4th Love แอดมิทหัวใจรักยกกำลังสี่ (ชุด รักป่วนๆ ฉบับก๊วนเด็กหอ) (may112)
มีสินค้าในสต็อค
ประหยัด: 104.25 บาท ( 75.00% )
มีสินค้ามือสองอยู่จำนวน : 2 รายการราคา 109.00 บาท - 115.00 บาท ซื้อสินค้ามือสอง
Quick View
เนื้อหาบางส่วน
บทนำ
กาลครั้งหนึ่ง...ความรัก
ผมชื่อสี่ครับ เป็นลูกชายคนที่สี่ของตระกูลวิธิตสกุล ผมกำลังเรียนแพทย์อยู่ชั้นปีสี่แล้วครับ โฮะๆ ไม่คิดว่าจะเรียนมาได้ถึงตอนนี้ความจริงผมยังไม่รู้ด้วยซํ้าว่าตัวเองอยากเป็นหมอ -_-^ อาจจะเป็นเพราะว่าตอนแรกผมอยากมีอาชีพแนวๆ พวกเฮียๆ ทั้งหลาย ดูอย่างเฮียหนึ่ง (เฮียคนโตอ่ะครับ) เป็นถึงตำรวจสากล เฮียสองเป็นถึงวิศวกรระดับเทพ ส่วนเฮียสามเป็นถึงจิตรกรชั้นเซียน
แล้วผมล่ะ -_-?
ครูเหรอ...
โนววว!! บ้านผมเปิดกิจการเป็นโรงฝึกศิลปะการต่อสู้ครบวงจร ผมเลยได้เป็นครูสอนต่อสู้มาตั้งนานละ
ทหารไง...
ไม่เอาอ่ะ =_= มันซํ้ากับเฮียหนึ่ง ตำรวจกับทหารก็ครือๆ กันล่ะว้า
ทนายล่ะ...
เอ่อ ผมไม่ชอบกฎหมาย อ่านแล้วง่วง
หมอล่ะเป็นไง...
นี่แหละ!! เข้าท่า 0_0 วะฮะฮ่าๆ เพราะพวกเฮียๆ มันต้องไม่มีความรู้ด้านนี้แน่นอน
และนั่นทำให้ผมหน้ามืดเลือกเอ็นท์คณะแพทย์ฯ แต่พอได้เข้าไปเรียนปุ๊บ ผมน่ะแทบอยากจะเนรเทศตัวเองออกมาปั๊บ T^T ผมว่าตัวเองคิดผิดสุดๆ ผมต้องเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ =0= แค่ปีแรกเท่านั้น ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ คณิต อังกฤษ นี่มันอะไรกัน TOT จริงๆ แล้วผมเป็นคนขี้เกียจอ่านหนังสือมากๆ ไอ้พวกต้องท่องต้องจำนี่ยิ่งน่าเบื่อ -_-=3 ผมน่ะชอบลงมือปฏิบัติหรือทำการทดลองมากกว่า คะแนนสอบปลายภาคของผมเลยรั้งท้ายเพื่อนๆ อยู่เสมอ แต่พอขึ้นปีสองเริ่มเข้าสู่วิชาทาการแพทย์แบบจริงๆ จังๆ ผมเลยเริ่มสนุก (เฉพาะที่ได้ลงมือปฏิบัตินะ เช่น การผ่าอาจารย์ใหญ่!! โฮ่ๆ แต่ไอ้พวกที่ต้องท่องจำมันยังน่าเบื่อหน่ายเหมือนเคย =_=) อย่างน้อยหลังจากเรียนจบ ผมหวังว่าจะน่าความรู้ที่ได้รับทั้งหมดกลับมาดูแลคนในครอบครัวล่ะนะ สุดท้ายผมเลยทนเรียน มาเรื่อยๆ แต่...
เรียนๆ โดดๆ เอื่อยๆ เฉื่อยๆ แค่พอให้ผ่านๆ ไปเท่านั่นแหละ...
ณ ปัจจุบัน เฮียหนึ่งแต่งงานไปเรียบร้อยละ ส่วนเฮียสองกับเฮียสามน่ะหมั้นกับอาซ้อสาวๆ กันหมดแล้ว นั่นทำให้ผมชักจะเริ่มอิจฉานิดๆ =^= (เป็นเด็กขี้อิจฉานะเนี่ย) ผมเพิ่งเรียนอยู่ปีสี่เองนะ กว่าจะเรียนจบยังอีกตั้งสองปีแน่ะ (หมอเรียนหกปีนะพี่น้อง) มันไม่แฟร์เลยอ่ะ ทว่าเวลาที่ผมมองพวกเฮียๆ แล้วกลับรู้สึกดียังไงไม่รู้แฮะ เพราะที่บ้านผมน่ะมีแต่ผู้ชายเจ้าชู้ทั้งนั้นเลย -O- เรื่องผู้หญิงนี่อย่าให้แพล่มเชียว มีหวังระเบิดลงตูมตามสับรางกันแทบไม่ทัน แต่พอเวลาที่พวกเฮียๆ รู้จักหยุดพฤติกรรมแบบนั้นแล้วหันมาดูแลใส่ใจใครสักคนอย่างจริงจัง มันเป็นอะไรที่อะเมซิ่งแบบพิลึกๆ ดีเหมือนกัน
"โฟร์ทคิดไรอยู่"
"เปล่านี่... เดี๋ยวไปละ พรุ่งนี้เจอกันน้า >_<"
ผมก้มลงไปหอมแก้มของทรายเบาๆ แล้วลุกจากเตียงก่อนจะหยิบเสื้อเชิ้ตสีขาวขึ้นมาใส่ อย่าแปลกใจที่เธอเรียกผมว่าโฟร์ท ฮ่าๆ =0= ความจริงมีอยู่ว่าในรุ่นผมมีคนชื่อเล่นว่าสี่เหมือนกันถึงสามคน T^T ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อล่ะ! เพราะคนจีนส่วนใหญ่ชอบมีลูกไว้ใช้งานเยอะๆ เพื่อนที่ชื่อสี่เหมือนกับผมจึงเป็นลูกคนที่สี่ของบ้านเช่นกัน ฮือๆ V-V พวกเราเลยต้องระดมหัวสมองกันคิดชื่อเล่นของตัวเองไม่ให้ซํ้ากัน ไม่งั้นเรียกชื่อสี่ทีเดียวหันพร้อมกันสามคนมีหวังเซ็งตาย =^=
พวกเราเลยตกลงสละชื่อเล่นที่แท้จริงให้สตรีเพียงหนึ่งเดียวในกลุ่มไป ยัยสี่เลยไม่ต้องมีชื่อใหม่ -_-^ เพื่อนอีกคน ผมเรียกมันว่าไอ้ซ่าส์ เพราะมันชอบทำตัวซาบซ่าด้วยการดื่มแต่เป๊ปซี่ทั้งวันจนกระเพาะทะลุเอานิ้วรอดได้แล้วมั้ง ส่วนผม ตอนแรกถูกเรียกว่าโฟร์ แต่ผมว่ามันให้ความรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเด็กมีปัญหา ต้องคอยตามหาคนตามใจ โฮะๆ พอเหอะ T^T ผมเลยได้ชื่อโฟร์ท (Fourth) ซึ่งแปลว่าลำดับที่สี่ในภาษาอังกฤษมาแทน
"พรุ่งนี้เรียนเช้าเหรอ"
"พรุ่งนี้มีเวรขึ้นวอร์ดอ่ะ อาจารย์จะมาตรวจด้วย ต้องเตรียม รับมือซักหน่อย”
"มาค้างด้วยกันที่นี่ก็สิ้นเรื่อง หอของทรายใกล้มหา’ลัยของโฟร์ทตั้งเยอะ จะได้ไม่ต้องเทียวไปเทียวมาให้เหนื่อย"
จริงด้วย จากตรงนี้เดินไปถึงโรงพยาบาลยังได้เลย แต่ว่า...
"แต่...ฉันไม่มีนโยบายนอนนอกบ้านอ่ะ รับปากเตี่ยไว้แล้วด้วยว่าจะไม่ค้างที่อื่น (โดยไม่จำเป็น และนี่ไม่ใช่เรื่องจำเป็นสักกระติ๊ด) ไว้เจอ กันพรุ่งนี้นะ บ๊ายบายยย (^-^)//"
หลังจากแต่งตัวเสร็จผมรีบโบกมือลาแล้วชะแวบออกจากห้องของทรายทันที พอได้ยินเสียงแปดหลอดของเธอดังตามไล่หลังมา ผมรีบวิ่งตรงดิ่งไปที่ลิฟต์อย่างว่องไว >_<
ทำไม!! ทำไมผมถึงมีสันดานเหมือนพวกเฮียๆ ไม่มีผิด อุตส่าห์แอบคิดว่าตัวเองไม่ใช่คนแบบนั้นแท้ๆ T^T
ทว่าผมกลับเป็นพวกไม่รู้จักพอ คบอยู่กับคนนั้นแต่กลับชอบคนนี้ไปด้วย แย่ว่ะ เฮ้อ ก็ผู้หญิงหน้าตาน่ารักๆ นี่มันล้นโลกจริงๆนะครับ!! จะให้คบใครแบบจริงจังสักคนผมยังทำไม่ได้เลย เรื่องของเรื่องคือเสียดายคนใหม่ๆ ที่เพิ่งถูกใจน่ะ แต่จะว่าไป... ผมไม่ค่อยมุ่งมั่นเรื่องกุ๊กกิ๊กพวกนี้มากนักหรอก แค่ประคองชีวิตให้รอดพ้นจากการเรียนในแต่ละวันยังแทบจะกระอักแล้ว ผมเลยคบสาวๆ ไว้แก้เลี่ยนตำราเรียนแค่สองสามคนพอ (อ่านจนเลี่ยนอ่ะ =_=)
แต่ส่วนใหญ่สาวๆ มักจะขอเลิกไปเองเพราะผมไม่ค่อยมีเวลาให้ ไม่มีปัญญาไปคอยเทกแคร์ เช้าถึงเย็นถึง คุยกันสามเวลา หรือพาไปเที่ยวทุกๆ วันหยุดของโลก =_= จงอย่าไปวุ่นวายกับเรื่องกุ๊กกิ๊กพวกนี้มากครับ เชื่อผม เราต้องระลึกไว้เสมอว่าผู้หญิงเปรียบเป็นสารก่อมะเร็ง เพราะเธออาจทำให้เราเป็นโรคประสาทตายได้นะครับ -_-^^
แต่ไม่ใช่ว่าผมจะทำตัวเสเพลแบบนี้ไปเรื่อยๆ เพราะผมแอบภาวนาอยู่ในใจว่าสักวันจะต้องได้เจอสิ่งสำคัญ... ซึ่งเกิดมาเพื่อผมคนเดียวเท่านั้น เหมือนที่พวกเฮียๆ ทั้งหลายเจอสิ่งสำคัญของตัวเองกันหมดแล้ว และผมจะต้องได้เจอสิ่งนั้นเหมือนกัน...
แต่จะเป็นความรู้สึกแบบ First impression อารมณ์ประมาณว่า เจอปุ๊บ... ปิ๊งปั๊บ... หรือเปล่านะ 0_0
เฮียสามเคยเปรียบผู้หญิงเป็นประติมากรรมปูนปั้นบ้าบออะไรไม่รู้ ฟังดูเลอะเทอะพิกล =_= แต่สำหรับผมแล้วขอเปรียบผู้หญิงเป็นสิ่งหนึ่ง ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์มากที่สุด ความมหัศจรรย์ของสิ่งนั้นทำให้สิ่งมีชีวิตนับล้านๆ บนดาวเคราะห์สีฟ้าแห่งนี้มีชีวิตอยู่ได้ ถ้าไม่มีสิ่งนั้นล่ะก็... คนเราคงม่องเท่งกันยกโลกแล้วล่ะ -_-
นั่นแน่ๆ อย่ามาตอบอะไรน้ำเน่าๆ ว่าสิ่งนั้นคือ 'ความรัก’ นะครับ >_<
หากไม่มีความรัก... ใช่ว่าคุณจะตายภายในสองสามนาทีสักหน่อย
สำหรับผมเลือกที่จะตอบว่า 'อากาศ’ นั่นเพราะว่า...
คนเรา... ขาดอาหารได้มากสุดถึงสองอาทิตย์
คนเรา... ขาดน้ำได้นานสุดอาจจะสามหรือเจ็ดวัน
แต่คนเรา... ขาดอากาศได้ไม่ถึงห้านาที
และเธอคนนั้นจะเป็นอากาศของผม
อากาศ... ที่ผมไม่อยากขาดไปสักนาทีเดียว ^_^
1
I'm Yoye
- ฉันคือโยเย -
ทักๆๆๆ ตึกๆๆๆ
"หยุดนะ!! นังเด็กแสบ"
"อย่าตามฉันมานะ ไอ้พวกบ้า!! T^T"
"จ่ายหนี้มาซะดีๆ"
โอ๊ย น่งหนี้อะไรล่ะ!! เงินจะยาไส้ยังจะไม่มีอยู่แล้ว -O- แฮกๆๆๆ ตอนนี้ฉันกำลังวิ่งเร็วจี๋หนีไอ้นรกแตกสามตัวในชุดสีดำย้อมผมสีขี้ไก่นั่นอย่างไม่คิดชีวิต โอ๊ยยย เหนื่อยสุดๆ
พระเจ้า!! ที่ผ่านมาหนูยังวิ่งไม่พออีกเหรอคะ ถึงได้ส่งพวกมันมาไล่ล่าหนูอีก TOT
"ฉันบอกแล้วไงว่าไม่มีเงิน ไม่มีเงินโว้ยยย!!"
ฉันตะโกนอย่างบ้าคลั่ง แต่ไอ้นรกแตกสามตัวนั่นหาได้ฟังไม่ พวกมันยังวิ่งตามล่าหนี้ไม่กี่บาท (แต่หลายหมื่นอยู่อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย พ่อแม่เลี้ยงดูด้วยเอ็มร้อยแปดสิบเหรอฟะ พวกแกถึงได้เหนื่อยไม่เป็นเนี่ย
"ฮึ่ม จับได้แกเละแน่นังเด็กแสบ!!"
"แฮกๆๆๆ”
"ทำให้พวกฉันต้องเหนื่อยขนาดนี้ แฮกๆๆๆ แกต้องตายสถานเดียว!!
คำขู่ของไอ้นรกแตกสามตัวนั่นช่วยเติมพลังให้ฉันประหนึ่งว่ากระดกกระทิงแดงเข้าไปเจ็ดขวด ฉันจะวิ่ง! วิ่งให้ขาข้างใดข้างหนึ่งมันหลุดไปเลย และฉันจะยังวิ่งต่อ! วิ่งมันทั้งๆ ที่มีขาข้างเดียวนี่แหละ
เดี๋ยวขอคั่นรายการด้วยการแนะนำตัวเองสักนิดแล้วกัน ฉันชื่อโยเย ค่ะ ตอนนี้อายุสิบเก้าปี เป็นลูกพ่อขุนรามฯ กำลังเรียนอยู่ชั้นปีสอง เมื่อห้าปีก่อนครอบครัวฉันประสบอุบัติเหตุรถคว่ำ พ่อและแม่จากไปทั้งคู่จากเหตุการณ์ในครั้งนั้น ตอนนี้เหลือเพียงฉันที่อาศัยอยู่กับลุงแท้ๆ ที่มีอาชีพเป็นนักวาดการ์ตูนไส้แห้ง เฮ้อ แค่ไส้แห้งมันยังไม่พอน่ะสิ เพราะลุงฉัน ดันเป็นพวกผีพนันตั้งแต่แทงหวย ตีไก่ชน ไฮโล รัมมี่ ป็อกเด้ง บลาๆๆๆ ไม่หมดไม่สิ้น -_-^ แล้วที่ไอ้นรกแตกสามตัวนั้นวิ่งไล่ล่าอย่างกับจะฆ่าฉันแบบนี้ นั่นเป็นเพราะลุงมาพูดจาหว่านล้อมขอให้ฉันเป็นผู้คํ้าประกันเงินกู้ดอกเบี้ยมหาโหดให้ T_T แล้วพอลุงไม่มีเงินจ่ายหนี้พร้อมดอกเบี้ยตามกำหนด พวกมันเลยตามมาไถเงินกับฉันแทน ฮือๆ ลำพังแค่ค่าเช่าบ้าน ค่ากินอยู่ยังจะไม่พอใช้อยู่แล้ว มิทราบว่าฉันจะไปหาไอ้เงินงี่เง่าพวกนั้นได้จากที่ไหนฟะ!!
"บอกให้หยุดโว้ยยย!!"
ส่วนไอ้นรกแตกสามตัวนั่นน่าจะเรียนรู้ได้แล้วนะว่าต่อให้ตะโกนจนคอแตก ฉันก็ไม่มีทางหยุดวิ่งหรอก T^T
แฮกๆๆๆ แต่ตอนนี้ฉันชักจะเหนื่อยมากๆ แล้วนะ ขืนยังวิ่งต่อ แข้งขาข้างใดข้างหนึ่งอาจจะหลุดจริงๆ ก็ได้ ว่าแล้วฉันเลยหยุดวิ่งพลางหายใจอย่างเหนื่อยหอบ ขอเวลานอกสิบวินาทีนะ T^T แต่พอเหลียวมองไปทางด้านหลังเลยพบว่าไอ้สามนรกแตกนั้นก็หยุดวิ่งพลางหายใจอย่างเหนื่อยหอบไม่ต่างกัน -O- หน้าของพวกมันมองมาที่ฉันอย่างเคียดแค้น แถมไอ้หัวหน้านรกแตกนั้นยังทำท่าปาดคอหอยแล้วตะโกนเลียงสนั่นสยามเมืองยิ้มว่า
"แกตายแน่นังเด็กแสบ ย้ากกกกกก!!"
"กรี๊ดดดดดด!!"
ฉันเผลอแหกปากแล้วพุ่งตัววิ่งหน้าตั้งต่อทันที ก่อนจะมาเจอกับอาคารก่อสร้างอันทันสมัยแห่งหนึ่งที่มีตัวหนังสือขนาดยักษ์ติดอยู่บนตัว อาคารด้านหน้าว่า 'โรงพยาบาลโศกา’
ฮ้า!! 0_0 โรงพยาบาลงั้นเหรอ ดีเลย ข้างในนั้นแหละคนพลุกพล่านดี ดีกว่าให้ไปวิ่งฝ่าไฟแดง ตัดถนน วกเข้าซอยอย่างเมื่อกี้ตั้งเยอะ ฉันเลยตัดสินใจวิ่งเข้าไปในโรงพยาบาลโศกาแสนเศร้านี่ด้วยความคิดอันเก๋กู้ด หึๆ คราวนี้พวกแกจะต้องเจอกับคนร้อยแปดพันเก้า ทั้งหมอเอย พยาบาลเอย ผู้ป่วยนอนเดี้ยงเอย นั่งเดี้ยงอยู่บนรถเข็นเอย บลาๆๆๆ
โฮะๆๆๆ ฉลาดมากเลยโยเย เธอเลิศที่สุด =0=
ทักๆๆๆ พลั่กๆๆๆ
"โอ๊ยยย ขาฉัน แหกตาดูบ้างสิยะหล่อน!!"
"แขนฉานนน จะฆ่ากันหรือไง!!"
"อ๊ากกก!! หูฉันโว้ย"
"ขอโทษค่า TT^TT"
เอ่อ ไม่น่าเข้ามาในนี้เลย ฉันเกือบทำให้ผู้ป่วยบางรายกลายเป็นอัมพฤกษ์อัมพาตซะแล้ว
"นี่คุณ!! ห้ามวิ่งในโรงพยาบาลนะคะ"
เสียงแผดร้องของพยาบาลคนหนึ่งดังขึ้น แต่ฉันมิอาจหยุดเคลื่อนที่ได้ตอนนี้ พวกมันวิ่งตามหลังฉันอยู่ห่างกันไม่ถึงร้อยเมตรด้วยซํ้า 0_0 ฉันต้องพยายามหาที่ซ่อนสินะ แต่ที่ซ่อนดันโบ๋เบ๋อ่า
"หยุดนะนังตัวแสบ!!"
"ห้ามตะโกนเสียงดัง นี่มันเขตปลอดเสียงนะคะ"
"แกต้องเละแน่ ฉันจะจับตัวแกไปขายที่มาเลย์"
"ฉันบอกให้พวกคุณเลิกตะโกนเสียงดัง ไม่งั้นฉันจะแจ้ง ร.ป.ภ. นะคะ”
"ปัดโธ่โว้ยยย!!"
ฮ่าๆๆๆ -O- สมน้ำหน้าพวกมัน ฉันวิ่งสะเปะสะปะ พยายามวิ่งหาทางออกไปจากชั้นล่างที่เต็มไปด้วยผู้คนในโรงพยาบาลแห่งนี้ และในขณะที่ลิฟต์ตัวหนึ่งกำลังจะปิด ฉันพาร่างอันผอมแห้งของตัวเองพุ่งเข้าลิฟต์ตัวนั้นทันที
ปิ๊ง!! ประตูลิฟต์ปิดสนิทพอดี ฉันไม่ถูกหนีบแต่อย่างใด
"ทำแบบนี้อันตรายนะหนู”
"แฮกๆๆๆ ขอโทษค่ะ”
"จะไปชั้นไหนล่ะ"
ฉันหยุดคิดไปนิดหนึ่ง จะไปชั้นไหนดีหว่า
"แฮกๆๆๆ ชั้นผู้ป่วยค่ะ"
"ชั้นบนนี่เป็นชั้นผู้ป่วยหมดแหละหนู =_=^"
ดูเหมือนว่าพนักงานกดลิฟต์แก่ๆ นี่จะเริ่มมืนํ้าโหหน่อยๆ แล้ว ฉันเลยทำเป็นหัวเราะกลบเกลื่อนพลางหันไปมองแผงรายชื่อชั้นต่างๆ ที่แปะ อยู่ด้านข้าง เร็วเข้า!! เลือกมาสักชั้นหนึ่งเถอะ ก่อนที่ตาแก่นี่จะฆ่าฉันหมกลิฟต์ T^T
"เอ่อ ชั้นสี่ แผนกอายุรกรรมค่ะ"
พนักงานกดลิฟต์แก่ๆ กดปุ่มชั้นสี่ให้แล้วหันมาจ้องหน้าฉันเขม็ง ส่วนฉันได้แต่ยืนหอบพร้อมกับปาดเหงื่อจากการวิ่งหนีความตายมาเมื่อกี้ ตำนานวิ่งมาราธอนของโอลิมปิกจะถูกฉันล้มล้างตั้งแต่บัดนี้ เชื่อสิว่าอีตาฟิดิปปิเดส ที่เป็นทหารชาวกรีกวิ่ง (หนี) ได้ไม่เท่าฉันหรอก = ^=
"นี่หนู... กำลังหนีอะไรมาอยู่ใช่มั้ย"
"เออ..."
"การขโมยเป็นสิ่งผิดกฎหมายนะหนู"
"=O="
อะไรกัน!! ตาแก่ติงต๊องบ๊องบวมเอ๊ย ส่วนไหนของฉันดูเหมือนขโมยกันยะ
"ถึงชั้นสี่แล้วหนู
"เอ่อ หนูไม่ได้เป็นขโมยนะคะ -0-!!"
ฉันรีบปฏิเสธแต่พนักงานกดลิฟต์แก่ๆ นี่กลับผลักฉันออกมา แล้วกดปมปิดประตูลิฟต์ใส่ทันที ฉันยืนลอยคว้างเท้งเต้งอยู่ที่ชั้นสี่ แผนกอายุอากรรมอะไรสักอย่างนี่แล้ว =_= เอาล่ะ! ต้องหาที่ซ่อนตัวสักพัก ยังไงไอ้นรกแตกสามตัวนั่นไม่น่าจะตามหาฉันเจอหรอก พวกมันไม่รู้นี่ว่า ฉันชั้นมาอยู่ชั้นสี่แล้ว ฮี่ๆ
"ตาแก่นั่นบอกว่ายัยเด็กแสบชั้นมาที่ชั้นสี่"
เฮ้ย -0-!! นั่นมันเสียงของไอ้หัวหน้านรกแตก Men in Black นี่หว่า!!
"งั้นแยกย้ายกันหาดีกว่า แกไปดูแถวบันได ส่วนแกไปดูแถวๆ หน้าลิฟต์ ฉันจะหายัยเด็กแสบแถวๆ นี้เอง"
อะไรกันเนี่ย... พนักงานกดลิฟต์แก่ๆ นั่นบอกพวกมันงั้นเรอะ ตายแล้ว!! ตาแก่ขี้ฟ้องนั่น T^T ฉันขอให้ลิฟต์ตัวนั้นค้าง ฮือๆ แม้ ว่าฉันจะไม่ใช่ลูกหลานแท้ๆ แต่อย่างน้อยเขาน่าจะมีน้ำใจต่อเยาวชนตัวเล็กๆ คนนี้บ้างสิ! ฉันแช่งในใจพร้อมกับพยายามทำตัวลีบเล็กที่สุด ฉันต้องหาทางหนี! หนี! ฉันต้องปกปองชีวิตตัวเองให้ได้ เอ๊ะ! ข้างๆ ตัวฉันมีรถเข็นที่เต็มไปด้วยชุดผู้ป่วย...
เอ๊ะ! 0_0 ทำไมฉันไม่ปลอมตัวเป็นผู้ป่วยแล้วแกล้งไปนอนอยู่ที่เตียงสักสิบนาทีล่ะ อย่างน้อยรอให้พวกมันแน่ใจว่าหาฉันไม่เจอจริงๆ แล้วค่อยชิ่งหนีไปทีหลังไม่ดีกว่าเหรอ เก๋กู้ดที่สุด >_<
คิดแผนได้แล้ว ฉันแอบหยิบชุดผู้ป่วยมาหนึ่งชุดแล้วรีบวิ่งไปเปลี่ยนในห้องนํ้าภายในเวลาไม่ถึงห้านาที
เอาล่ะ!! เรียบร้อยแล้ว
"อยู่ไหนวะ ฮึ่มมม!!"
0_0 ฉันหยุดชะงักอยู่ตรงหน้าประตูห้องน้ำทันที
"ถ้าเจอตัวเมื่อไรนะ กรอบบบ แกรบบบ”
ไอ้หัวหน้านรกแตกนั่นบอกพลางหักนิ้วตัวเองไปด้วย เล่นเอาขาฉันสั่นพั่บๆ แบบว่าก้าวไม่ออกเลยทีเดียว นี่ถ้ามันหันหลังกลับมาต้องเห็น ฉันแน่ๆ TOT ทำไงดี... ฉันต้องถูกฆ่าตาย หรือไม่อาจจะถูกจับไปขายที่มาเลย์แน่นอนเลย
"จะเป็นลมหรือเปล่าคะ วันหลังถ้าจะมาเข้าห้องน้ำควรเรียกให้พยาบาลหรือญาติมาเป็นเพื่อนด้วยจะดีกว่านะคะ"
"-0-"
"มาค่ะ ฉันจะพาไปส่งที่เตียง แล้วเตียงของคุณอยู่ห้องไหนคะ"
"-0-"
"^_^?”
"ทะ...ทางนั้นค่ะ"
ฉันบอกเสียงสั่น สาวสวยในชุดกาวน์สีขาวราวกับนางฟ้า (เธอไม่ใช่พยาบาล เพราะไม่เห็นมีหมวกประหลาดๆ บนหัวเลย) เข้ามาประคอง ฉันเชื่อแล้วว่าคนไทยไม่เคยทิ้งกันจริงๆ!! ขณะที่ไอ้หัวหน้านรกแตกหันซ้ายหันขวามองหาฉันยกใหญ่ ฉันพยายามก้มหน้าหลบอยู่ตรงไหล่นางฟ้าใจดีและเดินผ่านมันไปอย่างหวุดหวิด
ฟู่ว~ โล่งอกไปที >_<
"เตียงไหนคะคุณ"
"เออ...”
ฉันมองหาเตียงผู้ป่วยที่ยังว่าง แต่มันเต็มหมดทุกเตียงอ่า แต่ละเตียงมีทั้งคนแก่ คนหนุ่ม คนสาวนอนแผ่สองสลึงกันหมดแล้ว นั่น!! 0_0 ตรงโซนนั้นยังเหลือเตียงว่างนี่นา
"นั่นค่ะ ตรงนั่นค่ะ" ฉันรีบชี้ให้สาวสวยในชุดกาวน์สีขาวดู เธอพยักหน้าแล้วประคองฉันเดินไปที่เตียงตรงโซนนั้น เอ๊ะ!! แอบเห็นไอ้ลูกน้องนรกแตกหมายเลขหนึ่งกับหมายเลขสองเดินหาฉันอย่างหัวเสียในห้องนี้ด้วย ฉันอยู่นี่เฟัยยย ไอ้พวกหน้าโง่ แต่พวกแกไม่ต้องหาฉันเจอนะ แค่อยากบอกให้ฟังเฉยๆ
"เจ๊ปิ๊งไปไหนมาอ่ะ ผมเดินตามหาตั้งนาน -_-"
"อ้าวโฟร์ท!! เพิ่งมาเหรอ รู้มั้ย... วันนี้นายมาขึ้นวอร์ดสายอีกแล้วนะ"
ผู้ชายคนนี้ใส่ชุดกาวน์แบบเดียวกับหมอเลยล่ะ >_< เขาเดินมาทักสาวสวยในชุดแบบเดียวกันที่ประคองฉันเดินมาส่งที่เตียง ก่อนจะหยุดยืนหาวหวอดๆ เหมือนเด็กตัวเล็กๆ อืม เขาน่ะตาตี่ๆ ปากแดง ผิวขาว จมูก
(ติดตามต่อได้ในฉบับเต็ม)