ยิ้มอีกนิดสิ...ที่รัก (Cookie)

ยิ้มอีกนิดสิ...ที่รัก (Cookie)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786160607136
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 179.00 บาท 44.75 บาท
ประหยัด: 134.25 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

บทที่ 1

รอยยิ้มอันตราย –โชโกะ-

 

“โมโตคาว่าคุง”

โมโตคาว่า โชโกะที่กำลังก้มหน้าก้มตาอยู่กับเอกสารเงยหน้าขึ้นตามเสียงเรียก คนส่งเสียงทักคืออิซิมิ เรียวสุเกะ หัวหน้างานโดยตรงของเธอ เพียงแค่เห็นเขาหัวใจเธอก็เต้นระทึก

“คะ” หญิงสาวตอบกลับอย่างไร้อารมณ์ดังเช่นปกติราวกับไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นอะไรเลยแม้แต่น้อย

“ทาคิโนะชวนไปกินข้าวเย็นแน่ะ เธอจะไปมั้ย”

ความยินดีต่อคำชวนของเรียวสุเกะเบ่งบานขึ้นในใจ โชโกะตอบรับอย่างเยือกเย็นในทันที “ไปสิคะ”

“สำเร็จ!” ทาคิโนะ คินจิที่ยืนอยู่ข้างเรียวสุเกะร้องตะโกนพร้อมกระโดดจนตัวลอย

ด้วยความที่จดจ่ออยู่กับงานทำให้โชโกะไม่ทันสังเกต แต่ทาคิโนะคงจะบอกเรียวสุเกะเอาไว้แล่วว่าจะชวนไปกินข้าวด้วยกันสามคนหลังเลิกงาน

ทาคิโนะเป็นลูกน้องของเรียวสุเกะเช่นเดียวกับโชโกะและเป็นรุ่นพี่ของเธอหนึ่งปี ไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร แต่ออกจะเอะอะมะเทิ่งไปหน่อย แถมไม่ค่อยใส่ใจหน้าที่การงาน เขาสนิทสนมคุ้นเคยกับเรียวสุเกะดี แต่การต้องกินข้าวตามลำพังกับคนช่างจ้ออย่างเขาคงทำให้เรียวสุเกะเหนื่อยหน่ายอยู่ไม่น้อย ตอนที่ทาคิโนะมาชวนกินข้าว เรียวสุเกะจึงมักจะมาชวนเธอไปด้วยเสมอ

โชโกะเป็นคนไม่ดื่มเหล้า ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลเดียวที่ทำให้เธอถูกชวนไปด้วย ทั้งเรียวสุเกะทั้งทาคิโนะต่างก็ไม่ดื่มด้วยกันทั้งคู่ แม้ท่าทางภายนอกจะดูเหมือนพวกขี้เหล่า แต่ร่างกายของทาคิโนะกลับปฏิเสธเหล้าโดยสิ้นเชิง ทำให้เขาดื่มไม่ได้เลยแม้แต่แก้วเดียว ส่วนเรียวสุเกะดูเหมือนจะดื่มได้ในระดับพอสังสรรค์ แต่ออกจะไม่ค่อยชอบดื่มเท่าไรนัก

สำหรับโชโกะที่ค่อนข้างจะมีใจให้เรียวสุเกะเป็นทุนอยู่แล้ว เธอย่อมดีใจเมื่อถูกชวนไปกินข้าวด้วยกันอย่างนี้บ่อยๆ ถึงจะรำคาญบ้างที่ทาคิโนะมักมารวบกวนเรื่องงานบ่อยครั้ง แต่แค่เรื่องนี้เท่านั้นที่เธอรู้สึกอยากขอบคุณเขาจริงๆ

คืนนี้เธอจะได้ไปกินข้าวกับเรียวสุเกะอีกแล้ว โชโกะคิดอย่างยินดี ขณะลงมือจัดการกับงานที่ค้างอยู่ต่อไป

 

“อาหารญี่ปุ่นเหรอ แต่ผมอยากกินอะไรที่มันจัดจ้านกว่านี้นี่นา”

ทาคิโนะก้มลงมองมือตัวเองที่ออกเป็นรูปกรรไกรพลางกล่างอย่างไม่ค่อยยินยอมนัก พวกเขากำลังตกลงกันว่าจะกินอะไรดีด้วยการเป่ายิงฉุบ และโชโกะเป็นฝ่ายชนะ เมนูคืนนี้จึงเป็นอาหารญี่ปุ่น

“แพ้แล้วก็ต้องยอมรับสิ แล้วถ้าเอาตามที่นายชอบคงได้แต่กินอาหารรสจัดทุกครั้งแน่”

พอถูกดุเข้าให้ทาคิโนะก็งอนทำปากยื่น เห็นผู้ใหญ่ตัวโตทำหน้ากระเง้ากระงอกอย่างนั้นทำเอาโชโกะต้องรีบเกร็งแก้มเอาไว้ทันทีก่อนจะหลุดหัวเราะออกมา

ต่อหน้าเรียวสุเกะเธอจะยิ้มไม่ได้เด็ดขาด ขืนยิ้มออกไปล่ะก็ เขาจะต้องรู้สึกไม่ดีแน่ๆ และถ้าเป็นอย่างนั้นเธอคงจะมีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ได้

ใบหน้าตอนยิ้มของโชโกะคงแปลกประหลาดน่าดู ถึงได้ทำให้คนอื่นพานรู้สึกไม่ดีไปด้วยเวลาเห็นเธอยิ้ม

‘โชโกะจังเนี่ย พอยิ้มแล้วหน้าตาน่ากลัวจัง ใครๆ ก็บอกกันว่าเห็นแล้วรู้สึกสยอง...เพราะงั้นเธออย่ายิ้มเลยจะดีกว่านะ’

สมัยประถมเพื่อนสนิทคนหนึ่งเคยบอกความจริงกับเธออย่างตรงไปตรงมา คิดถึงเรื่องในตอนนั้นขึนมาทีไรในใจก็เจ๊บจี๊ดทุกครั้ง

พวกเพื่อนๆ ที่เตือนว่าอย่ายิ้มเลยจะดีกว่าคงทำไปเพราะกังวลแทนโชโกะนั่นเอง แต่....ความจริงข้อนั้นก็ทำให้เธออดช็อกไม่ได้

นับแต่นั้นมาเธอก็ไม่ยอมยิ้มอีกเลย การพยายามไม่แสดงอารมณ์ใดๆ บนสีหน้าเป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายที่สุด ผลสุดท้ายเธอก็เลยค่อยๆ กลายเป็นคนหน้าตาเย็นชาไป พ่อแม่ของเธอพากันขมวดคิ้วเมื่อเห็นว่าลูกสาวไม่ยอมยิ้ม ทั้งคอยบอกคอยย้ำให้เธอยิ้มมากว่านี้ แต่หลังจากขึ้นชั้นมัธยมปลาย พวกท่านคงจะชินชากับโชโกะผู้ไร้อารมณ์เสียแล้วจึงเลิกบ่นเลิกว่ากันไปเอง

โชโกะผู้ไม่เคยเปลี่ยนสีหน้าเริ่มห่างไกลจากเด็กผู้หญิงคนอื่นๆ เข้าไปทุกที แต่ถึงจะเหงาอยู่บ้างที่ไม่มีเพื่อนสนิท เธอก็ยังรู้สึกสบายใจกว่าถ้าจะต้องเป็นที่รังเกียจ

ปีนี้เป็นปีที่สองแล้วนับตั้งแต่โชโกะเข้าทำงานในบริษัทนี้ แต่การมีเพื่อนสนิทยังเป็นยิ่งกว่าความฝัน แถมเธอยังถูกเกลียดเข้าให้เสียด้วยซ้ำ มีเหมือนกันที่ถูกนินทาลับหลัง โชโกะที่ไม่เคยมีรอยยิ้มบนใบหน้าเมื่อดูจากภายนอกแล้วคงจะดูน่ากลัวและห่างเหินมากทีเดียว

ถึงอย่างนั้น...ก็ยังดีกว่าโดนรังเกียจ...ล่ะมั้ง

น่าขอบคุณที่พวกผู้ชายในบริษัทแค่คิดว่าเธอแปลกเฉยๆ พวกเขาคิดว่าถ้าโชโกะยิ้มบ้างคงจะยิ้มสวย แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรกับเรื่องที่เธอไม่ยิ้ม ถึงจะทำหน้าตายไม่แสดงอารมณ์ก็ไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวอะไร ซึ่งบางทีนี่อาจเป็นเพราะเรียวสุเกะกับทาคิโนะก็ได้ พวกนั้นคงเห็นทั้งสองปฏิบัติต่อเธอเป็นปกติ จึงเข้ามาพูดคุยด้วยโดยไม่รู้สึกหวาดหวั่น

ถึงจะตัดใจไปแล้วเรื่องเพื่อนผู้หญิง แต่เอาเข้าจริงเธอก็ยังอดหวังไม่ได้ ทุกวันนี้แม้จะมีตัวตนอยู่ท่ามกลางเหล่าพนักงานสาวๆ แต่พวกเธอเหล่านั้นเปลือกนอกเหมือนไม่มีอะไร แต่กลับพยายามหลีกลี้ให้ห่างจากโชโกะโดดเดี่ยวอย่างสมบูรณ์แบบไปเรียบร้อยแล้ว

 

อาหารมื้อนี้อร่อยจริงๆ กระทั่งทาคิโนะที่ตอนแรกทำท่าว่าจะไม่เอาด้วยก็ยังกินไปคุยไปอย่างออกรส

“ทาคิโนะ กินเงียบๆ หน่อยไม่ได้รึไง มันรบกวนคนอื่นเขานะ”

“เอ๋? ผมไม่ได้เอะอะขนาดจะรบกวนชาวบ้านเสียหน่อย”

“ไม่รบกวน? ไอ้ที่พ่นเป็นปืนกลเนี่ยนะไม่รบกวน ช่างกล้าพูด”

นั่งมองเรียวสุเกะกับทาคิโนะต่อปากต่อคำกันสนุกสนานไปพลาง โชโกะก็เผลอยิ้มออกมา

จังหวะนั้นเรียวสุเกะหันมาทางเธอพอดี ทำเอาหุบยิ้มแทบไม่ทัน

ชายหนุ่มคลี่ยิ้มอย่างนุ่มนวล รอยยิ้มนั้นทิ่มแทงหัวใจจนโชโกะถึงกับลมหายใจสะดุด

หัวหน้าของเธอควรจะรู้จักตัวเองให้มากกว่านี้หน่อย เขาทำเหมือนไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองมีรอยยิ้มทำลายล้างขนาดไหน ซึ่งมันตรงกันข้ามกับโชโกะโดยสิ้นเชิง รอยยิ้มของเรียวสุเกะมีเสน่ห์ล้นเหลือขนาดที่ทำให้หัวใจของหญิงสาวไม่ว่าคนใดก็ตามอ่อนยวบลงได้ทันที

อาจจะเพราะเป็นคนมีปมกับเรื่องรอยยิ้มล่ะมั้ง โชโกะถึงหลงใหลได้ปลื้มกับเรียวสุเกะผู้มีรอยยิ้มเปี่ยมเสน่ห์อย่างไม่อาจต้านทานได้

 

“ขอบคุณนะคะที่กรุณามาส่ง หัวหน้าอิซิมิ”

หญิงสาวโค้งคำนับเมื่อมาถึงหน้าอพาร์ตเมนต์ของเธอแล้ว

“อะไรกัน อย่าใส่ใจไปเลยน่า โมโตคาว่า”

ทาคิโนะที่นั่งอยู่ข้างคนขับในรถของเรียวสุเกะทำเป็นหน้าใหญ่ โบกไม้โบกมือไปมา

“เขาพูดกับฉัน นายจะตอบทำไม” เรียวสุเกะที่นั่งตรงที่นั่งคนขับถลึงตามองทาคิโนะพลางบ่น โชโกะเองก็เห็นด้วย แต่ดูเหมือนทาคิโนะจะไม่ได้สำนึกเลยแม้แต่น้อย

คุณทาคิโนะนี่เป็นคนที่แย่จริงๆ เลย

คนที่ขับรถมาทำงานมีเพียงเรียวสุเกะเท่านั้น ทาคิโนะไม่มีรถ ส่วนโชโกะไม่มีกระทั่งใบขับขี่เสียด้วยซ้ำ ตอนไปกินข้าวด้วยกันสามคนแน่นอนว่าต้องอาศัยรถของคนเป็นหัวหน้า สำหรับเธอแล้วรู้สึกขอบคุณที่เขามาส่งจนถึงบ้านทุกครั้งหลังไปกินข้าวด้วยกัน แต่ทาคิโนะนี่สิ ดูเหมือนจะไม่ได้รู้สึกรู้สมอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว

“โมโตคาว่าคุง ข้างนอกมันหนาว รีบกลับเข้าบ้านเถอะ เดี๋ยวจะเป็นหวัด”

จริงทีเดียว นี่ก็ย่างเข้าเดือนกุมภาพันธ์แล้ว อากาศภายนอกหนาวจับจิต แต่ความเอาใจใส่อย่างอ่อนโยนของเรียวสุเกะช่วยปัดเป่าความหนาวเหล่านั้นไปได้

หญิงสาวรับคำว่า “ค่ะ” ออกไป แต่ก็ยืนรอส่งจนรถของเรียวสุเกะลับตาไปอยู่ดี ทันทีที่รถของชายหนุ่มเลือนหายไปจากสายตา ความหนาวก็เริ่มเข้าครอบคลุม เธอจึงรีบกลับเข้าห้องไป

ได้ใช้เวลาร่วมกับเรียวสุเกะ วันนี้สุดแสนจะมีความสุขจริงๆ อาหารก็อร่อย

ด้วยความที่อาศัยอยู่ตัวคนเดียวในอพาร์ตเมนต์ทำให้โชโกะต้องกินข้าวคนเดียวอย่างหงอยเหงา ความจริงเธอก็อยากจะนั่งมองรอยยิ้มอ่อนโยนของเรียวสุเกะไปกินข้าวไปทุกวัน แต่ความคิดอย่างนั้นออกจะฝันเฟื่องเกินไปหน่อย พวกพนักงานสาวๆ ในบริษัทต่างก็หวังอยากกินข้าวกับเรียวสุเกะกันทั้งนั้น แม้เพียงครั้งเดียวก็ยังดี

คนที่หลงเสน่ห์รอยยิ้มของเรียวสุเกะไม่ได้มีแค่โชโกะ ข้อพิสูจน์คือช็อกโกแลตวันวาเลนไทน์ที่เจ้าตัวได้รับมาเมื่อปีที่แล้วตั้งสามสิบกล่องนั่น ที่รู้เพราะคนเขียนรายชื่อว่ากล่องไหนได้มาจากใครบ้างก็คือโชโกะนั่นเอง เธอจึงจำได้ไม่มีลืม และบางทีปีนี้เธอก็คงต้องรับหน้าที่นั้นอีก

“เฮ้อ”

หลังถอนหายใจเฮือกใหญ่ โชโกะทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาสีชมพูอ่อนที่เพิ่งซื้อมาเมื่อเร็วๆ นี้เพราะถูกใจ เธอชอบข้าวของน่ารักๆ อะไรอย่างนี้มาก แต่ถ้าพวกพนักงานหญิงในบริษัทรู้เข้าคงหัวเราะเยาะว่ามันไม่เหมาะกับเธอแน่ หรือบางทีเรียวสุเกะก็อาจจะคิดว่ามันไม่เข้ากับเธอด้วยเหมือนกัน คิดแล้วหญิงสาวก็ถอนหายใจยาวออกมาอีกคำรบ

 

หลังจากอบอุ่นขึ้นแล้วด้วยการแช่น้ำร้อน หญิงสาวก็รีบมุดเข้าไปในเตียงนอนทันที

“ราตรีสวัสดิ์ค่ะ หัวหน้าอิซิมิ” เสียงพึมพำบอกลาเข้านอนดังขึ้นในความมืดซึ่งกลายเป็นกิจวัตรประจำวันของเธอไปแล้ว

พอหลับตาลง ใบหน้าแย้มยิ้มอย่างอ่อนโยนของเรียวสุเกะพลันผุดขึ้นมาในห้วงคิด

ถ้าต่อจากนี้ไปหัวหน้าอิซิมิจะไม่มีคนรักเลยก็คงดีสินะ เพราะถ้าเขามีคนรัก ถ้าเขาแต่งงานไปล่ะก็...

คิดถึงตรงนี้ร่างกายของเธอก็สั่นสะท้าน ถ้ามันเป็นเช่นนั้นเธอคงทรมานเหลือเกินที่จะไม่ได้อยู่ข้างๆ เขาอีกต่อไป

หากจะลาออกจากบริษัทคงไม่ง่ายนัก หลังจากนี้ไปเธอคงอยู่ตัวคนเดียวไปตลอดชีวิต ซึ่งก็ต้องทำงานเท่านั้นถึงจะมีชีวิตอยู่รอดได้ และถึงจะลาออกจากบริษัทไปตอนนี้ แต่การมองหาบริษัทใหม่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

เมื่อตอนนั้นมาถึง...เธอขอย้ายไปแผนกอื่นดีมั้ยนะ

ชื่อของคาคินุมะ ยาสุฮิโระโผล่แวบขึ้นมาในสมอง คาคินุมะกับเรียวสุเกะอยู่รุ่นเดียวกัน เขาเป็นหัวหน้าแผนกอื่นและดูเหมือนจะพอใจการทำงานของโชโกะถึงขนาดออกปานชวนให้มาทำงานในแผนกของตัวเอง แน่ล่ะว่าตอนนี้เธอยังไม่คิดไปถึงขั้นนั้น แต่ถ้า...

ถ้าเรียวสุเกะแต่งงาน ไม่สิ ถ้าเรียวสุเกะมีคนรักแล้ว เธออาจจะ

(ติดตามอ่านต่อได้ในฉบับเต็ม)


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (76 รายการ)

www.batorastore.com © 2024