Playboy Helper มือขวาวายร้ายจอมทะเล้น

Playboy Helper มือขวาวายร้ายจอมทะเล้น

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786160606801
ผู้แต่ง: โมจ๊ะ เดจจุ๊
มีสินค้าในสต็อค
ราคา: 159.00 บาท 39.75 บาท
ประหยัด: 119.25 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

บทนำ

เป๋าหมายกำลัง'ใกล้เข้ามาแล้ว...อีกนิดเดียว...อีกนิดเดียวเท่านั้น เอาล่ะ...ใจเย็นเข้าไว้ฟูฟอง สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ บ..บ ฟืดดด

ฮ่า­

นั่นไง มาแล้ว!

พึ่บ!

ฉันกระโดดเข้าไปขวางหน้ากลุ่มนักศึกษาชายที่มีอยู่ประมาณห้าหก คนเห็นจะได้ พวกเขาสะดุ้งและผงะไปเล็กน้อยกับการปรากฏตัวของผู้หญิง แปลกหน้าอย่างฉันที่โผล่ออกมาจากซอกกำแพง

"เฮ้ย เล่นบ้าอะไรของเธอเนี่ย เห็นมหา,ลัยเป็นโรงเรียนอนุบาล หรือไง" ผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้า'ฉัน,พูดขึ้น ระยะห่างของเราแทบจะเรียก ได้ว่าไม่มีเลยก็ว่าได้ (บางทีฉันคงกะระยะตอนกระโดดช้าไปนิดหนึ่ง) ฉัน จึงเดินถอยหลังออกมาสองสามก้าวเพื่อจะได้มองหน้าเขาได้อย่างถนัดตา อ่า...หล่ออ่ะ... >_< เขามีเส้นผมสีเข้มทอประกายน้ำเงินนิดๆ แววตา เหมือน,พวกเจ้าเล่ห์และ'ขี้เล่น"ไนบางเวลา คิ้วเข้มๆ ขมวดเข้าหากันจนยุ่งเหยิง จมูกโด่งเป็นสันทำให้ใบหน้าของเขายิ่งทวีความหล่อมากขึ้นไปอีก ริม'ฝีปาก

แ©

ที่ทำเพียงกระตุกยิ้มเล็กๆ ก็สามารถทำให้ผู้หญิงคล้อยตามได้...คนอะไร หล่อเหลือกินเหลือใช้จริงๆ แถมยัง...เป็นผู้ชายที่มีหน้าตาเหมือน 'คนคนนั้นจนแทบจะนึกว่าเป็นคนเดียวกันเสียอีก

"นี่เธอ...หรือว่าอยากจะสารภาพรักหมอนี่กันล่ะ อ่าๆ,, เพื่อนของ ผู้ชายผมสีเข้มทอประกายนํ้าเงินนิดๆ ถามฉันพลางยิ้มอย่างสนุกสนานกับ เพื่อนๆ ที่เหลือ

"หน้าตาสวยดี น่าสนนะเว้ย แกว่าไงวะดีลเลอร์" คุณผู้ชายหัวสีนํ้าตาล เกือบจะล้มผลักไหล่เพื่อนของเขา

งั้นเหรอ หมอนี่ซื่อ 'ดีลเลอร์, เหรอ

"นี่ๆ บอกไว้ก่อนนะเธอ หมอนี่น่ะมันโคตรเจ้าชู้เลย เดี๋ยวนํ้าตา เช็ดหัวเข่านะครับ AA เปลี่ยนมาเป็นฉันแทนมั้ย" เพื่อนเขาเตือน

"ถ้าหมอนี่ได้เธอแล้ว เธอจะมาเรียกร้องขอค่าเสียหายทีหลัง มัน ไม่รับผิดชอบนะบอกไว้ก่อน อ่าๆๆ ล่าสุดก็เป็นยัยนํ้าผึ้ง ดาวคณะนิเทศ ซะด้วยนะที่โดนทิ้งน่ะ,,

"เฮ้ย หุบปากได้แล้ว" เจ้าตัวที่กำลังโดนเพื่อนๆ เอาเรื่องนิสัยมา ขายอย่างสนุกปากก็หันไปแหวใส่ทันที

ฉันกวาดสายตาไล่มองเพื่อนๆ ของเขาที่ยืนหัวเราะกันคิกคักชอบใจ ที่ได้กลั่นแกล้งเพื่อนตัวเองจนครบทุกคน ก็พอจะสรุปได้แล้วว่าเขาคนนี้ เป็นผู้ชายประเภทไหน แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ไม่แคร์หรอก เพราะฉันตัดสินใจ แล้ว

"เธอ..." เหมือนเขาจะ'พูดอะไรกับฉัน

"ไปกับฉันได้มั้ย" ฉันเอื้อมมือไปจับมือของผู้ชายตรงหน้าอย่าง ถือวิสาสะ ก่อนจะล่งสายตาเว้าวอนไปให้ "ไปไหน"

"..." ฉันเงียบไปอึดใจหนึ่งแล้วพยายามจะรวบรวมความกล้าพูด ประโยคต่อไปออกไปให้ได้ "บะ...บ้านฉัน >_<///"

"บ้านเธอ?"

 

 
   
"ใช่ ไปที่บ้านของฉัน ไปกันแค่สองคน ฉัน...กับนาย"

 

"เฮ้ เธอได้ยินที่เพื่อนฉันพูดหรือเปล่า" เขาถามกลับ "ได้ยินสิ แต่...ไม่ว่ายังไงฉันก็อยากจะให้นายไปกับฉันไหได้...อย่างน้อย ก็ขอแค่วันนี้ลักวันหนึ่งก็ยังดี ได้หรือเปล่า"

"โอ้!ห...ใจกล้าไม่เบา ท่าทางจะเป็นสาวไฟแรงน่าดู" เสียงเพื่อนๆ ของเขาดังแทรก'ขึ้นมาอีกครั้ง แต่ฉันไม่ได้หันไปมอง เพราะฉันสนใจผู้ชาย คนนี้มากกว่า

ใบหน้าคมเข้มแสยะยิ้มที่มฺมปาก

"เธอเสนอมาเองนะ หึ" เขาตอบเพียงแค่นั้นก่อนจะเชยคางฉันขึ้น แล้วฝังจมูกลงมาที่แก้มของฉันเบาๆ อ่า...ฉันทำมันลงไปแล้วจริงๆ

1

อดีต

ย้อนกลับไปเมื่อสองปีก่อน

ในวันที่ฝนตกลงมาอย่างหนัก ฉันได้แต่มองออกไปนอกหน้าต่างด้วย ความรู้สึกไม่สบายใจอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ในมือกำโทรศัพท์มือถือไว้ แน่นจนเครื่องแทบจะแหลกคามืออยู่แล้ว 'ทำไมยังไม่กลับบ้านอีก...มือถือก็ปิด!,

ฉันพึมพำออกมาอย่างกระวนกระวายและยกมือข้างหนึ่งขึ้นกุมขมับ 'คุณฟองใจเย็นๆ ก่อนสิคะ ฝนตกอาจจะทำให้รถติดก็ได้นะคะ' แม่บ้านพูดขึ้นมา ทั้งๆ ที่สีหน้าของเธอเองก็ไม่ค่อยสู้ดีเหมือนกัน แตกยัง พยายามจะพูดเพื่อให้ฉันสบายใจ

'ต่อให้รถติดแค่ไหนก็เถอะ! แต่น่ามันตีหนึ่งแล้วนะ! ปกติสี่ทุ่มน้อง ก็กลับถึงบ้านแล้ว นึ่มันจะไม่นานเกินไปหน่อยเหรอ! โทรไปที่เรียนพิเศษ เขาก็บอกว่านักเรียนกลับไปหมดตั้งนานแล้ว! โทรไปหาเพื่อนน้องคนไหน ก็บอกว่าไม่ได้อยู่ด้วย! ให้ตายเถอะ! ยัยนั่นมัวไปทำอะไรอยู่ที่ไหนกันแน่ นะ!!!' ฉันหันไปตะคอกโวยวายใส่แม่บ้านอย่างหัวเสีย


 

น้องสาวของฉันที่ตอนนี้เรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่สี่ ปกติทุกวันศุกร์ จะมีเรียนพิเศษต่อหลังเลิกเรียนเสมอ เลิกเรียนก็สามทุ่มกว่าๆ แต่ฉันก็ ไม่ได้ว่าอะไรเพราะยังไงแฟนของยัยนั่นก็มักจะมาส่งที่บ้านเป็นประจำอยู่ แล้ว เอ๊ะ เดี๋ยวนะ...แฟนเหรอ...นี่ฉันลืมไปได้ยังไง! ฉันยังไม่ไดโทรไปหา หมอนั่นเลยนี่!

ทันทีที่นึกชั้นมาได้ก็เกิดความหวังในใจชั้นมา บางทีน้องสาวของฉัน อาจจะอยู่กับแฟนเธอก็ได้ ฉันรีบยกโทรศัพท์มือถือชั้นกดหาเบอร์ของการ์เน็ต ทันที

ตรู๊ด...ตรู๊ด...ตรู๊ด...

(ว่าไงครับพี่ฟอง) ปลายสายกรอกเสียงเข้ามา 'การ์เน็ต! ตอนนี้หอมฟังอยู่กับนายหรือเปล่า,

(ฟังเหรอ...อ้าว วันนี้ฟังไม่ได้บอกพี่เหรอครับว่าผมไม่ว่างไปรับเพราะ ติดธุระกับที่บ้าน...เอ๊ะ อย่าบอกนะว่าตอนนี้ยัยนั่นยังไม่ได้กลับบ้าน!!!) ปลายสายเปลี่ยนจากน้ำเสียงนุ่มๆ สบายๆ เป็นตะคอกใส่ฉันแทน นั่นทำให้ ฉันรู้ทันทีว่าหอมฟังไม่ได้อยู่กับการ์เน็ต

ถ้างั้นแล้ว...เธอไปอยู่ที่ไหนกันแน่'ฟัง...เธอทำให้พี่ไม่สบายใจเลย

นะ...

กริ๊งงง...กริ๊งงง...กริ๊งงง...

'คุณฟองคะ โทรศัพท์บ้านด้งค่ะ อาจจะเป็นคุณฟังก็ได้นะคะ' แม่บ้าน

บอก

เป็นหอมฟังเหรอ...ปกติยัยนั่นไม่เคยโทรเข้าบ้านนี่ แต่ช่างเถอะ! มัน ใช่เวลาจะมาคิดเล็กคิดน้อยซะที่ไหนล่ะ

'แค่นี้ก่อนนะการ์เน็ต ไว้เดี๋ยวพี่จะโทรกลับไปอีกที' ฉันบอกก่อนจะ กดตัดสายแล้ววิ่งไปยังเครื่องโทรศัพท์บ้าน ยกหูรับสายทันที 'ฮัลโหล!!!' (สวัสดีครับ นั่นใช่บ้านของคุณฟังฟ้า นิรนันทราหรือเปล่าครับ) เสียงของชายวัยกลางคน...?

'ใช่ค่ะ...ฉันเป็นพี่สาวของเด็กคนนั่นเอง ไม่ทราบว่าคุณ...'

(ผมโทรมาจากโรงพยาบาลนะครับ)

 

'ระ...โรงพยาบาล <ว_๐! น้องสาวฉันเป็นอะไรเหรอคะ!,

(ตอนนี้หมอกำลังตรวจร่างกายเธออยู่น่ะครับ ผมพบเธอนอนสลบอยู่ แถวๆ ริมทางสวนสาธารณะน่ะ ส่วนสาเหตุที่หมดสติไป...ผมว่ามาฟังที่ โรงพยาบาลดีกว่าครับ ยังไงก็ฝากบอกคุณพ่อคุณแม่ของคุณด้วยแล้วกัน ว่าให้มาที่โรงพยาบาล...) ปลายสายบอกซื่อโรงพยาบาลให้ฉันรู้ก่อนจะ วางสายไป

'คุณฟองคะ, แม่บ้านส่งเสียงเรียกฉัน 'อึ?'

'ใช่คุณฟังหรือเปล่าคะ'

'หอมฟัง...ตอนนี้อยู่โรงพยาบาลน่ะ'

'เอ?,

'นั่นแหละ ยังไงฟองขอตัวก่อนแล้วกัน'

ฉันบอกก่อนจะรีบเดินไปที่หน้าบ้านเพื่อสตาร์ตรถทันที เฮ้อ...ให้ตายเถอะยัยฟัง...ขออย่าให้เป็นอะไรไปเลยนะ ถ้าเธอเป็น อะไรไป พื่คงไม่เหลือใครอีกแล้ว...พระเจ้าคะ...ได้โปรดคุ้มครองสมาซิกเพียง คนเดียวที่เหลืออยู่ในครอบครัวของลูกด้วยเถอะค่ะ

เมื่อมาถึงโรงพยาบาล ฉันก็รีบตรงไปยังห้องพักผู้ป่วยรวมทันที เพราะ ก่อนหน้าที่ฉันจะออกจากบ้าน ทางโรงพยาบาลได้โทรมาที่บ้านอีกครั้งและ บอกว่าตรวจร่างกายน้องฉันเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้พักรักษาตัวอยู่ที่ห้อง ผู้ป่วยรวม

ฉันหันซ้ายหันขวาก่อนจะเห็นร่างบางที่คุ้นตานอนหลับใหลอยู่บน เตียงซึ่งไม่ห่างจากจุดที่ฉันยืนอยู่มากนัก ข้างเตียงนั่นมีตำรวจยืนอยู่ด้วย 'ฉันเป็นพี่สาวของเด็กคนนี้ค่ะ! เกิดอะไรนั้นกับน้องสาวฉันเหรอคะ แล้วตอนนี้เธอปลอดภัยหรือยัง!' ฉันเดินเข้าไปบอกคุณตำรวจอย่างหน้าตาตื่น พร้อมกับจับแขนเขาไว้แน่น พลันนํ้าตาก็ไหลออกมา

ใจเย็นก่อนนะครับ...แล้วนี่ผู้ปกครองของคุณไม่ได้มาด้วยเหรอ' 'ฉันนี่แหละเป็นผู้ปกครองของเธอค่ะ' ฉันว่าพลางปาดคราบนํ้าตา

ออก

'อ๋อ ครบ...'

'ช่วยบอกทีเถอะค่ะ ทำไมน้องสาวฉันถึงมาอยู่ในสภาพนี้'

'คือว่า...' เขาเงียบไปอึดใจหนึ่ง 'ผมพบน้องของคุณขณะที่เธอถูก ชายคนหนึ่งทำมิดีมิร้าย...'

'มะ...หมายความว่ายังไงคะ คุณหมายถึง...น้องสาวของฉันถูก... ข่ม...ขืน...เหรอคะ' ฉันปากคอสั่นและพยายามกลั้นใจพูดประโยคที่ คาดไม่ถึงนั่นออกไปด้วยน้ำเสียงที่แห้งผาก ในหัวสมองเหมือนจะขาวโพลน ไปชั่วขณะ

'ไม่ต้องห่วงครับ...น้องสาวของคุณยังไม่โดนทำเรื่องแบบนั่น เพราะ ผมบังเอิญผ่านไปเจอเข้าพอดี หมอนั่นมันก็เลยหยุดการกระทำดังกล่าวแล้ว วิ่งหนีไป'

'หนีไป? นี่หมายความว่าคุณจับมันไม่ได้?'

'ขอโทษจริงๆ ครับ แต่ตอนนั่นมีผมเพียงคนเดียวที่อยู่ในเหตุการณ์ และน้องสาวของคุณก็บาดแผลตามเนื้อตัวอยู่หลายแห่ง ผมเลยต้องรีบ นำตัวเธอมาล่งโรงพยาบาลก่อน'

ฉันละสายตาจากคุณตำรวจ มองไปยังร่างที่นอนแน่นึ่งอยู่บนเตียง พลางยื่นมือไปลูบหัวน้องสาวคนสำคัญที่ฉันหวงและห่วงมากกว่าชีวิตของ ตัวเองอย่างเอ็นดู

'เธอยังไม่โดนทำเรื่องแบบนั่นจริงๆ ใช่มั้ยคะ' ฉันถามเสียงอ่อย 'ครับ...แน่นอนว่ายัง'

'ยังไงก็ต้องขอบคุณคุณตำรวจมากนะคะที่ช่วยเธอไว้ได้ทัน' ฉันบอก พร้อมกับน้ำตาที่ไหลนองหน้า

ถ้าหากเธอโดนทำเรื่องแบบนั่นลงไปแล้ว เธอจะต้องเกลียดตัวเอง แน่ๆ โซคดีจริงๆ ที่คุณตำรวจนายนี้ไปช่วยเธอไว้ได้ทันนะหอมฟัง...ฉันบอก กับน้องสาวในใจพร้อมระบายยิ้มอย่างสบายใจออกมาบางๆ แต่ถึงอย่างไร น้ำตาก็ยังไหลไม่หยุดเหมือนเดิม ไม่รู้ว่ามันไหลออกมาเพราะฉันโล่งใจหรือ

 

เพราะอะไรกันแน่

 

(โปรดติดตามต่อในฉบับเต็ม)

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 


บทนำ

เป๋าหมายกำลัง'ใกล้เข้ามาแล้ว...อีกนิดเดียว...อีกนิดเดียวเท่านั้น เอาล่ะ...ใจเย็นเข้าไว้ฟูฟอง สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ บ..บ ฟืดดด

ฮ่า­

นั่นไง มาแล้ว!

พึ่บ!

ฉันกระโดดเข้าไปขวางหน้ากลุ่มนักศึกษาชายที่มีอยู่ประมาณห้าหก คนเห็นจะได้ พวกเขาสะดุ้งและผงะไปเล็กน้อยกับการปรากฏตัวของผู้หญิง แปลกหน้าอย่างฉันที่โผล่ออกมาจากซอกกำแพง

"เฮ้ย เล่นบ้าอะไรของเธอเนี่ย เห็นมหา,ลัยเป็นโรงเรียนอนุบาล หรือไง" ผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้า'ฉัน,พูดขึ้น ระยะห่างของเราแทบจะเรียก ได้ว่าไม่มีเลยก็ว่าได้ (บางทีฉันคงกะระยะตอนกระโดดช้าไปนิดหนึ่ง) ฉัน จึงเดินถอยหลังออกมาสองสามก้าวเพื่อจะได้มองหน้าเขาได้อย่างถนัดตา อ่า...หล่ออ่ะ... >_< เขามีเส้นผมสีเข้มทอประกายน้ำเงินนิดๆ แววตา เหมือน,พวกเจ้าเล่ห์และ'ขี้เล่น"ไนบางเวลา คิ้วเข้มๆ ขมวดเข้าหากันจนยุ่งเหยิง จมูกโด่งเป็นสันทำให้ใบหน้าของเขายิ่งทวีความหล่อมากขึ้นไปอีก ริม'ฝีปาก

แ©

ที่ทำเพียงกระตุกยิ้มเล็กๆ ก็สามารถทำให้ผู้หญิงคล้อยตามได้...คนอะไร หล่อเหลือกินเหลือใช้จริงๆ แถมยัง...เป็นผู้ชายที่มีหน้าตาเหมือน 'คนคนนั้น, จนแทบจะนึกว่าเป็นคนเดียวกันเสียอีก

"นี่เธอ...หรือว่าอยากจะสารภาพรักหมอนี่กันล่ะ อ่าๆ,, เพื่อนของ ผู้ชายผมสีเข้มทอประกายนํ้าเงินนิดๆ ถามฉันพลางยิ้มอย่างสนุกสนานกับ เพื่อนๆ ที่เหลือ

"หน้าตาสวยดี น่าสนนะเว้ย แกว่าไงวะดีลเลอร์" คุณผู้ชายหัวสีนํ้าตาล เกือบจะล้มผลักไหล่เพื่อนของเขา

งั้นเหรอ หมอนี่ซื่อ 'ดีลเลอร์, เหรอ

"นี่ๆ บอกไว้ก่อนนะเธอ หมอนี่น่ะมันโคตรเจ้าชู้เลย เดี๋ยวนํ้าตา เช็ดหัวเข่านะครับ AA เปลี่ยนมาเป็นฉันแทนมั้ย" เพื่อนเขาเตือน

"ถ้าหมอนี่ได้เธอแล้ว เธอจะมาเรียกร้องขอค่าเสียหายทีหลัง มัน ไม่รับผิดชอบนะบอกไว้ก่อน อ่าๆๆ ล่าสุดก็เป็นยัยนํ้าผึ้ง ดาวคณะนิเทศ ซะด้วยนะที่โดนทิ้งน่ะ,,

"เฮ้ย หุบปากได้แล้ว" เจ้าตัวที่กำลังโดนเพื่อนๆ เอาเรื่องนิสัยมา ขายอย่างสนุกปากก็หันไปแหวใส่ทันที

ฉันกวาดสายตาไล่มองเพื่อนๆ ของเขาที่ยืนหัวเราะกันคิกคักชอบใจ ที่ได้กลั่นแกล้งเพื่อนตัวเองจนครบทุกคน ก็พอจะสรุปได้แล้วว่าเขาคนนี้ เป็นผู้ชายประเภทไหน แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ไม่แคร์หรอก เพราะฉันตัดสินใจ แล้ว

"เธอ..." เหมือนเขาจะ'พูดอะไรกับฉัน

"ไปกับฉันได้มั้ย" ฉันเอื้อมมือไปจับมือของผู้ชายตรงหน้าอย่าง ถือวิสาสะ ก่อนจะล่งสายตาเว้าวอนไปให้ "ไปไหน"

"..." ฉันเงียบไปอึดใจหนึ่งแล้วพยายามจะรวบรวมความกล้าพูด ประโยคต่อไปออกไปให้ได้ "บะ...บ้านฉัน >_<///"

"บ้านเธอ?"

 
  กล่องข้อความ: ฬเ

"ใช่ ไปที่บ้านของฉัน ไปกันแค่สองคน ฉัน...กับนาย"

 

"เฮ้ เธอได้ยินที่เพื่อนฉันพูดหรือเปล่า" เขาถามกลับ "ได้ยินสิ แต่...ไม่ว่ายังไงฉันก็อยากจะให้นายไปกับฉันไหได้...อย่างน้อย ก็ขอแค่วันนี้ลักวันหนึ่งก็ยังดี ได้หรือเปล่า"

"โอ้!ห...ใจกล้าไม่เบา ท่าทางจะเป็นสาวไฟแรงน่าดู" เสียงเพื่อนๆ ของเขาดังแทรก'ขึ้นมาอีกครั้ง แต่ฉันไม่ได้หันไปมอง เพราะฉันสนใจผู้ชาย คนนี้มากกว่า

ใบหน้าคมเข้มแสยะยิ้มที่มฺมปาก

"เธอเสนอมาเองนะ หึ" เขาตอบเพียงแค่นั้นก่อนจะเชยคางฉันขึ้น แล้วฝังจมูกลงมาที่แก้มของฉันเบาๆ อ่า...ฉันทำมันลงไปแล้วจริงๆ

1

อดีต

ย้อนกลับไปเมื่อสองปีก่อน

ในวันที่ฝนตกลงมาอย่างหนัก ฉันได้แต่มองออกไปนอกหน้าต่างด้วย ความรู้สึกไม่สบายใจอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ในมือกำโทรศัพท์มือถือไว้ แน่นจนเครื่องแทบจะแหลกคามืออยู่แล้ว 'ทำไมยังไม่กลับบ้านอีก...มือถือก็ปิด!,

ฉันพึมพำออกมาอย่างกระวนกระวายและยกมือข้างหนึ่งขึ้นกุมขมับ 'คุณฟองใจเย็นๆ ก่อนสิคะ ฝนตกอาจจะทำให้รถติดก็ได้นะคะ' แม่บ้านพูดขึ้นมา ทั้งๆ ที่สีหน้าของเธอเองก็ไม่ค่อยสู้ดีเหมือนกัน แตกยัง พยายามจะพูดเพื่อให้ฉันสบายใจ

'ต่อให้รถติดแค่ไหนก็เถอะ! แต่น่ามันตีหนึ่งแล้วนะ! ปกติสี่ทุ่มน้อง ก็กลับถึงบ้านแล้ว นึ่มันจะไม่นานเกินไปหน่อยเหรอ! โทรไปที่เรียนพิเศษ เขาก็บอกว่านักเรียนกลับไปหมดตั้งนานแล้ว! โทรไปหาเพื่อนน้องคนไหน ก็บอกว่าไม่ได้อยู่ด้วย! ให้ตายเถอะ! ยัยนั่นมัวไปทำอะไรอยู่ที่ไหนกันแน่ นะ!!!' ฉันหันไปตะคอกโวยวายใส่แม่บ้านอย่างหัวเสีย


 

น้องสาวของฉันที่ตอนนี้เรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่สี่ ปกติทุกวันศุกร์ จะมีเรียนพิเศษต่อหลังเลิกเรียนเสมอ เลิกเรียนก็สามทุ่มกว่าๆ แต่ฉันก็ ไม่ได้ว่าอะไรเพราะยังไงแฟนของยัยนั่นก็มักจะมาส่งที่บ้านเป็นประจำอยู่ แล้ว เอ๊ะ เดี๋ยวนะ...แฟนเหรอ...นี่ฉันลืมไปได้ยังไง! ฉันยังไม่ไดโทรไปหา หมอนั่นเลยนี่!

ทันทีที่นึกชั้นมาได้ก็เกิดความหวังในใจชั้นมา บางทีน้องสาวของฉัน อาจจะอยู่กับแฟนเธอก็ได้ ฉันรีบยกโทรศัพท์มือถือชั้นกดหาเบอร์ของการ์เน็ต ทันที

ตรู๊ด...ตรู๊ด...ตรู๊ด...

(ว่าไงครับพี่ฟอง) ปลายสายกรอกเสียงเข้ามา 'การ์เน็ต! ตอนนี้หอมฟังอยู่กับนายหรือเปล่า,

(ฟังเหรอ...อ้าว วันนี้ฟังไม่ได้บอกพี่เหรอครับว่าผมไม่ว่างไปรับเพราะ ติดธุระกับที่บ้าน...เอ๊ะ อย่าบอกนะว่าตอนนี้ยัยนั่นยังไม่ได้กลับบ้าน!!!) ปลายสายเปลี่ยนจากน้ำเสียงนุ่มๆ สบายๆ เป็นตะคอกใส่ฉันแทน นั่นทำให้ ฉันรู้ทันทีว่าหอมฟังไม่ได้อยู่กับการ์เน็ต

ถ้างั้นแล้ว...เธอไปอยู่ที่ไหนกันแน่'ฟัง...เธอทำให้พี่ไม่สบายใจเลย

นะ...

กริ๊งงง...กริ๊งงง...กริ๊งงง...

'คุณฟองคะ โทรศัพท์บ้านด้งค่ะ อาจจะเป็นคุณฟังก็ได้นะคะ' แม่บ้าน

บอก

เป็นหอมฟังเหรอ...ปกติยัยนั่นไม่เคยโทรเข้าบ้านนี่ แต่ช่างเถอะ! มัน ใช่เวลาจะมาคิดเล็กคิดน้อยซะที่ไหนล่ะ

'แค่นี้ก่อนนะการ์เน็ต ไว้เดี๋ยวพี่จะโทรกลับไปอีกที' ฉันบอกก่อนจะ กดตัดสายแล้ววิ่งไปยังเครื่องโทรศัพท์บ้าน ยกหูรับสายทันที 'ฮัลโหล!!!' (สวัสดีครับ นั่นใช่บ้านของคุณฟังฟ้า นิรนันทราหรือเปล่าครับ) เสียงของชายวัยกลางคน...?

'ใช่ค่ะ...ฉันเป็นพี่สาวของเด็กคนนั่นเอง ไม่ทราบว่าคุณ...'

(ผมโทรมาจากโรงพยาบาลนะครับ)


'ระ...โรงพยาบาล <ว_๐! น้องสาวฉันเป็นอะไรเหรอคะ!,

(ตอนนี้หมอกำลังตรวจร่างกายเธออยู่น่ะครับ ผมพบเธอนอนสลบอยู่ แถวๆ ริมทางสวนสาธารณะน่ะ ส่วนสาเหตุที่หมดสติไป...ผมว่ามาฟังที่ โรงพยาบาลดีกว่าครับ ยังไงก็ฝากบอกคุณพ่อคุณแม่ของคุณด้วยแล้วกัน ว่าให้มาที่โรงพยาบาล...) ปลายสายบอกซื่อโรงพยาบาลให้ฉันรู้ก่อนจะ วางสายไป

'คุณฟองคะ, แม่บ้านส่งเสียงเรียกฉัน 'อึ?'

'ใช่คุณฟังหรือเปล่าคะ'

'หอมฟัง...ตอนนี้อยู่โรงพยาบาลน่ะ'

'เอ?,

'นั่นแหละ ยังไงฟองขอตัวก่อนแล้วกัน'

ฉันบอกก่อนจะรีบเดินไปที่หน้าบ้านเพื่อสตาร์ตรถทันที เฮ้อ...ให้ตายเถอะยัยฟัง...ขออย่าให้เป็นอะไรไปเลยนะ ถ้าเธอเป็น อะไรไป พื่คงไม่เหลือใครอีกแล้ว...พระเจ้าคะ...ได้โปรดคุ้มครองสมาซิกเพียง คนเดียวที่เหลืออยู่ในครอบครัวของลูกด้วยเถอะค่ะ

เมื่อมาถึงโรงพยาบาล ฉันก็รีบตรงไปยังห้องพักผู้ป่วยรวมทันที เพราะ ก่อนหน้าที่ฉันจะออกจากบ้าน ทางโรงพยาบาลได้โทรมาที่บ้านอีกครั้งและ บอกว่าตรวจร่างกายน้องฉันเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้พักรักษาตัวอยู่ที่ห้อง ผู้ป่วยรวม

ฉันหันซ้ายหันขวาก่อนจะเห็นร่างบางที่คุ้นตานอนหลับใหลอยู่บน เตียงซึ่งไม่ห่างจากจุดที่ฉันยืนอยู่มากนัก ข้างเตียงนั่นมีตำรวจยืนอยู่ด้วย 'ฉันเป็นพี่สาวของเด็กคนนี้ค่ะ! เกิดอะไรนั้นกับน้องสาวฉันเหรอคะ แล้วตอนนี้เธอปลอดภัยหรือยัง!' ฉันเดินเข้าไปบอกคุณตำรวจอย่างหน้าตาตื่น พร้อมกับจับแขนเขาไว้แน่น พลันนํ้าตาก็ไหลออกมา

ใจเย็นก่อนนะครับ...แล้วนี่ผู้ปกครองของคุณไม่ได้มาด้วยเหรอ' 'ฉันนี่แหละเป็นผู้ปกครองของเธอค่ะ' ฉันว่าพลางปาดคราบนํ้าตา


 


 


ออก

'อ๋อ ครบ...'

'ช่วยบอกทีเถอะค่ะ ทำไมน้องสาวฉันถึงมาอยู่ในสภาพนี้'

'คือว่า...' เขาเงียบไปอึดใจหนึ่ง 'ผมพบน้องของคุณขณะที่เธอถูก ชายคนหนึ่งทำมิดีมิร้าย...'

'มะ...หมายความว่ายังไงคะ คุณหมายถึง...น้องสาวของฉันถูก... ข่ม...ขืน...เหรอคะ' ฉันปากคอสั่นและพยายามกลั้นใจพูดประโยคที่ คาดไม่ถึงนั่นออกไปด้วยน้ำเสียงที่แห้งผาก ในหัวสมองเหมือนจะขาวโพลน ไปชั่วขณะ

'ไม่ต้องห่วงครับ...น้องสาวของคุณยังไม่โดนทำเรื่องแบบนั่น เพราะ ผมบังเอิญผ่านไปเจอเข้าพอดี หมอนั่นมันก็เลยหยุดการกระทำดังกล่าวแล้ว วิ่งหนีไป'

'หนีไป? นี่หมายความว่าคุณจับมันไม่ได้?'

'ขอโทษจริงๆ ครับ แต่ตอนนั่นมีผมเพียงคนเดียวที่อยู่ในเหตุการณ์ และน้องสาวของคุณก็บาดแผลตามเนื้อตัวอยู่หลายแห่ง ผมเลยต้องรีบ นำตัวเธอมาล่งโรงพยาบาลก่อน'

ฉันละสายตาจากคุณตำรวจ มองไปยังร่างที่นอนแน่นึ่งอยู่บนเตียง พลางยื่นมือไปลูบหัวน้องสาวคนสำคัญที่ฉันหวงและห่วงมากกว่าชีวิตของ ตัวเองอย่างเอ็นดู

'เธอยังไม่โดนทำเรื่องแบบนั่นจริงๆ ใช่มั้ยคะ' ฉันถามเสียงอ่อย 'ครับ...แน่นอนว่ายัง'

'ยังไงก็ต้องขอบคุณคุณตำรวจมากนะคะที่ช่วยเธอไว้ได้ทัน' ฉันบอก พร้อมกับน้ำตาที่ไหลนองหน้า

ถ้าหากเธอโดนทำเรื่องแบบนั่นลงไปแล้ว เธอจะต้องเกลียดตัวเอง แน่ๆ โซคดีจริงๆ ที่คุณตำรวจนายนี้ไปช่วยเธอไว้ได้ทันนะหอมฟัง...ฉันบอก กับน้องสาวในใจพร้อมระบายยิ้มอย่างสบายใจออกมาบางๆ แต่ถึงอย่างไร น้ำตาก็ยังไหลไม่หยุดเหมือนเดิม ไม่รู้ว่ามันไหลออกมาเพราะฉันโล่งใจหรือ

 

เพราะอะไรกันแน่

 

(โปรดติดตามต่อในฉบับเต็ม)


 

{C}

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

  

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

บทนำ

เป๋าหมายกำลัง'ใกล้เข้ามาแล้ว...อีกนิดเดียว...อีกนิดเดียวเท่านั้น เอาล่ะ...ใจเย็นเข้าไว้ฟูฟอง สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ บ..บ ฟืดดด

ฮ่า­

นั่นไง มาแล้ว!

พึ่บ!

ฉันกระโดดเข้าไปขวางหน้ากลุ่มนักศึกษาชายที่มีอยู่ประมาณห้าหก คนเห็นจะได้ พวกเขาสะดุ้งและผงะไปเล็กน้อยกับการปรากฏตัวของผู้หญิง แปลกหน้าอย่างฉันที่โผล่ออกมาจากซอกกำแพง

"เฮ้ย เล่นบ้าอะไรของเธอเนี่ย เห็นมหา,ลัยเป็นโรงเรียนอนุบาล หรือไง" ผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้า'ฉัน,พูดขึ้น ระยะห่างของเราแทบจะเรียก ได้ว่าไม่มีเลยก็ว่าได้ (บางทีฉันคงกะระยะตอนกระโดดช้าไปนิดหนึ่ง) ฉัน จึงเดินถอยหลังออกมาสองสามก้าวเพื่อจะได้มองหน้าเขาได้อย่างถนัดตา อ่า...หล่ออ่ะ... >_< เขามีเส้นผมสีเข้มทอประกายน้ำเงินนิดๆ แววตา เหมือน,พวกเจ้าเล่ห์และ'ขี้เล่น"ไนบางเวลา คิ้วเข้มๆ ขมวดเข้าหากันจนยุ่งเหยิง จมูกโด่งเป็นสันทำให้ใบหน้าของเขายิ่งทวีความหล่อมากขึ้นไปอีก ริม'ฝีปาก

แ©

ที่ทำเพียงกระตุกยิ้มเล็กๆ ก็สามารถทำให้ผู้หญิงคล้อยตามได้...คนอะไร หล่อเหลือกินเหลือใช้จริงๆ แถมยัง...เป็นผู้ชายที่มีหน้าตาเหมือน 'คนคนนั้น, จนแทบจะนึกว่าเป็นคนเดียวกันเสียอีก

"นี่เธอ...หรือว่าอยากจะสารภาพรักหมอนี่กันล่ะ อ่าๆ,, เพื่อนของ ผู้ชายผมสีเข้มทอประกายนํ้าเงินนิดๆ ถามฉันพลางยิ้มอย่างสนุกสนานกับ เพื่อนๆ ที่เหลือ

"หน้าตาสวยดี น่าสนนะเว้ย แกว่าไงวะดีลเลอร์" คุณผู้ชายหัวสีนํ้าตาล เกือบจะล้มผลักไหล่เพื่อนของเขา

งั้นเหรอ หมอนี่ซื่อ 'ดีลเลอร์, เหรอ

"นี่ๆ บอกไว้ก่อนนะเธอ หมอนี่น่ะมันโคตรเจ้าชู้เลย เดี๋ยวนํ้าตา เช็ดหัวเข่านะครับ AA เปลี่ยนมาเป็นฉันแทนมั้ย" เพื่อนเขาเตือน

"ถ้าหมอนี่ได้เธอแล้ว เธอจะมาเรียกร้องขอค่าเสียหายทีหลัง มัน ไม่รับผิดชอบนะบอกไว้ก่อน อ่าๆๆ ล่าสุดก็เป็นยัยนํ้าผึ้ง ดาวคณะนิเทศ ซะด้วยนะที่โดนทิ้งน่ะ,,

"เฮ้ย หุบปากได้แล้ว" เจ้าตัวที่กำลังโดนเพื่อนๆ เอาเรื่องนิสัยมา ขายอย่างสนุกปากก็หันไปแหวใส่ทันที

ฉันกวาดสายตาไล่มองเพื่อนๆ ของเขาที่ยืนหัวเราะกันคิกคักชอบใจ ที่ได้กลั่นแกล้งเพื่อนตัวเองจนครบทุกคน ก็พอจะสรุปได้แล้วว่าเขาคนนี้ เป็นผู้ชายประเภทไหน แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ไม่แคร์หรอก เพราะฉันตัดสินใจ แล้ว

"เธอ..." เหมือนเขาจะ'พูดอะไรกับฉัน

"ไปกับฉันได้มั้ย" ฉันเอื้อมมือไปจับมือของผู้ชายตรงหน้าอย่าง ถือวิสาสะ ก่อนจะล่งสายตาเว้าวอนไปให้ "ไปไหน"

"..." ฉันเงียบไปอึดใจหนึ่งแล้วพยายามจะรวบรวมความกล้าพูด ประโยคต่อไปออกไปให้ได้ "บะ...บ้านฉัน >_<///"

"บ้านเธอ?"

 
  กล่องข้อความ: ฬเ

"ใช่ ไปที่บ้านของฉัน ไปกันแค่สองคน ฉัน...กับนาย"

 

"เฮ้ เธอได้ยินที่เพื่อนฉันพูดหรือเปล่า" เขาถามกลับ "ได้ยินสิ แต่...ไม่ว่ายังไงฉันก็อยากจะให้นายไปกับฉันไหได้...อย่างน้อย ก็ขอแค่วันนี้ลักวันหนึ่งก็ยังดี ได้หรือเปล่า"

"โอ้!ห...ใจกล้าไม่เบา ท่าทางจะเป็นสาวไฟแรงน่าดู" เสียงเพื่อนๆ ของเขาดังแทรก'ขึ้นมาอีกครั้ง แต่ฉันไม่ได้หันไปมอง เพราะฉันสนใจผู้ชาย คนนี้มากกว่า

ใบหน้าคมเข้มแสยะยิ้มที่มฺมปาก

"เธอเสนอมาเองนะ หึ" เขาตอบเพียงแค่นั้นก่อนจะเชยคางฉันขึ้น แล้วฝังจมูกลงมาที่แก้มของฉันเบาๆ อ่า...ฉันทำมันลงไปแล้วจริงๆ

1

อดีต

ย้อนกลับไปเมื่อสองปีก่อน

ในวันที่ฝนตกลงมาอย่างหนัก ฉันได้แต่มองออกไปนอกหน้าต่างด้วย ความรู้สึกไม่สบายใจอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ในมือกำโทรศัพท์มือถือไว้ แน่นจนเครื่องแทบจะแหลกคามืออยู่แล้ว 'ทำไมยังไม่กลับบ้านอีก...มือถือก็ปิด!,

ฉันพึมพำออกมาอย่างกระวนกระวายและยกมือข้างหนึ่งขึ้นกุมขมับ 'คุณฟองใจเย็นๆ ก่อนสิคะ ฝนตกอาจจะทำให้รถติดก็ได้นะคะ' แม่บ้านพูดขึ้นมา ทั้งๆ ที่สีหน้าของเธอเองก็ไม่ค่อยสู้ดีเหมือนกัน แตกยัง พยายามจะพูดเพื่อให้ฉันสบายใจ

'ต่อให้รถติดแค่ไหนก็เถอะ! แต่น่ามันตีหนึ่งแล้วนะ! ปกติสี่ทุ่มน้อง ก็กลับถึงบ้านแล้ว นึ่มันจะไม่นานเกินไปหน่อยเหรอ! โทรไปที่เรียนพิเศษ เขาก็บอกว่านักเรียนกลับไปหมดตั้งนานแล้ว! โทรไปหาเพื่อนน้องคนไหน ก็บอกว่าไม่ได้อยู่ด้วย! ให้ตายเถอะ! ยัยนั่นมัวไปทำอะไรอยู่ที่ไหนกันแน่ นะ!!!' ฉันหันไปตะคอกโวยวายใส่แม่บ้านอย่างหัวเสีย


 

น้องสาวของฉันที่ตอนนี้เรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่สี่ ปกติทุกวันศุกร์ จะมีเรียนพิเศษต่อหลังเลิกเรียนเสมอ เลิกเรียนก็สามทุ่มกว่าๆ แต่ฉันก็ ไม่ได้ว่าอะไรเพราะยังไงแฟนของยัยนั่นก็มักจะมาส่งที่บ้านเป็นประจำอยู่ แล้ว เอ๊ะ เดี๋ยวนะ...แฟนเหรอ...นี่ฉันลืมไปได้ยังไง! ฉันยังไม่ไดโทรไปหา หมอนั่นเลยนี่!

ทันทีที่นึกชั้นมาได้ก็เกิดความหวังในใจชั้นมา บางทีน้องสาวของฉัน อาจจะอยู่กับแฟนเธอก็ได้ ฉันรีบยกโทรศัพท์มือถือชั้นกดหาเบอร์ของการ์เน็ต ทันที

ตรู๊ด...ตรู๊ด...ตรู๊ด...

(ว่าไงครับพี่ฟอง) ปลายสายกรอกเสียงเข้ามา 'การ์เน็ต! ตอนนี้หอมฟังอยู่กับนายหรือเปล่า,

(ฟังเหรอ...อ้าว วันนี้ฟังไม่ได้บอกพี่เหรอครับว่าผมไม่ว่างไปรับเพราะ ติดธุระกับที่บ้าน...เอ๊ะ อย่าบอกนะว่าตอนนี้ยัยนั่นยังไม่ได้กลับบ้าน!!!) ปลายสายเปลี่ยนจากน้ำเสียงนุ่มๆ สบายๆ เป็นตะคอกใส่ฉันแทน นั่นทำให้ ฉันรู้ทันทีว่าหอมฟังไม่ได้อยู่กับการ์เน็ต

ถ้างั้นแล้ว...เธอไปอยู่ที่ไหนกันแน่'ฟัง...เธอทำให้พี่ไม่สบายใจเลย

นะ...

กริ๊งงง...กริ๊งงง...กริ๊งงง...

'คุณฟองคะ โทรศัพท์บ้านด้งค่ะ อาจจะเป็นคุณฟังก็ได้นะคะ' แม่บ้าน

บอก

เป็นหอมฟังเหรอ...ปกติยัยนั่นไม่เคยโทรเข้าบ้านนี่ แต่ช่างเถอะ! มัน ใช่เวลาจะมาคิดเล็กคิดน้อยซะที่ไหนล่ะ

'แค่นี้ก่อนนะการ์เน็ต ไว้เดี๋ยวพี่จะโทรกลับไปอีกที' ฉันบอกก่อนจะ กดตัดสายแล้ววิ่งไปยังเครื่องโทรศัพท์บ้าน ยกหูรับสายทันที 'ฮัลโหล!!!' (สวัสดีครับ นั่นใช่บ้านของคุณฟังฟ้า นิรนันทราหรือเปล่าครับ) เสียงของชายวัยกลางคน...?

'ใช่ค่ะ...ฉันเป็นพี่สาวของเด็กคนนั่นเอง ไม่ทราบว่าคุณ...'

(ผมโทรมาจากโรงพยาบาลนะครับ)

 

'ระ...โรงพยาบาล <ว_๐! น้องสาวฉันเป็นอะไรเหรอคะ!,

(ตอนนี้หมอกำลังตรวจร่างกายเธออยู่น่ะครับ ผมพบเธอนอนสลบอยู่ แถวๆ ริมทางสวนสาธารณะน่ะ ส่วนสาเหตุที่หมดสติไป...ผมว่ามาฟังที่ โรงพยาบาลดีกว่าครับ ยังไงก็ฝากบอกคุณพ่อคุณแม่ของคุณด้วยแล้วกัน ว่าให้มาที่โรงพยาบาล...) ปลายสายบอกซื่อโรงพยาบาลให้ฉันรู้ก่อนจะ วางสายไป

'คุณฟองคะ, แม่บ้านส่งเสียงเรียกฉัน 'อึ?'

'ใช่คุณฟังหรือเปล่าคะ'

'หอมฟัง...ตอนนี้อยู่โรงพยาบาลน่ะ'

'เอ?,

'นั่นแหละ ยังไงฟองขอตัวก่อนแล้วกัน'

ฉันบอกก่อนจะรีบเดินไปที่หน้าบ้านเพื่อสตาร์ตรถทันที เฮ้อ...ให้ตายเถอะยัยฟัง...ขออย่าให้เป็นอะไรไปเลยนะ ถ้าเธอเป็น อะไรไป พื่คงไม่เหลือใครอีกแล้ว...พระเจ้าคะ...ได้โปรดคุ้มครองสมาซิกเพียง คนเดียวที่เหลืออยู่ในครอบครัวของลูกด้วยเถอะค่ะ

เมื่อมาถึงโรงพยาบาล ฉันก็รีบตรงไปยังห้องพักผู้ป่วยรวมทันที เพราะ ก่อนหน้าที่ฉันจะออกจากบ้าน ทางโรงพยาบาลได้โทรมาที่บ้านอีกครั้งและ บอกว่าตรวจร่างกายน้องฉันเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้พักรักษาตัวอยู่ที่ห้อง ผู้ป่วยรวม

ฉันหันซ้ายหันขวาก่อนจะเห็นร่างบางที่คุ้นตานอนหลับใหลอยู่บน เตียงซึ่งไม่ห่างจากจุดที่ฉันยืนอยู่มากนัก ข้างเตียงนั่นมีตำรวจยืนอยู่ด้วย 'ฉันเป็นพี่สาวของเด็กคนนี้ค่ะ! เกิดอะไรนั้นกับน้องสาวฉันเหรอคะ แล้วตอนนี้เธอปลอดภัยหรือยัง!' ฉันเดินเข้าไปบอกคุณตำรวจอย่างหน้าตาตื่น พร้อมกับจับแขนเขาไว้แน่น พลันนํ้าตาก็ไหลออกมา

ใจเย็นก่อนนะครับ...แล้วนี่ผู้ปกครองของคุณไม่ได้มาด้วยเหรอ' 'ฉันนี่แหละเป็นผู้ปกครองของเธอค่ะ' ฉันว่าพลางปาดคราบนํ้าตา

 

 

 

 

 

ออก

'อ๋อ ครบ...'

'ช่วยบอกทีเถอะค่ะ ทำไมน้องสาวฉันถึงมาอยู่ในสภาพนี้'

'คือว่า...' เขาเงียบไปอึดใจหนึ่ง 'ผมพบน้องของคุณขณะที่เธอถูก ชายคนหนึ่งทำมิดีมิร้าย...'

'มะ...หมายความว่ายังไงคะ คุณหมายถึง...น้องสาวของฉันถูก... ข่ม...ขืน...เหรอคะ' ฉันปากคอสั่นและพยายามกลั้นใจพูดประโยคที่ คาดไม่ถึงนั่นออกไปด้วยน้ำเสียงที่แห้งผาก ในหัวสมองเหมือนจะขาวโพลน ไปชั่วขณะ

'ไม่ต้องห่วงครับ...น้องสาวของคุณยังไม่โดนทำเรื่องแบบนั่น เพราะ ผมบังเอิญผ่านไปเจอเข้าพอดี หมอนั่นมันก็เลยหยุดการกระทำดังกล่าวแล้ว วิ่งหนีไป'

'หนีไป? นี่หมายความว่าคุณจับมันไม่ได้?'

'ขอโทษจริงๆ ครับ แต่ตอนนั่นมีผมเพียงคนเดียวที่อยู่ในเหตุการณ์ และน้องสาวของคุณก็บาดแผลตามเนื้อตัวอยู่หลายแห่ง ผมเลยต้องรีบ นำตัวเธอมาล่งโรงพยาบาลก่อน'

ฉันละสายตาจากคุณตำรวจ มองไปยังร่างที่นอนแน่นึ่งอยู่บนเตียง พลางยื่นมือไปลูบหัวน้องสาวคนสำคัญที่ฉันหวงและห่วงมากกว่าชีวิตของ ตัวเองอย่างเอ็นดู

'เธอยังไม่โดนทำเรื่องแบบนั่นจริงๆ ใช่มั้ยคะ' ฉันถามเสียงอ่อย 'ครับ...แน่นอนว่ายัง'

'ยังไงก็ต้องขอบคุณคุณตำรวจมากนะคะที่ช่วยเธอไว้ได้ทัน' ฉันบอก พร้อมกับน้ำตาที่ไหลนองหน้า

ถ้าหากเธอโดนทำเรื่องแบบนั่นลงไปแล้ว เธอจะต้องเกลียดตัวเอง แน่ๆ โซคดีจริงๆ ที่คุณตำรวจนายนี้ไปช่วยเธอไว้ได้ทันนะหอมฟัง...ฉันบอก กับน้องสาวในใจพร้อมระบายยิ้มอย่างสบายใจออกมาบางๆ แต่ถึงอย่างไร น้ำตาก็ยังไหลไม่หยุดเหมือนเดิม ไม่รู้ว่ามันไหลออกมาเพราะฉันโล่งใจหรือ

 

เพราะอะไรกันแน่

 

(โปรดติดตามต่อในฉบับเต็ม)

 

 

 

{C}

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

บทนำ

เป๋าหมายกำลัง'ใกล้เข้ามาแล้ว...อีกนิดเดียว...อีกนิดเดียวเท่านั้น เอาล่ะ...ใจเย็นเข้าไว้ฟูฟอง สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ U..U ฟืดดด

ฮ่า­

นั้นไง มาแล้ว!

พึ่บ!

ฉันกระโดดเข้าไปขวางหน้ากลุ่มนักศึกษาชายที่มีอยู่ประมาณห้าหก คนเห็นจะได้ พวกเขาสะดุ้งและผงะไปเล็กน้อยกับการปรากฏตัวของผู้หญิง แปลกหน้าอย่างฉันที่โผล่ออกมาจากซอกกำแพง

"เฮ้ย เล่นบ้าอะไรของเธอเนี่ย เห็นมหา,ลัยเป็นโรงเรียนอนุบาล หรือไง" ผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้า'ฉัน,พูดขึ้น ระยะห่างของเราแทบจะเรียก ได้ว่าไม่มีเลยก็ว่าได้ (บางทีฉันคงกะระยะตอนกระโดดช้าไปนิดหนึ่ง) ฉัน จึงเดินถอยหลังออกมาสองสามก้าวเพื่อจะได้มองหน้าเขาได้อย่างถนัดตา อ่า...หล่ออ่ะ... >_< เขามีเส้นผมสีเข้มทอประกายน้ำเงินนิดๆ แววตา เหมือน,พวกเจ้าเล่ห์และ'ขี้เล่น"ไนบางเวลา คิ้วเข้มๆ ขมวดเข้าหากันจนยุ่งเหยิง จมูกโด่งเป็นสันทำให้ใบหน้าของเขายิ่งทวีความหล่อมากขึ้นไปอีก ริมฝีปาก


 

ที่ทำเพียงกระตุกยิ้มเล็กๆ ก็สามารถทำให้ผู้หญิงคล้อยตามได้...คนอะไร หล่อเหลือกินเหลือใช้จริงๆ แถมยัง...เป็นผู้ชายที่มีหน้าตาเหมือน 'คนคนนั้น, จนแทบจะนึกว่าเป็นคนเดียวกันเสียอีก

"นี่เธอ...หรือว่าอยากจะสารภาพรักหมอนี่กันล่ะ อ่าๆ,, เพื่อนของ ผู้ชายผมสีเข้มทอประกายนํ้าเงินนิดๆ ถามฉันพลางยิ้มอย่างสนุกสนานกับ เพื่อนๆ ที่เหลือ

"หน้าตาสวยดี น่าสนนะเว้ย แกว่าไงวะดีลเลอร์" คุณผู้ชายหัวสีนํ้าตาล เกือบจะล้มผลักไหล่เพื่อนของเขา

งั้นเหรอ หมอนี่ซื่อ 'ดีลเลอร์, เหรอ

"นี่ๆ บอกไว้ก่อนนะเธอ หมอนี่น่ะมันโคตรเจ้าชู้เลย เดี๋ยวนํ้าตา เช็ดหัวเข่านะครับ AA เปลี่ยนมาเป็นฉันแทนมั้ย" เพื่อนเขาเตือน

"ถ้าหมอนี่ได้เธอแล้ว เธอจะมาเรียกร้องขอค่าเสียหายทีหลัง มัน ไม่รับผิดชอบนะบอกไว้ก่อน อ่าๆๆ ล่าสุดก็เป็นยัยนํ้าผึ้ง ดาวคณะนิเทศ ซะด้วยนะที่โดนทิ้งน่ะ,,

"เฮ้ย หุบปากได้แล้ว" เจ้าตัวที่กำลังโดนเพื่อนๆ เอาเรื่องนิสัยมา ขายอย่างสนุกปากก็หันไปแหวใส่ทันที

ฉันกวาดสายตาไล่มองเพื่อนๆ ของเขาที่ยืนหัวเราะกันคิกคักชอบใจ ที่ได้กลั่นแกล้งเพื่อนตัวเองจนครบทุกคน ก็พอจะสรุปได้แล้วว่าเขาคนนี้ เป็นผู้ชายประเภทไหน แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ไม่แคร์หรอก เพราะฉันตัดสินใจ แล้ว

"เธอ..." เหมือนเขาจะ'พูดอะไรกับฉัน

"ไปกับฉันได้มั้ย" ฉันเอื้อมมือไปจับมือของผู้ชายตรงหน้าอย่าง ถือวิสาสะ ก่อนจะล่งสายตาเว้าวอนไปให้ "ไปไหน"

"..." ฉันเงียบไปอึดใจหนึ่งแล้วพยายามจะรวบรวมความกล้าพูด ประโยคต่อไปออกไปให้ได้ "บะ...บ้านฉัน >_<///"

"บ้านเธอ?"

"ใช่ ไปที่บ้านของฉัน ไปกันแค่สองคน ฉัน...กับนาย"

"เอ้ เธอได้ยินที่เพื่อนฉันพูดหรือเปล่า" เขาถามกลับ "ได้ยินสิ แต่...ไม่ว่ายังไงฉันก็อยากจะให้นายไปกับฉันไหได้...อย่างน้อย ก็ขอแค่วันนี้ลักวันหนึ่งก็ยังดี ได้หรือเปล่า"

"โอ้โห...ใจกล้าไม่เบา ท่าทางจะเป็นสาวไฟแรงน่าดู" เสียงเพื่อนๆ ของเขาดังแทรกขึ้นมาอีกครั้ง แต่ฉันไม่ได้หันไปมอง เพราะฉันสนใจผู้ชาย คนนี้มากกว่า

ใบหน้าคมเข้มแสยะยิ้มที่มุมปาก

"เธอเสนอมาเองนะ หึ" เขาตอบเพียงแค่นั้นก่อนจะเชยคางฉันขึ้น แล้วฝังจมูกลงมาที่แก้มของฉันเบาๆ อ่า...ฉันทำมันลงไปแล้วจริงๆ

1

อดีต

ย้อนกลับไปเมื่อสองปีก่อน

ในวันที่ฝนตกลงมาอย่างหนัก ฉันได้แต่มองออกไปนอกหน้าต่างด้วย ความรู้สึกไม่สบายใจอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ในมือกำโทรศัพท์มือถือไว้ แน่นจนเครื่องแทบจะแหลกคามืออยู่แล้ว 'ทำไมยังไม่กลับบ้านอีก...มือถือก็ปิด!,

ฉันพึมพำออกมาอย่างกระวนกระวายและยกมือข้างหนึ่งขึ้นกุมขมับ 'คุณฟองใจเย็นๆ ก่อนสิคะ ฝนตกอาจจะทำให้รถติดก็ได้นะคะ' แม่บ้านพูดยิ้นมา ทั้งๆ ที่สีหน้าของเธอเองก็ไม่ค่อยสู้ดีเหมือนกัน แตกยัง พยายามจะพูดเพื่อให้ฉันสบายใจ

'ต่อให้รถติดแค่ไหนก็เถอะ! แต่นี่มันตีหนึ่งแล้วนะ! ปกติสี่ทุ่มน้อง ก็กลับถึงบ้านแล้ว นึ่มันจะไม่นานเกินไปหน่อยเหรอ! โทรไปที่เรียนพิเศษ เขาก็บอกว่านักเรียนกลับไปหมดตั้งนานแล้ว! โทรไปหาเพื่อนน้องคนไหน ก็บอกว่าไม่ได้อยู่ด้วย! ให้ตายเถอะ! ยัยนั่นมัวไปทำอะไรอยู่ที่ไหนกันแน่ นะ!!!' ฉันหันไปตะคอกโวยวายใส่แม่บ้านอย่างหัวเสีย


 

น้องสาวของฉันที่ตอนนี้เรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่สี่ ปกติทุกวันศุกร์ จะมีเรียนพิเศษต่อหลังเลิกเรียนเสมอ เลิกเรียนก็สามทุ่มกว่าๆ แต่ฉันก็ ไม่ได้ว่าอะไรเพราะยังไงแฟนของยัยนั่นก็มักจะมาส่งที่บ้านเป็นประจำอยู่ แล้ว เอ๊ะ เดี๋ยวนะ...แฟนเหรอ...นี่ฉันลืมไปได้ยังไง! ฉันยังไม่ไดโทรไปหา หมอนั่นเลยนี่!

ทันทีที่นึกชั้นมาได้ก็เกิดความหวังในใจชั้นมา บางทีน้องสาวของฉัน อาจจะอยู่กับแฟนเธอก็ได้ ฉันรีบยกโทรศัพท์มือถือชั้นกดหาเบอร์ของการ์เน็ต ทันที

ตรู๊ด...ตรู๊ด...ตรู๊ด...

(ว่าไงครับพี่ฟอง) ปลายสายกรอกเสียงเข้ามา 'การ์เน็ต! ตอนนี้หอมฟังอยู่กับนายหรือเปล่า,

(ฟังเหรอ...อ้าว วันนี้ฟังไม่ได้บอกพี่เหรอครับว่าผมไม่ว่างไปรับเพราะ ติดธุระกับที่บ้าน...เอ๊ะ อย่าบอกนะว่าตอนนี้ยัยนั่นยังไม่ได้กลับบ้าน!!!) ปลายสายเปลี่ยนจากน้ำเสียงนุ่มๆ สบายๆ เป็นตะคอกใส่ฉันแทน นั่นทำให้ ฉันรู้ทันทีว่าหอมฟังไม่ได้อยู่กับการ์เน็ต

ถ้างั้นแล้ว...เธอไปอยู่ที่ไหนกันแน่'ฟัง...เธอทำให้พี่ไม่สบายใจเลย

นะ...

กริ๊งงง...กริ๊งงง...กริ๊งงง...

'คุณฟองคะ โทรศัพท์บ้านด้งค่ะ อาจจะเป็นคุณฟังก็ได้นะคะ' แม่บ้าน

บอก

เป็นหอมฟังเหรอ...ปกติยัยนั่นไม่เคยโทรเข้าบ้านนี่ แต่ช่างเถอะ! มัน ใช่เวลาจะมาคิดเล็กคิดน้อยซะที่ไหนล่ะ

'แค่นี้ก่อนนะการ์เน็ต ไว้เดี๋ยวพี่จะโทรกลับไปอีกที' ฉันบอกก่อนจะ กดตัดสายแล้ววิ่งไปยังเครื่องโทรศัพท์บ้าน ยกหูรับสายทันที 'ฮัลโหล!!!' (สวัสดีครับ นั่นใช่บ้านของคุณฟังฟ้า นิรนันทราหรือเปล่าครับ) เสียงของชายวัยกลางคน...?

'ใช่ค่ะ...ฉันเป็นพี่สาวของเด็กคนนั่นเอง ไม่ทราบว่าคุณ...'

(ผมโทรมาจากโรงพยาบาลนะครับ)

 

'ระ...โรงพยาบาล <ว_๐! น้องสาวฉันเป็นอะไรเหรอคะ!,

(ตอนนี้หมอกำลังตรวจร่างกายเธออยู่น่ะครับ ผมพบเธอนอนสลบอยู่ แถวๆ ริมทางสวนสาธารณะน่ะ ส่วนสาเหตุที่หมดสติไป...ผมว่ามาฟังที่ โรงพยาบาลดีกว่าครับ ยังไงก็ฝากบอกคุณพ่อคุณแม่ของคุณด้วยแล้วกัน ว่าให้มาที่โรงพยาบาล...) ปลายสายบอกซื่อโรงพยาบาลให้ฉันรู้ก่อนจะ วางสายไป

'คุณฟองคะ, แม่บ้านส่งเสียงเรียกฉัน 'อึ?'

'ใช่คุณฟังหรือเปล่าคะ'

'หอมฟุ้ง...ตอนนี้อยู่โรงพยาบาลน่ะ'

'เอ๋?,

'นั่นแหละ ยังไงฟองขอตัวก่อนแล้วกัน'

ฉันบอกก่อนจะรีบเดินไปที่หน้าบ้านเพื่อสตาร์ตรถทันที เอ้อ...ให้ตายเถอะยัยฟัง...ขออย่าให้เป็นอะไรไปเลยนะ ถ้าเธอเป็น อะไรไป พี่คงไม่เหลือใครอีกแล้ว...พระเจ้าคะ...ได้โปรดคุ้มครองสมาซิกเพียง คนเดียวที่เหลืออยู่ในครอบครัวของลูกด้วยเถอะค่ะ

 

เมื่อมาถึงโรงพยาบาล ฉันก็รีบตรงไปยังห้องพักผู้ป่วยรวมทันที เพราะ ก่อนหน้าที่ฉันจะออกจากบ้าน ทางโรงพยาบาลได้โทรมาที่บ้านอีกครั้งและ บอกว่าตรวจร่างกายน้องฉันเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้พักรักษาตัวอยู่ที่ห้อง ผู้ป่วยรวม

ฉันหันซ้ายหันขวาก่อนจะเห็นร่างบางที่คุ้นตานอนหลับใหลอยู่บน เตียงซึ่งไม่ห่างจากจุดที่ฉันยืนอยู่มากนัก ข้างเตียงนั่นมีตำรวจยืนอยู่ด้วย 'ฉันเป็นพี่สาวของเด็กคนนี้ค่ะ! เกิดอะไรนั้นกับน้องสาวฉันเหรอคะ แล้วตอนนี้เธอปลอดภัยหรือยัง!' ฉันเดินเข้าไปบอกคุณตำรวจอย่างหน้าตาตื่น พร้อมกับจับแขนเขาไว้แน่น พลันนํ้าตาก็ไหลออกมา

ใจเย็นก่อนนะครับ...แล้วนี่ผู้ปกครองของคุณไม่ได้มาด้วยเหรอ' 'ฉันนี่หละเป็นผู้ปกครองของเธอค่ะ' ฉันว่าพลางปาดคราบนํ้าตา

 

 

 

 

ออก

'อ๋อ ครับ...'

'ช่วยบอกทีเถอะค่ะ ทำไมน้องสาวฉันถึงมาอยู่ในสภาพนี้'

'คือว่า...' เขาเงียบไปอึดใจหนึ่ง 'ผมพบน้องของคุณขณะที่เธอถูก ชายคนหนึ่งทำมิดีมิร้าย...'

'มะ...หมายความว่ายังไงคะ คุณหมายถึง...น้องสาวของฉันถูก... ข่ม...ขืน...เหรอคะ' ฉันปากคอสั่นและพยายามกลั้นใจพูดประโยคที่ คาดไม่ถึงนั่นออกไปด้วยน้ำเสียงที่แห้งผาก ในหัวสมองเหมือนจะขาวโพลน ไปชั่วขณะ

'ไม่ต้องห่วงครับ...น้องสาวของคุณยังไม่โดนทำเรื่องแบบนั่น เพราะ ผมบังเอิญผ่านไปเจอเข้าพอดี หมอนั่นมันก็เลยหยุดการกระทำดังกล่าวแล้ว วิ่งหนีไป'

'หนีไป? นี่หมายความว่าคุณจับมันไม่ได้?'

'ขอโทษจริงๆ ครับ แต่ตอนนั่นมีผมเพียงคนเดียวที่อยู่ในเหตุการณ์ และน้องสาวของคุณก็มีบาดแผลตามเนื้อตัวอยู่หลายแห่ง ผมเลยต้องรีบ นำตัวเธอมาล่งโรงพยาบาลก่อน'

ฉันละสายตาจากคุณตำรวจ มองไปยังร่างที่นอนแน่นึ่งอยู่บนเตียง พลางยื่นมือไปลูบหัวน้องสาวคนสำคัญที่ฉันหวงและห่วงมากกว่าชีวิตของ ตัวเองอย่างเอ็นดู

'เธอยังไม่โดนทำเรื่องแบบนั่นจริงๆ ใช่มั้ยคะ' ฉันถามเสียงอ่อย 'ครับ...แน่นอนว่ายัง'

'ยังไงก็ต้องขอบคุณคุณตำรวจมากนะคะที่ช่วยเธอไว้ได้ทัน' ฉันบอก พร้อมกับน้ำตาที่ไหลนองหน้า

ถ้าหากเธอโดนทำเรื่องแบบนั่นลงไปแล้ว เธอจะต้องเกลียดตัวเอง แน่ๆ โซคดีจริงๆ ที่คุณตำรวจนายนี้ไปช่วยเธอไว้ได้ทันนะหอมฟัง...ฉันบอก กับน้องสาวในใจพร้อมระบายยิ้มอย่างสบายใจออกมาบางๆ แต่ถึงอย่างไร น้ำตาก็ยังไหลไม่หยุดเหมือนเดิม ไม่รู้ว่ามันไหลออกมาเพราะฉันโล่งใจหรือ

เพราะอะไรกันแน่ 

(ติดตามต่อได้ในฉบับเต็ม)

 

 

 

 

       
   
 
     

 

 

เพราะอะไรกันแน่

 

รายละเอียด

บทนำ

เป๋าหมายกำลัง'ใกล้เข้ามาแล้ว...อีกนิดเดียว...อีกนิดเดียวเท่านั้น เอาล่ะ...ใจเย็นเข้าไว้ฟูฟอง สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ บ..บ ฟืดดด

ฮ่า­

นั่นไง มาแล้ว!

พึ่บ!

ฉันกระโดดเข้าไปขวางหน้ากลุ่มนักศึกษาชายที่มีอยู่ประมาณห้าหก คนเห็นจะได้ พวกเขาสะดุ้งและผงะไปเล็กน้อยกับการปรากฏตัวของผู้หญิง แปลกหน้าอย่างฉันที่โผล่ออกมาจากซอกกำแพง

"เฮ้ย เล่นบ้าอะไรของเธอเนี่ย เห็นมหา,ลัยเป็นโรงเรียนอนุบาล หรือไง" ผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้า'ฉัน,พูดขึ้น ระยะห่างของเราแทบจะเรียก ได้ว่าไม่มีเลยก็ว่าได้ (บางทีฉันคงกะระยะตอนกระโดดช้าไปนิดหนึ่ง) ฉัน จึงเดินถอยหลังออกมาสองสามก้าวเพื่อจะได้มองหน้าเขาได้อย่างถนัดตา อ่า...หล่ออ่ะ... >_< เขามีเส้นผมสีเข้มทอประกายน้ำเงินนิดๆ แววตา เหมือน,พวกเจ้าเล่ห์และ'ขี้เล่น"ไนบางเวลา คิ้วเข้มๆ ขมวดเข้าหากันจนยุ่งเหยิง จมูกโด่งเป็นสันทำให้ใบหน้าของเขายิ่งทวีความหล่อมากขึ้นไปอีก ริม'ฝีปาก

แ©

ที่ทำเพียงกระตุกยิ้มเล็กๆ ก็สามารถทำให้ผู้หญิงคล้อยตามได้...คนอะไร หล่อเหลือกินเหลือใช้จริงๆ แถมยัง...เป็นผู้ชายที่มีหน้าตาเหมือน 'คนคนนั้น, จนแทบจะนึกว่าเป็นคนเดียวกันเสียอีก

"นี่เธอ...หรือว่าอยากจะสารภาพรักหมอนี่กันล่ะ อ่าๆ,, เพื่อนของ ผู้ชายผมสีเข้มทอประกายนํ้าเงินนิดๆ ถามฉันพลางยิ้มอย่างสนุกสนานกับ เพื่อนๆ ที่เหลือ

"หน้าตาสวยดี น่าสนนะเว้ย แกว่าไงวะดีลเลอร์" คุณผู้ชายหัวสีนํ้าตาล เกือบจะล้มผลักไหล่เพื่อนของเขา

งั้นเหรอ หมอนี่ซื่อ 'ดีลเลอร์, เหรอ

"นี่ๆ บอกไว้ก่อนนะเธอ หมอนี่น่ะมันโคตรเจ้าชู้เลย เดี๋ยวนํ้าตา เช็ดหัวเข่านะครับ AA เปลี่ยนมาเป็นฉันแทนมั้ย" เพื่อนเขาเตือน

"ถ้าหมอนี่ได้เธอแล้ว เธอจะมาเรียกร้องขอค่าเสียหายทีหลัง มัน ไม่รับผิดชอบนะบอกไว้ก่อน อ่าๆๆ ล่าสุดก็เป็นยัยนํ้าผึ้ง ดาวคณะนิเทศ ซะด้วยนะที่โดนทิ้งน่ะ,,

"เฮ้ย หุบปากได้แล้ว" เจ้าตัวที่กำลังโดนเพื่อนๆ เอาเรื่องนิสัยมา ขายอย่างสนุกปากก็หันไปแหวใส่ทันที

ฉันกวาดสายตาไล่มองเพื่อนๆ ของเขาที่ยืนหัวเราะกันคิกคักชอบใจ ที่ได้กลั่นแกล้งเพื่อนตัวเองจนครบทุกคน ก็พอจะสรุปได้แล้วว่าเขาคนนี้ เป็นผู้ชายประเภทไหน แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ไม่แคร์หรอก เพราะฉันตัดสินใจ แล้ว

"เธอ..." เหมือนเขาจะ'พูดอะไรกับฉัน

"ไปกับฉันได้มั้ย" ฉันเอื้อมมือไปจับมือของผู้ชายตรงหน้าอย่าง ถือวิสาสะ ก่อนจะล่งสายตาเว้าวอนไปให้ "ไปไหน"

"..." ฉันเงียบไปอึดใจหนึ่งแล้วพยายามจะรวบรวมความกล้าพูด ประโยคต่อไปออกไปให้ได้ "บะ...บ้านฉัน >_<///"

"บ้านเธอ?"

 

 
   
"ใช่ ไปที่บ้านของฉัน ไปกันแค่สองคน ฉัน...กับนาย"

 

"เฮ้ เธอได้ยินที่เพื่อนฉันพูดหรือเปล่า" เขาถามกลับ "ได้ยินสิ แต่...ไม่ว่ายังไงฉันก็อยากจะให้นายไปกับฉันไหได้...อย่างน้อย ก็ขอแค่วันนี้ลักวันหนึ่งก็ยังดี ได้หรือเปล่า"

"โอ้!ห...ใจกล้าไม่เบา ท่าทางจะเป็นสาวไฟแรงน่าดู" เสียงเพื่อนๆ ของเขาดังแทรก'ขึ้นมาอีกครั้ง แต่ฉันไม่ได้หันไปมอง เพราะฉันสนใจผู้ชาย คนนี้มากกว่า

ใบหน้าคมเข้มแสยะยิ้มที่มฺมปาก

"เธอเสนอมาเองนะ หึ" เขาตอบเพียงแค่นั้นก่อนจะเชยคางฉันขึ้น แล้วฝังจมูกลงมาที่แก้มของฉันเบาๆ อ่า...ฉันทำมันลงไปแล้วจริงๆ

1

อดีต

ย้อนกลับไปเมื่อสองปีก่อน

ในวันที่ฝนตกลงมาอย่างหนัก ฉันได้แต่มองออกไปนอกหน้าต่างด้วย ความรู้สึกไม่สบายใจอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ในมือกำโทรศัพท์มือถือไว้ แน่นจนเครื่องแทบจะแหลกคามืออยู่แล้ว 'ทำไมยังไม่กลับบ้านอีก...มือถือก็ปิด!,

ฉันพึมพำออกมาอย่างกระวนกระวายและยกมือข้างหนึ่งขึ้นกุมขมับ 'คุณฟองใจเย็นๆ ก่อนสิคะ ฝนตกอาจจะทำให้รถติดก็ได้นะคะ' แม่บ้านพูดขึ้นมา ทั้งๆ ที่สีหน้าของเธอเองก็ไม่ค่อยสู้ดีเหมือนกัน แตกยัง พยายามจะพูดเพื่อให้ฉันสบายใจ

'ต่อให้รถติดแค่ไหนก็เถอะ! แต่น่ามันตีหนึ่งแล้วนะ! ปกติสี่ทุ่มน้อง ก็กลับถึงบ้านแล้ว นึ่มันจะไม่นานเกินไปหน่อยเหรอ! โทรไปที่เรียนพิเศษ เขาก็บอกว่านักเรียนกลับไปหมดตั้งนานแล้ว! โทรไปหาเพื่อนน้องคนไหน ก็บอกว่าไม่ได้อยู่ด้วย! ให้ตายเถอะ! ยัยนั่นมัวไปทำอะไรอยู่ที่ไหนกันแน่ นะ!!!' ฉันหันไปตะคอกโวยวายใส่แม่บ้านอย่างหัวเสีย


 

น้องสาวของฉันที่ตอนนี้เรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่สี่ ปกติทุกวันศุกร์ จะมีเรียนพิเศษต่อหลังเลิกเรียนเสมอ เลิกเรียนก็สามทุ่มกว่าๆ แต่ฉันก็ ไม่ได้ว่าอะไรเพราะยังไงแฟนของยัยนั่นก็มักจะมาส่งที่บ้านเป็นประจำอยู่ แล้ว เอ๊ะ เดี๋ยวนะ...แฟนเหรอ...นี่ฉันลืมไปได้ยังไง! ฉันยังไม่ไดโทรไปหา หมอนั่นเลยนี่!

ทันทีที่นึกชั้นมาได้ก็เกิดความหวังในใจชั้นมา บางทีน้องสาวของฉัน อาจจะอยู่กับแฟนเธอก็ได้ ฉันรีบยกโทรศัพท์มือถือชั้นกดหาเบอร์ของการ์เน็ต ทันที

ตรู๊ด...ตรู๊ด...ตรู๊ด...

(ว่าไงครับพี่ฟอง) ปลายสายกรอกเสียงเข้ามา 'การ์เน็ต! ตอนนี้หอมฟังอยู่กับนายหรือเปล่า,

(ฟังเหรอ...อ้าว วันนี้ฟังไม่ได้บอกพี่เหรอครับว่าผมไม่ว่างไปรับเพราะ ติดธุระกับที่บ้าน...เอ๊ะ อย่าบอกนะว่าตอนนี้ยัยนั่นยังไม่ได้กลับบ้าน!!!) ปลายสายเปลี่ยนจากน้ำเสียงนุ่มๆ สบายๆ เป็นตะคอกใส่ฉันแทน นั่นทำให้ ฉันรู้ทันทีว่าหอมฟังไม่ได้อยู่กับการ์เน็ต

ถ้างั้นแล้ว...เธอไปอยู่ที่ไหนกันแน่'ฟัง...เธอทำให้พี่ไม่สบายใจเลย

นะ...

กริ๊งงง...กริ๊งงง...กริ๊งงง...

'คุณฟองคะ โทรศัพท์บ้านด้งค่ะ อาจจะเป็นคุณฟังก็ได้นะคะ' แม่บ้าน

บอก

เป็นหอมฟังเหรอ...ปกติยัยนั่นไม่เคยโทรเข้าบ้านนี่ แต่ช่างเถอะ! มัน ใช่เวลาจะมาคิดเล็กคิดน้อยซะที่ไหนล่ะ

'แค่นี้ก่อนนะการ์เน็ต ไว้เดี๋ยวพี่จะโทรกลับไปอีกที' ฉันบอกก่อนจะ กดตัดสายแล้ววิ่งไปยังเครื่องโทรศัพท์บ้าน ยกหูรับสายทันที 'ฮัลโหล!!!' (สวัสดีครับ นั่นใช่บ้านของคุณฟังฟ้า นิรนันทราหรือเปล่าครับ) เสียงของชายวัยกลางคน...?

'ใช่ค่ะ...ฉันเป็นพี่สาวของเด็กคนนั่นเอง ไม่ทราบว่าคุณ...'

(ผมโทรมาจากโรงพยาบาลนะครับ)

 

'ระ...โรงพยาบาล <ว_๐! น้องสาวฉันเป็นอะไรเหรอคะ!,

(ตอนนี้หมอกำลังตรวจร่างกายเธออยู่น่ะครับ ผมพบเธอนอนสลบอยู่ แถวๆ ริมทางสวนสาธารณะน่ะ ส่วนสาเหตุที่หมดสติไป...ผมว่ามาฟังที่ โรงพยาบาลดีกว่าครับ ยังไงก็ฝากบอกคุณพ่อคุณแม่ของคุณด้วยแล้วกัน ว่าให้มาที่โรงพยาบาล...) ปลายสายบอกซื่อโรงพยาบาลให้ฉันรู้ก่อนจะ วางสายไป

'คุณฟองคะ, แม่บ้านส่งเสียงเรียกฉัน 'อึ?'

'ใช่คุณฟังหรือเปล่าคะ'

'หอมฟัง...ตอนนี้อยู่โรงพยาบาลน่ะ'

'เอ?,

'นั่นแหละ ยังไงฟองขอตัวก่อนแล้วกัน'

ฉันบอกก่อนจะรีบเดินไปที่หน้าบ้านเพื่อสตาร์ตรถทันที เฮ้อ...ให้ตายเถอะยัยฟัง...ขออย่าให้เป็นอะไรไปเลยนะ ถ้าเธอเป็น อะไรไป พื่คงไม่เหลือใครอีกแล้ว...พระเจ้าคะ...ได้โปรดคุ้มครองสมาซิกเพียง คนเดียวที่เหลืออยู่ในครอบครัวของลูกด้วยเถอะค่ะ

เมื่อมาถึงโรงพยาบาล ฉันก็รีบตรงไปยังห้องพักผู้ป่วยรวมทันที เพราะ ก่อนหน้าที่ฉันจะออกจากบ้าน ทางโรงพยาบาลได้โทรมาที่บ้านอีกครั้งและ บอกว่าตรวจร่างกายน้องฉันเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้พักรักษาตัวอยู่ที่ห้อง ผู้ป่วยรวม

ฉันหันซ้ายหันขวาก่อนจะเห็นร่างบางที่คุ้นตานอนหลับใหลอยู่บน เตียงซึ่งไม่ห่างจากจุดที่ฉันยืนอยู่มากนัก ข้างเตียงนั่นมีตำรวจยืนอยู่ด้วย 'ฉันเป็นพี่สาวของเด็กคนนี้ค่ะ! เกิดอะไรนั้นกับน้องสาวฉันเหรอคะ แล้วตอนนี้เธอปลอดภัยหรือยัง!' ฉันเดินเข้าไปบอกคุณตำรวจอย่างหน้าตาตื่น พร้อมกับจับแขนเขาไว้แน่น พลันนํ้าตาก็ไหลออกมา

ใจเย็นก่อนนะครับ...แล้วนี่ผู้ปกครองของคุณไม่ได้มาด้วยเหรอ' 'ฉันนี่แหละเป็นผู้ปกครองของเธอค่ะ' ฉันว่าพลางปาดคราบนํ้าตา

ออก

'อ๋อ ครบ...'

'ช่วยบอกทีเถอะค่ะ ทำไมน้องสาวฉันถึงมาอยู่ในสภาพนี้'

'คือว่า...' เขาเงียบไปอึดใจหนึ่ง 'ผมพบน้องของคุณขณะที่เธอถูก ชายคนหนึ่งทำมิดีมิร้าย...'

'มะ...หมายความว่ายังไงคะ คุณหมายถึง...น้องสาวของฉันถูก... ข่ม...ขืน...เหรอคะ' ฉันปากคอสั่นและพยายามกลั้นใจพูดประโยคที่ คาดไม่ถึงนั่นออกไปด้วยน้ำเสียงที่แห้งผาก ในหัวสมองเหมือนจะขาวโพลน ไปชั่วขณะ

'ไม่ต้องห่วงครับ...น้องสาวของคุณยังไม่โดนทำเรื่องแบบนั่น เพราะ ผมบังเอิญผ่านไปเจอเข้าพอดี หมอนั่นมันก็เลยหยุดการกระทำดังกล่าวแล้ว วิ่งหนีไป'

'หนีไป? นี่หมายความว่าคุณจับมันไม่ได้?'

'ขอโทษจริงๆ ครับ แต่ตอนนั่นมีผมเพียงคนเดียวที่อยู่ในเหตุการณ์ และน้องสาวของคุณก็บาดแผลตามเนื้อตัวอยู่หลายแห่ง ผมเลยต้องรีบ นำตัวเธอมาล่งโรงพยาบาลก่อน'

ฉันละสายตาจากคุณตำรวจ มองไปยังร่างที่นอนแน่นึ่งอยู่บนเตียง พลางยื่นมือไปลูบหัวน้องสาวคนสำคัญที่ฉันหวงและห่วงมากกว่าชีวิตของ ตัวเองอย่างเอ็นดู

'เธอยังไม่โดนทำเรื่องแบบนั่นจริงๆ ใช่มั้ยคะ' ฉันถามเสียงอ่อย 'ครับ...แน่นอนว่ายัง'

'ยังไงก็ต้องขอบคุณคุณตำรวจมากนะคะที่ช่วยเธอไว้ได้ทัน' ฉันบอก พร้อมกับน้ำตาที่ไหลนองหน้า

ถ้าหากเธอโดนทำเรื่องแบบนั่นลงไปแล้ว เธอจะต้องเกลียดตัวเอง แน่ๆ โซคดีจริงๆ ที่คุณตำรวจนายนี้ไปช่วยเธอไว้ได้ทันนะหอมฟัง...ฉันบอก กับน้องสาวในใจพร้อมระบายยิ้มอย่างสบายใจออกมาบางๆ แต่ถึงอย่างไร น้ำตาก็ยังไหลไม่หยุดเหมือนเดิม ไม่รู้ว่ามันไหลออกมาเพราะฉันโล่งใจหรือ

 

เพราะอะไรกันแน่

 

(โปรดติดตามต่อในฉบับเต็ม)

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (67 รายการ)

www.batorastore.com © 2024