Evolution Love วิวัฒนาการรักกับวิญญาณตัวแสบ
ประหยัด: 119.25 บาท ( 75.00% )
มีสินค้ามือสองอยู่จำนวน : 1 รายการราคา 35.00 บาท ซื้อสินค้ามือสอง
Quick View
เนื้อหาบางส่วน
บทนำ
ณ โขดหินกลางทะเล
"พบแล้วๆ ฉันพบร่างของผู้หญิงที่หายไปแล้ว เธอมีลักษณะตรงกับในรูปทุกอย่างเลย" ชายที่เป็นนักนิติเวชวิทยาตะโกนขึ้น "แต่ดูเหมือนว่า เธอจะเสียชีวิตมาหลายวันแล้ว"
"รีบพาร่างเธอกลับเข้าฝั่งก่อนดีกว่า" ชายอีกคนหนึ่งพูดขึ้น
วันถัดมา ข่าวก็แพร่ออกไปทางทีวีว่าเจสสิก้า ซันเกรย์ สาวลูกครึ่งที่อาศัยอยู่ทางแถบชายทะเลจมนํ้าตายและศพของเธอก็ถูกกระแสนํ้าพัดมาติดกับโขดหินเมื่อประมาณหนึ่งอาทิตย์ก่อน...
หนึ่งเดือนต่อมา
"ลูกรีบขึ้นจากทะเลได้แล้วนะ เดี๋ยวเราต้องไปเช็กเอาต์ออกจากโรงแรมแล้ว" หญิงวัยกลางคนพูดพร้อมกับเดินมาที่ทะเลเพื่อตามลูกสาวให้เตรียมตัวกลับกรุงเทพฯ
"ค่า แม่" เธอขานรับพลางว่ายน้ำขึ้นจากทะเลโดยที่ไม่รู้เลยว่ามีบางสิ่งบางอย่างกำลังตามเธอไปด้วย..
1
Limited Edition School
ทั่กๆๆ
หลังเลิกเรียนของเย็นวันจันทร์ ฉันวิ่งผ่านสวนหลังโรงเรียนไปห้องสมุด เพื่อเอาหนังสือที่ยืมมาไปคืน
"อ่า เย็นขนาดนี้แล้วจะมีใครอยู่คุมห้องสมุดมั้ยเนี่ย" ฉันวิ่งไปบ่นไป แต่แล้วก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงอะไรบางอย่างลอดผ่านเข้ามาในหู
"ฉันชอบเธอ"
ฉันมองไปตามต้นเสียงนั้นและได้เจอกับสาวน้อยร่างบางคนหนึ่งที่กำลังถูกผู้ชายร่างใหญ่สารภาพรักอยู่ ฉันจึงหยุดวิ่งและมองไปทางพวกเขา ก็พอจะรู้นะว่ามันเสียมารยาท แต่ว่าฉันก็อยากรู้นี่นาว่ามันจะเป็นยังไงต่อ ปกติมีให้เห็นบ่อยๆ ซะที่ไหนล่ะฉากแบบนี้
และเมื่อความอยากรู้เอาชนะมารยาท ฉันจึงยืนดูอยู่ห่างๆ โดยที่ทั้งสองคนนั้นไม่รู้ตัว
สาวน้อยคนนั้นหน้าตาน่ารักดี แต่ว่าไอ้ผู้ชายที่ตัวใหญ่ๆ นี่หน้าตาน่ากลัวเกินกว่าที่ฉันจะสามารถบรรยายได้ =_=
"ฉันชอบเธอ คบกับฉันได้มั้ย" ชายตัวใหญ่พูด
"เรารู้จักกันงั้นเหรอ" ผู้หญิงคนนั้นเงยหน้านขึ้นถามชายร่างใหญ่ เธอมองเขาตาไม่กะพริบและดูไม่หวาดหวั่นกับความน่ากลัวที่อยู่ตรงหน้าเลยสักนิด
"เอ่อ...คือ..." ชายร่างใหญ่ถึงกับอึกอักพูดไม่ออก
"ฉันไม่คิดจะคบกับคนที่รู้จักกันแค่เปลือกนอกหรอกนะ" สายตาเธอดูแข็งกร้าวมาก
"แต่ฉันชอบเธอจริงๆ นะ" ชายร่างใหญ่ยังตื๊อไม่เลิก
"แต่ฉันไม่ได้ชอบนาย” เธอพูดและกำลังจะเดินหนีไปทางอื่น แต่ชายร่างใหญ่กระชากแขนเธอกลับมาไม่ให้เดินไปไหน แรงของผู้ชายคนนั้นทำเอาเธอตัวลอยเลยทีเดียว
"ปล่อยมือสกปรกๆ ของนายซะ!” ผู้หญิงคนนั้นพูด
โอ้มายก็อดดด- =0=;;; เธอกล้ามาก
"เมื่อกี้เธอพูดว่าไงนะ ยัยนี่!!!" ชายร่างใหญ่ตะโกนใส่หน้า
น่ากลัว น่ากลัวจริงๆ =0= ถ้าขืนเธอพูดอะไรไม่ถูกใจเขาอีกคำล่ะก็ เขาคงได้ตบเธอแน่ๆ
"ฉันบอกให้นายปล่อยมือของนายซะ ไอ้หน้าโง่" เธอตะคอกใส่เขาอย่างไม่กลัวเกรง
"หน็อย"
เพียะ!
อ๊ากกก เขาตบเธอจริงๆ ด้วย ฉันควรจะทำยังไงดี ฉันอยากจะเข้าไปช่วยนะ แต่ฉันเองก็กลัวเหมือนกัน แถวนี้ไม่มีผู้ชายบ้างหรือไงเนี่ย
ไม่มีใครเดินผ่านมาเลย ทำไมต้องมาเกิดเรื่องตอนนี้ด้วย เย็นขนาดนี้แล้วจะหานักเรียนหรืออาจารย์ที่อยู่ในโรงเรียนสักคนนี่มันไม่ง่ายเลยนะ เฮ้ย! เวรกรรม! เธอกำลังโดนผู้ชายคนนั้นอัดอยู่ >()< โอ๊ย หมอนั้น มันบ้าไปแล้ว!
เพียะ!
อ๊าก =0= มันตบหน้าผู้หญิงคนนั้นอีกแล้ว ครั้งนี้เธอล้มลงกับพื้นเลยทีเดียว ฉันเอามือลูบหน้าตัวเองด้วยความหวาดเสียวและรู้สึกเจ็บแทน
"ไอ้บ้า" เธอด่าชายร่างใหญ่และเอามือยันพื้นลุกขึ้นมา
ถ้าฉันเป็นเธอนะ ฉันว่าแกล้งสลบไปเลยดีกว่า =_=! แต่นี่อะไร เธอยังลุกขึ้นมาด่าเขาอีกงั้นเหรอ
"หน็อย ยัยนี่!!!" เขาร้องเสียงดังด้วยความคลุ้มคลั่งและเข้าไปทำร้ายเธออีกครั้ง
ไอ้หมอนี่มันโรคจิตชัดๆ! ฉันจะทำไงเนี่ย! จะช่วยผู้หญิงคนนั้น ยังไงดี! โว้ย! อยากจะบ้าตาย ทำไมขาฉันมันถึงได้สั่นแบบนี้นะ
และในขณะที่ฉันกำลังยืนเป็นห่วงผู้หญิงคนนั้นอยู่ ชายร่างใหญ่ก็หยิบหินก้อนโตๆ ขึ้นมาแล้วทุบลงที่หัวเธอ หมอนั่นหอบหายใจถี่ๆ ฉันได้แต่มองภาพอันแสนน่ากลัวนั้นทั้งนํ้าตา จนกระทั้งหมอนั่นวิ่งหายไปไหนก็ไม่รู้ ฉันจึงรีบปาดนํ้าตาออกและวิ่งเข้าไปหาผู้หญิงคนนั้น เธอนอนหมดสภาพอยู่บนพื้น
"นี่ๆ เธอเป็นอะไรหรือเปล่า" ฉันช้อนตัวเธอขึ้นมาและพยายามปลุกให้ตื่น แต่ก็ไร้ผล เธอหมดสติไปแล้ว ตามเรือนร่างมีรอยฟกช้ำเต็มไปหมด ที่หัวก็มีเลือดออกด้วย =()=!
ฉันจะทำยังไงดี ใช่แล้ว! ฉันควรจะพาเธอไปส่งห้องพยาบาล ไม่สิ ต้องไปโรงพยาบาลแล้วสภาพแบบนี้...
เมื่อคิดได้ดังนั้นฉันจึงหยิบโทรศัพท์มือถือที่อยู่ในกระเป๋ากระโปรงขึ้นมาและรีบโทรเรียกรถพยาบาลให้มารับเธอด่วน
"ทำใจดีๆ เอาไว้นะ เธอต้องไม่เป็นไร" ฉันพูดกับหญิงสาวไร้สติที่นอนอยู่ตรงหน้า
โรงพยาบาล
"เป็นเพื่อนกับผู้ป่วยใช่มั้ยคะ,, นางพยาบาลคนหนึ่งถามฉัน
"เอ่อ...เพื่อนเหรอ...ก็ไม่ใช่ =_="
"อ้าว แล้วทำไงดี...คือว่า..."
"ต้องการประวัติผู้ป่วยอย่างนั้นสินะคะ = = ฉันโทรเรียกญาติของเธอมาแล้วล่ะค่ะ อีกไม่นานก็คงจะมา" ฉันพูดกับนางพยาบาล
ใช่ ฉันโทรเรียกญาติของเธอมา ฉันไล่ดูรายชื่อในโทรศัพท์ของผู้หญิงคนนั้นแล้วกดโทรออกไปยังคนที่มีชื่อว่า Mom...แม่ของเธอนั่นเอง และฉันก็หวังว่าแม่ของผู้หญิงคนนี้จะมาโรงพยาบาลโดยเร็วนะ
ห้องพักผู้ป่วยภายในโรงพยาบาล
ตอนนี้ร่างของหญิงสาวคนนั้นถูกส่งมาที่ห้องพักธรรมดาแล้ว ดูเหมือนว่าเธอยังไม่ได้สติเลย เพราะอย่างนั้นฉันจึงจำต้องมานั่งเฝ้าผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้ที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนในห้องสี่เหลี่ยมขาวๆ มานั่งคิดไปคิดมา ถ้าตอนนั้นฉันไม่อยากรู้เรื่องของเธอก็ดีหรอก =_= เอ๊ะ ไม่สิ เพราะถ้าฉันไม่หยุดดูผู้หญิงคนนี้ก็อาจจะกลายเป็นศพอยู่ที่หลังโรงเรียนก็ได้ คิดแล้วน่ากลัวชะมัด
ปัง!
ใครบางคนเปิดประตูห้องเข้ามา จากนั้นก็ตามด้วยเสียงฝีเท้าที่มากกว่าหนึ่ง ฉันจึงเอี้ยวตัวไปดูที่ทางเข้าห้องแล้วก็พบกับผู้หญิงวัยกลางคนกับผู้ชายวัยรุ่นคนหนึ่ง
"เท็นเท็นลูกแม่!" หญิงวัยกลางคนรีบวิ่งไปที่เตียงของ...เอ่อ...เท็นเท็น
อ่า ดูเหมือนว่าผู้หญิงวัยกลางคนคนนี้จะเป็นแม่ของผู้หญิงคนนี้สินะ ในเมื่อแม่ของเธอมาแล้ว แบบนี้ฉันก็คงจะกลับได้แล้วใช่มั้ย
ฉันคิดในใจพร้อมกับหันไปมองหน้าของใครอีกคน เขาคือผู้ชายที่เดินเข้ามาพร้อมกับแม่ของเท็นเท็นนั่นเอง
เขาใส่เครื่องแบบนักเรียนโรงเรียนเดียวกับฉัน และที่สำคัญไปกว่านั้น ผู้ชายคนนี้เรียนอยู่ห้องเดียวกับฉันซะด้วย =0= หมอนี่ชื่อเคียว เป็นเพื่อนผู้ชายในห้องที่ฉันไม่สนิทด้วยเลยสักนิด ถึงแม้ว่าแม่ฉันกับแม่เขาจะสนิทกันมากก็เถอะ เราสองคนสบตากันและเหมือนมีอะไรบางอย่างสะกดฉันและเขาเอาไว้ ต่างคนต่างจ้องไม่วางตา แต่การสบตากันของเราก็ไม่ได้มีความรู้สึกประหลาดแฝงเอาไว้หรอกนะ ไอ้ความรู้สึกแบบรักหรือหลงน่ะไม่มีเลย =_= ก็แค่มองกันเฉยๆ เท่านั้นเอง
เอ๊ะ แต่จะว่าไป...ทำไมหมอนี่ถึงได้มาที่นี่ได้ล่ะ หรือว่าจะเป็นอะไรกับผู้หญิงที่ชื่อเท็นเท็น
"จริงสิ หนูคือคนที่โทรเข้ามือถือป้าสินะ" แม่ของเท็นเท็นหันมาถามฉัน ซึ่งมันก็เป็นการเรียกสติฉันเหมือนกันเพราะเสียงของแม่เท็นเท็นทำให้ฉันละลายตาจากเคียวได้
"อ่า ใช่ค่ะ"
"หนูเป็นคนช่วยเท็นเท็นไว้ใช่มั้ยจ๊ะ"
"แหะๆ,, ฉันส่งยิ้มแห้งๆ ไปให้
จะให้บอกว่าช่วยมันก็...
"หนูเป็นเพื่อนกับเท็นเท็นงั้นเหรอ แต่ป้าไม่เคยเห็นหน้าหนูมาก่อนเลยนะ" แม่ของเท็นเท็นพูดขณะเดินมานั่งที่โซฟาข้างๆ ฉัน
จะเคยเห็นได้ยังไงเล่า ก็ฉันเพิ่งจะรู้จักกับเท็นเท็นเมื่อกี้นี้เองนี่นา =_=" ไม่สิ เรียกว่ารู้จักกันก็คงไม่ใช่ มันไม่ถึงขั้นนั้น
"เอ่อ ก็...จริงๆ แล้วก็ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนหรอกค่ะ"
"อ้าว แล้ว..."
ในเมื่อแม่ของเท็นเท็นซักไซ้ความจริงมา ฉันจึงต้องเล่าเรื่องทั้งหมดที่เจอให้ฟัง เพราะยังไงคนเป็นแม่ก็สมควรที่จะรู้เรื่องนี้เอาไว้
และเมื่อฉันเล่าจบ แม่ของเท็นเท็นก็ดึงมือฉันไปกุมพลางถามอย่างมีความหวังว่า
"หนูพอจะจำหน้าของผู้ชายคนนั้นได้มั้ย"
"ดะ...ได้ค่ะ" ฉันตอบอย่างผวาเล็กน้อยเพราะอยู่ๆ ก็ถูกดึงมือไปกุมไว้
"ดีเลย ป้าจะได้แจ้งความ!"
แจ้งความก็ดี แต่หวังว่าหมอนั่นคงไม่มาเล่นงานฉันหรอกนะ =0=
ตึงงง!
อะไรน่ะ =_= อยู่ๆ เคียวก็เตะเก้าอี้ล้มตึงขึ้นมา เขาเป็นอะไรของเขาน่ะ
"เคียว...เป็นอะไรลูก...แม่ตกใจหมด" แม่ของเท็นเท็นพูดและเอามือกุมหน้าอกไว้ด้วยความตกใจ
เอ๋ แม่เหรอ ทำไมผู้หญิงคนนี้แทนตัวเองว่าแม่กับเคียวล่ะ ก็แม่ของเคียวน่ะน่าจะเป็นน้าซันนี่ที่เป็นเพื่อนกับแม่ฉันสิ แล้วทำไมถึงได้...
"มันไม่ตลกเลยนะ! ทั้งๆ ที่เธอช่วยยัยนี่ได้แท้ๆ แต่กลับยืนดูอยู่เฉยๆ อย่างนั่นเหรอ!" เคียวตะโกนและหันมาทำสายตาน่ากลัวใส่ฉัน
"เคียว ใจเย็นๆ สิลูก..."
"เย็นอะไรล่ะครับ แม่ไม่โกรธเหรอที่ยัยนี่เอาแต่ยืนนิ่งๆ ไม่เข้าไป ช่วยเท็นเท็นน่ะ"
"เคียว..."
"ฉันจะอัดให้เธอมีสภาพอย่างเดียวกับเท็นเท็น" เขาพูดและเดินตรงมาที่ฉันแล้วกระชากคอเสื้อฉันขึ้น
เฮ้ย อะไรกันเนี่ย =0= ฉันตามเหตุการณ์ไม่ทันแล้วนะ หมอนี่กำลังจะต่อยฉันงั้นเหรอ
"เดี๋ยวๆ นายใจเย็นก่อนสิ" ฉันพยายามจะห้ามกำปั้นของเขาที่ลอยคว้างอยู่กลางอากาศ "ฉันรู้แล้วว่าฉันผิด ฉันขอโทษที่ไม่ได้เข้าไปช่วยเท็นเท็นของนาย ตอนนั้นฉันกลัวมากจริงๆ กลัวพอๆ กับตอนนี้เลยแหละ...เข้าใจ ฉันหน่อยสิ,,
ฉันพยายามพูดให้เขาใจเย็นลง และดูเหมือนว่าจะได้ผล หมอนั่นคลายกำปั้นออกและค่อยๆ ปล่อยมือออกจากคอเสื้อของฉัน
"อ่า...ลูกเคียว...ใจเย็นสิลูก เท็นเท็นไม่ได้เป็นอันตรายอะไรแล้ว" แม่ของเท็นเท็นช่วยกล่อมเคียวด้วยอีกคน
และฉันที่ถูกปลดปล่อยจากพันธนาการแล้วจะอยู่ให้เขากระชากคอเสื้อฉันอีกรอบงั้นเหรอ ฉันก็เผ่นก่อนสิคะ =()=!
เสียงของผู้หญิงดังขึ้นอีก ฉันกลืนน้ำลายลงคอด้วยความยากลำบากและค่อยๆ เงยหน้าขึ้นไปบนเพดานห้อง
ในห้องนอน
เฮ้อ วันนี้เจอเรื่องแปลกๆ จนรู้สึกเหนื่อยล้าไปหมดเลย
ฉันคิดพลางล้มตัวลงนอนกับที่นอนหนานุ่ม...ลมอ่อนๆ ของแอร์มันชวนให้เคลิ้มเหลือเกิน
'ทำไมเธอถึงได้เข้านอนเร็วจังเลยล่ะ,
สะ...เสียงใครน่ะ 0_0 เมื่อกี้ฉันได้ยินเสียงเย็นๆ วาบๆ ดังสะท้อนอยู่ในหู ฉันรีบกระเด้งตัวขึ้นมานั่งบนเตียงและหันซ้ายหันขวาทันที แต่ก็ไม่เจอเจ้าของเสียงที่ได้ยินเมื่อนี้เลย
'ฉันอยู่นี่...เงยหน้าขึ้นมาข้างบนสิ’
เสียงนั้นดังขึ้นอีกครั้ง ฉันรู้สึกกลัวและขนลุกไปทั้งตัว แน่นอนตอนนี้ในห้องของฉันมันเริ่มไม่ปกติแล้ว ฉันรู้สึกได้เลยว่ามีบางสิ่งบางอย่างเข้ามาอยู่ในห้องฉัน
‘นี่ไง ฉันอยู่นี่ เงยหน้าขึ้นมาสิ’
(ติดตามต่อได้ในฉบับเต็ม)
รายละเอียด