Atomic love… รักนี้ทุกอณูใจ

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9789747503890
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 259.00 บาท 64.75 บาท
ประหยัด: 194.25 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

บทนำ

 

                “อะไรนะ ไหนลองพูดให้ฉันฟังชัดๆ อีกครั้งได้ไหมวะ ไอ้โมล”

                คนที่กำลังนั่งพิงเก้าอี้ตัวใหญ่สบายๆ ถึงกับกระเด้งตัวให้นั่งตัวตรง ตาคมประดับด้วยขนตายาวทำให้ดูมีเสน่ห์เบิกกว้าง ไม่เชื่อหูตัวเองว่าสิ่งที่ได้ยินผ่านเครื่องมือสื่อสารอันแสนทันสมัยจะเป็นเรื่องจริง

                เสียงหัวเราะแบบขำๆ ของ ‘ไอ้โมล’ เหมือนจะตอกย้ำว่าสิ่งที่ได้รับฟังเมื่อสักครู่เป็นความจริงเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์แน่นอน

                “ฉันรู้ว่าแกได้ยิน แต่เอาเถอะจะบอกอีกรอบก็ได้ พรุ่งนี้ยัยอะตอมจะลงมากรุงเทพฯ ช่วยไปรับที่สนามบินด้วย ชัดหรือยัง” โมไนยตอบอย่างใจเย็น

                “ชัด แต่ไม่ไป! แกเป็นพี่ชาย แกก็ไปรับเองสิ” ภพกรัณย์ปฏิเสธแบบสิ้นเยื่อขาดใย เรื่องอะไรเขาจะต้องทำตามที่เพื่อนบอก สิ่งสุดท้ายในโลกที่เขาจะกระทำคือการไปเจอหน้ายัยตัวแสบอะตอม

                “ก็อย่างที่บอกตอนแรกไงว่าฉันต้องไปทำงานต่างจังหวัด ไปรับไม่ได้ ทำตามที่บอกหน่อยเถอะ บ้านก็อยู่หมู่บ้านเดียวกัน ไม่ลำบากแกมากหรอกน่า” ทำไมจะไม่รู้ว่าผู้เป็นเพื่อนไม่อยากเจอน้องสาวเขามากเพียงใด ถึงเรื่องมันจะนานนมแต่มันก็ฝังลึกในความทรงจำของภพกรัณย์ ถึงได้โวยวายไม่ยอมไปเจอขนาดนี้

                “น้องสาวแกก็โตแล้ว มาเองไม่ได้หรือยังไง” เสียงยังคงแข็งดังเดิม...ใครจะหาว่าไร้น้ำใจก็ไม่สน

                “มาได้แต่เป็นห่วง น้องสาวคนเดียวนะเว้ย จะปล่อยให้เดินทางในกรุงเทพฯ ตามลำพังได้ยังไง” โมไนยเริ่มโวยวายบ้าง...มีอย่างที่ไหนจะให้น้องสาวสุดที่รักเคว้งเมื่อมาถึงที่นี่ แววเดือดร้อนมาแต่ไกล

                “ทำอย่างกับไม่เคยอยู่กรุงเทพฯ แค่ไปเรียนไม่กี่ปี แถมแสบขนาดนั้น ไม่มีใครทำอะไรได้หรอก” อย่านึกว่าเขาจะยอมแพ้ ไม่มีทาง! โน่น...จะยอมก็ต่อเมื่อหมดทางจริงๆ แต่คนอย่างโมไนยไม่มีทางต้อนเขาจนมุมได้แน่นอน

                ถึงโมไนยจะเห็นด้วยกับความคิดเพื่อนทุกข้อ แต่ยังไม่ยอมอยู่ดี ทั้งขู่ทั้งอ้อนวอนเพื่อให้เพื่อนยอมทำตามความต้องการ

                ครอบครัวเขาย้ายไปอยู่เชียงใหม่เมื่อเก้าปีที่แล้วตามความต้องการของบิดามารดา ซึ่งอยากจะกลับไปอยู่ใกล้เครือญาติและไปช่วยบริหารงานบริษัทของตระกูล ขณะนั้นโมไนยกำลังขึ้นชั้นปีที่สองของมหาวิทยาลัยรัฐบาลอันมีชื่อเสียงจึงอยู่โยงในบ้านหลังเดิม ส่วนอรกนิษฐ์ย้ายไปเรียนต่อที่เชียงใหม่จนถึงระดับปริญญาตรี ตอนนี้อยู่ชั้นปีสุดท้ายต้องลงมาฝึกงานตามเกณฑ์บังคับของคณะ

                บริษัทที่หญิงสาวทำเรื่องขอฝึกงานไม่ใช่ของคนอื่นคนไกล...ของคนที่กำลังโต้เถียงทางโทรศัพท์กับเขาอยู่นี่เอง ทุกอย่างเป็นฝีมือยัยตัวแสบทั้งสิ้น โทรศัพท์ทางไกลเพื่อบังคับขู่เข็ญให้ภพกรัณย์ตอบรับจดหมายฝึกงานด้วยตัวเอง

                ในตอนแรกได้รับคำปฏิเสธแบบสิ้นเยื่อขาดใยเมื่อโมไนยเป็นคนดำเนินเรื่องให้ ด้วยเหตุผลที่ว่า...

                ‘บริษัทฉันไม่รับเด็กฝึกงาน!’ เป็นเหตุผลที่โกหกสิ้นดี ในเมื่อรุ่นพี่ของอรกนิษฐ์หลายคนผ่านการฝึกงานจากบริษัทฟิล์มเมกเกอร์เป็นจำนวนหลายรายแล้ว บอกว่าไม่รับได้อย่างไรกัน

                ‘อย่าโกหก ไม่เนียนเลยว่ะ’ เหมือนน้องสาวจะรู้ว่าภพกรัณย์ต้องมาไม้นี้จึงบอกข้อมูลการฝึกงานของรุ่นพี่มาเรียบร้อย พ่วงท้ายด้วยคำขู่อีกนิดหน่อย

                ‘ถ้าพี่โมลจัดการไม่ได้ เดี๋ยวอะตอมลงมือเอง’ กลัวว่าถึงมือยัยตัวแสบ เพื่อนเขาต้องแย่ก่อนแน่ๆ

                ในความคิดโมไนย คนทั้งโลกไม่มีใครแสบสันเท่าอรกนิษฐ์อีกแล้ว ทั้งๆ ที่ตัวเจ้าหล่อนก็เล็กนิดเดีย หน้าตาบ้องแบ๊วไม่มีพิษมีภัย โดยเฉพาะนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มใสดั่งลูกแก้วประดับด้วยแพขนตาหนางอนยาว ใครเผลอไปจ้องมองเข้ามีอันต้องหลุมพรางอันเต็มไปด้วยขวากหนามปูเต็มก้นหลุมแน่นอน

                ...ใสแต่หน้าและดวงตา แต่นิสัยช่างตรงกันข้าม...

                ‘เต็มแล้ว บอกน้องสาวแกให้ไปหาเอาเองข้างหน้า ถ้าหาไม่ได้เดี๋ยวฉันฝากให้ก็ได้ แต่อย่ามาที่บริษัทฉัน เต็ม...เต็มตลอดปีตลอดชาติ ไปถึงชาติหน้าด้วยเอ้า’ ข้ออ้างแรกไม่ได้ผล ข้ออ้างที่สองตามมาติดๆ แค่คิดสภาพว่าการมาฝึกงานต้องเจอกันทุกวันตลอดสามเดือนก็สยองแล้ว...ถ้ายัยเด็กแสบโตขึ้นแล้วนิสัยไม่เปลี่ยนไป คนที่แย่ต้องเป็นเขาเอง

                ‘แน่ใจนะว่าจะให้บอกอย่างนี้ คิดดีๆ นะเพื่อน’ โมไนยเตือนด้วยความหวังดี

                ‘แน่ใจที่สุด ในชีวิตนี้ไม่เคยแน่ใจอะไรอย่างนี้มาก่อนเลยโมล’ น้ำเสียงที่ตอบทั้งหนักแน่นและจริงจัง

                โมไนยถ่ายทอดคำพูดของภพกรัณย์โดยไม่ตกหล่นแม้แต่ประโยคเดียวให้น้องสาวรับทราบ เหมือนแกล้งเพื่อน...ความอยากรู้อยากเห็นกระตุ้นให้ชายหนุ่มสงสัยว่าอรกริษฐ์จะทำอย่างไรต่อไป

                ตัวต้นเรื่องไม่ได้มีท่าทีกลัดกลุ้มที่หาที่ฝึกงานไม่ได้สักนิด กลับส่งเสียงหัวเราะอันแสนสดใสในความคิดของคนภายนอก แต่สำหรับคนรู้จักกันมาตั้งแต่เกิดกลับคิดว่าเป็นเสียงหัวเราะสุดแสนเจ้าเล่ห์จนไม่น่าไว้วางใจ

                แล้วอีกไม่กี่วันต่อมาเขาก็ทราบข่าวว่าภพกรัณย์ตอบรับให้เธอเข้าฝึกงานพร้อมกับส่งจดหมายเป็นหลักฐานยืนยันให้ทางมหาวิทยาลัยรับทราบเรียบร้อย

                โมไนยสงสัยว่าน้องสาวทำให้เจ้าของบริษัทฟิล์มเมกเกอร์ตกลงได้อย่างไร เมื่อเจอหน้าภพกรัณย์จึงถามเรื่องนี้เป็นอันดับแรก รอยยิ้มอันประดับบนใบหน้าเข้มคลายลงทันที ทำตาวาวๆ เต็มไปด้วยความไม่พอใจ

                ‘จะไม่ตกลงได้ยังไง ก็เล่นโทรศัพท์ข้ามทวีปไปฟ้องแม่ฉัน หาว่าใจร้ายกับอนาคตของชาติ ตัดทางก้าวหน้า หวงวิชา กีดกันคนมีพรสวรรค์ไม่ให้ร่วมอาชีพเดียวกัน แม่เลยโทรมาเฉ่งฉันจนหูอื้อไปหมด ยังไม่พอนะ บอกว่าจะเอาเบอร์โทรศัพท์ของแนไปแจกในเว็บเกย์ต่างๆ ตามด้วยรูปถ่ายน่าเกลียดตอนสมัยวัยรุ่น ถ้ายังไม่ทำอีกคราวนี้คงจะหาเรื่องประจานกับนักข่าว’

                คำขู่แต่ละอย่างทำเอาคนฟังกลืนน้ำลายเอื๊อก แค่เจอโทรศัพท์จากมารดาที่ในอดีตจนถึงปัจจุบันเอ็นดูอรกนิษฐ์ราวกับลูกสาวก็คางเหลืองแล้ว ยังมีไม้เด็ดอีกชุดใหญ่รออยู่ งานนี้ไม่ตายก็เลี้ยงไม่โต

                แม้บ้านจะไม่ได้อยู่ติดกัน แต่ก็อาศัยอยู่หมู่บ้านและซอยเดียวกัน แถมโมไนยกับภพกรัณย์สนิทกันเพราะเรียนโรงเรียนเดียวกันหลายปี ทั้งสองบ้านจึงติดต่อไปมาหาสู่กันอยู่เสมอ...ไม่แปลกใจเลยว่าพอยัยตัวแสบโทรไปฟ้องท่านจะจัดการรวดเร็วราวกับติดจรวด

                อรกนิษฐ์เป็นน้องสาวที่ติดพี่ชายมาก เพราะในละแวกบ้านใกล้เคียงไม่มีเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันกับเธอ เมื่อเติบโตสามารถวิ่งเล่นเองได้จึงติดสอยห้อยตามไปด้วย รวมถึงการเล่นกับภพกรัณย์

                ตอนแรกผู้เป็นเพื่อนก็ยินดี บอกว่าอะตอมน่ารักอย่างนั้นน่าเอ็นดูอย่างนี้ แต่พอโตขึ้นเรื่อยๆ สงสัยความซนที่สะสมไว้จะอิ่มตัว ถึงได้เฮี้ยวจนตั้งรับกันไม่ไหว แถมชอบเล่นอะไรแผลงๆ จนคนรอบตัวเดือดร้อนไปตามๆ กัน คนโดนเล่นงานเยอะที่สุดคงไม่พ้นผู้ชายที่ชาย...ภพกรัณย์

                หญิงสาวรู้จุดอ่อนชายหนุ่มเป็นอย่างดี และด้วยหน้าที่การงานในปัจจุบัน ในฐานะผู้กำกับภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียง บวกกับตำแหน่ง ‘กรรมการผู้จัดการ’ง บริษัทฟิล์มเมกเกอร์ ซึ่งเป็นบริษัทผลิตภาพยนตร์ในเครือบริษัทบันเทิงยักษ์ใหญ่ของประเทศไทย ด้วยความไว้เนื้อเชื่อใจของผู้ใหญ่ เมื่อคิดจะตีตลาดภาพยนตร์จึงทาบทามผู้กำกับภาพยนตร์ฝีมือเยี่ยมให้มารับตำแหน่ง แล้วภพกรัณย์ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ผลิตงานที่มีคุณภาพออกมาเรื่อยๆ จนชื่อบริษัทเป็นที่ติดหูและเชื่อถือได้

                แต่นิสัยส่วนตัวของกรรมการผู้จัดการหนุ่มนั้นตรงกันข้ามกับภาพที่สื่อมวลชนรับรู้ ตามข่าวคนจะมองว่าเป็นผู้ชายเก่ง มีมนุษยสัมพันธ์ดี ยิ้มแย้มอยู่เสมอ พูดจานุ่มสบายหู ใจเย็น เสริมด้วยหน้าตาหล่อเหลา คมเข้ม รูปร่างสูงใหญ่ การแต่งกายดูเซอร์ๆ ติดดินแต่มีสไตล์ของตัวเอง อายุกำลังพอดีที่จะทำให้สาวๆ ได้กรี๊ดกันทั่วเมือง

                ใครจะรู้ว่าภาพลักษณ์ที่มองเห็นแต่ไม่สามารถจับต้องได้นั้นเป็นฝีมือภพกรัณย์เอง เพื่อให้เหมาะสมกับงานของตัวเอง ถึงจะไม่ใช่ดารานักแสดงที่มีคนสนใจชีวิตเรื่องส่วนตัว ทว่าต้องป้องกันไว้ก่อนเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อบริษัท ฉะนั้นคำขู่ของอรกนิษฐ์ว่าจะแฉเรื่องในอดีตจึงได้ผล

                ...เรื่องอะไรจะให้ยัยจอมซนป่วนให้เวียนหัวด้วย...

                นั่นคือเหตุผลที่ทำให้ภพกรัณย์ยอมจำนนให้น้องสาวเพื่อนมาฝึกงาน

                ‘ยัยอะตอมนี่ร้ายชะมัด’ โมไนยรำพึงออกมา สงสารเพื่อนตัวเองที่เจอฤทธิ์เดชแม่เจ้าประคุณเข้าไป

                รู้ดีว่าจริงๆ แล้วภพกรัณย์ไม่ใช่คนใจเย็นและไม่เคยยอมใครขนาดนี้มาก่อน จะว่าไปตั้งแต่คบกันมา ในโลกนี้นอกจากพรนภาก็ยังมีผู้หญิงที่ชื่ออรกนิษฐ์อีกคนที่สามารถดักทางชายหนุ่มได้หมด

                ภพกรัณย์ไม่มีทางรู้เลยว่าการลงมาฝึกงานครั้งนี้เป็นความตั้งใจของอรกนิษฐ์ทั้งหมด ดูท่าทางแล้วเจ้าหล่อนคงอยากเจอเพื่อนพี่ชายมากๆ ที่ผ่านมาเธอได้เห็นแค่รูปถ่ายทางสื่อต่างๆ ได้ยินเสียงทางโทรศัพท์ พอมีโอกาสลงมากรุงเทพฯ ต้องรีบหาทางใกล้ชิดด้วยข้ออ้างสั้นๆ ไม่น่าเชื่อถือเลยสักนิด

                ‘คิดถึง’ คนพูดทำตาแพรวพราวดูไม่น่าไว้วางใจมากที่สุดในโลก

                โมไนยทำนายไว้เลย ต่อไปนี้ชีวิตภพกรัณย์จะไม่ได้รู้จักคำว่าสงบสุขแน่นอน!!!

                ...งานนี้ช่วยอะไรไม่ได้ ตัวใครตัวมันแล้วกัน...

 

                “ถึงแสบแค่ไหนแกก็ต้องไป คิดดู...ฉันบอกอะตอมไปแล้วว่าจะให้แกไปรับ แล้วพอลงจากเครื่องไม่เจอใคร ต้องขนกระเป๋าหนักๆ คนเดียว เดินทางไปบ้านก็ไม่รู้จะเจอแท็กซี่ดีหรือเปล่า ถึงน้องสาวฉันจะไม่เซ็กซี่แต่ก็น่ารักนะเว้ย เกิดไปทำให้ใครมีอารมณ์ขึ้นมายุ่งแน่ๆ แกจะยอมให้ ‘ยัยตัวเล็ก’ โดนทำร้ายร่างกายและจิตใจเหรอวะ ถึงจะแสบแต่ก็ไม่ได้เอาตัวรอดได้ตลอดนะ แล้วแกจะรู้สึกผิดไปตลอดชาติ อนาคตของอะตอมก็มืดมน” โมไนยร่ายยาวไม่เว้นจังหวะให้ปลายสายได้เถียง

                “แล้วพอมีแรงฉันเชื่อว่าอะตอมต้องจัดการกับแกแน่ แล้วทีนี้...หึๆๆ” หัวเราะลอยๆ ละคำพูดให้อีกฝ่ายคิดต่อเอาเอง

                ประโยคโน้มน้าวโดยการเอาสวัสดิภาพของหญิงสาวที่ได้ชื่อว่าเคยเล่นด้วยกันตั้งแต่เด็กขึ้นมาขู่นับว่าได้ผล ภพกรัณย์นึกภาพตามอดหนาวๆ ร้อนๆ ไม่ได้ ถ้าเกิดขึ้นจริง ทุกอย่างเป็นตามที่เพื่อนพูดแน่นอน ต่อให้ใจแข็งมากแค่ไหน แต่ถ้าเขาเป็นต้นเหตุทำให้เกิดเรื่องร้ายๆ ขึ้น คงไม่ดีเท่าไรนัก

                ...แค่ไปรับแล้วมาส่งที่บ้าน คงไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอกน่า...

                “เออๆ ไปรับก็ได้ ที่สนามบินบ่ายโมง พรุ่งนี้ใช่ไหม” ขนาดไม่สนใจยังจำเที่ยวบินเชียงใหม่-กรุงเทพฯ ได้แม่นยำ...โมไนยกมุมปากขึ้นสูง พอใจในคำตัดสินใจของอีกฝ่าย คนใจอ่อนก็เป็นคนใจอ่อนวันยังค่ำ ถึงนิสัยบางส่วนจะดูแข็งกระด้างไม่สนใจใคร แต่กับคนรู้จักหรือคนใกล้ตัวภพกรัณย์มักปฏิบัติอย่างนุ่มนวลโดยไม่รู้ตัว แม้จะแสดงท่าทางว่าไม่เต็มใจแต่มันซ่อนความจริงใจเอาไว้ มันมากพอที่จะวางใจได้ว่าเพื่อนต้องไปรับน้องสาวแน่นอน

                “ใช่ ขอแนะนำให้ไปก่อนเวลา ถ้าเครื่องลงก่อนแกไปถึงอาจจะเจอดีได้” โมไนยแนะนำ

                “ไม่เห็นจะกลัวเลย แกอย่าทำเหมือนน้องสาวแกเป็นนางยักษ์นางมารหน่อยเลย ไปสายนิดๆ หน่อยๆ คงไม่อาละวาดจนสนามบินพังหรอก” แค่นเสียงประชัดประชัน... ไปรับก็ดีเท่าไรแล้ว ยังมีเงื่อนไขให้น่าปวดหัวอีก

                “อะตอมไม่อาละวาดใส่สนามบินหรอก แต่คงใส่แกมากกว่า เตือนแล้วไม่เชื่อเองนะเว้ย” ปลายสายไม่ถือสาเพื่อน คนไม่ชอบอยู่ในกฏเกณฑ์อย่างภพกรัณย์ เจอเงื่อนไขเยอะแยะจะหงุดหงิดก็เป็นเรื่องธรรมดา

                “ฉันเอาตัวรอดได้ มีอะไรอีกไหม ถ้าไม่มีจะได้ไปทำงานต่อ คุยกับแกแล้วหงุดหงิดว่ะ” ผู้กำกับหนุ่มบอกตรงๆ คิ้วกดเข้าหากันแทบจะกลายเป็นเส้นตรง โทรศัพท์มาหาทั้งทีแทนที่จะมีเรื่องสบายใจกลับหาปัญหามาให้

                โมไนยหัวเราะในลำคอ ขบขันกับคำต่อว่าและอารมณ์หงุดหงิดของเพื่อน

                “ไม่มีแล้ว ขอบใจมาก เดี๋ยวฉันไปเตรียมตัวเดินทางก่อน ขอให้โชคดีนะเพื่อนรัก” พูดไปหัวเราะไป

                คนฟังกัดฟันกรอด เข่นเขี้ยวในใจที่ทำอะไรคนเอาปัญหามาให้ไม่ได้                             

                ...อย่าให้ถึงทีเขาบ้าง...

                “เออ ขอบใจ จะไปไหนก็ไปเลยไอ้โมล” ภพกรัณย์ไล่ส่งทันทีเมื่อหาจังหวะได้

                “จะเอาของฝากไหมเดี๋ยวซื้อมาให้” ยังไม่วายแหย่ส่งท้ายก่อนวางสายไปด้วยความรื่นรมย์ ไม่ต้องมีอะไรให้หนักใจอีกต่อไป เมื่อหาเหยื่อ...เอ้ย...คนไปรับน้องสาวได้โมไนยก็หมดเรื่องกังวล จะได้ทำงานอย่างมีความสุข “บ๊ายบายเพื่อนรัก อย่าลืมไปให้ตรงเวลานะ”

                “ไอ้โมล อย่าให้เจอตัวนะเว้ย!”

                ‘เหยื่อ’ โวยวายแต่ไม่ทันอีกฝ่ายที่ชิงตัดสายไปเสียก่อน รู้ว่าถ้าช้ากว่านี้อีกสักวินาทีจะต้องได้รับวาจาอันแสบร้อนให้ลวกหูเล่นๆ...งานนี้เผ่นสถานเดียว

                ทางฝ่ายคนถูกขอร้องแกมบังคับขู่เข็ญได้แต่หัวเสียใส่โทรศัพท์ เสยผมยุ่งน้อยๆ ให้เป็นยุ่งมากๆ ก่อนจะโยนโทรศัพท์มือถือลงบนโต๊ะทำงาน ซึ่งเต็มไปด้วยกองบทภาพยนตร์เคลื่อนกระจาย ไม่ไยดีเลยสักนิดว่ามันจะแตกหักเสียหายหรือไม่พร้อมคำรามในลำคอ ขัดใจตัวเองที่เผลอใจอ่อนกับพี่น้องคู่นี้จนได้

                ร่างสูงทิ้งตัวกับพนักเก้าอี้ ไม่มีอารมณ์ตรวจบทภาพยนตร์ที่อ่านค้างไว้ต่อ คิดไม่ออกว่าถ้าพบหน้าอรกนิษฐ์อีกครั้งจะเป็นอย่างไร หลังจากห่างหายกันไปเป็นเวลาหลายปี จะได้ยินข่าวคราวผ่านทางโมไนยเป็นบางครั้ง สนใจบ้างไม่สนใจบ้าง เพราะคิดว่าอยู่ห่างกันหลายจังหวัดคงโคจรมาพบกันยาก แต่ดูเหมือนว่าเขาจะคิดผิด

                สุดท้ายเขาและอรกนิษฐ์ต้องพบกันแถมอยู่ใกล้กันเสียด้วย ไม่อยากจะคิคว่าชีวิตจะวุ่นวายมากมายเพียงใด คงได้แต่อ้อนวอนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยดลบันดาลให้เด็กหญิงแสบซนในอดีตแปรเปลี่ยนเป็นผู้หญิงเต็มตัว...เรียบร้อยน่ารักน่าเอ็นดู ไม่รู้ว่าจะขอมากไปหรือเปล่า เพราะจากที่ฟังเพื่อนเมื่อครู่ โอกาสเป็นไปได้ยาก

                แต่อย่านึกว่าเขาจะกลัว...แค่ไปรับที่สนามบินก็ดีมากพอแล้ว ส่วนเรื่องจะไปก่อนหรือไปตรงเวลามันเป็นสิทธิ์ของเขา รอนิดรอหน่อยไม่ได้หรืออย่างไร

                มันน่าแกล้งให้รอเสียให้เข็ด...ไอ้โมลก็อีกคน ขู่เหลือเกิน

                แค่ผู้หญิงตัวเล็กเท่าเมี่ยง ถึงจะเฮี้ยวมากแค่ไหนก็ไม่ทำให้ภพกรัณย์คนปัจจุบันหวั่นวิตกได้...ที่ผ่านมามันเป็นเพียงอดีต ตอนนี้เขาเปลี่ยนไปแล้ว ฝ่ายโน้นต่างหากต้องเกรงกลัวเขา

                คนอย่างเขาไม่เคยกลัวใคร!!!

               

(ติดตามต่อได้ในฉบับเต็ม)

 


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (74 รายการ)

www.batorastore.com © 2024