หนึ่งในคำตอบนั้น...ฉันรักเธอ (cookie)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786160601387
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 99.00 บาท 78.21 บาท
ประหยัด: 20.79 บาท ( 21.00% )

เนื้อหาบางส่วน

คุณไม่ต้องอ่าน How to หรอก เพราะผู้ชาย

ไม่ได้อ่าน เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันว่าไว้ยังไง

ผู้ชายแอบชอบที่คุณเป็นคุณนั่นล่ะ

 

ปกติแล้วฉันไม่ใช่คนนอนดึกเลย แต่คืนนี้ฉันกำลังหาใครสักคนมาช่วยแก้ปัญหาที่ทำให้สมองฉันหมุนติ้วอยู่ตอนนี้ ฉันหวังว่าหลังจากเอาเรื่องมาแปะในเว็บบอร์ดนี้แล้วจะมีใครสักคนช่วยฉันได้ก่อนที่ฉันจะสติแตกไปเสียก่อน เรื่องมันมีอยู่ว่า...

วันนั้น...วันที่เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องทั้งหมด ฉันเป็นบ้าอะไรก็ไม่รู้ มันโคตรเซ็งเลย จะทำงานต่อก็กลัวงานจะออกมาห่วยแตก เลยขอลางานครึ่งวันเพื่อกลับบ้านโดยไม่สนใจตาเขียวๆ ของหัวหน้าที่มองมา

ฉันเดินออกมารอรถเมล์เจ้าเก่าหน้าบริษัท ยืนรออยู่นานมาก...นานจนอดคิดไม่ได้ว่า ขสมก. ยกเลิกรถเมล์สายนี้ไปแล้วโดยไม่บอกฉันแน่ๆ ในขณะที่กำลังจะโทรถาม 184 ให้รู้เรื่อง มันก็บังเอิญโผล่หน้ามาให้ฉันเห็นพอดี คนบนรถไม่เยอะเท่าไรนัก ไม่เหมือนที่ฉันขึ้นรถตอนเย็น แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ยังไม่ได้นั่งอยู่ดี ตอนแรกฉันไม่ได้สังเกตหรอกว่ายืนอยู่ข้างใคร ไม่ได้มองเลยด้วยซ้ำ จนได้ยินเขาคุยโทรศัพท์เบาๆ (ก็เสียงมันลอยมาเข้าหูฉันเองนี่)

“รถจอดเสียอยู่หน้าบริษัทนั่นล่ะ ช่วยมาเอาไปทีนะ ขอบใจมาก” ฉันเหลือบไปมองหน้าเขาแล้วก็ต้องอึ้ง โอ้โห! ผู้ชายบ้าอะไรผิวขาวอย่างกับไข่ต้ม... ฉันเริ่มคิดหนักว่าควรจะยืนข้างเขาให้เป็นที่เปรียบเทียบดีไหมเนี่ย แต่แล้วเสียงแก๊บๆ ของกระบอกเก็บเงินก็ดังมาถึงข้างตัวเองก่อนที่ฉันจะทันได้เดินหนีหายไข่ต้มคนนี้ไป ฉันจ่ายเงินค่ารถแล้วก็มองข้างทางไปเรื่อย

“เอ่อ...ไปโรงแรม...เท่าไหร่ครับ”

“สิบแปดบาท”

“ฮะ!’ เสียงอุทานของเขาเรียกให้ฉันหันไปมอง เขากำลังชะงักการหยิบเงินออกจากระเป๋าสตางค์ ฉันเหลือบไปมองแล้วนึกในใจว่า งานนี้ได้เห็นกระเป๋ารถเมล์เอากระบอกเก็บเงินฟาดหัวคนแน่ๆ ก็เขากำลังหยิบแบงก์พันอยู่นี่นา ฉันเห็นเขานิ่งไปนิดก่อนจะตบลงไปตามกระเป๋าเสื้อกับกางเกง คงหวังว่าจะเจอเศษสตางค์บ้าง ยัยกระเป๋ารถเมล์คงเริ่มหงุดหงิดแล้ว เขย่าอุปกรณ์หากินใหม่ ตาก็เริ่มขวางช่างไม่สำนึกเลยว่ากำลังให้บริการอยู่ (ฉันรู้นะว่าพนักงานเก็บค่าโดยสารไม่ได้เป็นอย่างนี้ทุกคน เพราะพี่ๆ กระเป๋ารถเมล์ที่น่ารักๆ ฉันก็เคยเจอ)

ฉันเห็นท่าจะไม่ดี เขาคงไม่มีเศษสตางค์แน่ๆ ดูจากสีหน้าของเขาและอาการที่กำลังจะหยิบแบงก์พันส่งให้ โอย...ถึงหน้าขาวๆ ของเขาจะขึ้นกับสีแดงของเลือดก็เถอะ แต่ฉันไม่อยากเห็นเขาหัวแตกนักหรอก ฉันแพ้เลือด แค่นึกก็จะเป็นลมแล้ว เลยตัดสินใจหยิบแบงก์ยี่สิบส่งให้กระเป๋ารถเมล์ไป ซึ่งฝ่ายนั้นก็รีบไปอย่างไม่เกี่ยงงอน เขาทำท่าจะส่งเงินทอนสองบาทคืนให้ฉัน

“เก็บไว้เหอะ เผื่อต้องไปต่อสองแถว” ก็ฉันแอบได้ยินนี่นาว่าเขากำลังจะไปโรงแรม... แล้วโรงแรมนั่นจากป้ายรถเมล์ถ้าไม่เดินเข้า (ไกลมาก) ก็ต้องขึ้นรถสองแถว เขาเก็บเหรียญลงกระเป๋าอย่างว่าง่าย

“ขอบคุณมาก ผมจะคืนให้คุณได้ยังไง”

ฮั่นแน่! ฉันเหล่มองเขา กะขะเบอร์ติดต่อฉันล่ะสิ

“ไม่ต้องหรอก ให้...” เกือบหลุดปากไปว่า ‘ให้ขอทานยังเยอะกว่านี้’ แต่กลัวโดนเขาชกเอา เลยเปลี่ยนคำพูดให้ตัวเองดูดีขึ้นหน่อย “เงินเล็กน้อย”

เขายิ้มให้ แต่ฉันเมินกลับ อ้าว...ก็ฉันเป็นคนกรุงเทพฯ นี่นา ก็ต้องถือธรรมเนียมของคนกรุงเทพฯ ไว้น่ะสิ ที่ว่า ‘ยิ้มให้ไม่ยิ้มตอบ ดีชอบไม่ตอบแทน แต่ถ้าร้ายให้ร้ายแสน ให้เหมือนแม้นที่ทำมา’

กลิ่นหอมอ่อนๆ ลอยมากระทบจมูก ทำให้ต้องหันกลับไปมองอีกครั้ง อ้อ...กลิ่นคงมาจากผ้าเช็ดหน้าของเขาล่ะมั้ง เพราะเขาควักมันออกมาซับหน้าขาวๆ ของเขาอยู่ ฉันเห็นเหงื่อเขาแล้วรู้สึกรำคาญแทน เลยเอื้อมมือไปปรับแอร์สำหรับคนยืนให้หันมาทางเขา (ใครนึกภาพไม่ออกแสดงว่าไม่เคยขึ้นรถเมล์ ขอแนะนำให้ไปขึ้นเป็นเกียรติแก่ชีวิตสักครั้งหนึ่ง ช่วงเวลาแนะนำคือ ก่อนแปดโมงเช้าถึงประมาณเก้าโมง และหลังห้าโมงเย็นเป็นต้นไป คุณจะขึ้นรถเมล์ได้สะดวกสบายและสนุกสนานมาก)

“ขอบคุณมาก” เสียงเขาดังมาอีก ฉันพยักหน้ารับอย่างอยากจะให้หมดเวรหมดกรรมกันไปเสียที แต่เขาไม่ยอมแฮะ เอื้อมมือไปชี้แอร์ที่อยู่เหนือเก้าอี้นั่ง “แล้วอันนี้ล่ะ”

มือเจ้ากรรมมันไวกว่าความคิด ซัดเผียะลงไปบนมือขาวๆ ไม่แพ้หน้านั่น ปากไวตามมือมาเป็นที่สอง

“อันนั้นมันของคนนั่ง อย่าสะ...” อุ๊บ! ดีนะที่ยั้งคำว่า ‘อย่าสันดานเสีย’ ไว้ได้ทัน ไม่อย่างนั้นฉันอาจจะหัวแตกจากฝีมือเขาก็เป็นได้ ฉันคงเก็บกดจากการที่เห็นคนยืนบางคนชอบเอื้อมมือมาปรับเอาแอร์ของคนนั่งไป ถึงจะได้นั่งสบาย แต่นั่งทนร้อนในรถแอร์เนี่ย มันไม่เวิร์กหรอกนะ จำไว้ด้วยพวกสัน...อุ๊บ!

ฉันก็นึกว่าช่วยสงเคราะห์เขาจนครบก็น่าจะต่างคนต่างยืนได้แล้วนะ ที่ไหนได้...

เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นเล่นเอาฉันสะดุ้งเฮือก รีบควานหาเจ้าตัวการที่กำลังแผดเสียงลั่นอยู่ในกระเป๋าสะพายใบใหญ่ ...โอ๊ย! ให้ตาย สาบานได้ว่าฉันไม่เคยทำกระเป๋ารกเลยนะ แล้วข้าวของเละเทะพวกนี้มันอะไรกัน... หวี ทิชชู แป้งพัฟ กระเป๋าสตางค์ และ ฯลฯ เฮ้ย! มือถือหายไปไหนวะ... เสียงมันก็ดันเงียบไปแล้ว

เอี๊ยด!!! (เสียงรถเบรกกะทันหัน”

“เฮ้ย!” (อันนี้ฉันอุทาน ก็ฉันไม่ได้ยึดอะไรไว้เลยนี่นา)

ตุ้บ! (เสียงนี้ฉันเซไปชนอะไรเข้าสักอย่าง)

ฉันหันหน้ามองออกไปที่หน้ากระจกรถ เห็นตัวการเป็นมอเตอร์ไซค์กำลังขี่ปาดไปปาดมาอยู่

“ไอ้เฮงซวยเอ๊ย!” คำนี้ฉันพูดเองแหละ เกลียดจริงๆ พวกมอเตอร์ไซค์ผาดโผนในกรุงเทพฯ นี่ (คนขี่มอเตอร์ไซค์ดีๆ ก็มี ฉันรู้ แต่วันนั้นฉันเจอแบบนี้นี่นา) ฉันเงยหน้าขึ้นมอง ...เฮ้ย! ทำไมอีตาหน้าไข่ต้มถึงมาอยู่ใกล้ฉันขนาดนี้ล่ะ อ้อ ตอนฉันเซมา เขาคงรับไว้ ต๊าย! งั้นเขาก็กอดฉันอยู่น่ะสิ

(ติดตามอ่านต่อได้ในฉบับเต็ม)


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (63 รายการ)

www.batorastore.com © 2024