Destiny of Love โชคชะตารักเปิดประตูใจคุณชายแบดบอย (ชุด คุณชายแบดบอย)
ประหยัด: 59.15 บาท ( 35.00% )
เนื้อหาบางส่วน
บทนำ
ณ มหาวิทยาลัยคิงสกอร์ว มหาวิทยาลัยเลื่องชื่ออันดับหนึ่งประจำต้นตระกูลฟิน ตระกูลลึกลับที่มีเกาะส่วนตัวเป็นมรดกตกทอดมาหลาย ชั่วอายุคน
ตึก ตึก ตึก
เสียงฝีเท้าน้อยๆ วิ่งลงบันไดด้วยความเร็ว เมื่อเจ้าของเสียงนั้น ได้ล่วงรู้ถึงการมาของใครบางคนที่มีความสำคัญต่อเธอ
"เอดิสานนน"
หญิงสาวหน้าตาสวยราวกับเจ้าหญิงในเทพนิยายตะโกนพลางยิ้มกว้างมาแต่ไกล ทว่าผู้ที่ถูกเรียกชื่อกลับออกอาการรำคาญกับ ความพยายามนี้อย่างไม่ปิดบัง
"เดี๋ยวพวกฉันกลับก่อนละกัน" หนุ่มหน้าตี๋หล่อใสสไตล์เกาหลีบอกยิ้มๆ พลางตบไหล่หนุ่มหน้าหวานเพื่อนซี้
"อิจฉามันว่ะ”
"ฮ่าๆ ดูไอ้คนพูดดิวะ 'อิจฉามันว่ะ, เหรอ ผู้หญิงในสังกัดของแกน่ะเยอะแล้ว จะไปอิจฉามันทำไมวะไอ้ดิน" หนุ่มตี๋แซวหนุ่มหน้าหวานพร้อมกับรอยยิ้มบาดใจ
"ดูมันทำหน้าเข้า ได้ผู้หญิงอย่างควีนมาพะเน้าพะนอแบบนี้ยังไม่พอใจอีก" คราวนี้เป็นเสียงของหนุ่มหล่อหน้าคมเข้ม ผิวสีนํ้าผึ้งอีกคนที่ยืนอยู่ไม่ไกลกัน
"ไปดริ้งก์กันดีกว่าว่ะ ไปๆ เดี๋ยวมิกซ์สุดหล่อขอเป็นเจ้ามือเอง ซีซาร์ ตามมาเร้ววว" หนุ่มตี๋ที่เรียกตัวเองว่า 'มิกซ์1 เดินกอดคอไปกับหนุ่มหน้าหวาน 'ดิน’
"แล้ เจอกัน เอดิสัน " ซีซาร์ชกเบาๆ ไปที่ไหล่ของเอดิสันก่อนเดินตามเพื่อนไป
"ชิส์"
หญิงสาววิ่งมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าเอดิสันพร้อมกับหายใจเหนื่อยหอบ ดวงตาจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าหล่อใสสไตล์ทอม ครูซของชายหนุ่มนั้นอย่างชื่นชม
"นี่! ยัยเจ้าหญิง เธอว่างมากหรือไง" เขาเรียกฉายาของเธอและเสมองไปทางอื่น ควีนปาดเหงื่อที่ผุดอยู่บนหน้าผากพลางยิ้มเรี่ยราด
"นายจะกลับบ้านใช่มั้ย ฉันขอติดรถไปด้วยคนนะ "
"แล้วทำไมฉันต้องทำแบบนั้นด้วย" คำพูดที่แสนเย็นชาของเอดิสัน ทำให้ควีนหน้าเสียไปนิดหนึ่งก่อนจะทำเหมือนไม่ใส่ใจ พลางเดินเข้ามาจับมือ
"น่านะ ยังไงบ้านนายก็ไปทางเดียวกับบ้านฉัน ประหยัดน่ะ นํ้ามันยิ่งแพงๆ อยู่ด้วย"
"ฉันใช้แก๊สโซออล์"
ระหว่างบทสนทนาที่เย็นชาของเอดิสันกับความดื้อดึงของควีนนั้นเอง ชายหนุ่มก็ต้องสะดุ้งเล็กๆ เมื่อรู้สึกได้ถึงมือเรียวเล็กของใครคนหนึ่งมาสัมผัสเข้าที่แผ่นหลังเหมือนจงใจแกล้ง เขาหันไปมองช้าๆ อย่างที่รู้ว่าจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากผู้หญิงคนเดิมที่ช่วงชิงหัวใจเขาไปนานแสนนานตั้งแต่พบเจอ
"เมื่อไหร่เธอจะเลิกเล่นแบบนี้ซะที น่ารำคาญซะมัด" เอดิสันพูดเซิงตำหนิ แต่แววตาไม่ได้รู้สึกแบบนั้นแม้สักนิดเดียว ควีนที่มองการกระทำของคนทั้งคู่ออกก็แกล้งมองไปทางอื่น
"คิกๆ ตกใจใช่มั้ยล่ะเอดิส"
'มุเมี้ยว, หญิงสาวที่มีใบหน้าเรียวรูปไข่ ดวงตาเป็นประกาย เปิดริมฝืปากแดงระเรื่อหัวเราะอย่างอารมณ์ดี
"แล้วก็เลิกเรียกฉันว่าเอดิสตามไอ้คินมันได้แล้ว ฟังแล้วขนลุก!" เขาเก๊กหน้าขรึม แต่มุเมี้ยวยังหัวเราะร่วนต่อไปพลางถามควีนที่ยืนจับมือเอดิสันค้างไว้หลวมๆ
"จะไปไหนกันเหรอควีน แหมๆๆ จับมือกันซะด้วย อิๆ"
"เปล่า" ชายหนุ่มตอบพร้อมกับสะบัดมือควีนออก
ควีนยิ้มจืดๆ ให้มุเมี้ยวก่อนพูดขึ้น
"ฉันกำลังจะติดรถเอดิสันกลับน่ะ เมี้ยวล่ะ... ทำไมมาคนเดียว เคลวินไปไหนเสียล่ะ"
เธอพูดพลางแอบปรายตามองเอดิสันแวบหนึ่ง ทันได้เห็นใบหน้าหล่อสะอึกไปนิดเมื่อได้ยินควีนถามถึงแฟนของมุเมี้ยวที่เป็นเพื่อนรักของเขา มุเมี้ยวมองซ้ายขวาเลิ่กลั่กก่อนจะทำเป็นกระซิบกระซาบกับควีน
"ฉันออกมาจากห้องเรียนก่อนเคลน่ะ เขาแอบหลับทั้งๆ ที่ฉันก็อุตส่าห์เตือนแล้ว ฉันเลยไม่ปลุก รีบออกมาซะงั้นแหละ... หุๆ สะใจ เป็นบ้า >.<"
"ตายแล้วเมี้ยว! เธอนี่สุดยอดเลย รับรองได้ว่าถ้าเป็นคนอื่นทำแบบนี้กับเคล ฉันว่าคนคนนั้นคงต้องไม่ตายดีแน่ๆ"
ควีนหัวเราะไปกับรอยยิ้มสดใสขี้เล่นของมุเมี้ยว สาวผู้ถูกชื่นชม ทำเป็นยืดอกขึ้นอย่างภูมิใจ แต่แล้ว...
ผัวะ
สาวน้อยหน้าคะมำไปข้างหน้าเมื่อเจอเข้ากับสมุดโน้ตเล่มบางๆ ตีเข้าที่หัว ทันทีที่ยกหัวขึ้นได้ เธอก็หันมองไปที่ผู้ประทุษร้ายอย่างไม่พอใจ เบื้องหลังของมุเมี้ยวนี้เองคือชายหนุ่มผู้หล่อเหลาอย่างที่สุดคนหนึ่งซึ่งเธอรู้จักดี แววตาสีฟ้านํ้าทะเลจดจ้องเธออย่างเจ็บใจ
"มันเจ็บนะ!!" ร้องพลางเอามือลูบหัวที่โดนตีป้อยๆ
"เออ ถ้าไม่เจ็บฉันจะตีทำไม ยัยบ้านี่ -O-" ชายหนุ่มตอบพลางยกมะเหงกขึ้นเหมือนจะซํ้าลงมาอีก มุเมี้ยวยกมือขึ้นบัง หลับตาปี๋ ><
"หนอย... ทำแสบนักนะยัยตัวดี!"
"หวัดดีเคล" ควีนที่ยืนอมยิ้มอยู่กล่าวทักทายเรียบๆ เคลวินชะงัก หันมอง พยักหน้านิดหนึ่ง ลดมือลง
"หวัดดีควีน กำลังจะกลับบ้านกันเหรอ ไอ้เอดิส ทำไมแกไม่ปลุก ฉันวะ!" หันมาต่อว่าเพื่อนสนิท เอดิสันที่นิ่งไปครู่หนึ่งทำเพียงแค่ยักไหล่ ก่อนจะเดินผละไป
"เอดิสัน รอฉันด้วย เอ่อ ไปก่อนนะ" ควีนรีบพูดออกมาก่อนจะรีบเดินก้าวยาวๆ ตามเขาไป ทิ้งให้มุเมี้ยวมองตามอย่างไม่สบายใจ
"กำลังคิดมากอยู่ใช่มั้ย"
เคลวินถามขึ้นเมื่อเห็นมุเมี้ยวเงียบ เธอพยักหน้าเล็กน้อย
"อื้อ... ฉันรู้สึกแย่จังเลย"
"นี่! การที่เธอรักฉันมันผิดขนาดนี้เลยเรอะ -_-"
"ฉัน..."
"ถ้าคนที่ผิดหวังเป็นฉัน เธอจะสบายใจขึ้นอย่างนั้นล่ะสิ”
"ไม่นะ ฉันไม่อยากให้นายต้องผิดหวัง >///<"
"งั้นเธอก็เลิกทำหน้าอย่างกับหมูได้แล้ว เห็นแล้วเซ็งโคตรๆ"
"หมู? มันเป็นยังไงอ่ะ ทำหน้าอย่างกับหมู?"
"ก็อย่างนี้ยังไงล่ะ อู๊ดๆ”
เขาแซวพลางใช้นิ้วชี้ยกปลายจมูกเธอขึ้น มุเมี้ยวออกแนวงงในตอนแรก เริ่มรู้แล้วว่าเธอถูกเคลวินหลอกเข้าอีกแล้ว รีบปัดมือเขาทิ้ง พร้อมกับต่อยท้องเขาดังอั้กและวิ่งหนีไป
"โอ๊ะ! ยัยบ้านี่ กล้าต่อยฉันงั้นเรอะ”
"ช่วยไม่ได้ นายอยากมาว่าฉันเป็นหมูก่อนทำไมล่ะ แบร่" เธอแลบลิ้นให้อย่างน่ารักก่อนวิ่งหนี
"กลับมานี่เดี๋ยวนี้เลยนะ!"
"กลับไปก็โง่สิ อิๆ"
"หน็อย อย่าให้ฉันจับเธอได้นะ ไม่งั้นเธอตายแน่!!"
ท่ามกลางเสียงหัวเราะแห่งความสุขนั้น เอดิสันที่กำลังจะเดินไปถึงรถต้องชะงักและหันกลับมามองภาพบาดตาบาดใจนั้นด้วยแววตาเศร้าๆ ควีนเองก็มองตามสายตาเขา สักพักเธอจึงได้พูดขึ้น
"นาย... ยังรักเธอสินะ,, นั้าเสียงกลั้นก้อนสะอื้น เอดิสันไม่ได้พูดอะไร ได้แต่มองดูภาพหญิงอันเป็นที่รักหัวเราะร่วนกับเพื่อนสนิทของตัวเอง ควีนพูดต่อ
"มุเมี้ยวเป็นผู้หญิงที่น่าอิจฉาจังเลยเนอะ เธอสามารถหลอมละลายหัวใจที่เย็นชาของคุณชายแบดบอยได้ตั้งสองคน... เอดิสัน เป็นฉันไม่ได้เหรอ เปลี่ยนจากเมี้ยวมาเป็นฉันคนนี้จะไม่ได้เลยเหรอ"
ได้ยินแบบนั้เอดิสันจึงละลายตามาจากมุเมี้ยวอย่างยากลำบาก เขาจ้องหน้าควีนนิ่ง
"ควีน ฉันขอบใจในความพยายามของเธอนะ แต่ฉันไม่อยากให้เธอ ต้องมาดื้อดึงกับเรื่องแบบนี้"
"เรื่องแบบนี้? เรื่องแบบนี้ของนายน่ะมันคือแบบไหนกัน"
"รู้มั้ยว่าการที่เธอทำแบบนี้มันยิ่งจะทำให้คนอย่างฉันอยากที่จะหนีไปให้ไกลจากเธอ... ด้วยความรำคาญ"
เขาพูดออกมาด้วยใบหน้าเรียบเฉยไม่ยินดียินร้าย ตรงข้ามกับใบหน้าขาวซีดของคนฟังที่บัดนี้ดวงตากำลังสั่นระริก กี่ครั้งแล้วนะที่เขาตัดเยื่อใยของเธอด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกแบบนี้ กี่ครั้งแล้วที่เธอต้องอ้อนวอนให้เขาอย่ารำคาญเธอ
"เอดิสัน,, ควีนผละเข้าโอบกอดเขาไว้เหมือนจะเป็นที่พักพิง
"ได้โปรดเถอะเอดิสัน อย่ารำคาญฉันเลยนะ นายอย่ารำคาญฉันเลย"
เธอตะโกนแข่งกับเสียงสะอื้นอย่างสุดความสามารถ แม้เอดิสันจะรู้สึกสงสารเพียงใดแต่เขาก็ไม่เคยยอมใจอ่อนให้กับควีน ผู้หญิงที่เขาไม่ได้รัก
"ปล่อยฉันน่าควีน เธออาจไม่อายใคร แต่ฉันอาย... ปล่อย!"
"นายอย่ารำคาญฉันนะ ต่อไปฉันจะไม่ทำอย่างนี้อีกแล้ว ฮึก"
"ฉันบอกให้ปล่อย!"
"ไม่! เอดิสัน ฉันไม่เชื่อหรอกว่านายจะไม่สามารถตัดใจจากเมี้ยวได้ ต้องมีสักวันที่นายจะหันกลับมามองฉัน และฉันจะรอนาย จะรอนายคนเดียว ฮือออ"
ควีนร้องไห้กับอกของเขา เอดิสันถอนหายใจหนักๆ ก่อนจะเบนสายตากสับไปมองมุเมี้ยวที่ยังวิ่งหนีเคลวินพลางหัวเราะอย่างมีความสุข เคลวินเองถึงจะตะโกนต่อว่ามุเมี้ยวแต่สีหน้าก็แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่ามีความสุขไม่น้อย แต่แล้วการไล่ล่าก็ต้องยุติลงชั่วคราวเมื่อเชือกผูกรองเท้าของเคลวินหลุด ทำให้เขาต้องรีบนั่งลงเพื่อจัดการผูกมันโดยที่มุเมี้ยวก็หยุดวิ่ง หายใจหอบแฮกๆ และหันมองเคลวินโดยไม่ได้สนใจเลย ว่าตัวเองกำลังยืนอยู่บนถนนที่รถวิ่งพลุกพล่าน
บรื้นนนน
"เมี้ยว!"
เอดิสันเบิกตาโพลงพร้อมกระซิบกับตัวเองเบาๆ ในนาทีที่ควีนกำลังจะหันไปมองนั้นเอง เอดิสันได้ดันตัวเธอออกจากอกของเขาและผลักเธอให้ห่างออกไปโดยไม่สนใจว่าเธอจะเป็นอย่างไร
"โอ๊ย!"
ควีนร้องออกมาอย่างเจ็บปวดเมื่อตัวเองล้มลงก้นกระแทกพื้นอย่างแรง รีบหันมองไปทางที่เอดิสันวิ่งจากไปด้วยความเร็ว เมื่อเห็นว่าอะไรเป็นอะไร ควีนก็ฟ้องปากร้องกรี้ดขึ้นมาอย่างดัง
"เมี้ยว! กรี๊ดดดดดด”
เคลวินที่กำลังผูกเชือกรองเท้าอยู่เงยหน้าขึ้นมองไปที่มุเมี้ยว แล้วก็ต้องทะลึ่งตัวขึ้นลุกพรวดพราดแทบจะในทันทีเมื่อเห็นรถบรรทุกหญ้าคันโตกำลังแซงซ้ายขึ้นมาในเส้นทางที่มุเมี้ยวยืนหันหลังหอบอยู่อย่างไม่รู้เรื่องรู้ราว
ปิ๊น ปิ๊นนนนนน มุเมี้ยวหันหน้ามองก่อนจะกรีดร้องสุดเสียง
กรี๊ดดด!!!!!!
วินาทีแห่งความเป็นความตายนี้เองที่เอดิสันถลาเข้ามาหาเธออย่างไม่กลัวตาย เขาเอื้อมมือออกมาหวังจะคว้าตัวเธอ เพียงเสี้ยววินาทีนั้นเอง ร่างของเคลวินก็กระโดดเข้าหามุเมี้ยวก่อนที่เอดิสันจะทันได้ดึงเธอเข้ามาไว้ในอ้อมกอด เคลวินเข้าถึงมุเมี้ยวก่อน วินาทีนั้นสายตาของเอดิสัน ดูตะลึงพรึงเพริดไปนิดหนึ่ง เขามองสบสายตามุเมี้ยวที่มองมาที่เขาอย่างขอบคุณ ก่อนที่เคลวินจะพาเธอล้มลงไปอีกฝั่งหนึ่งของถนน เอดิสันเองก็ล้มลงข้างๆ เธอ
"โธ่เว้ยยัยบ้า! ทีหลังหัดดูตาม้าตาเรือซะมั่งเซ่" เคลวินต่อว่าเมื่อมุเมี้ยวปลอดภัยแล้ว เขาพยายามลุกขึ้นโดยไม่ลืมที่จะฉุดเธอขึ้นมาด้วย
"อูยยย >.<"
"ไหนดูเด๊ะ เจ็บตรงไหนมั่ง"
เคลวินสำรวจทั่วตัวของมุเมี้ยว แววตาของเขายังไม่หายจากอาการตกใจ มุเมี้ยวซี้ดปากเบาๆ ก่อนจะมองไปที่เอดิสันที่กำลังยืนขึ้นปัดฝุ่นออกจากเสี้อผ้า
"เอดิสัน ขอบใจนะ"
"เล็กน้อย" เอดิสันยิ้มนิดๆ ก่อนจะเดินข้ามถนนกลับไปยังที่ที่ควีนยืนอึ้ง
"เอดิสัน นายไม่เป็นอะไรใช่มั้ย T_T" ควีน่รีบร้อนเข้ามาถาม เอดิสันพยักหน้าก่อนจะหันหลังมองไปยังจุดที่เคลวินและมุเมี้ยวยืนอยู่ที่เดิม ได้ยินบทสนทนาที่น่าอิจฉาแล้วก็ปวดใจ
"เธอนี่มันทั้งซื่อบื้อ โง่เง่า ร้ายกาจ และน่ารังเกียจจริงๆ" เคลวินพูดแบบนั้นแต่มือก็สำรวจไปที่ข้อศอกของมุเมี้ยวที่มืแผลถลอก
"ฉันเป็นคนเจ็บนะ ยังจะมาว่ากันอีก" ...ใจร้ายที่สุดอ่ะ
"ก็ทำตัวเองนี่ ดูสิ เกือบลากฉันกับเอดิสันมาตายด้วย... นอกจากข้อศอกแล้วยังมีแผลที่ไหนอีก ไหนดูเด๊ะ,, พูดจบก็จับตัวมุเมี้ยวหมุนๆ
"ไม่ต้องมายุ่งเลย ใครขอให้นายเข้ามาช่วยกันเล่า >0<"
(ติดตามต่อได้ในฉบับเต็ม)
รีวิว (1)

22/09/2014
Destiny of Love โชคชะตารักเปิดประตูใจคุณชายแบดบอย นิยายเรื่องนี้น่ารักมากๆค่ะเป็นผลงานของนักเขียนนามปากกาpiano เรื่องนี้ต้องบอกก่อนเลยว่าเป็นนิยายที่ออกมานานแล้วจำได้ว่าเราเก็บผลงานเซตนี้ทั้งเซตเพราะพระเอกเรื่องนี้ก็เป็นเพื่อนกับพระเอกเรื่องอื่นๆด้วยแต่ว่าสามารถอ่านแยกได้อย่างไม่งงค่ะแต่ละเล่มพระเอกก็จะมีนิสัยแตกต่างกันออกไปแต่แน่นอนว่าไม่ได้ทิ้งความเป็นแบดบอยไปแม้แต่น้อยอ่านแล้วรู้สึกชอบมากอ่านผลงานของนักเขียนท่านนี้ครั้งแรกเราไม่ได้อ่านเรื่องนี้ก่อนแต่ไปอ่านเรื่องของแฟร์ก่อนอ่ะเรื่องนั้นก็สนุกเหมือนกันพอได้มาอ่านเรื่องนี้รู้สึกชอบคาแร็กเตอร์ของอิมชิตามากๆรู้สึกว่านางเอกเรื่องนี้เปิ่นๆดีคู่กับพระเอกฮ็อตๆมาแนวแบดบอยจอมเจ้าชู้อ่านแล้วรู้สึกว่าเนื้อเรื่องมีสีสันมากๆอาจจะจำเนื้อหาได้ไม่หมดแต่รู้ว่าเรื่องนี้สนุกมากด้วยความที่อ่านมานานแล้วรู้สึกว่าตอนนี้นิยายเรื่องนี้ไม่ได้มีขายแล้วด้วยการันตีความสนุกจริงๆใครไม่เคยอ่านแนะนำเลยว่าต้องอ่านเพราะสนุกมากๆเนื้อเรื่องน่าติดตามตั้งแต่ต้นจนจบเรื่องเลยค่ะทางทีดีต้องอ่านให้ครบทั้งเซตจะได้รับอัถรสแบบครบถ้วนเลยฮ่าๆๆๆ หลังจากอ่านนิยายของหนุ่มๆบอยแบนจบก็รู้สึกว่าชอบผลงานของพี่นักเขียนท่านนี้มากๆค่ะที่อ่านๆมารู้สึกสนุกทุกเรื่องไม่มีเรื่องไหนที่อ่านแล้วรู้สึกไม่ชอบไม่มีเลยประทับใจทุกเรื่องที่อ่านมาค่ะแล้วก็ตามเก็บสะสมทุกเรื่องเลยมีหลังๆมานี่ไม่ค่อยได้ตามเท่าไหร่ที่ที่ชอบที่สุดก็นิยายเซตนี้แหละชอบพวกพระเอกมีสีสันดี