L Club Three...บ้านบุษบันคืนใจ

L Club Three...บ้านบุษบันคืนใจ

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: 9789741095667
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 219.00 บาท 54.75 บาท
ประหยัด: 164.25 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

บทที่ 1

 

เรื่องมันยาว...

รู้สึกว่าจะเริ่มเมื่อมีผู้ชายคนหนึ่งโทรมาที่บริษัทสำนักกฎหมาย นักสืบ และรักษาความปลอดภัยนพเดชา แล้วเจาะจงขอปรึกษากับอเนชา นพเดชา ทายาทคนโตของเจ้าของบริษัทกฎหมายที่ใหญ่โตเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ

คนที่โทรมาบอกว่าเรื่องที่จะคุยเป็นเรื่องของ ‘เด็กผู้หญิง’ คนหนึ่ง

“เห็นว่าไปพักบ้านญาติแล้วจะโดนลูกชายญาติทำมิดีมิร้ายน่ะครับ ตอนนี้เลยกลับไปอยู่บ้านคนเดียว”

“ครับ” อเนชา...ทนายหนุ่มมาดเข้มอายุเพิ่งใกล้ๆ จะสามสิบรับคำพร้อมยิ้ม...อย่างที่เรียกว่า ‘ยิ้มการค้า’ ใส่เครื่องรับสัญญาณโทรศัพท์บนโต๊ะทำงานทั้งที่คู่สายไม่มีทางได้เห็น

เขาให้ความสนใจกับคู่สายจนวางมือจากเอกสารเตรียมฟ้องคดีละเมิด อันเป็นคดีที่ต้องรับผิดชอบหลังช่วยลูกความชื่อคุณกิมฮุงจัดการมรดกอลเวงเสร็จไปครึ่งทางแล้วตั้งแต่เมื่อวานซืน

“ขอรายละเอียดเพิ่มอีกนิดได้ไหมครับคุณธีรนพ ค่อยๆ เล่านะครับ ผมอยากทราบว่าเรื่องนี้ด่วนแค่ไหน บางทีผมอาจจะให้คำแนะนำได้ในตอนนี้เลย ไม่ทราบว่า...ตอนนี้น้องยังปลอดภัยดีหรือเปล่าครับ”
“อาจจะปลอดภัยครับ ผมไม่ทราบเหมือนกัน เรื่องมันเกิดขึ้นสองถึงสามวันแล้ว”

ตอนนั้นเด็กเดินเอกสารก้าวเข้ามาในห้องทำงานส่วนตัว อเนชาจึงเอียงคอแล้วหนีบโทรศัพท์ไว้กับไหล่ หยิบซองสีน้ำตาลบางเฉียบขนาดใหญ่ส่งให้พลางสนทนากับคู่สายที่โทรทางไกลมาจากเชียงใหม่ไปเรื่อยๆ

“ไม่ทราบว่าคุณธีรนพเป็นอะไรกับเด็กผู้หญิงคนนั้นครับ”

“ก็...”

พอถามคำถามสามัญแบบนี้ไป คุณธีรนพที่ฟังน้ำเสียงแล้วน่าจะเป็นชายหนุ่มอายุราวสามสิบห้าถึงสี่สิบปีก็ลากเสียงอย่างลังเล

อเนชารีบกดปุ่มบันทึกสัญญาณเสียงที่พ่วงอยู่กับเครื่องรับสัญญาณโทรศัพท์บนโต๊ะทำงาน ตามด้วยบุ้ยปากให้เด็กเดินเอกสารนำซองสีน้ำตาลเมื่อครู่ไปส่งเจ้าหน้าที่ชั้นล่าง

เด็กเดินเอกสารของสำนักงานซึ่งจริงๆ แล้วเป็นเด็กใหม่ในส่วนรักษาความปลอดภัยของบริษัทผงกหัวรับแล้วเดินออกไปจากห้องทำงานส่วนตัวของอเนชาเงียบๆ เป็นจังหวะเดียวกันกับที่คนโทรมาต่อบทเหมือนเรียบเรียงประโยคได้แล้วเรียบร้อย

“ผมไม่ได้เป็นอะไรกับเด็กคนนั้นหรอกครับ พอดีคนรู้จักเขาฝากผ่านๆ กันมา เรื่องของเรื่องคือน้องพา..แกชื่อพาณิภัคน่ะครับ พ่อแม่เพิ่งเสียไปในอุบัติเหตุ ทิ้งบ้านกับเงินประกันชีวิตไว้ให้หลายอยู่...ทีนี้แกเหลือญาติอีกคือป้าและลุง แต่สนิทกับป้ามากกว่า เพราะครอบครัวของฝ่ายลุงห้าคนไปตั้งรกรากที่เมืองนอกกันหมด ทางฝ่ายป้าเลยให้ทนายความยื่นคำร้องขอเป็นผู้ดูแลเด็ก แต่...คนรู้จักผมเขาบอกว่าป้าคนนี้เป็นคนไม่ดี มีแววว่าจะฮุบเงินเขาหมดแน่ ผมเลยอยากให้ทนายมาช่วยน้องเขาหน่อย”

“น้องอายุเท่าไรแล้วครับ”

“ประมาณสิบแปดสิบเก้าครับ”

“อ๋อครับ” อเนชารับคำสั้นๆ หน้าตายังยิ้มรับ แต่ใจบ่นคู่สนทนาว่าอายุสิบแปดสิบเก้ามันเด็กเสียที่ไหนกัน แรกฟังเขานึกว่าเด็กคนนั้นอายุสิบสองสิบสามเสียอีก

“ถ้าน้องเขาอายุเท่านั้นแล้ว เขาน่าจะคุยกับศาลได้รู้เรื่อง และมีสิทธิ์เลือกผู้ปกครองด้วยตัวเองแล้วล่ะครับ”
“ปัญหาคือน้องพาไม่รู้ว่าป้าตัวเองเป็นคนไม่ดีครับ แล้วทางเลือกอื่นก็ไม่มี เพราะลุงแกอีกคนอยู่เมืองนอก คนไม่มีทางกลับมายุ่งกับเรื่องของแกแล้ว ถึงตอนนี้เจ้าตัวหนีออกมาจากบ้านป้าแล้วก็ใช่ว่าจะปลอดภัย อาจจะเป็นทำนองหนีออกมาจากบ้านป้าแล้วก็ใช่ว่าจะปลอดภัย อาจจะเป็นทำนองหนีเสือปะจระเข้ด้วยซ้ำ เพราะตอนนี้น้องเขาอยู่คนเดียวครับ”

อเนชาเงียบไปครู่หนึ่งขณะดึงแว่นกระจกกรอบดำทรงขรึมออกจากใบหน้าคมคายได้รูป ใจหนึ่งนึกสงสัยคู่สนทนาไปแล้วเต็มประตูว่าเป็นแค่คนรู้จักทำไมริไปยุ่งกับเรื่องของคนอื่น แต่อีกใจหนึ่งนั้นนึกปลง เนื่องจากมันไม่แปลกเลยหากจะมีกรณีแบบนี้เกิดขึ้น

เงินทองเป็นของบาดใจ ใครบ้างไม่อยากยุ่ง แต่เขาก็เผื่อใจไว้เรียบร้อยแล้วว่าสังคมเรายังมีคนดีหลงเหลืออยู่

ถ้านายธีรนพเป็นคนดีที่ชอบยุ่งเรื่องของชาวบ้าน เขาก็เห็นว่าคงเป็นโชคดีของเด็กคนนั้น

“คุณธีรนพครับ ผมยืนยันนะครับว่าน้องอายุมากพอจะเลือกผู้ปกครองได้เองแล้ว หากน้องเขายืนกรานว่าจะไม่เลือกป้าเป็นผู้ปกครองจนกว่าจะอายุครบยี่สิบปีตามกฎหมาย น้องเขาสามารถทำได้ และในกรณีที่ผู้เยาว์ไม่มีปัญหากับผู้ปกครอง เรื่องยังไม่เกิด ทนายคือคนนอกนะครับ”

“ผมไม่อยากให้เกิดเรื่องขึ้นก่อนค่อยล้อมคอก”

“สมมติว่าเกิดกรณีพิพาทขึ้นระหว่างผู้เยาว์กับผู้ปกครอง ศาลก็จะนัดหมายพร้อมมาคุยกัน ต่อเมื่อตกลงกันไม่ได้ แล้วทางฝ่ายผู้ปกครองแต่งตั้งทนายขึ้นมาเมื่อไหร่ ทางฝั่งผู้เยาว์ก็ยังมีอัยการทำหน้าที่ทนายให้ตามกฎหมาย ทนายความธรรมดาอย่างผมจะเข้าร่วมได้ก็ต่อเมื่อผู้เยาว์แต่งตั้งให้เป็นทนายร่วมกับอัยการเท่านั้น ซึ่งทั้งหมดนี้ก็ต้องเป็นหลังจากเกิดกรณีพิพาทขึ้นระหว่างผู้เยาว์กับผู้ปกครองทั้งนั้นนะครับคุณธีรนพ”

“หมายความว่าคุณ...เนตร...จะไม่ช่วยเหรอครับ”

ธีรนพค่อยๆ เอ่ยชื่อเล่นอเนชาช้าๆ ดึงความสนใจจากทนายหนุ่ม และมันก็ได้ผล เมื่อคนที่เพิ่งรู้จักกันไม่ควรเรียกขานกันด้วยชื่อที่แสดงความสนิทสนมถึงเพียงนี้

อเนชาวางแว่นกระจกที่ใส่ไว้เพียงให้ใบหน้าดูมีอายุน่าเชื่อถือลงบนโต๊ะ

“คุณธีรนพครับ ผมจะไม่ถามคำถามเดิมนะครับว่าคุณเป็นอะไรกับเด็กคนนั้น แต่ผมอยากถามว่าใครแนะนำคุณให้โทรมาหาผมโดยตรงครับ”

“ผมอยากให้คุณเนตรขึ้นมาเชียงใหม่สักครั้ง”

“ผมจะขยับตัวต่อเมื่อเราเปิดใจคุยกันตรงๆ ครับ ตอนนี้ผมมีคดีติดพันอยู่หลายคดีด้วยกัน ถ้าคุณธีรนพตั้งใจโทรมาหาผมโดยใครบางคนแนะนำ ก็น่าจะมั่นได้บ้างว่าผมเป็นคนแบบไหน”

“ผมขอพูดตรงๆ เลยว่าไม่สามารถบอกอะไรคุณได้ในขณะโทรศัพท์คุยกัน และคนแนะนำ...ไม่ล่ะ ผมไม่เอ่ยถึงเขาเลยจะถูกกว่า แต่ถ้าผมบอกคุณเนตรว่าทนายฝ่ายป้าของน้องพาคือนายชโยดม เพื่อนเรียนรุ่นเดียวกับคุณเนตร...คุณพอจะสนใจบ้างไหม”

ชโยดม...

คิ้วเข้มสวยของชายหนุ่มขยับผูกเข้าหากันทันใด ในหัวปรากฏภาพของผู้ชายรูปร่างได้ส่วน...สูงโปร่ง ผิวขาวแบบคนมีเชื้อสายจีน แต่ดวงตาคมกร้าวดุจเหยี่ยว จมูกโด่งงุ้ม

วงการกฎหมายเป็นวงการที่ใหญ่พอสมควร เพราะมันประกอบด้วยนักกฎหมาย ทนายความ ผู้พิพากษา อัยการ และอื่นๆ อีกมาที่รวมกันเป็นกระบวนการยุติธรรม กระนั้น...วงการกฎหมายก็เหมือนวงการอื่นๆ หรือถ้าจะเรียกให้ถูกคือเหมือนสังคมมนุษย์ทั่วๆ ไปคือมีคนชั่วปะปนอยู่กับคนดี

อย่างไรเสียมันต้องมีคนที่เด่นกว่าผู้อื่น มีการแบ่งพรรคแบ่งพวกและมีคนที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามกัน หากอเนชา นพเดชาอยู่ฝ่ายธรรมะ นายชโยดมก็ถือหางฝ่ายอธรรม

หลังเรียนจบไม่นาน...ชโยดมซึ่งมาจากครอบครัวคนธรรมดา ฐานะทางการเงินปานกลางค่อนไปทางติดลบ ได้เข้าไปเป็นศิษย์รักของทนายความฝีมือฉกาจ แต่ชอบถือหางพวกตัวร้ายประจำวงการ ใช้วิธีเดินตามหลังจนมีโอกาสได้พบกับคนใหญ่คนโต ก่อนจะค่อยๆ ร่ำรวยขึ้นเพราะรับเป็นทนายแก้ต่างให้พวกเจ้าพ่อและคนชั่ว จนจิรพนธ์...น้องชายซึ่งเป็นนักสืบของเขาเคยค่อนว่า ‘มันเป็นหัวหน้าโจร’

‘แก้ต่างให้เจ้าพ่อบ่อนการพนันงี้ ช่วยคนค้ายาบ้างี้ เอาฆาตกรออกจากคุกงี้ ถ้าเป็นผมนะพี่เนตร ผมเจอลูกความทำผิดแบบยึดเป็นอาชีพ ผมไม่ช่วยหรอก ชโยดมนี่มัน...หัวหน้าโจรชัดๆ’

นั่นก็เป็นเรื่องหลายปีมาแล้ว นึกไม่ถึงว่าเขาจะได้ยินชื่อคนคนนั้นอีก

“ผมขอเสียมารยาทถามสักเรื่อง..มรดกของน้องพามากขนาดไหนครับคุณธีรนพ”

“บ้านน้องเขามีสวนดอกไม้ตัดดอกส่งขายภายในประเทศและต่างประเทศครับ ชื่อสวนบุษบันเปรมใจ หุ้นส่วนส่วนใหญ่เป็นชื่อของญาติๆ ที่ให้ยืมชื่อมาใช้ตั้งแต่พ่อแม่ของน้องเขาก่อตั้งใหม่ๆ ตอนนี้กิจการขยายแล้วก็ไม่ได้เข้ามายุ่ง ปีหนึ่งๆ บริษัทมีกำไรเข้ากระเป๋าเต็มๆ ไม่ต้องแบ่งใครอยู่ในหลักสิบล้าน ถ้ารวมกับเงินประกันอุบัติเหตุของพ่อกับแม่ ผมได้ยินว่าคนหนึ่งก็หลายล้าน แล้วที่ดินที่ทำรีสอร์ทกลางสวนก็ราคาขึ้นเอาๆ เท่ากับน้องพาเป็นเศรษฐีติดอันดับที่นี่ไปแล้วล่ะครับ”

พูดกันเพียงเท่านั้น อเนชาก็เข้าใจอย่างทะลุปรุโปร่ง

ที่แท้หนีเสือปะจระเข้...คือไม่ว่าจะไปทางไหนก็มีคมเขี้ยวรอเด็กคนนั้นอยู่

รวยหนักแถมเป็นเด็กผู้หญิงตัวคนเดียว มีหรือพวกคนโลภจะไม่ตาวาว

“ตกลงผมสนใจครับ” อเนชาว่า... “แต่ปัญหาคือคนที่จะจ้างทนายให้เข้าไปยุ่งในเรื่องนี้ได้คือน้องพานะครับคุณธีรนพ ไม่ใช่คนอื่น”

“ผมถึงอยากให้คุณขึ้นมาเชียงใหม่สักหน แล้ว...บางทีคุณอาจจะรู้ว่าทำไมผมต้องเข้าไปยุ่งทั้งที่ไม่เกี่ยวข้องหรือรู้จักกันเป็นการส่วนตัวกับน้องพาเลย”

 

บอกแล้วว่าเรื่องมันยาว...

หลังฟังเรื่องราวของพาณิภัค เศรษฐินีวัยสาวจากบุรุษปริศนาชื่อธีรนพคร่าวๆ อเนชาก็ตกปากรับคำว่าจะเดินทางไปเชียงใหม่เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ นายธีรนพจึงอาสาออกค่าใช้จ่ายทั้งจองตั๋วเครื่องบินและจองห้องพักในโรงแรมที่เชียงใหม่ให้ ซึ่งกำหนดการที่ธีรนพโทรศัพท์กลับมาแจ้งอีกครั้งช่าวเร็วจนตั้งตัวแทบไม่ทัน เนื่องจากมันคือวันรุ่งขึ้น

“ถ้าคุณเนตรไม่สะดวกหรือต้องการเพิ่มคนที่จะมาด้วยก็แจ้งให้ผมจัดการได้นะครับ รับรองว่าระหว่างที่คุณอยู่เชียงใหม่ ผมจะอำนวยความสะดวกให้คุณเนตรทุกอย่าง ผมจะให้คนไปรับคุณที่สนามบินและสามารถติดต่อผมได้ที่มือถือหรือหน้าร้านในเซ็นทรัลแอร์พอร์ตได้ตลอดเวลาครับ”
“ได้ครับ ขอบคุณมากครับคุณนพ”

แม้ตอนเออออห่อหมกรับปาก อเนชาจะมียิ้มสุภาพติดใบหน้าอย่างที่ใครๆ บอกว่ามันคือยิ้มแบบการค้า แต่พอวางหูจากคู่สนทนา ทนายหนุ่มก็หุบยิ้ม เปลี่ยนสีหน้าเป็นเบื่อ เซ็ง...ซึ่งเป็นสีหน้าที่ลูกความจะไม่มีวันได้เห็นจากทายาทคนโตของนพเดชา

“จะให้รีบไปขึ้นช้างลงม้าที่ไหนนักหนานะ รู้แล้วว่าอยากหาคนจัดการกับชโยดมจะแย่”

ใช่...ก่อนหน้านี้อเนชาไม่รู้หรอกว่าธีรนพมายุ่งอะไรกับเรื่องนี้ แต่พอเอ่ยชื่อชโยดมออกมา เขาก็เริ่มมองเห็นข้อขัดแย้งที่ไม่จำเป็นต้องสัมผัสด้วยตัวเอง

ธรรมดาคนเราจะหาใครไปจัดการกับคนคนหนึ่งย่อมต้องมีสาเหตุเบื้องต้น และเมื่อพูดถึงชโยดม มันก็คงไม่พ้นเรื่อง ‘โกงๆ’ หรือไม่อีกที...สำหรับผู้ชายก็คงเรื่องผู้หญิง

อเนชาไม่ถือสาหากใครจะถือว่าเรื่องที่คนอื่นมองว่าไร้สาระคือเรื่องใหญ่ของตน เพราะทุกคนมีสิทธิ์คิด มีสิทธิ์เรียกร้องสิทธิตามสมควร แต่เขาไม่สนับสนุนให้รักษาสิทธิของตนจนละเมิดสิทธิของผู้อื่น เพราะฉะนั้นถ้าธีรนพมีข้อกินแหนงแคลงใจกับชโยดมจนคิดใช้เขาเป็นเครื่องมือแก้แค้น ‘ในทางที่ถูก’ เขาก็ไม่รังเกียจ เพียงแต่อย่างไรเสีย...เขารู้สึกว่ามันมีอะไรซ่อนอยู่ เนื่องจากธีรนพไม่ยอมปริปากพูดออกมาตรงๆ ว่าเกี่ยวข้องกับพาณิภัคอย่างไร

ด้วยฐานะของนายธีรนพ อมรรัตตะนะ...เจ้าของร้านจิวเวลรี่ยี่ห้อ

(ติดตามอ่านต่อได้ในฉบับเต็ม)


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (68 รายการ)

www.batorastore.com © 2024