเหตุที่ทำให้ฉันย้ายมาเข้าโรงเรียนนี้ตอนกลางเทอมได้อย่างมีอภิสืทธิ์ และได้รับการต้อนรับอย่างดีจากผู้อำนวยการเพียงเพราะแม่ของฉันเป็นนายกรัฐมนตรี เป็นลูกสาวคนใหญ่คนโตมันก็ดีอย่างนี้แหละ
“ห้องที่หนูจะได้เรียนนี่เป็นห้องบ๊วยอย่างที่หนูต้องการหรือเปล่าคะ”
“คือ...” ผู้อำนวยการทำหน้าลำบากใจ “รู้ไหมว่าห้องบ๊วยที่หนูต้องการไปอยู่น่ะจะเจอกับเด็กประเภทไหน”
“ไม่ว่จะเป็นแบบไหนหนูก็ต้องการที่จะอยู่ห้องนั้น”
“บอกเหตุผลของหนูให้ฉันรู้หน่อยสิ ทำไมหนูถึงย้ายจากโรงเรียนอันดับหนึ่งที่ใครๆ ก็อยากเรียนมาอยู่โรงเรียนของฉัน แถมยังต้องการจะอยู่ห้องบ๊วย”
“เหตุผลง่ายๆ เองค่ะ”
“...”
“หนูอยากเป็นอากาศธาตุ”
ผู้อำนวยการไม่กล้าถามอะไรฉันมากนัก คงเพราะเห็นว่าฉันไม่ตอบ ทำท่าหงุดหงิด แถมยังแกล้งบ่นพึมพำให้ได้ยินว่าโรงเรียนนี้ชักไม่น่าอยู่เสียแล้วอะไรทำนองนั้น เขารีบจัดการเปลี่ยนเรื่องและบอกห้องเรียนที่ฉันต้องไปเข้าเรียนในทันที
ทันทีที่เหยียบย่างเข้าไปในห้องนั้น...
จรวดกระดาษบินมากระแทกเข้ากับจมูกฉันเสียงดังปึกก่อนที่มันจะร่วงหล่นลงกับพื้น ทำเอาทั้งห้องเงียบกริบ ทุกสายตาอิริยาบถทถูกตรึงเอาไว้เพียงแค่ฉันก้าวเท้าเข้ามาในห้องเรียนที่ได้ชื่อว่าเป็นห้องบ๊วยที่สุดของชั้น บรรยากาศช่างต่างจากโรงเรียนเก่าจริงๆ อะไรมันจะดูเลวร้ายได้ขนาดนี้
ด้านหน้าสุดของห้อง ผู้ชายกำลังนั่งอ่านหนังสือโป๊กันแบบไม่อายสายตาใคร
ด้านหลังสุดของห้อง ผู้หญิงบางคนกำลังนั่งแต่งหน้าทาปากพลางหัวเราะเสียงแหลม (แต่หยุดชะงักตอนที่ฉันเดินเข้ามา)
ทั่วทั้งห้องมีขยะมากมายที่ไม่ได้รับการเก็บกวาดเลยแม้แต่น้อย หนำซ้ำที่กำแพงยังขีดเขียนคำว่า
‘ไม่ใช่หน้าที่ของนักเรียนโว้ย’
แตกต่างจากโลกใบเดิมของฉันโดยสิ้นเชิง
“จมูกเธอเป็นรอยแดงหมดแล้ว เจ็บหรือเปล่า”
เด็กผู้ชายใส่แว่นหัวกระเซิง ที่หน้ามีรอยปากกาเมจิกมากมายขีดเขียน จนไม่มีพื้นที่ให้สิวได้โผล่หัวออกมาหายใจเลยนั้น ฟ้องอย่างดีว่าเขาต้องถูกคนในห้องนี้แหละกลั่นแกล้ง แถมยังไม่ยอมสู้คนด้วย สังเกตจากหน้าผากที่ถูกเมจิกสีดำเขียนเป็นภาษาอังกฤษว่า
‘Loser’
“ไม่เจ็บหรอก แต่นายควรจะไปล้างหน้าล้างตาเสียหน่อยนะ”
“ไม่เป็นไร ผมชินแล้ว”
“เอาไปเช็ดหน้าซะสิ” ฉันยื่นผ้าเช็ดหน้าส่งให้นาย Loser เพื่อนใหม่อย่างนึกสะท้อนในหัวอกยามที่นึกย้อนถึงเรื่องอดีต “อย่างน้อยเช็ดคำบนหน้าผากก็ยังดี”
แต่ดูเหมือนนาย Loser จะเกร็งๆ ไม่กล้ารับผ้าเช็ดหน้าไป ฉันก็เลยจัดการเช็ดหน้าผากให้เขาเองอย่างรู้สึกทนไม่ได้กับรอยปากกาเมจิกที่เลอะอยู่บนใบหน้า
“วี้ดวิ่ว! เสน่ห์ร้ายเหลือเกินนะไอ้เอ๋อ มาถึงก็ได้ผ้าเช็ดหน้าเด็กใหม่เลย ไอ้ห่วย!”
พวกผู้ชายที่ทำเป็นแซวคงรู้สึกหมั่นไส้ เลยโยนปากกา ชอล์ก หรืออะไรก็ตามที่อยู่ใกล้มือนาย Loser จนฉันเองที่ยืนอยู่ใกล้เขาแอบโดนลูกหลงไปด้วย แต่ก็ไม่ได้เจ็บมากเท่าไหร่นัก
“ขอโทษนะครับ ขอโทษที่ทำให้คุณต้องเจ็บตัว”
“พวกนายก็หยุดแกล้งเขาซะทีสิ!!”
อากาศธาตุอย่างฉันไม่ยอมส่งเสียงที่ดูเหมือนฮีโร่แบบนี้เพื่อปกป้องเขาแน่นอน...ใช่แล้ว นี่ไม่ใช่เสียงฉันหรอก แต่เป็นของนักเรียนหญิงอีกคนที่โผล่มาจากด้านหลังฉันต่างหาก คาดเดาได้ว่าคงจะเพิ่งเข้ามาเหมือนกัน แถมยังตะคอกเสียงปกป้องนาย Loser อย่างเอาเรื่อง
“ยัยนี่อีกแล้ว เซ็งว่ะ”
พวกผู้ชายที่เห็นเจ้าของเสียงก็ทำหน้าเซ็งๆ แล้วเดินกลับไปนั่งที่กันตามระเบียบ มหัศจรรย์จริงๆ ผู้หญิงเพียงคนเดียวสามารถปราบพวกนี้ให้อยู่หมัดได้
“อาคเนย์! เขาแกล้งก็หัดสู้คนบ้าง นายทำให้ฉันหงุดหงิดอีกแล้วนะ แล้วนี่เธอเป็นใครกัน”
“ฉันเพิ่งย้ายเข้ามาใหม่”
ยัยนี่มันแน่ดฟ้ย กล้าตะคอกเสียงใส่ฉันที่แม้แต่แม่ยังไม่เคยขึ้นเสียงใส่เลยเสียด้วย
“อ๋อ คนที่พ่อบอกน่ะเอง”
“พ่อเหรอ”
“ผอ. น่ะ”
เป็นเรื่องมหัศจรรย์อีกเรื่อง ห้องนี้คงจะมีเสน่ห์อย่างหาตัวจับยาก เพราะไม่เพียงแค่ลูกสาวนายกฯ เท่านั้นที่ขอมาเรียนห้องนี้ แต่ลูกสาวผู้อำนวยการเองก็ยังมาพักพิงที่นี่เหมือนกัน ก็ว่า...ทำไมพวกนักเรียนในห้องนี้ถึงเกรงใจหล่อนนัก
“ขอบคุณนะ หัวหน้าห้อง”
“นายก็ไปล้างหน้าล้างตาเสียสิ อย่าให้ฉันต้องหงุดหงิด”
“ครับ”
นาย Loser เดินจากไปแล้ว เหลือเพียงฉันที่กลายเป็นเป้าสนใจอยู่คนเดียวในตอนนี้ หัวหน้าห้องที่เพิ่งเข้ามาคงจะเห็นท่าทางเก้ๆ กังๆ ของฉัน เลยจัดการชี้ไปยังมุมห้องหลังสุดซึ่งยังมีโต๊ะว่างเหลืออยู่
“ที่นั่งเธออยู่ตรงนั้น ในฐานะที่เป็นเด็กใหม่ เธอนั่งกับฉันไปก่อนก็แล้วกัน”
“นั่งกับเธออย่างนั้นเหรอ”
“มีปัญหาหรือไง”
“เปล่า”
จะมีปัญหาก็ตอนหล่อนส่งสายตาน่าหมั่นไส้นั่นแหละย่ะ เฮ้อ ฉันก็ได้แต่บ่นกับตัวเอง ยังไงซะก็ต้งอทำตัวไม่ให้มีปัญหาเข้าไว้เพราะชีวิตในรั้วโรงเรียนนี้ยังอีกยาวไกลนัก
“นี่...ยัยเด็กใหม่”
“หือ”
ฉันที่กำลังก้มๆ เงยๆ หยิบอุปกรณ์การเรียนออกมาจากกระเป๋านักเรียนใบแพงหันมาสนใจเพื่อนที่นั่งอยู่ด้านหน้า ใช่แล้ว ยัยพวกนี้คือกลุ่มเด็กสาวที่เอาแต่นั่งแต่งหน้าแล้วก็หัวเราะระริกระรี้ไปวันๆ
“กระเป๋าสวยนี่ ท่าทางจะแพง” หนึ่งในนั้นที่ดูท่าทางว่าจะเป็นหัวหน้าแก๊งมองกระเป๋าฉันด้วยนัยน์ตาวาววับ นับว่าตาถึงมาก...
“ก็นิดหน่อย”
“ท่าทางจะรวยนะเนี่ย”
ฉันโคตรรวยเลยแหละ
“ไม่ขนาดนั้นหรอก”
“อยากได้กระเป๋าของเธอจัง” คำขอที่หน้าด้านที่สุดเท่าที่ฉันเคยได้ยินมาทำให้ฉันอยากจะดูถูกหล่อนตามนิสัยเดิมนิดหน่อย “ขอได้ไหม”
‘เธอเป็นขอทานหรือไง’ ถ้าเป็นที่โรงเรียนเก่าฉันคงถามแบบนี้ไปแล้ว แต่สำหรับที่นี่ ฉันเลือกที่จะเงียบดีกว่า
“ไม่เคยมีอะไรได้มาฟรีๆ โดยไม่ต้องแลก เธอมีอะไรที่น่าสนใจมาก
(ติดตามต่อได้ในฉบับเต็ม)
รายละเอียด
รีวิว (2)

01/03/2015
END OF PHOBIA วิกฤตการณ์รักท้าชนหัวใจ ของเจ้าปลาน้อยเล่มนี้ไม่รู้จะเรียกว่าอยู่ในเซทเตกีล่า99 ได้หรือเปล่า (ลากยาวไปนั่น) เพราะว่าถ้าเอาแบบเท้าความเนื้อเรื่องตั้งแต่จุดเริ่มต้นต่างๆให้ครอบคลุม มันก็เริ่มมาตั้งแต่ตอนนั้นจริงๆนั่นแหละ เริ่มจากกลุ่มโฟเบีย อารมณ์กลุ่มมาเฟียในโรงเรียนแห่งหนึ่งที่มีสมาชิกเป็นลูกคนใหญ่คนโตไม่ก็ลูกนักธุรกิจรวยล้นฟ้า ตั้งกันเป็นกลุ่มเป็นแก๊งขึ้นมาแล้วก็คอยกลั่นแกล้งรังแกเด็กธรรมดาๆ (อารมณ์นิยายญี่ปุ่นเลยค่า555) จนมีเหตุให้เด็กสาวคนนั้นฆ่าตัวตาย แล้วก็มีจดหมายมาบอกว่าจะให้พี่ชายของเธอมาแก้แค้น สมาชิกกลุ่มทั้งหลายเลยแตกกระจายย้ายโรงเรียนกันไป อ้อ จินนี่(นางเอกของเคียนติ)ก็เป็นสมาชิกของกลุ่มนี้ด้วยเหมือนกัน เพราะเธอต้องการการยอมรับและไม่อยากตกเปฌนเป้าหมายให้ถูกกลั่นแกล้ง แต่ไม่ว่าจะมีเหตุผลอะไรก็ตาม ยังไงเธอก็เปฌนเป้าหมายของการแก้แค้นอยู่เดี แถมยังโดนเป็นเป้าหมายแรกด้วย ส่วนเป้าหมายต่อมาก็คือองศา (นางเอกของเรา) พระเอกคือไอคิว เป็นสมาชิกกลุ่มโฟเบียเหมือนกัน คือเรื่องนี้มนตอนจบทุกตัวละครก็จะได้รับบทสรุปตามผลกรรมที่ทำเอาไว้ แม้บางทีมันจะน่าสงสารไปหน่อย แต่ก็สมควรแล้วค่ะ เนื้อเรื่องน่าติดตามสุดๆค่ะ มันเข้มข้นแบบมีปมคดีมากมาย เป็นแนวสืบสวนสอบสวนเลยก็ว่าได้ มีเรื่องซ่อนไปซ่อนมา พี่เจ้าปลาน้อยขมวดปมได้กระชับและน่าติดตามมากกกกก แถมเรายังชอบคาแรกเตอร์นางเอกกับพระเอกด้วยอ่ะไม่รู้ทำไม รู้สึกว่าพวกเขาเกิดมาคู่กันจริงๆ แบบ เรื่องนี้มันเหมือนไม่ใช่แค่คอยระวังผู้มาแก้แค้นอย่างเดียว แต่มันยังมีเรื่องของการต่อสู้กับความรู้สึกภายในของตนเองอีกด้วย แบบต้องคอยระแวงคนรอบตัว ว่าใครจะเอาอะไรมาเล่นงานเราเงี้ย (พยายามไม่สปอย5555)

09/07/2014
End of PHOBIA วิกฤตการณ์รักท้าชนหัวใจ เป็นงานเขียนของพี่ปลาน้อยอ่านเรื่องนี้แล้วเป็นอะไรที่ออกแนวสืบสวนปริศนาสำหรับใครที่ชอบอ่านนิยายแนวๆ สืบสวนหรือมีปมอะไรให้ต้องค้นหาเรื่องนี้คงสนุกอีกเรื่องหนึ่งเราอ่านเรื่องนี้ก็ชอบนะสนุกดีแต่ไม่ค่อบชอบอ่านนิยายที่เป็นปริศนาหรือมีปมเยอะเท่าไหร่ความคิดเห็นส่วนตัวนะค่ะฮ่าๆๆ เรื่องราวในเล่มนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับกลุ่มPHOBIA เป็นกลุ่มที่สร้างเรื่องแต่ละเรื่องไม่ค่อยดีเท่าไหร่ส่งผลให้กับเด็กสาวคนหนึ่งที่เขียนจดหมายทิ้งไว้ว่าจะให้พี่ชายของเธอมาแก้แค้นกลุ่มนี้จึงแตกเรื่องราวในเล่มนี้จะกล่าวถึงองศาหนึ่งในกลุ่ม PHOBIA ชนิดที่ว่าเวรกรรมตามทันติดจร๊วดจะบอกว่าเรื่องนี้เป็นเล่มต่อจากเคียนติค่ะ เรื่องราวของเคียนติในเล่มก่อนพ่อหนุ่มเจ้าแผนการนั่นเองแถมเป้าหมายแรกเลยที่โดนเล่นงานนั่นก็คือจินนี่คนรักของเคียนตินั่นเองในเล่มนี้จินนี่ความจำเสื่อมค่ะ องศาเธอได้เลิกยุ่งเกี่ยวกับกลุ่ม PHOBIA หลังจากเกิดเหตุการร้ายๆขึ้นแถมยังเปลี่ยนแปลงตัวเองจากที่เคยทำตัวเด่นคราวนี้เธอไม่ยุ่งเกี่ยวกับใครเลยอ่านเรื่องนี้แล้วชอบพระเอกนะแต่คืออันที่จริงจะบอกว่าสงสารนางเอกไหมก็สงสารแต่เรื่องบางเรื่องเธอก็สมควรโดนเอาคืนใครที่อ่านเล่มนี้แล้วไม่เคยอ่านเรื่องราวของเคียนติอาจจะงงเพราะตัวละครเยอะแยะวุ่นวายมากไหนจะแผนการหักกันไปหักกันมาอีกตอนแรกเลยคืออ่านแล้วเรางงมีความรู้สึกว่าเรื่องไม่ปะติดปะต่อต้องกลับไปหยิบเล่มของเคียนติขึ้นมาอ่านใหม่ว่าจินนี่หายตัวไปยังไงเพราะก่อนจะอ่านเล่มนี้คือทิ้งช่วงไปนานมากพล็อตเรื่องนี้โดยรวมเรามีความรู้สึกว่าเป็นพล็อตที่น่าสนใจอ่านนิยายของพี่ปลาน้อยมาเยอะรู้สึกว่าพี่ปลาน้อยเขียนนิยายแนวนี้เก่งถ้าเป็นแนวรักก็โรแมนติกหรือไม่ก็น่ารักไปเลยแต่ถ้าเป็นพล็อตแนวๆมีปมเยอะซับซ้อนพี่ปลาน้อยก็มีเทคนิคมีปมดีค่ะสมเหตุสมผลดีหักมุมได้แบบดีมากโดยเฉพาะเรื่องของเคียนตินะอ่านแล้วปวดหัวมากฮ่าๆเป็นผู้ชายที่เรื่องราวค่อนข้างยาวเล่มแล้วเล่มเล่ากว่าจะลงเอยตอนหลังนี่เคียนติน่าสงสารตอนแรกน่าหมันไส้มากๆแต่อ่านเลามนี้ก็ไม่ผิดหวังค่ะเล่มนี้ก็สนุกเหมือนกันถึงแม้ว่าเนื้อหาจะยาวไปนิดนึงแต่ก็ไม่เบื่อดีเพราะมันมีปมมีพล็อตที่แบบเป็นปริศนาทำให้อ่านแล้วอยากรู้แล้วก็น่าติดตามดีอย่างที่บอกว่ากว่าจะอ่านจบก็นานสำหรับเราๆอ่านแล้วแอบเครียดอ่ะเล่มนี้แต่โดยส่วนตัวชอบบุคคลิกของตัวละครที่ฉลาดอยู่แล้ว