CODE NAME:G หลอกรักกับดักร้ายไล่ล่าหัวใจยัยจารชน
ประหยัด: 164.25 บาท ( 75.00% )
มีสินค้ามือสองอยู่จำนวน : 2 รายการราคา 99.00 บาท - 119.00 บาท ซื้อสินค้ามือสอง
Quick View
เนื้อหาบางส่วน
Chapter One
The Last Game…
1.1
CODE NAME : G… Do You Believe in GOD?
1 ธันวาคม 2011
@ ปราก, สาธรณรัฐเช็ก
G หยุดเดินเมื่อมาถึงหน้าลิฟต์ ไม่จำเป็นต้องพึ่งสัญชาตญาณอะไรมากมาย เขาก็รู้อยู่แล้วว่าชายร่างสูงในเสื้อโค้ตสีดำทะมึนที่เดินตามหลังเขามาตั้งแต่ที่หน้าโบสถ์เซนต์นิโคลัสนั้นต้องการอะไรบางอย่างจากเขา ถึงได้เดินตามมาตลอดตั้งแต่ตอนนั้น เขายักไหล่อย่างเบื่อหน่ายก่อนจะก้าวเท้าเข้าไปในลิฟต์ทันทีที่ประตูลิฟต์เปิดออก ชายในชุดดำสองคนเดินตามเขาเข้าไปดังที่คาด เขาอดทนรออย่างใจเย็นจนกระทั่งประตูลิฟต์เลื่อนเข้าหากันถึงได้เอ่ยปากถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“...ต้องการอะไร” เพราะไม่รู้สัญชาติของชายชุดดำทั้งสอง เขาจึงเลือกที่จะถามเป็นภาษาอังกฤษแทนที่จะเป็นภาษาเช็ก นัยน์ตาสีเหล็กกล้าลอบสังเกตจากเงาที่สะท้อนอยู่บนกระจกลิฟต์ ก่อนจะมองเห็นปืนกระบอกหนึ่งซ่อนอยู่ใต้เสื้อโค้ตของชายสองคนที่ยืนอยู่ด้านหลังเขา
“เงียบไว้แล้วตามเรามา ถ้าทำตามที่เราบอกดีๆ ก็จะไม่มีใครต้องเจ็บตัว”
G เงียบไปครู่หนึ่งกับคำตอบนั้น สำเนียงอเมริกันบอกให้รู้ว่าหนึ่งในสองคนนี้มาจากอเมริกา “แล้วถ้าไม่ไป?” เขาถามพลางเลื่อนมือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อโค้ตก่อนจะนับถอยหลังในใจ แล้วคำตอบจากชายชุดดำชาวอเมริกันก็ทำให้เขาต้องถอนหายใจออกมาอีกรอบด้วยความเบื่อ
“เราก็คงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากใช้กำลัง”
“งั้นเหรอ” G ถามกลับพร้อมกับเหลือตามองตัวเลขบอกชั้น...ห้องพักของเขาอยู่ที่ชั้นสิบเจ็ด และตอนนี้ลิฟต์ก็เคลื่อนขึ้นมาถึงชั้นที่แปดแล้ว “งั้นก็ขอโทษด้วยนะ”
“อะไรนะ”
“ลาก่อน”
G ก้าวออกมาจากลิฟต์หลังจากเลขบอกชั้นมาถึงชั้นสิบเจ็ดเรียบร้อยแล้ว ใบหน้าหล่อเหลาราบเรียบของเขายังคงนิ่งสนิทเหมือนเดิมราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาเก็บบาเร็ตต้ากลับเข้าในกระเป๋าก่อนจะเดินผ่านร่างสองร่างที่นอนแน่นิ่งอยู่ในลิฟต์ออกมา จากนั้นจึงเดินไปที่ห้องของตัวเองอย่างใจเย็น นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีแขกไม่ได้รับเชิญมาเยี่ยมเยียนเขาถึงที่พร้อมกับอาวุธร้ายแรงอย่างนี้ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงไม่เคยอยู่ติดที่เลยสักครั้งนับตั้งแต่ที่เขา ‘หนี’ มาจาก ‘องค์กร’ ในวันนั้นเมื่อหนึ่งปีก่อน...
องค์กรมืดที่แฝงเร้ยอยู่ทั่วทุกมุมโลก เงียบงันและมืดมิดราวกับหุบเหว หากก็ร้ายกาจและเหี้ยมโหดดุจปีศาจร้าย...องค์กรนั้นมีชื่อว่า Underground
บางทีนี่อาจจะถึงเวลาต้องย้ายอีกแล้ว G นิ่งคิดในใจพลางก้าวเท้าเดินไปเรื่อยๆ มันเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขาที่จะหนีออกนอกประเทศ และไปอยู่ที่ไหนก็ได้ ในเมื่อเขาคือ ‘พระเจ้า’ ที่ควบคุมทุกอย่างได้ดังใจ และเคลื่อนไหวอยู่ในเงามืดราวกับไม่มีตัวตน
ไม่สิ...มันเป็นเพราะเขา ‘ไม่มีตัวตน’ ต่างหาก
เมื่อเดินมาถึงห้อง A113…G 1เสียบคีย์การ์ดเปิดประตูห้องก่อนจะปิดประตูตามหลังอย่างระมัดระวัง จากนั้นจึงข้ามห้องรับแขกที่โล่งว่างเปล่าราวกับไม่มีคนอาศัยอยู่ไปถึงห้องนอนที่มีสภาพไม่ต่างกัน เขาทรุดตัวลงนั่งบนพื้นก่อนจะเปิดประตูกลที่ซ่อนอยู่ใต้พรมขึ้นมาแล้วหยิบกระเป๋าเอกสารใบหนึ่งออกมาเปิดดู
นัยน์ตาสีเหล็กกล้ากวาดมองของที่อยู่ในกระเป๋าอย่างรวดเร็ว เขาหยิบพาสปอร์ตเล่มที่วางอยู่บนสุดในกองพาสปอร์ตนานาชาติออกมาเปิดดู
‘Gabriel Miroslav’
G ยิ้มกับหนึ่งในชื่อปลอมที่เขาใช้ก่อนจะเก็บมันเข้ากระเป๋าเสื้อโค้ตจากนั้นจงปิดกระเป๋าแล้วถือมันเดินออกจากห้องไปโดยไม่แตะต้องสิ่งใดอีกเลย
สิ่งหนึ่งที่เขารู้ตั้งแต่ก่อนเข้า Underground นั่นคือ...ถ้าหากจะหนีต้องไปให้เร็วที่สุด และต้องตัดทุกสิ่งที่ไม่จำเป็นทิ้งไป เขาเองก็ใช้ชีวิตแบบไม่มีสิ่งไม่จำเป็นติดตัวอยู่แล้ว ดังนั้นภายในเวลาไม่ถึงยี่สิบสี่ชั่วโมง ใครก็ตามที่ต้องการตัวเขาก็จะต้องเสียเวลาอีกหลายเดือนในการควานหาตัวเขาจากมหาสมุทร
ทันทีที่ก้าวออกจากอพาร์ตเมนต์ใกล้จัตุรัสเมืองเก่า ลมก็พัดมาวูบหนึ่งจนโอเวอร์โค้ตตัวยาวของเขาปลิวสะบัด G ซุกมือข้างหนึ่งในกระเป๋าเสื้อโค้ตแล้วสอดปลายนิ้วเกี่ยวในโกร่งไกปืนบาเร็ตต้าที่อยู่ในกระเป๋า เขาทำแบบนี้จนชินแล้วเวลาออกมาเดินข้างนอก นี่อาจเป็นนิสัยที่ติดมาจากการใช้ชีวิตอยู่ใน Underground มาเป็นเวลาหลายปีก็ได้
หลายครั้งที่เวลาแค่เสี้ยววินาทีก็ทำให้ใครบางคนต้องจบชีวิตลงได้หากไม่ระวัง...
ฝีเท้าของเขามั่นคงและไม่ช้าไม่เร็วจนเกินไป และถึงแม้สีหน้าของเขาจะยังนิ่งสนิท...นัยน์ตาสีเหล็กกล้าคู่สวยก็ยังคงมองไปรอบตัวอยู่ตลอดเวลาด้วยสัญชาตญาณที่ถูกลับจนคมกริบ ในหัวก็กำลังคิดถึงปลายทางที่จะไป เขาเคยไปมาเกือบทั่วโลกจนไม่รู้จะไปที่ไหนดีแล้ว...
และตอนนั้นเองที่ความคิดของเขาสะดุดลงเมื่อใครคนหนึ่งเดินเข้ามาชนเขาอย่างแรง กลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกกุหลาบทำให้เขารู้ว่าร่างนั้นเป็นผู้หญิง ก่อนที่เธอจะเอ่ยปากขึ้นด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนก
“ขอโทษนะคะ!”
“ไม่เป็นไร”
G บอกปัดก่อนจะเดินเลี่ยงไปอีกทางหนึ่ง ทว่ายังไม่ทันได้ก้าวไปไหน หญิงสาวคนเดิมก็ล็อกแขนเขาไว้ก่อน เขากระชับมือที่ถือปืนไว้ให้แน่นขึ้นก่อนจะชะงักไปเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงเธอที่ยื่นหน้าเข้ามากระซิบข้างหู
“คุณเชื่อในพระเจ้ามั้ย”
จบคำนั้นบาเร็ตต้าในมือเขาก็ถูกดึงออกมาจ่อที่เอวบางของหญิงสาว ผมสั้นสีบลอนด์ทองที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาทันที G คว้าร่างของเธอเข้ามาใกล้ก่อนจะกดปากกระบอกปืนลงมากขึ้นกว่าเดิม “เธอเป็นใคร”
คำถามของเขาได้รับคำตอบในวินาทีถัดมาเมื่อเธอหยิบบางอย่างออกมาชูอยู่ตรงหน้าเขา
“มอร์แกน มิลเลอร์ USSS”
“ต้องการอะไร”
“ไม่มากหรอก มีเวลาว่างฟังฉันสักหน่อยมั้ยล่ะ”
“เกรงว่าจะไม่นะ” G ตอบด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบพร้อมกับขยับเลื่อนลำก้ลองปืนอย่างรวดเร็ว “สองคนในลิฟต์นั่นก็เพื่อนเธอใช่มั้ย ถ้าไม่อยากเป็นแบบนั้นก็อย่าตามมา”
“แน่ใจเหรอว่าจะไม่ฟัง” เธอเลิกคิ้วถามด้วยรอยยิ้มมุมปากและนัยน์ตาพราวระยับราวกับไม่เกรงกลัวปืนที่จ่อเอวอยู่เลยสักนิด มือเรียวล้วงหยิบบางอย่างออกมาจากกระเป๋าเสื้อโค้ตสีดำก่อนจะยื่นมันให้เขาดู...และภาพนั้นก็ทำให้เขานิ่งงันไปอย่างที่คาด เธอมองท่าทางนั้นด้วยความพอใจ ก่อนจะเก็บรูปเข้ากระเป๋าแล้วหัวเราะแผ่วเบา
“ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ Mr. GOD”
1.2
CODE NAME : H… The Hyena
31 สิงหาคม 2011
@ มอสโก, รัสเซีย
“นี่สำหรับเธอ แอกเนส” ชายหนุ่มร่างสูงพูดด้วยรอยยิ้มที่มีเสน่ห์อย่างร้ยกาจ เขาหยิบแก้วแชมเปญทรงสูงแก้วหนึ่งส่งให้หญิงสาวผมบลอนด์สุดเซ็กซี่ที่ส่งยิ้มพราวระยับกลับมาให้พร้อมกับยื่นมือมารับแก้วแชมเปญไปจิบโดยที่ยังไม่ละสายตาไปจากใบหน้าหล่อเหลาของชายหนุ่มตรงหน้า รอยลิปสติกสีแดงถูกประทับไว้บนขอบแก้วตอนที่เธอวางมันลงบนเคาน์เตอร์แล้วเปลี่ยนมาโอบรอบคอเขาแทน
“จะไม่อาบน้ำก่อนเหรอ” เขาถามพลางยิ้มมุมปากพร้อมกับเลื่อนมือมาโอบรอบเอวคอดสุดฮอตของเธอ
“ไม่ต้องเสียเวลาหรอก” เธอตอบด้วยรอยยิ้มยั่วยวน มือเล็กขยุ้มผมสีน้ำตาลเข้มของเขาเล่นอย่างซุกซน นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนที่มองมาเป็นประกายแวววับราวกับอัญมณี...และเธอก็กำลังจะคลั่งตายด้วยความหลงใหลอยู่แล้ว
“ผู้หญิงรัสเซียร้อนแรงอย่างนี้ทุกคนเลยหรือเปล่านะ”
“ฉันไม่รู้หรอก รู้แต่ว่าคืนนี้ฉันจะทำให้คุณลืมฉันไม่ลงเลยล่ะ”
ชายหนุ่มนิ่งไปเล็กน้อยกับคำพูดนั้นของเธอ วูบหนึ่งที่นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนทอประกายเจ้าเล่ห์ราวกับปีศาจร้าย เขาผุดยิ้มลึกลับที่มุมปากก่อนจะจบบทสนทนาด้วยการก้มลงจูบริมฝีปากสีแดงสดของหญิงสาวในอ้อมกอดอย่างร้อนแรง
แอกเนสคงไม่รู้หรอกว่าคืนนี้จะเป็นคืนสุดท้ายของเธอแล้ว
2.11 A.M.
ชายหนุ่มคลายอ้อมกอดและผละออกห่างจากร่างสุดฮอตของแอกเนส และนั่นก็ทำให้แอกเนสที่กำลังหลับอยู่รู้สึกตัวตื่นขึ้นมา เธอลืมตามองหน้าเขาที่ยังคงหล่อเหลาจับใจแม้อยู่ในความมืด ก่อนจะเอ่ยปากถามด้วยน้ำเสียงง่วงงุน “เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ นี่กี่โมงแล้ว”
“ตีสองน่ะ”
“จะรีบไปไหนเหรอคะ”
“ก็นิดหน่อย” เขาตอบยิ้มๆ ก่อนจะหันกลับมามองหน้าเธอ “แต่ก่อนหน้านั้นฉันมีคำถามจะถามเธอ”
“คำถาม? คำถามอะไรเหรอคะ”
“เขาอยู่ที่ไหน”
“เอ๊ะ เขา...หมายถึง...” แอกเนสพึมพำอย่างไม่เข้าใจก่อนจะนึกออกในวินาทีถัดมา ใบหน้าสวยฉายแววคลางแคลงใจก่อนที่เธอจะถามกลับแทนการตอบ “ถามทำไมเหรอคะ”
“ฉันก็แค่อยากจะไปทำให้มันถูกต้องเท่านั้นเอง”
“โอ้...ไม่นะ ดิมิทรีไม่ใช่คนที่คุณจะไปยุ่งด้วยได้ ฉันไม่...” คำพูดของแอกเนสถูกขัดด้วยริมฝีปากร้อนที่ทาบทับลงบนริมฝีปากอวบอิ่มของเธอ ก่อนจะไล้ไปมาอย่างหยอกเย้าและร้อนแรง นานหลายนาทีกว่าเขาจะถอนริมฝีปากออกแล้วพูดต่อด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“ฉันรักเธอ และฉันก็ไม่อยากให้เจ้าหมอนั่นมายุ่งกับเธออีก”
“แต่ว่าเขาอาจจะฆ่าคุณ...”
“ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นหรอก ฉันมีวิธีจัดการ” เขากล่อมเธอด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลราวกับบทเพลง ความอ่อนโยนนั้นเองที่ทำให้แอกเนสใจอ่อน
“เขาอยู่ในเซฟเฮ้าส์ชั้นใต้ดิน ในตึกที่ห่างจากนี่ไปสามบล็อก ไปเส้นที่จะไปวิหารเซนต์บาซิล จะเห็นตึกที่ก่อด้วยอิฐสีส้มแดง รหัสผ่านคือ AZRT4677”
“ขอบคุณมากนะแอกเนส” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเหมือนเดิมพร้อมกับก้มลงจูบเธออีกครั้งหนึ่งก่อนจะลุกจากเตียงแล้วเดินไปที่โต๊ะริมหน้าต่าง แอกเนสยันตัวลุกขึ้นนั่งมองดูเขาก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้ม
“ถ้าจัดการเรียบร้อยแล้วเราย้ายไปอยู่ที่อื่นกันนะ”
“อยากไปที่ไหนล่ะ”
“อืม...บ้านเกิดของคุณอยู่ที่ฮังการีใช่มั้ย งั้นเราไปที่นั่นดีมั้ย ฉันอยากไปบูดาเปสต์มานานแล้ว หรือไม่ก็...เวนิสก็ดีนะ”
“ก็จริง” เขาตอบกลับโดยที่ยังไม่หันหลังกลับมามองเธอ “แต่ฉันมีอีกที่นึงให้เธอนะ”
“หืม? ที่ไหนกันเหรอ”
“นรกไง”
เขาตอบด้วยน้ำเสียงเจือเสียงหัวเราะพร้อมกับหันมาหาเธอ คราวนี้ในมือเขามีปืนคอลต์ .45 สีดำมะเมื่อมพร้อมที่เก็บเสียงเล็งตรงมาทางเธอ แอกเนสจ้องมองดูเขาด้วยความไม่เข้าใจอยู่ครู่หนึ่ง และก็ยังคงไม่เข้าใจ แม้กระทั่งตอนที่เขาเอ่ยขึ้นมาอีกประโยคหนึ่งก่อนที่จะเหนี่ยวไกปลิดชีวิตเธอ
“ขอโทษทีนะ”
เขาพูดด้วยสีหน้าและน้ำเสียงเย็นเยียบราวกับน้ำแข็ง ก่อนจะเอื้อมมือหยิบเสื้อโค้ตสีดำสนิทที่วางพาดอยู่บนเก้าอี้มาสวม จากนั้นทิ้งร่างไร้ชีวิตของแอกเนสผู้แสนงดงามไว้เบื้องหลังแล้วเดินออกจากห้องไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ทันทีที่ออกไปถึงข้างนอก เขาก็ต้องกระชับเสื้อโค้ตให้แน่นขึ้นเพราะอากาศที่หนาวเย็นของรัสเซีย สถานที่ที่เขาจะไปอยู่ไม่ไกลจากที่นี่นัก ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะเดินไป อย่างไรเสียก็ไม่มีความจำเป็นต้องรีบร้อนอยู่แล้วนี่นะ แอกเนสตายไปแล้ว ไม่มีใครบนโลกนี้ล่วงรู้ว่าเขากำลังจะทำอะไร และแน่นอนว่าไม่มีใครสามารถเตือนดิมิทรี มิไฮโลวิชได้ด้วยว่าเขากำลังจะ ‘ไปเยี่ยม’ ถึงเซฟเฮ้าส์ที่กบดาน
เขากดรหัสผ่านตามที่แอกเนสบอกมาก่อนจะเดินเข้าไปในเซฟเฮ้าส์อย่างง่ายดาย เขารู้อยู่แล้วว่าเธอต้องรู้...เพราะว่าเธอคือผู้หญิงของดิมิทรี คนเดียวที่ดิมิทรีมักจะเรียกให้ไปหาเสมอ และแล้วประวัติศาสตร์ก็ซ้ำรอยเดิม แม้แต่มาเฟียรัสเซียผู้ยิ่งใหญ่ก็ยังต้องพ่ายแพ้เพราะผู้หญิง เหมือนผู้นำอีกหลายคนในอดีต
(ติดตามอ่านต่อได้ในฉบับเต็ม)