Aroma กลิ่นกรุ่นอุ่นหัวใจ (ปกสี)(อัญชรีย์)

Aroma กลิ่นกรุ่นอุ่นหัวใจ (ปกสี)(อัญชรีย์)

1 รีวิว  1 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9786160603428
ผู้แต่ง: อัญชรีย์
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 159.00 บาท 39.75 บาท
ประหยัด: 119.25 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

บทนำ

 

                นานมากแล้วที่บีมไม่เคยป่วยจนต้องเข้ารับการรักษาจากแพทย์ แต่เธอยังคงจำกลิ่นเฉพาะของสถานพยาบาลได้เป็นอย่างดี วันนี้ถือเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่เธอต้องมาโรงพยาบาล และนานนับชั่วโมงที่เธอนั่งอยู่บริเวณหน้าห้องตรวจเพื่อรอเพื่อนสนิทซึ่งมาพบแพทย์ด้วยโรคหวัดและไซนัสอักเสบ

                บีมมีเพื่อนคุยเป็นหญิงสาวซึ่งพาลูกชายอายุประมาณห้าขวบมาพบแพทย์เช่นกัน เนื่องจากลูกชายของเธอที่ชื่อ ‘ยูคิ’ ป่วยเป็นโรคหอบหืด และกำลังรอพบแพทย์อยู่

                เมื่อภัสสราเดินกลับมาหาโดยมีผ้าปิดปากและจมูกคาดเอาไว้บนใบหน้า บีมจึงกล่าวลากับสองแม่ลูกพร้อมกับยื่นถุงกระดาษสีสวยให้

                “เตาต้มแล้วก็น้ำมันหอมระเหยยูคาลิปตัส (Eucalyptus) กับ เบนซอยน์ (Benzoin) ค่ะ ลองปรึกษาคุณหมอดุนะคะว่ายูคิจะใช้ได้หรือเปล่า สปาที่ฉันทำงานอยู่มีลูกค้าประจำที่เป็นหอบหืดเขาบอกว่าใช้แล้วได้ผลดี แต่คงต้องให้คุณหมอพิจารณาก่อนค่ะ ในนี้มีวิธีใช้กับข้อควรระวังอยู่ด้วยนะคะ”

                หญิงสาวผู้นั้นมีสีหน้าลังเลและพยายามปฏิเสธด้วยท่าทางเกรงใจ แต่บีมยิ้มและยืนยันว่าเธออยากให้ยูคิลองใช้ดูจริงๆ แล้วเธอก็เดินจากมาพร้อมกับภัสสราซึ่งเอาแต่บ่นว่าปวดหัวและอยากนอน

                “นั่นมันของแพ้ทไม่ใช่หรือไง บีมเอาไปให้คนอื่นเฉยเลย” ภัสสราทำเสียงอู้อี้อยู่ตรงที่นั่งข้างคนขับ

                “พรุ่งนี้บีมจะเอามาให้แพ้ทใหม่ เด็กคนนั้นเป็นหอบหืดน่าสงสารออก”

                “โธ่เอ๊ย แม่เขาท่าทางรวยจะตายไป บีมน่าจะให้นามบัตรแล้วแนะนำให้เขาไปหาที่กรีนลี่สปาดีกว่า”

                บีมหันมองคนข้างๆ แวบหนึ่งแล้วยิ้ม “อือ...นั่นสิเนอะ”

                ภัสสราปรายตาค้อนก่อนจะหลับตาลงเพื่อข่มอาการปวดศีราะของตัวเอง

                บีมไปส่งภัสสราที่คอนโดมิเนียมและตั้งใจจะอยู่เป็นเพื่อน แต่พบคนรักของภัสสรารออยู่ที่ห้องแล้ว บีมจึงปล่อยให้พวกเขาดูแลกันเองตามประสาคู่รัก ส่วนเธอก็กลับไปอยู่บ้านเพียงลำพังตามปกติ

 

                บ้านสองชั้นขนาดสามห้องนอนหลังไมใหญ่มากถูกปลูกไว้ท่ามกลางต้นไม้ใหญ่ร่มรื่นเกือบเต็มบริเวณ ซึ่งบางครั้งก็ให้ความรู้สึกอึดอัดเพราะความทึบทึมไม่โล่งโปร่ง แต่หญิงสาวคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมเช่นนี้มาตลอดชีวิต และเธอก็รักบ้านหลังนี้มาก

                หลายวันมานี้บีมค่อนข้างเหนื่อยกับงานที่กรีนลี่สปามากเป็นพิเศษ พอกลับถึงบ้านจึงไม่มีแรงที่จะดูแลตัวเองในแบบที่เธอชอบ แต่วันนี้เป็นวันหยุดของเธอซึ่งเธอตั้งใจเอาไว้ว่าหลังจากการดูแลภัสสราที่ป่วย เธอจะกลับบ้านเพื่อใช้น้ำมันหอมระเหยโรสแมรี่บำบัดตัวเองให้หายเมื่อยล้าและให้ความสดชื่นกับชีวิตอย่างเต็มที่

                บีมทำงานในตำแหน่งผู้จัดการที่ ‘กรีนลี่สปา’ (Greenly Spa) สถานบริการประเภท ‘สปา’ ซึ่งป้าแท้ๆ ของบีมคือผู้เป็นเจ้าของ แม้ว่าบีมจะมีความสุขกับการทำงานและพอใจกับสิ่งแวดล้อมของที่ทำงานเป็นอย่างมาก แต่เธอก้เหนื่อยและแทบไม่มีโอกาสได้ใช้บริการอันแสนสบายเหล่านั้นเหมือนกับบรรดาลูกค้า นานๆ ครั้งเธอจึงจะหาโอกาสไปใช้บริการตามสปาอื่นๆ เพื่อนำมาปรับกลยุทธ์ของกรีนลี่สปา แต่ส่วนใหญ่แล้วเธอจะกลับมาปรนนิบัติตัวเองที่บ้านมากกว่า

                ขณะที่บีมกำลังจุดเตาต้มน้ำมันหอมระเหยที่วางอยู่บนโต๊ะข้างผนัง เสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น ผู้ที่โทรเข้ามาคือแม่ของเธอเอง แม่โทรมาบอกให้บีมส่งเทียนที่ใช้จุดเตาและน้ำมันหอมระเหยจากดอกไม้ไทยกลิ่นที่แม่ชอบไปให้ที่อเมริกา เพราะของที่แม่มีอยู่ใกล้จะหมดแล้ว

                พ่อของเธอเสียชีวิตไปหลายปีแล้ว แต่แม่เพิ่งแต่งงานใหม่กับ ‘มาร์ก’ สามีชาวดัทช์เมื่อประมาณหนึ่งปีก่อนหน้านี้

                ‘บูรพา’ พี่ชายของบีมนั้น ทำงานในตำแหน่งวิศวกรของบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นในเมืองไทย และเขาเองไม่คิดจะลาออก ส่วนบีมนั้นต้องการเป็นผู้จัดการที่กรีนลี่สปาตามที่ป้าเสนอให้ แต่บีมและบูรพายินดีที่แม่จะได้มีความสุขกับคนดีๆ อย่างมาร์ก หลังจากเหน็ดเหนื่อยกับการดูแลพวกเขามานาน ซึ่งมาร์กนั้นมั่นคงต่อแม่มาหลายปี เมื่อมาร์กต้องกลับอเมริกา บีมกับบูรพาจึงพยายามเกลี้ยกล่อมให้แม่ยอมแต่งงานและไปอยู่อเมริกากับมาร์กโดยไม่ต้องเป็นห่วงพวกเขาอีก เพราะพวกเขาดูแลตัวเองได้แล้ว และในที่สุดแม่ก็ยอมตกลง

                ตอนนี้บูรพาไปศึกษางานของบริษัทในประเทศญี่ปุ่น บีมจึงต้องอยู่บ้านตามลำพัง ครั้งแรกที่บูรพาถูกบริษัทส่งไปศึกษางานนั้นแม่ยังอยู่กับบีมที่นี่ แต่ครั้งนี้บีมต้องอยู่ตามลำพังทำให้แม่เป็นห่วงมาก จึงโทรศัพท์มาหาเธอค่อนข้างบ่อย บีมพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้แม่และบูรพาเลิกเป็นห่วงกังวลในตัวเธอ แต่ดูเหมือนว่าท้งสองคนก็ยังเห็นเธอเป็นเด็กอยู่นั่นเอง บีมรู้ดีว่าการที่พี่ชายไม่ยอมแต่งงานเสียทีนั้นส่วนหนึ่งเป็นเพราะยังห่วงเธอ

                หลังจากแช่ตัวในอ่างน้ำอุ่นที่หยดน้ำมันหอมระเหยโรสแมรี่ (Rosemary) ประมาณสิบห้านาที บีมก็เดินออกจากห้องน้ำด้วยความสดชื่นและแสนสบาย เธอเดินไปดับเทียนที่เตาต้มน้ำมันหอมระเหยและเปลี่ยนเสื้อผ้าลงไปชั้นล่างเพื่อทำอาหารง่ายๆ ทาน

                วิถีชีวิตในแต่ละวันของเธอนั้นช่างเรียบง่ายและสงบสุขเสียเหลือเกิน แต่บางครั้งก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า...มันแสนจะเงียบเหงา

 

                เมื่อบีมได้หยุดงานในวันเสาร์ของสัปดาห์ต่อมา เธอก็ถูกเพื่อนในกลุ่มบังคับให้ออกจากบ้านเพื่อไปหาหมอดูตั้งแต่เก้าโมงเช้า แต่ความที่เธอแทบไม่มีเวลาได้เจอกับเพื่อน เธอจึงไม่ปฏิเสธ

                ปกติแล้วบีมจะไม่ได้หยุดวันเสาร์ แต่ผลจากการแลกกะกับผู้ช่วยผู้จัดการทำให้เธอได้หยุดในวันนี้

                โดยมากบีมจะพยายามไม่หยุดงาน เพราะกรีนลี่สปามีรายละเอียดมากมายที่ต้องใส่ใจโดยไม่อาจปล่อยปละละเลย แม้จะมีผู้ช่วยผู้จัดการเปี่ยมความสามารถอย่าง ‘ระริน’ อยู่ก็ตาม

                ป้าหทัยไว้ใจบีมมาก ถึงขนาดให้เธอเป็นผู้ดูแลสปาเปิดใหม่ ที่ป้าหทัยลงทุนด้วยจำนวนเงินค่อนข้างสูง ถึงแม้เธอจะเรียนจบจากคณะบริหารธุรกิจสาขาวิชาการโรงแรม แต่ตอนนั้นเธอเพิ่งจบใหม่และขาดประสบการณ์ อีกทั้งป้าหทัยยังลงทุนส่งเธอไปเรียนหลักสูตรต่างๆ ตามสถาบันที่เปิดสอนเกี่ยวกับสปา

                ดังนั้นบีมจึงทุ่มเททำงานอย่างเต็มที่ให้สมกับค่าจ้างและความไว้ใจของป้า ป้าหทัยเคยบอกกับเธอเป็นเชิงปรารถว่าป้าหทัยกับสามีนั้นไม่มีลูก ต่อไปกิจการกรีนลี่สปาก็ต้องตกเป็นของบีม แม้หญิงสาวจะไม่ได้หวังอย่างยิ่งว่าป้าหทัยจะยกกรีนลี่สปาให้เธอจริงๆ แต่เธอก็รู้สึกดีและมีความสุขเมื่อคิดว่าเธอจะได้ทำงานอยู่ในกรีนลี่สปาตลอดไป

                “แพ้ทรู้สึกว่าระยะนี้ตัวเองดวงตกยังไงชอบกล ภาณุก็ไม่ค่อยเอาใจเหมือนเดิม หนุ่มที่เล็งๆ อยู่ก็หายเงียบไปหมด สุขภาพก็แย่ๆ แถมเจ้านายยังใช้งานหนักเป็นบ้าเลย” ภัสสราบ่นด้วยสีหน้าเหนื่อยหน่ายขณะนั่งรอคิวตรงม้าหินอ่อนหน้าบ้านหมอดู ซึ่งเป็นหมอดูที่แม่ของ ‘ลดา’ แนะนำให้ว่าทำนายแม่นมากๆ

                “เรื่องพวกนี้มันก็ปกติดีนี่นา ไม่เห็นจะดวงตกตรงไหนเลย ฉันเองก็ทำงานเหนื่อยแทบตายทุกวันเหมือนกันแหละ แล้วก็มีป่วยบ้าง แต่มีแฟนคนเดียวก็เลยไม่มีเรื่องว้าวุ่นเหมือนเธอ” ลดาพูดพลางมองค้อนภัสสรา

                “เถอะน่า ก็มาดูดวงนี่แล้วไง ข้องใจอะไรอยู่ก็ถามแม่หมอให้หมดสิ” ‘ชิดชนก’ เอ่ยขึ้นเป็นเชิงปรามภัสสรากับลดาซึ่งโต้เถียงกันมาตั้งแต่อยู่ในรถ “แล้วบีมล่ะ มีอะไรที่อยากรู้จักบ้างรึเปล่า”

                บีมยิ้ม “ยังไม่รู้จะถามอะไรเลย ช่วยถามให้บีมหน่อยสิ”

                “อย่างบีมน่ะ เนื้อคู่เรื่องเดียวเลย แถมตอนนี้ต้องอยู่บ้านคนเดียว...เหงาแย่” ลดารีบบอก

                “นี่ๆๆ ฉันจะจดเอาไว้ บอกมาเลยว่าแต่ละคนอยากถามอะไร แม่ฉันบอกไว้ว่าให้จดไปถาม ไม่อย่างนั้นจะตกหล่น ลืมถามเรื่องสำคัญๆ ไป” ลดาล้วงเอาสมุดกับปากกาออกมา และเริ่มจดคำถามจากภัสสราเป็นคนแรก บีมเห็นเพื่อนๆ เอาจริงเอาจังแล้วแอบยิ้มขันคนเดียว และเริ่มรู้สึกสนุกตื่นเต้นไปกับเพื่อนๆ ด้วย

                ‘หมอดูคู่กับหมอเดา’ เป็นสัจจธรรมที่ผู้คนยอมรับกันดี แต่บางครั้งถ้าทำให้เราสบายใจขึ้น ก็ถือเป็นข้อดีที่ชวนให้ใช้บริการ...

                หลังจากการดูดวง คำทำนายของแม่หมอนั้นสร้างความรื่นรมย์ให้กลุ่มสี่สาวพอสมควร อย่างน้อยที่สุด ชะตาของพวกเธอนั้นก็ไม่มีใครเลยที่ต้องขึ้นคาน และไม่มีเรื่องร้ายใดๆ ให้ต้องกังวล

                บีมยิ้มบางๆ ขณะอ่านคำทำนายที่เพื่อนช่วยจดให้ตามคำพูดของหมอดูอย่างคร่าวๆ...

                ‘ใกล้เข้าสู่เบญจเพสต้องหมั่นทำบุญให้มาก ปีนี้จะพบเนื้อคู่ เป็นชายผิวขาว ฐานะดี และจะได้แต่งงานภายในหนึ่งปีนี้แน่นอน’

                บีมนั้นอายุมากกว่าเพื่อนหนึ่งปี เนื่องจากเคยหยุดพักการเรียนตอนที่เจ็บหนักจากอุบัติเหตุสมัยมัธยมปลายหนึ่งปี ทำให้เธอเข้าสู่เบญจเพศก่อนใครในกลุ่ม

                บีมเป็นคนเดียวในกลุ่มที่ยังโสดสนิท เพราะนับแต่เล็กจนโตเธอได้รับการเอาใจใส่จากครอบครัวแสนอบอุ่น ซึ่งคอยประคบประหงมเธอราวกับไข่ในหิน เธอเคยมีเพื่อนสนิทที่คบกันตั้งแต่ ม.2 ถึง ม.6 เป็นผู้ชาย จึงทำให้ถูกเข้าใจผิดว่ามีแฟนแล้ว หรือบีมยังมีพี่ชายที่คอยกันท่าหนุ่มๆ มาโดยตลอด แต่ในเวลานี้...เมื่อได้รับอิสระจากครอบครัว เธอกลับถูกหน้าที่การงานรัดตัวจนไม่มีเวลาหาคู่ อีกทั้งงานที่ทำก็แทบไม่มีโอกาสได้พบกับผู้ชายยังโสดที่พอจะเป็นคู่ครองได้เลย

                แม้ว่าบีมจะไม่ค่อยเชื่อในคำทำนายของหมอดูนัก แต่เธอก็แอบดีใจและตื่นเต้นนิดๆ เมื่อเริ่มเห็นความหวังรางๆ เรื่องชีวิตคู่

 

บทที่ 1

คำทำนายที่หอมหวาน

 

                งานเลี้ยงฉลองสมรสของชิดชนกเป็นไปอย่างราบรื่น ชิดชนกดูมีความสุขเป็นอันมากกับงานวิวาห์ของเธอและร้อยตำรวจเอกอัสนี บีมรู้สึกดีใจกับการแต่งงานของเพื่อน มากพอๆ กับความรู้สึกอิจฉาและเงียบเหงาภายในใจของตน...

                “บีม เจอเนื้อคู่รึยัง”

                บีมเลิกคิ้วและหันไปมองคนข้างๆ แวบหนึ่ง ขณะทำหน้าที่ขับรถอย่างระมัดระวังระหว่างกลับจากงานเลี้ยงฉลองสมรสของชิดชนก “เนื้อคู่หมอดูบอกน่ะเหรอ...ยังเลย”

                “อะไรกัน ตั้งเดือนหนึ่งมาแล้วนะ ป้าแกบอกว่าไม่เกินสองเดือนไม่ใช่รึไง”

                บีมหัวเราะ “มันคงไม่เจอง่ายๆ อย่างนั้นหรอก แล้วอีกอย่าง...จะไปเอาอะไรกับคำทำนายล่ะ”

                “ว่าไม่ได้นะจ๊ะ ป้าแกบอกว่าแพ้ทจะได้ของมีค่าเป็นของขวัญ ภาณุก็เพิ่งซื้อนาฬิกาเรือนนี้ให้” ภัสสรายื่นข้อมือซ้ายมาใกล้บีมนิดหนึ่ง “แล้วยังบอกว่าจะทำของมีค่าหายชิ้นหนึ่ง แพ้ทก็เพิ่งทำโทรศัพท์หายไปไม่กี่วันนี้ไง”

                “แต่ของบีมมันไม่มีวี่แววเลยซักนิดนะ สงสัยซานต้าจะเอามากล่องในตอนคริสต์มาสนี้ล่ะมั้ง”

                ภัสสราค้อนเพื่อน “ของแบบนี้มันมาแบบไม่รู้เนื้อไม่รู้ตัวหรอกจ้ะ ดูอย่างแพ้ทสิ ปุบปับคนนั้นไปคนนี้มา เป็นแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไร ยังดีนะที่ป้าแกบอกว่าภาณุเป็นเนื้อคู่ ไม่อย่างนั้นแพ้ทคงมีเรื่องให้คิดหนักข้นอีก”

                “บีมไม่โชคดีอย่างนั้นหรอก” บีมถอนใจเบาๆ คล้ายปลงตก

                “อย่าเพิ่งทำท่าหมดอาลัยแบบนั้นจะได้ไหม ถ้าปีใหม่นี้เนื้อคู่ของบีมยังไม่โผล่มา แพ้ทจะหามาให้เป็นของขวัญเอง”

                บีมหัวเราะกับท่าทางเอาจริงเอาจังของภัสสรา ก่อนจะเลี้ยวรถเข้าไปส่งภัสสราในคอนโดมิเนียม

                “บีม...อย่าลืมนะจ๊ะ วันที่สิบห้าบีมต้องไปงานแต่งงานของปรียาเป็นเพื่อนแพ้ท” ภัสสราบอกก่อนจะลงจากรถ ปรียาเป็นญาติของภัสสราและกำลังจะเข้าพิธีแต่งงานในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

                ทำไมเธอถึงรู้สึกเบื่อหน่ายเหลือเกินที่จะฟังคำว่าแต่งงาน แต่งงาน และแต่งงาน มีแต่คนแต่งงานกันเต็มไปหมด ในขณะที่เธอ...ยังคงเงียบเหงาดังเดิม

                บีมยิ้มและพยักหน้าให้แพ้ท “ช่วยไม่ได้ ก็ภาณุไม่ว่างนี่นา”

                “แหม...พูดเหมือนน้อยใจ” ภัสสราทำหน้างอน “แต่ได้ไปกับบีม แพ้ทดีใจมากกว่าไปกับภาณุอีกนะ”

                “จ้า” บีมยิ้มแล้วทำท่าพยักพเยิดไปข้างหลังภัสสรา “ใครมาโน่นแน่ะ”

                ภัสสราหันไปมองพลางปิดประตูรถ บีมมากดกระจกลงทักทายภาณุเล็กน้อยก่อนจะเคลื่อนรถออกไปช้าๆ หญิงสาวเงยหน้ามองกระจกมองหลังแล้วยิ้มบางๆ กับภาพของภัสสราและภาณุที่เกี่ยวแขนกันเดินขึ้นบันไดหน้าตึกไปด้วยท่าทางชื่นมื่นอย่างน่าอิจฉา ถึงแม้ภัสสราจะเป็นสาวเสน่ห์แรง และแอบไปกุ๊กกิ๊กกับหนุ่มอื่นบ่อยๆ แต่บีมดูออกว่าคนที่เธอรักคือภาณุเท่านั้น

 

                “ขอโทษจริงๆ นะคะคุณบีม แต่วันพรุ่งนี้รินจะเข้าไปแต่เช้า เย็นนี้รินจะโทรหาคุณบีมอีกทีนะคะ”

 

(ติดตามต่อได้ในฉบับเต็ม)

 


รีวิว (1)

เขียนรีวิว

จตุพร | 1 รีวิว
18/07/2014

“Aroma…กลิ่นกรุ่นอุ่นหัวใจ” เป็นนิยายของคุณอัญชรีย์ที่ดิฉันชอบน้อยที่สุดในบรรดานิยายเล่มอื่นค่ะ ทั้งพล็อตและตัวละครดิฉันไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่ แต่ถ้ามองว่ามันไม่ใช่นิยาย ดิฉันว่าเรื่องแบบนี้ในชีวิตจริงพบเห็นได้เยอะอยู่ค่ะ เหตุการณ์เริ่มต้นจากการจีบโดยทั่วๆไป พระเอกชอบนางเอกก็จีบ แล้วความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ดำเนินไปอย่างรวดเร็ว พระเอกและนางเอกมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งต่อกันจนนางเอกตั้งท้อง เมื่อพระเอกไม่ยอมแต่งงานด้วยนางเอกก็ไม่ได้ว่าอะไร เธอได้ไปเจอกับผู้ชายอีกคนที่เป็นเพื่อนสมัยเด็กของเธอ เขาเลยตัดสินใจช่วยนางเอก ด้วยการแต่งงานกับเธอ เพราะอยู่กับนางเอกแล้วตัวเขาเองก็มีความสุข ดราม่ามาเกิดตรงที่เพื่อนของนางเอกคนนี้เป็นน้องชายคนละแม่ของพระเอกค่ะ ประเด็นรักหลายเศร้าเลยเกิดขึ้น จบไปกับเรื่องคร่าวๆข้างบน มาต่อกันที่คาเรกเตอร์ของตัวละครกันดีกว่า เริ่มกันที่นางเอกของเรื่องเลยค่ะ นางเอกคนนี้คาเรกเตอร์จะดูเป็นคนซื่อๆ รู้สึกอย่างไรก็แสดงออกไปเช่นกัน คือผู้เขียนบรรยายให้ความรู้สึกว่าเธอเป็นคนที่ซื่อตรงต่อความรู้สึกของตัวเอง อย่างตอนแรกเธอรักพระเอกมากจนยอมมีอะไรกับเขา แต่พอเขาเลือกจะปฏิเสธไม่แต่งงานกับเธอ พอเธอไปพบกับเพื่อนเก่าที่เป็นน้องชายพระเอกและได้แต่งงานกัน นางเอกก็เปลี่ยนใจมารักเขาได้อย่างรวดเร็ว คือจุดนี้ดิฉันไม่รู้นะคะว่าถ้าเป็นดิฉันควรจะรู้สึกยังไง แต่แบบนางเอกดูใจโลเลนิดนึง หรืออาจจะเป็นเพราะฮอร์โมนของคนท้อง เอาจริงๆน้องชายพระเอกก็ควรค่าให้รักค่ะ เพราะเขาเป็นคนคอยดูแลนางเอกหลังถูกพระเอกปฏิเสธ นางเอกอาจจะรู้สึกว่าตัวเองไม่มีใครแล้ว พอมีคนมารักมาดูแลก็ไม่แปลกที่เธอจะรักตอบ ฝั่งพระเอก ตอนแรกที่จีบนางเอกดิฉันว่าเขาก็ดูว่าจะชอบเธอจริงๆนะคะ แต่พระเอกเรื่องนี้ก็เป็นผู้ชายมีเงิน หล่อ การศึกษาดี มีตำแหน่งหน้าที่การงาน ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเนอะที่เขามีสิทธิ์จะเฟ้นหาว่าที่ภรรยาที่ดีพร้อม พอมาเจอนางเอกที่ซื่อๆก็เสร็จสิคะ ได้กันเรียบร้อยโรงเรียนพระเอก แต่พอนางเอกมาบอกให้เขารับผิดชอบด้วยการแต่งงาน เขากลับเลือกปฏิเสธ ดิฉันว่าพระเอกเรื่องนี้มีปมนิดๆ ทำให้เขายังไม่พร้อมที่จะเริ่มต้นความสัมพันธ์ที่ยืนยาวกับใคร เมื่อนางเอกมาบอกให้เขาแต่งงานด้วยเลยช็อค คือดิฉันก็ไม่เข้าใจนางเอกเหมือนกันว่าทำไมไม่บอกไปว่าท้อง ก็ห่างกันไปค่ะ การกลับมาเจอกันของทั่งคู่อีกครั้ง เมื่อนางเอกมาในฐานะของภรรยาน้องชายเลยทำให้พระเอกเริ่มรู้สึกตัวว่านางเอกมีค่าในชีวิตเขา และเขารักนางเอก แต่ทำอะไรไม่ได้แล้วนิคะ เพราะนางเอกเป้นเมียน้อง แต่เหมือนโชคจะเข้าข้างพระเอก เพราะน้องชายพระเอกดันทำเรื่องที่ตัดโอกาสตัวเองทิ้ง พระเอกเลยได้โอกาสทำคะแนนอีกครั้ง นางเอกก็สามารถกลับมารักเขาได้อย่างไม่ยากเย็น จบไปแบบมึนๆงงๆค่ะ ถ้าใครอยากติดตามลองหาอ่านดูได้นะคะ

สินค้าที่ใกล้เคียง (61 รายการ)

www.batorastore.com © 2024