Heart in time… ดวงใจในห้วงกาล
ประหยัด: 69.65 บาท ( 35.00% )
เนื้อหาบางส่วน
บทนำ
ดินแดนปีศาจ...
ดินแดนทางตอนเหนือสุดบนแผ่นพื้นโลกที่แบ่งแยกออกเป็นสามเขตแดนตามลักษณะของผู้อยู่อาศัย มนุษย์ ผู้วิเศษ และปีศาจหลากเผ่าพันธุ์ ดินแดนที่ถูกปกคลุมด้วยม่านหมอกสีเทาตามสายตาของคนภายนอกดูลึกลับและน่าหวันกลัว ไม่มีใครที่เคยผ่านเข้าไปและได้กลับออกมาเล่าขานอะไรให้คนภายนอกได้รับรู้ ความเข้าใจหรือรายละเอียดเกี่ยวกับดินแดนแห่งนี้จึงมีน้อยยิ่งกว่าน้อย อีกทั้งชาวมนุษย์และผู้วิเศษเองต่างก็ไม่อยากจะเข้าไปข้องเกี่ยวอะไรด้วย เพราะลองขึ้นชื่อว่า ‘ปีศาจ’ แล้ว ต่างคนก็ต่างอยากหลีกเลี่ยงให้ไกล
หากใครเล่าจะรู้...
แดนปีศาจไม่ได้เต็มไปด้วยสิ่งชั่วร้ายอย่างที่เล่าลือ ดินแดนแห่งนั้นก็เปรียบเสมือนกับดินแดนมนุษย์และดินแดนของผู้วิเศษ ต่างกันเพยงแต่ผู้ที่อาศัยอยู่ก็เท่านั้น และชาวปีศาจก็ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่มนุษย์หลายคนกล่าวขานกันจนเป็นตำนาน เพราะหากว่าเลวและร้ายจริงอย่างที่ถูกกล่าวหา เพียงแค่ชั่วลมหายใจของปีศาจตนหนึ่ง ชีวิตมนุษย์ทุกคนคงจะสูญสลายไปจากแผ่นดินจนสิ้น และคงเหลือเพียงแค่ปีศาจเท่านั้นที่ครอบครองทั้งสองดินแดน หรืออาจจะรวมดินแดนที่สามของผู้วิเศษไปด้วย
ทว่าปีศาจก็ดุจเดียวกับพวกมนุษย์ มีทั้งปีศาจที่เลวร้าย บ้าอำนาจ และปีศาจที่ดีพร้อมราวกับนักบวช ทุกอย่างคงจะไม่สงบสุขเหมือนที่เป็นอยู่ในตอนนี้ หากไม่มีใครบางคนคอยควบคุมาและปกปักษ์แดนปีศาจให้สมดุล ใครคนนั้นที่ต้องยอมทำทุกอย่างเพื่อดินแดนที่ครอบครอง ต้องทำ...แม้ว่าสิ่งนั้นจะเป็นการเฉือนหัวใจด้วยมือของตัวเองก็ตาม
...เซียร่า กราเซล...
...จ้าวปีศาจผู้ฝังดวงใจเอาไว้ในห้วงกาล...
ภาคแรก : ดวงใจที่ไหวหวั่น
บทที่ 1
คิ้วเรียวงามเหนือดวงตาสีทองของหญิงสาวที่นั่งอยู่หน้าโต๊ะทำงานตัวใหญ่ขมวดเข้าหากันนิดหนึ่ง เมื่อรับรู้ได้ถึงสายตาของใครบางคนที่พุ่งมองตรงมาเป็นครั้งที่...
...อืม สิบแล้วสินะสำหรับวันนี้
เซียร่า กราเชลละสายตาจากงานที่กำลังทำอยู่ แล้วหันไปมองเจ้าของสายตาด้วยรอยยิ้มหวาน พร้อมกับเลิกคิ้วขึ้นนิดหนึ่งราวกับจะถามว่า ‘มีอะไรอยากจะคุยหรือเปล่า’ หากใครคนนั้นกลับรีบก้มหน้าหลบสายตาแต่โดยไว ทำเอาคนถูกแอบมองถอนหายใจออกมาเบาๆ แล้วตัดสินใจหยุดพักงานตรงหน้าไว้ ก่อนจะลุกยืนแล้วก้าวตรงไปหาใครคนนั้น
...วิลเมอริส คาแลนด์ธี...
ชาวน้ำแห่งมหาสมุทรเฟเชียเรล หญิงสาวที่เดินทางมายังปราสาทคลอเดอเบลแห่งนี้เพราะคำร้องขอความช่วยเหลือจากน้องชายเธอ...เรน กราเชล นานนับเดือนแล้วที่เธออาศัยอยู่ที่นี่ และนานนับเดือนแล้วเช่นกันที่เธอ...แอบมอง!!
ดวงตาสีเขียวอมฟ้าของนางเงือกสาวก้มมองแค่สมุดตรงหน้าดูราวกับกำลังตั้งใจอ่านมันเป็นยิ่งนัก หากเซียร่าก็รู้ดีว่าวิลเมอริสเพียงแค่ ‘แกล้ง’ ทำไปเท่านั้น ตลอดเดือนที่ผ่านมาทำไมเธอจะจับสังเกตไม่ได้ว่าเจ้าของดวงตาคู่สวยราวกับสีของท้องทะเลลึกจะคอยลอบมองเธอทุกครั้งในตอนที่เธอเผลอ และพอจับได้ว่ากำลังเป็นเป้าสายตาของเธอคนนั้น เซียร่าก็ไม่เคยรั้งรอที่จะซักถาม หากหญิงสาวตรงหน้าก็เอาแต่ปิดปากเงียบ ไม่ยอมพูดอะไรออกมาให้เธอเข้าใจ
“ริสซี่...”
เสียงหวานร้องเรียกหญิงสาวด้วยชื่อเล่นที่เธอเป็นคนตั้งให้ เพราะชื่อเต็มๆ ของวิลเมอริสยาวเกินไปจนเซียร่าขี้เกียจจำ คนถูกเรียกเงยหน้ามองสบตาเธอเพียงนิดก็ก้มลงไปจดจ่อกับงานตรงหน้าอีกครั้ง
“ฉันไม่ปล่อยให้เธอไม่ตอบฉันเหมือนเดิมอีกแล้วนะ ริสซี เธอ ‘เห็น’ อะไร”
คำที่ถูกเน้นหนักเรียกเอาร่างบางสะดุ้งเฮือกอย่างระงับเอาไว้ไม่ทัน นัยน์ตาสีสวยที่จ้องสบตาเธอเต็มไปด้วยรอยตื่นตระหนก คิ้วเรียวของคนเฝ้ามองยิ่งขมวดมุ่นอย่างครุ่นคิด
...’เห็น’ จริงๆ สินะ...
ปลายนิ้วเรียวเลื่อนมาแตะปลายคางมน แล้วออกแรงรังให้ดวงหน้าที่กำลังจะก้มหลบสายตาเธอให้เงยขึ้นมามองสบตากันอีกครั้ง คราวนี้รอยยิ้มหวานค่อยๆ แย้มออกแต้มใบหน้างดงาม และดวงตาสีทองคู่สวยที่เต็มไปด้วยอำนาจก็เปี่ยมไปด้วยรอยสนุกสนาน
“ความสามารพิเศษ...รู้ ‘อดีต’ ของคนที่แตะตัวด้วยงั้นหรือ”
“ท่านทราบ”
เสียงเสนาะใสดังถาม เซียร่ายิ่งยิ้มกว้างเมื่อได้ยิน เธอชอบจริงๆ กับเสียงหวานเป็นกังวานของชาวน้ำ เสียงที่จมเรือเดินสมุทรให้ล่มลงได้เพียงเพราะคนบังคับเรือเผลอฟังเสียงหวานที่ขับขานท่วงทำนองเพลงหลอกล่อให้ติดบ่วงเสน่หา
“มีอะไรที่ฉันจะไม่รู้บ้างล่ะ ริสซี...”
เธอย้อนถามกลับ ดวงตาสีทองจ้องลึกลงไปในนัยน์ตาสีเขียวอมฟ้าคู่สวยนิ่งนาน วิลเมอริสคิดอยากจะเบือนสายตาหนี หากก็ไม่อาจเลือนหลบไปไหนได้เลย เพราะราวกับมีแรงดึงดูดมหาศาลเชื่อมระหว่างสีทองสว่างของนัยน์ตาคู่นั้นกับดวงตาของเธอเอาไว้
“...แล้วฉันก็ยังรู้อีกด้วยนะว่าตอนนี้เธอกำลังเต็มไปด้วยความสงสัย ‘เขา’ คนนั้นเป็นใคร...ใช่มั้ย”
ใบหน้างดงามราวกับช่างบรรจงวาดเลื่อนเข้ามาใกล้ วิลเมอริสคิดอยากจะขยับตัวหนีแต่ก็ทำไม่ได้ จ้าวแห่งแดนปีศาจยังก้มหน้าลงมาหาใกล้จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจ และหัวใจของเธอก็ราวกับจะหยุดเต้นลงไปเสียเดี๋ยวนั้น
“ท่านเซียร์”
เสียงทุ้มห้าวดังขึ้นมาขัดจังหวะก่อนที่หัวใจของใครบางคนจะหยุดเต้นหรือโลดแล่นออกจากอก เซียร่าผละออกจากร่างงดงามของคนที่ยังคงนั่งอยู่อย่างหมดเรี่ยวแรงด้วยท่าทีสบายๆ ทั้งยังทำเมินสายตาที่ออกจะตำหนิกลายๆ ของฮิว เลนดาห์ คนสนิทที่มองตรงมาด้วย
“แกล้งวิลเมอริสเล่นแบบนี้ไม่ดีเลยนะครับ”
คนถูกรู้ทันแย้มรอยยิ้มกว้างอย่างไม่คิดปิดบัง ฮิวเห็นแล้วก็อดส่ายหน้าไม่ได้
...นี่ถ้าท่านเมอร์ซีมาเห็นมาดนี้ของท่านเซียร์ มีหวัง...ไข้คงจับแหงๆ
ชายหนุ่มรู้ดีว่าแท้จริงแล้วเซียร่าไม่ใช่คนเงียบขรึมหรือเย็นชาอย่างที่น้องสาวคนเล็กเข้าใจ เพราะถ้าจะให้เขาจำกัดความ...เขาคงพูดได้คพเดียวว่ามุมหนึ่งของท่านเซียร์เหมือนกับท่านเมอร์ซีเป็นที่สุด ผิดแต่ว่าท่านเซียร์ไม่ค่อยจะยอมปล่อยให้มุมนั้นหลุดออกมาให้ใครได้เห็นมากกว่า
...นับตั้งแต่ที่เกิดเรื่องเมื่อคราวนั้น
(ติดตามอ่านต่อได้ในฉบับเต็ม)