In Touch...สัมผัส (รัก) พิศวง

In Touch...สัมผัส (รัก) พิศวง

1 รีวิว  1 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9789743686016
ผู้แต่ง: ฟองฟาง
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 179.00 บาท 44.75 บาท
ประหยัด: 134.25 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

บทนำ

 

ภายในย่านแหล่งบันเทิงชื่อดังใจกลางกรุงเทพฯ ราตรีของ 'คนกลางคืน' เริ่มสว่างไสวพร้อมกับเสียงเพลงที่ทำให้พวกเขาเหล่านั้นต่างหลงใหลและพากันมาที่ผับบาร์ต่างๆ เพื่อผ่อนคลายอารมณ์ หาเพื่อน 'ดื่ม' และทำให้คํ่าคืนนี้มีแต่ความสนุกสนาน

หากในมุมหนึ่งของผับที่เปิดเพลงดังเสียจนโสตประสาทแก้วหูแทบดับ ร่างในชุดเสื้อยืดแขนสั้นสีดำสนิท สวมกางเกงสียีนกับรองเท้าบูตสีดำที่กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้หน้าเคาน์เตอร์เครื่องดื่ม กลับไม่รู้สึกสนุกสนานไปกับเสียงเพลงและเหล่าหญิงสาวที่ต่างพยายามชม้ายชายตามองเขาแทบจะทุกคน เพราะด้วยรูปร่างที่สูงหกฟุตอย่างนายแบบ บวกกับเรือนกายแข็งแรงสมส่วนจากการเล่นเทควันโดของเขา และถึงแม้ว่าเขาจะนั่งอยู่บนเก้าอี้ แต่มันก็ทำให้เขากลายเป็นจุดสนใจของบรรดาสาวๆ ได้ไม่ยาก

เรือนผมสีดำสนิทถูกตัดแบบซอยสไลด์ยาวระต้นคอ ปอยผมด้านหน้าร่วงตกลงมาที่หางตาทำให้ดูค่อนข้างยุ่งอยู่สักหน่อย ทั้งที่เจ้าตัวพยายามนักพยายามหนาจะให้มันออกมาเป็นทรง แต่เพราะติดการเสยผมเสียจนชิน จึงทำให้มัน 'เป็นทรง' ได้แค่นั้น

แต่ไม่ว่าจะเป็นการถูกมองอย่างหลงใหลหรือปลาบปลื้มในความหล่อ มันก็ไม่สามารถดึงความสนใจและความหนักใจของเขาไปจากของที่วางอยู่บนเคาน์เตอร์เบื้องหน้าเขาได้เลย ใบหน้าคมรับกับจมูกโด่งเป็นสันและนัยน์ตาสีดำเข้มลึกกำลังมองกล่องเพลง 'เจ้าปัญหา' ที่ทำให้เขาต้องมายังผับแห่งนี้เพื่อหาตัวช่วย

เหตุมันเกิดขึ้นเมื่อหนึ่งอาทิตย์ก่อน หลังจากเขาเพิ่งออกจากงาน หรือถ้าพูดให้มันดูแย่ก็คือ เขาถูกปลดด้วยภาวะเศรษฐกิจถดถอย ทำให้บริษัทแม่ที่ต่างประเทศจำต้องประกาศปลดพนักงานจำนวนหนึ่ง

ซึ่งเปมทัต หริรานนท์ก็เป็นหนึ่งในผู้โชคร้าย!

จากงานที่ดูมั่นคงและคนจำนวนไม่น้อยที่อยากทำงานเหมือนอย่างเขา 'นักพัฒนาระบบคอมพิวเตอร์' อาชีพที่ไม่น่าจะมีอะไรมาสั่นคลอนง่ายๆ แต่จากภาวะเศรษฐกิจและการที่มีคนจำนวนมากอยู่ในสายงานนี้ ทำให้มีการชิงดีชิงเด่นกันในหน่วยงาน และเมื่อต้องชิงเพื่อให้อยู่รอด มันก็มาถึงทางตันของเขา

แต่ช่วงเวลาโลกาวินาศของเขาก็ยังไม่หมดแค่นี้ มันยังมีเพิ่มขึ้นมาอีกเรื่อยๆ และเรื่อยๆ

นับตั้งแต่ถูกปลดออกจากงาน ถูกล้วงกระเป๋าหลังกลับจากไปซื้อของที่ห้าง คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คถูกน้ำหกใส่ ประกันเรียกเก็บค่าเบี้ยประจำปี และสุดท้าย...ถูกผีรังควาน!

ใช่! เขาถูกผีรังควาน และเป็นผีที่เขาดันหาเรื่องทำให้มารังควานเขาเองเสียด้วย

หลังจากถูกล้วงกระเป๋าที่ห้างและไปแจ้งความกระเป๋าสตางค์หายเรียบร้อย เขาก็กลับมายังคอนโดฯ ที่ตนเองได้ซื้อไว้ ตอนที่เขาปิดประตูรถกำลังจะเดินไปยังทางขึ้นลิฟต์ เขาก็สังเกตเห็นกล่องเพลงใบหนึ่งถูกวางทิ้งไว้ข้างเสาในอาคารจอดรถ ซึ่งบัดนี้เจ้ากล่องเพลงเฮงซวยนั้นกลับกลายเป็นปัญหาใหญ่ยิ่งกว่าตกงานเสียอีก

เปมทัตเก็บมันขึ้นมาจากพื้น ตอนนั้นเขามองช้ายมองขวาพยายามคิดว่าอาจจะมีคนทำตกไว้ จากนั้นเขาก็ตัดสินใจจะเอาไปให้ ร.ป.ภ. ของอาคาร แต่กลับไม่พบใครเลย ทำให้เปมทัตต้องเอากล่องเพลงกลับขึ้นไปบนห้องชุดของเขาด้วย และในคืนนั้นเองที่ความสงบสุขในโลก ส่วนตัวที่เรียกว่า 'ห้องของนายเปมหัต' ได้หายไปอย่างสิ้นเชิง เมื่อ เขาต้องพบกับเรื่องแปลกๆ ทั้งโทรทัศน์ที่เปิดขึ้นเอง เสียงเพลงบรรเลงเพราะๆ ที่ดังขึ้นอย่างไม่มีที่มา แล้วยังเสียงหัวเราะใสราวกับระฆังแก้วที่เขาได้ยินตลอดตอนอาบน้ำ

จนวันรุ่งขึ้นที่เขายังอยู่ในห้องชุดของเขา ความหลอนเดิมๆ จากคํ่าคืนก็เริ่มจะถามหามากขึ้น เขารู้สึกเหมือนมีใครสักคนอยู่ในห้องของเขาพร้อมกับเสียงเพลงบรรเลงที่เคยได้ยินนั้นกลับส่งมาจากกล่องเพลงที่ยังไม่ถูกเปิด!

เปมทัตไม่ใช่คนเชื่อเรื่องผีสาง แต่ว่าเหตุการณ์แปลกๆ ที่เกิดขึ้นภายในห้องชุดของเขา มันจะเป็นอะไรไปได้อีก และมันคงไม่มีคำตอบใดที่จะดีไปกว่าคำว่าผีหลอก

ชายหนุ่มพยายามที่จะเอากล่องเพลงที่ได้มาไปให้ ร.ป.ภ. ของอาคารเพื่อตามหาเจ้าของ และพยายามอย่างยิ่งที่จะเอากลับไปทิ้งไว้ที่ลานจอดรถที่เดิม แต่เขาก็ไม่เคยทำมันสำเร็จเลยสักครั้ง เมื่อใดที่เขาคิดจะเอามันไปให้คนอื่น ก็จะต้องเกิดอุบัติเหตุ ลิฟต์เสีย ประตูเปิดไม่ออก กลอนค้าง ก๊อกน้ำปิดไม่ได้ขึ้นมาเสียอย่างนั้น เขาจึงได้เปรยกับกล่องเพลงเป็นการตกลงเบื้องต้นว่าเขาจะไม่เอาเจ้ากล่องเพลงไปทิ้งอีกแล้ว

ทั้งที่พยายามไม่เชื่อว่าตนเองกำลังถูกผีกล่องเพลงรังควาน แต่อะไรหลายๆ อย่างบ่งชี้ว่าความผิดปกติทั้งหมดเป็นผลพวงมาจากเจ้าผีกล่องเพลง ดังนั้นเมื่อความอดทนของเขาเริ่มจะถึงขีดสุด เขาก็จำต้องหาหนทางแก้ไข ถึงแม้ว่าจะจนปัญญาอย่างยิ่งยวดก็ตามที แต่อย่างน้อยก็อย่าให้ตายเพราะถูกผีหลอกก็แล้วกัน มันน่าอนาถ!

เปมทัตผจญเวรผจญกรรมกับกล่องเพลงเจ้าปัญหาอยู่อีกหลายวันด้วยความอดทนที่สุดจะกลั้นต่อไปได้ เขาแทบจะประสาทกินตายและนึกอยากตายกลายเป็นผีเพื่อไปหลอกผีกล่องเพลงเสียเหลือเกิน

ในตอนนั้นเองที่เขากำลังใกล้จะคลั่งเพราะผีกล่องเพลง เสียงโทรศัพท์สวรรค์ช่วยจากรุ่นพื่ที่เคยรู้จักกันตอนเรียนมหาวิทยาลัยและให้ความนับถือก็ได้โทรมาหาเขาเพื่อพูดคุยถามไถ่กันประสาพี่น้อง ตอนนั้นเองที่เขาตัดสินใจที่จะปรึกษารุ่นพี่ด้วยการเกริ่นเรื่องประหลาดให้ฟัง อาเนชรุ่นพี่ของเขาฟังแล้วก็เลยบอกให้มาหาที่ผับของตนเองในคํ่าคืนนี้ มันจึงเป็นเหตุผลต่อเนื่องว่าทำไมเปมทัตถึงต้องมานั่งในผับของรุ่นพี่พร้อมกับกล่องเพลงเจ้าปัญหาตรงหน้า

ชายหนุ่มนั่งอยู่บนเก้าอี้เคาน์เตอร์บาร์ เขาใช้นิ้วเสยผมพลางมองกล่องเพลงอย่างหน่ายหัวใจจนกระทั่งใครคนหนึ่งเดินมาตบไหล่เขาด้วยแรงที่ไม่เบานัก

"ไงไอ้เปม"

เปมทัตหันไปแล้วจึงยกมือไหว้รุ่นพี่ แต่กลับถูกอีกฝ่ายต่อว่าด้วยเสียงที่ตะโกนแข่งกับเสียงเพลง

''เฮ้ย ไม่ต้องไหว้เว้ย เดี๋ยวพี่อายุสั้นหมด ยังไม่ทันได้เมียเลยนะเว้ย"

คนถูกท้วงส่งยิ้มขันๆ ให้รุ่นพี่ที่ริจะหาเมียแต่ยังไม่เห็นเป็นตัวเป็นตนสักที

"แล้วไม่รีบหาล่ะพี่เนช อายุก็ปูนนี้แล้วนะ''

"วะ ไอ้นี่ ถ้าพี่ปูนนี้เอ็งก็ตามๆ กันมาล่ะวะ ปีนี้พี่ก็สามสิบห้าแล้วนะเว้ย เอ็งอ่อนกว่าพี่แค่สองปีเองไม่ใช่เหรอ เพราะงั้นเอ็งน่ะไม่เอ๊าะแล้ว"

อาเนชว่าแล้วก็หัวเราะออกมาก่อนจะเหลือบมองไปยังกล่องเพลงสีขาวเดินลายขดทองสวยงามที่วางอยู่บนโต๊ะ เขาเหลือบมองหน้ารุ่นน้องที มองกล่องเพลงที แล้วจึงตบบ่ารุ่นน้องอีกครั้ง

"ไป เข้าไปคุยกันข้างในดีกว่า ขี้เกียจตะโกนคุยตรงนี้ว่ะ"

เปมทัตพยักหน้าแล้วหอบหิ้วกล่องเพลงผีรังควานเดินตามอาเนชเข้าไปยังส่วนด้านหลังของสตาฟฟ์ เขาเข้าไปในห้องนั่งเล่นเล็กๆ ที่สามารถปิดกั้นเสียงอึกทึกจากภายนอกได้อย่างดี

อาเนชให้เปมทัตนั่งลงบนโซฟา ส่วนตนเองเดินไปรินน้ำสีชาผสมโซดาก่อนจะกลับมาวางไว้บนโต๊ะรับแขกข้างกล่องเพลงเจ้าปัญหาซึ่งอยู่ตรงหน้ารุ่นน้อง

ในมือเขาก็ถืออีกแก้วพร้อมกับดื่มมันจนพอใจแล้วจึงเริ่มบทสนทนา ด้วยการให้เปมทัตเล่าเรื่องราวแปลกประหลาดที่เกิดขึ้นให้ฟังอีกครั้งอย่างละเอียด

เปมทัตเล่ารายละเอียดทุกอย่างอย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เขาได้ยินเสียงเพลงบรรเลงมาจากในกล่องเพลงที่เปิดไม่ออก เสียงหัวเราะในห้องอาบน้ำ เครื่องใช้ไฟฟ้าที่พากันเปิดเองจนทำให้ห้องชุดของเขากลายเป็นห้องชุดผีสิงไปโดยปริยาย และเมื่อเขาเล่าจบ อาเนชก็เอื้อมมือไปหยิบกล่องเพลงที่วางอยู่ขึ้นมาพลิกซ้ายพลิกขวาอย่างตรวจสอบ เขาเองก็เป็นพวกที่มีสัมผัสทางวิญญาณเหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้เก่งกาจขนาดไล่วิญญาณได้ แค่รู้ว่าเจ้ากล่องเพลงในมือนี้มันมีสัมผัสของวิญญาณอยู่จริงและมันให้ความรู้สึกเศร้าสร้อยขึ้นมาเสียอย่างนั้น อาเนชพยายามจะงัดแงะเปิดฝากล่องให้ได้ ทั้งใช้ปลายมีดปอกผลไม้ก็แล้ว แต่ก็ยังไม่เป็นผลสำเร็จ

ตอนแรกที่เขาให้เปมทัตเอากล่องเพลงมาให้ดูก็เพราะคิดว่าจะสามารถช่วยอะไรได้บ้าง แต่ดูเหมือนว่าความสามารถของเขาคนเดียวคงจะไม่เพียงพอเสียแล้ว เขาวางกล่องเพลงลงบนโต๊ะตามเดิมก่อนจะยกมือขึ้นลูบคางตัวเองอย่างใช้ความคิดอยู่หลายตลบ จนกระทั่งเอ่ยออกมาในที่สุด

"งานนี้สงสัยต้องพึ่ง 'คนส่งของ' แล้วว่ะ" รุ่นพี่หนุ่มพูดพลางหัวเราะในลำคออย่างหมายมาด ต่างจากเปมทัตที่ยังจับต้นชนปลายไม่ถูกว่าอาเนชหมายความว่าอะไร การจัดการกับผีกล่องเพลง ทำไมมันไปเกี่ยวกับคนส่งของได้เล่า

"พี่เนชจะให้ผมไปทำอะไรกับคนส่งของ"

"เอ็งไม่ได้ทำหรอกไอ้เปม แต่คนส่งของทำ เพราะถ้าเอ็งไม่อยากอยู่กับผี ก็ต้องเอาไปคืนเจ้าของเดิม"

"อ้าว แล้วพี่เนชจะให้ส่งของไปไหนล่ะ เพราะเราก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครเป็นเจ้าของ แล้วเจ้ากล่องเพลงนี้มันจะยอมไปจากผมจริงๆ เหรอ"

เปมทัตท้วงติง เริ่มสับสนและไม่เข้าใจในสิ่งที่ตนได้ยินได้ฟังจากปากรุ่นพี่มากขึ้น

"ก็นั่นแหละ เพราะไม่รู้ว่าใครเป็นเจ้าของ ไม่รู้ว่าเจ้ากล่องเพลงหรือผีในกล่องเพลงมันต้องการอะไรกันแน่ ดังนั้นเอ็งก็ควรจะหาที่มาที่ไปของมันไม่ใช่เหรอ"

เปมทัตกะพริบตาปริบๆ ยังไม่เข้าใจอยู่ดี ก็ถ้ารุ่นพี่ของเขาพูดถึงขนาดนี้ คนที่เขาน่าจะต้องไปขอความช่วยเหลือมันน่าจะเป็นหมอผี ไม่ใช่คนส่งของนี่!

"พี่เนช ผมไม่ได้จะว่าอะไรนะ แต่คนส่งของกับผีเนี่ยนะ"

อาเนชหัวเราะในลำคอแล้วเริ่มอธิบายก่อนที่รุ่นน้องจะเข้าใจผิดไปมากกว่านี้ "เอ็งเคยได้ยินเรื่องคนที่สามารถล่วงรู้ในสิ่งต่างๆ ที่เกี่ยวกับสิ่งของ คนที่มีสัมผัสพิเศษทางด้านวิญญาณสามารถสื่อสารกับสิ่งเหนือธรรมชาติได้บ้างมั้ยล่ะ"

"ไม่เคยครับ และผมไม่คิดว่าจะมีอยู่จริงด้วยซ้ำ" เขาตอบพลางออกความคิดเห็น แค่คิดว่าคนพวกนี้จะมีอยู่จริง มันก็ไม่น่าจะเป็นไปได้แล้ว ไม่อย่างนั้นของเก่าแก่สมบัติประเทศที่ถูกพวกขุดค้นขโมยไปไหนต่อไหน ก็ต้องกลับสู่มือเจ้าของได้แล้วสิน่า

แต่อาเนชกลับบอกเขาอีกว่า "งั้นเอ็งก็คิดชะใหม่ เพราะว่าคนที่มีสัมผัสพิเศษอย่างที่พี่บอกมันมีอยู่จริง เพียงแต่มันไม่ชอบเปิดเผย และมันไม่ค่อยชอบยุ่งกับผี เพราะถ้ามันยุ่งกับผี ผีก็จะไปยุ่งกับมัน"

เปมทัตขมวดคิ้วกับคำเรียกของรุ่นพี่ที่ใช้เรียกคนส่งของคนนั้น "พี่เนชพูดราวกับรู้จักคนส่งของดีนะครับ เขาเป็นใครเหรอครับ"

"มันคือไอ้พู่ คนส่งของของแอนทีกไลฟ์”

(ติดตามอ่านต่อได้ในฉบับเต็ม)

 


รีวิว (1)

เขียนรีวิว

ภัทราพร | 1 รีวิว
16/07/2014

In Touch...สัมผัส (รัก) พิศวง เป็นนิยายแนวความรู้สึกดีที่เรียกว่ารักของนักเขียนนามปากกาฟองฟางนิยายเล่มนี้เป็นนิยายที่ถูกตีพิมพ์ออกมานานมากๆแล้วๆก็สนุกมากๆเป็นนิยายที่มีปริศนามีปมทั้งเล่มแฝงไว้ด้วยคดีฆาตกรรมด้วยเรื่องราวเกิดจากกล่องเพลงปริศนาของพระเอกเพราะในกล่องพี่เนี้ยมีวิญญาณตนหนึ่งอยู่แถมพอจะหาวิธีแก้ไขด้วยการไปหานางเอกเรื่องนี้นางเอกเป็นแม่หมอผีก็ดันทำให้ทั้งคู่ต้องตกกระไดพลอยโจนไปข้องเกี่ยวกับคดีฆ่าตกรรมนี้พระเอกเรื่องนี้หน้าสงสารนะตกงานยังไม่พอแถมยังต้องมาเจอเรื่องราวผีๆอีกคือเรื่องนี้เขียนโดยพี่ฟองฟางคือนามปากกาของพี่เขาเราเคยอ่านเรื่องนี้มานานมากๆแล้วเพราะออกมานานมากแล้วเช่นกันคือไม่ได้มีโอกาสได้อ่านเล่มต่อของนิยายเล่มนี้อ่ะเพราะเคยได้ยินมาว่าตีพิมพ์กับอีกสำนักพิมพ์นึงแล้วเราเลยหาซื้อไม่ได้แล้วก็ไม่แน่ใจว่าชื่อเรื่องเล่มต่อชื่อว่าอะไรอ่านนิยายงานเขียนของพี่ฟองฟางมากทุกเล่มเลยตั้งแต่เรื่องขอโทษครับ…ผมเป็นมาเฟียเรื่องนี้นี่เป็นเรื่องในดวงใจเลยแล้วก็สนุกมากๆเสียดายอย่างเดียวมีความรู้สึกว่าเรื่องสั้นไปอ่ะจบเร็วไปหน่อยอ่านแล้วยังอินอยู่เลยแล้วก็มีภาคต่อเรื่องนี้มาอีกซึ่งก็คือภาคของรุ่นลูกส่วนเล่มนี้ไม่เกี่ยวเพราะเป็นเล่มแยกออกมาอีกทีอ่านเรื่องIn Touch...สัมผัส (รัก) พิศวงรู้สึกว่าไม่ผิดหวังนะค่ะสำนวนการบรรยายนี่ขนลุกมากยิ่งตอนนั้นที่เคยอ่านคืออ่านตอนกลางคืนอ่ะเนื้อหาในเล่มน่าติดตามมากเพราะเกี่ยวกับเรื่องที่เกี่ยวกับผีพออ่านแล้วแบบขนลุกอ่ะยิ่งฉากตอนที่ต้องมีวิญญาณโผล่มาอ่ะคือบรรยายได้แบบน่ากลัวดีเราชอบการบรรยายงานเขียนของพี่ฟองฟางอยู่แลวด้วยมีความรู้สึกว่าพี่เขาบรรยายหนังสือสนุกแล้วก็น่าติดตามโดยเฉพาะแนวความรู้สึกดีที่เรียกว่ารักเล่มเนี้ยคือมันเป็นการใช้ภาษาที่ค่อนข้างเป็นทางการอ่ะอ่านแล้วมีความรู้สึกว่ามันไพเราะแล้วก็ชวนติดตามยิ่งเนื้อหาเล่มนี้มันมีปริศนาทั้งเล่มอ่ะอ่านแล้วมีความรู้สึกว่าวางไม่ลงอีกอย่างเลยคือเดาตอนจบกับตอนต่อไปไม่ออกจริงๆมันเหมือนมีปมปริศนาทั้งเรื่องอ่ะคือพี่นักเขียนวางโครงเรื่องมาดีมากๆเป็นเรื่องที่มีเนื้อหาน่าติดตามทั้งเล่มจริงๆถึงตอนนี้พี่นักเขียนท่านนี้จะไม่ได้ตีพิมพ์กับแจ่มใสแล้วแต่ก็ยังรู้สึกประทับใจในผลงานของพี่นักเขียนท่านนี้เล่มนี้เราซื้อเก็บมานานมากๆแล้วด้วยแต่อย่างที่บอกคือหาเล่มต่ออ่านไม่ได้ต้องไปสืบหาชื่อเรื่องก่อนชอบพระนางเรื่องนี้นะค่ะนอกจากฉากขนหัวลุกในเล่มที่โผล่มาแบบเรื่อยๆแล้วยังมีฉากรักกุ๊กกิ๊กให้ติดตามอยู่ไม่ห่างเลยรู้สึกว่าชอบมากๆแล้วอีกอย่างเลยคือเนื้อหาในเล่มมันลงตัวดีค่ะ

สินค้าที่ใกล้เคียง (70 รายการ)

www.batorastore.com © 2024