Angel and Me รักร้ายละลายใจยัยนางฟ้าตัวร้าย (ชุด Angel and Demon)
ประหยัด: 104.25 บาท ( 75.00% )
มีสินค้ามือสองอยู่จำนวน : 7 รายการราคา 50.00 บาท - 100.00 บาท ซื้อสินค้ามือสอง
Quick View
เนื้อหาบางส่วน
บทนำ
Cause she’s so high
High above me, she’s lovely
She’s so high
Like Cleopatra, Joan of Arc, or Aphrodite
She’s so high
High above me…
Lakeside Academy คือโรงเรียนนานาชาติอันดับหนึ่งของประเทศที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นโรงเรียนที่มีนักเรียนคุณภาพเลิศที่สุด นอกจากนั้นแล้วนักเรียนที่จะเข้าศึกษาที่นี่ไม่ใช่ว่าใครมีเงินก็จะเข้าได้ แต่ต้องเป็นลูกหลานของบรรดานักเรียนรุ่นเก่าแก่เท่านั้น เพราะฉะนั้นนักเรียนโรงเรียนนี้เกือบทุกคนจึงภูมิใจในความเป็นนักเรียนของที่นี่เอามากๆ
Grand Valley High School คือโรงเรียนเอกชนอันดับหนึ่งที่ถูกยกย่องว่า...รวบรวมเด็กเหลือขอได้มากที่สุดของประเทศ! การที่จะเข้าศึกษาที่นี่ได้นั้นง่ายยิ่งกว่าปอกกล้วยซะอีก นักเรียนส่วนมากของที่นี่เป็นนักเรียนซ้ำชั้นแล้วซ้ำชั้นอีก หรือถูกไล่ออกกลางภาคเพราะก่อคดีร้ายแรงที่โรงเรียนเก่า บางคนอาจจะพูดว่าที่นี่คือโรงเรียนที่ให้โอกาสแก่เด็กๆ แต่ในอีกแง่ก็นับเป็นโรงเรียนที่รวบรวมความสิ้นหวังของอนาคตของชาติไว้เหมือนกัน!
เรื่องน่าตลกก็คือทั้งสองโรงเรียนดันตั้งอยู่ตรงข้ามกันโดยมีถนนสี่เลนสายเล็กๆ คั่นกลางเท่านั้น และที่น่าตลกมากไปกว่านั้นก็คือเจ้าของโรงเรียนสองโรงเรียนนี้...เป็นคนเดียวกัน! และแม้จะมีครูใหญ่คนเดียวกัน แต่ความเหม็นขี้หน้าระหว่างสองสถาบันก็มีแต่จะเพิ่มมากขึ้นและมากขึ้นไปทุกวัน เพราะเมื่อไหร่ที่ใครก็ตามเข้าศึกษาที่สถาบันใดสถาบันหนึ่ง ก็จะต้องเป็นศัตรูกับสถาบันตรงกันข้ามราวกับเป็นข้อบังคับสำหรับทุกคน
และดูเหมือนว่าความเกลียดชังตามธรรมชาตินี้จะไม่มีข้อยกเว้นสำหรับใคร...
หรือจริงๆ แล้ว...จะมีนะ...?
ณ Grand Valley High School
วันเปิดเทอมปีการศึกษาใหม่อาจจะเป็นวันที่หลายๆ คนรอคอยมานานแสนนาน หรือบางคนอาจจะเกลียดเช้าวันใหม่ที่ต้องตื่นแต่เช้ามาแต่งตัวไปโรงเรียน และกลับเข้าสู่วงจรเดิมๆ ของเด็กมัธยม แต่เชื่อเถอะ...ไม่มีใครจะเกลียดวันเปิดเทอมวันนี้มากไปกว่าเธอคนนี้หรอก...
และเธอคนที่เรากำลังพูดถึงก็นั่งแอบอยู่บนรถตราสามง่ามคนสีดำสนิท เฮเซิลนั่งหลงตรงด้วยความกังวลทั้งหมดทั้งมวลกับวันแรกที่เธอจะต้องเป็นตัวแทนของสถาบัน Lakeside Academy มาเรียนที่ Grand Valley High School ถึงหนึ่งเทอมเต็มๆ! และสาบานได้ว่าเธอไม่ได้สมัครใจเลยเพีงสักนิดเดียว ตรงกันข้าม เธอไม่อยากจะมาด้วยซ้ำ!
...เฮอะ แน่นอนล่ะ ใครจะไปอยากมา
นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มไล่สายตาผ่านกระจกติดฟิล์มทึบเพื่อมองโรงเรียนใหม่ของเธอนับตั้งแต่นี้ไป นักเรียนที่ไม่ได้ใส่ยูนิฟอร์มวิ่งพล่านตรงทางเข้าโรงเรียน และอี๋...นั่นมีคนกำลังปาขยะใส่กันอย่างนั้นเหรอ!
...ฉันต้องอยู่ไม่ได้แน่ๆ นี่มันป่าเถื่อนเกินไปแล้วนะ!
“คุณหนูจะลงหรือเปล่าครับ” คนขับรถถามสีหน้างงๆ หลังจากเห็นคุณหนูนั่งประสาทหลอนคนเดียวมาสักพักแล้ว เฮเซิลพยักหน้านิ่งๆ แม้ว่าใจจะต่อต้านไม่อยากก้าวลงจากรถไปแม้แต่เพียงก้าวเดียว ผมสีน้ำตาลอ่อนตรงยาวสลวยมัดตึงรวบเก็บอย่างมีระเบียบ ดวงตาเฉี่ยวคมฉายแววนิสัยยโสที่ไม่เป็นสองรองใครกวาดตามองพวกนักเรียนของแกรนด์วัลเลย์อีกครั้ง และเธอก็ถอนหายใจออกมา...
...เพื่อถ้วยเกียรติยศ ท่องเอาไว้เอซ ความอัปยศที่จะเกิดขึ้นต่อไปนี้ก็เพื่อถ้วยเกียรติยศเท่านั้น
“มารับตอนบ่ายสามนะ” เธอบอกกับคนขับรถด้วยเสียงเด็ดขาด “ห้ามสายเลยแม้แต่นาทีเดียว!” เพราะเธอไม่อยากจะอยู่ในโรงเรียนเฮงซวยนี่มากกว่าความจำเป็นแม้แต่วินาทีเดียว!
“ทราบแล้วครับคุณหนู” หลังจากที่คนขับรับปากแล้ว เธอก็หยิบกระเป๋าหนังสีน้ำตาลเข้มราคาแพงมากำไว้แน่น ราวกับว่ามันจะช่วยปกป้องเธอจากความอัปยศทั้งหลายแหล่ที่กำลังจะต้องเผชิญได้ แต่อย่างที่เราๆ รู้กันว่า...ไม่มีอะไรจะช่วยเธอได้หรอก
ประตูรถเบนซ์คันสีดำสนิทเปิดออกมา สายตาของนักเรียนแกรนด์วัลเลย์ที่กำลังเดินเข้าโรงเรียนก็หันมามองเธอเป็นตาเดียวกัน เหมือนกับห้วงเวลาหยุดหมุนไปชั่วขณะ สายตาของทุกคนมองเธอตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า (ซึ่งแน่นอนว่าปลายเท้าของเธอยังสะอาดกว่าศีรษะของคนบางคนแถวนี้ซะอีก) เครื่องแบบสีขาวตัดขอบน้ำเงินเข้มของ Lakeside Academy ทำให้เธอดูโดดเด่นกว่านักเรียนทั่วไปที่ไม่ได้ใส่เครื่องแบบ เฮเซิลตีหน้านิ่งและสะบัดผมหางม้าของตัวเองให้เข้าที่ ใบหน้าสวยเชิดขึ้นเล็กน้อยก่อนจะก้าวเท้าเดินเข้าประตูแห่งความอัปยศ
...ฉันจะต้องอยู่รอด! คนพวกนี้ทำอะไรฉันไม่ได้หรอก!
นักเรียนชายพอเห็นผู้หญิงสวยแต่ท่าทางตลกๆ คนนี้ก็กระทุ้งศอกสะกิดกันราวกับมองหาเรื่องสนุกในวันเปิดเทอม เฮเซิลปรายตามองพวกนักเรียนทึ่มๆ ที่แต่งตัวหมือนนักร้องฮิพฮ็อพ (แน่นอนว่าพวกเขาเห่ยมาก) และชักสีหน้ารังเกียจ
...วิบัติ! แฟชั่นมันวิบัติขนาดนี้แล้วเหรอไง! นายพวกนี้ควรจะปรึกษาเอ็ดดี้ของฉันด่วนๆ เลย!
เธอคิดไปถึงสไตลิสต์ส่วนตัวของเธอ ถ้าเกิดเอ็ดดี้ได้มาเจอนาย พวกนี้จะต้องเป็นลมสลบไม่มีฟื้นแน่ๆ เพราะพวกเขาแต่งตัวได้... โอ๊ย พอเถอะ! เธอมาเรียนหนังสือ ไม่ได้มามองหาความน่าอดสูของใคร (แม้มันจะเยอะมากๆ จนเธอเลี่ยงไม่มองไม่ได้ก็ตาม)
เฮเซิลยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูและพบว่าใกล้เวลาจะเข้าเรียนแล้ว แต่...ตะ...ตึกเรียนของเธออยู่ไหนล่ะเนี่ย เธอหยุดยืนอยู่ตรงหน้าป้ายบอกทางที่ชี้สลับกันมั่วไปหมด เธอเห็นว่าน็อตของป้ายนั่นหลวมมากพอที่จะบอกได้ว่าป้ายนี้ถูกหมุนไปมาบ่อยแค่ไหน และมีถ้อยคำหยาบคายและกวนประสาทมากมายเขียนทับอยู่บนป้าย เอาล่ะ ในเมื่อป้ายในโรงเรียนยังพึ่งไม่ได้ เธอจะพึ่งอะไรได้ กูเกิลเอิร์ธเหรอยังไง!!
เอ๊ะ ถ้าพึ่งอะไรไม่ได้ ก้พึ่งใครสักคนก็ได้นี่เนอะ...
หลังจากคิดได้แบบนั้นเธอก็เริ่มมองหาความช่วยเหลือ เธอมองขวาก็พบกับกลุ่มนักกีฬาตัวโตขนดก ส่งเสียงเอะอะอย่างไร้มารยาท และนั่นก็กลุ่มยัยพวกสาวพลาสติกที่ลงรองพื้นหน้าหนาพอๆ กับส้นตึกที่พวกเธอใส่อยู่ อ่า...ข้างหน้ามีพวกเด็กเนิร์ดกลุ่มใหญ่ที่เกาะกลุ่มกันเหมือนพวก...ชนเผ่าคนประหลาดจากต่างดาว และที่กำลังเดินผ่านเธอคือพวกกลุ่ม...ควรจะเรียกว่าอะไรดีนะ เป็นพวกกลุ่มนอกโลกไร้อารยธรรม เพราะการแต่งตัวของพวกเขาบ่งบอกได้ว่าไม่ได้อยู่บนดาวดวงเดียวกับเธอแน่ๆ
...หรือเธอควรจะโทรไปขอความช่วยเหลือจากฟินิกซ์
ไม่ๆ เขาจะเป็นคนสุดท้ายที่เธอจะขอความช่วยเหลือ เพราะหมอนั่นมันแล้งน้ำใจที่สุด!
เฮเซิลยืนหน้าเชิดมองซ้ายมองขวาราวกับราชนิกุลมองหาข้าราชบริพาร แต่เท่าที่เธอเห็นตอนนี้กลับมีแต่พวกทาสในเรือนเบี้ยที่เหมาะจะทำงานกรรมกรมากกว่าใช้สมอ... เอ๊ะ! เธอเห็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ถักผมเปียยืนถือกระป๋องโค้กและตำราหนาๆ อยู่ในมือ
...เฮ้อ! ในที่สุดก็เจอคนมีสมองสักที!
เธอถอนหายใจออกมาอย่างดีใจและภาวนาขอบคุณพระเจ้าไปด้วย รีบก้าวเท้าเข้าไปหาเด็กผู้หญิงคนนั้นก่อนจะยิ้มกว้างให้ (ซึ่งแน่นอนว่ามันเป็นรอยยิ้มตามมารยาทที่ทางบ้านจึบฝึกมาตั้งแต่ยังพูดไม่ได้ด้วยซ้ำ) แต่เหมือนเด็กผู้หญิงคนนั้นจะไม่ได้สังเกตเห็นเธอ เฮเซิลเลยเอื้อมมือไปสะกิดที่ไหล่ของเธอคนนั้นเบาๆ ก่อนจะลอบเช็ดกับสาบเสื้อตัวเอง
...อย่าหาว่าเธอดัดจริตอะไรเลย แต่เสื้อของเด็กคนนี้จะซักสะอาดรึเปล่าก็ไม่รู้ และชีวิตเธอก็มีค่ามากกว่าที่จะมายอมเสี่ยงกับผงซักฟอกตกค้าง ซึ่ง...โอเค ไม่แก้ตัวแล้ว เธอมันดัดจริต จบ!
“สวัสดี” เฮเซิลยิ้มหวานให้ เด็กผู้หญิงคนนั้นหันมามองเธอด้วยแววตางุนงง ก่อนที่แววตาจะเปลี่ยนแปลงไปเป็นตะลึงงันแทน
“ฉันเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนฝั่งเจริญแล้ว เอ่อ...ฉันหมายถึงมาจากเลกไซด์น่ะ เธอก็คงจะดูออกจากเครื่องแบบที่สั่งตัดเย็บด้วยช่างมือหนึ่งและผ้าที่สั่งมาจากอิตาลีนี่ใช่มั้ย เอ่อ...โอเค เธอคงไม่เข้าใจว่าผ้าจากอิตาลีคืออะไร เราข้ามประเด็นนั้นไปเลยดีมั้ย”
“...” เด็กผู้หญิงคนนั้นไม่ตอบ แต่กลับมองเธอด้วยแววตาตะลึงงัน เฮเซิลยิ้มเก้อๆ อย่างเขินอายเล็กน้อย จริงๆ แล้วเธอเองก็พอจะชินชากับสายตาแบบนี้ เพราะสำหรับนักเรียนที่เลกไซด์ เธอเปรียบเหมือนเชื้อพระวงศ์ในรั้วโรงเรียนเลยทีเดียว เฮเซิลคิดว่าเด็กผู้หญิงคนนี้มองเธอด้วยสายตาแปลกๆ เพราะแอบชื่นชมเธออยู่ด้วยเหมือนกัน
“ฉันจะยอมเป็นเพื่อนกับเธอก็ได้นะ ถ้าเธอบอกฉันได้ว่าตึกหกอยู่ไหน คือฉันต้องไป...”
“ธะ...ธะ...เธอมันสวย!!” อยู่ๆ เด็กผู้หญิงคนนั้นก็ตะโกนตะกุกตะกักและมองเฮเซิลด้วยแววตาตื่นตะลึง เฮเซิลผงะถอยหลังก่อนจะยิ้มแห้งๆ
“จริงๆ ฉันก็รู้นะว่าตัวเองหน้าตาไม่ได้แย่เท่าไหร่ แต่ถ้าเธอบอกว่าสวยก็...”
“นังผู้หญิงสวย! นังพวกขยะสังคม!”
“ไม่ทราบว่าพูดว่าอะไรนะ”
“เขยิบออกไปไกลๆ ฉัน นังบ้า!!” เด็กผู้หญิงคนนั้นตะโกนเสียงดังจนคนรอบๆ ข้างหันมามองกันหมด เฮเซิลมองซ้ายมองขวาอย่างรู้สึกอับอาย อยู่ดีๆ เธอก็ถูกตะคอกด่าสาดเสียเทเสียใส่แบบนี้ มันน่าอายมากพอที่จะเอาหัวมุดลงดินได้เลยนะ...
“บอกให้ออกห่างๆ ฉันไง นังบ้า!”
ซ่า!
และหลังจากที่ถูกเอาโค้กสาดใส่ตัว เธอก็ตัดสินใจแล้วว่าบางทีเธอควรจะแกล้งตายไปเลยก็ดี จะได้ไม่ต้องทนรับความอับอายที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ขนาดนี้
เครื่องแบบสีขาวของเธอเลอะไปด้วยคราบน้ำโค้กสีน้ำตาลเข้ม...
“นี่ฉันยังไม่ได้...”
พลั่ก!
“กรี๊ดดดดดด!!”
“โอ๊ย!!!!!” เฮเซิลร้องเสียงดังเมื่อถูกยัยเด็กผมเปียเสียสติผลักล้มลง สะโพกของเธอกระแทกกับพื้นเต็มแรง กระเป๋ากระเด็นออกไปไกล เสียงหัวเราะครืนใหญ่ดังขึ้นราวกับมีใครเพิ่งแสดงตลกให้พวกเขาดู และใช่ เฮเซิลรู้ตัวดีว่าเธอน่ะแหละตัวตลกคนนั้น...
ออด!!
เสียงออดของโรงเรียนดังขึ้น นักเรียนทุกคนต่างแยกย้ายกันเดินไปที่ตึกเรียนของตัวเอง ตัวตลกนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มยังนั่งจุมปุ๊กอยู่กับพื้นอย่างตะลึงงัน เธอไม่รู้ว่าควรจะทำตัวยังไงดี เธอควรจะลุกขึ้นทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น หรือควรจะนั่งเก็บกดความอับอายเอาไว้ หรือจะเลือกตัวเลือกเดิม...แกล้งตายไปเลย?
ทุกครั้งที่มีคนเดินผ่าน เสียงหัวเราะคิกคักจะดังขึ้น เธอได้แต่ก้มหน้าลง มองเสื้อนักเรียนที่เปรอะคราบสกปรกด้วยความรู้สึกงุนงง เธอไปทำอะไรยัยเด็กผมเปียนั่นถึงได้อยู่ดีๆ ก็กรี๊ดใส่หน้า ทำไมต้องสาดโค้กใส่ และทำไมต้องผลักลงกับพื้น หรือจริงๆ แล้วที่นี่ไม่ได้เป็นโรงเรียนที่รวมคนป่าเถื่อนไว้ แต่ยังรวมไปถึงคนบ้าด้วยกันฮะ!
บรืนนนนนนนน!!!
เสียงบิดคันเร่งแรงๆ ของมอเตอร์ไซค์คันสีดำสนิทดังก้องถนนสี่เลนหน้าทั้งสองโรงเรียน และรถเจ้าของเสียงดังหนวกหูก็พุ่งทะยานผ่านประตูรั้วสีเงินของโรงเรียนแกรนดืวัลเลย์ก่อนที่มันจะปิดลงแบบเฉียดฉิว
เอี๊ยดดดดดดดด!!!
เสียงเบรกดังลั่นขึ้นมาพร้อมกับฝุ่นตลบจากแรงเสียดสีของล้อกับพื้น เฮเซิลที่นั่งกองอยู่กับพื้นเงยหน้าขึ้นไปมองด้วยความตกใจ และสิ่งที่เห็นก็ทำให้เธอตกใจมากขึ้นไปกว่าเดิม เพราะคนที่ขี่ไอ้รถสองล้อเสียงดังนั่นดันไม่ได้ใส่เสื้อ!
เอาเข้าไป มีพวกต่างดาว พวกนอกรีต คนป่า คนบ้า แล้วยังมีคนโรคจิตอีก!
…สาบานได้ว่าฉันจะฟ้องกระทรวง! ฉันจะทำให้ไอ้โรงเรียนเฮงซวยนี่กลายเป็นสถานบำบัดจิตให้ได้!!
เดี๋ยวนะ เอ๊ะๆ เธอว่าเธอรู้จักนายโรคจิตขี่สองล้อคนนี้นะ...
เจ้าของรถมอเตอร์ไซค์จอดเทียบรถสวยๆ ของเขาไว้ที่ริมทางข้างที่จอดจักรยาน ซึ่งไม่ว่าจะมองยังไงมันก็ไม่ใช่ที่จอดรถที่เหมาะสมเลยแม้แต่น้อย แต่ท่าทีรีบร้อนของเจ้าของรถก็ทำให้รู้ว่าที่เขาเลือกจอดตรงนี้เพราะเขารีบจริงๆ
...แค่รีบจริงๆ ไม่ได้นะเนี่ย ต้องมักง่ายด้วย!
เจ้าของรถกระโดดลงมาจากรถและคว้าเอาเสื้อยืดที่ยับยู่ยี่ซึ่งยัดไว้ใต้เบาะออกมา เขาทำท่าจะสวมมันลงไปแล้วแต่ลืมไปว่ายังใส่หมวกกันน็อคอยู่ เฮเซิลยิ้มเยาะท่าทีโง่ๆ ของนายคนนั้นก่อนจะยันตัวลุกขึ้นจากพื้น เธอยืนหน้าเชิดราวกับนางหงส์มองนายคนนั้นอย่างหาเรื่อง (แม้ว่าตอนนี้จะเป็นหงส์ที่ขนยุ่งและเลอะไปด้วยโคลนก็ตาม ยังไงก็ยังเป็นหงส์ใช่มั้ยล่ะ!)
เขาคนนั้นถอดหมวกก็นน็อคออก ใบหน้าหล่อน่าหลงใหลปรากฏแก่สายตาของเฮเซิลทันที นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนคมๆ ตวัดมองมาที่นางหงส์ตกโคลนและขมวดคิ้วงุนงงปนขบขัน ที่มุมปากเขามีรอยแผลจากการชกต่อย ทำให้ดูดิบเถื่อนอย่างน่าหลงใหล เขาสวมเสื้อยืดสีน้ำเงินเข้มเพื่อ
(ติดตามต่อได้ในฉบับเต็ม)
รายละเอียด
รีวิว (1)
03/07/2014
Angel and Me รักร้ายละลายใจยัยนางฟ้าตัวร้าย เป็นผลงานของพี่ลูกชุบค่ะผลงานเรื่องนี้ออกมานานแล้วจ้าแล้วก็อ่านมานานมากๆแล้วด้วยวันนี้ต้องขุดออกมาอ่านใหม่เพื่อมารีวิวนิยายเรื่องนี้จะบอกว่านิยายเรื่องนี้แค่เห็นหน้าปกก็ฟินแล้วก็น่าอ่านมากๆแล้วเพราะดีไซน์หน้าปกมันเข้ากับเนื้อหาข้างในเรื่องมากจริงๆ อ่านพล็อตเรื่องนี้ครั้งมีความรู้สึกว่าน่าสนใจดีค่ะเพราะเนื้อเรื่องของนิยายเรื่องนี้จะเป็นประมาณว่านางเอกของเราหรือนางฟ้าตัวร้ายของเรื่องนี้เธอได้ถูกเสนอชื่อให้ไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่โรงเรียนแกรนวัลเลย์โรงเรียนเอกชนอันดับหนึ่งซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นโรงเรียนที่รวบรวมเด็กเหลือขอไว้มากที่สุดในประเทศฮ่าๆๆ อามรมณ์แบบว่าซ้ำชั้นแล้วซ้ำชั้นอีกไม่ยอมไปไหน นางเอกเรื่องนี้เขายอมมาเพราะหวังว่าจะได้ถ้วยเกียรติยศด้วยส่วนพระเอกของเรื่องนี้เขาเป็นถึงรองประธานนักเรียนที่มาคอยดูแลความเป็นอยู่ของนางเอกค่ะ พล็อตเรื่องนี้สนุกค่ะเนื้อหาก็สนุกด้วยนะอารมณ์แบบแบ่งแยกกลุ่มชนดีโรงเรียนหนึ่งอารมณ์แบบผู้ดีมากอีกโรงเรียนก็อารมณ์แบบรวมรวบเด็กเหลือขอไว้มากที่สุดในประเทศจะบอกว่าการบรรยายเรื่องนี้ของพี่ลุกชุบสนุกดีค่ะมความรู้สึกส่วนตัวนะตั้งแต่อ่านนิยายของพี่ลูกชุบมาหลายๆเล่ม มีความรู้สึกว่าพี่ลูกชุบแต่งนิยายบรรยายตัวละครนางเอกที่มีนิสัยหยิ่งๆ เชิดๆ แล้วก็รวยได้เก่งอ่ะมันสมจริงดีอารมณ์แบบนางเอกใช้แต่ของแพง เลิศ หรู ฮ่าๆๆ แต่เราชอบนางเอกสไตน์นี้นะค่ะเพราะดูเด่นๆไม่ยอมใครนะบางทีมันดูโอเคกว่านางเอกเงียบๆไม่มีพิษสงค์อ่ะพระเอกเรื่องนี้ก็แบบน่ารักมากอ่ะถึงแม้ว่าจะกวนๆไปหน่อยแต่ก็เป็นบอดี้การ์ดนางเอกคอยดูแลอะไรแบบนี้ อ่านแล้วหลงรัก พี่ลูกชุบดำเนินเรื่องสนุกแบบไม่ติดขัดแล้วก็ไม่งงด้วย คืออ่านแล้วสนุกมากๆ ชอบการบรรยายแนวๆนี้อ่ะค่ะมันดูมีสีสันดีไม่ค่อยน่าเบื่อเพราะเรื่องนี้นางเอกเขาจะเป็นตัวดำเนินเรื่องใช่ไหมค่ะก็จะเป็นการดำเนินเรื่องตามสไตน์นางเอกอ่ะค่ะตามนิสัยของเขาก็คืออารมณ์หยิ่งเลิศๆ เชิด รวยอะไรประมาณนี้ชอบการบรรยายนิสัยของพระเอกเรื่องนี้อ่ะคือพระเอกเรื่องนี้เขาจะไม่ได้รวยมากมายเหมือนนางเอกแล้วก็ถ่อมตัวชอบอ่านนิยายสไตน์แบบนี้ค่ะถึงแม้ว่ามันจะเป็นพล็อตธรรมดาทั่วไปแต่ด้วยความที่มีเอกลักษณ์ของเรื่องจุดสนใจที่อ่านแล้วไม่เบื่อเลยทำให้นิยายเรื่องนี้ดูมีอะไรขึ้นเยอะเลยค่ะ ชอบนิสัยพระเอกเรื่องนี้ที่ทำงานหนักทำทุกอย่างให้ได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการต่างกับนางเอกอะไรแบบนี้อ่านแล้วสงสารพระเอกคืออันที่จริงต้องลองอ่านนิยายเรื่องนี้ดูนะค่ะคือสนุกมากๆตอนจบก็แฮปปี้ๆดำเนินเรื่องได้มีความน่าสนใจมากๆด้วยทำให้นิยายเรื่องนี้ดูเด่นไปในตัวเลย