Love Plan แผนวุ่นชุลมุนรัก
ประหยัด: 69.65 บาท ( 35.00% )
มีสินค้ามือสองอยู่จำนวน : 4 รายการราคา 90.00 บาท - 130.00 บาท ซื้อสินค้ามือสอง
Quick View
เนื้อหาบางส่วน
บทที่ 1
เคยมีคนบอกฉันว่าคนเราถ้ามีความกตัญญูรู้คุณคน ยังไงซะก็จะเป็นผู้เจริญ...
ใช่แล้ว!! เจริญเจริญมากเลย เจริญจนต้องมาปวดกบาลอยู่นี่ไง ก็ใครจะไปคิดล่ะ ว่าการที่คุณป้ารับฉันมาอุปการะหลังจากที่พ่อกับแม่เสียชีวิตไปเพราะเรือล่มที่ร้อยเอ็ดเมื่อหกเดือนที่แล้ว จะกลายเป็นสาเหตุที่ทำให้ฉันทุกข์ทรมานใจอย่างกับปลาไหลในคลองแสนแสบ
ตั้งแต่ที่ฉันเหยียบย่างเข้ามาในบ้างหลังนี้ บ้านที่มีคุณป้า (จอมลำเอียง) กับยัยลูกสาว (เอาแต่ใจ) ฉันก็ไม่เคยได้อยู่อย่างสงบสุขในบ้านเลยสักครั้ง ต้องมีเหตุให้ได้ทดแทนบุญคุณกันตลอดเวลา เหอะๆ สงสัยยัยป้านั่นกลัวว่าอนาคตฉันจะไม่เจริญ เลยหาเรื่องให้กตัญญูกันซะให้เต็มที
แต่นี่มันก็เกินไปแล้วนะ!!! มาสั่งให้ฉันทำนู่นทำนี่ ตั้งแต่โกยขี้หน้าบ้านยันไปตามล่าหาเจ้ามือหวยที่ชิ่งเงินหมื่นหนีไปเชิ้บๆ ฉันไม่ใช่เทศบาล กทม. นะเฟ้ย แล้วไอ้งานล่าสุดที่ฉันได้รอบมอบหมายมายิ่งแล้วใหญ่ แค่ได้ฟังเงื่อนไขก็แทบจะออกไปรำดาบถวายรอบหมู่บ้านซะให้รู้แล้วรู้รอด
“ทำไมไม่สั่งให้หนูไปกู้ระเบิดที่สามจังหวัดชายแดนซะเลยล่ะคะ คุณป้าขา หนูอยากตาย”
“เกิดอะไรขึ้นเยลลี่ มาเอะอะโวยวายอยู่แถวนี้ทำไม”
อุ๊ย! สงสังแนจะคิดดังเกินไปหน่อย พี่เอซเลยได้ยินจิตด้านมือของฉันเลยอ่ะ แย่ๆๆ
อ้อ! ลืมแนะนำ เยลลี่ก็คือฉัน ส่วนพี่เอซคือหวานใจของฉันเองแหละ ฮิๆ (เขิน) ฉันรู้จักกับพี่เขามาประมาณหกเดือนได้ (ก็ตั้งแต่ย้ายมาน่ะแหละ) แต่เพิ่งคบกันฉันคนรักได้แค่สองเดือนเศษๆ เท่านั้น พี่เอซเป็นพี่ชายข้างบ้าน หรือบางครั้งฉันก็ชอบเรียกเขาเองว่า ‘เจ้าชายข้างบ้าน’ เพราะบุคลิกมาดนิ่ง ขรึม แต่อบอุ่นและอ่อนโยนไม่เหมือนใคร ทำให้ฉันสรุปเอาเองว่าเขาคือเจ้าชายลียูคภาคประเทศไทยที่เป็นของฉันคนเดียว อะฮ้า!
ป.ล. ถ้าเย็นชากว่านี้หน่อยก็เป็นเจ้าชายลีชินได้แล้ว แต่คล้องกันดีนะ เย็นชากับเยลลี่ ฮิ้ว
“ไม่สบายหรือเปล่าเยลลี่ เดี๋ยวก็โวยวาย เดี๋ยวก็ยิ้มตาหวานทำตาเยิ้มเป็นเลขแปด ไปหาหมอหน่อยไหม”
คราวนี้พี่เอซถึงกับเดินปรี่เข้ามาประชิดติดขอบรั้วอย่างรวดเร็ว พลางชะโงกหน้ามามองใกล้ๆ เพื่อพินิจพิเคราะห์อาการอย่างกับเป็นหมอซะเอง
รักทุกช่วง ห่วงทุกระยะ นี่ล่ะคติประจำใจของพี่เอซ
“เยลลี่ไม่ได้บ้านะ แต่ใกล้จะบ้าเต็มทีแล้วเพราะคำสั่งพิลึกกึกกือของพี่โดนัทกับคุณป้านั่นแหละ!!!”
“ทำไม หรือโดนสั่งให้ไปซื้อเนื้อลูกแกะตายในท้องแพะมาประเคนให้พี่สาวเรา”
“ไม่ใช่ค่ะ มันเลวร้ายกว่านั้น”
“อืม... งั้นก็ให้ไปงมบ่อปลาทูหาปูเค็มมาตำส้มตำใช่ไหม”
“ไม่ใช่อีกนั่นแหละค่ะ”
“งั้นก็...”
“พอเถอะค่ะ ไม่ต้องเดาแล้ว พี่เอซเอานี่ไปดูดีกว่า” ฉันรีบส่งหนังสือพิมพ์ในมือให้พี่เอซก่อนที่เขาจะเดาอะไรประหลาดๆ ออกมาอีก “เพราะเรื่องนี้แหละค่ะ ถึงทำให้เยลลี่กลุ้มใจแทบเป็นบ้า”
“ไหน...” พี่เอซรับหนังสือพิมพ์ไปกางดูโดยเร็ว “เอ จริงเหรอ ทำไมพี่ไม่เห็นรู้เรื่องเลย ข่าวมาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย”
“เมื่อเช้าค่ะ แต่เยลลี่ได้รับคำสั่งเมื่อช่วงบ่ายนี้เอง”
“โอ้โห! ป้าใจร้ายฆ่าหลานสาวตายสยองสองศพ เหตุเพราะขาดสติที่โดนโกงจนหมดตัว นี่เยลลี่กลัวว่าจะถูกฆ่าเหมือนกันใช่ไหม”
เวร! ไปสนใจอะไรตรงนั้น ไม่ตลกเลยนะ แง
“ไม่ใช่ค่ะพี่เอซ!! ไม่ใช่ข่าวฆาตกรรมนั่น แต่เป็นเรื่องพี่โดนัทกับอีตาไฮโซที่ชื่อไฟร์สอะไรนั่นต่างหาก เขาเลิกกันแล้วนะคะ เมื่อเช้านี้เอง ดูสิคะเนี่ย ตรงนี้ๆ” ฉันชี้ทางสว่างให้กับพี่เอซชัดๆ
‘เลิกแล้วจ้า!! หนุ่มหล่อไฮโซชื่อดังไฟร์ส พลิศร์ และวีเจสาวสวยสุดฮอตโดนัท ดารานัท ทั้งคู่คงได้สวมคอนเวิร์สกันอย่างเป็นทางการแล้วแน่ๆ หลังจากมีนักข่าวได้ภาพปาปารัซซีของไฮโซหนุ่มกับวีเจสาวหน้าใหม่หัดเปรี้ยวอย่างน้องโอปอล ปรมา ขณะไปสวีทกันที่ภัตตาคารหรูย่านสีลม แว่วมาว่างานนี้วีเจสาวเสียน้ำตาไปหลายโอ่ง แต่ยังปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งสิ้น’
“อะไรกัน หมอนั่นมีผู้หญิงอื่นอีกแล้วเหรอ แบบนี้พี่สาวเราจะว่ายังไงล่ะเนี่ย” พี่เอซเงยหน้าขึ้นถามแทบจะทันทีที่ฉันจิ้มนิ้วลงไปตรงข่าวนั้น
“นี่แหละค่ะปัญหาที่เยลลี่กำลังเผชิญหน้าแบบระยะประชิดอยู่ในขณะนี้”
“พี่ยังไม่เข้าใจอยู่ดี” พี่เอซขมวดคิ้ว “สองคนนั้นเลิกกันแล้วเกี่ยวอะไรกับเราด้วยล่ะ”
“ก็คำสั่งเพื่อเอาใจพี่โดนัทของคุณป้ามีด้วยกันสองข้อ หนึ่ง เยลลี่ต้องทำยังไงก็ได้ให้อีตาไฟร์สกับยัยโอปอลเลิกกัน และสอง เยลลี่ต้องทำให้อีตานั่นกลับมารักพี่โดนัทเหมือนเดิมให้ได้!!!”
“เกินไปหรือเปล่า ไม่เห็นต้องลงทุนทำขนาดนั้นเลยนี่”
ว่าแล้วพี่เอซต้องคัดค้านสุดตัว ใครจะยอมก็บ้าแล้วล่ะ ฉันเองยังไม่อยากจะทำเลย
“งานสองงานนี้กับค่าเทอมและเงินค่าใช้จ่ายอีกหลายเดือนของเยลลีนะคะพี่เอซ เยลลี่จะทำยังไงดี อีกไม่กี่วันก็ต้องเอาเงินไปจ่ายที่มหา’ลัยแล้ว แต่คุณป้าไม่ยอมให้ ท่านบอกว่าต้องรับปากแล้วทำงานนี้ให้สำเร็จก่อน ฮือๆ” ฉันเริ่มคร่ำครวญด้วยความอัดอั้นตันใจ
ทำไมอะไรๆ ก็ต้องมาตกที่ฉันเป็นคนรับกรรมทุกที ทำไมฉันจะต้องแบกภาระชีวิตเฮงซวยของพี่โดนัทด้วย อีกหน่อยถ้ามีลูกฉันคงต้องไปทำคลอดให้สินะ แล้วไอ้ตอนทำลูกจะต้องให้ฉันไปช่วยด้วยหรือเปล่าเนี่ย
โอย...แค่คิดก็อยากจะบ้าตายแล้ว ปวดหัวๆๆ ที่ซู้ดดด
“ค่าเทอมมันสักเท่าไหร่แล้วกันล่ะเยลลี่” พี่เอซเอ่ยปากถามหลังจากเงียบไปพักใหญ่
“พอเลยค่ะพี่เอซ รู้นะว่าคิดอะไรอยู่ เยลลี่ไม่ได้ต้องการให้พี่ช่วยเรื่องเงินนะคะ แต่อยากให้ช่วยคิดว่าทำยังไงดีสองคนนั้นถึงจะกลับมารักกันเหมือนเก่า”
“ให้พี่ช่วยเรื่องเงินคงง่ายกว่า”
“ไม่เอาค่ะ ยังไงเยลลี่ก็จะไม่พึ่งพี่เรื่องเงินเด็ดขาด นี่มันตั้งหลายหมื่นนะคะ เฮ้อ สงสัยงานนี้คงต้องคิดเองทำเองหมดแล้วเรา จะไหวหรือเปล่าก็ไม่รู้”
พี่เอซเอื้อมมือข้ามกำแพงบ้านมาแตะบ่าฉันเบาๆ
“พี่เป็นห่วงเธอนะ ไม่ว่าจะทำอะไรต้องมาปรึกษาพี่ก่อน เข้าใจไหม พี่จะไม่ยอมให้เธอทำอะไรบุ่มบ่ามตามลำพังเด็ดขาด!”
ฉันกำลังจะตอบกลับแต่ก็ต้องสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงดังมาจากด้านหลัง
“เยลลี่!”
“คะ” ฉันตอบกลับอัตโนมัติประหนึ่งเป็นโอเปอเรเตอร์มือถือดีทอกซ์ แล้วรีบหันขวับไปมองต้นเสียงทันที “พี่โดนัทมีอะไรเหรอคะ”
“ฉันบอกให้เริ่มงานให้เร็วที่สุดไง อย่ามัวแต่ผลาญเวลาไปกับเรื่องไร้สาระล่ำลากันอยู่เลย ไม่ได้ให้ไปออกรบสักหน่อย รีบๆ ไปจัดการได้แล้ว” พี่โดนัทปรายตามาทางฉันกับพี่เอซอย่างไม่พอใจ
อะไรฟะ! ตัวเองอกหักแล้วมาพาลคนอื่นเขา พี่โดนัทนี่อะไรก็ดีหรอก เสียแค่นิสัยเท่านั้นแหละ ถ้าเลิกเอาแต่ใจกับพูดจาประชดประชันให้น้อยลงได้บ้างนะ จะน่ารักขึ้นเยอะเลย
“เธอคิดอะไรอยู่น่ะโดนัทถึงให้เยลลี่ไปทำอะไรไม่เข้าท่าแบบนั้น” พี่เอซโพล่งขึ้นทันที ท่าทางแข็งกร้าวอย่างพร้อมจะปกป้องฉันเต็มที่
“นี่มันเรื่องในครอบครัว ไม่ใช่ธุระกงกานอะไรของคนอื่น!”
พี่โดนัทเน้นคำว่า ‘คนอื่น’ ชัดเจนก่อนสะบัดหน้าพรืด แล้วเดินหนีไปอย่างไม่ไยดีเหมือนนางร้ายในละคร
โอ๊ย...คนอะไรมันจะสวย เริ่ด เชิด หยิ่งได้ขนาดนี้ อย่าให้ฉันไดเอ็ทได้ผอมเพรียวเรียวลมสมส่วนแบบนั้นบ้างนะ แม่จะเงยหน้ามองหาอุกกาบาตทุกวันไม่หันมองใครเลย คอยดู๊!
“งั้นเยลลี่ไปก่อนนะคะพี่เอซ มีอะไรคืบหน้ายังไงจะมาบอกพี่อีกทีนะ”
ฉันกล่าวลาพี่เอซด้วยสีหน้าเซื่องซึมเป็นหมาเหงา เขามีทีท่าเหมือนจะเอ่ยปากคัดค้าน แต่ฉันรีบชิ่งออกมาก่อนเพราะกลัวว่าพี่เอซจะพยายามหว่านล้อมให้ฉันใจอ่อนยอมรับข้อเสนอของเขาจนได้
ไม่ๆๆ พี่เอซช่วยเหลือฉันมามากพอแล้ว ต่อไปนี้ฉันจะจัดการปัญหาของฉันด้วยตัวเองสักที!
โครม!!!
ฉันยกนิตยสารทั้งหมดที่มีในบ้านมากองไว้บนพื้น แล้วจัดการฉีกออกเฉพาะหน้าที่มีเรืองของอีตาไฮโซไฟร์สอะไรนั้น อ้อ! ไม่สิ รวมไปถึงเรื่องของยัยโอปอลจอมก๊อปปี้แห่งวงการบันเทิงด้วย
ยัยนั่นน่าเกลียดชะมัด ดูก็รู้ว่าพยายามจะเลียนแบบและกะเอาชนะพี่โดนัททุกสิ่งทุกอย่าง แม้แต่ขนาดหน้าอกยังอุตส่าห์ไปอัพเกรดซิลิโคนมาใหม่ให้ใหญ่บึ้มกว่าพี่โดนัท กระแดะเป็นบ้า อึมเฉพาะส่วนอย่างน่ารังเกียจ ไม่รู้จะเป็นดาวรุ่งหรือดาวแรดกันแน่ คนอะไรไม่มีความคิดเป็นของตัวเอง แม้แต่แฟนยังต้องมาใช้ร่วมกับคนอื่น
ชิชะ! ฉันขอแช่งให้ซิลิโคนมันย้วยไหลลงมากองรวมกันที่เท้าเป็นเต้ายายปริกไปเลย เจ็บใจน้ากกกก
แกรก แกรก
ฉันผูกผ้าไว้ที่หัวประหนึ่งเด็กเอ็นท์ใหม่พลางจัดการรวบรวมข้อมูลทั้งหมดที่ได้มาจดลงในกระดาษ แล้วก็เริ่มร่างแผนการเป็นฉากๆ เพื่อที่จะหาเรื่องใกล้ชิดนายไฟร์สจอมเจ้าชู้นั้นให้ได้
เอาล่ะ! ปฏิบัติการตามติดชีวิตไฮโซกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว
ปฏิบัติการขั้นที่หนึ่ง : เป่าหู กู้วิกฤต
ตอนนี้ฉันมาสิงสถิตอยู่ที่ร้านกาแฟแสตมป์บัค ซึ่งในหนังสือโอ้โหไฮโซระบุไว้ว่าช่วงเวลาประมาณหกโมงเย็น ถ้าไม่มีธุระอะไรเร่งด่วน อีตาไฟร์สมักจะมานั่งจิบกาแฟเหล่สาวอยู่ที่นี่ เพราะงั้นฉันต้องมานั่งประจำการเอาไว้เพื่อรอให้
เหยื่อเสด็จมา
อาวุธของฉันมีเพียงแค่หนังสือพิมพ์หนึ่งฉบับกับปากที่เคลือบด้วย ลิปสติกที่ชมพูแปร๋นแหลน และแว่นกันแดดอันโตเท่าฝาหม้อเพื่อใช้อำพรางหน้าตาเพียงเท่านั้น เพราะจอมโจรย่อมไม่เปิดเผยใบหน้าที่แท้จริงเด็ดขาด แม้ว่าจะยังไม่ได้ลงมือขโมยอะไรก็ตาม
ไงล่ะ...เฉียบคมมั้ย (เพิ่งคิดได้เมื่อกี้)
ตึก ตึก ตึก
อ๊ะ! เสียงคนกำลังเดินมา จะใช่อีตานั่นหรือเปล่านะ
ฉันรีบยกหนังสือพิมพ์ขึ้นมาบังหน้า แล้วแอบส่องสายตาผ่านรูเล็กเท่าไข่แย้ที่เจาะไว้กลางรอยพับหนังสือพิมพ์ ‘O’
โอ๊ะโอ! ผู้ชายที่กำลังเดินมาใส่เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีน้ำเงิน กางเกงสแล็คสีดำ สวมรองเท้าหนังและนาฬิกาที่แค่เห็นภายนอกก็รู้ว่าแพงระยับ ใบหน้าหล่อเข้มคมคาย ผิวพรรณขาวเนียนตามประสาลูกผู้ดีมีตระกูลทั่วไป ทรงผมซอยทั้งหัวสไตล์หนุ่มนักเรียนนอกที่ชอบแหกกฏ ลักษณะเพอร์เฟ็กต์ทุกประการแบบนี้จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากอีตานั่นคนเดียวเท่านั้น
ไฟร์ส... พลิศร์ อิศรานุวัฒน์!!!
อ๊ากกกกก หล่อจะเป็นลม ขอยาดมให้ข้อยด้วยยย
เขาเดินมาทรุดนั่งลงที่โต๊ะข้างๆ ฉัน หยิบกระเป๋าขึ้นมาเปิดและเอาโน้ตบุ๊ครุ่นใหม่ล่าสุดออกมากาง เล่นเอาฉันน้ำลายแทบหกอยากจะเป็นโจรขึ้นมาจริงๆ ซะเดี๋ยวนั้นเลย เอ๊ะ! หรือฉันจะเปลี่ยนแผนเป็นลักพาตัวอีตานี่แทนดีนะ จะได้เรียกสักสองล้านไปซื้อบ้านแล้วตั้งตัว มีชีวิตใหม่ไปเลย ไม่ต้องรอใบบุญเศษเงินเศษทองจากใครอีก อืม น่าคิดๆ
“ขอ Hot Cappuccino Mix Vodka Decafe แก้วนึง”
อีตาไฟร์สเงยหน้าสั่งกาแฟอะไรก็ไม่รู้ที่ฉันไม่รู้จัก เลยต้องเหลือบมองไปที่ป้ายหลังเคาน์เตอร์นิดหนึ่งเพื่อเช็คราคา ทำให้ช็อคตาเหลือจนน้ำเปล่าแทบพุ่งออกมาจากปาก (ไม่มีตังค์สั่งกาแฟ)
(ติดตามอ่านต่อได้ในฉบับเต็ม)
รีวิว (1)

28/08/2014
Love Plan แผนวุ่นชุลมุนรัก นิยายเรื่องนี้เป็นผลงานในโปรเจควาเลนไทน์เมื่อหลายปีมาแล้วแหละค่ะเรื่องนี้จำได้ว่าออกเป็นเซตอ่ะค่ะเซตนี้เป็นนิยายที่ได้มีการจับคู่นักเขียนระหว่างแนวเลิฟซีรี่กับความรู้สึกดีที่เรียกว่ารักมาเขียนคู่กันค่ะโดยที่เล่มนี้เป้นเรื่องของพี่แสตมเบอรี่เขียนคู่กับคีตภัทรเราเคยอ่านเรื่องนี้เมื่อนานมาแล้วจำได้ว่าซื้อเก็บทั้งเซตเลยเพราะมีหลายเล่มมากๆนักเขียนหลายคนเขียนตอนนั้นนิยายโปรเจคนี้ดังมากๆค่ะเพราะเป็นการจับคู่นักเขียนมาเขียนนิยายร่วมกันให้ลงตัวแหมมมก็ลองคิดดูสินักเขียนแนวเลิฟซีรี่กับแนวความรู้สึกดีที่เรียกว่ารักอ่ะค่ะภาษาในการเขียนก็ต่างกันแล้วอ่ะค่ะสองแนวนี้ยิ่งต้องมาเขียนร่วมกันก็อาจจะต้องมีการปรับในเรื่องของภาษาที่ใช้ด้วยอย่างเรื่องนี้เป็นเรื่องราวของสองคู่สองสไตล์อ่ะค่ะพี่แสตมเขียนเรื่องหนึ่งคีตภัทรเขียนอีกเรื่องหนึ่งแต่เราชอบทั้งสองคู่เลยว่าน่ารักดีแต่พอพี่แสตมเบอรี่มาแต่งนิยายเรื่องนี้เราว่าแปลกดีอ่ะค่ะหมายถึงว่าเวลามีเขาแต่งนิยายคนเดียวอ่ะพี่เขาเป็นคนที่เขียนนิยายตลกแล้วก็สนุกอยู่แล้วคือมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองแต่พอต้องมาแต่งคู่กับแนวความรู้สึกดีที่เรียกว่ารักแนวนี้เขาเน้นเหตุการณ์สมจริงอยู่แล้วบวกกับภาษาที่ค่อนข้างเป็นทางการอ่ะค่ะก็เลยทำให้รู้สึกว่าเนื้อเรื่องของพี่แสตมเบอรี่ในเล่มนี้ค่อนข้างแตกต่างออกไปอ่ะค่ะแล้วก็มีอีกความคิดเห็นหนึ่งคืออันที่จริงเราว่าแบ่งออกเป็นสองเล่มเลยดีว่าเพราะว่านักเขียนสองท่านนี้แต่งนิยายกันคนละคู่อ่ะพอเอามารวมกันเราเลยมีความรู้สึกแปลกๆกับเนื้อเรื่องไม่งั้นก็เขียนเรื่องเดียวกัรคู่เดียวกันไม่ดีกว่าเหรอแอบงงฮ่าๆๆๆนิยายเรื่องนี้พระเอกนางเอกคู่ที่พี่แสตมเบอรี่แต่งก็ดูน่ารักดีค่ะเนื้อเรื่องสดใสสไตล์แจ่มใสเลิฟซีรี่ส่วนอีกคู่ที่คุณคีตภัทรแต่งเนื้อเรื่องภาษาก็ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นแต่ก็รู้สึกว่าลงตัวดีค่ะกับสองคู่แปลกดีได้มาอ่านนิยายแนวแบบนี้แล้วก็ไม่ได้อ่านแนวนี้อีกเลยรู้สึกว่าเป้นครั้งแรกและครั้งเดียวที่เอานักเขียนสองแนวมาเขียนรวมกันแล้วหลังจากนั้นก็ไม่เคยมีอีกเลยแต่ถ้ามีอีกยังไงก็จะอ่านค่ะอย่างไรก็ตามพี่แสตมเบอรี่แต่งนิยายเรื่องนี้ก็ยังคงความฮาของเนื้อเรื่องอยู่แม้ว่าจะไม่เหมือนกับตอนที่เขียนนิยายคนเดียวก็ต้องลองอ่านค่ะอันนี้แล้วแต่ความคิดเห็นคนอ่านมากกว่าแต่เราว่าก็โอเค