Eternal kiss...จุมพิตรักนิรันดร์

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786160601806
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 189.00 บาท 149.31 บาท
ประหยัด: 39.69 บาท ( 21.00% )

เนื้อหาบางส่วน

บทนำ

 

...ในดินแดนที่โลกถูกแบ่งออกเป็นสามส่วน มนุษย์ ผู้วิเศษ และปีศาจ

ทัสแซน...ประเทศที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือสุดของดินแดนมนุษย์อันมีอาณาเขตกับแดนปีศาจที่มองไปไม่เห็นอะไรนอกจากม่านหมอกหนาทึบสูงเทียมฟ้า มีเรื่องราวสืบทอดต่อกันมายาวนานนับสิบนับร้อยปีกล่าวเอาไว้ว่า...

ในคืนที่พระจันทร์บนฟ้าเต็มดวงและสาดแสงสีราวกับเลือดที่หลั่งรินออกมาจากกลางอกของหญิงสาวบริสุทธิ์ เงาดำทะมึนสูงใหญ่ร่างหนึ่งจะปรากฏขึ้นจากม่านหมอกของแดนปีศาจอย่างเงียบเชียบไร้ที่มาและที่ไป ร่างนั้นลอยอยู่กลางฟากฟ้าราวกับมีปีก ก่อนจะร่อนถลาดุจเหยี่ยวอันงามสง่าตรงไปยังเมืองหลวงอันเงียบสงบที่ทุกคนต่างหลับใหลอยู่ในห้วงนิทรา และยามเมื่อแสงทิวามาเยือน หญิงสาวผู้งดงามที่สุดของประเทศจะหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ไม่ว่าจะเกณฑ์คนออกตามหาจนแทบพลิกแผ่นดิน หากไม่มีใครเคยพบหญิงสาวผู้นั้นอีกเลย...ไม่เคยมี

และนั่นคือตำนานที่เล่าขานมาเนิ่นนาน...

เรื่องทั้งหมดมันเริ่มต้นขึ้นเมื่อเวนย์...ผู้นำตระกูลโรวอลล์อันยิ่งใหญ่แห่งดินแดนปีศาจสายพันธุ์ของผู้เสพโลหิตเป็นอาหารทิพย์ตัดสินใจเดินทางไปยังปราสาทคลอเดอเบลของจ้าวปีศาจเซียร์ กราเชลเพื่อพบคนที่คิดถึง แต่เขาก็กลับพบเพียงแค่เรน กราเชลผู้เป็นน้องชายของจ้าวปีศาจที่มารักษาการแทนพร้อมครอบครัวและลูกน้อย ซึ่งกว่าจะง้างปากชายหนุ่มเจ้าของดวงตาสีเงินให้บอกว่าคนที่เขาอยากพบหายไปไหน เวนย์ก็แทบจะกระอักเลือดตาย ทั้งยังนึกสงสัยเป็นยิ่งนักว่าอดีตจ้าวปีศาจรีร์ซึ่งเป็นสหายสนิทของเขาทำไมถึงได้เลี้ยงลูกออกมาเป็นอย่างนี้แทบทุกคนเลยเชียว

เมื่อรู้ว่าจ้าวปีศาจไปเยี่ยม ‘ญาติ’ ในแดนมนุษย์พร้อมด้วยอัลไลยาห์ผู้เป็นภรรยา กับเมอร์ซีน้องสาวปากร้ายขี้แกล้ง และน้องเขยที่ยอมภรรยาทุกอย่างจนแทบจะถวายหัให้อย่างเร็กซ์ นาดาส นับรวมไปถึงฮิว เลนดาห์คนสนิทของจ้าวปีศาจที่เขาไม่ค่อยชอบหน้าเท่าไหร่ เวนย์ก็ไม่รั้งรอที่จะติดตามไป เพราะนอกจากต้องการจะพบกับใครคนนั้น การเดินทางที่เต็มไปด้วยคนจำนวนมากก็ดูน่าสนุกจนเวนย์ไม่อยากปล่อยให้ตัวเองพลาดเลยจริงๆ

ประเทศโรเทซิสอันเป็นจุดมุ่งหมายของการเดินทางในครั้งนี้ตั้งอยู่ค่อนไปทางตอนกลางของดินแดนมนุษย์ ทิศใต้ติดกับชายฝั่งทะเลทำให้เป็นเมืองที่มั่งคั่งทางด้านการท่องเที่ยวและการค้าขายที่อาศัยการเดินเรือเป็นหลัก ส่วนทางด้านเหนือเชื่อมต่อกับเขตแดนของประเทศพลัสทาร์ซึ่งแม้จะมีอาณาเขตยิ่งใหญ่เป็นอันดับหนึ่ง แต่ด้วยความวุ่นวายภายในประเทศที่เกิดขึ้นมานานนับร้อยปีจึงทำให้พลัสทาร์ยังตามหลังโรเทซิสซึ่งมีขนาดรองลงมาอยู่หลายเท่านัก

เวนย์วางแผนว่าจะปรากฏกายขึ้นท่ามกลางผู้คนที่กำลังแย้มยิ้มอย่างมีความสุขในงาน ‘พบญาติ’ เพื่อสร้างความประหลาดใจให้กับทุกคนที่นั่น เขาจึงลอบเข้าไปยังคฤหาสน์หลังใหญ่ในเมืองชายแดนของโรเทซิสซึ่งเป็นที่พำนักของ ‘หลานชาย’ ที่จ้าวปีศาจและพวกพ้องดั้นด้นมาหา เขาหยุดยืนอยู่ตรงระเบียงห้องอย่างเงียบกริบไร้ร่องรอยให้ใครรู้ตัวได้สมกับสายเลือดที่ไหลเวียนอยู่ในกาย ทว่าพอเห็นภาพงานเลี้ยงย่อมๆ ในห้องโถงที่อบอวลไปด้วยความสุขของคนมีคู่ เวนย์ก็ได้แต่ชะงักนิ่งงันอย่างพูดอะไรไม่ออก ทั้งหัวใจยังเจ็บแปลบเมื่อมองไปยังจ้าวปีศาจและภรรยาที่อิงแอบกันอย่างมีความสุขอยู่มุมหนึ่งโดยไม่สนใจสายตาใครๆ

ณ เวลานั้นเองเวนย์ก็ได้ตระหนักถึงความจริงที่เคยคิดมาตลอดว่าทำใจยอมรับได้แล้วว่าไม่มีทางเคียงคู่คนที่เฝ้าตามรักตามรอมานานนับพันปีนั้นมัน...โกหกทั้งเพ เขาหลอกตัวเองมาตลอดว่า ‘ไม่เป็นไร’ ทั้งที่จริงแล้วเขาก็ยังคงเจ็บกับรักที่ไม่เคยได้รับการเหลียวแลจากคนที่เขามอบให้หมดทั้งหัวใจอย่างนี้

ด้วยความเจ็บร้าวที่ทำร้ายหัวใจของเขาอย่างใหญ่หลวง เวนย์จึงตัดสินใจหันหลังกลับและก้าวออกไปจากคฤหาสน์แห่งนั้นอย่างเงียบเชียบ กลับคืนสู่ปราสาทโรวอลล์เพื่อเลียแผลใจที่บาดลึกมาเนิ่นนานนับพันปีเพียงลำพังเหมือนเช่นทุกครั้ง

จากนั้นเวนย์ก็เอาแต่จมอยู่ในห้องอันเงียบเหงาและเปล่าดาย เฝ้าคิดถึงความรักที่ไม่เคยเป็นไปได้ แต่เขาไม่เคยคิดจะยอมรับมัน แล้วสุดท้ายเขาก็ตอกย้ำกับตัวเองด้วยภาพในแดนมนุษย์ที่เห็นเต็มตาและเต็มใจ ทำให้เวยน์รู้ว่าเขาควรจะฝังรักนั้นให้จมลึกลงไปใต้ก้นบึ้งหัวใจและไม่ควรจะหยิบยกมันขึ้นมาดูอีก เพราะไม่ว่าจะมองไปทางไหนเขาก็ไม่เห็นปลายทางที่รักของเขาจะก้าวไปให้ถึงได้เลย

จวบจนกระทั่งครบสามวันเต็มหลังกลับจากโรเทซิส ความปวดร้าวในใจก็เริ่มบรรเทาลง ชายหนุ่มขยับกายลุกเดินเพื่อยืดเส้นยืดสาย พลันนัยน์ตาสีทับทิมล้ำค่าก็แลสบเข้ากับจันทราสีแปลกซึ่งงดงามราวกับโลหิตอันเย้ายวน

ดวงจันทร์เต็มดวงทำให้หัวใจของเวนย์หวนกระหวัดไปถึงหญิงสาวผู้หนึ่งที่เคยเป็นเศษเสี้ยวของความทรงจำอันยาวนาน แม้ในบางครั้งเขาอาจจะลืมเลือนมันไปแล้วก็ตามที

...จันทร์สีเลือด

...ดีเหมือนกัน จะได้หาอะไรทำเล่นแก้เบื่อ

คิดได้อย่างนั้นแล้วร่างสูงก็ก้าวออกไปยังระเบียงกว้างอย่างรวดเร็ว จนเสื้อคลุมสีดำสนิทสะบัดพลิ้วตามฝีเท้า รอยยิ้มแต้มประดับบนใบหน้าหล่อเหลาอย่างพึงพอใจ เผยให้เห็นเขี้ยวสีขาวซี่เล็กๆ ที่มุมปากทั้งสองข้างแล้วเพียงพริบตาเดียวร่างนั้นก็กลับเลือนหายไป และร่างของสัตว์ซึ่งมีปีกสีดำขนาดใหญ่ตัวหนึ่งก็โผบินขึ้นสู่ท้องฟ้ายามราตรี

...และนั่น...คือจุดกำเนิดของเรื่องราว

 

บทที่ 1

 

หญิงสาวผู้นั้นทำให้เวนย์ โรวอลล์หัวใจเต้นไม่เป็นส่ำและกลับมีชีวิตชีวาขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากที่มันเคยหยุดนิ่งสนิทไว้ยังคนเพียงผู้เดียวที่เขาปักใจ

...เส้นผมสีดำสนิทราวกับสีของรัตติกาลยาวสยายคลุมสะโพก คิ้วเรียวสวยทาบอยู่เหนือดวงตาสีน้ำตาลอมทองพร่างพราวราวกับเก็บดวงดาวมาประดับไว้ จมูกโด่งรับกับริมฝีปากได้รูปสีแดงระเรื่อ

...งดงามราวกับกุหลาบแรกแย้มยามต้องแสงจันทร์ สมดังคำเล่าลือ...เจ้าหญิงเอลิสสา คาเปลล่า...เจ้าหญิงทัสแซน

หญิงสาวผู้เป็นเป้าสายตาเขายืนพิงกรอบกำแพงหินอยู่บนยอดหอคอยทางด้านเหนือของราชวังหลวงแห่งทัสแซน ดวงตาสีน้ำตาลอมทองคู่งามทอดจับอยู่บนฟากฟ้ากว้างซึ่งปราศจากเมฆลอยมาบดบังจันทร์ ดูราวกับกำลังรอคอยใครสักคน และผู้บุกรุกก็คิดอย่างเข้าข้างตัวเองว่าเธอกำลังรอเขา..คนที่โบยบินอยู่ในห้วงอากาศ และก้าวลงมายืนอยู่ตรงหน้าเธออย่างงามสง่าพลางคลี่ยิ้มเปี่ยมเสน่ห์ใส่สายตาตื่นตะลึงของเธอ

เวนย์ใช้ดวงตาคู่สีแดงสดของตนมองเข้าไปยังนัยน์ตาแสนงาม เธอ...คนที่เบิกตากว้างอย่างตกใจกับการมาของเขาได้แต่ยืนนิ่งขึงราวกับถูกมนตร์สะกด ซึ่ง...ถ้าเอ่ยตามความจริงเขาก็บอกได้เต็มปากว่าใช่! เขาสะกดเธอด้วยมนตร์อำนาจซึ่งสืบทอดกันตามสายเลือดที่มี

...สะกดให้ตกอยู่ในห้วงมนตราควบคุมใจ

ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นอย่างที่เขาคาด ยามเมื่อร่างสูงก้าวย่างอย่างเชื่องช้า ทว่าสง่างามตรงไปยังร่างบางระหงในชุดสีขาวบริสุทธิ์ดุจน้ำค้างบนยอดไม้ในยามเช้า ร่างนั้นก็พลันโอนเอนลงสู่อ้อมแขนที่ยื่นออกไปรอรับราวกับรุ้เหตุการณ์ล่วงหน้า เวนย์คลี่ยิ้มอย่างพึงพอใจยามก้มลงมองใบหน้างามพิสุทธิ์ของเจ้าหญิงแห่งทัสแซนที่ดูราวจะหลับสนิทอยู่ในห้วงนิทรา

...บางทีเธออาจจะทำให้เขาลืมใครบางคนไปจากใจได้เสียที

...และบางทีอาจจะเป็นเธอที่จะทำให้เขาตัดสินใจทำในสิ่งที่ควรจะทำเมื่อ ‘รัก’

เขาหวังเช่นนั้นยามที่ก้าวออกไปยืนยังขอบกำแพงของยอดหอคอยเตรียมจะกลับไปสู่ปราสาทโรวอลล์ในดินแดนปีศาจ ถ้า...ใครบางคนไม่ปรากฏตัวเข้ามาเสียก่อน

เสียงกรีดร้องดังลั่นทำหี้เท้าของเวนย์หยุดชะงักอยู่กับที่ ก่อนจะหันไปมองที่มาของเสียงเพื่อพบกับร่างบางของหญิงสาวผู้หนึ่งยืนอยู่ตรงนั้น และมองมายังเขาด้วยสายตาตื่นตระหนกซึ่งเป็นธรรมดาของมนุษย์ทุกคนที่เห็นเขา หากที่ไม่ธรรมดาคงเป็นดวงตาสีน้ำเงินเข้มจนเกือบดำแลดึกล้ำของเธอที่สะกิดใจเวนย์จนทำให้ไม่อาจละสายตาได้

...ผู้หญิงประเทศทัสแซนนี่ตาสวยกันทุกคนเลยหรือไร

เขาอดถามตัวเองอย่างสงสัยไม่ได้ แต่แล้วก็ปัดความรู้สึกทั้งหมดให้หายไปเมื่อเธอผู้นั้นตวาดก้องด้วยน้ำเสียงหวาดหวั่น

“เจ้าปีศาจ ปล่อยเจ้าหญิงเอลิสสาเดี๋ยวนี้นะ”

...’ปีศาจ’ ช่างปวดใจอะไรเช่นนี้

เวนย์คิดพลางขยับยิ้มขบขัน และรอยยิ้มก็ยิ่งแย้มกว้างอย่างเอ็นดูเมื่อเห็นหญิงสาวผู้นั้นหวาดกลัวเขาจนสั่นไปทั้งตัว แต่ก็ยังไม่ยอมวิ่งหนีไปไหน

“ถ้าไม่ปล่อยแล้วเธอจะทำอะไรฉัน”

เขาถามกลับด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ หญิงสาวชะงักนิ่งไป ตกใจเพราะไม่นึกว่าชายแปลกหน้าจะต่อบทสนทกับเธอ หากมันก็เป็นเพียงแวบเดียวที่หัวใจของเธอลังเล เพราะในวินาทีต่อมาร่างบางก็ก้าวเข้ามาใกล้หมายจะฉุดกระชากร่างในอ้อมแขนของเขากลับคืนไป ทว่าเวนย์หรือจะยอมให้เป็นเช่นนั้นได้ง่ายๆ...ไม่มีทาง!!

เมื่อดวงตาสีทับทิมเปล่งแสงประหลาด หญิงสาวผู้มาใหม่ก็กลับยืนนิ่งขึงด้วยถูกสะกด ดวงตาสีน้ำเงินเข้มเบิกกว้างอย่างตกตะลึง พยายามอย่างยิ่งที่จะฝืนต้านทานเวทมนตร์ที่กำลังโอบรัดรอบตัวเธอ ทว่าหญิงสาวธรรมดาหรือจะหาญต่อกรกับผู้นำแห่งตระกูลโรวอลล์ เพราะไม่มีทางเป็นไปได้เลยแม้แต่น้อย ร่างบางของหญิงผู้นั้นจึงเอนล้มลงไปในอ้อมแขนซึ่งยื่นออกมารับอย่างทันท่วงที

เวนย์ลังเลอยู่เพียงนิดว่าจะทิ้งหญิงสาวผู้มาใหม่ไว้ที่นี่ดีหรือพาไปด้วย เพราะแม้จะเป็นคนที่ชื่นชอบในการถูกปรนนิบัติด้วยสาวงาม แต่เขาก็ไม่นิยมมีผู้หญิงในปกครองพร้อมกับทีเดียวถึงสองคน ทว่าเมื่อคิดไปถึงคนที่อยู่ในอ้อมแขนด้านขวา ซึ่งเขาคาดหวังว่าเธออาจจะมาแทนที่ใครบางคนในใจเขาได้ เวนย์ก็ตัดสินใจจะพาหญิงสาวผู้นี้ไปด้วย เพื่อเจ้าหญิงเอลิสสาของเขาจะได้มีเพื่อนยามอยู่ปราสาทโรวอลล์ในแดนปีศาจอันเป็นจุดหมายปลายทางที่เขาจะมุ่งไป

 

เปลือกตาบางกะพริบช้าๆ สองสามทีก่อนจะเปิดลืมกว้างขึ้นอย่างงุนงงในวินาทีแรก หากในวินาทีถัดมาหญิงสาวในชุดสีเข้มก็ผุดลุกขึ้นนั่งอย่างตกใจ เพราะห้วงคิดคำนึงก่อนสลบไสลยังจำติด นัยน์ตาสีน้ำเงินเข้มกวาดมองไปรอบห้องอย่างหวั่นระแวง หากไม่พบ ‘ปีศาจ’ ที่คาดว่าน่าจะเห็น จนเธอเกือบจะคิดไปแล้วว่าสิ่งที่เผชิญเมื่อคืนอาจเป็นเพียงความฝัน แต่เมื่อมองไปทางด้านขวาของตนและพบร่างบอบบางของเจ้าหญิงเอลิสสากำลังนอนหลับสนิท หญิงสาวก็ปักใจเชื่อได้ทันทีว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนั้นเป็นเรื่องจริง

...เจ้าหญิงเอลิสสากับเธอถูกปีศาจจับตัวมา

(ติดตามต่อได้ในฉบับเต็ม)


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (74 รายการ)

www.batorastore.com © 2024