Love me sweet... วอนรักรำเพย

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786110600644
ผู้แต่ง: วีสาม
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 249.00 บาท 62.25 บาท
ประหยัด: 186.75 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

(ความเดิมก่อนเป็นพระเอก)

 

เมื่อนั่น...

พ่อลมรำเพยอนาถา

อกหักรักคุดสุดโศกา

ยอดสุดาหนีหน้าทำเมิน

มอบใจให้แล้วแข็งขัน

น้องกลับไม่รักกันช้ำชอก

ราวกลับตอกตะปูนับแสนดอก

เจ็บจนยอกปวดจิตคิดใคร่ครวญฯ

 

...เปิดม่าน...

 

บทที่ 1

พระเอกในสายเลือด

 

บ้านเรือนไทยประยุกต์สองชั้นริมถนนลดยางมะตอนหน้าทางเข้าหมู่บ้าน รายล้อมด้วยอาณาเขตไร่สับปะรดและสวนยางพาราสลับเป็นทิวแถวที่ผู้คนในสมัยก่อนต่างรู้จักว่าคือบ้านของ ‘เดือนสุริยา’ อดีตพระเอกลิเกคู่ขวัญของ ‘ดาราราย เพชรล้อม’ แต่เมื่อถามคนรุ่นใหม่ในตอนนี้ พวกเขาคงไม่รู้จักชื่อนี้เป็นแน่ นอกจากจะชี้มายังบ้านหลังใหญ่แล้วพูดเต็มปากเต็มคำว่า ‘เรือนไทยของท่านนายกเทศมนตรีเทศบาลผาด ศิษย์หวน’

ผาด ศิษย์หวน คือชื่อจริงของเดือนสุริยา เพชรล้อม...เดือนสุริยาผู้หาญกล้าฉุดนางเอกแห่งคณะรุ่งโรจน์นามว่า ‘วิหคน้อย รุ่งโรจน์’ มาเป็นภรรยา จนมีลูกชายหล่อเหลาหนึ่งคน งดงามยิ่งกว่าเทวาในวรรณคดี เด็กคนนั้นมีนามว่า ‘ลมรำเพย ศิษย์หวน’ เด็กชายน่ารักน่าชัง ใบหน้าหวานปานน้ำผึ้ง หากเมื่อโตเป็นหนุ่มก็หล่อเหลาคมคายชวนมองไม่รู้วาย สมกับเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งพระเอกลิเกในตำนานแทนบิดา ก่อนจะผันตัวเองมาเป็นพระเอกละครหลังข่าวดาวรุ่งพุ่งแรงแห่งปีในนาทีนี้

พ่อก็หล่อ แม่ก็สวย การผสมผสานที่ลงตัวจนออกมาเป็นพ่อลมรำเพย ศิษย์หวน อ๋วน อ๋วน อ๋วน...

อดีตพระเอกลิเกผู้ใช้ชื่อในวงการว่าเดือนสุริยาเคยขโมยหัวใจแม่ยกตั้งแต่กรุงเทพฯ จนถึงภาคตะวันออก หากลูกชายของเขา...ลมรำเพย เป็นมากกว่าโจรปล้นใจ เพราะบทบาทพระเอกละครของเขานั้น ขโมยหัวใจแม่ยกทั่วทั้งประเทศระเรื่อยไปจนถึงประเทศเพื่อนบ้าน ลาว เขมร พม่า และญวน

พ่อว่าดังแล้ว ลูกกลับดังยิ่งกว่า ยิ่งวิหคน้อยจากโลกไปก่อนที่ลมรำเพยจะรู้ความ ผาดก็ยิ่งดูแลลูกรักราวกับดวงใจและไข่ในหิน

สมแล้วที่บิดาอุตส่าห์ปั้นแต่ง รักและพร่ำสอนมาตั้งแต่เด็ก สมแล้วที่ชายหนุ่มรูปหล่อจนเรียกได้ว่าสวยเป็นคนจิตใจดี สมแล้วที่ไม่เคยทำร้ายใคร และสมแล้วที่...

“น้องมิ้มจ๋า น้องมิ้มยอดชู้ น้องมิ้มยาใจของพี่ลมรำเพ้ยยยยย”

ใช่! สมแล้วที่มั่นคงในรัก มั่นคงมากจนถึงมากที่สุด!!

ผาด ศิษย์หวน นายกเทศมนตรีเทศบาลประจำอำเภอเงยหน้ามองบานหน้าต่างห้องนอนของลูกชายด้วยสีหน้าอ่อนใจอยู่ครามครัน ชายวัยห้าสิบกว่าปีโบกมือเป็นเชิงให้คนสนิทของตนหยุดพูด แล้วจึงเดินดุ่มๆ ขึ้นบันไดบ้านตรงไปยังห้องนอนของลูกชายหัวแก้วหัวแหวน

เป็นที่รู้กันดีว่าลมรำเพย ศิษย์หวน ลูกชายสุดสวาทขาดใจของท่านเจ้าของบ้านหลงรักสาวน้อยนางหนึ่งมาเนิ่นนาน เริ่มรักและปลูกดอกรักกลางหัวใจตั้งแต่หนวดเพิ่งเริ่มขึ้น จนตอนนี้ขึ้นจนเบื่อจะโกนทิ้ง หากต้นรักปักใจที่มอบให้สาวน้อยนามว่า ‘ญาตาวี’ นั้นกลับมีอันต้องพังภินท์ แห้งเหี่ยวไร้การเจริญเติบโต ด้วยสาวน้อยนางนั้นได้แต่งงานกับเศรษฐีกรุงเทพฯ ผู้ปลอมตัวมารักษาแผลใจที่ไร่สัปปะรดหวานของเจ้าหล่อน มิหนำซ้ำเศรษฐีหน้าหล่อนามว่า ‘ภิมุข ภูเบศอรรถพงษ์’ รายนี้ยังเป็นผู้ทำให้ลมรำเพยลูกรักปานจะกลืนกินของท่านเจ้าของบ้านได้เปลี่ยนแปลงอาชีพจากพระเอกลิเกขวัญใจแม่ยกมาเป็นพระเอกละครหลังข่าวภาคค่ำ ผู้กวาดรางวัลดารานำชายยอดเยี่ยมมาแล้วทุกสถาบัน ไม่ว่าจะเป็นโทรทัศน์ทองคำ หรือตุ๊กตาทอง

นายกเทศมนตรีเทศบาลผาดลองหมุนลูกบิดประตู เมื่อเห็นว่าไม่ได้ล็อกจึงเปิดเข้าไป

สภาพภายในห้องนอนของลูกชายสุดรักยังคงเรียบร้อยสะอาดสะอ้าน จะมียุ่งเหยิงจนน่าเวทนาก็แค่สภาพของชายหนุ่มหน้าหล่อซึ่งเอาแต่นอนร้องไห้กระซิกๆ อยู่ใต้โปงผ้าห่มเท่านั้น

“ไอ้ลมรำเพยเอ๊ย” มือหยาบของนายกฯ ผาดแตะลงบนผ้าห่มแพรสีเหลืองทอง “กลับมาบ้านทีเอ็งก็ร้องไห้ที ขืนเป็นแบบนี้ข้าจะไม่ให้เอ็งกลับมาที่นี่อีกแล้ว”

“ยะ...อย่านะ ถ้าฉันไม่ได้กลับบ้าน ฉันคงขาดใจ” แม้จะขาดช่วงเป็นบางคำเพราะแรงสะอื้นไห้ แต่น้ำเสียงยังไม่วายทุ้มนุ่มออดอ้อนน่าฟัง

“ถ้าอย่างนั้นเอ็งก็อย่าร้องไห้”

“ฉะ...ฉันหยุดร้องไห้ไม่ได้ ฉันเพิ่งไปดูหลังคาบ้านน้องมิ้มมาจ้ะ นั่งมองตั้งแต่ตีสองยันฟ้าสาง คิดใคร่ครวญบอกจิตให้ตัดรัก อยากจะหักทุกอย่างแล้วหน่ายหนี แต่ทว่า...ทุกอย่างมันช่างเหมือนเดิมเหลือเกิน หลังคาตรงไหนรั่ว ตรงไหนเปลี่ยนแล้ว ฉันจำได้หมดเลยนะพ่อ ใจร้าวๆ มันก็ร้อนๆ จนโศกา ยิ่งได้ยินเสียงพี่เสือโคร่งกับคุณนางฟ้าหมิงหมิงจู๋จี๋กันด้วยก็เหมือนตอกตะปูใส่หัวใจฉันให้ชอกช้ำระกำอก” คนอกหักร้องไห้ “พ่อนายกฯ จ๋า ทำไมคนอื่นปลูกต้นรักขึ้น แล้วทำไมฉันกลับปลูกไม่ได้ ทำไมจ๊ะ ทำม้ายยยย”

“อะไรกัน ข้าห้ามเอ็งไว้ไม่ใช่หรือว่าไม่ให้ไปส่องหลังคาบ้านแม่มิ้มอีก โธ่ถัง ไอ้ลมรำเพยเอ๊ย แม่มิ้มมีลูกแล้วนะโว้ย เอ็งอยากผิดศีลข้อสามหรือไง ผิดลูกผิดเมียชาวบ้านแม้จะเป็นทางใจก็เถอะ มันก็ไม่สมควร ไอ้ลูกแก้วลูกสวาทสุดรักของพ่อ เอ็งตัดใจเสียเถอะ นางเอกที่เล่นละครคู่กับเอ็งกี่คนๆ ต่างก็อยากมีข่าวคาวๆ กับเอ็งทั้งนั้น เอ็งหัดมองแม่สาวๆ พวกนั้นบ้างสิว้า”

“ห้ามอะไรก็ห้ามได้ แต่ห้ามควันกับรักแล้วไซร้ ห้ามยากเย็นยิ่ง” คราวนี้คงใต้โปงผ้าห่มแพรร่ายออกมาเป็นกลอนคล้ายกับเจ้าตัวนั้นยังคงเป็นพระเอกเลิเกเช่นอดีตที่ผ่านมา หาใช่พระเอกละครผู้ทันสมัยแห่งกรุงเทพฯ เมืองฟ้าอมร

“เออ ข้ารู้ แต่เอ็งต้องทำ เข้าใจไหมลูกพ่อ”

“ใจฉันเมื่อสลักเป็นชื่อใคร ยากนักจะเลือนหาย”

“ถ้ามันเลือนยากนักเอ็งก็สลักชื่อคนใหม่ทับเข้าไปสิวะ”

“สามปีที่รักคุด ไม่เคยหยุดรักเจ้าสักเพียงเสี้ยว ต่อให้ลูกหนึ่ง ลูกห้า หรือลูกเจ็ด จะกี่คนๆ ฉันก็รับได้ทั้งนั้น ฉันจะเป็นพ่อที่ดี เต็มใจเลี้ยงดูลูกติดของน้องมิ้ม ขอแค่ให้คู่สวาท เอ๊ย สามีของน้องมิ้มตายเสียก็พอ โอ๊ย พ่อตีฉันทำไม ฉันเจ็บนะ”

“เอ็งจะบ้าหรือไงไอ้ลมรำเพย สามีแม่หนูมิ้มเป็นนายจ้างเอ็งนะ ข้าถามหน่อย เอ็งเป็นพรีเซ็นเตอร์บัตรเครดิตของธนาคารคุณภิมุข เอ็งได้เงินต่อปีเท่าไหร่ เอ็งบอกข้าซิ งานสบายแบบนี้คุ้มยิ่งกว่าเอ็งเล่นละครอีกไม่ใช่หรือไง แล้วเอ็งบังอาจแช่งอู่ข้าวอู่น้ำของเอ็งอย่างนั้นเหรอ ไอ้ลูกเวรตะไลเอ๊ย” มือหยาบกร้านตีลูกชายแรงๆ พยายามเลิกโปงผ้าห่มของคนรักคุด

“ออกมาจากกระดองของเอ็งเลยนะไอ้ลมรำเพย ล้างหน้าล้างตาแล้วเอาหน้าหล่อๆ ของเอ็งไปหาแม่ยก ลืมแล้วหรือไงว่าเอ็งเป็นใคร ต่อให้เป็นพระเอกละครเอ็งก็ต้องรักษากลุ่มแม่ยกคนรักพ่อลมรำเพยเอาไว้ หายหน้าไปปีกว่า แม่ยกที่นี่คิดถึงเอ็งจนอกจะไหม้อยู่แล้ว กลับมาบ้านทั้งที แทนที่จะมานั่งน้ำตาตกในกับรักที่ลอยไปจนเกินเอื้อม เอ็งเอาเวลาพวกนี้ไปนั่งฉอเลาะแม่ยก เรียกมาลัยเงินสดมาให้ข้านับเล่นสิวะ"

“ไม่เอา ฉันอยากนอนระลึกถึงน้องมิ้มยาใจ” ผู้ที่ละครปิดกล้องคราวใดก็มักกลับมาเก็บตัวและรักษาแผลใจที่บ้านบิดาอยู่เสมอพูดเสียงขุ่น “เป็นตายร้ายดีฉันก็จะไม่ออกไปจากห้อง ฉันอยากนอนฝันถึงน้องมิ้มคนดีศรีหัวใจ”

“เอ๊ะ เอ็งจะออกมาดีๆ หรือจะให้ข้าเอาหวานมาเฆี่ยนให้เอ็งออก” เมื่อน้ำเย็นไม่สามารถลูบให้ใจลูกชายหายช้ำได้ น้ำร้อนจึงถูกสาดใส่ทันที

หากคนพูดก็ต้องหยุดชะงักเมื่อเสียงดนตรีไทยทำนองละเมียดละไมดังเบาๆ มาจากโทรศัพท์เคลื่อนที่ในกระเป๋าเสื้อซาฟารี...ชุดเสื้อกางเกงที่ดูคล้ายจะเป็นเครื่องแบบนักการเมืองท้องถิ่นเข้าไปทุกที

ท่านนายกฯ ผาดหยิบขึ้นมาดูหน้าจอ แล้วนิ่วหน้ารับสาย

“นายกเทศมนตรีเทศบาลผาดพูด นั่นใคร”

ฟังเสียงจากปลายสายสักพัก ใบหน้าที่ยังคงเค้าความกรุ้มกริ่มจึงแปรเปลี่ยนเป็นยิ้มน้อยๆ ใช้ปลายนิ้วสะกิดลูกชาย ดัดเสียงจนเปี่ยมไปด้วยเมตตาจิตแบบเมื่อแรกที่เข้ามาในห้องนอนของพระเอกหน้ามน

“ลมรำเพยลูกพ่อ ผู้จัดการส่วนตัวโทรมาแน่ะลูก”

ความรับผิดชอบอันสูงส่งเท่านั้นที่ทำให้เขายอมโผล่หน้าออกมาได้ ดวงตาสีนิลดำสนิทวาววับราวลูกแก้วแดงก่ำอย่างน่าสงสาร แพขนตางอนยาวสีเข้มเปียกชุ่ม แต่ไม่มากจนอาจหาญมาทำลายความน่าดูปนเซ็กซี่ของเปลือกตาสองชั้นที่ปรือนิดๆ ราวกับเจ้าตัวไม่พอใจหน่อยๆ ที่ความเป็นส่วนตัวถูกบุกรุกในวันหยุดยาวๆ แบบนี้

“สวัสดีครับ”

ใช่แล้ว ได้ยินไม่ผิดหรอก กฏข้อแรกของการเป็นพระเอกซึ่งฝัง

(ติดตามอ่านต่อได้ในฉบับเต็ม)


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (59 รายการ)

www.batorastore.com © 2024